The Heart เพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...
เขียนโดย พายุลมหนาว
วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 07.14 น.
แก้ไขเมื่อ 14 กันยายน พ.ศ. 2558 00.03 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4) [4] เพื่อนสนิท
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
The Heartเพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...
Chapter (4)
“วัน ทู ทรี โฟร์ ฟาย ไอเลิฟยู” ฉันนั่งร้องเพลงอยู่ในสวนบ้าน นอนพิงเสาฟังเพลงอย่างสบายอารมณ์ในวันว่างแสนสุข จะไม่ให้แฮปปี้ได้ไงก็ตอนอยู่นู่นใช่จะได้พัก อะไรก็ จริญญาๆ จนฉันนิเริ่มคิดแล้วว่าทั้งโรงพยาบาทมันมีฉันแค่คนเดียวรึไงว่ะ ฉันก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะ อ้อ แล้วเรื่องวันก่อนขณะฉันกำลังง้างปากไอ้ป็อปดันมีคนมาขัดเสียก่อน ฉันเลยนัดกับมันว่าเย็นนี้เจอกันที่ห้าง มันก็เลยลงทุนพาฉันไปเลี้ยงข้าว โครตอะเมซิ่งไทยแลนด์เพราะปกติฉันเลี้ยงมันตลอดบ้านมันไม่ใช่คนร่ำรวยอะไรจึงต้องใช้เงินอย่างประหยัด
“พี่แก้วค่ะ” เสียงใสเรียกชื่อฉันมาก่อนตัว ฉันเหลือบไปหาต้นเสียง ชมพู่เดินถือของว่างมายื่นให้ฉัน แม่คงจะวานให้มาสินะ ว้าวนี้มันข้าวเหนียวมะม่วงงงงงงงง ของโปรดน้องแก้วใจ > <!
“ขอบคุณจ้า” ฉันรับจานมานั่งกินอย่างเร็ว ชมพู่แอบมองฉันแล้วยิ้มฉันเลยคว้าแขนหมับมานั่งข้างๆแล้วป้อนข้าวเหนียวมะม่วงให้แต่เจ้าตัวเอาแต่ส่ายหน้าลูกเดียว
“กินเป็นเพื่อนพี่หน่อย พี่กินคนเดียวไม่หมดหรอก นะๆๆ” เจอลูกอ้อนเข้าหน่อย ยัยน้องเล็กถึงยอมอ้าปากทาน ฉันยิ้มพอใจแล้วนั่งกินต่อพลางมองชมพู่ที่นั่งอ่านหนังสือข้างๆฉัน โอ๊ะลืมไปเลยแฮะ ว่ายัยเปี๊ยกนี้ ม.ปลายแล้วนิ
“ให้พี่ช่วยสอนไหม” ฉันชะเง้อมองหนังสือของชมพู่
“ไม่เป็นไรค่ะรบกวนเวลาพักผ่อนพี่แก้วป่าวๆ” เกรงใจตลอด
“เอาน่าพี่ว่าง ม่ะๆไหนดูเซ่” ฉันดึงหนังสือชมพู่มานั่งดู อยากบอกว่ามันง่ายมากจนฉันสามารถเคลียร์จบในชั่วโมงระหว่างรอเวลานัดฉันก็นั่งสอนยัยน้องเล็กฉันไปพูดคุยไปถามไถ่สารทุกข์สุขดิบตามประสาพี่น้อง
“พี่แก้วสวยจนชมพู่จำแทบไม่ได้จริงๆนิค่ะ” โอยชมพี่เกินไปล่ะ
“เกินไปพี่ไม่ได้ดูดีอะไรขนาดนั้น ชมพู่เองก็สวยไม่แพ้พี่ มีคนมาจีบรึป่าวจ้ะ” ฉันรีบแซวกลับน่ารักขนาดนี้ต้องมีคนจีบแน่เลยน้องสาวฉัน
“บ้า พี่แก้ว ชมพู่ยังเด็กอยู่นะค่ะแล้วอีกอย่างเด็กกะโปโลอย่างหนูคงไม่มีใครจีบหรอกค่ะ” เจียมเนื้อเจียมตัวดีเจรงงงงง ฉันโยกหัวยัยน้องเล็กอย่างเอ็นดูก่อนจะเหลือบไปมองนาฬิกา เวรล่ะนี้เลยเวลามาตั้งเท่าไหร่แล้วเนี่ย! ไอ้ป็อปเอาฉันตายแน่ ฉันรีบออกไปตามที่นัดกันไว้พลางคิดหาข้ออ้างก่อนไปถึงร้านจะบอกมันว่าไงดีเนี่ย เวรจริงๆ แล้วในที่สุดฉันก็หลงทาง O_O…..
“นี้มันเปลี่ยนกระทั่งถนนหนทางก็ไม่เว้นเรอะว่ะ สายหนักกว่าเดิมอีก” ฉันเคาะหน้าผากตัวเองอย่างหัวเสียยืนดหัวโด่กลางเมือง ให้ตายสิป่านนี้ไอ้ป็อปมันต้องเฉ่งฉันในใจอยู่แน่ๆ โอยแบตก็ดันหมดแล้วหนูจะขอความช่วยเหลือจากอากู๋ยังไงล่ะค่ะที่นี้ T T
“อ้ะ ขอโทษค่ะ” ทันทีที่ฉันพลิกตัวไปอีกทางมีร่างคนที่ไหนไม่รู้วิ่งมาชนฉัน แต่ฉันไม่ล้มคนที่ล้มกลับเป็นคนที่วิ่งชนฉันนี้สิ ไม่ได้ๆต้องรีบช่วย ฉันช่วยดึงมือเธอขึ้นมาก่อนที่เราสองคนจะสบตากันปิ้งๆ เฮ้ย!
“ฟาง!/แก้ว!” ฟางงงงงง มานี้ได้หงายยยยย ฟางท่าทางลุกลี้ลุกลนอะไรบางอย่างก่อนผลักร่างฉันเข้าซอกตึกแล้วประคองหน้าฉันโน้มเข้าไปจุ๊บทันที OxO!!! จูบที่สองของช้าน เสียไปอีกแล้ว!!
“เฮ้ยเจอมั้ย ไม่รีบตามไปสิว่ะเดียวนายรู้เอาพวกเราตายนะเว้ย” เสียงเอะอะดัง ฉันเหลือบเห็นกลุ่มคนวิ่งไล่ตามหาอะไรสักอย่างขณะที่ฉันกับฟางยังคงจูบอยู่ พวกเขาพยายามมองพวกเราที่อยู่ในซอกอย่างพินิจแต่แขนฉันบังฟางอยู่ พวกเขาจึงเห็นเพียงหน้าข้างๆของฉันเท่านั้น ก่อนที่จะวิ่งหายไป ฟางยอมปล่อยฉันที่วิญญาณหลุดไปชั่วขณะกับการกระทำของยัยเพื่อนสาวแล้วแอบสอดส่องดูลาดราวข้างนอกก่อนจะปล่อยโล่ง ส่วนฉันนะเรอะอารมณ์ค้างนะสิ -////- ฟางอ่ะ
“แก้ว แก้ว” ฟางเขย่าร่างไร้สติเพื่อนสาว
“ห่ะ อะไรๆ” ฉันมองหน้ายัยตัวเล็กของฉันตาปริบๆ เอาง่ายๆฉันยังอึ้งกับการรุกของยัยนี้ จะทำอะไรหัดบอกฉันก่อนไม่ได้เหรอค่ะ
“ขอโทษนะที่เผลอจุ๊บแก้วอ่ะ” ฟางเกาแก้มแก้เขิน มาอายอะไรยามนี้ค่ะคุณเพื่อนค่า ช้าไปไหม
“เอาเหอะ แก้วไม่ถือยังไงก็ไม่ใช่ครั้งแรกไปซะทีเดียว” ฉันยิ้มแหย่ให้พลางคิดถึงเรื่องจูบ มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกถ้าไม่โดนไอ้บ้าที่ชื่อโทโมะนั้นชิงจูบอันแสนสำคัญฉันไปเสียก่อนไม่อย่างงั้นฟางได้เป็นเฟิร์สคิสของฉันไปแล้ว
“แก้วเคยจูบกับคนอื่นด้วยเหรอ?” ว้าย เผลอหลุดปากไปซะได้
“เอ่อ… จริงสิ!แล้วนี้ฟางมาเที่ยวเรอะไม่เห็นบอกกันเลย” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ป่าว บ้านฟางอยู่ที่นี้หน่ะ” ฟางยิ้มๆ สีหน้าอมทุกข์ คนกลุ่มเมื่อกี้ต้องเกี่ยวข้องกับฟางชัวร์ ไม่งั้นไม่ลงทุนลากฉันไปจูบหรอก เขิน >///<
“แล้วเมื่อกี้ฟางหนีใครมาพวกเขาเป็นใครทำไมต้องไล่ตามฟางด้วย” ฟางถอนหายใจแล้วกลอกตาไปมาเหมือนกำลังลังเลอะไรสักอย่าง ปกติยัยนี้ชอบเก็บเรื่องทุกข์ใจไว้คนเดียวถ้าฉันไม่ไปถามคนอื่นก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าฟางเป็นอะไร
“อืม งั้นเอางี้ไปห้างกัน แก้วนัดเพื่อนไว้ว่าจะไปกินเลี้ยงสักหน่อย รถแก้วอยู่ตรงนี้เอง” ฉันดึงฟางแล้วรีบพาไปที่รถให้เร็วที่สุด จนเราทั้งสองมาถึงที่นัดหมายหลังเลยมาถึง 1 ชั่วโมง!!! ฉันจูงมือฟางพลางกวาดมองหาเพื่อนซี้ ไอ้ป็อปมันมีไหนของมันกันไม่เห็นแม้แต่เงา ไปไหนของมันเนี่ย
“ไอ้แก้ว!!” ใครเรียก อั่ก! เสื้อหนังปลิ้วมาจากไหนไม่รู้ซัดเข้าหน้าฉันเต็มๆ ฉันกุมหน้าตัวเองแล้วมองเจ้าของเสื้อหนังก่อนจะชะงักเพราะมันเป็นของไอ้คนที่รอคอยฉันถึง 1 ชั่วโมง สีหน้ามันตอนนี้บอกคำเดียว โกรธสุดๆ หน้าแดงปี๊ดเชียว
“แฮะๆ ว่าไงเพื่อน” ฉันรีบยื่นเสื้อให้มัน มันก็ฉกเอาเสื้อไปอย่างเร็วและไม่ลืมที่จะทำสายตาดุฉันขณะมันสวมเสื้อหนัง
“ว่าไงดีล่ะ มึงนัดกูเองแต่มึงดันปล่อยให้กูรอเป็นชั่วโมง” ไอ้ป็อปใช่ไม้ตายเดิมล็อคคอฉันแล้วรัดเต็มเหนี่ยว ฉันพยายามแกะมือมันออกทั้งฉุดทั้งดึงสุดกำลังแต่มันเล่นรัดซะฉันจะขาดใจตาย
“อ้ะ ไอ้ ป็อป กะ กุ ขะ ขอโทษ ปะ ปล่อยก่อน ดะได้มั้ย กุจะตาย ล่ะ” ฉันพูดติดขัด ทุบแขนมันรัวๆ นานกว่านี้ฉันอาจจะได้จากโลกเพราะมัน ฟางวิ่งเข้ามาดึงฉันออกจากการเกาะกุมมันแล้วผลักร่างไอ้ป็อปออกห่างพร้อมกับดึงฉันไว้ข้างหลัง
“คุณออกไปห่างๆเพื่อนฉันเลยนะ มีสิทธิอะไรมาทำร้ายแก้ว!” ฟางด่ามันด้วยน้ำโหที่มันทำกับฉัน แค่กๆโอยเจ็บคอ
“ทำไมผมจะไม่มีสิทธิในเมื่อไอ้แก้วมันเพื่อนผม” ไอ้ป็อปว่ากลับ
“แล้วยังไง เพื่อนคุณแล้วไงใช่ว่าคุณจะมาทำรุนแรงอย่างนี้ได้ ป่าเถื่อน” ฟางด่าซะมันเกือบหงายก่อนจะเปลี่ยนสีหน้ากัดฟันกรอด มองฟางอย่างกินเลือดกินเนื้อ
“แล้วเธอเป็นใคร ถึงมาด่าฉันฉอดๆๆอย่างเนี่ยห่ะ” มันตะคอกฟาง ไอ้ป็อปมึงห้ามทำร้ายฟางไม่อย่างนั้นมึงกับกุมีเรื่อง =^=!
“ฉันเป็นเพื่อนสนิทแก้ว!” อืมตามนั้น
“ผมก็เพื่อนสนิทมันเหมือนกัน!” อันนี้ก็ถูก เอ๊ะ -_O? ฉันมีเพื่อนสนิทถึงสองคนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“ฉันสนิทกว่า!” ฟางเถียงต่อ
“ผมต่างหาก!” มันก็ไม่ยอมเช่นกัน
“ฉัน!!!” พอเหอะ
“ผม!!!” ยังไม่หยุดอีก
“ผม/ฉัน/พอแล้ว!” ฉันโวยห้ามทั้งคู่ ทั้งฟางและไอ้ป็อปหยุดทันทีแล้วแอบเหล่กันเองก่อนจะสะบัดหน้าเชอะไปคนล่ะทิศคนล่ะทาง ฉันที่กุมคอตัวเองถึงกับปล่อย เฮ้อดัง สรุปฉันเป็นต้นเหตุทำให้สองคนนี้ทะเลาะกันตั้งแต่แรกเจอเลยหรอ อะไรมันจะขนาดนั้นค่ะ คุณเพื่อนสนิท -*-
“ไอ้ป็อปไหนมึงบอกจะเลี้ยงข้าวกู สรุปเอาไง” ฉันรีบท้วงสัญญากับมัน เพราะบรรยากาศชักจะอึมครึม ปล่อยไว้คงต้องมีใครตายไปข้าง
“เอ่อๆ ตามมาดิกูสั่งอาหารรอไว้ล่ะ เอ่อ แล้วยัยเตี้ยนี่ไปด้วยเรอะ” มันชี้ฟางแล้วทำหน้าเหมือนไม่ค่อยอยาก ยัยตัวเล็กของฉันได้ยินเลยงับนิ้วมันซะจนทั้งสองเริ่มตีกันยกสองซึ่งคิดเรอะว่าฉันจะยอม ห้ามทัพสิค่ะ ควงแขนทั้งฟางและไอ้ป็อปคนล่ะข้างลากตามฉันเข้าร้านอาหารเพราะฉันหิวข้าว ต้องมาห้ามศึกสองคนนี้เรี่ยวแรงคงหมดหลอดพอดี แล้วกระทั่งเวลากินข้าวไอ้ป็อปกับฟางยังไม่เลิกจิกกัดผ่านสายตาข้ามหัวฉัน แข่งกันเอาฉันป้อนข้าวป้อนน้ำให้ รู้ว่าฉันชอบไม่ชอบอะไร ฉันกลายเป็นตัวกลางคอยรั้งวิวาทพวกคุณเพื่อนเพื่อความปลอดภัยของอาหารบนโต๊ะ ไม่ได้ห่วงเพื่อนเลยสักนิด ห่วงกิน -.-
“โอย อิ่มแปล้ แต้งกิ้วนะไอ้ป็อป” ^ ^ ฉันหันไปตบบ่ามันอย่างอารมณ์ดี แหม่ มันเล่นลงทุนเลี้ยงอาหารญี่ปุ่นทั้งทีต้องขอบคุณกันสักหน่อย
“ไม่เป็นไร กูเพื่อนมึงอยู่แล้ว” มันหันไปยิ้มกวนใส่ฟาง ยัยเพื่อนสาวฉันถึงกับหน้าตึงก่อนจู่โจมมันด้วยการบิดเอวไอ้ป็อปอย่างแรง มันนิร้องโอดโอยรีบหันไปตาขวางใส่ฟางที่ยิ้มสะใจมัน ฉันเลยต้องรีบไปคั้นกลางทั้งคู่ก่อนที่มันจะบานปลายไปมากกว่านี้ เลิกทะเลาะกันสักทีเซ่!!!
“คุณหนูฟางครับ” เห้ยใครมาอีกว่ะ หน้าตาโครตไม่น่าไว้ใจเลยแถมยกพวกมาทำไมเยอะแยะ เดียวนะเมื่อกี้มันเรียกชื่อฟางนิน้า หรือว่าจะเป็นไอ้พวกเมื้อกี้ O O!?
“พวกผมมาตามคุณหนูกลับครับ” ฟางเข้ามาหลบหลังฉันกับไอ้ป็อปเหมือนไม่อยากไป ฉันกับมันมองหน้ากันอย่างสงสัย ว่าคนพวกนี้มันเป็นใครกัน
“ฉันไม่ไป ฉันจะอยู่กับเพื่อนฉัน” ฟางตอบไอ้หน้าครึมนั้น มันกับลูกน้องนิจะเข้ามาดึงตัวฟางแต่ไอ้ป็อปขวางไว้
“ไม่เห็นเรอะว่าเขาไม่อยากไป” มันเถียงไอ้หน้าครึม ฉันจับมือฟางที่สั่น อะไรกันทำให้เพื่อนตัวน้อยของฉันหวาดกลัวได้ขนาดนี้ =^= ไอ้ป็อปเอามันเลย ฉันไม่ยอมให้พวกแกเอาตัวฟางไปหรอก
“มึงยุ่งไรด้วยว่ะ ไม่เกี่ยวอย่าเสือกดีกว่า” ไอ้ครึมนั้นขู่ไอ้ป็อป แล้วผลักมันออก
“ทำไมกูจะยุ่งไม่ได้ ยัยนี้เพื่อนกู” อ้าวมึงกับฟางไปเป็นเพื่อนกันตอนไหนว่ะ
“เห้ยวอนตีนเรอะว่ะ” มันกับไอ้หน้าครึมกระชากคอเสื้อจะชกกันแล้ว เห้ย ไอ้ป็อปตื๊บมันเลย
“พอแค่นั้นแหละ!!” ใครห้ามคู่มวยฟ่ะ ไอ้ครึมกับไอ้ป็อปมองหน้ากันเองแล้วสะบัดทิ้งใครทิ้งมัน ไอ้ป็อปมองหน้าผู้มาเยือนใหม่นิ่งๆ ส่วนไอ้หน้าครึมเดินไปหาคาดว่าน่าจะเป็นนายมัน
“เป็นแกจริงด้วยๆ แสน” คนนี้คือแสนเรอะไอ้ป็อป ฉันจ้องหน้าเจ้าของชื่อที่ว่านั้น เขาเป็นหนุ่มผิวเข้มพอประมาณ สูงกว่าไอ้ป็อปหน่อยๆ หุ่นดีใช่ได้จัดว่าหน้าตาดีอยู่ ผิดกับที่ฉันจินตนาการไว้เลยฉันนึกว่านายแสนนั้นจะแก่รุ่นราวคราวพ่อฉันซะอีก
“ผู้กองภานุไม่ได้เจอกันนาน สบายดีไหม” แสนยิ้มให้อย่างเป็นมิตรผิดกับไอ้ป็อปที่หน้ามันเฉยชา
“เหอะ วันนี้คนสนิทแกไม่มาด้วยเรอะ” ไอ้ป็อปพูด
“อ้อ พอดีเขาไม่ค่อยว่างแล้วก็ไม่จำเป็น ฉันคนเดียวก็พอ” ตัวละครชักเยอะเข้าไปทุกที หลังพูดจบนายแสนนั้นมองมาทางฉันกับฟางแล้วยิ้ม
“ฟางค่ะ” ผู้ชายอะไรพูด”ค่ะ”กัน ? เป็นรึป่าวเนี่ย
“พี่แสนมาทำไมค่ะ” ฟางถามแสนกลับไปแบบนิ่งๆ
“มีเหตุผลอะไรที่พี่จะมารับคู่หมั้นพี่กลับบ้านไม่ได้ค่ะ” อิตานี้เป็นคู่หมั้นฟาง บ้าไปแล้ว ฟางไม่เห็นบอกฉันเลยว่ามีคู่หมั้น O[]O!?
“คือฟาง...” ฉันมองหน้าฟางสลับกับนายแสนอย่างสับสนวุ่นวาย ยัยตัวเล็กฉันมีคู่หมั้นได้ยังงายยยย
“ไม่เอาค่ะ มัวแต่เถลไถลไม่ดีนะค่ะ พี่เป็นห่วง” แสนยื่นมือให้ฟาง ฟางยืนนิ่งก่อนจะปล่อยมือฉันแล้วเดินไปหานายนั้น
“อย่างนี้สิค่ะ คนเก่งของพี่” แสนโอบเอวฟางแล้วเดินยกขบวนไปพร้อมกับลูกน้องของเขา ฉันกับไอ้ป็อปยืนแข็งเป็นเสามองตามหลังจนลับตา
“ไอ้ป็อป มึงต้องเล่าแล้วล่ะ” ฉันหันไปมองหน้ามัน ไอ้ป็อปกับฉันจึงตัดสินใจมานั่งที่สวนสาธารณะใจกลางเมือง เราสองคนนั่งบนม้านั่งตัวยาวริมทะเลสาบ
“ไอ้แสนเป็นลูกชายของมิสเตอร์ซัน พวกมันเข้ามอยู่ที่นี้เมื่อ 4 ปีก่อนจะได้ มิสเตอร์ซันเป็นนักธุรกิจรายใหญ่ที่เข้ามาซื้อพื้นว่างในตำบลเราและเป็นคนเปลี่ยนแปลงตำบลเรา เปลี่ยนทุกอย่างที่เคยเป็น ใช้เงินหวาดล้อมพวกชาวบ้านจนพวกเขาเห็นดีเห็นงาม มิสเตอร์ซันรู้จักกับผู้บริหารตำบลคนก่อนที่พ่อมึงจะมาดำรงตำแหน่งตอนหลัง พวกเขาร่วมมือกันแล้วเปิดเส้นการค้าในตำบลให้พวกฝรั่งเข้ามาทำธุรกิจ ทีแรกกูก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะช่วงนั้นกูไปเรียนเลยไม่ได้รู้ความอะไรมากนัก แค่คิดว่าพวกเขาอยากทำให้บ้านเรารุ่งเรือง จนมาถึงเมื่อ 2 ปีให้หลัง..” มันเล่าทุกอย่างให้ฉันฟังอย่างละเอียด ฉันมองหน้าที่ท่าทางคร่ำเครียดตลอดเวลาก็ไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก
“ทำไม เกิดอะไรขึ้น?” ฉันถามมัน
“มีคนตายในหมู่บ้าน ของกลางที่เราพบคือยาบ้านับร้อยในกระเป๋าผู้เสียชีวิต นั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่กูเริ่มหวั่นๆ” มียาบ้าในบ้านเกิดฉัน เป็นเรื่องสิค่ะแต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
“แค่ยาบ้าเอง ทำไมมึงถึงหวั่นไจว่ะ” ฉันรีบยิงคำถามไป มันก็มองหน้าฉันกลับ
“มันก็ใช่ แค่ยาบ้ามันก็ไม่น่าจะอะไรมากใครๆก็เจอ แต่ที่กูหมายถึงคือ ทำไมถึงมียาบ้าในบ้านเราทั้งที่แต่ก่อนไม่เคยมีและคนตายที่กูพบเป็นชาวบ้านที่ไปทำงานให้มิสเตอร์ซัน กูพอรู้จักเขา เขาเป็นคนดีมากจนกูแทบไม่เชื่อว่าเขาจะแอบลักลอบยาเสพติดเข้าเมือง มึงว่ามันแปลกไหมล่ะ” เอ้อ จริงของมัน
“ครอบครัวของเขาก็หายไปด้วย กูพบร่องรอยการต่อสู้ในบ้านกูคาดว่ามิสเตอร์ซันต้องส่งคนมาปิดปากแน่ๆ แต่คดีนี้ก็จบลงอย่างไม่มีใครคิดรื้อฟื้นอีก ผ่านไปไม่นานก็พบคนหายบ้าง แหล่งมั่วยาบ้าง ไหนจะผับต่างๆที่พวกฝรั่งมันลงทุนเปิดอีกนับไม่ถ้วน” โหดชะมัด แล้วฟางจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย ฉันอดห่วงเพื่อนตัวน้อยไม่ได้จริงๆ
“แล้วถ้ามึงคิดว่าเป็นฝีมือมิสเตอร์ซันหรือลูกชายเขา ทำไมมึงไม่จับมันว่ะ” ทำไมไอ้ป็อปถึงยังปล่อยให้มันหลุดมือไปดื้อๆ ฉันสงสัยจริงๆ
“เคยจับแล้วแต่เราไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ไหนจะมันมีเส้นสายเยอะ ลำพังกูคนเดียวทำอะไรไม่ได้หรอก” ฉันกับมันถอนหายใจดัง ไม่กลับมาพักเดียวบ้านฉันจะอันตรายได้มากขนาดเนี่ย ฉันชักจะเป็นห่วงพ่อกับแม่แล้วสิ คิดถูกจริงๆที่กลับมาถ้าขืนยังอยู่นู่นฉันคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับที่นี้บ้าง
“ไอ้แก้ว กูขอไรอย่างดิ” ......
อัพเรื่อยๆ ช่วงนี้ใครปิดเทอมกันบ้าง ^V^ เราปิดเทอมแล้วรู้สึกโล่งมาก มีเวลานอน + ว่างมากขึ้นมาอัพนิยายต่อ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะ เม้นกันด้วยล่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ