Because of his love. เพราะรัก...ถึงร้าย

9.7

เขียนโดย NannyCandy

วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 18.33 น.

  35 ตอน
  474 วิจารณ์
  46.56K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2559 18.33 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

31) จุดหักเห

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          ภายในห้องประธานของบริษัทใหญ่ยักษ์เอโลคอนโปรเลชั่น ผู้นำเครื่องไฟฟ้าไฮเทคล้ำสมัยที่กำลังมาแรงในยุคนี้  ภายในห้องกว้างขวางปรากฏเรืองร่างสมส่วนรับกับใบหน้าคมคายที่ดูอ่อน กว่าอายุจริงๆอยู่มากร่างสูงใหญ่นั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟาราคาแพงสมฐานะ

 

 

          ความน่าเกรงคามแผ่ซ่านกระจายไปทั่วห้องออกมาจากตัวของ 'อาโกอิ' ชายหนุ่มญี่ปุ่นอายุสี่สิบปลาย ๆผู้ดำรงตำแหน่งประธานหรือจะเรียกว่าเจ้าของกิจการเอโลคอนโปรเลชั่นนับร้อย ๆ สาขาทั่วโลกเลยก็ว่าได้    

 

 

"ครับ..."

 

 

          ริมฝีปากบางเอ่ยตอบรับปลายสายจากฝั่งตรงข้าม มือเรียวใหญ่กำโทรศัพท์ที่แนบอยู่ข้างหูแน่น แน่นเสียจนมือข้างนั่นสั่นระริก  หลังจากฟังปลายสายจบริมฝีปากของอาโกอิก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ถูกเปิดขึ้นด้วยความกลัวผสมปนเปคละเคล้าไปด้วยความโกรธเกรี้ยว คลื่นทะเลที่มีพายุ

 

 

          ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะพังทลายเพียงชั่วข้ามคืน  และที่น่าเจ็บใจยิ่งกว่านั้นต้นเหตุทั้งหมดนั้นมาจากลูกชายเพียงคน เดียวของเขา !

 

 

"ครับท่าน  ผมจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง... แน่ครับ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ลูกชายของผมจะต้องแต่งงานกับลูกสาวของท่านแน่ๆครับ ... สวัสดีครับ"

 

 

          ทันทีที่วางสายโทรศัพท์ลง อาโกอิก็เลื่อนเก้าอี้โซฟาให้หมุนกลับมาประจันหน้ากับ 'อาฟเตอร์'เลขาคนสนิทชาวฝรั่งเศสที่ยืนก้มหน้าก้มตารับฟังคำสั่งที่ดังออกมา จากเรียวปากของผู้เป็นนาย

 

 

          อาโกอิยกมือขึ้นมาประสานกันไว้บนโต๊ะ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมีประกายมุ่งมั่นยากที่จะคาดเดา  อาฟเตอร์รู้ดีว่านายของเขาจะต้องจัดการกับทุกเรื่องที่ทำให้นายของเขา ลำบากใจอย่างเด็ดขาดแน่ ๆ ด้วยความที่อยู่กันมานาน เขาย่อมรู้เรื่องแบบนี้ดี ...  

 

 

"อาฟเตอร์..."

 

 

"ครับท่าน"

 

 

"นายช่วยไปจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินด้วย ฉันจะเดินทางไปประเทศไทยพรุ่งนี้!"

 

 

"ครับ ..."

 

 

          อาฟเตอร์โค้งคำนับให้ความเคารพเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะก้าวเดินออกจาก ห้องไป ปล่อยให้ผู้เป็นนายอยู่คนเดียว  อาโกอิทอดสายตามองออกไปนอกบานกระจกใสที่ถูกติดตั้งทั้งห้องเป็นแบบ กระจกใสที่สามารถมองทะลุลงไปยังข้างล่างได้จากตึกสูงสง่า  จมูกโด่งพ่นลมหายใจร้อนๆออกมาอย่างหนักหน่วง  เสียงพึมพำเบา ๆในลำคอเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา

 

 

"บริษัทนี้จะล้มละลายไม่ได้..."

 

 

_________________________________________________________________

 

 

"ฮ่ะฮ่ะ ตลกตายละไอ้พวกบ้า !"

                                                                                                                            ฉันแค่นหัวเราะในลำคอ  กวาดสายตามองไปยังหน้าของเคโอติคทุกตัวอย่างไม่สบอารมณ์ หลังจากที่พวกมันพยายามง้อโดยการเล่าเรื่องตลกฝืด ๆให้พวกฉันฟังที่ห้องเรียนของฉัน  เหล่านักเรียนผู้หญิงภายในห้องต่างพยายามชะเง้อชะแง้มองมายังหนุ่ม ๆ ในกลุ่มนี้  จะปลาบปลื้มอะไรพวกมันนักหนาก็ไม่รู้  ไอ้พวกนี้มันก็มีดีแค่หน้าตาเท่านั้นละ อย่างอื่นไม่เห็นจะได้เรื่องตรงไหนเลย  ห่วยแตกที่สุด :(

 

 

         แล้วเมื่อหลายวันก่อนอีก อยู่ดีไม่ว่าดีพากันไปให้ผีหลอกซะงั้น -0-;;  ฉันละเหลือเชื่อเลยจริง ๆ ทำเอาจับไข้หัวโก๋นกันไปหลายวัน ...

 

 

"นี่ ~ ขำขำน่า ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตไง ^^"   

 

 

         จองเบพูดพร้อมกับยักคิ้วขึ้นลงด้วยสีหน้าทะเล้น  ตัวซีเอื้อมตัวไปแจกมะเหงกลงกลางกบาลให้กินดังโป๊ก  สะใจนักเชียว >.<

 

 

"ไม่ขำยะ ! ประสบการณ์เกรียน ๆแบบนี้ฉันไม่อยากได้ หยึ้ย~ พูดแล้วยังขนลุกไม่หายแล้ว T^T"

 

 

"หิววะ V.V"   

 

 

         โทโมะเปลี่ยนเรื่องเอาคางเกยโต๊ะเรียนของฉันแล้วทำตาละห้อย  หิวก็ไปหาอะไรกินสิ มานั่งทำหน้าหงอยอะไรบนโต๊ะฉันเนี่ย  - -* คนยิ่งอารมณ์ไม่ค่อยจะดีอยู่  ออกไปนะยะ ออกไป ๆๆๆ >_< (ทำอะไรไม่ได้เลยได้แต่โวยวายในใจ -*-)

 

 

          และทันใดนั้นเองเสียงวิ่งตึงตังดังมาตามทางริมระเบียง ไล่เรื่อยมาจนถึงห้องของฉัน เสียงเปิดประตูดังผ่างทำให้พวกเราทุกคนหันไปมองด้วยความงุนงง  ฮาร่าที่เปิดประตูออกมาหอบหายใจเข้าออกอย่างรุนแรง เหงื่อไหลอาบท่วมตัวเต็มไปหมด  รีบร้อนอะไรของเขาน่ะ - - ?

 

 

"ไอ้โมะ ...แฮก ๆ "

 

 

          โทโมะขมวดคิ้วมุนลุกขึ้นตามเสียงเรียกของฮาร่า  พอเริ่มหายใจได้คล่องมากขึ้นฮาร่าก็กลับมาพูดเสียงปกติอีกครั้ง  เปิดประโยคมาทำเอาทุกคนลุกฮือขึ้นจากโต๊ะ

 

 

"พ่อมึงรออยู่ข้างล่าง..."

 

 

          พวกเราวิ่งลงมารวมตัวก็ที่ลานจอดรถของโรงเรียนที่อยู่ด้านในสุดของโรงเรียน แห่งนี้ก็พบกับรถลีมูซีนสีดำคันใหญ่คันหนึ่งจอดอยู่  พวกเราทุกคนได้แต่ยืนมองดูอยู่ห่าง ๆ โดยที่โทโมะเดินเข้าไปหารถคันนั้นเพียงคนเดียว

 

 

          ประตูรถคันนั้นถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของชายร่างสูงในชุดสูทก้าวเดินลงมา  และฉันจำได้ดี ผู้ชายหน้าคมคนนี้เป็นพ่อของโทโมะ...

 

 

"พ่อมาทำไม"          

 

 

          นะ..นี่เป็นประโยคแรกของคนไม่ค่อยได้เจอพ่อทักกันเรอะโทโมะ= _=; คุณพ่อของโทโมะหัวเราะ  หึ หึ เบาๆ แล้วเดินเข้าไปตบบ่าลูกชายของตนเองเป็นการทักทายก่อนจะปรายตามามองพวกเราทุก คนที่ยืนเกาะกลุ่มกัน ทำเอาพวกเราสะดุ้งโหยงยกมือไหว้กันแทบไม่ทัน - -* แต่ดูว่าท่านจะเจาะจงมาที่ฉันเป็นพิเศษ ทะทำไมมองฉันเขม็งแบบนั้นละ -0- ?  

 

 

"แก้ว ? ใช่มั้ยลูก..."

 

 

          อ้าว - - ดัน 'เจือก' จำกันได้อีก ว่าจะขอยืนเป็นตัวประกอบสักพักแล้วเชี่ยว - -^  ฉันเดินเข้าไปใกล้ ๆ คุณพ่อของโทโมะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมรรยาทจนเกินไป  ส่งยิ้มแหะ ๆไปให้แล้วตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วๆ 

 

 

"คะ คุณลุงอาโอกิ (. . )"

 

 

"โตขึ้นเป็นสาวแล้วสวยนะเรา ตอนนั้นยังตัวแค่นี้อยู่เลย ใช่มั้ย"  

 

 

         คุณลุงทำมือวัดความสูงขึ้นมาประมาณสะโพกของตนเอง ฉันพยักหน้างึกงักเห็นด้วยแล้วหลบสายตาวูบเมื่อเผลอไปสบตาคมๆคู่นั้น  ตัวของคุณลุงเปลี่ยนไปเยอะมากจากแต่ก่อนดูเป็นคนที่ใจดี  ยิ้มเก่ง แต่เดี๋ยวนี้ดูมีออร่าของความจริงจังมากขึ้น  ดูน่ากลัวและน่าเกรงขามจนไม่น่าพิศมัยที่จะเข้าใกล้ ราวกับตอกย้ำให้รู้พวกเราอยู่ห่างกันจนเกินไป

 

 

         การมาครั้งนี้ของคุณลุงเริ่มทำให้ฉันตระหนักถึงอะไรบางสิ่งที่ฉันไม่ มีวันก้าวขึ้นไปทัดเทียมได้  ไม่มีวัน ... 

 

 

"พ่อมีอะไรก็พูดมาเถอะ ผมจะได้ขึ้นเรียน"

 

 

         โทโมะพูดแทรกขึ้นมาด้วยสีหน้าเหนือย ๆ  ฟังแล้วไม่แปลกใจเลย เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วที่โทโมะไม่เคยลงรอยกับพ่อ .. ฉันก้มหน้าฟังบทสนทนาที่แสนอึดอัดอยู่อย่างสงบปากสงบคำ  ความเงียบเข้าครอบงำได้สักพักก่อนที่คุณลุงอาโอกิจะเปิดปากพูดอีกครั้ง  

 

 

"แกคิดว่าฉันถ่อสังขารมาเองแบบนี้หมายความว่าไงละ ?"

 

 

"พ่อจะบอกอะไรกันแน่  ผมไม่เข้าใจ "   

 

 

         โทโมะถามขึ้นด้วยสีหน้างุนงง คุณลุงแย้มรอยยิ้มน้อย ๆแล้วเอ่ยประโยคที่ทำเองทุกคนที่ได้ยินถึงกับอึ้ง ไม่เว้นแม้แต่ฉันเองที่เงยหน้าขึ้นมามองทันทีด้วยความตกใจ  ความเงียบเกิดขึ้นกระทันหัน 

 

 

"ฉันจะมารับแกกลับอเมริกา...." 

 

 

          คุณลุงอากิมองโทโมะด้วยแววตานิ่ง ๆ ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองโทโมะที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาสูงกว่าฉันมาก สูงขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ แต่ก่อนยังตัวไล่ๆกันอยู่เลย ...  ฉันมองปลายคางของเขาด้วยความรู้สึกสับสน  และดูเหมือนเขาจะรู้ตัวว่าฉันมองอยู่   

 

 

          โทโมะก้มหน้าลงมาสบตาฉัน  เขาเอื้อมมือมาจับกุมกระชับมือของฉันไว้ ราวกับจะบอกว่ายังไงเขาก็จะไม่ทิ้งฉันไปไหนเด็ดขาด เขายิ้มให้ฉันเล็กน้อยก่อนจะหันไปพูดกับพ่อของตนเอง  ฉันรู้ว่าเขาเปล่งออกมาด้วยความมั่นใจ ...

 

 

"ผมไม่ไป บ้านของผมคือที่นี่ ..."

 

 

          จากนั้นโทโมะก็กระชากแขนของฉันให้ออกมาจากที่แห่งนั้น เพื่อนๆทุกคนยกมือขึ้นไหว้พ่อของโทโมะครั้งสุดท้ายและเดินเข้ามาสมทบกับฉัน และโทโมะ แต่ไม่วายที่คุณลุอาโอกิจะพูดขึ้นอีกครั้ง  

 

 

          น่าแปลกใจจัง .. ทั้งๆที่คุณลุงไม่ได้ตะโกนเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงได้ยินเสียงของคุณลุงชัดเจน ชัดมากๆราวกับคุณลุงพูดอยู่ใกล้ ๆ  ทุกอย่างมันดูน่ากลัวไปหมด นี่กำลังฉันกลัวอะไรอยู่กันแน่นะ ..

 

 

"ไม่หรอก ... ฉันเชื่อว่ายังไงแกต้องกลับแน่ ไว้เจอกันที่บ้าน..." 

 

 

ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันกลัวอะไร... ฉันกลัวที่จะต้องสูญเสียโทโมะไปยังไงละ ....  

 

 

______________________________________________________________________________________________

 

 

[tomo said]

 

 

          ผมยืนอยู่หน้าบ้านด้วยความรู้สึกแปลก ๆ อย่างบอกไม่ถูก ผมรู้..ว่าถ้าผมก้าวเท้าเข้าไปในบ้านแล้วจะเจออะไร หลาย ๆ คนคงจะเดาถูกสินะครับ ? เฉลยเลยแล้วกัน ผมก็ต้องเจอกับตายักษ์อาโอกิยังไงละ ^^

 

 

"คุณหนูคะ คุณผู้ชายเรียกพบที่ห้องรับประทานอาหารคะ"

 

 

          เมดสาวประจำบ้านก้มหน้ารายงานผมทันทีที่ก้าวเข้าไปในตัวบ้าน หึ! ตาแกนั่นกลับมาดักรอเลยเหรอเนี่ย ผมถอดเสื้อนอกออกแล้วส่งให้แก่เมดพร้อมกับถอดรองเท้าชุ่ย ๆ สะบัดมันทิ้งไว้ตรงนั้น เพราะรู้ดีว่ายังไงเดี๋ยวพวกคนใช้ก็ต้องตามเก็บให้อยู่ดี (นิสัย - -)

 

 

"บอกพ่อด้วยว่าฉันจะขึ้นนอนแล้ว อ่อ เดี๋ยวเธอช่วยยกอาหารขึ้นไปวางไว้หน้าห้องให้ฉันด้วยนะ"

 

 

          ผมเลือกที่จะหลบหน้าตา ตาแก่นั่นจึงพูดออกไปแบบนั้นแล้วออกวิ่งขึ้นบันไดไปโดยที่ไม่รอให้เมดคนนี้ พูดต่อ ผมวิ่งขึ้นมาถึงบนห้องและผลักประตูห้องนอนของตนเองเข้าไปก่อนจะ กระโดดทิ้งตัวลงนอนบนเตียงที่นุ่มแสนนุ่ม  แรงสปริงของเตียงนอนเริ่มผ่อนแรงลงเรื่อย ๆ 

 

 

          ผมหงายหน้าขึ้นมองเพดานพลางครุ่นคิด ตาแก่เดินทางกลับมายังประเทศไทยทั้งๆที่เคยลั่นวาจาไว้ว่าจะไม่กลับมาเยียบ ที่นี่อีก  แต่ในสุดที่ก็กลับมา ...

 

 

แถมเป้าหมายของตาแก่อาโอกิคือตัวผม  เพื่อที่จะลากตัวผมกลับอเมริกาเลยต้องลงทุนถึงขนาดนี้เชียว ? อย่างนี้ไม่ต้องคิดให้ปวดสมองหรอกครับว่าใครกันที่อยู่เบื้องหลัง  คนๆนั้นคือพิมพ์แน่ ๆ !  

 

 

ก๊อก ก๊อก ก๊อก  

 

 

         เสียงเคาะประตูห้องเรียกสติผมกลับมา นี่คงจะเป็นเมดที่ผมให้เอาอาหารขึ้นมาให้แน่ ๆ  เมื่อคิดเช่นนั้นจึงตะโกนตอบกลับไป 

 

 

"วางไว้นั้นแหละ เดี๋ยวฉันออกไปยกเข้ามาเอง!"

 

 

ก๊อก ก๊อก ก๊อก     

 

 

         เสียงเคาะยังคงดังต่อเนื่อง - - นี่จะไม่สนใจคำพูดของผมเลยใช่มั้ย ? เดี๋ยวก็จับหักเงินเดือนซะหรอก ! ฮึ่ม !

 

 

          ผมกระโดดลงจากเตียงด้วยความรู้สึกหงุดหงิดแล้วเดินไปเปิดประตู แต่ทันทีที่ประตูถูกเปิดออกจนสามารถมองเห็นใบหน้าขาวๆใครบางคนแว็บ ๆ ทำให้ผมเลี่ยนใจเลือกที่จะปิดประตูใส่หน้าเขาเสียงดังปัง! ปิดประตูใส่หน้าตาแก่อาโอกิ!!! 

 

 

ก๊อก ก๊อก    

 

 

           ตาแก่นั่นยังคงเคาะเรียกผมต่อไป  เฮ้อ ~ หลบยังไงก็ไม่พ้นสินะ ก็เล่นอยู่บ้านเดี๋ยวกันแบบนี้ ผมถอนหายใจยาว ๆ ประชดชีวิตตัวเองอีกครั้งและยอมเปิดประตูให้ตาแก่แต่โดยดี

 

 

แอ๊ดดดด

 

 

"พ่อมีอะไรอีก - -*"

 

 

            ตาแก่ไม่ตอบแต่กลับเดินเข้าไปนั่งบนเตียงของผม  แถมแย้มรอยยิ้มนิดๆให้ผมอีกต่างหาก  ถ้าใครกำลังคิดว่าตาแก่ของผมเองก็ใจดีนี่น่า กรุณาช่วยเก็บความคิดนี้กลับไปด่วนเลยนะครับ - -^ เพราะตาแก่น่ะ ถ้าลองได้เผอยรอยยิ้มออกมาแล้วแปลว่าคุณควรจะอยู่ห่าง ๆผู้ชายคนนี้เอาไว้ ! 

 

 

"ทำไมแกไม่ลงไปรับประทานอาหารข้างล่าง ? อ่อ แล้วอย่าบอกนะว่าแกไม่หิว เพราะไม่อย่างนั้นแกจะส่งให้เมดยกอาหารขึ้นมาทำไม อย่าคิดว่าฉันจะโง่นะ - - "

 

 

บ๊ะ !ตาแก่นี่รู้ทัน - -;; ผมยักไหล่ไม่ยอมตอบเช่นกัน แล้วเดินไปดึงเก้าอี้โต๊ะคอมออกมานั่งไขว้ห้างประจันหน้าตาแก่  

 

 

"ก็ได้ ... ถ้าแกไม่ตอบฉันจะได้เข้าเรื่องสักที.."

 

 

"ถ้าพ่อจะมาบังคับให้ผมกลับอเมริกาแล้วละก็ .. ผมว่าพ่อมาเก้อแล้วละ ^^"  

 

 

         ผมพูดขัดตาแก่ แต่ตาแก่ไม่ยอมอ่อนข้อให้ผมง่ายๆเสียด้วยสิ  ตาแก่ยืดตัวนั่งหลังตรงแน่วและเริ่มทำสายตาจริงจังขึ้นมาบ้างแล้ว  ผมมองหน้าพ่อของตัวเองด้วยรอยยิ้มกวนประสาน 

 

 

"ฉันรู้ว่าแกมันดื้อเหมือนฉัน แต่ฉันขอละ ให้แกฟังฉันสักนิด "   

 

 

        คำพูดของตาแก่ทำเอาผมแปลกใจ  ตาแก่ไม่เคยพูดอ้อนวอนใครเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ครั้งนี้เขายอมทำ ...  ผมนิ่งไปสักพักก่อนจะยอมผ่อนปรนให้เพราะยังไงเขาก็ยังเป็นพ่อ  ผมเปลี่ยนท่านั่งเป็นจริงจังมากขึ้น

 

 

"ก็ได้ งั้นผมจะรอฟัง"  

 

 

        ผมพูดขึ้นพร้อมกับตาแก่ที่ยอมเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้ผมฟัง ตอนนี้ทุกๆอย่างกำลังหนักอึ้ง ทุกคำพูดของตาแก่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมกำลังจะไม่ใช่ผมอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้ผมกำลังกลายเป็น .... 'หุ่นเชิด'ที่ไม่เต็มใจ 

 

 

        หากย้อนเวลากลับไปได้  ผมจะไม่กลับมาที่นี่อีก  

 

 

จะไม่กลับมาประเทศไทยให้ใครบางคนต้องเจ็บ รวมถึงตัวของผมเอง ...

 

 

_____________________________________________________________________________

อัพแล้วเม้นโหวตให้ด้วนนะค่าาา

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา