Welcome to dark side
เขียนโดย Chapond
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 02.04 น.
แก้ไขเมื่อ 29 เมษายน พ.ศ. 2559 12.04 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
40) 40 True love is never die
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
หมับ
จับมือฟางข้าวไว้ไม่ปล่อยก่อนที่จะคืนร่างและกางปีกไว้เพื่อรั้งน้ำหนักไม่ให้ฟางข้าวลอยออกไป
“อย่าปล่อยมือชั้นนะ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย”ฟางข้าวทั้งกลัวและตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองก็พูด
ออกมา
“อย่าปล่อยมือฟางเด็ดขาดนะ เห้ย ซีแนน เป็นอะไรไป”ปลื้มที่ดึงเด็กๆออกห่างจากป๊อปปี้ฟางต้อง
ตกใจเมื่อซีแนนล้มลงไปก่อนที่จะชัก
“ทำผิดกฎของกาลเวลา คนๆเดียวกันไม่ควรจะมาเจอกันแบบนี้ เธอจะต้องหายไปอยู่ในห้วงเวลา
ตลอดกาล”ซีแนนที่เริ่มเห็นภาพนิมิตอีกครั้งพูดออกมาทำให้ทุกคนตกใจมากกับคำทำนายก่อนที่จะ
หันไปมองป๊อปปี้กับฟางข้าวที่ช่วยกันดึงไม่ให้พรากจากกันไปไหนอีก
“นี่ก็เท่ากับว่าฟางข้าวคนนี้คือฟางเดียวกับเมียป๊อปแม่เจ้าแฝดแต่เพียงแค่มากคนละห้วงมิติเวลากัน
น่ะสิ”เฟย์ทึ่งแล้วพูดออกมา
“จริงสิมิติเวลา สร้อยที่ฟางพกไว้ก่อนที่จะหายไปตอนนั้น มิติเวลามันมีช่วงเวลาต่างๆที่ไม่เหมือนกัน
และใช้ชีวิตดำเนินอยู่ในโลกของมันโดยมีผู้คุมกฎกาลเวลาเป็นคนคุมทั้งหมดโดยมีกฎเหล็กว่าห้าม
ในตัวตนของเรามองเห็นตัวเราอีกมิติหนึ่งไม่อย่างนั้น ร่างกายของเขาจะหายไปในห้วงเวลาตลอด
กาล”เขื่อนนึกขึ้นได้แล้วพูดก่อนที่จะรีบไปช่วยป๊อปปี้ดึงฟางที่กำลังจะลอยขึ้นไปโดยที่ป๊อปปี้เริ่มจะ
สู้แรงไม่ไหวอีกครั้ง
“ไม่เอานะ ชั้นจะไม่ปล่อยเธอไปไหนอีกแล้วนะฟาง ชั้นเสียเธอไป10ปีมันก็เหมือนกับ100ปีที่ชั้น
ทุกข์ทรมานได้โปรด พระเจ้าอย่าพรากพวกเราไปจากกันอีกเลย”ป๊อปปี้กอดเอวฟางข้าวแน่นแล้ว
พูดออกมา
“ใครที่มาขวางกฎของกาลเวลา ใครที่มาทำให้กาลเวลาต้องเปลี่ยนคนๆนั้นก็ต้องหายไปด้วย กรี๊ด
ดดดด”ซีแนนที่ดิ้นไปดิ้นมาแล้วแผดเสียงร้องดังขึ้นพร้อมกับกรีดร้องออกมาก่อนที่จะมีพายุลูกใหญ่
เข้ามาใกล้
“นั่นหรอคือบทลงโทษของผู้คุมกฏกาลเวลา”ปลื้มตกใจพลางกระชับกอด2แฝดที่จะเข้าไปหาพ่อแม่
ตัวเอง
“อย่าปล่อยป๊อปปี้กับฟางเด็ดขาดเลยนะเขื่อน พวกเราเสียโทโมะกับแก้วไปแล้วครั้งนึงครั้งนี้เราจะ
ไม่มีวันเสียเพื่อนๆของเราไปอีก”เฟย์ที่เห็นเขื่อนเริ่มไม่มีแรงก็ตะโกนบอกในใจนึกหวั่นกับสิ่งที่กำลัง
จะเกิดมาก
“ปลื้ม เขื่อน ปล่อยฟางข้าวเถอะ ถ้ายิ่งดึงรั้งไว้มันจะมีแต่ปัญหานะ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์รึปิศาจที่
เข้าไปยุ่งกับห้วงเวลาแบบนี้ไม่มีใครที่จะชนะมันได้ปล่อยเถอะ”ซีแนนที่เริ่มรู้สึกตัวเองมองสักพัก
แล้วพูด
“มะ ไม่นะฟาง ชั้นจะไม่มีวันปล่อยเธอไป”ป๊อปปี้ตกใจเมื่อเห็นพายุหมุนสีดำเริ่มดูดตัวฟางข้าวไปก็
ตกใจ
“ฮือๆ พอเถอะนะคุณ ถ้าชั้นจะต้องไปจริงๆก็ปล่อยชั้นไปเถอะนะ อย่าลำบากอีกเลยไม่อย่างงั้นคุณ
จะโดนลงโทษไปด้วย”ฟางข้าวที่เห็นป๊อปปี้พยายามที่จะช่วยเธอและกอดเธอแน่นก่อนที่จะมีเลือด
ออกจมูกก็พูด
“ไม่ฟางเธอเป็นเมียชั้น ชั้นรักเธอ ชั้นจะไม่มีวันปล่อยให้เธอไปจากชั้นอีกแล้วได้ยินมั้ย”ป๊อปปี้ไม่
ยอมและพูด
“แต่ชั้นจำคุณ จำลูกไม่ได้ จำทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ไม่ได้เลย ชั้นมาจากห้วงเวลาอีกห้วงหนึ่งเท่านั้น
มันอาจจะเป็นแค่ความบังเอิญที่ชั้นมาที่นี่ ฮึก คุณปล่อยชั้น อย่าฝืนตัวเองอีกเลย”ฟางร้องไห้สงสาร
และพูดต่ออีกครั้งเพราะหลังจากที่เธอฟังเขื่อนและซีแนนพูดทำให้เธอมั่นใจว่าเธอไม่ใช่ฟางของ
ป๊อปปี้แน่นอน
“ไม่เอาฟาง ถ้าจะไปก็ไปด้วยกันนี่ล่ะชั้นสัญญากับเธอแล้วว่าชั้นจะดูแลและปกป้องเธอตลอดไปไม่
ว่าจะเกิดอะไรขึ้นชั้นจะไม่มีวันทิ้งเธอทำให้เธอเสียใจอีกแล้ว”ป๊อปปี้พูดพลางกอดแน่นก่อนที่พายุ
หมุนสีดำจะเริ่มกลืนทั้งคู่เข้าไปเขื่อนตกใจก่อนที่จะถูกพักลอยกระเด็นออกมาจนเฟย์และปลื้มแทบ
รับเขื่อนไว้ไม่ทัน
“ป๊อปปี้ ฟาง”ทั้งหมดตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากเมื่อพายุหมุนสีดำดูดป๊อปปี้กับฟางเข้าไปแล้ว พายุ
และสิ่งรอบๆตัวในDSก็เริ่มกลับคืนสู่ปกติ จะมีเพียงแต่ทั้งคู่ที่ถูกพายุหมุนแห่งห้วงเวลาดูดกลืนหาย
ไปจากตรงนั้น
“เห้ยๆ ไอ้ป๊อปขยับตัวแล้วว่ะ เลิกมุงมันได้แล้ว”ร่างสูงของป๊อปปี้เริ่มรู้สึกตัวก่อนที่จะได้ยินเสียง
โวยวายของผู้ชายคนหนึ่งก็ปรือตาขึ้นมามองแล้วแปลกใจเมื่อเห็นตัวเองอยู่ที่สนามเจ็ทสกีนี่เขามา
อยู่ที่นี่ได้ยังไง
“ทะ โทโมะ นี่นายจริงๆด้วย นายยังไม่ตายแล้วแก้วล่ะ แก้วไปไหน”ป๊อปปี้เบิกตาโพลงเมื่อเห็น
เพื่อนชายที่จากไปนั่งโวยวายบ่นอยู่ข้างๆก็รีบลุกขึ้นมาไม่รอช้าที่จะรีบถามแล้วเขย่าตัวเพื่อนชาย
ทันที
“เห้ย ตายบ้าอะไรล่ะ เราเล่นเจ็ทสกีกันแค่นี้มันไม่ทำให้ตายหรอกนะ อย่ามาแช่งกันดิวะ แล้วแก
ถามถึงลูกแก้วเมียชั้นทำไม ลูกแก้วก็อยู่บ้านเลี้ยงลูกๆชั้นดิไม่ต้องมาถามมาก แกน่ะไหวรึเปล่าขี่
เจ็ทสกีอยู่ดีๆก็พุ่งเข้าชนฝั่งดีนะที่แถวนั้นมันเป็นล้อยางไม่งั้นล่ะ แกได้ตายก่อนมีเมียแน่ๆ”โทโมะ
แปลกใจก่อนที่จะพูดต่อ
“ชั้นจะตายได้ยังไง เพราะชั้นไม่ใช่คนนิ”ป๊อปปี้มองไปตามที่เพื่อนชายชี้แล้วรีบพูดก่อนที่จะลุกขึ้น
แล้วต้องทรุดลงไปกองกับพื้นเพราะเจ็บที่ขาจนโทโมะและเจ้าหน้าที่ในสนามช่วยกันประคองชาย
หนุ่มไปนั่งพัก
“เป็นเอามากนะแก นี่ผลพวงมาจากแกอ่านนิทานให้ลูกชั้นฟังมากไปถึงพวกเรื่องแฟนตาซีล่ะสิท่า
โอยไม่ใช่คนละแกเป็นใครไม่ทราบผีงั้นหรอไอ้บ้า นี่จมน้ำทีเดียวเพี้ยนเลยรึไงไปหาหมอหน่อย
มั้ย”โทโมะพูด
“ชั้นไม่ได้บ้า ชั้นไม่เป็นอะไรมากหรอกน่าชั้นไม่ไปหาหมอแล้วนี่ไอ้เขื่อนอยู่ไหนน่ะเมื่อกี้ชั้นกำลัง
จะช่วยฟางกับมันอยู่เลยนะ เห้ยจะทำอะไรน่ะปล่อยนะ/เอาไปเลยครับพี่ เพื่อนผมสงสัยสมอง
กระทบกระเทือนพาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเลยนะครับ”ป๊อปปี้นิ่วหน้าไม่พอใจที่ใครๆก็ไม่เชื่อ
ตนเองพูดพลางถามหาเพื่อนอีกคนอย่างเขื่อนมาช่วยยืนยันก่อนจะตกใจเมื่อถูกลากโดยเจ้าหน้าที่
ประจำสนามไปที่โรงพยาบาลทันที
“โอ๊ย ปล่อยนะโว้ยไอ้โทโมะชั้นไม่ได้บ้านะมาจับแบบนี้ได้ไงวะ”ป๊อปปี้โวยวายเมื่อมาถึงโรง
พยาบาลแล้วนั่งรถเข็นดิ้นไปมาเพราะมือถูกเพื่อนชายจับมัดและขาที่เจ็บก็ขยับไปไหนไม่ได้ทำให้
ลุกไปไหนไม่สะดวก
“เสียงดังเอะอะอะไรกันคะที่นี่โรงพยาบาลนะคะไม่ใช่สนามกีฬาที่พวกคุณจะมาเสียงดังแบบนี้
ได้”ก่อนที่โทโมะว่าอะไร ร่างบางของหมอคนหนึ่งที่เดินออกมากห้องตรวจพูดดุทำให้ทุกคนต้องกัน
กลับไปมองที่เสียง
“ฟาง”ป๊อปปี้อึ้งเมื่อมองคุณหมอสาวที่กำลังดุตนเองนั้นแล้วยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนที่จะเรียกเธอ
คนนั้น
“คะ เรียกชั้นทำไมคะ พยาบาลโฟร์คะ นี่ใช่มั้ยคนไข้ที่หมอจะต้องตรวจ”ฟางหันไปตามเสียงของ
ป๊อปปี้เรียกก่อนที่จะหันไปคุยกับพยาบาลสาวอีกคนเพื่อเช็คประวัติคนไข้ โดยที่มีป๊อปปี้มองตาม
แล้วเผลอยิ้มออกมาไม่หุบ
“แหม ไอ้เพื่อนครับยิ้มไม่หุบเลยนะครับเจอหมอสวยแบบนี้ แล้วนี่ไปรู้จักกับเค้าได้ยังไงครับบอกมา
เดี๋ยวนี้เลยนะไอ้ป๊อป ทำเป็นบอกว่าไม่สนใจใครจะครองตนเป็นโสดนี่อะไรเล่ามาเดี๋ยวนี้เลยนะ”โท
โมะสังเกตท่าทางของเพื่อนชายที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อเจอคุณหมอคนสวยอย่างฟางก็กระซิบแซว
เพื่อนชายตนเองทันที
“เดี๋ยวคุณภาณุไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปที่ห้องตรวจของคุณหมอธนันท์ธรญ์เลยนะคะ”พยาบาลสาว
พูดขึ้นแล้วเข็นป๊อปปี้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะพามาหาฟางที่ห้องตรวจ
“เป็นยังไงบ้างฟางเจ็บตรงไหนรึเปล่า”เมื่อป๊อปปี้ถูกพามาเจอกับฟางก็ไม่รอช้ารีบถามไถ่ร่างบางที่
นั่งรอทันทีทำให้ฟางเหวอและนิ่วหน้าแปลกใจ
“เอ่อ คำพูดพวกนี้หมอต้องเป็นคนถามคนไข้ไม่ใช่หรอคะ งั้นมาให้หมอตรวจดูอาการดีกว่านะ
คะ”ฟางแปลกใจกับท่าทางของป๊อปปี้ก็ส่ายหน้าก่อนที่จะขยับรถเข็นป๊อปปี้มาใกล้แล้วตรวจร่างกาย
ให้ชายหนุ่ม
“จริงสิ ผมนึกออกแล้วต้องขอโทษหมอด้วยนะครับที่ทักเมื่อกี้ไปอย่างกับคนสนิทกันเลย เอ่อ พอดี
ตั้งแต่เด็กๆผมชอบฝันประหลาดครับ ฝันว่าตัวเองพยายามช่วยผู้หญิงคนหนึ่งไว้จากพายุน่ะครับ แล้ว
ผู้หญิงคนนั้นก็ชื่อว่าฟางเหมือนกับคุณหมอนั่นล่ะครับ”ป๊อปปี้นิ่วหน้าสักพักก่อนที่จะนึกเรื่องออกแล้ว
บอกกับฟางที่กำลังตรวจตนเองอยู่ ฟางนิ่งเงียบไม่พูดอะไรและตรวจบาดแผลของชายหนุ่มไปเรื่อยๆ
ไม่พูดกับป๊อปปี้ทำให้ชายหนุ่มนึกหวั่นใจกลัวว่าเธอจะจำไม่ได้แล้วอาจจะมองว่าเขาเป็นคนโรคจิต
ที่มาเข้าหาเธอรึเปล่านะ
“หมอตรวจดูแล้วนะคะอาการของคุณภาณุไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงสมองไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรจะ
มีก็แค่แผลที่ขาค่ะที่ช้ำจากตอนอุบัติเหตุเดี๋ยวหมอจะให้ยาคุณนะคะมีทั้งยากินและยาทาต้องทา
เป็นประจำนะคะ เรียบร้อยแล้วค่ะ”ฟางเขียนใบสั่งยาและใบตรวจเรียบร้อยก่อนที่จะเรียกพยาบาลให้
พาตัวป๊อปปี้ออกไปโดยที่ชายหนุ่มแอบเศร้าลงไปเมื่อเห็นท่าทางไม่สนใจของฟางที่ตรวจเขาเสร็จ
ไม่คิดจะคุยกันสักคำเลย
“นี่เราได้เจอเค้าคนนั้นแล้วจริงๆหรอ ถ้าเราทักเค้าไปแล้วเค้าจำเราไม่ได้ล่ะ เค้าต้องหาว่าเราบ้าแน่ๆ
เรายิ่งเป็นหมอด้วย แต่ถึงยังไงในเมื่อเราเจอกันแล้ว ชั้นก็จะไม่ปล่อยให้เราต้องจากกันอีกแล้วล่ะ
ป๊อปปี้”เมื่อป๊อปปี้ออกไปจากห้องทำให้ฟางก็ยิ้มออกมาแล้วพูดกับตัวเองเมื่อนึกถึงเรื่องที่เธอฝัน
อย่างเดียวกับป๊อปปี้เช่นกัน
“ใจเย็นๆดิวะเพื่อนจะรีบไปไหนวะ นี่แปลก็ยังไม่หายดีแท้ๆ พอออกจากโรงพยาบาลมาปุ๊บวันต่อมา
ก็รีบมาหาหมอคนสวยคนนั้นปั๊บเลยนะนี่ชัวร์ล่ะสินะที่จะจีบหมอคนสวยคนนั้น”วันต่อมา ป๊อปปี้ที่
กะเผลกตัวเองมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อตั้งใจมาหาฟางโดยมีโทโมะตามมาดูแลเพื่อนชายติดๆก็
อดที่จะบ่นไม่ได้
“พูดมากน่าโทโมะ แล้วนี่แกไม่ไปรับลูกเมียแกรึไง”ป๊อปปี้หันไปถามเพื่อนชาย
“ลูกแก้วกับเจ้าแฝดน่ะหรอ โอยอีกนานวันนี้เห็นว่าจะไปดูเค้าประกวดร้องเพลงที่ห้างน่ะ ส่งแกก่อน
แล้วค่อยไปรับก็ได้”โทโมะตอบ
“นี่คุณภาณุ ยังไม่หายดีแล้วมาที่นี่อีกทำไมหรอคะ”พยาบาลโฟร์เดินมาหาป๊อปปี้และโทโมะพลาง
ถามขึ้น
“เอ่อ พยาบาลครับ หมอฟางอยู่ไหนหรอครับ/อ๋อ หมอฟางพึ่งขึ้นเครื่องไปที่เชียงใหม่เมื่อเช้านี้เอง
ค่ะ เห็นว่าต้องกลับบ้านด่วน”ป๊อปปี้ไม่รอช้ารีบถามถึงฟางก่อนที่พยาบาลจะตอบชายหนุ่มแล้วเดิน
จากไป
“เอ้า ชวดเลยสิครับเพื่อนจะจีบสาวทั้งทีสาวกลับหนีไปแล้ว/ใครว่าชั้นชวด ดีเลยไอ้โทโมะ ช่วงนี้
เมฆหมอกปิดเทอมใช่มั้ย เราไปเที่ยวเชียงใหม่กัน เดี๋ยวชั้นจัดารเรื่องทั้งหมดเอง”โทโมะขำเพื่อน
ชายที่ไม่ได้เจอหมอฟางก็อดที่จะแซวไม่ได้ทำให้ป๊อปปี้ไม่ยอมแพ้รีบพูดก่อนที่จะลากเพื่อนชาย
ไปรับแก้วและลูกๆที่ห้างทันที
“แน่ใจหรอป๊อปปี้ว่าจะตามหาหมอฟางเค้าเจอน่ะ”ลูกแก้วพูดเมื่อมาถึงเชียงใหม่พลางมองไปรอบๆ
“แน่ใจ ถ้าชั้นกับเค้าเราเป็นคู่กันจริงๆเราะต้องหากันเจอ ไปกันเถอะ”ป๊อปปี้ยิ้มก่อนที่จะพาครอบครัว
ของโทโมะขึ้นรถตู้บริการที่ตนเองติดต่อไปยังที่พักโรงแรม
“ว้าว ช่วงนี้มีนิทรรศการของเก่าที่ลานกิจกรรมของโรงแรมด้วย เราไปดูกันมั้ยตัวเอง/หูยที่รักจ๋า
อยากดูจริงๆหรอ ของบางอย่างอาจจะมีผีสิงก็ได้นะ โอ๊ยๆ”ลูกแก้วอ่านป้ายที่โรงแรมแล้วรีบชวนสามี
ก่อนที่โทโมะจะแซวกลับก็ไม่วายถูกลูกแก้วบิดหู
“ป๊ากับม๊าฮะพวกเราอยากไปว่ายน้ำ พาพวกเราไปว่ายน้ำหน่อยนะฮะ นะๆๆๆ”เมฆกับหมอกอ้อนพ่อ
แม่ตัวเองก่อนที่โทโมะและลูกแก้วจะพาลูกชายฝาแฝดตัวเองไปว่ายน้ำที่สระของโรงแรมโดยที่
ป๊อปปี้เดินไปที่งานคนเดียว
“พิพิธภัณฑ์ของโบราณชั่วคราวโดยDSงั้นหรอ”ป๊อปปี้อ่านป้ายงานแล้วแปลกใจก่อนที่จะเดินเข้าไป
พลางมองข้าวของเก่าที่ทราบรายระเอียดว่าเป็นของมิสเตอร์ฟอร์ตและมาดามมัลลิกามอบไว้อย่าง
สนใจ
“ไม่ยักจะรู้นะคะว่านักกีฬาเจ็ทสกีอย่างคุณจะสนใจข้าวของโบราณพวกนี้ด้วย”ป๊อปปี้ที่มองรูปวาด
ของมิสเตอร์ฟอร์ตและมาดามมัลลิกาด้วยความสนใจก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงทักทายก็หันไปตามต้น
เสียง
“ครับ ผมชอบดูพวกของเก่าๆแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วล่ะครับ แล้วคุณหมอล่ะครับชอบรึเปล่า นี่มัน
คือเรื่องบังเอิญใช่มั้ยครับที่เราได้เจอกันที่เชียงใหม่แบบนี้”ป๊อปปี้ยิ้มอย่างดีใจเมื่อเจอเข้ากับหมอ
ฟางและที่สำคัญเธอเป็นฝ่ายเดินเข้ามาทักเขาก่อนอีกด้วยแต่ต้องทำเป็นยิ้มและเก็บอาการเอาไว้
พลางทำทีถามฟางต่อ
“ค่ะ ฟางชอบของเก่าแบบนี้เหมือนกันไม่คิดเลยว่าตัวเองกลับบ้านมาคราวนี้จะได้มาดูนิทรรศการ
ของวิทยาลัยDSนะคะ เพราะฟางจำได้ว่าเมื่อก่อนวิทยาลัยDSมีสาขาที่เมืองไทยอยู่ที่เชียงใหม่นี้
เอง แต่สุดท้ายก็ปิดตัวลงแล้วกลับไปเปิดสาขาใหญ่ที่อยู่ที่ลอนดอนแทนจนมีนิทรรศการที่นี่อีกครั้ง
ล่ะค่ะ แล้วนี่คุณหายดีแล้วหรอคะถึงได้ออกมาเที่ยวเล่นได้”ฟางยิ้มแล้วตอบป๊อปปี้ก่อนจะถามต่อ
ความจริงแล้วเธอเห็นป๊อปปี้ตั้งแต่เดินเข้ามาในนิทรรศการแล้ว แต่เธอไม่กล้าเข้าไปทักต่างรวบรวม
ความกล้าอยู่นานถึงจะเดินมาทัก
“หายดีแล้วล่ะครับ แต่ถึงตอนนี้ผมจะเจ็บตัวอีกผมก็ไม่เป็นไรมากหรอกครับ เพราะผมอยู่กับคุณหมอ
คนเก่งอย่างคุณหมอฟาง”ป๊อปปี้ยิ้มก่อนที่จะตอบฟางแล้วทั้งคู่ก็เดินชมนิทรรศการด้วยกัน
“ความจริงผมน่ะมาที่โรงพยาบาลที่คุณหมออยู่บ่อยนะครับแล้วก็ขึ้นมาเชียงใหม่บ่อยด้วย ทั้งๆที่
ชอบอะไรเหมือนๆกันแบบนี้ทำไมถึงคลาดกันได้นะ/เหรอคะ สงสัยบุญมีแต่กรรมบังมั้งคะ ต้องใช้
เวลาอยู่ตั้งนานกว่าจะตามหากันจนเจอ”ป๊อปปี้พูดขึ้นพลางเดินออกมาจากนิทรรศการกับฟางไปที่
สระน้ำฟางยิ้มก่อนที่จะตอบชายหนุ่ม
“งั้นถ้าเราเจอกันแล้ว เราก็อย่าปล่อยให้เราต้องพรากจากกันอีกเลยดีมั้ยครับ”ป๊อปปี้ยิ้มออกมาก่อน
ที่จะพูดต่อแล้วจ้องมองไปที่ตาของฟาง ฟางสบตาชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าแล้วจู่ๆก็มีภาพประหลาด
ต่างๆตั้งแต่ต้นที่เธออยู่บ้านข้างๆป๊อปปี้ เป็นแฟนกันไปจนถึงได้เข้ามาเจอกันในDSอีกครั้งก่อนที่จะ
เปลี่ยนเนความรักแล้วต้องพรากจากกันอีกครั้ง ป๊อปปี้มองร่างบางที่มีน้ำตาไหลออกมาก็ไม่รอช้า
เอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้ร่างบาง
“แย่จังเลยนะคะ จู่ๆก็มีน้ำตาไหลออกมาแบบนี้/คุณหมอเชื่อเรื่องมิติเวลารึเปล่าครับ”ฟางได้สิตก็พูด
ก่อนที่ป๊อปปี้จะรีบพูดต่อ ทำให้ฟางนิ่วหน้ามองป๊อปปี้อย่างประหลาดใจ
“เอ่อ ถึงผมจะเป็นนักกีฬานะครับ แต่ผมก็มีความสนใจเรื่องทฤษฏีรูหนอนของทางวิทยาศาสตร์น่ะ
ครับที่เชื่อว่าโลกของเรามีหลายมิติคู่ขนานอยู่ และมีห้วงมิติเวลาที่ทับซ้อน ในอดีตหรือมิติอื่นเรา
อาจจะเคยเจอกันมาก่อนก็ได้นะครับ”ป๊อปปี้พูดอธิบายต่อ
“การที่เรารู้สึกคุ้นเหมือนเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนแต่นึกไม่ออก หรือจะเรียกแบบคนไทยเข้าใจก็
อาจจะเป็นเรื่องภพชาติก็ได้มั้งคะ บางทีฟางอาจจะเคยเจอคุณชาติที่แล้วมาก่อนก็ได้”ฟางยิ้มก่อนที่
จะพูดขึ้นต่อ
“งั้นถ้าชาติที่แล้วเราพลัดพรากจากกัน ชาตินี้ก็อย่าให้เราทั้ง2คนแยกจากกันอีกได้มั้ยครับ”ป๊อปปี้
พูดพลางสบตาดวงตากลมโตนิ่งใจสั่นพลางลุ้นว่าฟางจะว่าอะไรมั้ย โดยที่ฟางเองก็รู้สึกเต้นรัวเมื่อ
ได้ยินป๊อปปี้ตอบ
“ถ้าเจอกันแล้วก็อย่าแยกจากกันไปไหน ทำตามคำสัญญาที่เคยบอกด้วยนะคะ ว่าอยากจะปกป้อง
ดูแลกันตลอดไป”ฟางน้ำตาไหลออกมา ใช่จริงๆผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอฝันตลอดตั้งแต่เด็กๆตอนนี้
เธอเจอเขาแล้ว
“ไม่มีวันปล่อยไปไหนอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอะไรอีกก็จะไม่มีวันปล่อย”ป๊อปปี้ยิ้มออกมาอย่างดีใจเมื่อ
มั่นใจว่าฟางคือผู้หญิงที่เขาตามหา ผู้หญิงที่เป็นปริศนาในฝันเขามาตั้งแต่เด็กๆ ก็ดึงร่างบางของฟาง
ไปกอดแน่น
“แน่ะๆ น้อยๆหน่อยสิเพื่อน พึ่งเจอเค้ากลับดึงเข้าไปกอดแบบนี้เนี่ย”โทโมะที่เดินมากับลูกแก้วก็พูด
ขึ้น
“หรือไม่ก็เคยเจอกันมานานแสนนานแล้วต่างหากล่ะ”ป๊อปปี้ผละออกจากอ้อมกอดของฟางแล้วตอบ
โทโมะ
“มุกจีบหญิงโบราณไปรึเปล่าป๊อป เคยเจอกันมานานแสนนาน แบบอารมณ์เจอกันชาติที่แล้วแล้ว
มาตามหากันแล้วรักกันเนี่ยนะ”ลูกแก้วยิ้มพลางพูดต่อก่อนที่จะช่วยโทโมะอุ้มลูกแฝดของตัวเองไว้
ฟางมองไปที่เด็กแฝดในอกของโทโมะและแก้วก็ยิ้มอย่างเอ็นดู รู้สึกผูกพันก็เดินไปหอมแก้มเด็ก
ทั้ง2และลูบผมอย่างเอ็นดู
“สงสัยคงจะเป็นคู่แท้แกจริงๆว่ะป๊อป ชอบเจ้าแฝดลูกชั้นกับแก้วแบบนี้เหมือนกับแกไม่มีผิด”โทโมะ
มองการกระทำของฟางและมองดูเมฆกับหมอกลูกตัวเองที่เล่นกับฟางโดยไม่มีท่าทีกลัวคนแปลก
หน้าก็พูด
“ก็บอกแล้วไงว่าคนนี้ล่ะคือคนที่ชั้นตามหามานาน ตอนนี้ชั้นเจอเค้าแล้วชั้นจะไม่มีวันปล่อยเค้าไป
จากชั้นอีกแล้วล่ะ”ป๊อปปี้ยิ้มออกมาพลางโอบเอวฟางมาแนบลำตัวของเขาทำให้ฟางเขินและหน้า
แดงจัด
“โอ๊ยๆ อยู่แล้วรู้สึกมดตอมมดกัดหมดแล้ว เดี๋ยวขั้นพาลูกไปอาบน้ำก่อนนะ แล้วเราค่อยเจอกัน อ้อ
หมอครับฝากเพื่อนผมด้วยนะครับ แล้วเย็นนี้เจอกันนะครับ”โทโมะพูดจบก็ออกไปพร้อมกับลูกเมีย
ของตน
“อย่าไปไหนอีกนะครับ ผมจะไม่มีวันปล่อยให้เราต้องแยกจากกันไปไหนอีกแล้ว”ป๊อปปี้พูดขึ้นต่อ
“เราต่างผ่านช่วงเวลาที่พลัดพรากจากกันมามากพอแล้วค่ะ ต่อไปนี้โชคชะตาคงเห็นใจเรา ให้เรา
กลับมาเจอกันอีกครั้ง”ฟางยิ้มก่อนที่จะพูดขึ้นต่อ
“ผมรักคุณนะฟางและจะรักตลอดไป”ป๊อปปี้พูด
“ค่ะชั้นค่ะรักคุณและจะรักแค่คุณคนเดียวตลอดไปเหมือนกัน”ฟางยิ้มก่อนจะตอบป๊อปปี้แล้วทั้งคู่ก็
กอดกันด้วยความรักและความโหยหากันมานานแสนนาน จะไม่มีวันพรากจากกันไปไหนอีก
งานนี้เปลี่ยนแนวไปเกิดใหม่มารักกันใหม่เลยทีเดียวตอนจบ5555555
จบแล้วนะ ถึงแม้ไรเตอร์จะไม่ค่อยได้มาอัพบ่อยเพราะเดี๋ยวคอมพังบ้างติดธุระบ้าง
แต่ขอบคุณมากนะคะที่อ่านเรื่องนี้ รอเรื่องนี้จนเรื่องนี้จบ
กำลังคิดพล้อตเรื่องหน้าอยู่แต่คิดออกแค่พล้อตต้นเรื่อง ถ้ามีไอเดียอยากได้แนวไหน
เม้นมาคุยกันได้เน้ออออ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ