Crazy Daddy คุณพ่อจอมป่วนกวนหัวใจยัยตัวร้าย

10.0

เขียนโดย PrincessTK

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.47 น.

  3 chapter
  46 วิจารณ์
  7,947 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558 16.00 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3) Super Daddy

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

"ปะป๊า!!!"

 

 

 

"ปะป๊ากลับมาแล้ว เย้!!" สองฝาแฝดรีบวิ่งมาหาชายหนุ่มที่ยืนอึ้งกับสภาพห้องที่หน้าประตู จิ๊กซอว์ เลโก้ ชุดเล่นขายของ ตุ๊กตา หุ่นยนต์ และอีกสารพัดที่เขาพึ่งรูดบัตรจ่ายไป ยังไม่รวมของเล่นที่บรรดาหมอสุดฮอตซื้อมาประเคนให้ทายาทสองคนแรกของกลุ่มอีก ตอนนี้ห้องของเขา(และคุณหมออีกสี่คน) กลายเปนที่สมรภูมิของเล่นไปแล้ว

 

 

 

"นี่มันอะไรก๊านนนน" โทโมะโวยวายทันทีที่ตั้งสติได้

 

 

 

"อะไรหรอคะ" มายูมิน้อยถามตาแป๋ว

 

 

 

"ยังจะถามอีก ทำไมห้องเป็นแบบนี้ห๊ะ!" โทโมะแทบทรุด

 

 

 

"ก็พวกเราเล่นของเล่นงัยฮะ ปะป๊าไม่รู้จริงๆหรอ" โคลนนิ่งโทโมะตอบหน้าตาย

 

 

 

"มันใช่เวลามากวนตีนมั้ย!" โทโมะโวยวายใส่เด็กทั้งสอง

 

 

 

"ทำไมปะป๊าต้องว่าเราด้วยฮะ"

 

 

 

"พวกเราทำอะไรผิดคะ" สองแฝดเริ่มเข้าสู่โหมดดราม่า น้ำใสๆไหลออกมาจากตาคู่สวยที่แทบจะถอดแบบมาจากเขาเป๊ะๆ

 

 

 

"เฮ้! ร้องไห้ทำไม ไม่ร้องสิ หยุดเดี๊ยวนี้นะ!"

 

 

โทโมะลนลาน ถ้ายัยตัวแสบเข้ามาเห็นสภาพแบบนี้หล่ะก็ คงไม่พ้นตัวเขาเองนี่แหละที่จะได้ร้องไห้เป็นรายต่อไป

 

 

 

“ไม่ร้องนะๆ นี่ฉันไม่ได้โดดประชุมมาเพื่อมาหาเด็กร้องไห้หรอกนะ” โทโมะใช้มารยาหลอกเด็ก วิชามารที่ฝึกฝนมาจากการหลอกล่อสาวๆให้ตายใจ ซึ่งก็ได้ผลกับทุกคน มีอยู่คนเดียวเท่านั้นแหละที่ไม่ยอมใจอ่อนสักที (ก็คนที่คุณก็รู้ว่าใครนั่นแหละ)

 

 

 

“ก้...ฮึก..ก้ปะป๊าใจร้าย” มายูมิยังคงไม่หยุดร้องไห้

 

 

 

“โอเคๆ ฉันขอโทษ ดีกันนะๆ เอางี้ เรามาช่วยเก็บของเล่นกัน” มือหนาปาดน้ำตาให้เด็กน้อย

 

 

 

“ก็ได้ค่ะ” เด็กน้อยยอมหยุดร้องต่อโดยดี ก่อนที่สามพ่อลูกจะช่วยกันเก็บห้องที่กลายเป็นสมรภูมิย่อมๆในห้อง

 

 

 

“แล้วพี่แก้วไปไหนหล่ะ ทำไมอยู่กันสองคน” โทโมะถามขณะ โยนลูกบอลใส่ตระกร้า อุสาตโดดประชุมออกมาหายัยตัวแสบแต่กลับไม่อยู่ห้อง แถมยังทิ้งลูกของเขาให้อยู่ตามลำพังอีก เดี๊ยวเถอะ เมื่ออาทิตย์ก่อนยังด่าว่าเขาทิ้งลูกตัวเองอยู่แท้

 

 

 

“พี่แก้วพาพวกเรานอน บอกว่าถ้าตื่นมาให้เล่นกันไปก่อน พี่แก้วต้องทำงานฮะ” โมะยูตะตอบ

 

 

 

“อ่าว แล้วใครจะทำข้าวเย็นให้เรากินหล่ะ” ใช่ว่าทำอาหารไม่เป็นนะ ฝีมือทำอาหารของเขานี่ระดับเชฟ แต่ด้วยความขี้เกียจที่มีอยู่มาก เลยงอแงให้สาวน้อยทำให้กินอยู่ตลอดๆ

 

 

 

“ก็ปะป๊างัยฮะ”

 

 

 

“ตลกเถอะ ในตู้เย็นไม่มีอะไรเลย กว่าพวกนั้นจะกลับคงดึก เอางี้เราไปกินข้างนอกกัน” เนื่องจากพรุ่งนี้เขามีสอบ และเพื่อนทั้งสี่คงรู้งานว่าถ้ากลับคอนโดคงเจอสองแฝดมาป่วนแน่ๆ เลยหอบหนังสือไปอ่านกันที่ห้องสมุดมหาลัยตั้งแต่เช้า ส่วยแก้วใจก็ยังคงปั่นต้นฉบับที่ไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่ในห้องของตัวเอง ก็เหลือแต่เขาและลูกแฝดทั้งสองที่ยังไม่มีอาหารเย็นกิน

 

 

 

“ไปๆ เย้ ไปกินข้าวข้างนอก” สองแฝดดีใจยกใหญ่

 

 

 

“แต่ต้องสัญญาก่อนนะว่าจะไม่กวนฉันหลังจากกลับมา ฉันต้องอ่านหนังสือ พรุ่งนี้ฉันมีสอบ เข้าใจ๊?” ชายหนุ่มทำสนธิสัญญากับเด็กแฝด

 

 

 

“ตกลงฮะ / ตกลงค่ะ” สองแฝดแทบจะพูดพร้อมกัน ก่อนจะเก็บของเล่นชิ้นสุดท้ายใส่กล่อง

 

 

 

“งั้นป่ะ” โทโมะยิ้มให้ทั้งคู่ด้วยความเอ็นดู อยู่ด้วยกันมาร่วมสองอาทิตย์ สองแฝดสร้างเรื่องปวดหัวให้เขาและเพื่อนแทบไม่เว้นวัน แต่แปลกดีที่เขาใจอ่อนกับตาใสแป๋วที่โตกว่าเขาเล็กน้อยกับท่าทีออดอ้อนแบบเด็กๆของทั้งคู่ทุกที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“กินอะไรกันดี” ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อทั้งสามมาถึงห้างสรรพสินค้าใกล้ๆคอนโด

 

 

 

“เอ็มเค มายูมิจะกินเอ็มเค” เด็กสาวส่งเสียงเจื้อแจ้ว

 

 

 

“แต่โมะยูตะอยากกินยาโยอิ” เด็กชายเอ่ยขึ้นบ้าง

 

 

 

“เอ็มเค”

 

 

 

“ยาโยอิ”

 

 

 

“เอ็มเค”

 

 

 

“ยาโยอิ”

 

 

 

สองแฝดเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร แย่งกันเลือกร้านอาหารเย็น ทำเอาชายหนุ่มแทบกุมขมับ นี่มันกลางห้างนะ มาทะเลาะอะไรกันเนี่ยยยยย

 

 

 

“พอๆ หยุดๆ อย่าทะเลาะกันนะๆ เอางี้ โมะยูตะ เราเป็นพี่ เป็นลูกผู้ชาย ต้องเสียสละเข้าใจมั้ย ส่วนมายูมิ หนูเป็นผู้หญิง เป็นน้อง เถียงโมะยูตะแบบนั้นไม่น่ารักเลยนะ” ชายหนุ่มย่อตัวลงก่อนจะเอ่ยสั่งสอนลูกตัวดีทั้งสอง

 

 

 

“เข้าใจแล้วฮะ งั้นเราไปกินเอ็มเคกันนะฮะ ขอโทษนะครับมายูมิ” เด็กชายดึงน้องสาวฝาแฝดเข้ามากอด

 

 

 

“มายูมิก็ขอโทษนะคะ ไปกันเถอะค่ะ มายูมิหิวแล้ว” สองแฝดจับมือกันเดินนำปะป๊าของพวกเขาตรงไปยังร้านสุกี้ที่เด็กน้อยอยากกิน

 

 

 

“เอ้า รอด้วยเซ่” โทโมะยิ้มบางๆให้เด็กตัวเล็กก่อนจะรีบเดินตามไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เฮ้ ปะป๊า นั่นลูกชิ้นของโมะยูตะนะฮะ” เด็กชายโวยวาย เมื่อเด็กน้อยในร่างนักศึกษาแพทย์ฉวยโอกาสที่เขากำลังจัดการกับเป็ดย่างมาขโมยลูกชิ้นของเขาไป

 

 

 

“อ่าวหรอ เสียใจด้วย ฉันกินไปแล้ว ฮะๆๆๆ” ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งลูก

 

 

 

“เชอะ” โมะยูตะสะบัดหน้าหนี

 

 

 

“โอ๊ๆ อ่ะๆ เดี๊ยวสั่งให้ใหม่นะ พี่ครับ สั่งอาหารเพิ่ม” เมื่อเห็นลูกชายตัวดีเกิดอาการงอน ก็รีบสั่งลูกชิ้นเซทใหม่มาง้อเป็นการใหญ่

 

 

 

“วันนี้ปะป๊าน่ารักจังเลยนะคะ” มายูมิยิ้มตาหยี

 

 

 

“หืมม ฉันก็น่ารักของฉันทุกวันนะ รู้หรอ” ชายหนุ่มทำหน้าแอ๊บแบ๊วแข่งกับลูกสาว ทำเอาพนักงานที่เอาลูกชิ้นมาเสริฟมองตาไม่กระพริบ

 

 

 

“คิกๆๆ ปะป๊าทำท่าอะไร ตลกอ่ะ ฮะๆๆ” เด็กน้อยหัวเราะคิกคัก

 

 

 

“หัวเราะอะไร นี่แหนะๆ” ชายหนุ่มตักผักคำโตใส่จานของมายูมิ

 

 

 

“ลงโทษมายูมิโทษฐานหัวเราะปะป๊า กินผักไปเลย ส่วนลูกชิ้นนี่ของคุณชายโมะยูตะทั้งถาดเลย ยกให้เลยเอ้า” ชายหนุ่มเกิดความรู้สึกมีความสุขอย่างประหลาดขึ้นมาในหัวใจ สุขมากจนกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ ไม่รู้เป็นเพราะรอยยิ้มที่สดใสของเด็กทั้งสอง ตากลมใสสีเดียวกับเขาที่มองเขาตลอด หรือท่าทีไร้เดียงสาของทั้งคู่ แต่ที่รู้ๆจิตใต้สำนึกของเขามันบอกว่า เขาจะต้องเป็นปะป๊าของมายูมิของโมะยูตะให้ได้

 

 

 

“ขอบคุณค้าบบบ” เด็กชายเลิกงอน กลับมานั่งกินลูกชิ้นของโปรดเหมือนเดิม

 

 

 

“โหย มันเยอะไปมั้ยอ่ะปะป๊า” ผิดกับแฝดน้องที่โวยวาย

 

 

 

“ไม่ต้องเลย กินๆไป ผักนี่มีประโยชน์นะ ผมรู้ผมเรียนมา” ชายหนุ่มยืดอกโชว์ภูมิ จนมายูมิต้องแอบเบ้ปาก

 

 

 

“อะไร ทำมาเป็นเบ้ปาก เห็นนะ” โทโมะเอาตะเกียบชี้หน้าลูกสาวอย่างคาดโทษ

 

 

 

“ยอมก็ได้ เห็นแก่ว่าวันนี้ปะป๊าทำตัวน่ารักเป็นพิเศษ” เด็กน้อยยิ้มทะเล้น แล้วยอมกินผักแต่โดยดี

 

 

 

“เฮ้ ประโยคนั้น มันน่าจะเป็นฉันพูดกับพวกนายนะ” โทโมะย่นจมูกใส่ลูกสาวอย่างหมั่นเขี้ยว

 

 

 

“ไม่รู้แหละ มายูมิจะพูด ฮิฮิ” โทโมะส่ายหัวยิ้มๆอย่างระอากับความทะเล้น ไร้เดียงสาของเด็กหญิง

 

 

 

“อิ่มกันยัง บนห้องมีไอศครีมนะ”

 

 

 

“ไอติมหรอฮะ งั้นกลับกันเถอะ โมะยูตะอยากกินไอติวแย้วววว” เด็กชายรีบยัดลูกชิ้นเข้าปาก

 

 

 

“เอ้าๆ ระวังหน่อย เลอะเทอะหมดแล้วเนี่ย” ชายหนุ่มเช็ดปากลูกชายด้วยความเอ็นดู

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“พาลูกไปไหนมาฮะ มาหาที่ห้องไม่เจอตกใจแทบแย่” ยังไม่ทันได้ไขประตูเข้าห้อง เสียงใสจากข้างห้องก็โผล่มาพร้อมเจ้าของเสียง

 

 

 

“ปะป๊า พาเราไปกินเอ็มเคมาฮะ” โมะยูตะตอบแทน

 

 

 

“หืมม จริงหรอครับ ทำไมวันนี้ปะป๊าเราใจดีแบบนี้เนี่ย” สาวน้องย่อตัวลงคุยกับเด็กชาย

 

 

 

“ใช่ค่ะ วันนี้ปะป๊าของมายูมิน่ารักที่ฉุดในโลกเยย” แฝดคนน้องขออวดบ้าง

 

 

 

“งั้นบอกปะป๊าหนูด้วยนะคะ ว่าให้ทำตัวน่ารักๆแบบนี้ทุกวันเลย พี่แก้วจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”

 

 

 

“ฝากไปบอกพี่แก้วนะ ว่าปะป๊าน่ารักอยู่แล้ว แต่พี่แก้วไม่ยอมรักปะป๊าซะที” โทโมะพูดออกมาลอยๆ

 

 

 

“เล่นไม่เลิกนะไอหมอกะล่อน” สาวน้อยกรอกตาเซงๆ

 

 

 

“ดูสิเด็กๆ พี่แก้วใจแข็งมากเลย”

 

 

 

“ไม่ต้องยุ่งกับเด็กเลย พรุ่งนี้มีสอบไม่ใช่หรืองัย ไปอ่านหนังสือไป มายูมิกับโมะยูตะวันนี้นอนห้องพี่แก้วนะคะ ปะป๊าต้องอ่านหนังสือ”

 

 

 

“โอเคฮะ / โอเคค่ะ” สองแฝดประสานเสียง ก่อนจะเดินตามสาวน้อยไปอาบน้ำอย่างว่าง่าย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฮ้าววว ง่วงเปนบ้า บล๊อคนี้เนื้อหาเยอะชิบหาย” เขื่อนร้องโอดโอยเหมือนทุกครั้งที่สอบ

 

 

 

“ทนๆไปหน่า สอบอีกไม่กี่ครั้งก้จบแล้ว” จงเบเอ่ยเรียบๆ

 

 

 

“แหม แกก็พูดได้นี่ เกรียตินิยมอยู่แค่เอื้อม ฉันนี่สิจะจบมั้ยยยย”

 

 

 

“หยุดพร่ำเพ้อเถอะ รำคาญ ว่าแต่เมื่อวานประชุมไรวะ” โทโมะถือถ้วยกาแฟมาร่วมวงแก๊งหมอ ที่พึ่งกลับจากห้องสมุดมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมไปสอบ

 

 

 

“จะไปค่ายอาสาหลังสอบเสร็จ ตรวจคนไข้บนดอยที่เดิม ประมาณสองอาทิตย์” ป๊อปปี้ตอบ

 

 

 

“อีกละ ไม่ไปได้มั้ย”

 

 

 

“ไม่ได้ ยัยหัวหน้าย้ำกลุ่มเรามากว่าต้องไป เพราะปีที่แล้วเราเบี้ยว”

 

 

 

“เอ้า ก็ดันจัดตรงกับวันที่แก้วกลับมา จะไปได้มั้ยเล่า” โทโมะโวยวาย ทั้งๆที่โรงพยาบาลของเขาเปนสปอนเซอร์ออกค่ารถค่าที่พักค่ายาให้แล้ว ยังจะมาลากเขาไปค่ายอีก คนหล่อเซง

 

 

 

“ไปเหอะ ถือซะว่าไปเที่ยวพักผ่อน เราต้องขับรถตู้นำไป ยัยหัวหน้ามันดักไว้กันเราโดด โยนรถมาให้เรารับผิดชอบ” เคนตะเอ่ยเซงๆ

 

 

 

“ก็ดี จะได้เอาแก้วไปด้วย” ตั้งสองอาทิตย์ เขาจะทนคิดถึงยัยตัวแสบของเขาได้ยังงัยกัน

 

 

 

“บ้า แล้วใครจะดูลูกแก จ้างพี่เลี้ยงให้แม่แกรู้รึงัย”

 

 

 

“ก็...เอาไปด้วยงัย” โทโมะอ้อมแอ้มตอบ เขาก็อยากพาลูกไปเที่ยวเหมือนพ่อคนอื่นเขาเหมือนกันนะ

 

 

 

“หืมมมม ไม่อยากจะเชื่อ ผีเข้าหรอ จู่ๆรักลูกขึ้นมา” ป๊อปปี้หัวเราะชอบใจ ในที่สุดโทโมะก็กลืนน้ำลายตัวเอง ยอมรับเด็กแฝดเป็นลูก แถมยังรักและเอ็นดูแบบที่ไม่มีใครคาดถึง

 

 

 

“ทำไม มีปัญหางั้ย?”

 

 

 

“มีเดะ ถ้าแกเอาลูกไป นี่เค้ารู้กันทั้งคณะเลยนะว่าแกมีลูก” ป๊อปปี้แย้ง

 

 

 

“เด็กคณะเราไม่พูดหรอก สนใจกันแต่เข็มฉีดยากับกระดูกคน” จงเบออกความเห็น

 

 

 

“ก็จริงของไอเบ แค่สนใจเรื่องตัวเองเวลาก็จะไม่พอแล้ว ดูฉันเป็นตัวอย่างเส่ะ” เคนตะปาชีทลงโต๊ะอย่างขัดใจ อ่านมาทั้งคืนก็ไม่เข้าใจ จะยากอะไรนักหนาเนี่ยยยย

 

 

 

“หมอไม่ได้โง่เหมือนแกทุกคนนะ รีบๆกินเหอะเดี๊ยวไปสอบไม่ทัน”

 

 

 

“ใจร้ายยยยยย”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

การสอบผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ทรมานมาก แต่นักศึกษาแพทย์ทั้งคณะก็สามารถฝ่าฟันมาได้ และเดินทางมาที่ดอยครบทุกคน

 

 

 

“หมอก ปะป๊าดูจิ มีหมอกด้วยยยย” สองแฝดวิ่งโร่ลงจากรถตู้ทันทีที่รถจอดสนิท

 

 

 

“วิ่งกันระวังนะ เดี๊ยวล้ม” โทโมะตะโกนไล่หลัง ก่อนจะช่วยเพื่อนขนของลงจากรถ

 

 

 

“ยัยตัวแสบยังไม่ตื่นอีกหรอ”

 

 

 

“เออดิ ขี้เซาตลอด ฉันอุ้มไปบ้านพักก้ได้ แกไปดูลูกฉันให้หน่อยแล้วกัน” โทโมะบอกจงเบก่อนที่จะช้อนร่างบางขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขน

 

 

 

“ถ้าต่อหน้าแก้ว แกทำตัวดีๆแบบนี้เค้าคงรักแกไปนานแล้วหล่ะ” จงเบเอ่ยยิ้มๆ ที่จริงแล้วเพื่อนของเขามีมุมน่ารักอบอุ่นอยู่ไม่น้อย เพียงแค่ไม่ค่อยแสดงออกมาให้ใครเห็นเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับสาวน้อยที่เขาหลงรัก ที่นอกจากเขาจะทำตัวไม่ค่อยน่ารักแล้ว ยังไปกวนบาทาเธออีกต่างหาก

 

 

 

“ก็เห็นหน้าแล้วมันคันปากอยากกวนอ่ะ ทำงัยได้”

 

 

 

“แล้วแต่แกนะ แกไม่รู้หรอกว่าเวลาเดียวที่แก้วแอบมองแกคือตอนแกเล่นกับลูกๆ มันเปนโมโม้นที่ฉันยังต้องยอมรับว่าแกน่ารัก”

 

 

 

“แกไม่ได้แอบชอบฉันใช่มั้ย” โทโมะมองหน้าจงเบอย่างระแวง

 

 

 

“ไอบ้า คิดไปได้ ดูยัยแสบดีๆหล่ะ ฉันไปดูเด็กๆให้ ป่านนี้ไอเขื่อนชวนปีผาไปแล้วมั้ง”

 

 

 

“เออ” โทโมะรับคำก่อนจะพาสาวน้อยเข้าไปในบ้านพัก

 

 

 

โทโมะวางสาวน้อยลงบนเตียงอย่างเบามือ พลางปัดปอยผมที่ร่วงลงมาปิดหน้าสวยที่ดูเพลียๆจากการเขียนต้นฉบับเกือบทั้งคืน แล้วยังต้องมานั่งรถต่ออีกเกือบสิบชั่วโมง

 

 

 

“เมื่อไหร่เธอจะใจอ่อนซะทีนะยัยตัวแสบ” โทโมะห่มผ้าให้คนตัวเล็กก่อนจะรีบเดินออกไปช่วยงานเพื่อน จึงไม่ทันสังเกตุเห็นว่า มีรอยยิ้มน่ารักผุดขึ้นบนใบหน้าของสาวน้อย

 

 


 

วันนี้ปะป๊าโทโมะของเราน่ารักมั้ยยยยย

 

 

รักคนอ่านคนคอมเม้นที่สุดเล้ยยย

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา