Project Love รุ่นพี่ครับ รับรักผมหน่อย
เขียนโดย Thehungry
วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 16.39 น.
แก้ไขเมื่อ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 17.07 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4) ขั้นหนึ่งของความสำเร็จ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากจัดการตัวเองในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ร่างสูงก็ได้แต่นึกขำใบหน้าเนียนใสแกมแดงเลือดฝาด รู้สึกพักนี้มองทีไรใจมันแกว่งๆทุกที ถึงอยากจะแกล้งร่างบางขนาดไหนก็ตาม แต่ดูท่าผลที่เกิดขึ้นจะกระทบเขารุนแรงกว่าเดิมหลายเท่า
“ขอนอนที่นี้ได้ไหมพี่คิน” คนปากไว ก็ได้แต่สงสายตาแก้มอ้อนวอนส่งไปให้ร่างสูง ที่แสดงสีหน้าตกตลึงชั่วขณะแล้วปรับสีหน้าเป็นยิ้มๆเหมือนล่อเลียนร่างบาง
“ได้แต่มีข้อแลกเปลี่ยน”
“อะไรอะ วาทำได้ทุกอย่าง ยกเว้นแค่…..เออ” เหมือนจะรู้ทันร่างสูง จึงรีบเอ่ยสกัดกั้นเอาไว้ก่อน ใช่ว่าแรดแร้วจะร่านไปทั่ว ถ้ายังไม่ได้ความรักของร่างสูง ต่อให้ร่างสูงบังคับจะเอาให้ได้ สุดท้ายก็ยังคิดไม่ตกอยู่ดี
“ถ้าคิดจะทำ ปานนี้ไม่ได้มานั่งเล่นเฉยๆในห้องนี้แล้วละ ”
“อ่ะ แล้วใครลากวามานี่ละ ” หึๆ ขึ้นชื่อว่าวาเรื่องแบบนี้พี่คินคงไม่รอดหรอก
“คือต้องยอมให้นอนนี่ก่อนใช่ไหม”
“ถูกที่สุด พี่คินน่ารักจัง จุ๊บ” เสียงกดจูบที่แก้มสากร่างสูงชนิดที่แทบไม่ทันตั้งตัว
“เฮ้อ”เสียงถอนหายใจหนักๆพ่นออกมาจากร่างสูงที่กำลังจ้องมองการกระทำอุกอาจของร่างบาง
“พี่คิน…อ่ะ…เอออ…วาอยากจูบพี่คิน” น้ำเสียงตะกุกตะกักเอ่ยอ้อนวอนขอในสิ่งที่ต้องการ ถึงจะรู้ว่ายังไงร่างสูงก็ไม่ขัดเขา แต่วิธีการแบบนี้ร่างบางก็ได้แต่อมยิ้มในใจ รู้ทั้งรู้ว่าร่างสูงกำลังติดกับเขาเข้าซะแล้ว
“เอ๊ะ..”ร่างสูงไม่ตอบคำถามของร่างบาง แต่กลับคว้าเอวบางให้เข้ามาแนบชิดแผงอกแกร่งที่แม้เข้าจะปลดปล่อยความต้องการไปแล้ว ถึงจะพอควบคุมอารมดิบไปได้ แต่น้ำเสียงและสีหน้าอ้อนๆแบบนี้ มันก็ทำให้เขาอยากจะจับร่างเล็กมาขยำให้สิ้นคาอก
“อื้ม….อือ….”ต่างฝ่ายต่างหระหน่ำจูบเข้าหากันอย่างโหยหา ร่างบางเบียดกายเข้าหาไออุ่นจากร่างสูง ปากก็เผยอให้ลิ้นหน้าเข้ากวาดต้อนน้ำหวานจากตัวเอง ฝ่ามือเรียวคว้าหมับรอบลำคอแกร่ง แล้วค่อยๆใช้นิ้วเกลี่ยกระตุ้นอารมวาบวามจากรสจูบอันดุเดือนที่ร่างสูงมอบให้
ร่างสูงเคลื่อนหน้าออกมามองหน้าร่างบาง พร้อมกับร้อยยิ้มสุขใจ อย่างน้อยความหวานของปากเล็กๆที่ชอบดื้นรัน ชอบพูดไรที่อ่อยเขาก็จริง แต่การกระทำสนองรสจูบของเขาที่เงอะงะก็บอกได้เลยว่าร่างบางยังไม่เชี่ยวชาญเรื่องอย่างว่า
“พี่คินจ้องแบบนี้หมายความว่าไง”
“ก็น่ารักดี แค่นั้น”
“แค่นี้ก็ได้ คราวหลังก็รักเลยใช่ป่ะ” เสียงหัวเราะของร่างสูงขานรับทันทีเมื่อร่างบางพูดจบ เข้าใจความรู้สึกของการถูกหยอดก็ไม่กี่วันนี่ นับวันเขายิ่งรู้สึกว่าการมีรุ่นน้องคนนี้มาใกล้ชิด มันทำให้โลกส่วนตัวของเขาดูมีสีสันขึ้นมาอีก ชักสงสัยตัวเองว่าจะต้องตกหลุมพรางเด็กชอบอ่อนเข้าแล้วรึเปล่า
“ครับๆถ้าทำตัวน่ารักกว่านี้” เสียงนุ่มๆตอบกกลับอย่างไพเราะ พร้อมทั้งสายตาดุดันทั้งมีเสน่ห์จ้องมองมาทำให้ร่างบางได้แต่ยิ้มเขินๆ ถึงใจกล้าบ้าบิ่นขอจูบก่อน แต่ใช่ว่าจะกล้าสบสายตาได้ขนาดนั้น
“งั้นวากลับไปนอนที่บ้านดีกว่า อยู่นานๆพี่คืนจะเบื่อ” ใจอยากจะกรี้ดแล้วปิดปากตัวเองที่พูดไปขนาดไหน แต่นี้ก็เป็นแผนหนึ่งตัวเอง ลองปฏิเสธสิ คนอย่างวาวามีแผนสำรองอยู่แล้ว
“ไม่ใช่กลัวโดนปล้ำ”
“ไม่ได้กลัวเลย ลองปล้ำดิ จะถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน ผู้ชายคนนี้เป็นของวาวา ” พูดไปมือไม้ก็จับแก้มสาก พร้อมทั้งค่อยๆลูบไล้โหนกแก้ม อยากจะกดจูบหอมแก้มอีกครั้ง แต่สายตาของอีกฝ่ายก็มองมาจนทำได้แต่จับแก้มลอีกคนเล่นแก้เขิน
“อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีกละ หวง ”
กึก…..
“พี่คินน่ารักที่สุด”ร่างบางโผล่เข้ากอดร่างสูงทันที จากนี้ถือว่าผ่านไปขั้นหนึ่งแล้ว ต่อไปนี้วาจะทำให้พี่รักพี่หลงวาคนเดียว ค่อยดู
………………………….30 % ……………………………..
เกิดความเงียบคลอบงำ ทำให้ร่างบางที่โน้มตัวไปกอดเอง ได้แต่ใจหวิวๆ กับความรู้สึกของร่างหนาตรงหน้า เงียบมาก เงียบจนไม่รู้ว่าคนตรงไหนกำลังคิดอะไรอยู่ คิดไปต่างๆ หรือว่าจะรุกร่างหนาหนักไป คนที่ได้แต่พะอืดพะอำเอาไว้ในใจ หากแต่ใบหน้าเนียนใสกลับทำตามใจสั่ง เอนซบอกอย่างหน้าไม่อาย พร้อมกับคิดหาทางเอาตัวรอด ถ้าหากไม่มีทางเลือกจริงๆก็คิดได้แต่เพียงสมยอมเท่านั้น
“พี่คิน…..เออ….เงียบทำไม” ด้วยความเงียบ ถ้าจะรอให้อีกฝ่ายหง่างปากพูดก่อน ดุท่าจะยาก ทำให้ร่างบางตัดสินใจถามเบาๆพลางปล่อยลมพ่นออกจากปากนิดๆเพื่อให้สัมผัสกายร่างสูง ที่อยากจะแกล้งยิ่งหนัก พลางนึกถึงเหตุการณ์ที่ถูกร่างสูงแกล้งไปสักพัก หากเป็นจริงๆ ก็คิดไม่ตกว่าจะห้ามใจตัวเองได้ไหม
“กอดแน่นขนาดนี้ แล้วใครบอกเป่าลมมาใส่ อยากโดนจัดรึไง”
ฉ่า
คำตอบไม่ได้ช่วยให้อาการเขินอายลดลง กลับทวีคูณเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ร่างบางได้แต่ส่ายหน้าไปมา อยากจะบอกว่าไม่จริง แต่ความเป็นจริงในใจกลับค้านฝาชนอกว่าอย่าพูดแบบนั้น ถ้าพี่คินจับได้ คงซวยแน่ ถึงจะรู้ว่าร่างสูงเล่นด้วยก็ตามแต่
“ก็พี่คินแกล้งว่าก่อนทำไม ทำให้อยากแล้วจากไป” เมื่อหาทางแก้ตัวไม่ขึ้น ก็ได้แต่ก้มหน้าตอบความจริง เพื่อยอมรับชะตากรรมของตัวเอง
“ไม่ได้แกล้ง ถ้าเอาจริง เราจะดีใจไหม หากไม่ได้เกิดเพราะความรักแต่เพราะความสนุก”
ปึก
ความรู้สึกเหมือนเดินออกไปให้รถชนกลางถนนซะงั้น ก็จริงๆ ก็จริง พี่คินพูดถูก ถึงแม้ตัวเองจะปฏิเสธแต่ถ้ามันห้ามไม่ได้จริงๆ จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ได้หรือไม่ ความสุขับคำว่าสนุก มันตามกันมาก็จริงแล้วความรัก ความจริงใจละ ที่เขาต้องการ
“คิดอะไร”
“วารู้ว่า…เอออ..ยังไงดีละ วาเลือกคนไม่ผิดแน่ๆ นี่แหละว่าที่สามีตัวจริง คิคิ” พอรู้ว่าไม่มีทางหาทางเอาตัวรอด สมองก็ประมวลหาเรื่องเอาตัวรอด แถมยังซุกใบหน้าแนบสนิทแทบจะจมคาอกแกร่ง ทิ้งท้ายด้วยเสียงหัวเราะให้คนฟังอดเอ็นดู จนอดไม่ได้ที่จะใช้มือลูบปอยผมเบาๆ
กึก
เพียงแค่ฝ่ามือหนาลูบเบาๆ ความรู้สึกของคนที่กำลังมีความสุขที่สุดของวันนี้ จากเสียงหัวเราะก็เงียบสนิท ได้แต่กระพริบตาปริบๆ พร้อมทั้งโน้มตัวออกห่างออกมาเพื่อสบตากับร่างสูง คนที่ทั้งใจกำลังหลงรักเข้าเต็มเปา
“หึๆ มองแบบนี้ คิดอะไรอยู่”
“ป่าวนะ แค่ดูวันนี้พี่ใจดีเกินไป เอ๊ะ…วาป่าวสงสัย แต่เป็นแบบนี้วาก็แย่อ่ะสิ” พูดจบก็ลุกขึ้นยืน โน้มหน้าก้มลงไปกดริมฝีมือจูบร่างหน้าเบาๆ พร้อมผละออกอย่างรวดเร็ว แววตาพรายพราวส่งยิ้มหวานที่สุดเท่าที่จะยิ้มได้ส่งไปให้ พร้อมทั้งฝ่ามือเล็กกอบกุมใบหน้าหล่อเหล่าอย่างเบามือ ไม่ได้กลัวจะแหลกสลาย แต่กลัวจะไม่มีสิทธิ์ได้ทำแบบนี้อีก สายตาหวานๆก็จับจ้องให้อีกฝ่ายได้แต่นิ่ง มองการกระทำที่แทบไม่เคยเห็นในตัวคนคนนี้
“จ้องขนาดนี้ คิดตังค์ได้ไหม” เสียงทุ้มๆเอ่ยแซวขึ้น
“อ่ะ..ถ้าขอเช่าทั้งตัวคิดเท่าไร” ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายตอบคำถาม ร่างบางเดินอ้อมมานั่งอีกฝังตรงข้าม ใช่ว่ากลัวแต่จ้องมากๆ กลัวร่างสูงจะเบื่อตัวเองซะก่อน
“ตกลงจะนอนนี่ให้ได้ใช่ไหม” น้ำเสียงที่ได้ยินบ่งบอกความรู้สึกของเจ้าของห้องได้ดี ถึงจะรู้จักกันไม่นาน เขาก็ไม่อยากให้ใครมองร่างบางแล้วคิดไปอื่นใด เพราะสถานะที่มีต่อกันยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง ถึงพวกเขาจะเป็นชายทั้งคู่แต่เขาก็ไม่อยากทำร้ายเกียรติของร่างบาง
“’งั้นกลับบ้านก็ได้ฮะ พี่คินไปส่งนะ” เมื่อเจอน้ำเสียงกดดันจากร่างสูง ร่างบางได้แต่ยอมรับและตัดสินใจยอมกลับบ้าน เพราะถ้าอยู่ทุกอย่างเป็นเพราะความผิดเขาเอง ทั้งๆที่ร่างสูงให้โอกาสเขาแล้ว
“อืม อย่าทำหน้าแบบนั้น พี่มีเหตุผล ไว้เราทำให้พี่คิดกับเรามากว่าน้อง วันนั้นห้องนี้ต้อนรับเสมอ ”
คำพูดยาวๆที่เอ่ยออกมา ส่งผลต่อระบบอัตราการเต้นของหัวใจร่างบางขนาดหนัก ความรู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่ในฟองสบู่นุ่มนิ่ม ความรู้สึกอึ้งๆสอดแทรกความแปลกใหม่ให้ใจดวงเล็กๆ ได้มีความหวัง ทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองนั้นแหละกำลังจะตกหลุมพรางเข้าเสียแล้ว
“อ่ะครับๆ กลับๆ” มือบางคว้าหมับควงแขนร่างหน้า พร้อมทั้งซบแขนแกร่ง ใบหน้าเปลี่ยนสีอมชมพู ค่อยๆถูไถไปตามแขนเสื้อร่างหนาให้คนตัวสูงได้แต่ยิ้มขำกับความอายที่ได้เห็น
หลังจากร่างสูงตัดสินใจมาส่งร่างบางถึงบ้าน ให้ร่างบางที่กำลังทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี เชิญชวนแขกเข้าบ้าน แต่ก็ไม่วายโดนปฏิเสธเพราะเจ้าตัวมีงานต้องไปทำต่อด่วน
“วาวาไปแล้วนะฮะ กูดไนท์นะ ฟอด..” สันจมูกเล็กกดลงบนแก้มของอีกฝ่ายอย่างหนักแน่น พร้อมทั้งสูดกลิ่นอายร่างสูงเข้าปอดอย่างเต็มที่ พอรู้ว่าทำในที่ไม่เหมาะ จึงทำได้แต่รีบผละออกมา แต่ไม่ทันจะหันหลังกลับเดินเข้าบ้านก็ถูกคว้าหันกลับไปทางเดิมที่กันหนีมา
ร่างหนาไม่รอช้า เพราะถือว่าร่างเล็กทำตัวน่ารัก ทำให้ร่างหน้าก้มหน้าลงใช้ปากขบเบาๆเพื่อสร้างรอบความเป็นเจ้าของที่ลำคอของร่างบาง พลางส่งลิ้นหนาออกมาเลียรอยที่เกิดจากการดูดเพื่อเป็นการปลอบโย การกระทำอุกอาจและแปลกใหม่ทำให้ร่างบางได้แต่สั่นสะท้าน ลืมไปสนิทว่าตนเองยืนอยู่หน้าบ้าน จนหระทั่งร่างหน้าผละออกมา พร้อมกับความอุ่นวาบที่หน้าผาก ทำให้สติเริ่มกลับมาสู่ตัวเองอีกครั้ง
“ไปๆเข้าบ้าน ทำหน้าแบบจะให้เข้าไปด้วย” น้ำเสียงทะเล้นพูดกวนร่างบางให้คนตรงหน้าได้แต่พองแก้มเล็กๆ เป็นอันว่าวันนี้เขาแพ้ผู้ชายคนนี้อย่างราบคาบ
“ฮะ …..พี่คิน ….เออ…อย่าไปทำแบบนี้กับใครนะ วาขอร้อง” เสียงเล็กเอ่ยบอกร่างสูง ก่อนจะเดินเปิดประตูเข้าบ้านไป พร้อมกับหันหน้ามาโบกมือให้กับอีกคนที่ยืนดู
“จร๊เอ๋………ลูกใครหว่า แก้มแดงมาเชียว บอกม๊ามานะ ไปเจออะไรดีๆมาวันนี้” ยังไม่ทันพ้นของประตูบ้าน ร่างบางก็ต้องตกใจกับเสียงแซวของมารดาตัวเอง ที่กำลังยืนพิงพนักประตูอยู่ อ่า…ในใจก็ได้ร่ำร้องว่าอย่างพึ่งให้ม๊าเห็นเหตุการณ์เมื่อกี้เลย
“ก็ป่าวนิฮะม๊า วาแค่ เออ…แค่…..แค่พี่คินมาส่งวาเมื่อกี้อ่ะ”หมดคำแก้ตัว ให้คนฟังได้แต่ส่งยิ้มกว้าง ให้ลูกรักได้แต่โผล่เข้ากอดพร้อมกับซุกหน้ากับไหล่เล็กๆของผู้เป็นมารดาอย่างอ้อดอ้อน
หมับ
“ม๊าเห็นนะ ม๊าไม่ห้ามไม่ว่า ม๊ารู้ว่าลูกม๊าอ่ะโตแล้ว พี่เค้าหล่อดีนะลูก วันหลังชวนมาให้ม๊ารู้จักบ้างนะ ”
“ฮะม๊า อ่า…วาเปล่าจะโกหก แต่วาเขินอ่ะ ก็พึ่ง….เออ”
“พึ่งโดนทำคิสมาร์คมานะหรอ….หืม ..ลูกใครนะกระโดดหอมแก้มผู้ชายก่อน เอ๊ะ..ม๊ามีลูกชายนิหว่า ว๊าย!” เสียงล่อเลียนนิดๆทำให้ร่างบางรีบผละออกแล้วใช้นิ้วจี้รอบเอวมารดาอย่างงอนๆที่โดนจับได้ตั้งแต่ต้น แต่กลับพูดแกล้งเขาซะงั้น
“ม๊าอ่า….ไม่ไหวแล้ววว…..วาอยากขึ้นห้องแล้ว ไม่คุยกับม๊าแล้ว ไว้เคลียวันพรุ่งนี้ วันนี้เขิน จุ๊บๆ” พูดเอง เออเองเสร็จสรรพ ไม่รอช้าให้ถูกซักถาม เพราะยังไงก็คงโดนแทะจนหมดเปลือกอยู่แล้ว เมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงขอไปสงบจิตใจ ก่อนที่จะโดนม๊าแกล้งไรเพิ่มอีก ได้ที่รีบแจ้นหนีเอาตัวรอดก่อนวันนี้
“ม๊าให้โอกาสแค่พรุ่งนี้น๊าวาวาลูกรัก ไม่งั้นม๊าจะไปบอกพ่อหนุ่มคนนั้นให้หาหนุ่มหน้าหวานหรือสาวสวยอื่นให้รู้แล้วรู้แล้วไปเลยดีมะ” นี่ม๊าใครว่ะเนี้ย แกล้งกันได้เจ็บแสบมาก วาเปล่าได้นิสัยจากม๊านะ วานะเด็กดีจะตายไปเนาะ
“ถ้างั้นวาก็จะไปบอกคุณน๊าคนที่แซวมาเรื่องเบอร์ม๊าและพามาบ้านเราเหมือนกัน คิคิ ”
“วาวา!! ม๊ายอมแล้ววววว” เสียงสุดท้ายของผู้เป็นมารดาของเขาเอ่ยบอกก่อนจะปิดประตูเข้ามายังห้องนอนตัวเอง วันนี้ทั้งวันรู้สึกตัวเองเหมือนฝันชัดๆเหมือนจะเจอเรื่องไม่ดี แต่ใช่ว่าจะแย่เสมอไป ยังไงเขาก็มีม๊าที่เข้าใจเขาเสมอไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
‘ว่าที่สามี call me’
กรี้ดดดดดดดดดดดดดด………………….ตาฝาด ตาฝาดชัดๆ พูดไปก็ได้แต่เอาหมอนมาทุบเล่น พลางมองหน้าจอมือถือตัวเอง มือเล็กๆสั่นไหว ฝ่ามือเล็กก็ตบใบหน้าตัวเองแรงๆ
“โอ้ย!! เจ็บ วาแกโง่ป่าวเนี้ย ..”สายตาก็ยังสาดส่องดูชื่อที่โทรเข้ามาใหม่ พอแน่ใจก็รีบกดรับทันที
“ฮะ….วาที่สามีวาป่าวอ่ะ ” ใจเต้นตุ๊บตับไปตามจังหวะกลอง ทั้งที่ห้องก็แสนจะเงียบ แต่กลับรู้สึกเหมือนกลองกระหน่ำรั่ว รอคอยเสียงใครบางคนตอบรับกลับมา
……………………80%...........................
ตึก ตัก ตึก ตัก
เสียงหัวใจเต้นถี่ไม่ต่างจากคนที่พึ่งวิ่งออกกำลังกายมาหมาดๆ อัตราการเต้นของหัวใจบ่งบอกอารมของร่างบางที่ออกอาการตื่นเต้นตั้งแต่รับรู้ว่าใครโทรมาหาตน แต่เมื่อปลายทางของมือถือที่โทรมากลับมีเพียงความเงียบ จนคนรอสายอดที่จะคิดไปต่างๆนาๆ เกิดอะไรขึ้นกับพี่คินรึเปล่า
“จะพูดไหมฮะ ทำไมเงียบแบบนี้ละ พี่คินไม่ชอบหรออออ..ว่าไม่ทักแบบนี้ก็ได้น๊า” อ้อนเข้าไว้นะวา คอนเซ็ปนี้ใช้ได้เสมอ ต่อให้ผู้ชายหน้าไหน เจอไม้นี้เข้าก็อ่อนข้อกันทั้งนั้น อิอิ
“เออ!! กูไม่ชอบเพราะไม่ใช่พี่คินไรของเพื่อนวาอ่ะสิ” เสียงแหบเล็กๆของปลายสายกลับทำให้ความงุนงงขึ้น พี่คินไปอยู่ที่ไหน ทำไมเสียงเรียวตอบกลับมาได้ อย่าบอกนะว่า
“พี่คินอยู่ไหนเรียว ทำไมเรียวถึงได้ใช้มือถือพี่คิน วาจะคุยกะพี่คิน บลาๆ”
“เฮ้ย!! วาวาน้อยย เงียบแล้วฟังก่อน ”
“เล่ามาให้หมด ไม่งั้นเจอดีแน่เพื่อนรัก”
“เจอดีจริงๆ มีผู้ชายสองคนแถมอย่างหล่อนั่งข้างๆ ซ้ายมือก็พี่คิน โอ้ยยย…….”
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดด
“หยุดพล่ามได้แล้วนะเรียว วาไม่เล่นด้วยนะ บอกมาเลย”
ยิ่งเรียวได้ยินเสียงง้องอนของเพื่อนตัวเองยิ่งอย่างแกล้ง สิ่งหนึ่งที่วาวามีเสมอคือความเป็นตัวเอง ต่อให้พยายามแรดมากแค่ไหนก็ยังแสดงความสดใสออกมา อันที่จริงเขาก็อยากจะอธิบายให้วาฟัง แต่การได้แกล้งเพื่อนตัวเองมันก็เป็นความสุขเล็กๆสำหรับผลตอบแทนนิดๆ
“โอเค พี่คินกลับมาหาพี่ที เพราะพี่คินมีธุระที่ต้องทำอยู่ที่บาร์ เอ๊ะ! ห้ามถามว่าอะไร ไม่ใช่เรื่องอย่างว่าหรอก งานของพี่คินเขาเว้ย และที่โทรมาเนี้ย แค่จะบอกว่า ทำไมทิ้งกันแบบนี้ มือถือก็แบตหมด….แล้วก็เออ…รู้สึกไม่อยากอยู่ในสภาวะอึดอัดใจแบบนี้เลยวา กูควรทำไงดี ”จากน้ำเสียงตื่นเต้นก็กลับกลายเป็นเศร้า จริงๆก็เป็นความผิดของเขาเองที่ทิ้งให้เรียวอยู่กับพี่ที ทั้งที่รู้ว่าเรียวมันไม่มีทางเอ่ยปากบอกชอบผู้ชายแบบนั้นได้หรอก เพราะอะไรนะหรอ…เฮ้อ!เข้าใจยากจังความรัก
“อ่า..วาขอโทษนะเรียว ตอนนี้วาอยู่บ้านแล้ว เรียวขอให้พี่ทีไปส่งได้ป่าว แต่ถ้าไม่ได้เดี๋ยววาออกไปรับเอง”
“ไม่ต้องหรอก พี่คินบอกแล้วว่าไปส่งที่บ้าน ดึกขนาดนี้จะออกมาทำไม เดี๋ยวเราหาทางกลับเองหรอก ยังไงเดี่ยวจะบอกรปภ.ดูรถให้แล้วกัน” เรียวเป็นเพื่อนที่แม้จะกัดกันกับวาแค่ไหนก็ตาม แต่เรื่องความเข้าใจของคำว่าเพื่อน ทำให้ทั้งสองแทบไม่มีเรื่องบาดหมางใจกัน ต่างคนต่างมีเหตุผลมากกว่าต้องมาคิดเรื่องที่มันบั่นทอนจิตใจตัวเอง
“ขอบใจน๊า..อ่า..เราอยากได้ยินเสียงพี่คินอ่ะเรียว ขอวาคุยด้วยหน่อยนะ”เสียงอ้อนๆตอบกลับ ขอร้องให้เพื่อนช่วยให้ร่างสูงมาคุยกับตน ถึงแม้จะพึ่งห่างกันไม่ถึงชม.แต่ความคิดถึงและสัมผัสที่ร่างสูงทิ้งเอาไว้ ใช่ว่ามันจะจางหายไปง่ายๆ
“พี่คินครับ วาอยากคุยกับพี่”
เสียงพูดคุยของเรียวที่เรียกเสียงร่างสูงเพียงแค่นั้น กลับทำให้คนปลายสายตื่นเต้น อยากจะได้ยินเสียงทุ้มๆ อยากรู้ว่าปลายสายจะพูดเหมือนตอนที่อยู่กันสองคนรึเปล่า
“ว่าไง ยังคิดถึงกันอยู่รึไง พึ่งจากกันเอง” พี่คินเป็นยังไงก็ยังงั้นจริงๆ ถึงแม้เสียงเพลงตรงที่พี่คินอยู่จะดังแต่เสียงที่ตอบกลับมา ทำให้ร่างบางได้แต่ยิ้มกว้าง แล้วกลิ้งไปกลิ้นมาบนที่นอนตัวเอง
“ไม่ได้คิดถึงซะหน่อย แค่คิดอยากจะเป็นลมหายใจให้เลย จะได้ตามไปไหนได้ตลอด”
“หึๆ นอกจากอ่อยเก่งแล้วยังปากหวานซะ”ใครบอกผู้ชายคนนี้พูดไม่ตรง วาวาของยืนยันนอนยันเลย ผู้ชายคนนี้คิดอะไรพูดแบบนั้นจริงๆ มั้งนะ
“ก็ชิมแล้วนี่ฮะ หรืออยากจะลองดูใหม่ไหมละ คิคิ”วาเน้นนโยบายเชิงรุก ยิ่งพี่คินเล่นด้วยมากเท่าไร ตัวรุกยิ่งหนักขึ้นทุกครั้ง เสร็จกับวาแล้วพี่คินจ๋า
“แล้วทำไมยังไม่นอน ดึกมาละ”เสียงดุบอกกลับมาให้คนยิ้มบ้าอยู่คนเดียวได้แต่พึมพำ ถึงเสียงจะดุ แต่ก็สัมผัสได้ว่าพี่คินต้องเป็นห่วงตัวเองแน่ (ไรเตอร์:วาน้อยช่างมโนเก่งจริงๆ)
“ก็เออ…เบอร์พี่คินโทรมา แล้ววาคิดว่าพี่คินคิดถึงวาซะอีก อ่า..ที่ไหนเรียวซะอีก พี่คิน! วาฝากเรียวด้วยนะฮะ วาเป็นห่วง” น้ำเสียงอ้อนๆพร้อมกับเสียงนุ่มของร่างบาง ทำให้ร่างสูงที่ถือสายคุย ทั้งที่เขาเป็นคนไม่ชอบการคุยมือถือ ยิ่งเฉพาะในผับที่เสียงเพลงกระหึ่มดังขนาดนี้ แต่พอได้ยินเสียงร่างบาง กลับทำให้เขาอยากจะรู้ว่าคนตัวเล็ก จะใช้ไม้ไหนมัดใจคนอย่างเขา
“อ่ะเค ไอ้ทีมีอาสาไปส่งอยู่แล้ว เราก็ไปนอน พี่มีงานต้องไปทำ”
“ฮะรับทราบครับผม งั้นวาจะไปอาบน้ำแล้วกินนอนตามคำสั่งสามีนะเออ เอ๊ะ ..วาที่ก็ได้ฮะ อย่าให้สาวๆเกาะนะ วาหวงและห่วง กูดไนท์อีกรอบฮะ จุ๊บ”ไม่วายยังเสียงเสียงจุ๊บให้ปลายสายได้ยิ้มตาม ทั้งๆที่ไม่ได้เจอหน้ากันก็ตาม ร่างสูงเองก็ได้แต่คิดในใจ ทำไมรุ่นน้องคนนี้ถึงกล้าท้าจีบเขาเช่นนี้ ไม่สังเกตอะไรเลยรึไง
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ