ผจญภัยในสุสานกษัตริย์ ตอน สุสานจิ๋นซี

-

เขียนโดย Lunalily

วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 09.49 น.

  11 บท
  3 วิจารณ์
  15.73K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 เมษายน พ.ศ. 2558 10.27 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6) ปากถ้ำเส้นทางลับ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

บทที่6

ปากถ้ำเส้นทางลับ

 

 

ผมถูกผลักให้เข้ามารวมกลุ่มกับเฮียที่นั่งอยู่ แต่เว้นระยะห่างออกมาหน่อย มองพวกอาลี่หางที่เดินไปมาภายในถ้ำ เหมือนพวกเขากำลังหาวิธีขุดเจาะก้อนหินถล่มเหล่านั้นอยู่ แต่ที่ผมแปลกใจมากที่สุดคือเฉินเหว่ยถิงมันมากับอาลี่หางได้ยังไง

พอเห็นแล้วก็เดือด "มึง หักหลังพวกกูหรอ" ผมถามน้ำเสียงเรียบธรรมดา แต่ในใจกำลังโกรธมันสุดๆ ไม่คิดเลยว่าเพื่อนจะหักหลังเพื่อนกันแบบนี้

เหว่ยถิงมันฉีกยิ้มมุมปาก นั่งลงยองๆตรงหน้าผม พูดกับผมว่า "ก็ฉันไม่คิดว่าพวกนายจะมาขุดดินกันจริงๆนี่  ใครๆก็รู้ว่าที่นี่เป็นเขตหวงห้าม ไม่คิดว่านายน้อยสกุลหลี่จะใจกล้าขนาดนี้" มันเหลือบมองเฮียฟาน แล้วก้มลงกระซิบกับผม "ฉันกลัวว่าพี่นายจะหักหลังนายตอนเข้าสุสาน เลยบอกอาลี่หางให้มาช่วย"

พอผมฟังแล้วก็งง เฮียนี่นะจะหักหลังผม ผมว่าไอ้คนที่หักหลังนี่น่าจะเป็นอาลี่หางมากกว่า ผมไม่เชื่อ ไม่เชื่อเด็ดขาดหมอนี่กำลังโกหกอยู่ เห็นอยู่กับตาว่ามันพวกเดียวกัน ผมไม่หลงกลเด็ดขาด

พอผมชักสีหน้าไม่เชื่อ เหว่ยถิงมันก็ถอนลมหายใจ แล้วพูดกับผมต่อ "ฉันพอรู้จักกับพวกวงในมาบ้าง ได้ข่าวว่าบริษัทสกุลหวงต้องการอะไรบางอย่างจากที่นี่ เขาว่าจ้างเฮียนายมา ประจวบเหมาะกับที่นายเจอบันทึกของเตี่ยนายพอดี ฉันอยากจะบอกเรื่องนี้ แต่ก็ไม่มีโอกาส ถ้าคุยกับนายตอนนั้นนายก็ไม่เชื่ออยู่ดี"

ผมฟังแล้วก็ไม่เข้าใจอีก เลยถาม "ว่าจ้างก็ส่วนว่าจ้างสิ แล้วเฮียจะทำร้ายฉันทำไม"

เหว่ยถิงมันทำหน้าเหนื่อย "มันก็จริง แต่นายก็คิดเอาแล้วกัน นายไม่เคยขุดดิน ไม่เคยคว่ำกรวย ที่นี่อันตรายไม่มีใครมาคอยเป็นห่วงนายหรอกนะ แล้วอีกอย่าง พอเข้าไปถึงเขาไม่หยุดแค่สุสานปีกนอกหรอก มีบางอย่างที่อยู่ในสุสานหลักที่เขาต้องเอาออกมา ถ้านายเป็นตัวเกะกะ นั่นคือเขาต้องกำจัดนาย"

"ถ้าอย่างนั้นเขาจะอธิบายเรื่องฉันกับเตี่ยยังไง"

"คนพวกนี้เตรียมการไว้ล่วงหน้าตลอด ไม่มีอะไรที่พวกเขาทำไม่ได้หรอก"

คำพูดของเหว่ยถิงทำให้ผมคิด ถึงผมกับเฮียเราจะสนิทกัน แต่นิสัยลึกๆนี่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี แถมเมื่อก่อนหน้า เฮียมันยังทำเหมือนจะทิ้งผมไว้ที่ริมน้ำตกอีก สรุปไม่ได้ว่าใครกันแน่ที่โกหก ผมเหลือบมองเฮีย รายนั้นหน้ายังบูดเป็นตูดอยู่ คงหงุดหงิดที่ถูกล็อกตัวเอาไว้

ผมถอนลมหายใจเฮือกหนึ่ง พยักหน้าให้เหว่ยถิงแล้วบอกมันว่า "อืมฉันรู้แล้ว แต่พวกนายฉันก็ไว้ใจไม่ได้เหมือนกัน" เหว่ยถิงชักสีหน้าใส่ ดูก็รู้ว่ามันไม่พอใจในคำตอบของผม ผมแอบยิ้มบางๆ แล้วบอกไปว่า "ในเมื่อมาถึงนี่แล้ว ฉันคงไม่กลับไปมือเปล่าหรอกนะ นายก็รู้นิสัยของนักโบราณคดี ถ้าไม่เห็นสิ่งที่สงสัย ชาตินี้ก็นอนตายตาไม่หลับ แล้วอีกอย่าง พวกนายเตรียมคนมามากขนาดนี้แสดงว่าเตรียมตัวลงสุสานเหมือนกันจริงไหมล่ะ"

"นายนี่แม่ง" เหว่ยถิงมันฮึดฮัดใส่ เดินกลับไปหาอาลี่หางคุยอะไรกันไม่รู้ สงสัยคงรายงานความประพฤติผม แต่ผมไม่สนใจ เฮียฟานพอเห็นพวกเราเลิกคุยกันก็เอาขาเขี่ย ถามผมว่า "คุยอะไรกับไอ้หมอนั่น"

ผมตอบกลับไปว่า "พวกเขาจะลงสุสาน" เฮียหน้าเสียขึ้นมาทันที

พวกเรานั่งรอเวลาว่าอาลี่หางจะทำอะไรพวกผม ดูจากสิ่งของที่วางอยู่ในถ้ำพวกเขาเตรียมการมาดีสมควร น่าจะมาถึงก่อนหน้าเรานานแล้ว ที่แท้คณะที่เจี้ยนหยีหมายถึงก็คือพวกเขา

อาลี่หางเดินเข้ามาหาผม เคาะหัวหนึ่งทีจนต้องคลำหัวป้อยๆ เขาไม่พูดอะไรแต่เดินไปทางเฮียฟาน นั่งลงตรงหน้าเฮียที่ตอนนี้ชักสีหน้าอยากจะฆ่าอาลี่หางเต็มแก่

"เอาล่ะ ไหนๆคุณก็ติดหนี้ผมสองล้านหยวนนะคุณอู๋ เมื่อคิดจะคว่ำกรวยก็ไปให้ถึงที่สุด หินถล่มพวกนี้คุณจะเอายังไง"

เฮียฟานหัวเราะหึหึ ดูถูกตาแก่นี่แบบเปิดเผย เขาลุกขึ้นยืนเหยียดตรง ตบไหล่ให้พี่ชินดงลุกขึ้นตาม หยิบกระเป๋าที่บรรจุดินปืนเอาไว้แล้วเดินหายเข้าไปในถ้ำ ผมสบตาอาลี่หางแวบหนึ่ง แล้วรีบลุกขึ้นเดินตามไปด้วย

พวกเราเดินเข้าไปในถ้ำ ประมาณสิบเมตรก็เห็นชั้นหินทับกันอยู่ ไม่รู้ว่ามันถล่มอัดแน่นอยู่ได้ยังไง แต่ร่องรอยน่าจะเกิดมาได้ประมาณร้อยปีแล้ว คนของอาลี่หางถอยออกจากบริเวณจนหมด ผมลองนับพวกเขาดูคร่าวๆมีประมาณหกเจ็ดคน มีคนสูงๆที่ผมเจอเขาหน้าบ่อนด้วย เขาชื่อหลินเหิงอี้ เหิงอี้คนนี้เป็นคนสนิทของอาลี่หาง เรียกอาลี่หางว่าพี่ใหญ่ เขามองหน้าผมแวบหนึ่งแล้วก็ยิ้มทัก แต่ผมไม่มีอารมณ์ที่จะตอบโต้เขาหรอกนะ เลยทำเมินใส่

เฮียจับก้อนหินพวกนั้น บอกกับอาลี่หางว่า "ขุดไม่ได้หรอกแข็งขนาดนี้ พวกคุณคงไม่กล้าใช้ระเบิดกันล่ะสิ"

อาลี่หางตอบกลับไปว่า "ไม่ใช่ไม่กล้า แต่กลัวว่าข้างในสุสานจะเสียหาย เราไม่รู้ว่าหลังก้อนหินพวกนี้เป็นอะไร ทำชุ่ยๆไม่ได้" เฮียพยักหน้าแล้วหันไปคุยกับพี่ชินดง รายนั้นกำลังนั่งบ่นอยู่กับก้อนหิน เหมือนกำลังสื่อสารกับมันอยู่

"นายทำได้ไหม"

"ระดับอย่างเสี่ยดงมีหรือจะทำไม่ได้ เอากระเป๋ามาสิ แล้วถอยไปห่างๆกันด้วย" เขาปัดมือไล่พวกเรา เลยต้องถอยออกมาหลายก้าว

พี่ชินดงวางระเบิดมือลูกเล็กเอาไว้ในซอกหินข้างล่าง จากนั้นก็เอาดินปืนโรยไปรอบๆบริเวณแต่ไม่เยอะมาก ผมคิดว่า ระเบิดแค่นั้นจะเอาอยู่หรือ พอพี่เขาจุดชนวนเกิดประกายไฟเปรี๊ยะๆ เขารีบวิ่งมาทางพวกเราแล้วอุดหูเอาไว้ แรงระเบิดไม่ดังมาก แต่ก็ทำให้ผนังถ้ำถึงกับสั่น เขาทำแบบนี้สองรอบก็เกิดรูขนาดใหญ่พอให้ร่างอ้วนๆของพี่แกมุดเข้าไปได้พอดีตัว

หันมายักคิ้วให้พวกผมแล้วพูดว่า "เห็นไหมล่ะจิ๊บๆ" คุยอวดผลงานตัวเองแล้วเดินเข้าไปดู อาลี่หางส่องไฟฉายเข้าไปข้างใน ภายในค่อนข้างมืดทึบ เหมือนเป็นอุโมงค์ทอดยาวเข้าไป ความสูงประมาณตัวผม ความกว้างเท่ากับผมกางแขนสองข้างออกจนสุด  

"เพื่อนคุณนี่เก่งไม่เบา" อาลี่หางชมแล้วปัดฝุ่นที่มือ พี่ชินดงยืดพุงยิ้มจนปากฉีกคุยอวดว่า "ของแค่นี้กล้วยๆ งานใหญ่กว่านี้ข้าก็ทำมาแล้ว" แต่คำอวดของเขาอาลี่หางไม่สนใจ เดินเลยออกมาทำให้พี่แกฮึดฮัดใหญ่

อาลี่หางเดินเข้ามาหาพวกเรา หันไปสั่งลูกน้องให้เก็บอุปกรณ์เฉพาะคว่ำกรวยเท่านั้น จากนั้นก็หันมาทางผมกับเหว่ยถิง บอกว่า

"หลังจากลงสุสานแล้ว ผมไม่รับประกันความปลอดภัยของพวกคุณหรอกนะ เดินตามหลังผมกับพี่ชายคุณเอาไว้ อย่าเดินสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ถ้ากลัวก็รออยู่ที่นี่ก็ได้"

ผมกับเหว่ยถิงมองหน้ากันเหมือนปรึกษา จากนั้นก็ส่ายหน้า ตอบอากลับไปว่า "ผมไม่รออยู่นี่หรอก จะตามลงไปด้วย"

ส่วนเหว่ยถิงตอบว่า "ผมเป็นหมอนะ จะปล่อยพวกคุณไปเฉยๆได้ยังไง ถ้าเกิดมีอะไรเกิดขึ้นก็ยังพอช่วยได้ทัน" อาลี่หางเข้าใจความหมายพยักหน้าตอบ ตบไหล่เหว่ยถิง แล้วเดินไปทางปากทางถ้ำหินถล่ม

บอกกับเฮียว่า "เดี๋ยวผมเข้าไปก่อน พวกคุณตามเข้ามา จากนั้นก็เป็นนายน้อย คุณหมอถิง ที่เหลือก็ตามมาเรื่อยๆ" อาลี่หางทำท่าจะมุด แต่เฮียฟานกลับดึงเขาไว้ก่อน

"เดี๋ยวสิ คุณเอาปืนผมคืนมาก่อน สุสานฉินสือหวงค่อนข้างอันตราย ถ้าเกิดมีบ๊ะจ่าง(ผีดิบ)ขึ้นมาจะทำยังไง น้องชายผมอีก คุณดูแลไหวหรือ คนของคุณคงไม่มานั่งห่วงชีวิตนายน้อยหรอกนะ" อาลี่หางมองผมแวบหนึ่ง แล้วยิ้ม เขาเห็นเฮียชักสีหน้าเครียดจริงจัง ก็พยักพเยิดให้เหิงอี้ส่งปืนสั้นคืนให้ ถึงยังไงเขาก็ไม่กลัวหรอกว่าพวกผมจะเล่นตุกติก กำลังคนของเขามีเยอะกว่าตั้งกี่คน ถ้าขืนเฮียเกิดอยากระเบิดหัวใครขึ้นมา มีแต่เฮียนั่นแหละที่จะโดนสอยเสียเอง

พอเฮียได้ปืนก็ยิ้มขึ้นได้หน่อย เก็บปืนสั้นใส่กระเป๋าเสื้อตัวเอง ก้มลงมุดตามอาลี่หางเข้าไปข้างใน เหว่ยถิงเพิ่งเคยลงสุสานเหมือนกันกับผม เกิดความสงสัย ถามว่า "บ๊ะจ่างคืออะไร ในนี้มีของกินด้วยหรอ" ผมตอบไปว่า "อืม" จากนั้นก็มุดตามก้นพี่ชินดงเข้าไป

   

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา