Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง
เขียนโดย blackKZ
วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.55 น.
แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 12.44 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4) ตอนที่ 3 ทำไมต้องเป็นเขา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
CHAPTER 3: Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง
ตอนที่ 3 ทำไมต้องเป็นเขา
“อืม ที่นี้ที่ไหน โอยปวดหัวจัง…” ฟางลืมตาคู่สวยสอดส่องไปทั่วห้อง ลุกเดินออกจากเตียงนอนสีทึบพลางกุมศีรษะตัวเอง หญิงสาวเดินเที่ยวมองหาหวังเจอเพื่อนสาวที่นั่งกินเหล้ากับเธอเมื่อคืน
“พ้อย แพท” ฟางเรียกหาหลังเดินมาถึงห้องครัวที่ติดกับห้องรับแขก เธอรับรู้ได้ทันทีว่าที่นี้คือคอนโด แต่แปลกใจเพราะเพื่อนสาวเธอพึ่งกลับจากเมืองนอกไม่น่ามีคอนโดได้
“ไม่ใช่ห้องพ้อยนิแล้วเรามาอยู่ไหนกัน? ก็เมื่อคืนเรา….” ฟางปรือตาอย่างเหนื่อยล้า เธอคงดื่มหนักไป ก่อนพยายามนึกเรื่องเมื่อวาน
“ป็อปปี้...” ฟางสะดุดเข้ากับกรอบรูปอันหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะ มันเป็นรูปของป็อปปี้กำลังเล่นกีต้าร์ยิ้มกับเธอ ก่อนเมินหน้าหนีหันมาสบกับถ้วยข้าวต้มหมูสับทับโน๊ตใบหนึ่ง เธอจึงหยิบขึ้นมาอ่านดู
รู้ว่าตื่นมาต้องมึนหัวแน่ๆ ป็อปทำข้าวต้มไว้ให้ แล้วก็ยาวางอยู่บนโต๊ะกินซะด้วย รู้ว่าไม่ชอบขมก็ต้องกินจะได้หาย ป็อปไปทำงานนะครับ
POPPY
“ทำไมต้องทำดีกับฉันด้วย ฉันไม่มีทางหลงกลนายอีกแล้ว อย่าลืมสิเขาเคยทำร้ายเราหนักแค่ไหน จำไว้ฟาง เราไม่มีทางให้อภัยคนพรรคนั้นอีก ไม่มีวัน” ฟางเตือนสติตัวเองนึกถึงเรื่องที่ป็อปปี้ทำกับเธอไว้ ขย้ำกระดาษเตรียมปาทิ้งแต่หยุดกลางคันคลี่กระดาษขึ้นมาดูอีกครั้ง
“ทำไมหัวใจถึงเจ็บขนาดนี้ ฮึ่กฮือๆ” หยดน้ำล่วงหล่นซึมเข้ากระดาษทำให้ข้อความบิดเบี้ยว ฟางกำลังร้องไห้ เธอไม่อยากเศร้า ไม่อยากนึกถึง ไม่อยากเจ็บอีก แต่เขาก็กลับมาทำให้หัวใจเธอเจ็บอีกครั้ง ในหัวฟางตอนนี้คงมีแต่คำถามที่ไม่มีคำตอบ.....
“ฟาง ฟาง ฟางครับ!” ช่วงกลางวันโทโมะมารับฟางไปทานข้าวที่ร้านอาหารเดิมที่พวกเขาชอบไปกัน โทโมะเรียกแฟนสาวเพราะเห็นเธอเอาแต่นั่งเหม่อลอยเหมือนคนไร้สติสตัง
“คะ ค่ะพี่โมะ เรียกฟางมีอะไรรึเปล่าคะ!?” ฟางรีบตอบโทโมะหลังหลุดภวังค์
“โมะแค่เห็นเราเหม่อๆ ไม่สบายเหรอ?” โทโมะมองฟางด้วยความเป็นห่วง
“ปวดหัวนิดหน่อยคะ พี่โมะอย่าห่วงเลยคะ เราทานข้าวกันต่อดีกว่า” ฟางยิ้มนิดๆก่อนจะเลี่ยงก้มกินข้าวต่อ
“ปวดหัว..เมื่อคืนแอบหนีเที่ยวใช่ไหม บอกโมะมาเลยนะ” โทโมะถามฟางเสียงเข้ม
“เปล่าค่ะ ฟางนอนอยู่บ้านจริงๆไม่ได้ออกไปทะเล้อทะล่าที่ไหน พี่โมะก็รู้ว่าฟางไม่ค่อยชอบเที่ยวกลางคืนอ่ะ” ฟางตกใจรีบแก้ตัวกลัวโทโมะรู้เรื่องที่เธอแอบไปเที่ยวผับกับพ้อยแพท ซ้ำร้ายไปนอนอยู่คอนโดป็อปปี้อีก
“โมะก็ไม่ได้ว่านิ เอาเถอะดูแลตัวเองดีๆ โมะเป็นห่วงนะ” โทโมะพูด พร้อมยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“ค่ะ พี่โมะ” ฟางสะอึกก่อนอมยิ้ม ถึงใครจะว่าเขาร้ายแต่สำหรับฟาง โทโมะคือผู้ชายแสนดี
ตื่อดึ้งๆ!! เสียงข้อความดังเรียกเจ้าของมือถือ
“ฟาง โมะขอคุยโทรศัพท์แปปหนึ่ง เดียวมา” โทโมะพูดพร้อมลุกจากเก้าอี้
“ค่ะ” ฟางยิ้มรับ
“ได้ความว่าไงบ้าง” โทโมะออกมานอกร้านเพื่อพบกับสายสืบที่เขาจ้างไว้ก่อนจะถาม
“ครับ คอนโดที่ผมไปตรวจสอบมาเป็นคอนโดที่คุณภาณุอยู่จริงๆไม่ใช่เพื่อนของคุณธนันต์ธรญ์เมื่อคืนนี้แน่นอน” สายสืบตอบแล้วยื่นรูปซองน้ำตาลให้เขา
“อือ ขอบใจนายมากเดียวเรื่องเงินฉันจะโอนให้พรุ่งนี้ละกัน” โทโมะพูดพร้อมรับซองมาเปิดดูรูปภาพหลายใบ เขาตีหน้าเครียดดูภาพสลับกันหลายใบ เขาไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ป็อปปี้แอบทำอะไรแฟนสาวเขา รูปที่ได้มามีเพียงตอนอยู่ที่ผับกับหน้าคอนโดป็อปปี้เท่านั้น
“ครับ ผมลาล่ะคุณวิศวะ” สายสืบโค้งลา โทโมะยืนนิ่งไม่ได้สนใจ ก่อนจะหันไปมองโต๊ะฟางนั่ง
“ทำไมฟางต้องโกหกโมะด้วย..” โทโมะเอยออกมาอย่างสงสัย ฟางไม่เคยโกหกเขาเลยสักครั้ง ไปไหนมาไหนจะบอกตลอด แม้แต่ไปกับใครยังไม่เว้น มีเพียงแค่ช่วงพักหลังๆที่หญิงสาวดูแปลกไป บางครั้งเธอตาบวมเหมือนร้องไห้ เหม่อลอย พยายามหลบหน้าใคร ถึงเจ้าตัวจะถามแต่ทุกครั้งสาวหวานบ่ายเบี่ยงที่จะตอบ
“เฟย์เขื่อน ที่จริงพวกแกไม่ต้องลากฉันมากินข้าวด้วยก็ได้ ไม่อยากเป็นกขคพวกแกสวีทกัน” แก้วพูดหลังจากเฟย์ส่งเธอไปเอารถคู่ใจมาแล้วขับมาสมทบกับเขื่อนที่ภัตตาคารแห่งหนึ่ง
“ได้ไงค่ะ คุณเพื่อน ฉันไม่มีวันปล่อยให้แกเฉาตายอยู่บ้านแน่ เอาน่าฉันอยากมาร้านนี้ตั้งนานแล้ว แกจะปล่อยให้เพื่อนคนนี้กินข้าวคนเดียวหรอ” เฟย์พูดเซ้าซี้ทำแก้มป๋อง
“คนเดียวที่ไหน สามีแกก็อยู่!” แก้วชี้ไปที่เขื่อนพูด
“ไม่เอาอ่ะ เขื่อนขี้บ่น กินนู่นกินนี้ก็ว่าไปหมด ดีซะอีกมีแกจะได้ช่วยดักทางตากบนี้ซะบ้าง เฟย์ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ ห้ามอยู่ได้!” เฟย์พูดพลางกอดอกมองเขื่อน
“ก็เขื่อนเป็นห่วงนี้ครับ ไหนเราบ่นว่าช่วงนี้อ้วนอยากลดน้ำหนักไง?” เขื่อนพูด
“จริงด้วย! แฮะๆ ขอวันหนึ่งนะเค้าอยากกินอ่ะ น้าค่าที่ร้ากก” เฟย์ทำหน้าเหมือนนึกได้ก่อนจะยิ้มแห้งๆแล้วเข้ามากอดแขนอ้อนเขื่อน
“เฮ้อ ทำไมคนรอบข้างถึงมีคู่ไปหมดทุกคนเลยว่ะ เซ็งโว้ย!!” แก้วเดินนำสองคนมาก่อนจะหยุดโวยกับตัวเองเหมือนคนบ้า
“ยึ่ย! แก้วผีเข้า” เขื่อนพูดเสียงดังเนียนรวบเฟย์กอดแน่น
“อย่าพูดเรื่องผี! ครั้งก่อนพวกแกยังไม่เคลียร์ อย่านึกว่าฉันลืม เดียวเหอะๆ” แก้วหันขวับสั่งห้ามแล้วว่าใส่ด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“ลักษณะจะแค้นเข้ากระดูก ทำไงดีคุณสามี” เฟย์ขอความเห็นเขื่อนแล้วมองแก้ว
“งานเข้าสิครับ คุณภรรยา” เขื่อนพูดพร้อมปล่อยตัวแฟนสาวก่อนจะรีบตามแก้วที่ฮึดฮัดนำพวกเขาไป
“โทโมะ..” แก้วชะงักเมื่อเจอโทโมะเดินสวนทางมากับเธอ เขาเองก็ตกใจไม่ใช่น้อยเมื่อเจอแก้วก่อนจะตีหน้านิ่งตามฉบับ
“เฟย์ เขื่อน เราไปกินร้านอื่นดีกว่า” แก้วหลบตาโทโมะก่อนพูดกับเขื่อนเฟย์พร้อมหันหลังให้ชายหนุ่ม
“อะไรแก้วอยู่ๆก็...” เฟย์นิ่วหน้าพูดก่อนเหล่มองโทโมะ
“พอดีคนแถวนี้ไม่อยากร่วมหายใจด้วย กลัวอึดอัด” แก้วพูดแล้วตีห่างโทโมะทันที
“เจอฉันถึงกับหน้าบึ้งเลยเหรอ ต้องเป็นไอ้ป็อปปี้เธอถึงจะกระดี้กระด้าเรอะไง!” โทโมะพูดน้ำเสียงหงุดหงิดพลางนึกถึงตอนแก้วกับป็อปปี้อยู่ด้วยกัน
“ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้นะ แล้วอีกอย่างคนบางคนแถวนี้ไม่ใช่เหรอที่ออกปากไล่ฉัน ไม่อยากเห็นหน้า!” แก้วหันมาว่ากลับ
“เรื่องนั้น..” โทโมะอ้ำอึ้ง ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากเห็นหน้า ที่ไม่ยอมให้ถ่ายเพราะเห็นว่าแก้วเจ็บถึงไม่ยอมให้เธอถ่ายต่อ
“อ้อ! แล้วก็ถ้าเป็นป็อปฉันต้องดี้ด้าอยู่แล้ว เขาเป็นคนดีมีเหตุผล มีน้ำใจ เข้าใจฉัน แถมคุยสนุกอีกด้วยเป็นผู้ชายที่น่าคบกว่าใครบางคน” แก้วออกปากชมป็อปปี้ดีอย่างนู่นดีอย่างนี้จนโทโมะเริ่มมีน้ำโห อะไรๆก็ป็อปปี้
“เจอกันแค่ไม่กี่วัน โม้มันเกินไปไหม!! อ้อลืมไปเธอมันผู้หญิงใจง่าย ระวังโดนมันหลอกฟันโดยไม่รู้ตัว!” โทโมะแขวะเสียงดัง
พลั่ก!
“แก้ว!” เขื่อนกับเฟย์เข้าไปดึงแก้วหลังหญิงสาวชกหน้าโทโมะอย่างจัง
“คนอย่างนายมันก็คิดได้แค่นี้ มองคนอื่นในแง่ร้ายไปหมด ฉันไม่น่ามาเจอนายเลยจริงๆ!” แก้วตวาดโทโมะ เม้มปากมองด้วยแววตาแข็งกร้าว
“แก้ว ฉันว่าแกใจร่มๆก่อน” เขื่อนพูดปลอบให้หญิงสาวนิ่งไว้
เพลี้ย!!
“นี้ข้อหาที่คุณด่าเพื่อนฉัน!” เฟย์ตบหน้าโทโมะซ้ำแผลเดิมที่แก้วต่อยด้วยความโกรธแทนเพื่อน
“เฟย์ พวกเราไปเถอะ” แก้วพูดก่อนจะดึงเฟย์ไปด้วยกัน
“ผมขอโทษแทนภรรยาผมด้วย คุณชื่อโทโมะสินะ ผมไม่รู้ว่าคุณมีปัญหาอะไรกับเพื่อนผม แต่ผมก็ยืนยันว่าเพื่อนผมไม่ใช่คนอย่างนั้น” เขื่อนพูดยันเพราะตนรู้จักกับแก้วมานานพอควรแม้ไม่เท่าเฟย์ แต่เขาคงยอมไม่ได้ที่โทโมะไปว่าร้ายแก้วจึงทำได้เพียงเตือนสติชายตรงหน้า ก่อนตนจะตามสองสาวไป
“พี่โมะทำไมคุยนานจังค่ะ อ้ะ หน้าไปโดนอะไรมา!?” ฟางเห็นโทโมะกลับมาก็รีบทัก
“เปล่า ไม่มีอะไร กินข้าวต่อเถอะโมะหิว” โทโมะตัดบทก้มลงกินข้าวในจานต่อ
“พี่โมะ พี่มีอะไรไม่สบายใจบอกฟางได้นะ อย่าเก็บไว้คนเดียว พี่เงียบตลอดทางตั้งแต่หลังพี่โมะกลับจากคุยโทรศัพท์ ฟางใจคอไม่ดี” ฟางถามโทโมะก่อนลงจากรถหลังทั้งสองคนกลับจากภัตตาคาร โทโมะแทบไม่ปริปากพูดเลยสักคำเอาแต่ทำหน้าเคร่งเครียด
“ฟาง โมะมีเรื่องอยากถาม..”
พลั่ก พลั่ก! พลั่ก!!
“แก้ว ฉันว่า..” แก้วมาที่ค่ายมวยเก่าที่เธอเคยมาเที่ยวบ่อยครั้งกับเขื่อนเฟย์หลังแวะทานข้าวสักที แก้วซิ่งรถมาที่นี้แล้วเอาแต่ซ้อมกระสอบทรายมาเป็นชั่วโมงได้แล้ว เฟย์พูด
“เฟย์ ปล่อยแก้วไปเหอะ ห้ามยังไงเขาก็ไม่ฟังหรอกครับ” เขื่อนพูดกับภรรยาพลางส่ายหน้ามองแก้ว
“ได้ไง เพื่อนเฟย์ทั้งคน!” เฟย์พูด
พลั่ก!
“เจ็บ เจ็บ เจ็บชะมัด ไอ้บ้า ไอ้ขี้เก็ก ไอ้ผีดิบ!” แก้วสบถใส่หมัดสุดท้ายเข้าเต็มเปา
“แก้ว แกหยุดเลย เจ็บตัวเพราะผู้ชายคนเดียวมันไม่คุ้มนะแก” เฟย์รีบห้ามแก้วกลัวเธอจะทำอะไรเกินตัว
“ใครบอกว่าฉันเจ็บตัวเพราะหมอนั้น เจ็บใจมากกว่า แกไม่ต้องห้ามเลยชกแค่นี้ไม่ตายหรอก” แก้วพูดก่อนจะง้างหมัดเตรียม แต่เขื่อนรั้งไว้
“แต่มือแกมันไม่สบายตามนะ เลิกเหอะ” เขื่อนพูด ทำให้แก้วมองมือตัวเองที่แดงก่ำ
“แล้วแกมีวิธีระบายเครียดให้ฉันไหมล่ะ” แก้วพูด
“เข้าบ้านผีสิงเป็นไง!” เฟย์พูด
“งั้นฉันชกต่อ” แก้วเตรียมง้างอีกรอบ
“ล้อเล่น ไม่อยากให้ซีเรียส มานั่นไปที่นี้กัน มันกว่าที่แกมายืนปล่อยหมัด ตุ๊บๆๆอีก รับรอง” เฟย์รวบมือแก้วก่อนเสนอ ยักคิ้วยิ้มแก้มปริ
“ผับ แกชวนฉันมากินเหล้า ฉันไม่ได้อกหักนะโว้ย!” แก้วพูดพลางกระดกเหล้า
“นี้ เขาชวนมาสังสรรค์ไม่ใช่มาตะคอกเพื่อน กินเข้าไปยังจะบ่นอีก ลุกมาเต้นกันเลยม่ะ! วู้ๆ” เฟย์บ่นกลับก่อนลุกไปเต้นกลางฟลอร์
“เขื่อน แกไม่ห้ามเฟย์หน่อยเรอะ?” แก้วหันมาพูดกับเขื่อน
“ไม่อ่ะ รายนั้นพอๆกับแกนั้นแหละคู่ขาไม่ใช่เรอะแต่ก่อน” เขื่อนส่ายหน้าพูด
“แน่ใจ นู่นผู้ชายแถวนั้นมองตาเป็นมันแล้วเห็นไหม” แก้วชี้ทางให้เขื่อนมองตามที่เธอบอก บรรดาชายหนุ่มต่างเข้ามารุมล้อมเฟย์เต็มไปหมด ช่วยไม่ได้เฟย์เป็นถึงนางแบบเก่าไม่แปลกที่เธอจะเป็นที่หมายตาของพวกผู้ชาย
“เห้ย! เมียกู” เขื่อนลุกพรวดแทรกวงไปหาเฟย์ทันทีเมื่อเห็น
“ฮะ ฮ่าๆๆ” แก้วหัวเราะท้องแข็งก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นหน้านิ่ง แล้วซดเหล้าต่อ
เขานั้นตัวจริงแล้วฉันมันตัวอะไรเขาน่ะเป็นใครแล้วฉันน่ะเป็นใครเป็นแค่ ตี้ดดด……
“แจม! พี่โทรหาตั้งหลายรอบทำไมไม่รับสาย” แก้วพูดเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์น้องสาวตัวดีที่หายไปเกือบสองวัน
“เอ่อ นี้ฟ้าเพื่อนแจมค่ะ พี่แก้ว” ปลายสายไม่ใช่แจมกลับเป็นเสียงคนอื่นแทนซึ่งคือฟ้า
“อุ้ย! โทษที แล้วแจมไปไหน?” แก้วถาม
“อยู่บ้านฟ้าค่ะ พอดีเนยแจมมาทำรายงานบ้านฟ้า พวกเราพึ่งทำงานเสร็จ ทั้งสองคนหลับอยู่ฟ้าไม่อยากปลุก พี่แก้วช่วยมารับได้ไหมค่ะ ฟ้าต้องปิดบ้านไปนอนบ้านยาย?” ฟ้าพูด
“ได้ๆ เดียวพี่ไปรับรอสัก เอ่อ ชั่วโมงครึ่งเห็นจะได้ ถ้าช้าฟ้าไปก่อนเลยเดียวพี่ปิดบ้านให้” แก้วพูดพลางมองนาฬิกาโทรศัพท์
“ค่ะ ตี้ด..” ฟ้าตอบรับก่อนตัดสาย
“เขื่อนเฟย์! หายไปไหนแล้ว เห็นทีคงต้องไปเองสินะ” แก้วมองหาเพื่อนๆของเธอ แต่กลับไม่เห็นใครเลยเพราะคนเต็มผับทำเอาแก้วเค้นหาได้ยากกว่าเดิมจึงตัดใจพึ่งตัวเอง
“ดีนะ ตำรวจไม่ตั้งด่านแถวนี้ ไม่งั้นโดนยัดตารางแน่ฉัน..” แก้วพูดหลังขับรถออกมาได้สักพัก เธอพยายามลืมตาหนักอึ้งเพราะฤทธิเหล้าที่เล่นเอาเธอจะหลับให้ได้ แก้วสะบัดหน้าไล่ความมึนทำให้เธอไม่เห็นทางชั่วคณะก่อนจะลืมตามองทาง
“หืม เห้ย!!!”
เอี้ยดดดดด............................................
__________________________________________________________
ม่ายยยยย แก้วววววว พีสมาอัพต่อแล้วน้า ป็อปปี้เคยทำร้ายฟางยังไงนะ แก้วโทโมะเจอกี่ทีก็ทะเลาะกันตลอด เห้อ เหนื่อยใจ โทโมะถ้าจะเครียดนะนั้น เขื่อนเฟย์หวานตลอด รออ่านตอนหน้านะ อย่าทำตัวเป็นนักอ่านเงาเม้นบ้างก็ดี พีสขอ 5555 เม้น ติดตาม โหวต แล้วแต่เป็นกำลังแกนักเขียนนะ
LOVETK PF KF!!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ