The Heart เพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...

8.8

เขียนโดย พายุลมหนาว

วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 07.14 น.

  12 chapter
  83 วิจารณ์
  18.25K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 กันยายน พ.ศ. 2558 00.03 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

5) [5] ไอ้แก่!!!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
 
 
 
 
 
 
The Heartเพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...
 
Chapter (5)
 
 
 
            “สวัสดีค่ะ ใช่หมอจริญญาที่ย้ายมาใหม่รึป่าวค่ะ?” พยาบาทสาวถามฉันที่ยืนอึ้งกับที่ทำงานใหม่ นี้มันโรงพยาบาทหรือโรงแรมกัน พระเจ้าจอห์นมันยอดมาก อลังการเว่อรๆ เจ๋งกว่าโรงพยาบาทเก่าที่เมืองนอกอีกรู้งี้ย้ายมาทำตั้งนานแล้วย่ะ กรี้ดดดดด >0<!!
 
 
 
            “หมอค่ะ!” O_x!? เย้ย หูจะแตก
 
 
 
            “คะ ค่ะ ฉันเองแพทย์หญิงจริญญา” ฉันรีบตอบก่อนจะโดนพยาบาทสาวมองแรงในความขี้นอกของตัวเอง แล้วหล่อนก็พาฉันมาห้องผู้บริหารโรงพยาบาทพร้อมเปิดประตูเป็นการต้อนรับฉันอย่างดี มารยาทงามจริงๆ ^ ^
 
 
 
            “สวัสดีค่ะ ฉัน..” ฉันกำลังกล่าวแนะนำตัว อีตาผู้บริหารนั้นก็ยกมือห้ามฉันเสียก่อน
 
 
 
            “แพทย์หญิงจริญญา ศิริมงคลสกุล จบแพทย์จากเมืองนอกด้วยดีกรีเกียรตินิยมอันดับ 1ทำงานอยู่เมืองผู้ดีที่ประเทศอังกฤษได้ประมาณหนึ่งปี มีเหตุผลส่วนตัวที่กลับมาไทยซึ่งไม่ได้ระบุไว้ ผมพูดถูกไหม” เขาร่ายประวัติฉันครบถ้วน เป๊ะทุกเสต็ปไม่มีขาดตกบกพร่อง เล่นเอาฉันอึ้งเลย
 
 
 
            “ค่ะ ไม่ผิดเพี้ยน” ไม่ตกหล่นคำใดเลยค่ะ เมพจริงๆ เขายิ้มอย่างพอใจก่อนจะกระชับเสื้อกาวแล้วยกมือทักทายแบบฝรั่งกับฉัน
 
 
 
            “เป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกันครับ ผมวิชิตยินดีที่ได้รู้จัก เรียกว่าพี่วิเฉยๆจะดีกว่าครับผมไม่ถือตัวเพราะดูท่าผมจะแก่กว่าคุณ” ฉันก็ว่าอยู่ หน้าเขาดูเป็นผู้ใหญ่กว่าฉันซะอีกขนาดฉัน ยี่สิบกว่าๆแล้วนะ = =;; ฉันว่าเขาต้องสามสิบกว่าๆ
 
 
 
            “ค่ะเป็นเกียรติเช่นกันค่ะ ผอ.” ฉันไม่อยากเรียกเขาว่าพี่หรอกสถานะฉันกับเขามันคนล่ะชั้น แล้วมันก็ไม่ชินปากด้วย เขาแอบหน้างอนิดหนึ่งที่ฉันไม่เรียกตามที่เขาขอก่อนจะยักไหล่แล้วยิ้มหวานๆให้ฉัน ขนลุกเว้ย
 
 
 
            “จะเป็นอะไรไหมครับถ้าผมจะขอเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อ” อย่าเอาของกินมาล่อนะ ฉันไม่หลงกลหรอก
 
 
 
            “เอ่อ แก้วว่า..” ยกมือห้ามอีกล่ะ อะไรของนายย่ะ!
 
 
 
            “เที่ยงนี้เจอกันครับ” O[]O!? เห้ย ไอ้ผอ.พูดเองเอ่อเองเฉยเลย ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงกับนายเลยนะย่ะ ฉันถูกอีตานั้นผลักออกห้องก่อนเขาจะยิ้มให้แล้วปิดประตูห้องตัวเอง ฉันนี่เอ๋อ รับประทานเลยค่ะ 0_0…
 
 
 
            “คุณหมอค่ะ คุณหมอ!” ขณะนั้นฉันกำลังเดินจิบกาแฟที่ซื้อมาจากข้างล่างร้านคอฟฟี่ช็อป พยาบาทสาววิ่งหน้าตาตื่นมาอย่างเร็ว เข้ามาจับข้อมือฉัน เกิดไรขึ้นอีกเนี่ย =A=?
 
 
 
            “มีคนไข้ฉุกเฉินค่ะ” อ้อ เดียวๆๆ ฉันยังไม่ได้เริ่มงานเลยนะแค่เข้ามาดูที่ทำงานเฉยๆ พี่พยาบาทจะลากฉันไปหนายยยยยย สรุปฉันก็ไม่ทันได้ทักท้วงอะไรมาหยุดอยู่ที่ห้องฉุกเฉินกับคนไข้ฉุกเฉินที่ว่า เห้ยไปโดนไรมาว่ะ
 
 
 
            “เกิดอะไรขึ้นกับเขา?”ฉันหันไปถามบุรุษพยาบาทที่ขนเขามา
 
 
 
            “รถชนครับ!” เขาตอบอย่างเร่งรีบแล้วไปช่วยขนคนไข้ที่ยังมาไม่ถึง ฉันไม่รีรอลงมือสั่งพวกในห้องฉุกเฉินให้จัดเตรียมอุปกรณ์ ฉันลงไปตรวจบาดแผลคนไข้ รอยฟกช้ำตามตัว อืม แผลฉีก ตรงนี้น่าจะซี่โครงหัก ท่าจะชนกันแรงเล่นซี่โครงหักเลยแฮะ มันจะทิ่มปอดไหมเนี่ย แล้วคนไข้มาจากไหนอีกว่ะนั้น ฉันคนเดียวจะรอดเรอะค่ะ ไม่ได้ๆชีวิตคนไข้สำคัญกว่า สู้เว้ย
 
 
 
            “เฮ้อ ยังไม่ทันเข้างานแท้ๆมีเรื่องตั้งแต่เช้าเลยเหรอ เหนื่อยเป็นบ้า” ฉันออกจากห้องฉุกเฉินหลังปฏิบัติการช่วยชีวิตคนไข้ถึง 5 ชีวิตแต่ยังดีมีหมอท่านอื่นเข้ามาช่วยตอนหลังเพราะฉันคนเดียวคงยื้อพวกเขาทีเดียวไม่ไหวหรอก แก้วจะบ้าตาย เหนื่อยที่สุดในโลก อ้ากกก เย็น!!!
 
 
 
            “ไอ้ป็อป!?” ฉันหน้ายู่หันไปหามันเพราะมันเล่นเอาโค๊กกระป๋องเย็นเจี๊ยบแปะหน้าฉัน มันยิ้มหัวเราะฉันพร้อมยื่นน้ำอัดลมที่แปะหน้าฉันให้
 
 
 
            “เป็นไงมึง เหนื่อยอ่ะดิ” ถามไม่คิดนะมึง
 
 
 
            “เหนื่อยดิว่ะ กูแค่มาดูที่ทำงานไหงถึงถูกลากไปทำงานเฉยอย่างนี้มันต้องเบิกเงินเดือนล่วงหน้าค่าเสียเวลา ฮึ่ย!” ฉันพาลให้มันฟังอย่างหงุดหงิดก่อนจะซดน้ำเอาเป็นเอาตาย จี๊ดค่ะจี๊ด ลืมไปว่ามันเย็น โอ๊ย > <
 
 
 
            “เห้ย เป็นไรว่ะ” ปวดสมองดิ
 
 
 
            “อย่าพึ่งกูปวดหัว” มันมองหน้าฉันแล้วก็ลั่นทันทีคงรู้ล่ะสิว่าฉันหมายถึงอะไร ไอ้เพื่อนเวร
 
 
 
            “แล้วใครใช้ให้มึงซดเร็วขนาดนั้นว่ะ ฮ่ะๆๆ หายเหนื่อยเลยดิ ฮ่าๆๆ” ไอ้ป็อปได้ทีขำฉันใหญ่ หนอยมึง ตายยยย ฉันจัดการเอาโค๊กในมือฉันอัดปากมัน มันนิตาโตก่อนจะสำลักโค๊ก แค่กๆๆ สะใจจริงๆ
 
 
 
            “สดชื่นไหมคะ คุณเพื่อน” มันชักสีหน้ามองฉันแรง เป็นไงล่ะอยากหัวเราะฉันเองนะ แล้วฉันก็ขอมันให้พาฉันไปกินข้าวเที่ยงที่อื่นถึงแม้อีตาผอ.นั้นจะนัดฉันไว้ก็ตามก็ฉันไม่ได้ตอบตกลงเขานิ เล่นเอ่อเองก็เอ่อไปคนเดียวเหอะ ฉันไม่เอ่อตามด้วยหรอกขอบอก -_-+
 
 
 
            “แล้วเรื่องที่กูขอว่าไงบ้าง” มันท้วงสัญญาที่มันขอไว้กับฉันหลังเราสองคนมากินร้านอาหารอิตาเลี่ยนซึ่งฉันเป็นคนจ่าย
 
 
 
            “เห้ย ใจเย็นดิไอ้ป็อป กูยังไม่ได้ทันได้ทำไรเลยแล้วไหนจะพึ่งเข้าโรงพยาบาทวันแรกก็มีเรื่องปวดหัวให้กูแล้ว กูพึ่งได้พักตอนมึงมานะ” ฉันตักสปาเกตตี้กินต่อจนเลอะแก้ม มันก็เลยหยิบเอาทิชชู่เช็ดปากฉันให้ นี้ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นเพื่อนซี้ฉัน ฉันนึกว่ามาเดทกับแฟนซะอีก -///-
 
 
 
            “เอ่อ กูไม่เร่งมึงหรอกแล้วที่กูมาหามึงก็ไม่ใช่เรื่องนี้ด้วย” อ้าว แล้วมันมาทำไม?
 
 
 
            “คือกูจะมาเตือนมึงต่างหาก”
 
 
 
            ฉันกลับมาถึงบ้าน ในบ้านฉันกำลังชุลมุนกันใหญ่ แม้แต่ยัยน้องเล็กฉันเองยังวิ่งวุ่นไปกับเขาด้วย ฉันจึงเดินไปหาพ่อกับแม่ที่ยืนรออยู่หน้าบ้านทำหน้าเคร่งเครียดและพี่สาวฉันหน้าบึ้งตึง
 
 
 
            “พวกเขาจะมากี่โมงค่ะ” ฉันเอ่ยปากถามขณะเดินไปถึงตรงที่พวกท่านยืน พ่อกับแม่ฉันมองหน้ากันเหมือนตกใจเล็กๆที่ฉันถาม
 
 
 
            “ลูกรู้ด้วยเรอะ” พ่อฉันพูด ฉันก็เลยพยักหน้าตอบ
 
 
 
            “ไอ้ป็อปมันบอกหนูค่ะ” ฉันยิ้มแล้วจับมือแม่ ดูท่าการมาเยือนของพวกคนที่ฉันเอยถึงมันจะทำให้ครอบครัวฉันเป็นกังวลขนาดนี้ ก่อนจะมีเสียงรถมาจอดหน้าบ้านเรา พวกเราทั้งหมดหันไปหาผู้มาเยือนหรือแขกที่ว่าในเย็นนี้ ทำไมต้องบ้านฉันด้วยฟ่ะ =^=!?
 
 
 
            “สวัสดีครับ มิสเตอร์ซัน” พ่อฉันกล่าวทักทายชายแก่อ้วน หัวโล้นที่เดินมาพร้อมกับคนติดตามสองคน เขายิ้มรับพ่อฉันก่อนจะเหล่มาทางฉันอย่างแปลกใจ
 
 
 
            “นั้นใครกัน มิสเตอร์ชัย” เขาถามพ่อฉันพร้อมกับลูบคางตัวเองมองฉันไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ไอ้ตาแก่ชีกอ!
 
 
 
            “ลูกสาวผมนะครับ พึ่งกลับจากเมืองนอก” ไอ้แก่นั้นมองพี่กิ่งกับฉันสลับกันด้วยสีหน้าพึ่งพอใจอะไรสักอย่าง แต่ฉันคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ พี่กิ่งเอาแต่ลูบแขนตัวเองมองมาทางฉัน ฉันก็มองพี่ตอบอย่างเข้าใจในความหมายที่พี่สื่อ ก่อนจะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งเดินมาอีกกลุ่ม มันจะมาอะไรเยอะแยะย่ะ
 
 
 
            “พ่อครับ ขอโทษที่มาสายครับพอดีติดงานนิดหน่อย” พ่อ งั้นก็นายแสนนะสิ ฉันกับเขามองหน้ากันนิดๆก่อนเขาจะเลิกสนใจฉันหันไปคุยกับไอ้แก่ เอ๋ย พ่อเขาต่อ แต่นั้นมันไม่ทำให้ฉันตะลึงเท่ากับคนที่ตามหลังแสนมาเท่ากับเขา....
 
 
 
            “โทโมะ” นายหัวเหลืองนั้นมากับนายแสนได้ยังไง ฉันยืนมองเขาตาค้างแต่เขากลับเมินเฉยเหมือนเราไม่เคยรู้จักกัน อะไรของเขาว่ะ นี้ฉันเป็นผู้มีพระคุณนายนะ ตาบ้า ไม่พอนายยังเป็นเจ้าของจูบแรกฉันด้วย =^=+ ก็ดีเจอกันก็ดีวันนี้แม่จะคิดบัญชีสักหน่อย เอาให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย
 
 
 
            “ผมว่าเราอย่าช้าเลยดีกว่าครับ เดียวอาหารชืดหมด” แล้วเราทั้งหมดก็มาร่วมกันในห้องอาหารใหญ่ในบ้าน พ่อฉันนั่งตรงข้ามกับมิสเตอร์ซัน ฉันนั่งใกล้แม่และพี่กิ่งตรงข้ามกับนายแสนโดยมีนายโทโมะนั้นยืนประกบหลังเขา ฉันจ้องหน้าพ่อหัวเหลืองไม่เลิก จนนายแสนนึกว่าฉันจ้องเขา เขาเลยยิ้มหวานให้ ฉันเลยจำใจยิ้มให้เขากลับก่อนจะหันมากินข้าวเงียบๆ ทำไมโต๊ะมันอึดอัดขนาดเนี่ย!
 
 
 
            “ไร่ของคุณเป็นยังไงบ้าง มิสเตอร์ชัย” ชายแก่พูดคุยกับพ่อฉัน ฉันจึงแอบเงี่ยหูฟังเนียนๆ
 
 
 
            “ก็ดีครับ ช่วงนี้ส้มกำลังออกผลถ้ายังก็เชิญท่านมาลองชิมส้มที่ผมปลูกบ้างล่ะกันครับ” พ่อจะไปชวนไอ้แก่นั้นมาทำไมอ่ะ
 
 
 
            “ฮะฮ่าๆๆ ผมมาแน่ยิ่งคุณออกปากชวนขนาดนี้” สวนส้มฉันไม่ต้อนรับแกย่ะ
 
 
 
            “อาหารถูกปากดีหรือป่าวค่ะ พอดีฉันไม่ทันได้เตรียมอะไรมาก ไม่คิดว่าท่านจะมากะทันหัน” แม่ฉันเอ่ยอย่างสุภาพ ฉันถอนหายใจเบื่อหน่ายจิ้มเอาไส้กรอกยัดปากแก้เซ็งโดยไม่รู้เลยว่าตัวเองถูกตาแก่นั้นจ้องอยู่
 
 
 
            “ลูกสาวคุณสวยใช่ย่อยเหมือนกันนะ ทั้งพี่ทั้งน้องเลย” พ่อแม่ฉันยิ้มเชิงขอบคุณให้ชายแก่ ไอ้สายตากรุ้มกริ่มนั้นมันอะไรกันจ้องอย่างกับจะเขมือบฉันทั้งตัว พี่กิ่งมองชายแก่ด้วยสีหน้าไม่ชอบใจ  
 
 
 
            “ถ้าไม่ติดว่าลูกชายผมมีคู่หมั้นแล้ว ผมอยากจะสู่ขอไว้ให้เขาสักคน” ให้ตัวเองนะสิไม่ว่า แล้วฟางอยู่กับพวกมันเรอะเนี่ย ไม่แปลกใจเลยที่ยัยตัวเล็กของฉันจะอึดอัดใจจนต้องหนีมา
 
 
 
            “เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับท่าน” อ้าก เมื่อไหร่ไอ้พวกนี้จะกลับไปสักที = =
 
 
 
            “คุณแก้วจะไปไหนครับ” นายแสนถามขณะฉันลุกหนีเพราะทนไม่ไหวต้องไปหาที่หายใจด่วนแล้วเขารู้ชื่อฉันได้ไง ฉันไม่เคยบอกเลยสักครั้ง
 
 
 
            “ไปเข้าห้องน้ำค่ะ ขออนุญาตนะคะ” ฉันปลีกตัวหนีมาที่ระเบียงกระจกในบ้าน แต่ฉันไม่ได้โกหกนะว่ามาเข้าห้องน้ำ ฉันมาจริงๆแต่พอออกมามันก็โล่งไปหมด ที่ฉันปวดท้องเมื่อกี้อาจเพราะเครียดลงกระเพาะเลยปวดท้องเอา ฉันเดินตามยาวทางระเบียงบ้านเรื่อยๆอยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนี้จริงๆ ไม่อยากกลับโต๊ะเลยแต่ถ้าไม่กลับพี่กิ่งก็ต้องทนสายตาหื่นกามคนเดียว แค่ทิ้งพี่มาฉันก็รู้สึกผิดจะตายอยู่แล้ว เอาว่ะกลับก็กลับ ว้าย!?
 
 
 
            “มะ มิสเตอร์ซัน” จังหวะที่ฉันหันไปฉันดันชนเข้ากับไอ้แก่นั้นจนเกือบหงายแต่มันโอบเอวฉันไว้เลยไม่ล้ม นี้แกแอบตามฉันมาเรอะไอ้เฒ่าหัวงู เอามือแกออกไปนะ
 
 
 
            “คือมีอะไรรึป่าวค่ะ” ฉันยิ้มๆแล้วพยายามแกะมือเขาออกแต่มือมันเหนียวยิ่งกว่าปลาหมึกอีก ปล่อยช้านนนน
 
 
 
            “ก็แค่เห็นหนูหายไปนาน อาเป็นห่วงเลยออกมาตาม” มันมองฉันด้วยสายตาหื่นกามอย่างเห็นได้ชัด ปูนนี้นี้ยังคิดจะเป็นโคแก่กินหญ้าอ่อนอีก ไอ้แก่ปล่อยฉันนะ
 
 
 
            “หนูกำลังกลับพอดีค่ะ ช่วยปล่อยก่อนได้ไหมค่ะ” ขยะแขยง หยุดเอามือลูบหลังฉันนะ ยึ่ย
 
 
            “เดียวสิจะรีบไปไหนอยู่เป็นเพื่อนอาก่อน อืมตัวหนูนี้หอมโดนใจดีจริงๆ” ไอ้โรคจิตปล่อยฉันนะ ฉันดิ้นแรงพยายามดันร่างเขาออกแต่แรงมันเยอะกว่านี้สิ
 
 
 
            “ปล่อยนะ” มันทำท่าจะหอมฉัน พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกแก้วด้วยยยย
 
 
 
            “อย่าทำเป็นเล่นตัวหน่อยเลย อานะรวยนะเลี้ยงหนูได้สบายๆ” ฉันก็รวยย่ะ ฉันเลี้ยงตัวเองได้ แกไม่ต้องทำมาเป็นหวังดีประสงค์ร้ายกับฉันไอ้แก่ชีกอ
 
 
 
            “ปล่อย!!” ฉันดันยื้อมันสุดฤทธิ์ ใครก็ได้ช่วยด้วย T T
 
 
 
            “นายท่านครับ” ชายแก่นั้นชะงักแล้วหันไปมองต้นเสียงด้วยสีหน้าหงุดหงิด ฮือๆเกือบไปแล้วฉัน T^T
 
 
 
            “แกมาขัดจังหวะฉันทำไม โทโมะ” โทโมะ นายมาช่วยฉันเหรอเนี่ย ฮือๆปราบปลื้มสุดๆเลยอ่ะ
 
 
 
            “คุณหนูให้มาตามครับ บอกว่ามีเรื่องจะคุยกับท่าน” โทโมะเอ่ยเสียงนิ่ง จนไอ้มิสเตอร์ซันมองฉันด้วยความเสียดายก่อนจะยอมปล่อยฉันแล้วเดินไปห้องอาหาร ฉันกอดตัวเองเพราะยังรู้สึกขยะแขยงที่มันกล้าเอามือสกปรกมันมาลูบไล้ตัวฉัน โทโมะยืนนิ่งเงียบมองฉันก่อนจะเดินหนี
 
 
 
            “นี้โทโมะ” เขาหยุดแล้วเหล่ฉันทั้งๆที่ยังหันหลังฉันจึงเดินเข้าไปหาเข้าพลางลูบแขนปลอบใจตัวเอง
 
 
 
            “ขอบคุณนะที่ช่วยฉัน” ฉันอยากกอดนายมากเลยรู้มั้ย นายเหมือนพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยฉันเลยอ่ะวินาทีนั้น ขอบคุณจริงๆนะ
 
 
 
            “ฉันไม่ได้ช่วยเธอ ฉันมาตามที่นายสั่ง” เขาตอบตรงๆเอาซะฉันนี้อยากตรบหน้าเขาสักที พูดให้รู้สึกดีหน่อยไม่ได้เรอะย่ะ
 
 
 
            “แต่ยังไงฉันก็ต้องขอบคุณนายอยู่ดี เพราะถ้านายไม่มาฉันแย่แน่” เขาหันหลังมามองฉันที่ยืนสั่น ฉันกลัวจริงๆนะถ้าเมื่อกี้นายไม่มาฉันคงโดนไอ้แก่นั้นลวนลามไปแล้ว       
 
 
 
            “ทะ โทโมะ” อยู่ๆเขาก็มายืนตรงหน้าฉันแล้วยื่นมือใหญ่จดกระดุมเสื้อฉันซึ่งไม่รู้หลุดตอนไหน แล้วดึงจัดเสื้อฉันให้เข้าที่ ก่อนจะโน้มหัวเข้ามาเพื่อกระซิบบางอย่างกับฉัน หัวใจฉันเต้นตึกตักๆ ไม่เป็นจังหวะ มันแรงจนฉันคุมไม่อยู่ ใกล้ไปแล้วโว้ย ตาบ้า >////<
 
 
 
            “ปากเธอหวานดีนะ” เขาพูดแค่นั้นเล่นเอาฉันนี้หยุดหายใจชั่วขณะแล้วเขาก็ทิ้งฉันไว้คนเดียวให้ยืนใช้สมองประมวลคำที่เขากระซิบบอก “หวาน?”
 
 
 
            “ไอ้บ้าโทโมะ!” ฉันอยากจะตะโกนด่าไล่หลังเขาอยู่แต่เขาไม่อยู่แล้วเลยได้แต่ฮึดฮัดในใจอย่างหัวเสีย ฉันอุส่าไม่นึกถือโทษโกรธวันนั้นเพราะเห็นเขาช่วยฉันไว้แล้วเชียว จะมารื้อฟื้นทำบ้าไรเนี่ย >[]<
 
 
 
 
            เขียนเองเขินเอง แล้วคนอ่านจะเขินกับเราไหมเนี่ย ช่วยคอมเม้นบอกกันด้วยนะ ฝากติดตามเรื่อยๆน้า จะขอบพระคุณเป็นอย่างสูง เม้นเยอะๆก็จะอัพเร็วนะทุกคน O^O!
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา