สิ่งเล็กๆที่ฟิ๊น...ฟิน
-
เขียนโดย SunnyRain
วันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.26 น.
1 ตอน
1 วิจารณ์
3,413 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557 21.30 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “ก็อต!”
เสียงทุ้มต่ำของใครบางคนดึงความสนใจให้เจ้าของชื่อหันไปมองตามต้นเสียง ก่อนจะพบชายหนุ่มร่างสูงในชุดพละกำลังวิ่งตรงมาหา
“อ้าว พี่โชน” ร่างบางเรียกชื่ออีกฝ่ายเมื่อเขามาหยุดอยู่ตรงหน้า “มีไรรึเปล่าครับ?”
“คือ...”
ร่างสูงเกาหัวตัวเองพลางหลุบตาลงต่ำ และถ้าลองสังเกตดีๆ จะเห็นว่าแก้มของเขาขึ้นสีเล็กน้อย นั่นยิ่งทำให้คนรอฟังยืนลุ้นตัวโก่ง
“พี่อยากชวนไปงานทุ่งด้วยกันน่ะ แกว่างมั้ย?”
ประโยคที่ออกมาจากปากคนตรงหน้าทำให้คนฟังถึงกับนิ่งเงียบไปชั่วขณะ ร่างบางรู้สึกได้ว่าใบหน้าของตัวเองร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรงจนอดกลัวไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจะได้ยินหรือเปล่า และเมื่อเห็นว่าคนฟังเงียบไป ร่างสูงก็รีบพูดขึ้นมาว่า
“เอ่อ..ถ้าแกไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ”
“อะ..อ้อ! ว่างครับพี่ ว่างๆ!” ร่างบางรีบตอบ ก่อนที่ร่างสูงจะเผยยิ้มกว้างออกมาให้เขาต้องใจเต้นรัวอีกรอบ
“งั้น..ไปกันเลยมะ? :)”
...ที่งานทุ่ง...
“โห...คนโคตรเยอะเลย”
ร่างสูงบ่นเบาๆพลางมองไปรอบๆ ภายในงานเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆนานา ผู้คนก็เดินไปมาให้ควั่ก พี่โชนหันมามองคนที่ยืนอยู่ข้างๆก่อนจะถามขึ้น
“เล่นอะไรก่อนดี หรือจะไปหาอะไรกิน?”
“ตามใจพี่โชนเลย ผมยังไงก็ได้”
“งั้น...” ร่างสูงลากเสียงยาวพลางมองไปรอบๆ ก่อนจะไปสะดุดที่เครื่องเล่นหนึ่ง “ไปเล่นไอ้นั่นกัน!” ร่างสูงชี้ไปทางซุ้มเกมส์ยิงปืน แล้วคว้าข้อมืออีกคนก่อนจะตรงดิ่งไปที่ซุ้มนั้น
ปุก! ปุก!
“โถ่ ไม่แม่นเลย มานี่พี่จะสอนยิง”
พูดจบร่างสูงก็วางปืนในมือของตัวเองลงก่อนจะหันมาหาอีกฝ่าย มือหนาวางทับลงตำแหน่งเดียวกับที่มือของร่างบางวางอยู่ ระยะห่างของทั้งคู่ก็เรียกได้ว่าห่างกันเพียงไม่กี่เซนติเมตร พี่โชนยกกระบอกปืนขึ้นมา สมาธิของเขาจดจ่ออยู่กับการยิงปืน แต่อีกคนนี่สิ...สติกระเจิดไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้
...พี่โชนคงจะไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังทำให้คนบางคนหวั่นไหวมากขึ้นทุกทีที่อยู่ใกล้กัน...
เวลาของความสุขมันผ่านไปเร็วเสมอ เผลอแป๊ปเดียวก็มืดแล้ว ทั้งคู่ตัดสินใจว่าจะเล่นเครื่องเล่นอีกสักอย่างก่อนจะไปหาอะไรกินแล้วค่อยกลับ หลังจากเดินดูไปเรื่อยๆก็พบเครื่องเล่นที่น่าสนใจ
‘รถไฟบ้านผีสิง’
“เล่นไอ้นี่กันเถอะ น่าสนุกดี” ร่างสูงพูดพลางเอื้อมมือไปกอดคอร่างบาง “แกคงไม่กลัวผีใช่มั้ย”
“ผมไม่ป๊อดขนาดนั้นนะพี่!”
“งั้นก็ไป!”
พอเข้าไปข้างใน บรรยากาศมืดๆสลัวๆบวกกับอากาศเย็นๆทำให้ชวนขนลุกไปได้ระดับหนึ่ง ทั้งคู่เดินไปที่รถไฟคันยาวที่จอดรออยู่ ในตอนแรกก็อตเลือกที่จะนั่งข้างหน้าสุด แต่อีกฝ่ายก็แย้งขึ้นมาว่าขอนั่งข้างหลังสุดดีกว่า ร่างบางจึงเดินมานั่งข้างหลังสุดโดยไม่ได้ถามอะไร
เมื่อรถไฟเริ่มเคลื่อนตัวออกไปช้าๆผ่านอุโมงค์ ท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มน่าขนลุกมากขึ้น จู่ๆก็อตก็รู้สึกได้ถึงมืออุ่นๆที่เอื้อมมือกุมมือของเขาไว้ ร่างบางหันไปมองด้วยใจที่เต้นแรง แต่อีกฝ่ายที่หันมามองก็ยิ้มบางๆให้
“ทำแบบนี้จะได้รู้สึกอุ่นใจขึ้นไง”
“...”
ร่างบางได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไร ตอนนี้บรรดาผีปลอมที่อยู่รอบตัวไม่ได้ดึงดูความสนใจเขาเลยแม้แต่น้อย มีเพียงแค่ความอึดอัดเท่านั้นก็ปกคลุมเขาและพี่โชนอยู่
...ที่ทำแบบนี้ พี่คิดอะไรอยู่กันแน่ ชอบผมบ้างมั้ย...
“ก็อต”
จู่ๆร่างสูงก็เรียกอีกฝ่ายให้ตื่นจากภวังค์ ก็อตหันหน้ามามองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าสงสัย ตรงกันข้ามกับสีหน้าของพี่โชนที่แสดงออกถึงความจริงจัง
“ที่พี่ชวนแกมาเที่ยววันนี้ พี่มีเหตุผลนะ”
“เหตุผล?”
“ยื่นหน้ามาใกล้ๆสิ แล้วพี่จะบอก”
และในทันทีที่ร่างบางยื่นหน้าเข้าไปตามคำสั่ง ร่างสูงก็โน้มหน้าเข้ามาก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะแตะกับริมฝีปากของอีกฝ่าย แต่ก็แค่แป๊ปเดียวเท่านั้น เมื่อร่างสูงผละออกก็ส่งยิ้มให้อีกฝ่ายที่ได้แต่นิ่งอึ้งกับเหตุการณ์เมื่อครู่
“นี่แหละ เหตุผลของพี่ :)”
เสียงทุ้มต่ำของใครบางคนดึงความสนใจให้เจ้าของชื่อหันไปมองตามต้นเสียง ก่อนจะพบชายหนุ่มร่างสูงในชุดพละกำลังวิ่งตรงมาหา
“อ้าว พี่โชน” ร่างบางเรียกชื่ออีกฝ่ายเมื่อเขามาหยุดอยู่ตรงหน้า “มีไรรึเปล่าครับ?”
“คือ...”
ร่างสูงเกาหัวตัวเองพลางหลุบตาลงต่ำ และถ้าลองสังเกตดีๆ จะเห็นว่าแก้มของเขาขึ้นสีเล็กน้อย นั่นยิ่งทำให้คนรอฟังยืนลุ้นตัวโก่ง
“พี่อยากชวนไปงานทุ่งด้วยกันน่ะ แกว่างมั้ย?”
ประโยคที่ออกมาจากปากคนตรงหน้าทำให้คนฟังถึงกับนิ่งเงียบไปชั่วขณะ ร่างบางรู้สึกได้ว่าใบหน้าของตัวเองร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรงจนอดกลัวไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจะได้ยินหรือเปล่า และเมื่อเห็นว่าคนฟังเงียบไป ร่างสูงก็รีบพูดขึ้นมาว่า
“เอ่อ..ถ้าแกไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ”
“อะ..อ้อ! ว่างครับพี่ ว่างๆ!” ร่างบางรีบตอบ ก่อนที่ร่างสูงจะเผยยิ้มกว้างออกมาให้เขาต้องใจเต้นรัวอีกรอบ
“งั้น..ไปกันเลยมะ? :)”
...ที่งานทุ่ง...
“โห...คนโคตรเยอะเลย”
ร่างสูงบ่นเบาๆพลางมองไปรอบๆ ภายในงานเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆนานา ผู้คนก็เดินไปมาให้ควั่ก พี่โชนหันมามองคนที่ยืนอยู่ข้างๆก่อนจะถามขึ้น
“เล่นอะไรก่อนดี หรือจะไปหาอะไรกิน?”
“ตามใจพี่โชนเลย ผมยังไงก็ได้”
“งั้น...” ร่างสูงลากเสียงยาวพลางมองไปรอบๆ ก่อนจะไปสะดุดที่เครื่องเล่นหนึ่ง “ไปเล่นไอ้นั่นกัน!” ร่างสูงชี้ไปทางซุ้มเกมส์ยิงปืน แล้วคว้าข้อมืออีกคนก่อนจะตรงดิ่งไปที่ซุ้มนั้น
ปุก! ปุก!
“โถ่ ไม่แม่นเลย มานี่พี่จะสอนยิง”
พูดจบร่างสูงก็วางปืนในมือของตัวเองลงก่อนจะหันมาหาอีกฝ่าย มือหนาวางทับลงตำแหน่งเดียวกับที่มือของร่างบางวางอยู่ ระยะห่างของทั้งคู่ก็เรียกได้ว่าห่างกันเพียงไม่กี่เซนติเมตร พี่โชนยกกระบอกปืนขึ้นมา สมาธิของเขาจดจ่ออยู่กับการยิงปืน แต่อีกคนนี่สิ...สติกระเจิดไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้
...พี่โชนคงจะไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังทำให้คนบางคนหวั่นไหวมากขึ้นทุกทีที่อยู่ใกล้กัน...
เวลาของความสุขมันผ่านไปเร็วเสมอ เผลอแป๊ปเดียวก็มืดแล้ว ทั้งคู่ตัดสินใจว่าจะเล่นเครื่องเล่นอีกสักอย่างก่อนจะไปหาอะไรกินแล้วค่อยกลับ หลังจากเดินดูไปเรื่อยๆก็พบเครื่องเล่นที่น่าสนใจ
‘รถไฟบ้านผีสิง’
“เล่นไอ้นี่กันเถอะ น่าสนุกดี” ร่างสูงพูดพลางเอื้อมมือไปกอดคอร่างบาง “แกคงไม่กลัวผีใช่มั้ย”
“ผมไม่ป๊อดขนาดนั้นนะพี่!”
“งั้นก็ไป!”
พอเข้าไปข้างใน บรรยากาศมืดๆสลัวๆบวกกับอากาศเย็นๆทำให้ชวนขนลุกไปได้ระดับหนึ่ง ทั้งคู่เดินไปที่รถไฟคันยาวที่จอดรออยู่ ในตอนแรกก็อตเลือกที่จะนั่งข้างหน้าสุด แต่อีกฝ่ายก็แย้งขึ้นมาว่าขอนั่งข้างหลังสุดดีกว่า ร่างบางจึงเดินมานั่งข้างหลังสุดโดยไม่ได้ถามอะไร
เมื่อรถไฟเริ่มเคลื่อนตัวออกไปช้าๆผ่านอุโมงค์ ท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มน่าขนลุกมากขึ้น จู่ๆก็อตก็รู้สึกได้ถึงมืออุ่นๆที่เอื้อมมือกุมมือของเขาไว้ ร่างบางหันไปมองด้วยใจที่เต้นแรง แต่อีกฝ่ายที่หันมามองก็ยิ้มบางๆให้
“ทำแบบนี้จะได้รู้สึกอุ่นใจขึ้นไง”
“...”
ร่างบางได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไร ตอนนี้บรรดาผีปลอมที่อยู่รอบตัวไม่ได้ดึงดูความสนใจเขาเลยแม้แต่น้อย มีเพียงแค่ความอึดอัดเท่านั้นก็ปกคลุมเขาและพี่โชนอยู่
...ที่ทำแบบนี้ พี่คิดอะไรอยู่กันแน่ ชอบผมบ้างมั้ย...
“ก็อต”
จู่ๆร่างสูงก็เรียกอีกฝ่ายให้ตื่นจากภวังค์ ก็อตหันหน้ามามองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าสงสัย ตรงกันข้ามกับสีหน้าของพี่โชนที่แสดงออกถึงความจริงจัง
“ที่พี่ชวนแกมาเที่ยววันนี้ พี่มีเหตุผลนะ”
“เหตุผล?”
“ยื่นหน้ามาใกล้ๆสิ แล้วพี่จะบอก”
และในทันทีที่ร่างบางยื่นหน้าเข้าไปตามคำสั่ง ร่างสูงก็โน้มหน้าเข้ามาก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะแตะกับริมฝีปากของอีกฝ่าย แต่ก็แค่แป๊ปเดียวเท่านั้น เมื่อร่างสูงผละออกก็ส่งยิ้มให้อีกฝ่ายที่ได้แต่นิ่งอึ้งกับเหตุการณ์เมื่อครู่
“นี่แหละ เหตุผลของพี่ :)”
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ