Tokyo Ghoul ทั้งหมดของผมมอบให้คุณ (yaoi)
-
เขียนโดย วายะ
วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 13.06 น.
2 ตอน
3 วิจารณ์
10.72K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2557 13.15 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบางทีการที่มีใครชอบมาตามตื้อรอบๆตัวเรา
มันอาจนำพาบางสิ่งที่เรียกว่า…
ความรัก
…
เส้นผมขาวที่สะท้อนกับแสงแดดตอนเช้าทำให้ผู้ครอบครองเรือนผมนั้นดูโดดเด่นในท่ามกลางฝูงชนที่เดินไปมาในกรุงโตเกียวนี้
“Bonjour คาเนกิคุง บังเอิญจังนะ กำลังจะไปไหนเหรอ”ชายหนุ่มผมสีม่วงสด ใบหน้าหล่อเหลา ที่ไม่ว่าสาวคนไหนก็หลงเสนห์เขาแน่ๆแต่น่าเสียดายนะที่เขาเป็น”กูล”
“ไงครับ ทสึกิยาม่าซังมันจะใช่เรื่องบังเอิญแน่เหรอครับ?”ผมพูดแบบนั้นโดยยังไม่หยุดก้าวเท้าเดินต่อไปเรื่อยๆ แต่ทสึกิยาม่ายังเดินตามมาติดๆเช่นกัน
“ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ เรื่องนั้นเธอก็น่าจะรู้อยู่แล้วจริงไหม”ทสึกิยาม่าพูดพลางยกยิ้มที่มุมปากอย่างมีเลศนัย
แน่นอนว่าผมนั้นรู้อยู่แล้วว่าทำไมทสึกิยาม่าซังถึงมาเจอกับผมในวันธรรมดาแบบนี้ได้(ไม่ได้ไปที่มหาลัย) ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่เขาคอยตามผมไปทุกที ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ แม้ในอันเทก็ไม่พ้นจากสายตาของทสึกิยาม่าซังได้เลย แล้วก็จะทำแบบเดิมซ้ำๆก็คือ…
“คาเนกิคุง ชั้นรักเธอจริงๆนะ”ทสึกิยาม่าซังพูดขึ้นขณะที่นั่งดื่มกาแฟในร้านเบเกอรี่ในห้างที่ผมชอบแหะเข้ามาบ่อยๆในเวลาที่ว่าง
“เอ่อ…ทสึกิยาม่าซัง ผมว่าบอกคุณไปแล้วนะว่า ผมนะไม่มีทางรับความรู้สึกคุณได้”ผมเบี่ยงสายตาหันไปยังมองอย่างอื่นนอกร้านแทน
“ทำไมถึงไม่สามารถรับความรู้สึกของฉันได้ล่ะ”ทสึกิยาม่าซังดึงมือบางของผมไปกุมไว้เหมือนเป็นการเรียกความสนใจของผมจนผมหันมาทันทีด้วยความตกใจ
“คุณก็น่าจะรู้นะว่าการที่คนหนุ่มหล่อแบบคุณที่สาวๆคนไหนก็อยากได้ตัวคุณมาเป็นคู่ แล้วถ้าผมไปคบกับคุณมันจะทำให้ผมโดนจ้องมองทุกวินาทีเลยรู้ไหม”ผมเอียงคอเพื่อเป็นการให้ทสึกิยาม่าซังได้เห็นสาวที่นั่งแต่ล่ะโต๊ะนั้นจ้องมองพวกเราด้วยสายตายังไง
“ก็ไม่เห็นต้องไปสนใจพวกนั้นเลยหนิ”ทสึกิยาม่าซังพูดอย่างไรเหตุผล ยังไม่ยอมเลิกรา ทำไม่ยังตื้อไม่เลิกแบบนี้กัน
“คุณนี้นะ…เฮ้ย!คุณกำลังทำอะไร”ผมอุทานออกมาเบาๆ จะไม่ให้ร้องได้ไงในเมื่อทสึกิยาม่าซังนั้นดึงมือบางของผมนั้นเข้าไปเลียด้วยลิ้นอุ่นแบบไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะพยายามดึงมือกลับแต่ก็ไรผล เมื่อแขนแกร่งนั้นดึงกันไม่ให้ผมได้ดึงมือกลับได้
“แล้วคาเนกิคุงไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันเลยเหรอ”ร่างสูงทำหน้าอ้อนก่อนจะจับมือของผมเข้าไปจับที่แก้มของเขา จนผมรู้สึกได้ว่าหน้าของผมนั้นเริ่มร้อนขึ้นมา
“ผมจะไปรู้สึกแบบนั้นกับคุณได้ยังไง”ร่างบางพูดเสียงเรียบก่อนจะสะบัดมือแกร่งนั้นแล้วก้าวเท้าเดินออกจากร้านไปทันทีโดยไม่ฟังเสียงเรียกจากร่างสูงเลยสักนิ
ถามว่าไม่รู้สึกอะไรงั้นเหรอ จะไม่รู้สึกได้ไง! ผมก็ไม่แน่ใจกับตัวเองเท่าไรว่าตัวผมเองนั้นรู้สึกยังไงกับทสึกิยาม่าซัง เกลียดหรือว่ารัก แต่พวกเราก็ไม่ใช่คนแต่เป็นกูลเรื่องนั้นคงไม่เป็นปัญหาเท่าไร แต่ไหนจะเรื่องเพศอีก ผมทำได้แค่ตัดใจเท่านั้น และได้เพียงหวังว่าเขาคงจะได้เจอสิ่งที่ดีกว่า
“เฮ้! นายหัวขาวๆตรงนั้นนะ”เสียงหวานเรียกจากทางด้านหลังผม
เอาอีกแล้ว…
มุมอับในห้างแห่งหนึ่ง
ปัง!
เสียงจากการเอากำมือเล็กๆที่แรงไม่เล็กได้ทุบกำแพงนั้นเต็มแรงจนเกิดรอยร้าวตามกำแพง
“ชั้นว่าชั้นบอกนายตั้งหลายรอบแล้วนะว่า อย่ามายุ่งกับท่านทสึกิยาม่านะ”หญิงสาวที่ทุบกำแพงมองมาตรงหน้าผมอย่างเจ้าคิดเจ้าแค้นที่ทำกรรมไว้ในชาติก่อนยังไงยังงั้น
“จะต้องให้เจ็บตัวก่อนรึไงยะ!”เธอเริ่มตะโกนใส่หน้าผม ดวงตาสีฟ้าได้เปลี่ยนเป็นดวงตาสีดำแดงที่เป็นลักษณะของกูลออกมา
“ใช่ ใช่!”พวกผู้หญิงคนอื่นคอยส่งเสียงสนุบสนุน
พวกเธอมักจะชอบเข้ามาหาเรื่องกับผมทุกครั้งที่ทสึกิยาม่าซังนั้นมาอยู่กับผม แต่พวกเธอก็รู้อีกว่าทสึกิยาม่าซังนั้นเป็นฝ่ายเข้ามาหาผมแต่พวกเธอนั้นแกล้งตาบอดว่าผมเป็นคนเข้าหาแทน
“ผมว่าพวกคุณไปบอกเขาเองไม่ให้ตามผมจะดีกว่าไหมครับ”ผมพูดเสียงเรียบ
“แก! คิดว่าตัวเองสูงส่งมาจากไหนกันห่ะ! ท่านทสึกิยาม่าไม่มีทางไปหาคนอย่างแกแน่ถ้าแกไม่ไปหาเขาก่อนแน่!”เธอเริ่มร่ายยาวเข้าไปอีกก่อนที่จะพยายามจะชกเข้าหน้าผมแต่ผมหลบทันทำให้มือของเธอนั้นชกเข้าเอาโดนกำแพงเต็มๆของเหลวสีแดงไหลอาบมือของเธอ
“กรี๊ดดดดดดด! แกกล้าทำชั้นเหรอ” หญิงสาวร้องดังจนคนเริ่มหันมามอง
ทำตัวเองแท้ๆ
“พอดีผมมีธุระไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะมายุ่งกับพวกคุณ งั้นผมลาล่ะ”ผมพูดจบก็เดินออกมาทั้งทีพวกนั้นพยายามเข้ามาจะยึดผมไว้แต่ด้วยจำนวนคนที่มีอย่างมากมายแถมกับผมที่เป็นคนที่เดินเร็วจนพวกนั้นตามไม่ทัน
“น่าเบื่อจริง”ผมพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะสะดุ้งตาเข้ากับร้านหนังสือที่ผมมักไปบ่อยๆ ก่อนตัดสินใจเข้าไปในร้านหนังสือนั้น
ถ้าอยู่ที่นี้ก็จะเงียบสงบดี นั้นเป็นบรรยากาศที่ผมชอบที่สุดไม่ต้องไปมีเรื่องกับใคร
“คาเนกิคุงอยู่ที่นี้จริงๆด้วย”ชายที่ทำให้ต้องเกิดเรื่องแบบนี้ทุกวี่ทุกวันที่ไม่ได้รับรู้อะไรเลย เพราะผมไม่ได้บอกไป
ผมกำลังจะเดินออกไปแต่มือแกร่งคว้าข้อมือบางของผมนั้นเข้ายึดไว้ให้ผมหยุดชะงักลงพร้อมหันมามองคนตัวสูงกว่า
“ไม่ต้องไปไหนหรอกเธอนะชอบที่นี้ก็นั่งอ่านตามสบายเลย ชั้นจะอยู่เงียบๆเท่านั้นเอง”น้ำเสียงที่แสนอ่อนโยนนั้นทำให้เริ่มรู้สึกหน้าร้อนขึ้นอีกครั้ง
“งะ…งั้นก็ปล่อยมือสิครับ แล้วผมจะหยิบหนังสืออ่านยังไง”ผมพูดกลั้นเสียงให้อยู่ในปกติมากที่สุด
“อืม”พูดเพียงเท่านั้นก็ยอมปล่อยมือออกอย่างว่าง่ายจนผิดแปลก
ทำไมวันนี้ว่าง่ายจัง
ผมนั่งอ่านไปเรื่อยๆกับทสึกิยาม่าซังจนพึ่งมาสังเกตว่าเลยเวลาที่ต้องไปทำงานแล้ว
“แย่แล้ว!ทสึกิยาม่าซังผมต้องขอตัวไปก่อนแล้ว”ผมพูดอย่างนั้นพร้อมเก็บหนังสือที่ผมได้เอาออกมา
“อันเทคุสินะ”ทสึกิยาม่าซังพูดออกมาเบาๆ
“ครับ ผมไปก่อนนะ”ผมพูดบอกแค่นั้นก่อนจะเดินก้าวเท้าออกจากที่นั้นทันที
อันเทคุ
“นายช่วยไปเอากาแฟที่หลังร้านมาที”โทกะจังบอกกับผมขณะที่ตัวเองกำลังรินกาแฟเตรียมเสริฟ์
“…”ผมไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่พยักหน้ารับก่อนจะวางไม้กวาดไว้ก่อนแล้วเดินไปหยิบกาแฟตามที่โทกะจังบอก
“ไง คาเนกิคุง โทกะจังให้มาเอาของเหรอ”โยชิมูระซังที่อยู่หลังร้านที่เตรียมจะออกมาพอดีทักผมขึ้น
“ใช่ครับ”
“มันอยู่ตรงชั้นบนสุดตรงของชั้นหนังสือนะที่เขียนว่า กาแฟดำ นะ”โยชิมูระซังบอกแค่นั้นแล้วเดินพร้อมยกกล่องใบเล็กเดินออกไป
“ขอบคุณครับ”ผมกล่าวขอคุณก่อนจะหันมาทำหน้าที่ของตน
ตรงชั้นหนังสือบนสุดนั้นสูงมากกว่าส่วนสูงของผมพอสมควร ผมพยายามยืดตัวสุดชีวิต แต่ก็ได้เพียงปลายนิ้วแตะถึงเท่านั้น ทำไมมันต้องวางไว้บนที่สูงด้วยเนี่ย! ก่อนที่จะมีมือเรียวมาจับที่กล่องที่ผมพยายามจะหยิบมัน
“กล่องนี้สินะ”เสียงคุ้มเคยที่ดังมาจากข้างหลัง สัมผัสได้ถึงความร้อนจากกายอีกฝ่าย ผมรีบหันไปด้านหลังทันที่ด้วยความตกใจ
“…”
“…”
พวกเราต่างเงียบกันไม่มีใครกล้าพูดอะไร บรรยากาศชวนดูอึดอัดมากถ้าจะถามถึงเหตุผลว่าทำไมก็คงเพราะหน้าของพวกเรานั้นใกล้กันมากจนสัมผัสถึงไอร้อนจากลมหายใจผมได้เพียงแค่ยืนนิ่งอยู่แบบนั้น
“คาเนกิ”ทสึกิยาม่าซังเริ่มเรียกผมก่อนแต่ไม่ใช่แค่นั้นพร้อมยังขยับตัวเข้ามาใกล้จนห่างกันไม่เท่าไรริมฝีปากของพวกเราก็จะสัมผัสกันอยู่แล้ว
“ทสึกิยาม่าซัง เอ่อ…หลีทางผมได้แล้วครับ”ผมเริ่มเรียกเขาหวังให้สติของเขากลับมาแต่มันคงไร้ผล ยิ่งใบหน้าพวกเรานั้นใกล้กันเข้าไปอีก ผมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี จึงตัดสินใจหลับตาไม่อยากเห็นอะไรอีก
“เฮ้ย!นายจะช้าไปไหนเนี่ย เรื่องแค่… อ้าวเกิดอะไรขึ้น”โทกะจัที่เดินมาเพื่อเอากาแฟที่ผมต้องเอาไปให้ด้วยอารมณ์ที่โกธรจัด แต่ก็ต้องงงเมื่อเห็นทสึกิยาม่าซังที่ไปนอนอยู่กับพื้น
“ไม่มีอะไรหรอก อ่ะ!นี้ของที่โทกะจังหาสินะ”ผมหยิบกล่องที่ตกที่พื้นมาให้โทกะจังก่อนที่เธอจะมองผมสลับกับทสึกิยาม่าซังไปมา ก่อนจะเดินออกไป
“เกือบไหมล่ะ”ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะคิดว่า ทำไมเมื้อกี้ตนไม่ผลักตั้งแต่แรก หรือว่าเราต้องการ เอ๋? เมื้อกี้เราคิดว่าต้องการงั้นเหรอ ไม่มีทางน่า
“คาเนกิคุง หลังจากนี้กลับได้แล้วล่ะ”โยชิมูระซังเดินเข้ามาโดยไม่สนใจทสึกิยาม่าซังที่นอนอยู่บนพื้นสักหนิ
“ขอบคุณครับ”ผมก้าวเท้าว่าจะเดินไปห้องเปลี่ยนชุดแต่ก็โดนเรียกซะก่อน
“จะว่าไปช่วงนี้ก็ระวังด้วยล่ะ”ก่อนที่โยชิมูระซังเดินเข้ามาใกล้ๆพร้อมกระซิบบางอย่าง
“พวกสาวๆของทสึกิยาม่าอยู่ตามนี้นะ”
“!”ผมทำสีหน้าตกใจ ทำไมปัญหาแบบนี้จะต้องมาเกิดกับผมด้วยเนี่ย!
โยชิมูระซังเดินออกไปทั้งที ส่วนผมก็รีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อทันทีก่อนจะออกมาพบกับทสึกิยาม่าซังที่ขึ้นมานั่งไขว้ห้างอย่างสบายใจ
“จะกลับแล้วเหรอชั้นมีที่ที่อยากไปกับคาเนกิคุงด้วยนะ”ทสึกิยาม่าซังส่งยิ้มมาให้ทำไมถึงรู้สึกว่า มันน่ารักกันล่ะ
ตึก ตึก
ผมเหมือนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นเลย ทำไมถึงหัวใจถึงเต้นแรงขึ้นมาล่ะไม่เข้าใจตัวเองเลย
“อ่ะ…เอ่อ ผมว่าเกรจมันจะไม่สะดวกเท่าไร…”ผมทำท่าว่าจะเดินออกทางประตูหลังแต่ทสึกิยาม่าซังก็จับที่ข้อมือบางของผมไว้
“ไม่เป็นไรทุกอย่างชั้นจะดูแลเอง แค่มีเธออยู่ใกล้ๆฉันก็พอ”ทสึกิยาม่าซังคุกเข่าข้างหนึ่งพร้อมนั่งยองๆแล้วดึงมือของผมไปจุมพิตอย่างอ่อนโยนที่หลังมือของผม ทำให้เวลาในตอนนั้นเหมือนหยุดไป นึกถึงนางเอกในนิยายเก่าๆที่เคยอ่านที่พระเอกจะทำแบบนี้เพื่อการขอแต่งงานยังงั้น
บางทีใจจริงของผมคงต้องการเขามาก
“เพราะงั้นนะวันนี้ช่วยอยู่ข้างๆชั้นนะ”
“ถะ…ถ้าไม่นานล่ะก็ผมว่าคงไม่เป็นไร”และที่สำคัญพวกนั้งคงไม่กล้าทำอะไรต่อหน้าทสึกิยาม่าซังอยู่แล้ว
“จริงนะ! งั้นไปกันเถอะ”พูดจบร่างสูงก็ยืนขึ้นแล้วลากคนตัวเล็กกว่าเดินออกจากประตูหลังทันทีโดยไม่ฟังเรียกที่ขานตนเลย
“ทสึกิยาม่าซัง ใจเย็นๆสิครับ”นี้เขาดีใจที่ได้อยู่กับผมงั้นเหรอ แต่ในหัวของผมนั้นตั้งแต่ที่ได้เจอกันนั้นก็ไม่เคยหยุดนึกถึงเขาเลย แบบนี้ทำให้รู้สึกว่าเริ่มรู้ใจตัวเองแล้วล่ะว่าผมนะรู้สึกกับทสึกิยาม่าซังแบบ…
“คนรัก”
ตอนออกมานั้นผมเริ่มเห็นสาวๆพวกนั้นที่มาคอยดักตีหัว(?)ผมนั้นแอบตรงพุ่งไม้ข้างๆด้วยสายตาที่เริ่มเปลี่ยนสีและอารมณ์ที่แสดงออกทางสีหน้า ผมมองแค่แวบเดียวก่อนจะแสยะยิ้มอย่างมีชัยเดินตามทสึกิยาม่าซังที่ลากผมอย่างแรงไม่ลดล่ะ
ทางตัวร้าย(ประกอบ)
“ชิ! แกเห็นไหมว่ามันยิ้มเยาะเย้ยพวกเรานะ”สาวผมสีแดงสดตะโกนใส่พวกที่เหลือเพื่อระบายความโกธรออก
“ฉันว่าทำแบบนี้ดีไหม”สาวผมสีชมพูพูดขึ้นพร้อมเอาขวดยาสีเขียวอ่อนๆขึ้นมาให้สาวผมแดงสดดู
“นั้นยาอะไรนะ”สาวผมแดงสดทำหน้างง
“มันก็แบบว่านะ…”สาวผมชมพูกระซิบให้กับสาวผมแดงสด ใบหน้าจากแค้นใจกับเปลี่ยนพลุเป็นสีหน้าเหมือนมีแผนบ้างอย่างพลางยิ้มอย่างชัวร้าย
“แบบนั้นก็น่าสนุกดีนะ หึหึหึ”
ทางคาเนกิ
ทสึกิยาม่าซังนั้นจูงผมมายังห้างที่ผมไม่เคยกล้าเข้าเลยเพราะเขาว่ากันว่าของข้างในนั้นเป็นของเกรดAทั้งนั้นแต่ก็ราคาแพงมากเช่นกัน
“เอ่อ..ทสึกิยาม่าซังที่นี้มีแต่ของแพงๆทั้งนั้นเลยมันจะดีเหรอครับที่พาผมมาแบบนี้”ผมเริ่มรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาแล้วนะสิว่าเงินมันจะต้องใช้เยอะมากแน่ๆ
“ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินหรอก ชั้นนะรวยนะ”ทสึกิยาม่าซังชูบัตรเงินสดที่คนรวยจริงเท่านั้นที่มีมันได้
แต่แบบนี้เท่ากับเรา ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยงั้นเหรอ ชอบสีอะไร ชอบดอกไม้แบบไหน เกิดวันเดือนปีอะไร ผมนี้ไม่รู้อะไรเลยงั้นเหรอ
“นี้ คาเนกิคุงเป็นอะไรรึเปล่า”ทสึกิยาม่าซังเริ่มเรียกผมที่เหม่อลอยไปชัวขณะ
“ขะ…ขอโทษครับ พอดีเหม่อไปหน่อยนะ”ผมหัวเราะนิดๆเพื่อเนียบๆไป
“ถ้าเป็นอะไรบอกชั้นได้นะ”เขาพูดแบบนั้นพร้อมใช้มืออีกข้างลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน
“อะ…ครับ”ผมพูดแค่นั้น
จากนั้นทสึกิยาม่าซังก็พาผมไปที่ต่างๆนานา แต่แบบนี้มันเหมือนเดทเลยรึเปล่า เขาไม่ยอมให้ผมออกเลยสักเยนเขาคอยดูแลผมอย่างดี มันช่างเป็นความอ่อนโยนที่แสนอบอุ่นจริงๆมันทำให้นึกถึงคุณแม่ที่ไม่ได้อยู่ที่นี้อีกต่อไปแล้ว ก่อนที่พวกเราจะมาตามม้านั่งที่สวนแห่งหนึ่ง
“เอ่อ…ทสึกิยาม่าซังแบบนี้เหมือนกับว่าพวกเรามาเดทกันเลยนะสิ”ผมพูดไปพลางเกาแก้มไปด้วยแก้เขิน
“ก็ใช่นะสิ”ทสึกิยาม่าพูดเสียงเรียบ
“อ่าวนี้ผมคิดว่าแค่พามาเฉยๆเองขอโทษนะครับ”ผมยิ่งหน้าแดงขึ้นไปอีกด้วยความอาย
“ไม่เป็นไรหรอก ชั้นแค่เห็นเธอมีความสุขก็ดีแล้ว”พร้อมยิ้มมามองผม
“อึก”ไร้คำบรรยายเลยครับไม่รู้จะพูดยังไงดีเลย
ทสึกิยาม่าซังจู่ๆก็ยืนขึ้นเต็มความสูง
“เดี๋ยวชั้นขอไปเขาห้องน้ำก่อนนะ”ทสึกิยาม่าซังเดินออกไปอย่างนั้น ผมมองแผงหลังกว้างเดินไปจนลับตาไป
ถึงจะใจตรงกันก็เถอะแต่ผมที่ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเขาจะเอาหน้าไปบอกรักอย่างนั้นเหรอ ใครจะไปกล้าทำกัน
จะทำให้เขานั้นลำบากรึเปล่า
จะทำให้เขาเดือดร้อนรึเปล่า
จะทำให้เขามีความสุขกับเราได้งั้นเหรอ
หรือจะต้องตัดใจไป?
พอคิดแบบนั้นแล้วของเหลวสีใสอุ่นก็รินไหลออกมาจากดวงตาของผมโดยไม่ได้รู้ตัว มาบนฝ่ามือ
“นี้เรา…ร้องไห้งั้นเหรอ บ้าชะมัด”ผมไม่ได้ร้องไห้แบบนี้นานแล้วนะ ผมใช้ผ้าพ้นคอที่ทสึกิยาม่าซังซื้อให้มาซับน้ำตาที่ไหลไม่หยุดของตัวผม
“ขอโทษครับ…”
“อ้าวๆ เจ้าตะขาบเป็นอะไรซะล่ะ”เสียงหวานแหลมดังขึ้นตรงหน้าเรียกความสนใจของผมหันมามอง
“ครั้งนี้ถ้าแกมากับชั้นดีๆชั้นจะไม่มายุ่งกับแกอีกดีไหม”เธอพูดแบบนั้นพรางยิ้มที่มุมบอกอย่าน่าเกลียดออกมา
“คุณแน่ใจว่าคุณจะทำแบบนั้น”ถึงจะไม่คอยไว้ใจแต่ถ้าเธอทำตามที่พูดจริงๆในชีวิตของผมคงจะดีขึ้นมา
“แน่นอนสิเพราะงั้นตามมาเงียบๆซะ”เธอพูดเร่งก่อนก่อนจะบอกพวกผู้ชายที่ไหนไม่รู้มาล็อกแขนผมทั้งสองข้างของผมไว้
แล้วพาเดินออกมาจากตรงม้านั่งไม่ใกล้มาก ก่อนจะผลักผมเข้าซอกตึงไปชนเข้ากับกำแพงทันที
“แล้วก็แกนะกินไอ้นี้ลงไปซะ”เธอหยิบขวดบางอย่างที่มีของเหลวสีเขียวอ่อนออกมา ก่อนจะยัดมันวางที่มือผม
นั้นมันยาอะไรนะ…
“กินเข้าไปซะสิมันจะได้จบเรื่องไปไงล่ะ”ผมเริ่มลังเลกับรอยยิ้มของเธอ
“จะลังเลทำไมกินมันเข้าไปซะสิ”เธอเริ่มเร่งผม แต่ผมก็ได้แต่มองขวดนั้นในมือ
“ชิ!กินยากกินเย็นจริงนะแก พวกนายไปช่วยมันสิ”เธอชี้ไปที่ผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มถ้าผมจำไม่ผิด เหมือนเคยเห็นในคลับที่ผมไปสืบคดีบางอย่าง เขาติดหนึ่งในห้าที่พวกผู้หญิงในนั้นเรียกบ่อยที่สุดด้วย ก่อนที่ชายคนนั้นเดินเข้ามาในระยะประชิดก่อนจะคว้าขวดนั้นจากมีผมไปก่อนจะเทของเหลวนั้นเข้ามาในร่างกายผม รสของมันนั้นเหมือนเอาซากของเน่าเสียจากของสัตว์มารวมกัน
“อึก…อื้อ!”ผมพยายามดิ้นเต็มที่แต่กว่าจะดิ้นหลุออกมาจากแขนแกร่งนั้นผมก็กินของในขวดนั้นจนหมดแล้ว ชายคนนั้นเดินไปหาผู้หญิงคนเดิมด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“แฮ่ก แฮ่ก”ผมพยายามอ้วนออกมาแต่มันกับไร้ผลสิ้นดี
“แฮ่ก คุณเอาอะไรให้ผมกินเนี่ย”ผมพยายามถาม ภายในตัวนั้นรู้สึกร้อนมากเหมือนกับได้ไปอยู่ในนรกทั้งเป็นเลย ยิ่งนานเข้าก็ยิ่งร้อนขึ้น และเหมือนจะมีอย่างอื่นอีก
“อยากรู้งั้นเหรอ”เธอพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนชัยอยู่ในกำมือ
“มันคือยาปลุกเซ็กส์ไงล่ะ”เธอพูดไปพร้อมหัวเราะในลำคอ
ยาปลุกเซ็กส์!
“เป็นแบบพิเศษสำหรับนายเลยนะ มันจะไม่หายถ้านายยังไม่ได้มีอะไรกันนะแถมจะทำให้อ่อนแรงลงด้วย”
“ทำแบบนี้ทำไม ถึงทำแบบนี้ไปทสึกิยาม่าซังก็ไม่หนไปสนใจเธอหรอก”ผมพยายามตอบโต้เธออย่างความสามารถ
“อยู่ในสภาพแบบั้นยังปากเก่งอยู่อีกนะ แต่ว่าถ้านายไม่บริสุทธิ์ผลมันจะเป็นยังไงน้า~”
“!”ผมเปิดตากว้างด้วยความตกใจ
แบบนั้นนะ ไม่เอานะ!
ถ้าจะทำแบบนั้นกับคนอื่นนอกจากทสึกิยาม่าซังล่ะก็
ไม่เอาเด็ดขาด!
“อ้าว ทำไมตัวสั่นแบบนั้นซะล่ะตอนหน้าแดงแบบนั้นเซีกซี่มากเลยนะ ยามันคงได้ผลดีสินะ ต่อไปตาพวกนายบ้างแล้ว”เธอหันไปบอกกับผู้ชายสองคนที่ยืนอยู่หลัง พวกเขาพยักหน้าพร้อมๆกันก่อนจะค่อยๆเข้ามาใกล้ตัวผมเรื่อยๆ
“อย่าว่ากันเลยนะ”ชายทั้งสองคนนั้นเริ่มถอนเสื้อผ้าของผมออก
“ไม่! อย่านะ! ออกไป!” มันช่างเป็นความรู้สึกที่น่าขยะแขยงสิ้นดี
ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ
“ทสึกิยาม่าซัง ช่วยผมด้วย!!!”
ปัง!
เสียงที่ดังสนั่นไปทั่วบริเวณพวกนั้นรีบหันไปตามต้นเสียงทันที ผมก็เช่นกัน แล้วผู้ที่ยืนตรงนั้นคือ…
ทสึกิยาม่าซัง!!!
“พวกแกเป็นใคร กล้าดียังไงมายุ่งกับคาเนกิคุงของชั้นกัน”ทสึกิยาม่าซังพูดด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำที่บงบอกได้เลยว่าเขาอยู่ในอารมณ์แบบไหนกับเหงื่อที่ท่วมตัวเขาอยู่ พร้อมกับคากุเนะของเขาสีม่วงสดมีรอยแดงสีนั้น
“ทสึกิยาม่าซัง!”ผมร้องด้วยความดีใจ นี้เขาตามหาผมงั้นเหรอ น้ำตาของผมก็เริ่มไหลรินออกมา ทสึกิยาม่าซังที่สังเกตเห็นผมในสภาพที่ท่อนล่างนั้นเริ่มโดนเอาออกกับเสื้อที่จะหลุกไม่หลุกแล
“แก!!!”ร่างสูงกระโดดเข้ามาใกล้ผมแล้วใช้คากุเนะแทงเข้ากลางลำตัวของชายทั้งสองคน แล้วเริ่มหันไปมองที่ผู้หญิงผมสีแดงสดนั้นที่ใบหน้าบงบอกว่ากำลังหวาดกลัวอยู่
“แกคือตัวนำสินะ งั้นก็ตายซะนะ”ทสึกิยาม่าซังยกแขนขึ้นพร้อมที่จะแทงไปที่เธอ
“ไม่นะ ม่ายยยยยยยย!”
กึก
ผมพยายามเอาแรงทั้งหมดที่มีวิ่งไปกอดเข้าจากทางด้านหลังของเขา
“คา…คาเนกิคุง”
“ไม่ต้องแล้วครับ พอเถอะนะ”
“แต่ว่าพวกมัน…”
“ไม่เป็นไรครับ ยังไม่ได้ถูกทำอะไรเลย เพราะคุณมาช่วยผมทันก่อนไงครับ”
“ม่ายยยยยย”เธอที่สติแตกนั้นวิ่งไปที่ไหนก็ไม่รู้ ส่วนพวกสองคนนั้นรีบวิ่งออกไปทั้งที
“คาเนกิคุง!”ผมที่หมดแรงนั้นก็ซุกลงไปกับกองกับพื้นทันที
“ชั้นจะพาเธอไปที่โรงแรมที่ชั้นพักนะ ที่นั้นเธอต้องไม่เป็นไรแน่พยายามก่อนนะ”ทสึกิยาม่าซังพูดแบบนั้นพร้อมกับอุ้มตัวผมกระโดดตามหลังคาไปถึงที่โรงแรมของเขาในไม่กี่วินาที ในระหว่างทางนั้นผมสัมผัสถึงของเหลวใสอุ่นหยดลงบนใบหน้าของผม นี้เขาร้องไห้งั้นเหรอ
“เจ้าพวกนั้นมันทำอะไรกับเธอกันแน่!”ทสึกิยาม่าซังนั้นเก็บคากุเนะไปแล้วแต่ในดวงตานั้นยังแสดงลักษณะของกูลออกมา
“ทสึ…ทสึกิยาม่าซัง”ผมเรียกหาเขาด้วยเสียงที่แหบเต็มที่
“มีอะไรเหรอ”ทสึกิยาม่าซังเดินมานั่งข้างๆเตียงพวกด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“ผมนะโดนให้กินยาปะ…ปลุกเซ็กส์เข้าไปนะครับ”ผมพยายามออกเสียงให้ชัดที่สุดเท่าที่จะทำได้
“อะไรนะ! นี้พวกนั้นมันทำขนาดนี้เลย”ทสึกิยาม่าซังพูดด้วยน้ำเสียงที่บอกได้ว่าโกธรสุดๆ
*ส่วนต่อจากนี้มีเนื้อหาที่เหมือนncเตือนแล้วนะ*
“เพราะอย่างนั้นแล้ว….”ผมขึ้นไปนั่งบนตักของเขาทันที
“ช่วยทำให้ผมเป็นของคุณทีสิ”ผมกระซิกที่ข้างหูของเขาแบบเป็นการยั่วยวน
“แต่แบบนั้น…”
“ไม่เป็นไร กอดผมทีสิ”
“ถ้าชั้นทำเธอเจ็บก็ขอโทษนะ”ทสึกิยาม่าซังพูดแบบนั้นก่อนจะกดผมลงไปกับเตียงนุ่มแล้วขึ้นมาคร่อมอยู่บนตัวผมทั้งที
“ผมต้องการทั้งหมดของคุณครับ”ผมว่าพร้อมกอดคอของคนตรงหน้าให้เข้ามาใกล้ๆ จากนั้นทสึกิยาม่าซังก็ผลักผมให้ล้มนอนที่เดิมก่อนจะประกบจูบอย่างอ่อนโยนพร้อมเริ่มถอนกางเกงออกจนหมดเหลือเพียงเสื้อแขนยาวมีกระดุมที่มีความยาวมาปิดไว้พอดี ก่อนร่างสูงจะผละจูบออกอ่อยอิง
“ดูเซ็กซี่มากเลย”ก่อนจะก้มลงมาไซร้ซอกคอขาวของผม
“อึ่ก!”ผมพยายามใช้มือปิดปากเอาไว้เพื่อกลั้นเสียงไว้ในลำคอขณะที่รับรู้ถึงลิ้นอุ่นที่สัมผัสผิว
และอาจเพื่อกันใบหน้าตอนนี้ที่ผมคิดว่ามันน่าอายที่สุดที่เคยเกิดมา แต่มันอาจเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้ความรู้สึกตอนนี้เกิดความอยากเข้าไปอีก
“ไม่เห็นต้องปิดเลยก็ได้”ร่างสูงที่ผละออกจากซอกคอขาวนั้นเอื้อมมือมาดึงข้อมือบางมาวางไว้ตรงไหล่กว้างของตน
“ชั้นอยากเห็นทุกอย่างที่เป็นเธอนะ”ถึงเปิดตากว้างด้วยความอึ้งแต่ก็นิ่งเงียบไป
“เป็นอะไรไปเหรอ?”สงสัยทสึกิยาม่าซังเห็นสีหน้าของผมที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
“ขอโท…”
“?”
“ขอโทษครับ”
“เรื่องอะไรเหรอ”ร่างสูงเริ่มเป็นห่วงร่างเล็กขึ้นมาก่อนจะลูบมือของอีกฝ่ายเบาๆ
“ทั้งที่ทสึกิยาม่าซังคอยดูแลผมตลอดแท้ๆ…”พูดบอกไปน้ำตาสีใสก็ไหลออกมาเรื่อยๆ
“แต่ผมก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคุณเลย”ผมได้เพียงร้องไห้จนต้องเอามือมาปัดเจ้าน้ำตาที่แสนน่านำคาญนี้
“เรื่องแบบนั้นนะ…”ผมเงียบไว้เพื่อรอฟังสิ่งที่ทสึกิยาม่าซังกำลังจะบอก
“มันจะเริ่มต่อจากนี้ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”ทสึกิยาม่าซังยิ้มอย่างอ่อนโยนที่ชอบทำกับผมบ่อยๆ
“มันอยู่ที่ตอนนี้มากกว่านะที่เธอรู้สึกยังไงกับชั้นนะ”ร่างสูงว่าจบก็เริ่มกลับมาสัมผัสตามกายเล็กต่อเริ่มจากช่วงท้องขึ้นไปเรื่อยๆจนมาไซร้ซอกคอขาวต่อ
“คำตอบล่ะ”
“รักสิครับ”
“ชั้นว่าใกล้ถึงจุดสำคัญแล้วล่ะ”ทสึกิยาม่าซังที่เหมือนมีแววจริงจังขึ้นมาผมที่แอบแปลกใจเล็กน้อยที่เขาหมายถึงอะไร
“อ่ะ…อ๊า…อ๊า”ผมเริ่มครางออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่อรู้สึกถึงนิ้วเรียวที่เข้ามายังช่องทางหลังของผมและเพิ่มนิ้วเรื่อยๆพร้อมยังขยับนิ้วไปมาอีก
“เสียงดีนะเนี่ย”ทสึกิยาม่าซังยกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเริ่มขยับนิ้วเร็วขึ้น
“อื้อ…อื้ม…”ผมที่เริ่มมีน้ำตาไหลตามมาด้วยนั้นก็เริ่มพูดไม่เป็นภาษาเช่นกันมันเหมือนเป็นการที่เร่งความอยากที่มีให้ประทุออกมาอย่างงั้น
“คาเนกิคุง”ทสึกิยาม่าซังที่เรียกผมจากที่ผมกำลังหลับตาด้วยความกลัว ก่อนจะประกบริมฝีปากพร้อมสอดลิ้นร้อนควานหาความหวานในโพลงปากอย่างดื่มดำก่อนจะผละจูบออกระหว่างริมฝีปากของพวกเรานั่นมีน้ำใสจากโพลงปาก ยืดเป็นทาง ตอนนี้ผมเริ่มหอบ แฮกๆ อย่างถี่เหลือเกินสงสัยผมจะยังเด็กในเรื่องแบบนี้
“ชั้นว่าคงพร้อมแล้วล่ะนะ”ร่างสูงพูดแค่นั้นก่อนจะเอานิ้วออกจากช่องหลัง
“เตรียมตัวดีๆนะ”ทสึกิยาม่าซังพูดแบบนั้นก่อนจะถอนกางเกงออกจนเห็นแกนกายที่บอกว่าเขานั้นเกิดอารมณ์ ผมที่อายจัดจนไม่กล้ามองจนต้องเอามือมาปิดตาไว้
“อายเหรอ”ร่างสูงที่เห็นปฏิกิริยาอันแสนจะน่ารักของคนตัวเล็กจึงอดไม่ได้ที่จะถามเล่นๆเพื่อแกล้ง
“แน่สิ ก็มันครั้งแรก”ผมพูดไปอย่างอายๆในความไรเดียงสาของตน
“ชั้นก็ครั้งแรกนะ”เขาบอกก่อนจะยิ้มนิดๆ แต่จังหวะนั้นที่เหมือนยามันจะออกฤทธิ์แรงขึ้นจากปกติทำให้ตัวผมเริ่มสั่นไหวมากกว่าตะกี้
“ทสึกิยาม่าซัง ผมไม่ไหวแล้วอ่า…”ผมพยายามเรียกเขาให้ช่วย ด้วยการยั่วใส่ก่อนจะดึงตัวเขาเข้ามาใกล้ๆก่อนจะเลียที่หูของเขา
“ชั้นทนไม่ไหวแล้ว!!!”เขาตะโกนลั่นห้องก่อนจะจับขาเรียวของผมแยกออกกันมาวางไว้ตรงไหล่กว้างของเขา ก่อนจะแทรกแกนกายเข้ามายังช่องทางรัก
“อ่ะ…อ๊า…อ๊า…อึ่ก…อ๊า”ตอนนี้ผมไม่ได้ปิดกลั้นเสียงอะไรทั้งนั้นทำให้เสียงนั้นออกมาอย่างชัดเจน ความเจ็บที่แทรกเขามาอย่างรุมแรงจนต้องคว้าหมอนที่อยู่ข้างๆนั้นมาจับเพื่อระบายความเจ็บลง แต่แปลกที่มันก็ยังมีความรู้สึกดีปนไป
“ชั้นว่าเราเปลี่ยนท่าดีกว่า”ทสึกิยาม่าซังพูดแค่นั้นก่อนจะเอาขาผมลงและดึงมือผมไปอยู่ในท่านั่งขาก็แยกออกกว่าเมื่อกี้แต่มันทำให้แกนกายของเขา เข้ามาลึกกว่าเก่า
“อ๊า!…อ่ะ…อ๊า…อ…”ผมครางออกมาไม่หยุดก่อนที่อีกฝ่ายจะประกบริมฝีปากอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
เราจูบกันอย่างยาวนานมาก ก่อนที่ผมจะบีบไหล่เพื่อเป็นสัญญาณว่าผมขาดอากาศหายใจ ถึงจะผละริมฝีปากออกก่อนจะมาไซร้ซอกคอต่ออย่างเร่าร้อนถึงจะมีการกินบางส่วนของร่างกายไปแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรออกไป ก่อนจะพึ่งสังเกตว่าดวงตาของเราทั้งคู่นั้นเปลี่ยนเป็นดวงตาของกูล
“อื้อ…อื้ม”รู้สึกเหมือนเรี่ยวแรงที่ก่อนหน้านี้ที่ไม่ค่อยจะมีตอนนี้มันได้หายไปหมด
“!”เมื่อร่างสูงนั้นได้เริ่มมาเลียแถวยอดอก จนเริ่มทนไม่ไหวจึงได้ดึงตัวเขาเข้ามาก่อนด้วยความกลัว
“ไม่เป็นไรนะ”ร่างสูงพูดแบบนั้นก่อนจะเงยหน้าและจูบที่หน้าผากขาวเบาๆ
“จะขยับแล้วนะ”ร่างสูงพูดแค่นั้นก่อนจะมาสัมผัสช่วงท้องของร่างเล็กไปมา
“ทำอย่างที่คุณชอบนั้นแหละ ดีแล้ว”ผมว่าจบก่อนจะกอดอีกฝ่ายไว้แน่น จากนั้นทสึกิยาม่าซังก็ขยันอย่างเร่าร้อน
“อื้อ…อ๊า…อ๊า…อึ่ก…อ๊า”สมองตอนนี้ขาวโพลนไปหมด คิดอะไรต่อไม่ได้เลย
“ทสึกิยาม่าซัง ทสึกิยาม่าซัง ทสึกิยาม่าซัง”ผมไม่รู้จะทำยังไงดีเลยได้แต่เรียกชื่อเขาไปมาเท่านั้น
“ชั้นว่าใกล้เสร็จแล้วล่ะ ขอปล่อยในนะ”ทสึกิยาม่า๙งพูดแค่นั้นก่อนจะเร่งจังหวะ พร้อมกิดรัดร่างกายผมเข้าไปใกล้มากขึ้น
“อื้อ”ผมพูดเสียงในลำคอเป็นเชิงอณุญาติ
“อ๊า…!”สิ้นสุดเสียงก่อนที่พวกเราจะปล่อยของเหลวสีใสขุ่นออกมาพร้อมกัน แล้วเขาถึงจะถอนแกนกายออกไป เขาจับผมนอนลงกับเตียงนุ่ม ก่อนล้มตัวลงนอนข้างๆ
“แฮก แฮก”ผมที่ไม่เคยมีประสบการณ์กับเรื่องแบบนี้เล่นเอาแรงหายไปหมด
“หวังว่าชั้นคงไม่ได้ทำเธอเจ็บมากนะ”ทสึกิยาม่าซังพูดแบบนั้นก่อนจะดึงตัวผมเขาไปกอดซุบกับอกกว้างของเขา
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”ผมไม่กล้าพูดอะไรมากนักเนื่องจากลองมาคิดๆดูผมบอกความในใจไปแล้วมันทำให้ปรับตัวยากในเวลาแบบนี้ อายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้ว
“แต่ว่านะ…”
“ต่อจากวันนี้ไปเราก็เป็นแฟนกันแล้วสินะ”
“!”
“งั้นพูดชัดๆนะ คบกับชั้นได้ไหม”ทสึกิยาม่าซังดึงมือผมไปกก่อนจะจูบที่หลังมือ เล่นเอาผมเขินแทบตาย แต่มันก็มีคำตอบเดียวที่จะบอก
“ครับ”
ร้านอันเทย์กุ
ในขณะที่ผมกำลังชงกาแฟอยู่ โทกะจังที่เหมือนจะมองมาสักพัก ก่อนจะเดินมาถามผมตรงๆ
“ได้กับเจ้านักชิมแล้วเหรอ”โทกะจังถามแบบนั้นแต่สีหน้าของเธอกับเรียบเฉยจนน่าตกใจ
“ท…ทำไมถึง ถ…ถามอะไรแบบนั้นล่ะโทกะจัง!”ผมพูดเสียงเบา เธอเงียบสักพักก่อนจะเริ่มพูดต่อ
“แปลว่าจริงสินะ”เธอพูดแทงใจมากครับ
“ทำไมถึงรู้ล่ะ”ผมไม่ปฎิเสธ รู้ว่าเธอเป็นคนฉลาดถึงโกหกไปก็เปล่าประโยชน์
“ก็นายดูน่ารักกว่าปกติ ใครๆก็รู้น่า”เธอมองด้วยหางตา ผมจึงมองตามไปก็พบว่าทุกคนในร้านนั้นพยายามฟังความเราคุยกันอยู่
“ทุกคนรู้หมดแหละว่าพวกนายกำลังคบกัน”โทกะพูดเสียงเรียบ
“!”ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี นี้ทุกคนรู้เรื่องหมดเลยเหรอ จะบ้าตาย
“ไง คาเนกิคุง ทำไมหน้าแดงแบบนั้นล่ะ”ทสึกิยาม่าซังที่ไม่รู้เขามาตอนไหนพร้อมกับช่อดอกกุหลาบสีแดงสด
“ก็แค่อายที่ทุกคนรู้เรื่องพวกนายนั้นแหละ” ผมไม่ต้องพูดอะไรโทกะจังก็ช่วยอธิบายให้เขาฟังแต่เหมือนเขาจะไม่ทุกข์ร้อนอะไร
“ไม่ต่องไปคิดมากหรอก คาเนกิคุง”เขาพูดพร้อมนั่งเก้าอี้ตรงหน้าของผม
“อะ ชั้นเอาดอกไม้มาให้นะ ขอกาแฟด้วย”เขาว่าก่อนจะยื่ดดอกไม่ช่อโตมาให้
“เอ่อ…ขอบคุณครับ”ผมรับไว้ด้วยอาการเขิน เขายกยิ้มที่มุมบอก ก่อนจะสักเกตุเห็นโทกะจังเอาเสปรย์ฆ่ามดมาฉีดใกล้ๆพวกผม
“ทำอะไรเหรอโทกะจัง”
“เอามาฆ่ามดแถวๆพวกนายนะสิ หวานกันไปไหน”โทกะจังพูดแบบนั้นก่อนจะไปกวาดพื้นต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พบสัมผัสได้ว่าหน้าของผมนั้นแดงแน่ๆโดยไม่ต้องให้ริว จิตสัมผัสมาบอก
“โทกะจังนี้ชอบแกล้งจริงๆเลยนะ”ทสึกิยาม่าซังหัวเราะเบาๆ ก่อนที่ผมจะวางแก้วกาแฟให้เขา
“โถ่ ทสึกิยาม่า…”ผมหยุดพูดไปเมื่อสังเกตุเห็นอะไรซุ่มอยู่ในพุ่งไม้ก่อนจะเห็นเส้นผมสีแดงอันคุนตา
“ยังไม่เลิกสินะ”
ทสึกิยาม่าซังที่เห็นผมเงียบไปก็มองตามสายตาที่ผมมองไป
“คาเนกิคุง…”
“ครั…!”ผมที่ถูกเรียกก็กลับมาสนใจกับคนตรงหน้าแต่ก็โดนคนตรงหน้านั้นดึงเข้าไปใกล้ๆก่อนจะจูบผมโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนจะผละริมฝีปากออก
“หวานดีนะ”เขาพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิด
“ทะ…ทำอะไรนะครับ ทสึกิยาม่าซัง!”ผมพูดกดเสียงต่ำแต่คนถูกว่ากลับไม่รู้สึกแสดงอาการแต่อย่างใด
“แบบนี้เขาเรียกว่าการไล่ตัวเกะกะแบบผู้ใหญ่นะ คาเนกิคุง”เขาพูดพร้อมยิ้ม
ก่อนที่ผมจะหันไปดูด้านนอกร้านพวกนั้นก็หายไปแล้ว นี้เป็นวิธีการของผู้ใหญ่จริงๆนะเหรอก่อนที่ผมจะนึกขึ้นได้ว่าคนในร้านก็เห็นผมในฉากนั้นจะเป็นอย่างไร ก็พบว่าบางคนก็เหมือนกลั้นหัวเราะบาง ยิ้มเชิงยินดีบาง ฟิน(?)บาง
“ทุกคนเหมือนจะไม่ได้คิดอะไรนะ”ทสึกิยาม่าซังพูดไปพลางจิบกาแฟไป
“แบบนั้นก็ดีแล้วล่ะ”ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่ง
“ลืมบอกเลย”
“อะไรครับ”
“รักนะ”เลี่ยนซะไม่มี
“อึ่ก…ระ…รู้อยู่แล้วน่า”ผมพูดไปพลางเช็ดแก้วไปแก้เขิน
“ไม่พูดกับชั้นบางล่ะ”เขาพูดน้ำเสียงเหมือนงอนๆ นั้นทำให้เขาดูน่ารักมากในสายตาของผม ก่อนที่ผมจะบอกด้วยหางเล็กน้อย
“ผมรักคุณครับ”ผมว่าก่อนจะหยิบช่อดอกไม้มาบังเพื่อเราไว้ พร้อมก้มลงไปหอมแก้มของเขา ก่อนจะเงยหน้าเอาดอกไม้ปิดบังใบหน้าที่แดงก่ำไว้
“น่ารักจัง”เขาพูดแบบนั้นก่อนจะยิ้มให้ผม
พวกเราหวังว่าความรักของเราจะเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่มีคนมาขัดขวางพวกเรา ความสุขนี้จะคงอยู่ ความรักที่มอบให้กันมันจะอยู่แบบนี้ ผมคิดว่าถ้าไม่มีเขา ผมคงไม่มีวันที่สดใสแบบนี้ อยากจะบอกคุณจริงๆว่า ผมรักคุณมากนะ ทสึกิยาม่าซัง…
………………………………………………………………………………………………………………………………….
แล้วก็กลับมาเปิดกับเรื่องสั้นที่สองกับวายะ คนเดิมจ้า ขออภัยที่ไม่ได้แต่งต่อกับเรื่องของเซชิน นะเนื่องจากเราต้องไปสร้างอารมณ์ให้กับคู่เซชินก่อนไม่งั้นคงแต่งไม่ดีพอแน่ สำหรับคู่นี้ก็ฟินมานานมากเหมือนกัน ใครที่ชอบคู่นี้ก็มาฟินกับวายะได้นะตอนนี้มีความคิดกับคู่ใหม่อีกแล้ว กับคู่ อุริเอะกับซาซากิจ้า บางคนอาจชอบคู่อาริมะกับซาซากิแต่เราชอบแบบโหดๆแบบนี้มากกว่าใครอยากอ่านก็ให้กำลังใจวายะตัวน้อยด้วยนะ ให้เยอะเดี๋ยวเราจะลงนิยาย คู่อุริเอะกับซาซากินะ ใครชอบคอมเม้นต์บ้างนะ เราเหงา //แปะรูป
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ