ปั้นรักปั้นหัวใจ
เขียนโดย Chapond
วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.20 น.
แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2558 00.45 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
31) 31 เรื่องส่วนตัว(ของฉัน)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“อะไรนะไอ้เขื่อน จะขออยู่พักผ่อนบ้านที่ชานเมืองอีกสักพักงั้นหรอ เออๆ ได้ๆงั้นแกดูแลตัวเองดีๆ
แล้วกันส่วนชั้นดูแลตัวเองได้สบายมาก บาย”โทโมะที่ว่างอยู่บ้านโทรถามผู้จัดการหนุ่มก็พบว่า
เขื่อนยังอยู่บ้านที่ชานเมือง
“เข้าไม่ได้นะพี่จีจี้นี่มันบ้านของคุณเกศเค้า ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่จะมาตามหาใครได้หรอกนะ”เสียงของ
แก้วทำให้โทโมะชะงัก
“ไม่รู้ ก็ภาพมันฟ้องอยู่ว่าเขื่อนมันเอาเฟย์ไป เอาเขื่อนมาคุยให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้นะ”จีจี้โวยวายหน้า
บ้านโดยมีแก้วแบมและเด็กในสังกัด2คนคอยห้ามอยู่
“นี่เกิดอะไรขึ้นน่ะ”โทโมะเดินเข้ามาถาม
“ก็พี่จีจี้น่สิโทโมะ บอกว่าเขื่อนลักพาตัวเฟย์มา”แก้วพูด
“มันแน่ยิ่งกว่านี่ นี่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ค่าย ดูกันซะให้เต็มตาว่าเขื่อนมันเข้ามาลากตัวเฟย์ไป
จากรถเมื่อวันก่อน แล้วแบบนี้จะให้ชั้นทำยังไง รึว่าจะเป็นแผนพาเฟย์มาอยู่สังกัดนี้ห้ะ”จีจี้โวยวาย
“ไปกันใหญ่แล้วพี่จีจี้ เขื่อนมันจะทำแบบนี้ทำไม ผมว่าพี่กลับไปดีกว่านะ”ในฐานะที่โทโมะเป็นผู้
ขายคนเดียวก็รีบพูดปกป้องแก้วและศิลปินที่เหลือ เพราะตอนนี้ป๊อปปี้พาฟางไปคุยงานหนังของ
ฟางข้างนอก
“ไม่กลับ ยังไงก็ไม่กลับ ชั้นจะลากไอ้เขื่อนมาคุยให้รู้เรื่อง หนอย คิดว่าเป็นลูกคุณเกศแล้วจะทำ
ยังไงก็ได้กับศิลปินงั้นหรอ ไอ้เด็กบ้า มันต้องโดน”จีจี้โวยวายไม่สนใจใครทั้งนั้นก่อนจะอาละวาด
ผลักศิลปินคนอื่นเซไปคนละทาง
ปึก
แก้วที่พยายามขวางไม่ให้จีจี้เข้าบ้านถูกจีจี้ผลักหัวกระแทกผนังข้างๆทันที
“แก้ว เลือด นี่พี่จีจี้มันจะมากไปแล้วนะ ถ้าพี่ไม่อยากโดนข้อหาบุกรุกละก็ รีบออกไปเดี๋ยวนี้เลย
เพราะผมพูดจริงทำจริง”โทโมะประคองแก้วแล้วต้องตกใจเมื่อเห็นว่าหัวแก้วแตกก็รีบไล่
“เออ ไปก็ไปแต่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าพวกแกต้องให้เขื่อนคืนตัวเฟย์มาซะไม่งั้นชั้นจะแจ้งตำรวจจับ
ทีนี้พวกแกเป็นข่าวฉาวทั้งค่ายแน่”จีจี้พูดอย่างหัวเสียก่อนจะคาดโทษแล้วเดินออกไป
“ทำยังไงดีโทโมะ รูปที่ออกมาเนี่ยมันก็เป็นรูปเขื่อนพาเฟย์ไปจริงๆด้วยสิ”แก้วที่ถูกโทโมะพามาทำ
แผลก็พูด
“เดี๋ยวชั้นจะโทรเคลียร์กับเขื่อนเอง ถ้ามันพูดไม่รู้เรื่องชั้นจะไปที่บ้านมันที่ชานเมืองเอง เพราะชั้น
เคยไปอยู่ตอนที่เครียดรึมีปัญหา ว่าแต่เธอน่ะ เลิกห่วงคนอื่นแล้วมาทำแผลเถอะ”โทโมะพูดแล้ว
จัดการทำแผลให้แก้ว
“โอ๊ย เจ็บนะพอแล้ว”แก้วร้องเมื่อถูกแอลกอฮอล์จิ้มลงที่แผล
“อย่างอแงสิ เดี๋ยวก็ตีซะหรอก”โทโมะดุ
“นี่นายกล้าตีชั้นหรอ”แก้วย้อน
“เปล่าครับๆ แก้วอยู่นิ่งๆนะเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”โทโมะได้ยินก็รีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“ขอบใจมากนะโทโมะที่ทำแผลให้ แบบนี้คงต้องงดไปกองถ่ายพรุ่งนี้แล้วล่ะ”แก้วพูดพลางมอง
แผลที่หน้าผากตัวเองที่ถูกโทโมะเอาพลาสเตอร์สีชมพูสดใสแปะให้เมื่อทำแผลเสร็จ
ฟึบ โทโมะรีบนอนหนุนตักแก้วทันที
“เดี๋ยวเหอะ มานอนตักเป็นเด็กๆได้ไง เดี๋ยวพวกแบมก็มาเห็นหรอก”แก้วรีบดุโทโมะ
“เอ้า ก็ทำแผลให้แก้วเสร็จแล้วก็ขอพักหน่อยเถอะ ตักแก้วนิ้มนิ่ม มือแก้วก็ห้อมหอม”โทโมะพูด
แล้วถือวิสาสะจับมือแก้วมาดมจนแก้วหน้าแดง
“คนบ้า ชอบทำให้คนอื่นเขินนะ’แก้วพูดแล้วอมยิ้ม
“เขินแบบนี้แสดงว่ารักสินะ ดีเลยเป็นแฟนกันเถอะนะแก้ว”โทโมะสบตาแก้วแล้วพูดก่อนจะลุกขึ้น
มานั่งดีๆ
“คนบ้า มาบอกแบบนี้ไม่กลัวรึไงที่เรตติ้งตัวเองจะตกน่ะ”แก้วสบตาโทโมะแล้วพูดขึ้น
“ไม่อ่ะ ชั้นเชื่อว่ายังไงซะแฟนคลับของชั้นเค้าต้องเข้าใจ เอ๊ะ เดี๋ยวนะ พูดแบบนี้หมายความว่าแก้ว
จะยอมเป็นแฟนแล้วใช่มั้ย”โทโมะพูดแล้วชะงักก่อนจะถามแก้ว แก้วรีบหนีโทโมะรีบดึงแก้วมานั่ง
ตัก
ฟอด
แก้วเห็นโทโมะทำหน้าสงสัยและยังงงอยู่ก็กอดคอแล้วหอมแก้มโทโมะทันที
“ถ้าเรตติ้งตกชั้นไม่รับประผิดชอบนะ”แก้วพูดก่อนจะลุกขึ้นเดินหนีโทโมะด้วยความเขิน
“แก้ว นี่เราเป็นแฟนกันแล้วใช่มั้ยแก้ว เดี๋ยวสิ อย่าหนีนะ”โทโมะอึ้งปนเขินรีบวิ่งตามแก้วที่วิ่งหนีตัว
เองไป
“ชั้นอยากกลับบ้าน”เฟย์พูดเมื่อเขื่อนยกเอาจานข้าวมาให้เฟย์ในห้องนอน
“ไม่”เขื่อนพูดห้วนๆก่อนจะเอานข้าวยื่นให้เฟย์
เพล้ง
เฟย์ไม่สนใจกลับปาจานข้าวทิ้งอย่างไม่ไยดี
“เออ ไม่กินก็ไม่ต้องกิน ชั้นไม่เอามาให้ใหม่หรอกนะ”เขื่อนรีบว่าก่อนจะเดินหนีเฟย์
“กรี๊ด ชั้นเกลียดนายเขื่อน ไอ้เลว นายมันกักขังโหน่งเหนี่ยว ชั้นเกลียดๆๆๆ”เฟย์ร้องโวยวายระเบิด
ออกมาด้วยความเครียด เพราะ3วันมานี่ที่เขื่อนจับตัวเธอมา ถ้าไม่ข่มขืนแล้ว เขาก็ไม่ปล่อยให้เธอ
ไปไหนเลย
ปึก
เฟย์อาละวาดแล้วหยิบเศษจานแตกปาใส่หน้าผากเขื่อน
“โอ๊ย”เขื่อนร้องออกมาแล้วเอามือกุมที่หน้าผาก
“ขะ เขื่อน”เฟย์ชะงักแล้วมองเขื่อนอย่างตกใจเมื่อเห็นเขื่อนหัวแตก
“นี่เธอไม่เหนื่อยรึไง ที่ทะเลาะกันแบบนี้ทุกวัน”เขื่อนถอนหายใจก่อนะพูดออกมา จะว่าเขาผิดก็ผิด
ที่ลักพาตัวเฟย์มาแบบนี้ ตอนแรกเขาแค่อยากแก้แค้นเฟย์จนหน้ามืดตามัวถึงขั้นข่มขืนเฟย์ และพอ
รู้เรื่องมีนยิ่งทำให้เขาระเบิดอารมณ์กับเฟย์มากขึ้น แต่ถึงยังไงเขาก็คนเหมือนกันที่ย่อมมีความเบื่อ
ที่ต้องมาทะเลาะกันเถอะวันแบบนี้
“ก็ช่วยไม่ได้ นายอยากจะกักขังหน่วงเหนี่ยวชั้นทำไมล่ะ สมน้ำหน้า”เฟย์กอดอกเชิดไม่สนใจแล้ว
ว่า
“ก็ได้ ถ้าอยากจะกลับบ้านนักเดี๋ยวชั้นไม่ส่งให้ก็ได้ แต่ก่อนไป เธอคงไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้าขั้นจะ
นั่งทำแผลตัวเองให้เสร็จก่อน”เขื่อนพูดแล้วแอบเหนื่อยใจกับความพยศของเฟย์ก่อนจะเดินไปข้าง
น้องแล้วรื้อหากล่องยา
“ขอโทษ”เฟย์เห็นการกระทำของเขื่อนแวบหนึ่งก็รู้สึกผิดที่เธอเป็นคนทำก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ
“จะขอโทษเรื่องไหนก่อนล่ะ”เขื่อนสบสายตาเฟย์ทำให้เฟย์เบือนหน้าหนี
“เงียบไปเลยนะ มานี่ เดี๋ยวชั้นทำแผลให้”เฟย์พูดแล้วนั่งทำแผลให้เขื่อนโดยที่ชายหนุ่มลอบมอง
ร่างบางเป็นระยะๆ
“เดี๋ยววันนี้เค้าจะบวงสรวงเปิดกล้องหนังเรื่องนี้นะ ทำหน้าให้ดีๆหน่อยสิ”ป๊อปปี้พูดเมื่ออยู่บนรถกับ
ฟาง
“ก็ไม่อยากอยู่ใกล้พระเอกเรื่องนี้ยังไงก็ไม่รู้ ดูเยอะๆยังไงชอบกล”ฟางถอนหายใจแล้วพูด
“ฟาง นักแสดงอย่างเราน่ะเลือกที่รักมักที่ชังไม่ได้หรอกนะ เราเป็นคนของประชาชน มีหน้าที่ทำให้
แฟนๆมีความสุข นี่มันเป็นงานของเรา เราต้องเจอเต้ยไปจนปิดกองเรื่องนี้เลยนะ อย่าคิดมาก
สิ”ป๊อปปี้ยิ้มแล้วพูด
“เห้อ ถ้าชั้นมีแฟน อยากจะรู้จริงๆ เค้าจะหึงชั้นมั้ยนะที่ต้องเป็นคู่จิ้นกับโทโมะไหนจะมาเต้
ยอีก”ฟางพูดแล้วถอนหายใจอีกครั้งทำให้ป๊อปปี้แอบมองฟางนิ่งๆไม่พูดอะไรอีก ก่อนจะเดินมา
เปิดประตูให้ฟางลงจากรถ
“น้องฟางรู้สึกยังไงบ้างคะกับงานการแสดงครั้งแรก”นักข่าวถามเมื่อบวงสรวงเปิดกล้องเสร็จ
“ก็ตื่นเต้นมากเลยค่ะที่ทางผู้กำกับส่งบทและเลือกให้ฟางเป็นนางเอก ฟางจะตั้งใจแสดงและไม่ทำ
ให้แฟนๆผิดหวังแน่นอนค่ะ”ฟางพูดแล้วยิ้มให้กับกล้อง โดยมีพระเอกและนักแสดงคนอื่นๆยืน
ประกบ ส่วนป๊อปปี้ก็ยืนมองห่างๆ
“แล้วเต้ยละครับ ข้ามมาเล่นหนังกับนักร้องดังแบบนี้รู้สึกยังไงบ้างครับ”นักข่าวถามเต้ย
“ตอนแรกที่ผมทราบข่าวว่าต้องแสดงคู่กับฟาง ผมตื่นเต้นและดีใจมากเลยนะครับ เพราะฟางเค้า
คือนักร้องที่ผมปลื้มมากคนนึงเลย ก็แอบมีเขินบ้างครับที่ต้องมีฉากเข้าคู่กัน”เต้ยพูด
“เอๆ แบบนี้เป็นการบอกเจ้าตัวไว้ก่อนรึเปล่าคะว่าตัวเองปลื้มเค้า”นักข่าวถาม
“ก็บอกให้รู้ล่ะครับ แหม ฟางเค้าเป็นคนน่ารักครับ ใครอยู่ใกล้ก็มีความสุขแบบนี้ทุกคน”เต้ยพูด
แล้วมองฟางแล้วยิ้ม
“เอ๊ะๆ มีลุ้นในกองถ่ายนี้รึเปล่าคะเนี่ยๆ”นักข่าวรีบชงคำถามให้ฟาง
“ไม่หรอกค่ะ เพื่อนร่วมงานกันมากกว่า”ฟางได้แต่หัวเราะและตอบคำถามไป
“จะเป็นยังไงก็ต้องติดตามกันอีกทีนะครับ แต่พี่ๆนักข่าวอย่าลืมภาพยนตร์เรื่องนี้ของพวกเรานะครับ
เพราะพวกเราและทีมนักแสดงตั้งใจกันทำมากจริงๆ”เต้ยพูดแล้วยิ้มให้กับนักข่าวก่อนที่ทุกคนจะ
แยกไปถ่ายภาพเดี่ยว
“ฟาง เหนื่ยมั้ย เราเอาน้ำมาให้”เต้ยเมื่อเห็นฟางนั่งคนเดียวก็รีบเอาน้ำมาให้ฟางดื่มแล้วนั่งข้างๆ
ทำให้ป๊อปปี้ที่กำลังเอาน้ำมาให้ฟางชะงัก แล้วยืนมองอยู่ข้างหลัง
“ขอบใจนะเต้ย แต่เราว่า นั่งห่างๆกันมั้ย เรากลัวจะเป็นข่าวน่ะ”ฟางพูดไปตามตรง
“โอ๊ย ฟางไม่ต้องคิดมาก นักข่าวเข้าใจล่ะน่า และอีกอย่างเราก็วัยไล่เลี่ยกันในกองแล้ว ถ้าไม่คุย
กับฟางเราก็ไม่รู้จะคุยกับใครนะ แล้วนี่อาทิตย์หน้าก็ต้องไปเชียงรายแล้วด้วยสิ เราว่าเรามา
ทำความรู้จักคุ้นเคยกันดีกว่านะ เวลาแสดงเราจะได้ไม่เคอะเขินกันน่ะ เนี่ยฟางมีอะไรไม่เข้าใจใน
บทแสดงตรงไหนก็บอกนะ เราจะช่วยเอง”เต้ยพูด
“ขอบใจเต้ยมากนะที่ช่วย เอ๊ะ นี่คิดอะไรกับเรารึเปล่าเนี่ย”ฟางถามเพราะยังแบบหวั่นๆเต้ยอยู่
“บ้าหรอ เราเป็นเพื่อนร่วมงานแสดงไม่ใช่หรอ เราน่ะปลื้มฟางตอนเป็นนักร้องนะ เราก็เลยเฟรนลี่
อยากรู้จักเข้าไปคุยด้วยเฉยๆไม่มีอะไรหรอก”เต้ยพูดแล้วยิ้มแป้นทำให้ฟางนิ่งคิด เค้าคงไม่คิด
อะไรกับเราจริงๆหรอกมั้ง
“นั่นแน่ น้องฟางน้องเต้ยมาหลบนั่งอะไรกันตรงนี้คะ”นักข่าวเดินมาเห็นฟางและเต้ยนั่งด้วยกันก็
แซว
“อ๋อ ฟางเค้าร้องน่ะครับและอีกอย่างนั่งคนเดียวด้วย ผมกลัวฟางไม่มีเพื่อนคุย”เต้ยพูด
“เอ๊ะๆ ยังไงน้าคู่นี้ คิดอะไรกันรึเปล่าเอ่ย”นักข่าวแซวต่อ
“ไม่มีอะไรกันจริงๆค่ะพี่ เพื่อนกัน”ฟางรีบพูด
“จ้าๆ พี่ไม่กวนแล้ว เดี๋ยวพี่ขอตัวกลับกันก่อนนะคะ บาย”นักข่าวยิ้มก่อนจะเดินไป
“เต้ย ฟาง มาหลบตรงนี้เอง เวฟเค้าชวนไปทานข้าวที่ร้านอาหารของเค้า ไปกันๆ เนี่ยเค้าไปกันทั้ง
กองเลยนะ”เวนดี้รีบวิ่งมาหาฟางและเต้ยแล้วชวน
“จริงสิ เวฟมีร้านอาหารจีนนี่นา ฟางไปกัน”เต้ยรีบชวน
“เดี๋ยวเราขอถามผู้จัดการของเราก่อนนะว่ามีงานอะไต่อรึเปล่า”ฟางพูดแล้วเดินไปหาป๊อปปี้
“ไปเถอะ ไปทำความรู้จักกับนักแสดงและก็คนในกองเถอะฟาง”ป๊อปปี้ได้ยินทุกอย่างแล้วพูด
“นายไปด้วยกันสิ ไปกันหลายๆคนสนุกออก”ฟางพูดแล้วชวนป๊อปปี้
“ไม่เอาอ่ะ ชั้นไม่ค่อยชอบอาหารจีนเท่าไหร่ เอางี้ เดี๋ยวชั้นขับรถไปส่งเธอที่ร้าน แล้วถ้ากินเสร็จก็
โทรมา ชั้นอยู่ใกล้ๆแถวนั้นเอง”ป๊อปปี้พูดเมื่อเห็นฟางหน้างอจะเอาเขาไปด้วย
“ผมว่าไหนๆเค้าก็จะไปกันหมดนี่แล้ว จะเป็นการเสียเวลาผู้จัดการฟางทำไม เอาฟางไปรถผมดี
กว่า ทางเดียวกันไปด้วยกัน เผื่อผู้จัดการฟางจะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่นด้วย”เต้ยเดินปรี่เข้ามาพูด
“จริงสินะ ฟางไปกับเต้ยเถอะ เดี๋ยวชั้นจะได้เลยไปทำธุระและเลยรับฟิญด้วยไง ไปเถอะ”ป๊อปปี้
พูดแล้วยืนมองฟางที่เดินไปกับเต้ย แล้วเต้ยพยายามชวนฟางคุยนิ่งๆไม่แสดงความรู้สึกอะไร
ดูแลศิลปินดีจนลืมดูแลหัวใจตัวเองไปรึเปล่านะผู้จัดการคนนี้
มาดูกันว่าคนปากเเข็งทำเป็นไม่แสดงความรู้สึกอะไรจะปากแข็งอีกนานมั้ยย
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ