Love You My Bad Guy ll❤

9.8

เขียนโดย ยัยหมูปิ้ง

วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.27 น.

  19 Bad Guy
  262 วิจารณ์
  48.03K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2564 17.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

14) อาจจะดี

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

“นายอาจจะเหมือนกับใครหลายๆ คนในชีวิตฉันนั่นแหละ” ฉันบอกก่อนจะผลักไหล่เขา

ออกห่างไป

         ในขณะที่ป็อบกำลังอยู่ในช่วงที่ตกตะลึงอยู่ไม่น้อย อีกไม่นานฉันก็จะลืมเขาผู้ชาย

คนนี้มฉันจะลืมเขาให้หมดไปจนไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยวเดียวไว้ให้เขา

“ทุกคนหายไป จางหายจากฉันไป” ฉันบอกแล้วก็ห้ามน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

        เขาไม่รู้ มองไม่เห็นเลยสินะ ที่เห็นหน้าของฉันตอนนี้แล้วมองไม่เห็นความทุกข์ทร

มานของฉันมันเป็นความทุกข์ ความเศร้า เสียใจ ทุกคนทำไมถึงทำร้ายอละค่อยๆ ทิ้งให้ฉัน

อยู่ตามลำพังอย่างเดียวดาย

“เธอก็เห็นหน้าฉันอยู่นี่” เหมือนกับว่าป็อบปี้จะทำอะไรไม่ถูก เมื่อเห็นสีหน้าของฉันตอนนี้

       ฉันปล่อยให้น้ำตาไหลออกจากดวงตา ไม่คิดปิดบังอำพรางใดๆ ไม่สนใจว่าเขาจะมอง

ฉันอ่อนแอหรือเปล่า ตอนนี้ฉันไม่ไหวแล้ว ฉันเหมือนกำลังจะหมดลมหายใจตายไปอยู่แล้ว ไม่

มีใครมองเห็นฉันเลยหรือยังไง

“ใช่ ฉันเห็นหน้านาย แต่นายไม่เห็นหัวใจของฉัน”

       ฉันบอกและทุบหน้าอกตัวเองแรงๆ บอกให้เขารู้ไปเลยว่าตอนนี้เขากำลังทำให้ฉันเจ็บ

มากแค่ไหนแล้วเมื่อไหร่ที่พวกเขาจะปลดปล่อยให้ฉันเป็นอิสระจากวังวนที่ไม่รู้จักจบนี่เสียที

“ฉันไม่รู้ว่านายทำทุกเรื่องแบบนี้ไปทำไม นายทำร้ายฉัน ทำให้หัวใจของฉันเป็นแผล มันทรมาน

รู้ไหมป็อบปี้!!”

         ฉันร้องไห้เสียงดัง และอดทนไม่ไหวเข้าไปทุบอกของเขาแรงๆ ด้วยความสับสน

         น่าแปลกที่เขาไม่ถอยหนีหรือผลักฉันออก เขายังคงยืนนิ่งเป็นเหมือนหุ่นโชว์สองตัวนั้น

ปล่อยให้ฉันระบายเรื่องราวในใจที่ยังคงค้างจนทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดทุกที ที่นึกถึงมัน

“ฉันรักนาย ใช่! ฉันรักนายจนจะบ้าอยู่แล้ว นายไม่เห็นเหรอ!!”

         ฉันตะโกนร่ำไห้ จับคอเสื้อของเขาไว้แน่นก่อนจะเขย่าไปมา ฉันมองหน้าเขาไม่ชัด

เพราะหยาดน้ำตาบดบังการมองเห็นของฉันไปซะหมด

        เมื่อได้ร้องไห้สักครั้งแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะหยุดไม่ได้ ฉันไม่สามารถจะห้ามน้ำตาของตัว

เองได้เลย มันดูงี่เง่าและน่าสงสารตัวเองเหลือเกิน

“บอกสักคำสิ บอกว่าไม่รักฉันแล้ว บอกมาสิว่าฉันน่ารำคาญตรงไหน!!”

        ฉันไม่สามารถห้ามความรู้สึกสับสนและเจ็บปวดนี้ได้อีกต่อไป ฉันร้องไห้และทรุดตัวรูด

ลงกับพื้น

       ป็อบปี้คงจะสมเพชฉันอยู่ไม่น้อยที่จู่ๆ ฟางที่อวดเก่งทำเป็นเข้มแข็งตลอดเวลาคนนี้

หมดแรงและทรุดลงแทบเท้าของเขา หากเขาก็ยังไม่ถอยห่างออกไป เขายังคงยืนอยู่ที่เดิม

นิ่งเงียบและไม่พูดจาอะไรสักคำ

“ฉันให้นายหมดทุกอย่างที่ฉันมี ฉันทุ่มสุดตัวเพื่อรั้งนายเอาไว้ ฉัน อึก… ฉันรักนายจริงๆ!!”

          และสุดท้ายฉันก็พ่ายแพ้เขาเหมือนเดิม ตอนที่เรายังคบกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่เราทะ

เลาะกันและฉันปิดปากเงียบไว้ ไม่นานเขาจะเข้ามากอดฉันไว้ ถามฉันว่าทำไมถึงโกรธเขา

และตอนนี้รู้สึกยังไงกับเขาอยู่

          น้ำตาที่ไหลรินลงมาบอกให้รู้ว่าตอนนี้ฉันกลายเป็นเด็กผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง คนที่

ไม่ทิฐิไม่มีศักดิ์ศรีเพียงแค่เขากอดฉันเอาไว้ ถามว่าเขาหรือฉันที่เป็นคนผิดและถามว่ายังรัก

เขาอยู่หรือเปล่า ฉันก็จะร้องไห้กอดเขาตอบและบอกว่ายังรักเขาเหมือนเดิม และเราก็จะ

หายโกรธกัน

         แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป… ป็อบปี้ไม่ได้อ่อนโยนแบบนั้น แต่ฉันยังคงอ่อนแอ

อยู่เช่นเดิม เขาทุบเปลือกนอกที่ฉันหุ้มตัวเองเอาไว้ ทลายมันลงมาอย่างง่ายดาย

“บอกมาสิ บอกเหตุผลฉันมาสักคำว่าทำไมถึงอยากเลิกกับฉันนายรักคนอื่นอยู่หรือเปล่า

บอกฉันเท่านี้แหละ”

         ฉันบอกก่อนจะหมดแรงปล่อยมือจากชายเสื้อของเขาในที่สุด ฉันอยากจะกอดเขา

อยากอยู่กับเขามันผิดเหรอ ทำไมเมื่อไหร่ที่ฉันกำลังมีความสุข ทุกคนต้องมาทำร้ายฉันแบบ

นี้ด้วย

“เธอยังรักฉันอยู่หรือเปล่า”

        ป็อบคุกเข่าลงมา และเชยคางให้ฉันมองหน้าเขา

        ฉันพยักหน้าให้เขาทั้งน้ำตา รู้สึกสมเพชตัวเองไม่น้อยที่ต้องมาสารภาพแบบนี้ แต่ฉัน

ไม่เคยโกหกเขาได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ก็ตาม หรือว่าจากนี้ต่อไป ไม่เลยจริงๆ

“ฉันขอโทษ…” ฉันร้องไห้สะอื้อนกว่าเดิมจนตัวหอบโยนไปหมด ฝ่ามือหน้าอบอุ่นของป็อบ

แนบลงที่กลางหลังของฉัน นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ฉันกลับไปเป็นทาสของเขาเช่นเดิม

       ทาสที่ไร้ศักดิ์ศรีและแสนโง่งี่เง่า

“นายรักจินนี่หรือเปล่า” ฉันกัดฟันถามเขาไป รู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกเขาเหยียบย่ำหัวใจเล่น

“ไม่เลย ฉันไม่ได้รักจินนี่เลย” เมื่อเขาตอบมาแบบนั้น ฉันก็อยากจะถามเขาต่อว่าเขายังรักฉัน

อยู่หรือเปล่า

        แต่ถ้าฉันได้ยินคำนั้นตรงๆ ฉันจะไม่ร้องไห้มากกว่านี้อย่างนั้นเหรอ จะไม่เสียใจมาก

กว่านี้เหรอ สุดท้ายแล้วฉันก็ยอมรับกับตัวเองเงียบๆ ว่าไม่อยากรู้คำตอบนั้นแค่เขาไม่รักจินนี่

มันก็พอแล้ว เขาไม่เคยโกหกฉัน เท่าที่รู้จักผู้ชายคนนี้มาคำพูดของเขานั้นเชื่อถือได้ทุกคำ

“ฉันจะไม่ถามว่านายรักใคร ฉันจะไม่ถามว่าตอนนี้เราคบกันแบบไหน ขออย่างเดียว อย่าทำร้าย

ฉันอีกเลย ฉันบอกนายตรงนี้เลยว่าฉันยังรักนายอยู่ เหมือนเดิม”  ฉันบอกแล้วก็ร้องไห้สะอึกสะ

อื้นหายใจแทบไม่ทัน และลมหายใจขาดเป็นห้วงๆ

         ป็อบสบถออกมาคำหนึ่ง จากนั้นเขาก็ดึงฉันเข้าไปกอดแนบอกของเขา น้ำตาของ

ฉันไหลเมื่อรู้สึกถึงความอบอุ่นจากเขาในที่สุด

       แม้จะเป็นการหลอกลวงเสแสร้ง แต่ฉันก็จะขอหลอกตัวเองอย่างนี้ต่อไป ไม่เป็นไร ช่างมัน…

“ฉันไม่ได้รักจินนี่เลย จริงๆ”  เขาพึมพำเสียงแผ่ว ลูบหลังฉันอย่างอ่อนโยน

“ฉัน…” ป็อบทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา นอกจากกอด

ปลอบฉันที่ยังร้องไห้เหมือนเด็กๆ อยู่เช่นเดิม

“ฉันเสียใจจริงๆ”

 

            ฉันยังไม่แน่ใจว่าตอนนี้ป็อบปี้กำลังคิดทำอะไรอยู่ ฉันกลับหอพักตอนที่เปลี่ยน

เวรดูแลดาวสีทองกับพิม และจะกลับมาอีกวันเมื่อสลับสับเปลี่ยนกับพิมแล้ว ป็อบแวะมาที่นี่บ้าง

เป็นบางครั้ง และเราก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ผ่านมาเลย ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลที่ขาเลิกกับฉัน หรือ

ใครที่ใจร้ายกับฉันกำลังจะกลับมา

        เขานิ่งพอๆ กับฉันที่เงียบลง

        และที่ฉันไม่เข้าใจที่สุดเห็นจะเป็นการที่เราอยู่ด้วยกันที่คอนโดห้องนี้ กุญแจชุดเดียวกัน

และหมอนใบเดียวกัน

        วันนี้ป็อบตื่นก่อนฉัน เขากำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ และฉันก็ยกมือขึ้นมาขยี้ผมตัวเอง

ด้วยความไม่เข้าใจสถานภาพของเราสองคนในตอนนี้

        ป็อบออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ล่อแหลม ทั้งตัวของเขามีเพียงบ็อกเชอร์และกาง

เกงยีนชีดๆโหลดๆที่แถมจะหลุดออกจากเอวของเขาหยดน้ำที่เกาะพราวไปทั้งตัวนั่นไม่ได้ทำ

ให้ฉันตื่นเต้นกับสรีระของเขาแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นแผลอกที่กำยำซิกแพ็กที่แม้จะไม่เป็น

กล้ามใหญ่แต่ก็เรียงตัวได้สวยเหมือนคนสุขภาพดี

         รวมไปถึงริมฝีปากบางเฉียบที่แดงระเรื่อ จมูกโด่งได้รูป และดวงตายาวรี่ที่ดูเอาเรื่อง

ของเขา แน่ละ… ฉันไม่ได้ตื่นเต้นกับภาพกึ่งเปลือยของผู้ชายที่หล่อและเช็กชี่ตั้งแต่หัวจดเท้า

อย่างป็อบปี้อีกต่อไปแล้ว

        เพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะว่าฉันเห็นภาพนี้มาเกือบอาทิตย์หนึ่งแล้วนะสิ

“เธอไม่อาบน้ำเหรอ” ป็อบถามฉัน แต่ตายังดูรายการทีวีอยู่

        ฉันไม่ตอบและก้มหน้าลง ลมหายใจฉันเรี่มกลับมาเป็นปกติ หลังจากที่เลิกกับป็อบไป

ฉันคิดว่าฉันหายใจไม่ได้ลึกเท่านี้ เว้นแต่ว่าหัวใจของฉัน มันแปลกๆไปจากเดิมนิดหน่อย…

“นี่ เธอมีเรียนตอนเช้าเหรอ”

        เขาถามช้ำ และคราวนี้หันหน้ามามองฉันด้วย

“ไม่ละ ฉันมีตอนบ่าย” ฉันบอกแล้วล้มตัวลงนอนอีกครั้ง

        เพราะเขาฮัมเพลงในห้องน้ำนั้นแหละ เลยปลุกให้ฉันตื่นขึ้นมานี่ยังไงล่ะ

“นี่ใจคอจะไม่หาอาหารเช้าให้ฉันทานเลยเหรอ เธอเป็นผู้หญิงจริงๆหรือเปล่าน่ะ” ป็อบปี้ทำ

เสียงขำๆและฉันก็ต้องลุกขึ้นมามองหน้าเขาอีกครั้ง

        ฉันอยากถามว่า แล้วทำไมฉันต้องมาทำอาหารให้เขาด้วย เราเป็นอะไรกันเหรอ แต่สุด

ท้ายฉันก็ถอนหายใจออกมาอย่างปลงตก เดินไปยังห้องครัวตามที่เขาขอมา

        ฉันเทชีเรียลลงจานงียบๆ ป็อบตีมือฉันทีหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าไปทางเจาไฟฟ้าแทน ฉัน

สูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เมื่อเห็นสีหน้าของเขาชอบใจเหลอเกิน ที่ทำให้ฉันอารมณ์เสียแต่เช้าแบบ

นี้นะ

“นายนี่น่ะ” ฉันพึมพำด้วยความหงุดหงิดเบาๆ ก่อนจะเดินไปทำมื้อเช้าให้เขาแทน

         เขารู้ว่าฉันทำอาหารเป็น…ชึ่งมีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้

“ฉนมีเรียนตอนเช้า และต้องใช้พลังงานมากด้วย ดั่งนั้นเธอต้องทำอาหารที่ฉันอิ่มไปจนถึงเที่ยง

โอเค้” 

       เขาพูด กดปลายจมูกลงที่แก้มของฉัน ทำให้ฉันเบี่ยงหน้าหนีและตวัดสายตามองเขา

อย่างฉุนๆ

“ถ้าไม่อยากถูกกระทะลวกแขน รบกวนช่วยถอยไปไกลๆ”

       ฉันบอกและชักสีหน้าใส่เขาไปด้วย

“ก็ได้ รีบๆ หน่อยนะ พอดีว่าฉันหิวมากเลย” ป้อบยังแกล้งฉันเล่น ไม่ว่าฉันจะทำสีหน้าไม่พอ

ใจให้เขาแค่ไหน

       เขาแกล้งจูบและใช้ปลายลิ้นเลียที่ริมฝีปากล่างฉันช้าๆ เหมือนจะยั่วให้ฉันโมโห แล้วถอย

กลับไปตั้งหลักเมื่อฉันยกตะหลิวเหมือนจะฟาดเขาจริงๆ

“โอเค ฉันไม่กวนแล้วน่า รีบๆ หน่อยแล้วกันนะ ฉันมีเรียนตอนเช้า” สุดท้ายผู้ชายที่ทำให้ฉัน

ทั้งเหนื่อยทั้งหนักใจก็ถอยห่างออกไปจนได้

        ขอบใจจริงๆ ป็อบปี้

“แล้วจะกลับกี่โมง ฉันจะได้เข้ามาหา” เมื่อฉันยกถาดอาหารเช้าไปให้เขาที่กำลังติดกระดุมเสื้อ

เข็เอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง

“ไม่แน่ใจ แล้วนายไม่มีธุระที่อื่นเหรอ” ฉันถามแล้วก็ถอนหายใจ

        ฉันรู้ว่าเขายังติดต่อพวกโยและยังเล่นเกม Rabbit Doubt นั่นอยู่ เพียงแต่ม่แน่ใจว่า

เขาเอาตัวจินนี่ไปแลกกับการมีชีวิตต่อหรือเปล่า ถ้าหากว่าเขาเป็นกระต่ายและถูกหมาป่าจับกินไป

แล้ว

“ไม่มีนี่ มีพรุ่งนี้” ป็อบปี้พูดแล้วยกซุปขึ้นมาทานเงียบๆ

          ฉันอยากจะถามเข้าใจแทบขาด ว่าการที่เขามาอยู่กับฉันนี่ เขาเว้นวันอยู่กับจินนี่หรือเปล่า

คิดแล้วก็อยากจะร้องไห้ และสมเพชตัวเองอย่างบอกไม่ถูก

“แล้วเจอกันนะ” ป็อบบอก เขาลุกขึ้นออกจากเก้าอี้หลังจากที่ทานเมื่อเช้าเรียบร้อยแล้ว

“ฟาง ทำหน้าดีๆ หน่อยได้มั้ย ไว้ใจฉันอีกครั้ง ได้รึเปล่า…”

Poppy Talks…

        วันนี้เป็นอีกวันที่ผมกลับมาที่คอนโดของฟาง แม้จะรู้ว่าตอนนี้เธอยังไม่กลับมาก็ตาม เวลา

ที่อยู่กับเธอ ผมรู้สึกผ่อนคลายสบายใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับคนอื่น เธอไม่เหมือนใคร และม่มีใคร

เหมือนเธอ

       ตอนนี้ผมรู้สึกหนักใจพร้อมๆ กับโล่งใจที่อย่างน้อยเธอก็ออกจากเกมRabbit Doubt

แล้วผมไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น และกวินเป็นแฟนจริงๆขอองเธอหรือเปล่าเอาเถอะ ตอนนี้เธอ

อยู่ในสายตาของผมอีกครั้ง ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้วละ

“วันนี้ไม่มีอะไรใช่มั้ย”

       ผมโทรถามโทโมะเพื่อนที่อยู่คณะเดียวกัน เมื่อรู้ว่าหมอนั่นไปคลับตั้งแต่เมื่อคืนและเพิ่งกลับ

เข้าห้องในตอนเช้า

(อื้อ ตอนนี้หมาป่าตายไปสองตัว) โทโมะพูดเสียงงึมงำเหมือนม่อยากจะพูดอะไรกับผมตอนนี้ทั้ง

นั้น

        ผมหัวเราะเบาๆยกมือขึ้นคลึงท้ายทอยม่มีแมสเชจจากโยชินั่นแสดงว่าผมยังไม่ถูกใคร

ฆ่าตาย ดังนั้นผมก็เลยรอรอบต่อไป ไม่แน่ใจว่าจะชนะหรือเปล่าแต่ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรต่อไป อยาก

จะให้มันจบเร็วๆเพราะผมก็ไม่อยากเล่นเกมนี้อีกต่อไปแล้ว

“แกไหวมั้ยเนี่ย แล้วคืนนี้จะบุกหอของวันยูหรือเปล่า สาวๆ วันยูน่ารักนะ” ผมแกล้งหยอก ก่อนจะ

ปลดนาฬิกาข้อมือวางไว้ที่โต๊ะทำงาน

(ชิ! ยัยผู้หญิงวันยูนะเหรอ คอยดูเหอะ แม่ง ยัยนั่นเอาโคมไฟฟาดหัวฉัน!!) และแล้วโทโมะก็

แผดเสียงหงุดหงิดออกมาให้ผมรู้จนได้ ว่าตอนนี้หมอนี่กำลังหัวเสียเรื่องอะไรอยู่

          เพื่อนคนอื่นๆบอกว่าตั้งแต่กลับมาจากบุกหอวันยูหมอนี่ก็อารมณ์เสียตลอดเวลา ใคร

ถามก็ไม่ตอบ ได้แผลที่หางคิ้วมาด้วย อันที่จริงผมคิดว่าหมอนี่ไปมีเรื่องกับใครมาซะอีก แต่นึก

ไม่ถึงว่าไปถูกสาวๆจากวันยูฟาดหัวมาซะอย่างนั้น

          พูดเรื่องนี้ก็คิดไปถึงวันนั้น วันที่ไปบุกหอพักของวันยูที่ห้องของฟาง ผมก็เกือบจะตก

ระเบียงตายแล้วเหมือนกัน ดีที่ผู้หญิงห้องหนึ่งใจดีให้ผมแอบโดยที่ไม่ได้บอกการ์ดประจำหอ

เหมือนฟาง ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าหล่อนทำไปทำไม อาจจะเป็นเพราะหน้าตาของผม อะไรทำนอง

นั้น…

“งั้นเหรอ งั้นแกก็นอนเถอะ เดี๋ยวงานจะส่งเมลไปให้แล้วกัน”

       ผมบอก ก่อนจะเดินไปเปิดแลปท็อปของฟางเพื่อจะทำงานให้เสร็จ แล้วก็คิดว่าจะ

ออกไปหาอะไรทานกับฟางตอนเย็นๆ

(Thank, see you Pop!)

“see you, Tomo!” ผมบอกเพื่อนแล้วกดตัดสายทิ้งไป

          หลังจากนั้นผมก็ทำงานไปด้วย พร้อมกับชำเลืองดูหุ่นโชว์ชุดที่ผมตัดด้วยด้วยตัวเอง

ที่ยังคงอยู่ในห้องของฟางด้วยความรู้สึกแปลกๆ

          ทำไมเธอเอาตัวเข้าไปเสี่ยงแลกกับการบาดเจ็บนั่น ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไหม้ไปแล้ว ไม่อาจ

จะเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว ผมคิดอย่างไม่เข้าใจก่อนจะดึงสติความคิดกลับมาทำงานต่อ

          หลังจากที่นั่งหลังขดหลังแข็งแล้ว ผมก็พาตัวเองไปนอนที่เตียงและหลับไปจนกระ

ทั่งตอนเย็นเสียงเปิดปิดประตูทำให้ผมรู้ว่าตอนนี้ฟางกลับมาแล้ว วันนี้เธอไม่ค้างที่หอแฮะ ปกติ

เธอจะกลับมาค้างที่นี่คืนเว้นคืน แต่วันนี้ดูแปลกๆ หรือเธอจะคิดถึงผม

        ผมคิดเข้าข้างตัวเองก่อนจะหลุดยิ้มด้วยความสงสารตัวเองนิดหน่อย

        ไม่นานเมื่อล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแล้ว ผมก็พาตัวเองออกไปข้างนอกเห็นว่าฟาง

กำลังหาน้ำดื่มจากในตู้เย็น

‘ท่าทางเหนื่อย’ ผมคิดก่อนจะขยับเท้าเข้าไปซ้อนหลังของเธอ สอดแขนเข้าไปที่เอวเล็กที่

ผมกอดได้กอดสองรอบ จรดปลายจมูกลงที่ขมับเธออย่างคิดถึง

         ใช่… ผมไม่โกหก ผมคิดถึงเธอตลอดเวลา

“เหนื่อยมั้ย วันนี้อยากทานอะไรเดี๋ยวพาไปเลี้ยง” ผมบอกก่อนจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น

อีกนิดแต่ไม่นานก็นิ่วหน้าเพราะรู้สึกว่ากลิ่นน้ำหอมของเธอแปลกไป ผมผละออกและเธอก็หันมา

มองหน้าผม

        ริมฝีปากของผมขยับเป็นชื่อของเธออัตโนมัติ เมื่อเห็นเส้นผมสีบอรนทองกับดวงตาคู่

นั้น เส้นผมที่ยาวพอๆ กับของฟาง แต่ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ฟาง

“โฟร์…”

“จำฉันได้อยู่เหรอป็อบปี้… คิดถึงฉันรึเปล่า” โฟร์พูดก่อนจะยิ้มกว้างและวางขวดน้ำไว้บนตู้เย็น

จากนั้นเธอก็ขยับตัวเข้ามาชิดและโอบเอวของผมเอาไว้แน่น

“ฉันคิดถึงนาย คิดถึงจริงๆ เลย ม่อยากเชื่อว่านายจะอยู่ที่นี่”

         เธอพูดเสียงสดใสและแนบหน้าลงที่หน้าอกของผม

“หัวใจนายเต้น…” เมื่อเธอกำลังพูดผมก็ผลักเธอออกห่างไป

“เธอต้องการอะไรโฟร์” ผมถาม และรู้สึกถึงเรื่องไม่ดีกำลังคืบคลานเข้ามาเงียบๆ

“นายคิดว่าฉันต้องการอะไรละ ป็อบปี้…”

End Poppy Talks…

         วันนี้เป็นอีกวันที่ฉันหงุดหงิด เพราะว่าเป็นวันที่ไอ้พวกผู้ชายห่ามๆ จากออลยูเข้ามาปั่น

ป่วนที่หอของฉันอีกแล้ว ฉันต้องมานั่งหลบที่ห้องน้ำก่อนจะนอนหลับเป็นตายไม่รู้เรื่องเลยว่ามีใคร

บุกเข้าห้องรึเปล่า ส่วนพิม… ฉันเห็นแวบๆว่าเธออยู่กับกร๊าฟ

          ความสำพันธ์ของสองคนนัน้มันยังไงแน่นะ ฉันนึกสงสัยว่าพิมเป็นอะไรกับกร๊าฟกัน

แน่ เอาเถอะ… ฉันไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับกร๊าฟอีกต่อไปแล้ว พอกันทีเถอะ

          ฉันกลับถึงห้องราวๆทุ่มหนึ่ง เหวี่ยงกระเป๋าไปส่งๆ ไม่สนว่ามันจะไปตกที่ไหนกันแน่

แล้วเดินไปที่ห้องครัวหาดื่มน้ำดับกระหาย

“ป็อบไปไหนนะ” ฉันพึมพำเบาๆ ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบห้อง

          และเจอว่าป็อบปี้กำลังแต่งตัวจะออกไปข้างนอกพอดี เห็นนาฬิกาเรือนนั้นและแจ็ก

เก็ตสีดำตัวโปรดของเขา ฉันก็รู้ได้ทันทีว่าเขากำลังจะไปนานและอาจจะกลับช้า หรือไม่ก็ไม่

กลับมาเลย…

“นายจะไปไหน” ฉันถามจะเตียมจะดึงเสื้อของเขาไว้

           แต่ป็อบปี้ปลายตามองมือฉันและดึงมือของฉันออกจากชายเสื้ออย่างง่ายดาย อีก

แล้วนะ อีกแล้วนะป็อบปี้… นายกำลังทำให้ฉันร้องไห้อีกแล้ว

“ฉันมีธุระ โทษทีนะ” เขาบอกและเดินออกไปไม่หันมามองหน้าฉันเลยแม้แต่แวบเดียว

“ป็อบปี้!!” ฉันเรียกชื่อเขาไว้ ทำท่าจะยื้อเขา แต่ว่าป็อบปี้สบัดมือหนีจากฉัน ท่าทางของเขา

เหมือนกันตอนนั้น ตอนที่บอกเลิกฉันอย่างไม่ไยดี…

“เดี๋ยวฉันมา” ป็อบปี้พูดแล้วเปิดประตูออกจากห้องไปเงียบๆ

“เดี๋ยวของนายน่ะ เมื่อไหร่กัน อีกชั่วโมงหนึ่ง อีกคืนหนึ่ง อีกวันหนึ่ง หรือว่า ปีหนึ่ง…” ฉันพึมพำ

พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอีกครั้ง

        นายกำลังล้อเล่นอะไรกับฉันอยู่เหรอ ป็อบปี้…

 

PF PF PF PF PF PF PF PF

มาแล้วจ้าตอนใหม่ เฮ้อ ยังไง

ฟางก็ลืมป็อบไม่ได้แต่อีป็อบก็

ยังทำร้ายฟางไม่หยุดย่อน แงแง

เค้าจะให้ฟางทำป็อบมันเจ็บยังไง

ดีT^T ตัวละครอีกตัวก็มาแล้ว

ฟางต้องเสียใจอีกกี่ครั้งกันหว่า

ลุ้นไปด้วยกันเนอะ เม้นโหวต

ด้วยจ้าเพื่อเป็นกำลังใจในการ

จะอัพตอนหน้า งุงิ เจอกันตอนหน้า

นะ จุ้บๆ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา