The Heart เพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...
8.8
เขียนโดย พายุลมหนาว
วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 07.14 น.
12 chapter
83 วิจารณ์
18.19K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 กันยายน พ.ศ. 2558 00.03 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
3) [3] มีแต่เรื่อง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความThe Heartเพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...
Chapter (3)
“กิ่ง กิ่งลูก” มารดาเดินตามหาลูกสาวจนทั่วบ้านก็ไม่เจอ เห็นผู้เป็นสามีนั่งอยู่ศาลาริมสวนจึงเข้าไปหา
“คุณค่ะ เห็นยัยกิ่งไหม ฉันตามหาแกตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่เจอเลย” เธอถามถึงลูกสาวกับเขาก่อนจะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ไม้ตรงข้ามกัน
“ยัยกิ่งนะเรอะ รู้สึกเห็นขับรถออกไปแต่เช้าสงสัยคงไปเที่ยวกับเพื่อนล่ะมั่ง คุณมีอะไรด่วนรึป่าว” เขาพูดพร้อมกับเก็บพับหนังสือพิมพ์วางลง
“ก็กะจะให้ยัยกิ่งโทรหาน้องให้หน่อย เห็นยัยกิ่งบอกว่าน้องเปลี่ยนเบอร์ใหม่แล้วฉันก็ดันลืมจดไว้นี้สิ ไม่ได้คุยกับยัยแก้วตั้งวันสองวันแล้ว เฮ้อ” ภรรยาสาวบ่นก่อนจะถอนหายใจด้วยความคิดถึงลูกสาวที่เมืองนอก เธอไม่ได้เห็นลูกมาตั้ง 7 ปี ไม่รู้ลูกจะเป็นไงบ้าง
“เอาน่าคุณ แก้วมันโตแล้วนะมันไม่ใช่เด็กตัวน้อยๆที่เราต้องคอยดูแลอีกแล้ว คุณอย่าห่วงเลยเดียวกิ่งมันกลับมาคุณค่อยโทรหาลูกก็ได้” เขาพูดปลอบใจจนภรรยาให้คล้อยยิ้มตามก่อนจะขำเพราะสามีเธอทำหน้าตาพิลึกพิลั่นหวังให้เธออารมณ์ดี ทั้งสองยิ้มหัวเราะด้วยกันอย่างมีความสุข
“แหม่ๆหัวเราะคิกคักอะไรกันค่ะสองคนนี้ มีการแอบมาหวานในสวนกลัวคนอื่นเห็นเรอะค่ะ” กิ่งแซวพ่อแม่ของตนหลังมาถึงบ้านก็เห็นท่านกำลังหัวเราะสนุกก็อดเลี่ยนในความหวานไม่ได้
“มานี้เลยเรา หายไปไหนตั้งแต่เช้าหืม” ผู้เป็นแม่ถามลูกสาวที่ตามหาอยู่นาน
“ไม่บอกให้เดาเอาเอง ว่าแต่ม๊ามีอะไรรึป่าวค่ะถึงตามหากิ่ง” กิ่งยิ้มสนุกก่อนจะเอยถามมารดากลับ
“แม่เขาอยากได้เบอร์ยัยแก้วนะสิ เห็นว่าเปลี่ยนเบอร์ใหม่ไม่ใช่เรอะ” คุณพ่อตอบแทน
“โอ๊ย ม๊าไม่ต้องโทรหาน้องหรอกป่านนี้คงติดงานทำหงกๆจนหัวฟูเป็นรังนก ไม่ว่างคุยกับม๊าหรอกค่ะ” กิ่งโบกมือปัดๆ แม่ของเธอ ในระหว่างที่ทั้งสามกำลังคุยกัน นายจ่อยคนขับรถก็วิ่งมาอย่างเร็วแล้วพลาดสะดุดล้มกลิ้งถึงหน้าศาลาในสวนที่พวกเขาอยู่ สร้างความตื่นตกใจให้ทั้งสามคนเป็นอย่างมาก
“จ่อย เป็นอะไรรึป่าว” คุณนายของบ้านถามลูกน้องที่นอนคว่ำกับพื้นยังไม่ลุก จ่อยลุกพรวดปัดฝุ่นแล้วยิ้มเชิงบอกไม่เป็นไรสบายมาก
“แล้วแกจะรีบวิ่งพรวดพราดมาทำไมกัน มีเรื่องอะไรรึ” ผู้เป็นนายถาม
“คะ เอ๋ย มีคนมารอพบคุณท่านครับ” จ่อยตอบ
“หืม ใครกัน” ภรรยาสาวถามผู้เป็นสามี ใครกันที่มาบ้านเธอในยามนี้ จะบอกว่านัดใครไว้ก็คงไม่ใช่
“ป๊าค่ะม๊าค่ะ เขารอเราอยู่รีบไปดีกว่าเดียวเสียชื่อเจ้าของบ้านนะ” กิ่งพูดก่อนที่ทั้งหมดจะยกครัวมาถึงหน้าบ้านเพื่อรับแขก
“เฮ้อ เมื่อไหร่จะมาว้า” ฉันบ่นกับตัวเองหลังยืนคอยนานถึง 5 นาทีเพื่อพบพ่อแม่ฉัน ตอนนี้ฉันอยู่หน้าบ้านตัวเอง ไม่อยากพูดไม่ได้กลับมาพักเดียว 7 ปี -_- พักเดียวตรงไหนว่ะ เอ่อเอาเป็นว่านานพอตัว บ้านฉันจะเปลี่ยนไปเยอะขนาดเนี่ย หลังจากที่ฉันโทรให้พี่กิ่งมารับที่บ้านย่าฉันก็ได้พบกับความเปลี่ยนแปลงของบ้านเกิดฉัน OMG 0o0! นี้ฉันอยู่เมืองนอกรึป่าวเนี่ย จากที่มีแต่ต้นไม้ใบหญ้า ทุ่งนาเขียวขจี ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดกลายเป็นหมู่บ้านสไตล์ยุโรปเกือบทั้งตำบล ไหนจะห้างสรรพสินค้าที่ไม่เคยมี ร้านเซเว่นอีเลเว่นที่บ้านนอกคอกนาอย่างฉันไม่มีวันได้ย้ำกลายถ้าไม่เข้าเมือง มันผุดมาจากไหน เกิดอะไรขึ้นกับบ้านช้านนนน
“มาแล้วคร้าบบบ” เสียงไอ้จ่อยดังมาแต่ไกล งั้นพ่อกับแม่ฉันก็ต้องมาแล้วสิ อ้ายยย นั้นไงดูแก่ลงไปเยอะเลยแฮะ แต่แม่แก้วยังสวยเหมือนเดิมไม่ต้องห่วง พ่อแก้วก็หล่อค่ะ อิๆ ไม่ได้ๆเราต้องทำเนียนไว้ก่อน หันหลังแปป
“ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครครับ?” พ่อฉันถามขณะที่ฉันยังหันหลังเนียนๆแล้วแกล้งทำเป็นพึ่งรู้ตัวทั้งที่จริงฉันรู้ตั้งนานแหละว่าพวกเขาเดินมา ฉันหันไปยิ้มให้พ่อกับแม่แต่ดูเหมือนพวกท่านจะไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร อุ้ยตาย ก็ฉันเล่นสวมแว่นกันแดดอยู่คงยากต่อการคาดเดา พี่กิ่งก็ยิ้มขำข้างหลังท่านแล้วชูสองนิ้วให้ฉัน อย่าว่าแต่พ่อแม่ฉันเล้ย ตอนเจอพี่กิ่ง พี่กิ่งก็จำฉันไม่ได้เหมือนกัน
“จำฉันไม่ได้จริงๆเรอะ?” ฉันแกล้งถามไปพร้อมกับถอดแว่นลงบอกใบ้ ลองเดาสิ พ่อแม่ฉันยังทำหน้ามึน ทั้งคู่สบตาแล้วส่ายหน้ากันเอง นี่ฉันบอกใบ้ให้ตั้งเยอะแล้วนะ
“ขอโทษนะค่ะ ฉันไม่ทราบจริงๆว่าคุณเป็นใคร” แม่จ้า นี้แก้วเองไง ทำไมจำแก้วไม่ได้ ฉันยิ้มยี่กับพี่สาวที่เดินเข้ามาแท็กมือกับฉันแล้วโอบไหล่หัวเราะสนุกขำ พ่อกับแม่มองหน้าฉันและพี่กิ่งสลับกันอย่างงง ฉันว่าท่านต้องคิดแบบนี้แน่ นี้เราสองคนรู้จักกันด้วยเรอะ?
“กิ่ง ลูกรู้จักเขาด้วยเรอะ” บิงโก >w< หนูลูกสาวแม่ไงค่ะ
“จะไม่ให้รู้จักได้ไงม๊า นี้ลูกสาวม๊าน้องสาวหนูนะค่ะ” พี่กิ่งเฉลยตัวตนฉันออกไป พ่อกับแม่ถึงกับมองฉันเป็นตาเดียว
“ยัยแก้ว!!!” ปิ๊งป่อง ถูกต้องนะคร้าบบบบบบ
“แก้วเองค่ะ ป๊าม๊า” ฉันรีบวิ่งเข้าไปกอดทั้งพ่อทั้งแม่อย่างโหยหามานาน แก้วคิดถึงพ่อกับแม่ที่สุด T^T แม่กอดฉันแน่นกับพ่อที่ลูบหัวฉัน ก่อนที่เราจะเลิกกอดแล้วหันมาจับมือแทน ฉันนิยิ้มหน้าบานหุบไม่อยู่เลย ก็คนมันดีใจอ่ะได้กลับสู่อ้อมอกพ่อแม่ใครไม่เป็นบ้าง
“ยัยแก้วไหนว่าติดงาน ทำไมถึงมาอยู่นี้ได้กลับไทยมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” แม่ถามฉันรัวๆ ทีล่ะคำถามแม่ หนูตอบไม่ทัน
“ก็กะเซอร์ไพรส์ให้ตกใจเล่นไง” ฉันยิ้มแก้มปริมองหน้าพ่อที่ส่ายหน้าให้ฉัน พ่อไม่ดีใจเย้อ แก้วอุส่ากลับบ้านมาแล้วนะ
“หัวหมอนะเรา” เอ้า ก็หนูเป็นหมอนี้หน่า คนล่ะความหมายแหละฉัน >x<
“ว่าแต่เราเหอะ ไปทำอะไรมาเนี่ยเปลี่ยนไปเยอะเล่นซะพ่อกับแม่จำแทบไม่ได้” แม่พูดพลางไล่ตรวจฉันทุกตารางนิ้ว แม่อย่ามองนานหนูเขิน
“โห้ ม๊าหายไปตั้งหลายปีมันก็ต้องมีการพัฒนากันบ้างสิค่ะ ลูกม๊าสวยใช่ม่ะ” ฉันยิ้มอย่างภาคภูมิอวดโฉมตัวเอง แล้วอยู่ๆพี่กิ่งก็เข้ามาเบียดฉันแล้วเต๊ะท่าแทน เล่นเอาฉันเกือบหงายไอ้พี่กิ่ง
“ยังไงก็สวยสู้พี่ไม่ได้หรอก” หน่ะ มีเก๊กหล่อเหล่มองฉันด้วย โธ่ พี่กิ่งอิจฉาฉันล่ะสิ น้องสาวสวยกว่า เริ่มหลงตัวเองล่ะ
“ก็ดีเหมือนกันจะได้จำได้สักทีว่าบ้านนี้มีลูกสาว 2 คนไม่ได้มีลูกชาย ฮะฮ่าๆๆ” พ่ออ้ะ หนูเป็นผู้หญิงมาตั้งนานแล้วนะอย่าหัวเราะเยาะหนูสิ แม่กับพี่กิ่งก็เอากับเขาด้วย ใจร้าย ฉันนิหน้ามุ่ยชิชะงอนทั้งสามแล้วแม่ก็เข้ามากอดง้องอนฉัน จะไม่ให้หายได้ไง
“คุณท่านค่า!!!” เสียงดังมาอีกล่ะ ใครอีกเนี่ย ชอบทำลายบรรยากาศครอบครัวซะจริงๆ เอ๊ะ นั้นมันชมพู่ โตเป็นสาวแล้วเรอะเท่าที่ฉันจำความได้ล่าสุดยังเป็นยัยเปี๊ยกเดินตามฉันต้อยๆอยู่เลย แล้วตะโกนเสียงดังทำไมเนี่ย เห้ย ระวัง!
“ขะ ขอบคุณค่ะ” ฉันวิ่งเข้าไปรับเด็กสาวมัธยมที่เผลอสะดุดจะล้มแต่ฉันรับได้ทัน ชมพู่เงยหน้ามองฉันแล้วหน้าแดงก่อนจะเอ๋ยขอบคุณเหมือนจะประหม่าฉัน ขี้อายเหมือนเดิมเลยยัยนี้น่ารักจริงๆ และดูเหมือนจะเป็นอีกบุคคลที่ไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร แสดงว่าฉันแต่ก่อนเนี่ยไม่สวยเลยใช่มั้ย ใช่ซี้ =^=
“มีอะไรรึป่าว ชมพู่” ชมพู่ที่เอาแต่เก้อเขินฉันได้สติรีบโค้งขอโทษพี่สาวกับพ่อแม่ฉันอย่างลืมตัว ฉันส่ายหน้าขำในความเปิ่นของยัยน้องเล็กจริงๆ แล้วมีเรื่องอะไรกันนะ
“คะ คือที่สวนส้มตรงทางนู่นนะคะ มีคนเจอศพคนนอนตาย” ชมพู่พูดด้วยน้ำเสียงสั่น เล่นเอาคนที่ฟังถึงกับช็อคไปตามๆกัน ฉันเองก็เหมือนกัน นี้มันเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงมีคนตายในบ้านฉันแถมเป็นสวนส้มที่ฉันชอบอีก!
“ชมพู่ นำทางฉันไปที!” ฉันนี้โพล่งออกมาคนแรกขณะที่ทุกคนยังไม่ได้สติ ชมพู่มองหน้าฉันแล้วหันไปสบตาพ่อกับแม่
“นั้นยัยแก้วไง” พ่อฉันพูด ชมพู่ก็ออกอาการตกใจเล็กน้อย คงไม่อยากเชื่อว่าเป็นฉัน เอาเหอะนี้ไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ เรื่องใหญ่รอฉันอยู่ ฉันจึงดึงแขนชมพู่แล้วส่งสายตาจิกไอ้จ่อยให้โยนกุญแจรถ ATV มา
“เกาะแน่นๆ” ฉันกำชับชมพู่ที่นั่งซ้อนท้ายรถก่อนจะบิดคันเร่งด้วยความเร่งรีบจนในที่สุดเราสองคนก็มาถึงจุดเกิดเหตุ พวกคนงานพากันรุมดูศพที่เจอ ฉันสั่งให้พวกเขาแหวกออกแล้วเข้าไปตรวจดูศพที่นอนแน่นิ่งและไม่ได้มีแค่ศพเดียว มีถึง 3 ศพด้วยกัน ฉันรู้สาเหตุการตายได้ทันที พวกเขาถูกยิง แล้วดูจากสีเลือดก็น่าจะตายนานพอสมควร แต่ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่นี้สิ ก็ฉันเป็นหมอไม่ใช่นักชันสูตรศพจะได้รู้ละเอียดยิบ - -?
“เป็นไงบ้างยัยแก้ว เฮือก!” พ่อกับแม่ฉันและพี่กิ่งที่ตามมาที่หลังเข้ามาถามฉัน แม่ฉันถึงกับปิดปากแล้วหลบไปข้างหลังพ่อ พี่กิ่งเห็นแล้วทนไม่ได้จึงเลือกที่จะไปดูแลแม่แทนตามด้วยชมพู่ ฉันพอเข้าใจความรู้สึกทุกคนในตอนนี้ ไม่มีใครอยากให้เรื่องร้ายแบบนี้เกิดขึ้นยิ่งในบ้านตัวเองอีกถึงไม่รู้ว่าคนกลุ่มนี้เป็นใครก็ตามเหอะ
“ป๊า พอรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น” ฉันสังเกตพ่อฉันที่ทำหน้าเคร่งเครียดตั้งแต่ทราบข่าวจากชมพู่ ฉันเดาเลยมาท่านต้องรู้แน่ๆแต่ปิดฉันไว้
“อืมรู้” ฉันกำลังจะคาดคั้นพ่อให้เล่า อยู่ๆก็มีรถตำรวจหลายคันมาจอดใกล้ๆพร้อมกับกลุ่มตำรวจที่พากันกรู่ลงมาเต็ม มันยกพรรคมาจากไหนว่ะ สงสัยแม่ฉันจะแจ้งความไปล่ะมั่งเอาเหอะ ถามพ่อต่อดีกว่า
“สวัสดีครับคุณลุง” เสียงคุ้นๆ -_0!? วินาทีที่ฉันหันไปเท่านั้นแหละ หัวใจฉันเต้นตูมตามอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน คนตรงหน้าฉันคือ..
“ไอ้ป็อป!” เพื่อนเกลอเก่าคู่ขาสุดเกรียนของฉัน \(>0<)/ มันเหวอทันทีที่ฉันตะโกนออกไปก่อนจ้องหน้าฉันตรงๆแล้วก็ถึงบางอ้อในที่สุด
“ไอ้แก้ว!” สมเป็นเพื่อนฉันจริงๆ ฉันกับมันวิ่งมากอดกันด้วยความคิดถึง ซึ่งไม่มีใครตกใจหรอกเพราะใครๆก็รู้ว่าฉันกับมันเพื่อนซี้กันไปไหนไปกันตลอดตัวติดยิ่งกว่าปาท่องโก๋เสียอีก ก่อนที่เราทั้งคู่จะทักกันด้วยวิธีเฉพาะตัวชนกำปั้น ซึ่งอันนี้ฉันอธิบายไม่ได้ - -; แล้วเราทั้งคู่ก็กอดคอกันเองตามฉบับ หน้าฉันกับมันนิบานจนจานแบนแค่ไหนยังแพ้เชื่อเหอะ กูคิดถึงมึงไอ้ป็อปเพื่อนร๊ากกกก
“เฮ้ยเป็นไงมาไงว่ะ ไอ้แก้ว นิมึงกลับใจแล้วเรอะว่ะ” มันถามฉันด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นสุดๆ แต่มันน่าโมโหตรงที่กลับใจเนี่ยสิ ฉันเลยจัดเบิร์ดกระโหลกมันไปทีหนึ่ง
“กลับใจบ้านป้ามึงดิ กูเป็นผู้หญิงมาตั้งนานแล้วโว้ย” มันนิหน้ามุ่ยเลยค่ะ สมน้ำหน้าว่าฉันก่อนทำไม แล้วมันก็เอามือมาบี้จมูกฉันเอาคืน ไอ้ป็อป กุหายใจไม่ออกกกกก > <! ฉันจึงจัดดอกใหญ่ตุ้ยท้องมันเต็มแรงเล่นซะมันจุกจนตัวงอเลย ฮ่าๆๆๆสมน้ำหน้า
“ผู้หญิงที่ไหนแรงเยอะยังกะควายว่ะ” ดูมันย้อน อย่างนี้ต้องจัดอีกชุด
“พอๆ พอทั้งคู่เลย นี้ไม่ใช่เวลาที่เราสองคนจะมาทะเลาะกัน” พ่อห้ามปรามฉันซะก่อนเสียดายจริงๆ ฉันกับไอ้ป็อปมองหน้ากันอย่างเอาเรื่องก่อนจะยิ้มให้กันเหมือนเดิม เพราะมันเป็นเรื่องปกติ เราสองคนชอบเล่นกันแรงๆเป็นประจำอยู่แล้ว
“ผมขออนุญาตไปตรวจดูที่เกิดเหตุก่อนนะครับ” ตรวจดูที่เกิดเหตุ ทำไมมันต้องไปด้วยว่ะ O O?
“ไอ้ป็อปมึงจะไปทำไมว่ะ มึงเป็น..” ฉันกำลังถามไอ้ป็อปอยู่ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งเดินเข้ามาสะกิดมัน
“ผู้กองครับผมกั้นพื้นที่เรียบร้อยแล้วครับ” ผู้กอง เห้ย ไอ้ป็อปแกเป็นตำรวจเรอะว่ะ ไอ้เด็กชอบแหกกฎแบบแกเนี่ยนะจะเป็นผู้รักษากฎหมายเป็นไปไม่ได้อย่างแรง
“เดียวฉันไป” ไอ้ป็อปหันไปพูดกับลูกน้องแล้วหันมามองหน้าฉันที่กำลังเหว่อได้ที่ มันเลยแกล้งดีดนิ้วหน้าฉันทำเอาฉันนิสะดุ้งโหยง
“ฮะฮ่าๆๆ กูรู้นะว่ามึงคิดอะไรคงไม่คิดว่าคนอย่างกูเนี่ยจะได้เป็นถึงผู้กองสินะ” มันรู้ทันอีกแหละ สมเป็นเพื่อนฉันจริงๆ -.-
“เอ่อๆ กูยอมรับ เดียวกูไปกับมึงได้ม่ะเผื่อช่วยไรมึงได้ กูแอบไปดูศพมาแล้วนะ” ฉันบอกมัน มันก็พยักหน้าก่อนที่เราสองคนจะเดินไปที่เกิดเหตุพร้อมกัน ระหว่างไปฉันก็เล่ารายละเอียดที่ฉันรู้ทั้งหมดให้มันฟัง มันก็ฟังฉันอย่างตั้งใจ นี้ดูมันเป็นการเป็นงานขึ้นเยอะเลยเว้ย เท่โครต
“อืมคงเป็นลูกน้องไอ้แสน” แสน ใครคือแสนกัน ตำบลเรามีคนชื่อแสนด้วยเรอะว่ะ
“แสน ใครคือนายแสน” ฉันถามมัน ไอ้ป็อปมองหน้าฉันแล้วเกาหัวเหมือนลืมว่าฉันไม่ได้รู้จักนายสงนายแสนอะไรนั้นด้วย
“ไอ้แสนมันเป็นมาเฟีย มันเป็นผู้มีอิทธิพลที่นี้” มาเฟีย ตำบลฉันมีมาเฟียได้ไงกัน
“ห่ะ มาฟิ..อุ๊บ!” มันปิดปากฉันแล้ว ชู่วใส่พลางมองซ้ายทีขวาที แกปิดปากฉันทำไมเนี่ยไอ้ป็อป =x=? ฉันนิ่วหน้ามองมัน มันจึงคล้องคอฉันแล้วลากไปห่างๆกลุ่มคนแล้วถึงจะยอมปล่อยมือ เล่นซะฉันหายใจแทบไม่ออก
“อะไรของมึงเนี่ย!” ฉันตาขวางใส่มันทันที
“ก็มึงจะแหกปากทำไมเล่า” ดูมัน
“ก็มาฟียนะเว้ย จะไม่ให้กูตกใจได้ไงว่ะ บ้านเราเคยมีพวกมาเฟียซะทีไหน” ใช่ ตั้งแต่อยู่มาฉันไม่เคยเห็นพวกมาฟงมาเฟียนั้นเลยสักนิดบ้านฉันออกจะสงบสุขหรือว่าระหว่างที่ฉันไม่อยู่มันแอบย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นี้ว่างั้น
“เอ่อกูรู้ แต่มึงอย่าเอ็ดดังไป เดียวคนอื่นได้ยินมันจะหมายหัวมึงเอาได้นะ” นี้พวกมันยิ่งใหญ่ขนาดไหนเนี่ย ฉันเริ่มสงสัยแล้วสิ
“เอ่อๆก็ได้ แล้วสรุปมันคือใคร มันมาจากไหน แล้วมันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ง้างปากมาเดียวนี้เลยไอ้ป็อป” ฉันรีบเค้นปากมันทันที
“ไอ้แสนคือ..”
มาอัพให้แล้วนะ สนุกกันรึป่าว O O? คือเราไม่รู้ว่าทุกคนรู้สึกยังไง ช่วยคอมเม้นบอกกันด้วยนะ เพราะเราเองก็มือใหม่หัดแต่งเรื่องมันออกจะปั้มๆเป๋อๆ ถ้าสนุกก็อย่าลืมกดติดตามกันด้วยนะ ^ ^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ