รักเธอตั้งแต่เมื่อไหร่?
9.5
เขียนโดย lovefp
วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 09.56 น.
29 ตอน
81 วิจารณ์
48.82K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2558 16.11 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
18) เผลอรักเธอ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ มือแกร่งจับเท้าเรียวที่ตอนนี้บวมแดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดขึ้นมาสำรวจอย่างเบามือ ค่อยๆขยับเท้าเบา"เจ็บมากมั้ย"นํ้าเสียงอ่อนโยนตาคมจับจ้องฟางที่เหยหน้านิดบ่งบิกความเจ็บ แต่สายตากลับเบือนหน้าหนีไปด้านอื่น อารมณ์โกรธที่ลดลงเกือบครึ่งเนื่องจากห่วงใยคนตรงหน้า รับรู้โดยไม่ต้องพูดออกมาว่าตอนนี้เธอโกดเขา ป๊อปปี้ถอนหายใจกับตัวเองเบาๆเมื่อท่าทางดือดึงไม่ต่างจากเด็กน้อยเวลางอนคนตรงหน้า ทั้งเอ็นดูทั้งหนักใจปะปนกันไปหมด
ป๊อปปี้ล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาโทร"เจฟเอารถมารับฉันเดี๋ยวนี้"พูดจบก้มลงอุ้มร่างบางไว้ในวงแขน
ฟางหันไปมองเคนตะที่ตอนนี้ยังนั่งบนพื้นด้วยท่าทางมึนงงอย่างห่วงใย "พี่เคนตะ"
"ไม่ต้องไปสนใจ แค่นั้นมันไม่ตายหรอก"เสียงเหี้ยมพุดขึ้นตัดบทอย่างหงุดหงิด พร้อมกับเดินไปขึ้นรถ
"คุณป๊อปจะไปไหนคะ รอหวายด้วยสิ"
"สามีภรรยาเข้าจะอยุ่ด้วยกัน อย่าเอาหน้าสวยๆของคุณไปเป็นส่วนเกินเลยเพราะมันคงดูไม่จืดเท่าไหร่หรอกนะ'พิมพูดเตื่อนด้วยความหวังดี
"ไม่จริง คุณป๊อปแค่ต้องกลับไปสั่งสอนภรรยาที่เขาไม่ต้องการการให้รุ้ว่าอะไรที่สมควรทำหากตากฟางแต่งงานแล้วแต่กลับไปเที่ยวกับผู้ชายคนอื่น ใครเห็นเขาจะคิดว่าคุณป๊อปโดนสวมเขานะสิ" "แล้วผู้หญิงที่เท่ยววิ่งตามสามีชาวบ้านโดยไม่อายไม่เกรงกลัวต่อบาปหรือคำครหานี่เขาเรียกว่าอะไรคับ คุณหวาย"เคนตะนไม่ได้ที่หวายมาต่อว่าและดูถูกฟาง
"แก..."หวายชี้หน้าเคนตะ
"พี่เคนตะเกินอะไรขึ้น แก้วเดินไปทำธุระแป๊แเดี๋ยว ทำไมหน้าถึงกลายเป็บแบบนั้นไปได้ แล้วฟางหายไปไหน"
"ไม่มีอะไรหรอก แค่หมาบ้าโมโหหึงเลยฟัดคนอื่นไม่เลือกเท่านั้นเอง"แก้วงงกับคำพูดของพี่ชายก่อนจะเปลี่ยนเป็นเข้าใจเมื่อเห็นแววตาเจ็บปวดของพี่ชาย
"สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเป็นเพื่อนป๊อปปี้ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรกับคุณฟางคะ"
"แก้วคะ ส่วนนี้พี่เคนตะพี่ชายของแก้วเอง" "คืนนี้ที่บ้านพักของป๊อปปี้มีปาตี้เล็กๆพิมอยากชวนคุณทั้งสองไปร่วมด้วยจะได้หรือป่าวคะ"
"อื้ม เราสองคนจะไปครับ "เคนตะตอบ เพราะด้วยใจลึกๆเขายังอยากเห็นหน้าฟางแม้ว่าตอนนี้จะรู้ว่าไม่มีสิทธิ์แต่ขอแค่ได้เฝ้ามองก็ช่วยให้เขาใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้
"คะเอาเป็นตกลงนะคะ งั้นเย็นนี้เจอกันคะ"พูดจบพิมก็เดินไปหาโทโมะที่รถ และเล่าให้โทโมะฟังเกี่ยวกับไอ้เพื่อนตัวดีที่หึงจนก่อเรื่อง และไปเที่ยวกันต่อที่วางแผนไว้โดยไม่สนใจคำโวยวายของวายทีอยากจะกลับบ้านไปหาป๊อปปี้
รถคันหรูแล่นมาจอดหน้าบ้าน ร่างสูงที่นั่งด้านหลังเปิดประตูเดินลงจากลงด้วยความรีบร้อนไม่รอให้ลูกน้องเปิดให้เหมือนปกติเดินอ้อมไปอีกทางที่ฟางนั่ง ตอนนี้เจ้าตัวกำลังพยายามลงจากรถด้วยตัวเองไม่เหลือบมองป๊อปปี้สักนิด
พยายามพยุงร่างด้วยเท้าที่ไม่เจ็บก่อนที่จะยื่นเท้าอีกข้างลงไปเบาๆ"โอ๊ย"ร่างบางเกือบทรุดลงไปบนพื้นถ้าไม่ได้มือแกร่งที่รวบเอวบางเข้าไปกอดไว่ช้ก่อน
"ทำไมไม่รอฮึ เท้าเจ็บแยยี้ยังทพชำเป็นเก่งอีกนะ"ก้มลงพูดเบาๆที่ข้างหู มองคนในอ้อแขนด้วยความหมั่นไว้ที่เจ้าตัวพยายามเอียงหัวออกห่าง
"ปล่อยนะฉันเดินเองได้" "พูดไม่เพราะเลย ใครใช้ให้พูดกับผัวแบบนั้น ระวังจะโดนทำโทดแบบเมื่อเช้าอีกนะ หรืออยากจะโดน"คนตัวโตแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ตาประกายพร้อมกับอมยิ้มนิดๆ "ไม่เคยมีจะมีก็แต่สามีที่เขาไม่เต็มใจจะเป็นจึงไม่จำเป็นจะต้องสนใจ ใครอยากทำอะไรก้ทำไปไม่ต้องสนใจกัน แล้วถ้าฉันอยากจะแทนตัวเองแบบนี้มันก็ดีแล้วนี่คะ คนอื่นเขาจะได้รู้ว่าเราสองคนเป็นคู่สามีภรรยาที่รอเพียงวันหย่ากันเท่านั้นคนของคุณจะได้ไม่เข้าใจผิด"
"ถ้าไม่ใช่แล้วที่ทำกันไปเมื่อคืนแล้วก็เมื่อเช้าเขาเรียกว่าอะไร ไหนบอกมาสิ ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน"
"ก็แค่อารมณ์ดิบของผู้ชายที่ต้องการปลดปล่อย ลแ้วบังเบิญฉันเป็นผู้หญิงที่อยู่ใกล้มือที่สุด ไม่มีค่ามีความหมายอะไร"
"ใครสอนให้พูดแบบนี้กันไม่น่ารักเลย บางครั้งผู้ชายก็ไม่ได้ทำไปเพราะต้องการระบายความใคร่เพียงอย่างเดียวหรอกนะ ฉันไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้ว เข้าข้างในกันเถอะ"พูดจบก็ก้มลงช้อนร่างบางพาเดินไปบนห้อง เดินไปวางหญิงสาวบนเตียง ก่อนจะก้มลงถอดรองเท้าที่ฟางใส่อยู่อย่างอ่อนโยนและไม่รังเกียจ
ตามองการกระทำของเขาอย่างสับสน ไม่รุ้ว่าเขากลังทำอะไรและคิดอะไรอยู่กันแน่
พอถอดรองเท้าเส็ดก็เดินออกจากห้องไปเอานํ้าแข็งมาประคบ เดินมานั่งลงบนพื้นข้างๆยกเท้าเรียวขึ้นมาไว้บนตักฟางรีบชักหนีทันทีที่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร มือแกร่งกลับยึดข้อเท้าไว้แน่พร้อมดุเบาๆ "อยู่นิ่งๆสิ"
"เดี๋ยวฉันทำเองก็ได้คะ"
"ฉันทำให้นี่แหละดีแล้ว ฟางทำเองจะไปถนัดอะไร"พูดจบก็ก้มหน้าลงทำงานตรงหน้าโดยไม่รู้ว่าคำพูดของเขาทำห้ฌธอใจเต้นแรงขนาดไหนน้อยครั้งที่เขาจะเรียกชื่อเล่นของเธอเหมือนกับว่าต้องการเว้นระยะห่างให้ชัดเจน นอกจากตอนที่อยู่บนเตียงเหมือนเมื่อคืน แต่เวลาที่เธอแทนตัวเองด้วยสรรพนามที่เหินห่างบ้างเขากลับเรียกชื่อเธออบอย่างสนิทสนม
ก๊อกๆๆๆ "สงสัยหมอมาแล้ว เปิดเข้ามาได้ครับ"ก่อนที่ร่างสูงจะจับเรียวไปวางไว้ที่นอนแล้วออกมาให้หมอเขามาตรวจอาการ
"เป็นอะไรมากหรือป่าวครับหมอ"
"คนไข้ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับสบายใจได้ แค่เท้าแพลงเดี๋ยวหมดจะจัดยาเอาไว้ให้และระวังไม่ให้คนใข้เดินมากๆ สักสองสามวันก็หายแล้วครับ"
"ขอบคุณครับ"
"ถ้าอย่างนั้นหมอขอตัวนะครับ"ตาคู่คมมองตามหมอที่เดินออกไปจากห้องจนประตูปิดลง จึงหันหน้าไปมองคนที่แอบมองเขาอยู่ตลอดเวลาเพราะคิดว่าเขาไม่รุ้ตัว เห็นร่างบางสดุ่งนิดๆก่อนที่จะรีบปิเเปลือกตาลงทำเหมือนต้องการนอน ระบายยิ้มออกมาก่อนที่จะเดินไปหยิบยา
เมื่อเดินกลับมาอีกครั้งก็เห็นที่อยู่บนเตยงนอนหลับตา แต่เปลือกตาขยุกขยิก ทำให้รุ้ว่ายังนอนไม่หลับแต่ต้องการหลบหน้าเขา"ฟางลุกขึ้นมากินยาก่อน"
"รู้นะว่ายังไม่หลับ ตื่นมากินยาเดี๋ยวนี้"
ใบหน้าหล่อยิ้มเจ้าเล่ห์"หว้า หลับสะแล้ว ถ้าลักหลับคงไม่เป้นอะไรหรอก ก็ในเมื่อเจ้าตัวหลับไม่รู้เรื่องอะไรแล้วนี้"ป๊อปปี้กลั้นหัวเราะเมื่อเห็นคนที่แลก้งหลับเริ่มอยู่ไม่สุข
"ทำอะไีดีละ เริ่มจากจูบก็แล้วกันจะทำแล้วนะ"พอพูดจบก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆตาคู่สวยที่ปิดอยู่ก็รีบลืมตาขึ้นั้นทีทั้นใด สองมือดันหน้าที่ก้มลงมาออก เสียงหัวเราะดึงขึ้นอย่างพึงพอใจที่แกล้งคนตัวเล็กได้
เมื่อรุ้ว่าถูกแกล้งจึงส่งสายจาเขียวปัดไปให้คนทีหัวเราะไม่หยุด จึงหันหน้าไปอีกทางอย่างแสนงอน
หัวเราะจนพอใจแล้วจึงหยุดเมื่อรุ้ว่าคงโดนงอนเข้าให้แล้ว"ฟาง หันมากินยาก่อนเร็ว"ฟางกลับเอาหน้าซุกลงบนหมอนด้วยท่าทางเหมือนเด็ก"เมียใครน๊า แสนงอนขนาดนี้"ยิ้มอย่างเอ็นดูกับท่าทางน่ารักนั้น
คนที่เอาหน้า.ุกลงกับหมอนจนหน้าแดงเถือกไปทั้งหน้าหันกลับมาตอบ"ไม่ได้งอน คุณเอายาวางไว้นั้นแหละเดี๋ยวฉันกินเอง"
"อ้าวไม่งอนปล้วทำไมไม่ลุกขึ้นมากินยาละ แล้วบอกแล้วไม่ใช่หรอห้ามแทนตัวเองว่าฉันหรืออยากโดนทำโทด"นํ้าเสียงทุ้มพูดข่มขู่นิดๆ
"ก็เดี๋ยวกันเองไง คุณป๊อปจะไปไหนก็ไปเถอะค่ะ" พูดอย่างไม่สนใจคำขู่ของชายหนุ่ม แม้ว่าในใจลึกๆก็อดที่จะหวาดกลัวไม่ได้ พอพูดจบก็โดนประกบจูบทันทีทันใดอย่างไม่ทันตั้งตัว
คนตัวสูงจูบอย่างดูดดื่ม เนิ่นนาน ดูดซับความหวานจนพึงพอใจให้หายคิดถึงตลอดครึ่งวันที่ไปเที่ยวเพราะมีเพียงใบหน้าของฟางเท่านั้นที่ลอบอยู่ในห่วงคำนึ่ง
ป๊อปปี้ดูแลฟางใหญ่เลยนะ ที่เมื่อก่อนนะเกลียดฟางเอาๆ เผลอรักเค้าหมดใจแล้วอะเส้55555
ป๊อปปี้ล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาโทร"เจฟเอารถมารับฉันเดี๋ยวนี้"พูดจบก้มลงอุ้มร่างบางไว้ในวงแขน
ฟางหันไปมองเคนตะที่ตอนนี้ยังนั่งบนพื้นด้วยท่าทางมึนงงอย่างห่วงใย "พี่เคนตะ"
"ไม่ต้องไปสนใจ แค่นั้นมันไม่ตายหรอก"เสียงเหี้ยมพุดขึ้นตัดบทอย่างหงุดหงิด พร้อมกับเดินไปขึ้นรถ
"คุณป๊อปจะไปไหนคะ รอหวายด้วยสิ"
"สามีภรรยาเข้าจะอยุ่ด้วยกัน อย่าเอาหน้าสวยๆของคุณไปเป็นส่วนเกินเลยเพราะมันคงดูไม่จืดเท่าไหร่หรอกนะ'พิมพูดเตื่อนด้วยความหวังดี
"ไม่จริง คุณป๊อปแค่ต้องกลับไปสั่งสอนภรรยาที่เขาไม่ต้องการการให้รุ้ว่าอะไรที่สมควรทำหากตากฟางแต่งงานแล้วแต่กลับไปเที่ยวกับผู้ชายคนอื่น ใครเห็นเขาจะคิดว่าคุณป๊อปโดนสวมเขานะสิ" "แล้วผู้หญิงที่เท่ยววิ่งตามสามีชาวบ้านโดยไม่อายไม่เกรงกลัวต่อบาปหรือคำครหานี่เขาเรียกว่าอะไรคับ คุณหวาย"เคนตะนไม่ได้ที่หวายมาต่อว่าและดูถูกฟาง
"แก..."หวายชี้หน้าเคนตะ
"พี่เคนตะเกินอะไรขึ้น แก้วเดินไปทำธุระแป๊แเดี๋ยว ทำไมหน้าถึงกลายเป็บแบบนั้นไปได้ แล้วฟางหายไปไหน"
"ไม่มีอะไรหรอก แค่หมาบ้าโมโหหึงเลยฟัดคนอื่นไม่เลือกเท่านั้นเอง"แก้วงงกับคำพูดของพี่ชายก่อนจะเปลี่ยนเป็นเข้าใจเมื่อเห็นแววตาเจ็บปวดของพี่ชาย
"สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเป็นเพื่อนป๊อปปี้ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรกับคุณฟางคะ"
"แก้วคะ ส่วนนี้พี่เคนตะพี่ชายของแก้วเอง" "คืนนี้ที่บ้านพักของป๊อปปี้มีปาตี้เล็กๆพิมอยากชวนคุณทั้งสองไปร่วมด้วยจะได้หรือป่าวคะ"
"อื้ม เราสองคนจะไปครับ "เคนตะตอบ เพราะด้วยใจลึกๆเขายังอยากเห็นหน้าฟางแม้ว่าตอนนี้จะรู้ว่าไม่มีสิทธิ์แต่ขอแค่ได้เฝ้ามองก็ช่วยให้เขาใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้
"คะเอาเป็นตกลงนะคะ งั้นเย็นนี้เจอกันคะ"พูดจบพิมก็เดินไปหาโทโมะที่รถ และเล่าให้โทโมะฟังเกี่ยวกับไอ้เพื่อนตัวดีที่หึงจนก่อเรื่อง และไปเที่ยวกันต่อที่วางแผนไว้โดยไม่สนใจคำโวยวายของวายทีอยากจะกลับบ้านไปหาป๊อปปี้
รถคันหรูแล่นมาจอดหน้าบ้าน ร่างสูงที่นั่งด้านหลังเปิดประตูเดินลงจากลงด้วยความรีบร้อนไม่รอให้ลูกน้องเปิดให้เหมือนปกติเดินอ้อมไปอีกทางที่ฟางนั่ง ตอนนี้เจ้าตัวกำลังพยายามลงจากรถด้วยตัวเองไม่เหลือบมองป๊อปปี้สักนิด
พยายามพยุงร่างด้วยเท้าที่ไม่เจ็บก่อนที่จะยื่นเท้าอีกข้างลงไปเบาๆ"โอ๊ย"ร่างบางเกือบทรุดลงไปบนพื้นถ้าไม่ได้มือแกร่งที่รวบเอวบางเข้าไปกอดไว่ช้ก่อน
"ทำไมไม่รอฮึ เท้าเจ็บแยยี้ยังทพชำเป็นเก่งอีกนะ"ก้มลงพูดเบาๆที่ข้างหู มองคนในอ้อแขนด้วยความหมั่นไว้ที่เจ้าตัวพยายามเอียงหัวออกห่าง
"ปล่อยนะฉันเดินเองได้" "พูดไม่เพราะเลย ใครใช้ให้พูดกับผัวแบบนั้น ระวังจะโดนทำโทดแบบเมื่อเช้าอีกนะ หรืออยากจะโดน"คนตัวโตแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ตาประกายพร้อมกับอมยิ้มนิดๆ "ไม่เคยมีจะมีก็แต่สามีที่เขาไม่เต็มใจจะเป็นจึงไม่จำเป็นจะต้องสนใจ ใครอยากทำอะไรก้ทำไปไม่ต้องสนใจกัน แล้วถ้าฉันอยากจะแทนตัวเองแบบนี้มันก็ดีแล้วนี่คะ คนอื่นเขาจะได้รู้ว่าเราสองคนเป็นคู่สามีภรรยาที่รอเพียงวันหย่ากันเท่านั้นคนของคุณจะได้ไม่เข้าใจผิด"
"ถ้าไม่ใช่แล้วที่ทำกันไปเมื่อคืนแล้วก็เมื่อเช้าเขาเรียกว่าอะไร ไหนบอกมาสิ ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน"
"ก็แค่อารมณ์ดิบของผู้ชายที่ต้องการปลดปล่อย ลแ้วบังเบิญฉันเป็นผู้หญิงที่อยู่ใกล้มือที่สุด ไม่มีค่ามีความหมายอะไร"
"ใครสอนให้พูดแบบนี้กันไม่น่ารักเลย บางครั้งผู้ชายก็ไม่ได้ทำไปเพราะต้องการระบายความใคร่เพียงอย่างเดียวหรอกนะ ฉันไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้ว เข้าข้างในกันเถอะ"พูดจบก็ก้มลงช้อนร่างบางพาเดินไปบนห้อง เดินไปวางหญิงสาวบนเตียง ก่อนจะก้มลงถอดรองเท้าที่ฟางใส่อยู่อย่างอ่อนโยนและไม่รังเกียจ
ตามองการกระทำของเขาอย่างสับสน ไม่รุ้ว่าเขากลังทำอะไรและคิดอะไรอยู่กันแน่
พอถอดรองเท้าเส็ดก็เดินออกจากห้องไปเอานํ้าแข็งมาประคบ เดินมานั่งลงบนพื้นข้างๆยกเท้าเรียวขึ้นมาไว้บนตักฟางรีบชักหนีทันทีที่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร มือแกร่งกลับยึดข้อเท้าไว้แน่พร้อมดุเบาๆ "อยู่นิ่งๆสิ"
"เดี๋ยวฉันทำเองก็ได้คะ"
"ฉันทำให้นี่แหละดีแล้ว ฟางทำเองจะไปถนัดอะไร"พูดจบก็ก้มหน้าลงทำงานตรงหน้าโดยไม่รู้ว่าคำพูดของเขาทำห้ฌธอใจเต้นแรงขนาดไหนน้อยครั้งที่เขาจะเรียกชื่อเล่นของเธอเหมือนกับว่าต้องการเว้นระยะห่างให้ชัดเจน นอกจากตอนที่อยู่บนเตียงเหมือนเมื่อคืน แต่เวลาที่เธอแทนตัวเองด้วยสรรพนามที่เหินห่างบ้างเขากลับเรียกชื่อเธออบอย่างสนิทสนม
ก๊อกๆๆๆ "สงสัยหมอมาแล้ว เปิดเข้ามาได้ครับ"ก่อนที่ร่างสูงจะจับเรียวไปวางไว้ที่นอนแล้วออกมาให้หมอเขามาตรวจอาการ
"เป็นอะไรมากหรือป่าวครับหมอ"
"คนไข้ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับสบายใจได้ แค่เท้าแพลงเดี๋ยวหมดจะจัดยาเอาไว้ให้และระวังไม่ให้คนใข้เดินมากๆ สักสองสามวันก็หายแล้วครับ"
"ขอบคุณครับ"
"ถ้าอย่างนั้นหมอขอตัวนะครับ"ตาคู่คมมองตามหมอที่เดินออกไปจากห้องจนประตูปิดลง จึงหันหน้าไปมองคนที่แอบมองเขาอยู่ตลอดเวลาเพราะคิดว่าเขาไม่รุ้ตัว เห็นร่างบางสดุ่งนิดๆก่อนที่จะรีบปิเเปลือกตาลงทำเหมือนต้องการนอน ระบายยิ้มออกมาก่อนที่จะเดินไปหยิบยา
เมื่อเดินกลับมาอีกครั้งก็เห็นที่อยู่บนเตยงนอนหลับตา แต่เปลือกตาขยุกขยิก ทำให้รุ้ว่ายังนอนไม่หลับแต่ต้องการหลบหน้าเขา"ฟางลุกขึ้นมากินยาก่อน"
"รู้นะว่ายังไม่หลับ ตื่นมากินยาเดี๋ยวนี้"
ใบหน้าหล่อยิ้มเจ้าเล่ห์"หว้า หลับสะแล้ว ถ้าลักหลับคงไม่เป้นอะไรหรอก ก็ในเมื่อเจ้าตัวหลับไม่รู้เรื่องอะไรแล้วนี้"ป๊อปปี้กลั้นหัวเราะเมื่อเห็นคนที่แลก้งหลับเริ่มอยู่ไม่สุข
"ทำอะไีดีละ เริ่มจากจูบก็แล้วกันจะทำแล้วนะ"พอพูดจบก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆตาคู่สวยที่ปิดอยู่ก็รีบลืมตาขึ้นั้นทีทั้นใด สองมือดันหน้าที่ก้มลงมาออก เสียงหัวเราะดึงขึ้นอย่างพึงพอใจที่แกล้งคนตัวเล็กได้
เมื่อรุ้ว่าถูกแกล้งจึงส่งสายจาเขียวปัดไปให้คนทีหัวเราะไม่หยุด จึงหันหน้าไปอีกทางอย่างแสนงอน
หัวเราะจนพอใจแล้วจึงหยุดเมื่อรุ้ว่าคงโดนงอนเข้าให้แล้ว"ฟาง หันมากินยาก่อนเร็ว"ฟางกลับเอาหน้าซุกลงบนหมอนด้วยท่าทางเหมือนเด็ก"เมียใครน๊า แสนงอนขนาดนี้"ยิ้มอย่างเอ็นดูกับท่าทางน่ารักนั้น
คนที่เอาหน้า.ุกลงกับหมอนจนหน้าแดงเถือกไปทั้งหน้าหันกลับมาตอบ"ไม่ได้งอน คุณเอายาวางไว้นั้นแหละเดี๋ยวฉันกินเอง"
"อ้าวไม่งอนปล้วทำไมไม่ลุกขึ้นมากินยาละ แล้วบอกแล้วไม่ใช่หรอห้ามแทนตัวเองว่าฉันหรืออยากโดนทำโทด"นํ้าเสียงทุ้มพูดข่มขู่นิดๆ
"ก็เดี๋ยวกันเองไง คุณป๊อปจะไปไหนก็ไปเถอะค่ะ" พูดอย่างไม่สนใจคำขู่ของชายหนุ่ม แม้ว่าในใจลึกๆก็อดที่จะหวาดกลัวไม่ได้ พอพูดจบก็โดนประกบจูบทันทีทันใดอย่างไม่ทันตั้งตัว
คนตัวสูงจูบอย่างดูดดื่ม เนิ่นนาน ดูดซับความหวานจนพึงพอใจให้หายคิดถึงตลอดครึ่งวันที่ไปเที่ยวเพราะมีเพียงใบหน้าของฟางเท่านั้นที่ลอบอยู่ในห่วงคำนึ่ง
ป๊อปปี้ดูแลฟางใหญ่เลยนะ ที่เมื่อก่อนนะเกลียดฟางเอาๆ เผลอรักเค้าหมดใจแล้วอะเส้55555
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ