Project Love รุ่นพี่ครับ รับรักผมหน่อย
เขียนโดย Thehungry
วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 16.39 น.
แก้ไขเมื่อ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 17.07 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
5) สัมผัสหวานที่เชียงคาน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ครับ เช่นกัน ”
แค่เพียงสายร่างสูงตัดไปก็ทำให้ร่างบางได้แต่นอนกอดมือถือไปมา จนแทบจะจมคาอกตัวเองเข้า ถึงแม้ร่างสูงจะตอบสั้นๆ แต่คนอย่างวาแล้วถ้าพูดเช่นกันคือต้องเหมือนประโยคก่อนหน้าที่ตนพูด คิดไปก็เขินไปด้วย
Chapter 5 สัมผัสหวานที่เชียงคาน
ปัก
เสียงตบบ่าเบาๆ เรียกสติร่างสูงให้หันไปมองอีกฝ่ายด้วยความงงงวย ทั้งที่บอกเขาจะไปหาไรรองท้องก่อนเดินทาง
“ไรว่ะ” ภาคินหรือพี่คิน ที่สาวๆหนุ่มๆในคณะหมายปอง พูดถามเพื่อนสนิทอย่างทีทันที ทำให้ทีได้แต่จ้องมองพร้อมกับสายตากวนๆส่องมาให้ ให้คนมองได้แต่เพิ่มความงุนงง อยากจะยกเท้าเตะเพื่อนตัวเองสักร้อยๆที
“กูแค่จะบอกมึงว่า….มึงรายงานว่าที่แฟนมึงในอนาคตยังว่าไปทริปพิเศษนี้ หึๆ”เสียงหัวเราหึๆของที กระตุ้นร่างสูงให้ยกเท้าเตะเข้าที่ขาเพื่อนตัวเองอย่างแรง เรียกเสียงโอ้ยครวญให้คนแถวนั้นหันมามองด้วยความสนใจ จากเดิมมีคนหล่อยืนคุยกันก็ว่าน่าสนใจ แต่การกระทำหยอกล้อกัน ให้สาวได้มองตาม หากถ้าจะจิ้นทั้งคู่คงเป็นไปไม่ได้
“มันเป็นกิจกรรมทางคณะเรา ไปด้วยไม่ได้หรอก”ร่างหนาตอบปัดๆอย่างไม่ใส่ใจ ให้เพื่อนแส้รู้หยุดถามเขาอีก แต่คำตอบนั้นกลับทำให้ทียกยิ้มกว้าง ตามประสาคนรู้ทัน
“ถ้าไม่ใช้กิจกรรมเรา จะให้น้องวาไปด้วยใช่ป่ะว่ะ …..อย่าพึ่งเตะกู ยังพูดไม่จบ และอย่าบอกนะว่ามึงกะน้องมีซัมติงกันแล้ว เสร็จน้องเขาตั้งแต่เมื่อไรว่ะเพื่อนคิน 555”
ไม่มีอะไรน่าหมั่นไส้เท่าความกวนบาทาเบื้องล่างของเพื่อนตัวเอง ทำให้คินได้แต่ส่ายหน้าไปมา ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากบอก อันที่จริงเขากับร่างเล็กก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกันถึงขั้นที่ต้องรายงานทุกสถานการณ์ ถึงเขาจะรู้สึกดีกับการมีร่างเล็กคอยป่วนอยู่บ่อยๆ แต่ที่เขากลัวไม่ใช่อะไร แค่กลัวสักวันตัวเองจะอดใจทำอะไรร่างเล็กเข้าสักวัน
“เออๆยังไงก็น่าจะบอกเจ้าตัวนะเว้ย คลั่งมึงขนาดหนัก ถ้าไม่รักก็ปล่อยน้องเขาไป”เสียงเตือนด้วยความหวังดีของที ทั้งยังแฝงไปด้วยความห่วงใยทั้งเขาและร่างเล็ก และหากเขาคิดจะเล่นๆกับร่างบางแล้ว ไม่มีทางที่ร่างบางจะรอดจากเงื้อมมือเสือร้ายอย่างเขาได้ เพียงแค่นี้ ก็ติดกับเขาซะแทบถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว
“กูไม่ได้แกล้ง…แค่จะรอให้เวลาพิสูจน์ความรู้สึกคน”คำตอบตรงๆของร่างสูงพร้อมกับสายตาที่สื่อออกมาว่าเขาเองจริง
“กูรู้ แค่เพียงต้องการได้ยินจากปากมึงให้มั่นใจ น้องวาก็น่ารักเกิน กูเสียดายแทนถ้ามึงไม่เอา”
กึก
“อ๊ากกก!! มึงกระทืบเท้ากูทำไม” สายตาของทีได้แต่วิงวอนให้เพื่อนยกเท้าออกไป เพียงแค่เขาหยอกล้อนิดๆ ยังโดนขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่ถ้าตกลงเป็นแฟนกัน เพื่อนเขาจะหวงวาขนาดไหน
“ป่าว เท้ากูมันไปเอง” คำตอบสั้นๆ ยังไม่เท่าวาจากวนๆพร้อมการแสยะยิ้มร้ายอย่างคนเหนือกว่า ให้เพื่อนตัวเองที่ได้แต่จ้องมอง และยอมรับที่ปากตัวเองพาไปหาเท้าเอง
“เออๆ ไปขึ้นรถ กูอยากนอนเต็มที”
คินตอบเสร็จก็เดินขึ้นรถหน้าตาเฉย ไม่สนใจรอเพื่อนของตัวเอง เพราะถ้ามัวแต่ต่อล้อต่อเถียงกับคนอย่างที เขามีแต่เสียกับเสีย หน่ำซ้ำเขาเองละจะเป็นคนยอมแพ้ เขาเองบางทียังไม่เข้าใจ เพื่อนตัวเองมีดีกรีหนุ่มหล่อเดือนคณะ แต่กลับทำตัวกวนประสาททุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน หากพวกเขาไม่หน้าแมนทั้งคู่ ปานนี้คงโดนจับคู่ให้เป็นผัวเมียกันเป็นแน่
แค่ภาคินกระโดดขึ้นรถไป รอยยิ้มร้ายของผู้ชนะก็ผุดขึ้น เขาเองนั้นละที่ยอมแพ้ หากไม่ยอมคงไม่มีทางที่เสือร้ายอย่างคินจะยอมปริปากบอกความสัมพันธ์ จริงๆเขาเป็นพวกไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านนัก แต่คินคงไม่เรียกชาวบ้าน หากแต่เป็นเพื่อนสนิทกันจนต้องเงื่อมมือเข้าไปยุ่ง แค่ได้ยุแย่สร้างอารมณ์ให้กับเพื่อนตัวเอง แล้วรอดูปฏิกิริยาตอบกลับ ให้ทุกอย่างชัดเจนก็เพียงพอแล้ว คิดไปคิดมา หากเขาเอาเรื่องนี้ไปบอกวาแล้ว สงสัยคินคงได้เมียในเร็ววัน
…………………
@เชียงคาน ดินแดนวัฒนธรรมท้องถิ่นอีสานกลาง
“งึมๆ แจ๊บๆ อืม..อ่า….อืม”
โครม…..
“ สัส! มึงถีบกูทำไมว่ะคิน กำลัง..” เสียงงัวเงียพร้อมกับสบถถามด้วยความหงุด ที่โดนขัดเวลาการนอน
“เออ..กูถีบ จะทำไม มึงถามคนข้างๆมึงดู ว่ามึงนอนเฉยๆกูคงไม่ถีบ แต่ดันมึงครางจนพวกกูไม่เป็นอันนอน” คินตอบกลับด้วยความหงุดหงิดไม่ต่างกัน ใช่ว่าขึ้นรถมาจะได้นอน คนก็เยอะ เรื่องที่จะคุยก็เลยตามไปเยอะ ตลอดทางเขาได้แต่สวมหูฟังแล้วเปิดเพลงคลอๆ พลางกล่อให้ตัวเองนอน
“เฮ้ย! มึงคนเดียวที่ได้ยิน พวกกูไม่เกี่ยว” หนุ่มอาร์มหนึ่งในกลุ่มสมาชิกเล่นบาส พูดสวนขึ้น โต้แย้งข้อคิดเห็นของคินทันที ให้ร่างหนาได้แต่ยกนิ้วกลางส่งไปให้
“จริงๆกูว่า คินมันได้ยินแล้วมันนึกถึงใครบางคนมากกว่าวะ” ไม่ต้องบอกก็จะรู้ว่าใครพูดสวนขึ้น คินได้แต่มองอย่างเอาเรื่อง ลองถ้าทีปริปากพูดมากกว่านี้แล้ว เขานั้นแหละจะเอาคืนซะบ้าง แต่ก็ยังไม่ทันได้โต้ตอบ ทั้งรถก็เต็มไปด้วยเสียงแซว
“จริงหรอครับพี่คิน ผมได้ยินมาว่าพี่ทีโดนอ่อยแล้วยอม 55” เสียงหนุ่มน่ารัก รุ่นน้องปี 1 พูดขึ้นอย่างล้อเลียน แต่ใครจะรู้ มันสะกิดเข้าอย่างจัง ชนิดที่แทบอยากจะหันหลังหนี
“มึงดู..ไอ้คินแมร่งมันอายจนหน้าแดง วู้ๆๆๆ”
“เป็นไงบ้างว่ะ กูได้ยินมาว่าน่ารัก แถมยั่วสุดๆ เสร็จยังว่ะ”
“เฮ้ย!! อย่ารุมคินมัน มันอาย เรื่องแบบนี้เก็บไว้ถามกันตอนสองคน ”
“ก็ชักอยากจะเห็นน้องคนนั้นแล้วว่ะ ชื่อไรหว่า….อ่า …กูได้ยินมาว่าชื่อน้องวาวา จริงป่าวว่ะคิน ถ้ามึงไม่ชอบ กูขอนะ แบบว่ากูอยาก….”
โครม..
เสียงสุดท้ายที่พูดออกมาของจอมทัพ เพื่อนสุดกวนของก๊วนในคณะ ที่เมื่อยังไม่ทันเอ่ยจบ ก็อยู่ในสภาพล้มแผละอยู่ข้างที่นั่ง สีหน้าเจ็บปวดจากการโดนถีบ ไม่ได้ทำให้คนถีบแสดงความรู้สึกผิดสักนิด แต่กลับรู้สึกสะใจซะมากกว่า
“ของของกู! กูไม่ยกให้ใคร” ย้ำพยางค์แรกให้เพื่อนตัวเองและคนในรถได้ยินกันทั่วถึง จากเดิมที่เอ่ยแซวกันสนั่นรถ ก็เริ่มรูดซิบปากเงียบ เพราะสีหน้าท่าทางของคินตอนนี้แล้ว คงไม่ยอมเล่นด้วย ถ้าหากใครแซวในสิ่งที่ไม่เข้าหู คงต้องนั่งคิดสภาพตัวเองว่าจะโดนอะไรบ้าง
จบประโยคหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ สาวเท้าเดินไปเบาะนั่งตนเอง หยิบมือถือกดหยิกๆ เปิดหน้าจอที่มีรูปร่างบางเอาไว้ พลางอมยิ้มเล็กๆ ให้คนบนรถมองด้วยความอิจฉา
เฮ้อ………………
เสียงถอนหายใจของร่างบางที่นั่งอยู่บนอัสจรรย์ของมหาวิทยาลัยด้วยความเบื่อหนาย ด้วยความที่คาดว่าเช้าของวันนี้ จะต้องได้เจอกับร่างสูง แต่เพียงก้าวเข้าคณะก็พบแต่ความเงียบ และยังป้ายประกาศขนาดใหญ่ของทริปคณะที่จัดขึ้น ให้เขาเองได้แต่ด่าตัวเอง ว่าพลาดงานนี้ได้ไง พร้อมกับหยิบมือถือมากดโทรออกหาใครบางคนที่อยากจะเจอเต็มทน
รอเพียงสักพัก เสียงทุ้มแกมดุก็ตอบรับสายของร่างบางทันที ให้คนรอยกยิ้มขึ้นมา
“ครับ…มีอะไรรึเปล่า”
“ป่าวฮะ…พี่คินไปทริปของคณะรึเปล่า ”เสียงง่อยๆของร่างเล็ก ทำให้ปลายสายได้แต่นิ่งเงียบ ทำให้ร่างบางแทบสะอึก อยากจะร้องไห้ขึ้นมาทันที พลางคิดไปเองกลัวร่างสูงไม่สนใจ
“อืม….เมื่อวันก่อน อีกสองวันก็กลับมอ เหงารึไง”
“ถ้าบอกว่าเหงา พี่คินจะมาหาวาไหมละฮะ วาอยากไปหาพี่คินจัง ไปที่ไหนอ่ะ ตามไปได้ป่ะ แล้วที่นั้นสนุกไหม มีกิจกรรมอะไรทำบ้าง………” เมื่อเริ่มรู้ว่าร่างสูงยังสนใจตัวเองอยู่ ทำให้คนอยากรู้อยากเห็นไปซะทุกเรื่อง เอ่ยปากถามอยากไม่หยุดหย่อย
“เดี่ยวก่อน ….หายใจซะบ้าง พูดมาพี่ตอบไม่ทัน”
“ก็วาตื่นเต้นอะ ไม่คิดว่าพี่คินจะรับสายซะด้วย” เสียงเล็กๆพร้อมกับโทนเสียงน่ารักๆให้ปลายสายที่ยกยิ้มกว้าง
“อืม..อยู่เชียงคาน มาทริปคณะนั้นละ เราคงรู้จากป้ายแล้วมั้ง หึๆ อยากจะมารึไง เอาสิ อีกสองวัน มหาลัยหยุดก็มาสิ ถ้าอยากเที่ยว” คำอธิบายยาวเยียดให้คนฟังอิ่มเอิบใจ หน่ำซ้ำยังมีคำเชิญชวน ชนิดที่คนฟังแทบจะพุ่งไปหาทันทีอย่างที่ใจต้องการ
“อ่ะ…จริงหรอฮะ…วาไปได้จริงๆใช่ไหม พี่คินไม่โกหกนะ”
“โกหกได้อะไร ถ้าเราอยากมา พี่ห้ามได้ไหม”
“งั้นอีกสองวันเจอกันแน่ครับพี่คิน เตรียมตัวรับมือวาไว้ดีๆละ เสร็จว่าแน่” เสียงหวานหู เอ่ยตอบด้วยความตื่นเต้น พลางสมองประมวลความคิดไปต่างๆ ใจแทบไม่อยากจะอยู่มอ แต่แค่ 2 วัน เขาก็จะได้เที่ยวสองต่อสองกับพี่คิน
“หึๆ ทำเป็นแล้วค่อยว่ากัน ” เพียงแค่นั้น ก็เรียกเลือกฝาดมาแต่งแต้มใบหน้าเนียนใสให้มีสีแดงอมชมพู หากถ้าร่างสูงอยู่ตรงหน้านี้ ร่างบางคงจะพุ่งไปกอดแล้วซุกหน้ากับแผงอกหล่ำ เพื่อหลบซ่อนความอายเอาไว้
“ไม่เป็นครับ แต่พี่คินทำเป็นก็สอนวาสิ ”
“หึ คงต้องยอมสินะ” เสียงกวนๆตอบกลับอย่างคนเหนือกว่า ให้ร่างบางได้แต่ทำหน้างองอด ยกหัวเข่าขึ้นมาเกยใบหน้าตัวเองเอาไว้
“ก็ถามใจตัวเองสิฮะ…วาไม่ได้อ่อยนะ แค่กระตุ้นเฉยๆ แล้วเจอกันนะ จุ๊บ” เสียงพูดสุดท้ายพร้อมกับตัดสาย ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นมารยาทที่ไม่ดี แต่ร่างบางก็อยากจะวางสายก่อน พร้อมกับอมยิ้มแก้มปรินั่งมองฟ้าไปเรื่อยๆ ถ้ารู้ว่าอ่อยแล้วได้ขนาดนี้ ก็คงทำนานแล้วละ
……………………………50 % …………………………………
สองวันผ่านไป
“พี่คิน คิดถึงที่สุด” ร่างบางโผล่เข้ากอดร่างหนาด้วยความคิดถึง มือสองข้างคล้องคอแสดงความเป็นเจ้าของ ผิดกับร่างหนาที่ได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเอาแต่ใจของอีกคน
“คนมองกันเต็มเลยนะ ไม่อาย?”
“มองสิฮะ ยิ่งดู จะได้รู้คนนี้เมียดุ” ปากก็พูดไปพร้อมทั้งกระชับฝ่ามือให้แน่นขึ้น เพื่อให้ร่างกายเสียดสีอีกคน
“เบียดขนาดนี้ ไปห้องเลยไหม หืม” ร่างหนาไม่ได้ติดใจกับการกระทำของอีกคน แต่กลับรู้สึกดีที่รางบางแสดงความเป็นเจ้าของตน ที่ผ่านมาหลายวันใช่ว่าไม่คิดถึง แต่กิจกรรมที่แน่น ทำให้จะได้คุยกันก็วันนี้
“ก็ได้ฮะ พร้อมเสมอ” ยังไงพี่คินก็เสร็จวาละฮะ คิคิ
“ปากนะนั่น น่าจูบดีนะ” เสียงดุๆไม่ได้ทำให้ร่างบางกลัวคนตรงหน้าสักนิด ยิ่งถ่อยคำสุดท้ายยิ่งอยากจะกระโจนตัวเองเข้าไปให้จูบ ถ้าไม่ติดว่าสถานที่ไม่เอื้อ
“เอาสิฮะ ไปกันเถอะ วาหิวแล้ว…”มือบางคว้าหมับที่แขนร่างหนา พร้อมทั้งดึงให้พ้นสายตาสาวๆที่แอบส่งสาย ชิ! คิดว่าคนอย่างวาวาไม่เห็นรึไง
“หึๆ”
“หัวเราะแบบนี้อีกแล้ว อย่าทำหน้าหล่อสิฮะ” เสียงง้องอนแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยของร่างบาง
“ผิดตรงไหน”
“อย่าหล่อมากฮะ คงมองจะเยอะไปไหนเนี้ย”กึ่งลากกึ่งดึงเพื่อให้อีกคนพ้นสายตาแทะโลม แต่ไม่ว่ายังไงความหล่อของร่างหนาก็ไม่ได้ลดลง แถมยังมีคนมาสอดส่องมองอยู่เรื่อย
“จะไปไหน ไปเอารถก่อน” เสียงร่างหนาดึงความสนใจของร่างบางให้หันหลับมามอง ก็ไหนว่ามากับทางมหาลัย ทำไมถึงมีรถมาเอง
“ไม่ต้องทำหน้างง รถเช่ามา อยากเป็นสาวสก๊อยไหมละ หึ”
“เอ๊ะ! อย่าบอกนะว่าคันนั้น ไม่น่าสก๊อยเลย เบาะน่าจะแบนราบกว่านี้หน่อยนะ” ร่างบางส่งเสียงจิจ๊ะในลำคอด้วยความไม่พอใจ อันที่จริงอยากจะแหย่ร่างหนาเล่นเท่านั้นเอง
“เปลี่ยนใจตอนนี้ทันนะ งั้นไปละ ”
“อ่อย…ง้อหน่อยก็ไม่ได้ ชิชะ ”
รถที่ว่าคือYAMAHA FINO สีฟ้าสดใส สไตล์เรียบง่าย เหมาะกับหญิงสวยในช่วงวัยรุ่น ใครจะรู้ว่าเมื่อร่างหนาขึ้นไปนั่งเบาะพร้อมที่จะสตาร์ทเครื่อง รถที่แลดูน่ารักก็ดูมีความน่ารัก จนร่างบางอดที่เอ่ยทักไม่ได้
“อ่ะ…เอออ…”
“จะถามว่าทำไมรถเป็นคันนี้ใช่ไหม 55”เสียงที่ค้านขึ้นของร่างหนาทำให้ร่างบางยิ่งงไปใหญ่ ยิ่งเสียงหัวเราะแลดูมีความสุขนั้นอีก
“ฮะ บอกมาเลยนะ รถสาวที่ไหน”
“ถ้ารถสาวก็คงไม่ใช่คันนี้หรอก ระดับนี้แล้วได้ดีกว่านี้เยอะ ว่าไหมละ” น้ำเสียงกวนๆตอบกลับมาโดยไม่ได้รู้เลย ว่าทำให้อีกคนกำลังแสดงอาการออกมาด้วยความไม่พอใจ
“ที่ชวนมา เพราะแบบนี้หรอออ..”หึๆ ไม่รอดหรอก วาซะอย่าง อยากเสน่ห์แรงใช่ไหม
“คงงั้นมั้ง” ร่างหนาก็ยังไม่เลิกที่จะแกล้งร่างบาง แถมยังมีการส่งยิ้มให้สาวอีกคนทิ่ส่งยิ้มมาให้ ทำให้ร่างบางได้แต่กัดฟันกรอด นี่ถ้าหากเขาปล่อยให้พี่คินมาเที่ยวคนด้วย จะเหลือรอดไหม
“ไม่มีทาง!!”เสียงคัดค้านพูดขึ้นเสียงดัง จนร่างหนาหันมามองด้วยความตกใจ ยิ่งพอได้สบตากับลูกตากลมโตที่คลอไปด้วยน้ำตากำลังจะเอ่อไหล ทำให้เขาได้แต่รู้สึกผิดไม่คิดว่าอีกคนจะคิดจริงจัง
“เฮ้อ…ไม่มีไรหรอก ไหนว่าเก่งไง แต่ก่อนไม่เคยเป็นคนเจ้าน้ำตา ทำไมคราวนี้ถึงยอมแพ้ง่ายๆละ” มือหนาเกลี่ยแก้มบางไปมา เพื่อปรอบโยนเด็กดื้อของตนเอง พลางส่งยิ้มตาหยีให้คนมองได้แต่เก็บซ้อนรอยยิ้มร้ายเอาไว้ข้างใน ใครจะรู้ฉากเรียกน้ำตาแค่นี้ ร่างบางทุ่มเทขนาดไหน
“ไปเถอะฮะ วาอยากดูที่นี้แล้ว จะสวยเหมือนในภาพไหม” ทำไงได้ฮะ กลัวจะอดยิ้มออกมาก่อนให้พี่คินเห็น จึงได้แต่หันหน้าหนีไปมองข้างทาง กวาดสายตาทำทีอยากมองนู่นนั้นนี่ไปหมด ทั้งที่ใจจริงอยากจะกอดอีกคนแทบตาย
“อืม ยิ้มได้แล้วว ทำหน้าแบบนี้เดี๋ยวไม่รักเลย”
“ห๊ะ….ว่าไงนะพี่คิน” จากที่กำลังแกล้งทำเป็นไม่สนใจ ใบหน้าเนียนใสก็หันขวับกลับมาทันทีแทบจะทำให้คอเคล็ด จนคนที่มองอยู่ได้แต่ยิ้ม
“ก็ทำตัวให้มันน่ารัก พี่จะได้รักเราไง” คำพูดหวานหู ที่ทำเอาร่างบางแทบตั้งสติไม่อยู่ แผนเมื่อกี้ทำให้ร่างหนาพูดในสิ่งที่ตนไม่คาดคิด
“ก็…ต้องทำยังไงละฮะ”
“ทำตัวให้สมกับคำลำลือว่าเป็นแฟนคนอย่างพี่คินหน่อย”
“………………………………..”
“ทำหน้าอึ้งไปได้ ป่ะ อยากดูริมโขงไม่ใช่หรอ อากาศกำลังดี มีของกินอร่อยๆเลยละ”
“ไม่ต้องเอาของกินมาล่อเลย…เมื่อกี้พี่คินให้วาแสดงออกว่าเป็นเจ้าของพี่คินได้แล้วใช่ไหม”
“แล้วอยากไหมละ”
“งั้นโอเคฮะ….ไปกันเลย” จากที่แกล้งเศร้าไปสักพัก พอจะตกม้าตายก็ประโยคหวานๆก่อนหน้านั้น พลางนึกไปใครตกหลุมพรางใครกันแน่
บรรยากาศที่เชียงคานดีมากเลย มีบ้านเรือนไทยขนาดไม่ใหญ่กำลังพอดีตั้งเรียงรายอยู่มากมาย ส่วนใหญ่ยังคงรักษาความดั้งเดิมของลักษณะบ้านเรือนเอาไว้ ข้าวของมากมายถูกตั้งมาขายริมถนนสายยาว ให้ผู้คนเลือกซื้อไปมาอย่างสนุกมือ พอเดินไปริมฝังโขงก็มีร้านที่เชื่อมต่อทำเป็นโต๊ะนั่งให้ผู้คนที่อยากจะทานอาหาร ถ้าอยากจะสัมผัสกับบรรยากาศที่นี้ ผู้คนที่นี้น่ารักมากเลย แต่งตัวด้วยชุดน่ารักๆ เข้ากับธรรมชาติที่นี้
ร่างหนาพาร่างบางนั่งลงริมข้างฝั่งโขง แทนการไปชมบรรยากาศร้านในย่านถนนชายของ เขาเลือกที่จะมานั่งชมบรรยากาศที่นี้ เพราะให้ความสงบและเป็นส่วนตัว อีกเหตุผลหนึ่งคือ การจะได้แกล้งคนตรงไหนสะดวกและไม่เป็นที่จับตามอง ที่นี้คงเหมาะ
“พึ่งรู้นะ…ว่าพี่คินชอบเงียบๆแบบนี้ด้วย”
“จะได้ทำอะไรสะดวกไง” เสียงที่ตอบกลับมาทำให้อีกคนได้แต่จ้องตากลับไป ตั้งแต่เจอหน้ากันมา ร่างหนาชอบพูดไรแปลกๆ แถมบางครั้งก็หวานหูซะทำให้เขินได้ตลอด
“ทำอะไรหรอ” ที่ถามกลับไม่ใช่เพราะความงง แต่ถ้าดันเผลอบอกว่าเรื่องล่อแหลม มีหวังโดนร่างหนาแกล้งอีกเป็นแน่
“ทำอะไรที่คนเป็นแฟนกันเขาทำกันนะ”
“เอ๊ะ….พี่คินหมายความว่าไง” ใบหน้าเอียงเล็กน้อย ให้อีกคนมองอย่างเอ็นดูในความน่ารักของอีกคน
“พี่ชอบเราแล้วละ เป็นแฟนกันไหม” คำพูดง่ายๆเหมือนทุกครั้งของร่างหนา พูดออกมาจนทำให้ร่างบางได้แต่ตัวแข็งทื้อ ใบหน้าแสดงออกถึงความตกใจออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ลูกตากลมโตฉายแววงุนงง พี่คินรักเขาตอนไหน ถึงจะแสดงออกมาเล่นด้วย แต่ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วขนาดนี้ พอคิดว่าอาจจะเป็นความฝันทำให้มือบางหยิกเข้าที่แก้มของตนอย่างแรง จนต้องร้องโอ้ยออกมาเสียงดัง
“หึ…พึ่งเคยเจอเด็กเอ๋อก็งานนี้ คนเก่งหายไปไหนแล้วว หืม..” ปากก็พูดไป แต่สายตากลับจดจ้องริมฝีปากบางเฉียบของร่างบาง พลางค่อยๆก้มหน้าไปสัมผัสรสชาติหอมหวานที่เคยสัมผัสมาก่อนหลายครั้ง แต่ครั้งนี้มันอบอวนไปด้วยความรู้สึกมากมายที่อยากจะสื่อผ่านไปทางจูบ
ปากหนาค่อยๆเม้มดูดกลีบปากบาง สลับกับการดูดดุน พร้อมทั้งจับมือบางมาคล้องคอ แล้วเบียดเสียดเข้าไปแนบชิด พลางส่งลิ้นละเมียดเข้าไปตะวัดเกี่ยวพันลิ้นอีกคนอย่างผู้มีชั้นเชิง จนทำให้ร่างบางได้แต่กอดรอบลำคอของอีกคนแน่น
“อื้ม….อืออออ…….”
จูบเร้าร้อนผ่านไปสักพัก คินจำเป็นที่ต้องถอนจูบออกจากร่างบางตรงหน้า แม้จะอยากกดจูบย้ำลงไปอีกหลายๆครั้ง แต่แค่นี้เขาก็ทำให้อีกคนส่งเสียงหอบ พร้อมทั้งได้เห็นใบหน้าขึ้นสีของร่างบาง ใบหน้าเนียนใสที่ซบอยู่อกแกร่ง ส่งเสียงหอบออกมา จนทำให้ร่างหนาอยากจะกระชากร่างบางแล้วกระหน่ำจูบ แต่มันยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้เขาต้องทำความเข้าใจให้กับคนตรงหน้าก่อน เมื่อถึงเวลาทั้งตัวและหัวใจของคนๆนี้ ไม่มีทางหนีภาคินไปไหนพ้นแน่
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ