Everything for u ได้ทั้งนั้น

9.9

เขียนโดย LoveIs

วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 19.21 น.

  13 ตอน
  33 วิจารณ์
  18.82K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 เมษายน พ.ศ. 2558 16.33 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) 1.เธอคือใคร?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1 : เธอคือใคร?

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"ติ๊งงงงงง" ขณะที่ป้อปปี้กำลังขับรถอยู่ ก็มีเสียงไลน์ดังเข้ามา เขาหันไปหยิบมาดู ทำให้ไม่ทันดูถนน จู่ๆก็มีสาวร่างเล็กวิ่งตัดหน้ารถเขาระยะประชิด เธอคนนั้นกรีดร้องอย่างตกใจ จนหมดสติไป  ป้อปปี้เบรกรถกระทันหัน เสียงล้อรถที่เสียดสีกับท้องถนน ดังไปทั่วบริเวณ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"เอาแล้วไง ไอ้ป้อปเอ้ยยย" ชายหนุ่มพูดกับตัวเองอย่างเซ็งๆ ก่อนที่จะลงไปดูอาการของหญิงสาวคนนั้น พอพลิกหน้าเธอขึ้นมา ป้อปปี้ถึงกับตะลึงกับความสวยใส น่ารักน่าหยิกของเธอ แต่ตอนนี้เขา ไม่มีเวลามาคิดเรื่องบ้าๆพวกนี้หรอก ชายหนุ่มรีบอุ้มหญิงสาวขึ้นไปบนรถแล้วมุ่งหน้าไปที่ โรงพยาบาลทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 "มึงจะเอาไงว่ะ ไอ้ป้อป" โทโมะเพื่อนสนิทของเขาถามป้อปปี้ที่ยืนเงียบไม่พูดไม่จา เพราะหลังจากป้อปปี้พาเธอคนนั้นมาส่งที่โรงพยาบาล เขาก็โทรตามเพื่อนสนิทของเขาคือ โทโมะ,แก้ว,เขื่อน ตามมาทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"กูก็ไม่รู้ว่ะ แต่กูคงต้องรับผิดชอบน้องเค้า" ป้อปปี้พูดเสียงเครียด ทั้งสามมองหน้ากันแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"นี่ๆ เพื่อนป้อปครับ อย่าเครียดเลย เดี๋ยวน้องเขื่อนพาไปเลี้ยงกาแฟ" เขื่อนพูดให้กำลังใจเขา ก่อนที่แก้วจะแซวเขื่อนทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"รีบเชียวนะ อีเขื่อนแตก ชั้นว่าแกเนี่ยแหละที่จะทำให้ไอ้ป้อปเครียดกว่าเดิม เขื่อนหันไปมองแก้วค้อนๆ เป็นประจำที่เขื่อนและแก้วอยู๋ด้วยกันแล้วถึงกับน้ำไหลไฟดับ เพราะทั้งสองหยอก,แซว,ด่ากันไม่หยุดเวลาเจอหน้ากัน นับว่าไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียวเชียว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

พลั่กกกกกก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ทันทีที่ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก ป้อปปี้ก็รีบพุ่งเข้าไปหาหมอทันที โดยที่โทโมะแก้วและเขื่อนตามไปติดๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"หมอครับ อาการของน้องผมเป็นยังไงบ้างครับ" ป้อปปี้ถามหมอทันทีเมื่อหมอเดินออกมา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"คือตอนนี้คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ แต่ว่าสมองของคนไข้ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก ทำให้ความทรงจำบางส่วนนั้นหายไป เพราะฉะนั้นคนไข้ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ถ้าไม่มีอะไรแล้วหมอขอตัวนะครับ" หมอยิ้มให้ป้อปปี้แล้วเดินออกไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"ใจเย็นๆนะเว้ยยย ไอ้ป้อป" โทโมะตบบ่าเพื่อนอย่างให้กำลังใจ ป้อปปี้อึ้ง! ถ้าเธอคนนั้นจำใครไม่ได้ เขาต้องดูแลเธอเหมือนในนิยายมั้ยนะ โอ้ยยย! คิดแล้วปวดหัว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"กูว่ากูเข้าไปดูน้องเค้าหน่อยดีกว่า" ป้อปปี้พูดแล้วเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินทันที

 

.............................................................

 

ป้อปปี้เดินเข้ามาในห้องฉุกเฉิน เขาเห็นสายระโยงระยางเต็มไปหมด ความรู้สึกผิดแล่นเข้ามาเต็มหัวใจ ถ้าเขาไม่มัวแต่ก้มหน้ากดโทรศัพท์ หญิงสาวคนนี้คงต้องมาเป็นอย่างนี้หรอก ป้อปปี้คิดอะไรซักพัก แล้วก้มหน้าลงนอนไปพักหนึ่ง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด" เสียงของหญิงสาวคนนั้นดังขึ้น จนทำให้ป้อปปี้ที่เดินฟุบอยู่ต้องตื่นขึ้นมาดูอาการหญิงสาวอย่างตกใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"คุณ คุณครับ เป็นอะไรรึเปล่าครับ" ป้อปปี้รีบเข้าไปปลอบฟาง ฟางตัวสั่นกอดป้อปปี้ด้วยความกลัว ป้อปปี้กอดปลอบเธอด้วยความสงสาร เป็นเพราะเขาคนเดียว ที่ทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"ไม่เป็นอะไรแล้วนะครับ" ป้อปปี้กอดปลอบฟางไว้ ฟางหยุดร้องไห้แล้วมองไปที่ป้อปปี้และมองที่เธอกอดเขาอยู่ ฟางสะดุ้งรีบถอนตัวออกจากเขาแล้วถอยหนีไปอีกมุมของเตึยง โดยที่ป้อปปี้มองตามอย่างงงๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"นี่นาย นายเป็นใครอ่ะ แล้วเข้ามาอยู่ในนี้ได้ไงอ่ะ" ฟางรีบวิ่งหนีไปอีกมุมของห้อง ป้อปปี้เห็นดังนั้นจึงรีบตามไปอธิบายให้เธอเข้าใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"นี่คุณ เดี๋ยวๆ คือมันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ" ป้อปปี้พยายามอธิบายให้เธอฟัง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"ไม่ใช่บ้าอะไรล่ะ นี่อย่าบอกนะว่านายจะทำไม่ดีไม่ร้ายกับฉันอ่ะ แล้วนี่นายเข้ามาในห้องชั้นได้ไง"

ฟางว่าเขาไม่หยุด โดยที่ป้อปปี้ทำหน้าเหนื่อยหน่าย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"นี่คุณ ลองมองสิว่านี่ไม่ใช่ห้องคุณแต่เป็นโรงพยาบาล" ป้อปปี้พยายามอธิบายให้เธอฟัง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"ฮะ ห้องพยาบาล ใช่ ต้องใช่แน่ๆ นาย นายจะทำไม่ดีไม่ร้ายกับชั้น แล้วชั้นก็สู้นาย นายเลยทำร้ายชั้นใช่มั้ย! นายนี่มันเลวจริงๆ ชั้น ชั้นจะฆ่านายยยยยยยยยย" ฟางว่าแล้วก็หยิบหมอนปาใส่ป้อปปี้ไม่ยั้ง แล้วไล่ตีป้อปปี้ทั่วห้อง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"นี่คุณ หยุดดดดดดดดดดดดดดด" ป้อปปี้หันมาหาฟางแต่ฟางสะดุดขาตัวเองล้มทำให้ทั้งคู่ล้มลงไปทับกันพอดิบพอดี ฟางมองหน้าป้อปปี้ชัดๆ ก่อนจะตะลึงในความหล่อของเขา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"บอกดีๆไม่ชอบใช่มั้ย เดี๋ยวจับกดซะเลย" ป้อปปี้มองฟางพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม ฟางเคลิ้มไปกับป้อปปี้ ก่อนจะชะงัก แล้วดันตัวเองออกมาจากป้อปปี้ ป้อปปี้ลุกขึ้นมามองฟางแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"อีตาบ้า คนอะไรหื่นชะมัด" ฟางตีเขาไปทีแล้วก้มหน้างุดด้วยความอาย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"นี่! คือเรื่องมันเป็นอย่างงี้นะ ผมอะขับรถชนคุณ จนคุณอะหมดสติไป ผมก็เลยพาคุณมาส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าสมองของคุณเนี่ย ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก ทำให้ความทรงจำบางส่วนหายไป ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดเลย ผมไม่หื่นขนาดบุกบ้านผู้หญิงแล้วจับปล้ำหรอก แต่ถ้าสวยๆอย่างคุณเนี่ย มันก็ไม่แน่น้าาา" ป้อปปี้ทำสายตาเจ้าชู้ใส่ฟาง จนฟางทุบเค้าไปอีกทีนึง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"นั่นสิ ชั้นถึงว่ามันเบลอๆงงๆ จำอะไรไม่ได้เลย นี่ชั้นความจำเสื่อมจริงหรอ โอ้ยยยยย อยากจะไปผูกคอตายใต้ต้นถั่วงอกจริงๆเล้ยยยย" ฟางพูดเเล้วตบหัวตัวเองเบาๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"นี่คุณ คุณลองนึกซิ ว่าคุณเป็นใครแล้วทำไมจู่ๆถึงวิ่งตัดหน้ารถผมอย่างงั้นน่ะ" ป้อปปี้ถามฟาง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"เดี๋ยวนะ คือมันเลือนลางมากอ่ะ ชั้นจำได้แค่ว่า......." ฟางพูดแล้วก็คิดถึงวันนั้น วันที่เธอวิ่งตัดหน้ารถป้อปปี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"ชะ ช่วยด้วย ใครก็ได้ ช่วยชั้นด้วย" ฟางพยายามตะเกียกตะกายเอาตัวรอดจากกลุ่มผู้ชายกลุ่มหนึ่ง

 

 

 

 

 

 

 

"ไม่มีใครช่วยหลอก น้องสาว หึหึ ไปเว้ยยย จัดการให้เรียบร้อย" ฟางอาศัยจังหวะที่ชายคนนั้นเผลอถอดหน้ากากปิดหน้าเขาออกมา แล้วต้องตกตะลึง เพราะนั่นเป็นคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี

 

 

 

 

 

 

"นาย....." ยังไม่ทันที่ฟางจะพูดอะไร ฟางก็ถูกชายคนนั้นตบหน้าอย่างแรง ฟางเตะไปที่เป้าของชายคนนั้น แล้วรีบวิ่งหนีออกมา จนถูกรถของป้อปปี้ชน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"นี่คุณลองนึกหน้าของคนที่มันทำร้ายคุณซิ" ป้อปปี้ถามต่อ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ฟางพยายามนึกหน้าชายคนนั้นแต่ว่านึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก จนทำให้ฟางปวดหัวขึ้นมาอย่างหนัก จนป้อปปี้ต้องให้เธอนอนพักไปก่อน ป้อปปี้มองเธอเครียด นี่แสดงว่ามีคนปองร้ายเธอถึงขนาดจะฆ่ากันเลยเหรอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"ฮะ ผู้หญิงคนนั้นถูกตามฆ่างั้นหรอ" ทั้งสามลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ทันที เมื่อป้อปปี้กลับมาเล่าเรื่องที่ฟางบอกกับเขา ทั้งสามมองหน้ากันแล้วกลืนน้ำลายเฮือก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"ชั้นว่าเราแจ้งตำรวจดีมั้ยว่ะ" เขื่อนพูดขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"เราแจ้งตำรวจไม่ได้นะ เพราะถ้าเราแจ้งตำรวจไอ้พวกคนร้ายมันก็จะรู้ด้วย ชั้นว่าตอนนี้เราอยู่เงียบๆไว้ก่อน ค่อยๆสืบกันไป ว่าใครที่เป็นคนทำร้ายเธอคนนั้น" ป้อปปี้พดแล้วเดินออกไป โดยที่ทั้งสามคนมองหน้ากันอย่างเครียดแทนเพื่อน

 

 

 

 

เอาเรื่องใหม่มาลงละ เป็นกำลังใจให้เราด้วยน้าา กดเม้น-โหวตกานเยอะๆนะเตง55555

จุ้บเหม่งที 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา