All of mine [1D Short Fiction || zarry ]
9.0
เขียนโดย Bennie
วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 10.30 น.
9 chapter
0 วิจารณ์
12.18K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 กันยายน พ.ศ. 2558 23.25 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
9) ::: Mine
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแฮรี่ POV.
หลังจากที่ผมตัดสินใจคบกับเซน มันเป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตผม
ผมโชคดีที่เกิดมาในโลกที่สังคมสามารถเข้าใจในการรักกันของเพศเดียวกัน
ถึงใครจะมองยังไงผมก็ไม่สน ผมสนใจแค่คนที่ผมรักและเค้าก็รักผม
ความจริงที่สังคมสร้างขึ้นมาในแต่ละที่มันแตกต่างกัน อะไรคือความเหมาะสม
ใจเรารู้ดีที่สุด
เซนอาจจะเหมาะหรือไม่เหมาะสมกับผมก็ได้ใครจะรู้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมมั่นใจ
คือสิ่งที่เซนได้กระทำให้ผม เค้าแสดงให้ผมเห็นโดยที่ไม่ต้องพูดอะไรมากแต่ผมสามารถเข้าใจมันได้เป็นอย่างดี
อย่างที่ว่ากันว่าการที่เรารู้สึกรักใครสักคนถ้ามันทำให้คุณต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเค้าคนนั้นแสดงว่านั่นไม่ใช่ความรักที่แท้จริง
อาจเป็นเพียงความหลงในชั่วเวลาหนึ่ง
ถ้าเราไม่เป็นตัวของตัวเองเลยเวลาอยู่กับคนที่เรารักมันจะเป็นหนทางสู่การจากลา
แต่สำหรับผมกับเซนสิ่งนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด
เซนสามารถรับตัวตนและนิสัยที่แท้จริง
ของผมได้ มันทำให้ผมรู้สึกสบายใจ และอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกัน โดยไม่ต้องพยายามเป็นอีกคนหรือบังคับให้ตัวเองทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม เพื่อทำให้อีกฝ่ายมีความสุข
ผมจำคำพูดของเซนได้ดี
'แฮซคือความสุขของเซนนะ'
ความรู้สึกพิเศษที่แสดงออกทางร่างกายหรืออารมณ์ไม่ใช่สัญญาณพิสูจน์ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคุณคือความรักเสมอไป
หากเป็นความรักที่แท้จริงแล้วคุณควรสามารถให้เหตุผลได้ด้วยว่าคุณรักเขาเพราะอะไร
ทั้งนี้
เหตุผลที่คุณนำมาใช้ควรพิจารณาจากการกระทำของเขาจริง ๆ ไม่ใช่สิ่งที่คุณจินตนาการขึ้นเอง
ผมรักเซนเพราะทุกครั้งที่ผมนึกถึงคนที่จะใช้ชีวิตร่วมกับผมและคนๆนั้นก็มีแต่เซนที่ผมมองเห็น ผมรักทุกๆการกระทำที่เซนทำ
ทุกๆอย่างที่เซนสนใจ
รักที่เซนเป็นเซน
ตลอดเวลาที่คบกันทำให้ผมรู้จักตัวตนของเซนมากขี้น เซนที่ภายนอกดูร้าย เจ้าชู้ เย่อหยิ่งไม่สนใจใคร แต่จริงๆแล้วเซนเป็นห่วงแต่คนรอบข้าง อบอุ่น อุ่นใจที่ได้อยู่ด้วย เป็นผู้ชายที่ เป็นสุภาพบุรุษดีๆคนนึงเลยก็ว่าได้
ผมมีความสุขที่การตัดสินใจของผมมันถูกต้องอย่างที่สุด
.
.
"พักผ่อนมากๆนะแฮรี่ ตอนเย็นก็ไปทำงานที่คลับอีก"
พอลบอกกับผมด้วยความเป็นห่วง
"ครับขอบคุณมากครับพอล"
การพักผ่อนของผมถึงแม้จะได้พักแค่แปปเดียว แต่ผมก็รู้สึกว่ามันนานขอแค่ได้พักก็เพียงพอแล้ว
.
.
เซน POV.
บางครั้งจริงๆแล้วเราเอา 'เหตุผล'
มาเทียบกับ 'ความรู้สึก' ไม่ได้ เพราะเหตุผลไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่ง ต่างคนต่างความคิด ต่างคนต่างมอง ถึงแม้จะเป็นคนรักกันก็เถอะ
ในเมื่อคิดจะรักแล้วก็ไม่จำเป็นต้องไปครุ่นคิดหาเหตุผล
เพราะความรักคือเหตุผลของทุกอย่าง
ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลมารองรับเสมอไป ไม่ต้องมีที่มา ไม่ต้องหาที่ไป หากจะรักใครสักคนเรื่องของเหตุผลสำคัญน้อยกว่าจิตใจ
ขอเพียงแค่หัวใจได้รู้สึกว่า 'รัก'ก็เพียงพอแล้ว ปล่อยให้หัวใจได้ทำหน้าที่ของมัน อย่าไปใช้ให้สมองสั่งการหัวใจเกินพอดี
ผมรักที่แฮซเป็นแฮซ
'เซนเป็นทุกอย่างของแฮซนะ'
เจ้าของเสียงหวานจะรู้มั้ยว่าผมมีความสุขทุกครั้งที่นึกถึง
.
ครืดๆๆๆ
.
"Hiเซนพูด.....ว่าไงนะ..ได้ๆจะไปเคลียร์เดี๋ยวนี้ล่ะ..ขอบใจ"
เฮ้ออออ งาน งาน งาน เป็นเซนทำไมต้องเหนื่อยด้วยว่ะเนี้ย
พระอาทิตย์คล้อยหายลับไปจากขอบฟ้าสีครามที่มืดสลัว ร่างสูงยังคงนั่งทำงานอยู่อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย
'เอกสารไรเยอะแยะจังว่ะ ไอ้เตี้ยได้เข้ามาเคลียร์งานบ้างมั้ยเนี้ย อย่าให้ได้เจอนะไอ้ลู'
เฮ้อ..ผมถอนหายใจเป็นสิบๆรอบทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ได้ช่วยให้งานเสร็จไวเลยก็ตาม
ก็มันน่าเบื่อมั้ยล่ะวันนี้กะจะไปนอนบ้านแฮรี่ตีเนียนว่าง่วงสักหน่อย หมดกันแผนที่วางไว้ แฮซนะแฮซทำไมใจร้ายกับเซนจังอยากนอนด้วยก็ไม่ให้นอน คนเค้าอยากอยู่ใกล้ๆรู้บ้างมั้ยยยย คิดถึงงงง เซ็ง เซ็งโว้ยยยยย
ติ๊ด
"ขอเครื่องดื่มกระแทกปากหน่อย"
"ได้เลยครับไอ้แขก"
เสียงเพื่อนซี้ตอบกลับมาอย่างกวนส้นบาทา ไอ้ลูอิส!!!
.
.
แสงสีเสียงที่กระหน่ำเปิดใส่กันอย่างกลัวว่าจะน้อยหน้ากัน ผู้คนขยับตัวตามเสียงเพลงไม่ว่าจะด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือยั่วยวนใคร
ทุกคนก็ล้วนมีความสุข สถานที่นี้เหมาะกับนักท่องราตรีหรือคนที่หาคู่นอน
แต่คงไม่ใช่กับชายผมหยิกร่างขาวบอบบางคนนี้ที่มาที่นี่เพราะหน้าที่ พนักงานเสิร์ฟหน้าหวานที่ทั้งหญิงทั้งชายเห็นแล้วคงต้องตกหลุมรักและตะลึงในความหล่อ น่ารัก
แต่เค้ามีเจ้าของหัวใจแล้วนะจ้ะ
แฮรี่ในชุดขาวดำสุภาพก้าวขาเรียวเสริฟ์เครื่องดื่มอย่างไม่หยุดหย่อน
ตุบ
"ก้นงอนดีจังนะน้องชาย"
เสียงเนิบนาบและสายตาลวนลามที่มองมายังใบหน้าสวย
'ไอ้คนลามก ไร้มารยาท อยากนักก็เอาเงินสกปรกแกไปซื้อสิ หรือว่าไม่มีใครอยากนอนด้วย ไอ้แก่ตัณหากลับ'
ได้แค่คิดอยู่ในใจทำไงได้ล่ะไอ้เราเป็นแค่เด็กเสริฟ์ขืนมีเรื่องคงโดนไล่ออกแน่
แฮรี่ได้แต่เก็บอารมณ์โกรธขึ้งของตัวเองไว้ในใจ และเดินไปยังเคาเตอร์บาร์
"เป็นไงบ้างแฮรี่ หน้าตานายไม่โอเครเลย"
เสียงหนุ่มผมทองที่ยืนอยู่ด้านในเคาเตอร์บาร์ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
"นิดหน่อยอ่ะไนล์ แล้วนายล่ะ"
"ก็ดีนะ"
"หมายถึงหัวหน้าหรอ"
แฮรี่พยักเพยิดหน้าไปทางลูอิสที่กำลังเดินตรวจดูความเรียบร้อยของเครื่องดื่มด้านในเคาเตอร์บาร์
"บ้า หัวหน้ายิ่งกว่าดีซะอีก"
ไนออลยิ้มและเขินกับคำพูดของตัวเอง
อะไรของมันเนี้ย ฮ่าๆๆๆๆๆ
"ฟอดดดดด หอมจัง"
ลูอิสพูดพร้อมกับส่งสายตาหวานเยิ้มประสานกับตาสีฟ้าใส
"บ้าทำไรเนี้ยคนเยอะแยะ"
ไนออลพูดดุแต่เขินจนหน้าแดงสร้างเสียงหัวเราะให้ทั้งผมและลูอิส ฮ่าๆๆๆๆ
"ไปต่อที่ห้องกันนะ"
สาบานว่ากระซิบ ถ้าจะกระซิบแบบนี้
ก็ตะโกนเลยจะดีกว่า
"ใครจะไปกับคนขี้โกหก"
"โอ๋ๆๆๆ หายงอนพี่เถอะนะน้องออล"
ลูอิสทำออดอ้อนไนออลด้วยท่าทีน่ารักน่าเอ็นด ูผมพึ่งเคยเห็นลูอิสในมุมนี้เป็นครั้งแรกนับเป็นบุญตาผมรึเปล่าเนี้ย
"พี่ทำไปเพราะความจำเป็นจริงๆนะ ไม่ได้มีเจตนาโกหกหลอกลวงน้องออลเลย ยกโทษให้พี่นะ นะครับเด็กน้อยของพี่"
พูดพลางโคลงมือบนเส้นผมสีทองอย่างน่ารัก
"ขอคิดดูก่อน"
ไนออลพูดพลางเชิดหน้าไปทางอื่นเพราะไม่อยากเห็นลูกอ้อนของลูอิส
"ไปทำงานได้แล้ว"
ไนออลออกปากไล่ลูอิสที่เป็นหัวหน้า
"ไม่ไปจนกว่าออลจะยกโทษให้พี่"
ลูอิสพูดจาอย่างเป็นต่อ
"ก็ได้หายโกรธแล้ว"
"หายโกรธแล้วทำไงจ้ะ"
"ค่อยไปคุยกันที่บ้านได้มั้ยอ่ะ"
"ไม่ได้ครับ เร็วๆสิ"
ลูอิสพูดพลางยื่นหน้ามาใกล้ไนออล
"ถ้าช้าสองข้างนะ"
"จุ๊ปปป พอใจแล้วใช่มั้ย"
"ที่สุดเลย"
ลูอิสยิ้มอย่างมีความสุขแล้วเดินไปทำงานต่อ
.
.
"อ้าวรายการเครื่องดื่ม ตายแล้วสั่งมาตั้งนานแล้วด้วย"
"มีอะไรหรอไนออล"
ผมถามไนออลอย่างสงสัย
"มีแขกสั่งเครื่องดื่มมาน่ะ แต่สั่งมาตั้งนานแล้วด้วย"
"ชั้นไหนล่ะเดี๋ยวฉันไปเสริฟ์ให้"
"บนสุดเลยมีอยู่ห้องเดียว ฝากด้วยนะแฮรี่"
"อื้ม ไม่มีปัญหา"
ชั้นบนสุดหรอ นั่นห้องเจ้าของโรงแรมนี้หนิ นี่เราต้องนำเครื่องดื่มไปเสริฟ์เจ้าของที่นี่เลยหรอ เเล้วมาเสริฟ์ช้าด้วย ตายแล้วจะโดนด่าอะไรมั้ยเนี้ย
ผมนึกภาพชายหนุ่มที่เป็นเจ้าของที่นี่ยืนด่าผมอย่างเกรี้ยวโกรธ
เย็นไว้แฮรี่ เราอาจคิดไปเองก็ได้
ติ้งงงงง..
ผมก้าวเท้าออกมาจากลิฟต์ ...ว่างเปล่า... เงียบสงัดราวกับไม่มีคนอยู่บนนี้ ผมเดินไปหยุดอยู่ตรงประตูไม้สีเข้ม ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา
ออดๆ
ผมกดกริ่งหน้าประตูห้อง เงียบไม่มีเสียงใดหรืออะไรตอบกลับมาเลยหรือว่าจะไม่มีคนอยู่ ผมยืนรอเนิ่นนาน จนหันหลังให้ประตูกะเดินกลับไปทำงาน และแล้ว
แกร็ก...
"มาช้าจังว่ะไอ้เตี้ย"
ผมหันกลับไปมองเจ้าของห้องที่สั่งเครื่องดื่ม
"แฮรี่/เซน"
อะไรกันเซนขึ้นมาทำอะไรบนนี้ เซนมาอยู่ห้องนี้ได้ยังไง หรือว่าเซนเป็นเจ้าของที่นี่ ไม่น่าไม่จริงเซนไม่เคยโกหกผม
ผมยืนนิ่งตัวแกร่ง และเงียบไม่มีคำพูดใดออกจากปากเราทั้งสองคนและเซนก็ทำลายความเงียบนี้ลง
"แฮรี่ คือเซนอธิบายได้นะ เข้ามาในห้องก่อนนะ"
เซนพูดพร้อมกับหยิบถาดเครื่องดื่มไปวางบนเคาท์เตอร์บาร์ภายในห้อง
ผมยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม นี่มันเรื่องอะไร ผมงง ไม่อยากรับรู้อะไร เซนปิดบังอะไรผมอยู่
ซวบบบ
"พูดอะไรหน่อยได้มั้ย อย่าเงียบไปแบบนี้สิ แฮซ"
เซนพูดพลางกอดผมไปด้วย
ผมยังคงยืนนิ่งเหมือนเดิม ผมไม่รู้จะพูดอะไร ความคิดในสมองตีกันมั่วไปหมด
"แฮซ เซนขอร้องล่ะพูดอะไรมั้งได้มั้ย"
"ให้พูดอะไรล่ะ เซนอยากให้แฮซพูดอะไร"
"ขอบคุณนะแฮซขอบคุณที่ยังเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อนี้ เซนขอโทษที่ไม่ได้บอกความจริงแฮซ
แฮซอย่าโกรธเซนเลยนะ"
"ปล่อย มีใครรู้เรื่องนี้อีกมั้ย ตอบตามความจริงนะ"
เซนผละอ้อมกอดออกอย่างช้าๆ ดวงตาสีน้ำตาลเฮเซลประสานกับนัยน์ตาสีเขียวมรกตอย่างจริงจัง
"ทุกคน.. ไม่ใช่ว่าเซนตั้งใจจะโกหกแฮซนะ แต่เซนกลัวว่าถ้าแฮซรู้ เราจะไม่เหมือนเดิม เพราะแฮซไม่เหมือนคนอื่น หลายคนที่เข้ามาในชีวิตเซนไม่มีใครให้ความรักที่แท้จริงเลย ทุกคนหวังเพียงแค่เงิน ไม่มีใครรักเซนที่เป็นเซนได้เหมือนกับแฮซนะ แฮซไม่เคยรังเกียจผู้ชายที่ขี่มอเตอร์ไซด์ แฮซไม่รักเกียจพนักงานชั่วคราวอย่างเซน แฮซ.."
"หยุดเถอะ พอเถอะเซน"
"เซนจะไม่ขอให้แฮซไม่โกรธเซน แต่เซนขอให้แฮซรักเซนเหมือนเดิม คุยกับเซนเหมือนเดิม"
เซนพูดด้วยสายตาจริงจังแต่แฝงความรักความจริงใจไว้ในนั้น
"ที่แฮซบอกให้หยุดเพราะนี่หมดเวลางานแฮซแล้ว แฮซจะกลับบ้าน"
ผมพูดหน้านิ่งๆ แต่ในใจกลับยิ้มไม่หุบ เซนรักผมมากจริงๆ
ความจริงผมไม่โกรธเซนหรอกนะ เพราะผมรู้ตั้งแต่ตอนทำงานด้วยกันที่ร้านกาแฟแล้วล่ะ
ผมอยากรู้ว่าเซนจะทำยังไง
และผมก็คิดไม่ผิดจริงๆที่รักผู้ชายตรงหน้านี้
'เซน มาลิค'
ในฐานะที่ผมเป็นพนักงานใหม่ เข้าทำงานได้ไม่กี่เดือนก็ต้องรู้จักหน้าคร่าตาคณะผู้บริหารและบอสใหญ่ไว้ด้วยเผื่อเจอจะได้ทำตัวถูก
แต่ก็นะดันมาเจอในสถานะพนักงานชั่วคราว ผมก็ต้องเลยตามเลย ถ้าผมบอกเรื่องนี้ให้เซนรู้เค้าจะโกรธผมมั้ยน้า
ไม่รู้ตอนไหนที่เซนโอบกอดผมจากทางด้านหน้าแล้ววางมือบนสะโพกผม พอรู้ตัวหน้าก็อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ
"แฮซไม่โกรธเซนใช่มั้ย"
เซนถามพร้อมกับทำสีหน้ายั่วผม
"อื้ม ไม่โกรธ ปล่อยได้แล้ว จะกลับบ้าน"
"ให้จุ๊ปก่อนแล้วจะไปส่งถึงบ้านเลย"
ถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เลย หึหึ ╮(╯3╰)╭
"ไม่เอา อย่าแกล้งกันสิเซน"
"แค่จูบเอง นะ นะ"
เซนขยับหน้าเข้ามาใกล้ผมจนสัมผัสถึงลมหายใจร้อนๆที่เป่ารดใบหน้าผม
"แค่จูบ ห้ามเอาลิ้นเข้ามานะ"
แฮรี่พูดด้วยใบหน้าที่แดงถึงใบหูและลำคอน่าสัมผัสนั้น
...
..
.
______________________________________
หวายยยยยย พาร์ทหน้ามี nc นะจ้ะกี่บวกไม่รู้
รู้แต่แต่งนานมากกกก ฮ่าๆๆๆๆ
ผิดพลาดทางเทคนิคนิดหน่อย
ขอโทษด้วยจ้าาาา
ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านกันนะ
เป็นกำลังใจให้เค้าด้วยนะ
รักคนอ่านจุ๊ปๆ
↖(^ω^)↗(>^ω^<)↖(^▽^)↗└(^o^)┘
หลังจากที่ผมตัดสินใจคบกับเซน มันเป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตผม
ผมโชคดีที่เกิดมาในโลกที่สังคมสามารถเข้าใจในการรักกันของเพศเดียวกัน
ถึงใครจะมองยังไงผมก็ไม่สน ผมสนใจแค่คนที่ผมรักและเค้าก็รักผม
ความจริงที่สังคมสร้างขึ้นมาในแต่ละที่มันแตกต่างกัน อะไรคือความเหมาะสม
ใจเรารู้ดีที่สุด
เซนอาจจะเหมาะหรือไม่เหมาะสมกับผมก็ได้ใครจะรู้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมมั่นใจ
คือสิ่งที่เซนได้กระทำให้ผม เค้าแสดงให้ผมเห็นโดยที่ไม่ต้องพูดอะไรมากแต่ผมสามารถเข้าใจมันได้เป็นอย่างดี
อย่างที่ว่ากันว่าการที่เรารู้สึกรักใครสักคนถ้ามันทำให้คุณต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเค้าคนนั้นแสดงว่านั่นไม่ใช่ความรักที่แท้จริง
อาจเป็นเพียงความหลงในชั่วเวลาหนึ่ง
ถ้าเราไม่เป็นตัวของตัวเองเลยเวลาอยู่กับคนที่เรารักมันจะเป็นหนทางสู่การจากลา
แต่สำหรับผมกับเซนสิ่งนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด
เซนสามารถรับตัวตนและนิสัยที่แท้จริง
ของผมได้ มันทำให้ผมรู้สึกสบายใจ และอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกัน โดยไม่ต้องพยายามเป็นอีกคนหรือบังคับให้ตัวเองทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม เพื่อทำให้อีกฝ่ายมีความสุข
ผมจำคำพูดของเซนได้ดี
'แฮซคือความสุขของเซนนะ'
ความรู้สึกพิเศษที่แสดงออกทางร่างกายหรืออารมณ์ไม่ใช่สัญญาณพิสูจน์ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคุณคือความรักเสมอไป
หากเป็นความรักที่แท้จริงแล้วคุณควรสามารถให้เหตุผลได้ด้วยว่าคุณรักเขาเพราะอะไร
ทั้งนี้
เหตุผลที่คุณนำมาใช้ควรพิจารณาจากการกระทำของเขาจริง ๆ ไม่ใช่สิ่งที่คุณจินตนาการขึ้นเอง
ผมรักเซนเพราะทุกครั้งที่ผมนึกถึงคนที่จะใช้ชีวิตร่วมกับผมและคนๆนั้นก็มีแต่เซนที่ผมมองเห็น ผมรักทุกๆการกระทำที่เซนทำ
ทุกๆอย่างที่เซนสนใจ
รักที่เซนเป็นเซน
ตลอดเวลาที่คบกันทำให้ผมรู้จักตัวตนของเซนมากขี้น เซนที่ภายนอกดูร้าย เจ้าชู้ เย่อหยิ่งไม่สนใจใคร แต่จริงๆแล้วเซนเป็นห่วงแต่คนรอบข้าง อบอุ่น อุ่นใจที่ได้อยู่ด้วย เป็นผู้ชายที่ เป็นสุภาพบุรุษดีๆคนนึงเลยก็ว่าได้
ผมมีความสุขที่การตัดสินใจของผมมันถูกต้องอย่างที่สุด
.
.
"พักผ่อนมากๆนะแฮรี่ ตอนเย็นก็ไปทำงานที่คลับอีก"
พอลบอกกับผมด้วยความเป็นห่วง
"ครับขอบคุณมากครับพอล"
การพักผ่อนของผมถึงแม้จะได้พักแค่แปปเดียว แต่ผมก็รู้สึกว่ามันนานขอแค่ได้พักก็เพียงพอแล้ว
.
.
เซน POV.
บางครั้งจริงๆแล้วเราเอา 'เหตุผล'
มาเทียบกับ 'ความรู้สึก' ไม่ได้ เพราะเหตุผลไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่ง ต่างคนต่างความคิด ต่างคนต่างมอง ถึงแม้จะเป็นคนรักกันก็เถอะ
ในเมื่อคิดจะรักแล้วก็ไม่จำเป็นต้องไปครุ่นคิดหาเหตุผล
เพราะความรักคือเหตุผลของทุกอย่าง
ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลมารองรับเสมอไป ไม่ต้องมีที่มา ไม่ต้องหาที่ไป หากจะรักใครสักคนเรื่องของเหตุผลสำคัญน้อยกว่าจิตใจ
ขอเพียงแค่หัวใจได้รู้สึกว่า 'รัก'ก็เพียงพอแล้ว ปล่อยให้หัวใจได้ทำหน้าที่ของมัน อย่าไปใช้ให้สมองสั่งการหัวใจเกินพอดี
ผมรักที่แฮซเป็นแฮซ
'เซนเป็นทุกอย่างของแฮซนะ'
เจ้าของเสียงหวานจะรู้มั้ยว่าผมมีความสุขทุกครั้งที่นึกถึง
.
ครืดๆๆๆ
.
"Hiเซนพูด.....ว่าไงนะ..ได้ๆจะไปเคลียร์เดี๋ยวนี้ล่ะ..ขอบใจ"
เฮ้ออออ งาน งาน งาน เป็นเซนทำไมต้องเหนื่อยด้วยว่ะเนี้ย
พระอาทิตย์คล้อยหายลับไปจากขอบฟ้าสีครามที่มืดสลัว ร่างสูงยังคงนั่งทำงานอยู่อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย
'เอกสารไรเยอะแยะจังว่ะ ไอ้เตี้ยได้เข้ามาเคลียร์งานบ้างมั้ยเนี้ย อย่าให้ได้เจอนะไอ้ลู'
เฮ้อ..ผมถอนหายใจเป็นสิบๆรอบทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ได้ช่วยให้งานเสร็จไวเลยก็ตาม
ก็มันน่าเบื่อมั้ยล่ะวันนี้กะจะไปนอนบ้านแฮรี่ตีเนียนว่าง่วงสักหน่อย หมดกันแผนที่วางไว้ แฮซนะแฮซทำไมใจร้ายกับเซนจังอยากนอนด้วยก็ไม่ให้นอน คนเค้าอยากอยู่ใกล้ๆรู้บ้างมั้ยยยย คิดถึงงงง เซ็ง เซ็งโว้ยยยยย
ติ๊ด
"ขอเครื่องดื่มกระแทกปากหน่อย"
"ได้เลยครับไอ้แขก"
เสียงเพื่อนซี้ตอบกลับมาอย่างกวนส้นบาทา ไอ้ลูอิส!!!
.
.
แสงสีเสียงที่กระหน่ำเปิดใส่กันอย่างกลัวว่าจะน้อยหน้ากัน ผู้คนขยับตัวตามเสียงเพลงไม่ว่าจะด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือยั่วยวนใคร
ทุกคนก็ล้วนมีความสุข สถานที่นี้เหมาะกับนักท่องราตรีหรือคนที่หาคู่นอน
แต่คงไม่ใช่กับชายผมหยิกร่างขาวบอบบางคนนี้ที่มาที่นี่เพราะหน้าที่ พนักงานเสิร์ฟหน้าหวานที่ทั้งหญิงทั้งชายเห็นแล้วคงต้องตกหลุมรักและตะลึงในความหล่อ น่ารัก
แต่เค้ามีเจ้าของหัวใจแล้วนะจ้ะ
แฮรี่ในชุดขาวดำสุภาพก้าวขาเรียวเสริฟ์เครื่องดื่มอย่างไม่หยุดหย่อน
ตุบ
"ก้นงอนดีจังนะน้องชาย"
เสียงเนิบนาบและสายตาลวนลามที่มองมายังใบหน้าสวย
'ไอ้คนลามก ไร้มารยาท อยากนักก็เอาเงินสกปรกแกไปซื้อสิ หรือว่าไม่มีใครอยากนอนด้วย ไอ้แก่ตัณหากลับ'
ได้แค่คิดอยู่ในใจทำไงได้ล่ะไอ้เราเป็นแค่เด็กเสริฟ์ขืนมีเรื่องคงโดนไล่ออกแน่
แฮรี่ได้แต่เก็บอารมณ์โกรธขึ้งของตัวเองไว้ในใจ และเดินไปยังเคาเตอร์บาร์
"เป็นไงบ้างแฮรี่ หน้าตานายไม่โอเครเลย"
เสียงหนุ่มผมทองที่ยืนอยู่ด้านในเคาเตอร์บาร์ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
"นิดหน่อยอ่ะไนล์ แล้วนายล่ะ"
"ก็ดีนะ"
"หมายถึงหัวหน้าหรอ"
แฮรี่พยักเพยิดหน้าไปทางลูอิสที่กำลังเดินตรวจดูความเรียบร้อยของเครื่องดื่มด้านในเคาเตอร์บาร์
"บ้า หัวหน้ายิ่งกว่าดีซะอีก"
ไนออลยิ้มและเขินกับคำพูดของตัวเอง
อะไรของมันเนี้ย ฮ่าๆๆๆๆๆ
"ฟอดดดดด หอมจัง"
ลูอิสพูดพร้อมกับส่งสายตาหวานเยิ้มประสานกับตาสีฟ้าใส
"บ้าทำไรเนี้ยคนเยอะแยะ"
ไนออลพูดดุแต่เขินจนหน้าแดงสร้างเสียงหัวเราะให้ทั้งผมและลูอิส ฮ่าๆๆๆๆ
"ไปต่อที่ห้องกันนะ"
สาบานว่ากระซิบ ถ้าจะกระซิบแบบนี้
ก็ตะโกนเลยจะดีกว่า
"ใครจะไปกับคนขี้โกหก"
"โอ๋ๆๆๆ หายงอนพี่เถอะนะน้องออล"
ลูอิสทำออดอ้อนไนออลด้วยท่าทีน่ารักน่าเอ็นด ูผมพึ่งเคยเห็นลูอิสในมุมนี้เป็นครั้งแรกนับเป็นบุญตาผมรึเปล่าเนี้ย
"พี่ทำไปเพราะความจำเป็นจริงๆนะ ไม่ได้มีเจตนาโกหกหลอกลวงน้องออลเลย ยกโทษให้พี่นะ นะครับเด็กน้อยของพี่"
พูดพลางโคลงมือบนเส้นผมสีทองอย่างน่ารัก
"ขอคิดดูก่อน"
ไนออลพูดพลางเชิดหน้าไปทางอื่นเพราะไม่อยากเห็นลูกอ้อนของลูอิส
"ไปทำงานได้แล้ว"
ไนออลออกปากไล่ลูอิสที่เป็นหัวหน้า
"ไม่ไปจนกว่าออลจะยกโทษให้พี่"
ลูอิสพูดจาอย่างเป็นต่อ
"ก็ได้หายโกรธแล้ว"
"หายโกรธแล้วทำไงจ้ะ"
"ค่อยไปคุยกันที่บ้านได้มั้ยอ่ะ"
"ไม่ได้ครับ เร็วๆสิ"
ลูอิสพูดพลางยื่นหน้ามาใกล้ไนออล
"ถ้าช้าสองข้างนะ"
"จุ๊ปปป พอใจแล้วใช่มั้ย"
"ที่สุดเลย"
ลูอิสยิ้มอย่างมีความสุขแล้วเดินไปทำงานต่อ
.
.
"อ้าวรายการเครื่องดื่ม ตายแล้วสั่งมาตั้งนานแล้วด้วย"
"มีอะไรหรอไนออล"
ผมถามไนออลอย่างสงสัย
"มีแขกสั่งเครื่องดื่มมาน่ะ แต่สั่งมาตั้งนานแล้วด้วย"
"ชั้นไหนล่ะเดี๋ยวฉันไปเสริฟ์ให้"
"บนสุดเลยมีอยู่ห้องเดียว ฝากด้วยนะแฮรี่"
"อื้ม ไม่มีปัญหา"
ชั้นบนสุดหรอ นั่นห้องเจ้าของโรงแรมนี้หนิ นี่เราต้องนำเครื่องดื่มไปเสริฟ์เจ้าของที่นี่เลยหรอ เเล้วมาเสริฟ์ช้าด้วย ตายแล้วจะโดนด่าอะไรมั้ยเนี้ย
ผมนึกภาพชายหนุ่มที่เป็นเจ้าของที่นี่ยืนด่าผมอย่างเกรี้ยวโกรธ
เย็นไว้แฮรี่ เราอาจคิดไปเองก็ได้
ติ้งงงงง..
ผมก้าวเท้าออกมาจากลิฟต์ ...ว่างเปล่า... เงียบสงัดราวกับไม่มีคนอยู่บนนี้ ผมเดินไปหยุดอยู่ตรงประตูไม้สีเข้ม ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา
ออดๆ
ผมกดกริ่งหน้าประตูห้อง เงียบไม่มีเสียงใดหรืออะไรตอบกลับมาเลยหรือว่าจะไม่มีคนอยู่ ผมยืนรอเนิ่นนาน จนหันหลังให้ประตูกะเดินกลับไปทำงาน และแล้ว
แกร็ก...
"มาช้าจังว่ะไอ้เตี้ย"
ผมหันกลับไปมองเจ้าของห้องที่สั่งเครื่องดื่ม
"แฮรี่/เซน"
อะไรกันเซนขึ้นมาทำอะไรบนนี้ เซนมาอยู่ห้องนี้ได้ยังไง หรือว่าเซนเป็นเจ้าของที่นี่ ไม่น่าไม่จริงเซนไม่เคยโกหกผม
ผมยืนนิ่งตัวแกร่ง และเงียบไม่มีคำพูดใดออกจากปากเราทั้งสองคนและเซนก็ทำลายความเงียบนี้ลง
"แฮรี่ คือเซนอธิบายได้นะ เข้ามาในห้องก่อนนะ"
เซนพูดพร้อมกับหยิบถาดเครื่องดื่มไปวางบนเคาท์เตอร์บาร์ภายในห้อง
ผมยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม นี่มันเรื่องอะไร ผมงง ไม่อยากรับรู้อะไร เซนปิดบังอะไรผมอยู่
ซวบบบ
"พูดอะไรหน่อยได้มั้ย อย่าเงียบไปแบบนี้สิ แฮซ"
เซนพูดพลางกอดผมไปด้วย
ผมยังคงยืนนิ่งเหมือนเดิม ผมไม่รู้จะพูดอะไร ความคิดในสมองตีกันมั่วไปหมด
"แฮซ เซนขอร้องล่ะพูดอะไรมั้งได้มั้ย"
"ให้พูดอะไรล่ะ เซนอยากให้แฮซพูดอะไร"
"ขอบคุณนะแฮซขอบคุณที่ยังเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อนี้ เซนขอโทษที่ไม่ได้บอกความจริงแฮซ
แฮซอย่าโกรธเซนเลยนะ"
"ปล่อย มีใครรู้เรื่องนี้อีกมั้ย ตอบตามความจริงนะ"
เซนผละอ้อมกอดออกอย่างช้าๆ ดวงตาสีน้ำตาลเฮเซลประสานกับนัยน์ตาสีเขียวมรกตอย่างจริงจัง
"ทุกคน.. ไม่ใช่ว่าเซนตั้งใจจะโกหกแฮซนะ แต่เซนกลัวว่าถ้าแฮซรู้ เราจะไม่เหมือนเดิม เพราะแฮซไม่เหมือนคนอื่น หลายคนที่เข้ามาในชีวิตเซนไม่มีใครให้ความรักที่แท้จริงเลย ทุกคนหวังเพียงแค่เงิน ไม่มีใครรักเซนที่เป็นเซนได้เหมือนกับแฮซนะ แฮซไม่เคยรังเกียจผู้ชายที่ขี่มอเตอร์ไซด์ แฮซไม่รักเกียจพนักงานชั่วคราวอย่างเซน แฮซ.."
"หยุดเถอะ พอเถอะเซน"
"เซนจะไม่ขอให้แฮซไม่โกรธเซน แต่เซนขอให้แฮซรักเซนเหมือนเดิม คุยกับเซนเหมือนเดิม"
เซนพูดด้วยสายตาจริงจังแต่แฝงความรักความจริงใจไว้ในนั้น
"ที่แฮซบอกให้หยุดเพราะนี่หมดเวลางานแฮซแล้ว แฮซจะกลับบ้าน"
ผมพูดหน้านิ่งๆ แต่ในใจกลับยิ้มไม่หุบ เซนรักผมมากจริงๆ
ความจริงผมไม่โกรธเซนหรอกนะ เพราะผมรู้ตั้งแต่ตอนทำงานด้วยกันที่ร้านกาแฟแล้วล่ะ
ผมอยากรู้ว่าเซนจะทำยังไง
และผมก็คิดไม่ผิดจริงๆที่รักผู้ชายตรงหน้านี้
'เซน มาลิค'
ในฐานะที่ผมเป็นพนักงานใหม่ เข้าทำงานได้ไม่กี่เดือนก็ต้องรู้จักหน้าคร่าตาคณะผู้บริหารและบอสใหญ่ไว้ด้วยเผื่อเจอจะได้ทำตัวถูก
แต่ก็นะดันมาเจอในสถานะพนักงานชั่วคราว ผมก็ต้องเลยตามเลย ถ้าผมบอกเรื่องนี้ให้เซนรู้เค้าจะโกรธผมมั้ยน้า
ไม่รู้ตอนไหนที่เซนโอบกอดผมจากทางด้านหน้าแล้ววางมือบนสะโพกผม พอรู้ตัวหน้าก็อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ
"แฮซไม่โกรธเซนใช่มั้ย"
เซนถามพร้อมกับทำสีหน้ายั่วผม
"อื้ม ไม่โกรธ ปล่อยได้แล้ว จะกลับบ้าน"
"ให้จุ๊ปก่อนแล้วจะไปส่งถึงบ้านเลย"
ถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เลย หึหึ ╮(╯3╰)╭
"ไม่เอา อย่าแกล้งกันสิเซน"
"แค่จูบเอง นะ นะ"
เซนขยับหน้าเข้ามาใกล้ผมจนสัมผัสถึงลมหายใจร้อนๆที่เป่ารดใบหน้าผม
"แค่จูบ ห้ามเอาลิ้นเข้ามานะ"
แฮรี่พูดด้วยใบหน้าที่แดงถึงใบหูและลำคอน่าสัมผัสนั้น
...
..
.
______________________________________
หวายยยยยย พาร์ทหน้ามี nc นะจ้ะกี่บวกไม่รู้
รู้แต่แต่งนานมากกกก ฮ่าๆๆๆๆ
ผิดพลาดทางเทคนิคนิดหน่อย
ขอโทษด้วยจ้าาาา
ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านกันนะ
เป็นกำลังใจให้เค้าด้วยนะ
รักคนอ่านจุ๊ปๆ
↖(^ω^)↗(>^ω^<)↖(^▽^)↗└(^o^)┘
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ