ระวังให้ดี เพราะผมคือซาตาน
9.9
เขียนโดย Chapond
วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 17.45 น.
66 ตอน
629 วิจารณ์
118.93K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 31 มกราคม พ.ศ. 2558 16.30 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
66) 66 บทส่งท้าย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“เนย แจม อยู่ไหนลูก”แก้วเดินร้องเรียกลูกบริเวณทางเดินของปราสาท นี่ก็จะเช้าแล้ว ลูกๆไป
ไหนนะ
“หาใครอยู่รึ”โทโมะโผล่มาจากที่ซ่อนแล้วกอดแก้วจากด้านหลังก่อนจะหอมแก้มแก้วทีนึง
“โทโมะ พอเลย ช่วยกันหาลูกก่น นี่จะเช้าแล้วนะ”แก้วตีแขนโทโมะเบาๆ ก่อนะให้สามีช่วยตามหา
ลูกสาวฝาแฝด
“แก้ว เจ้าลืมไปรึเปล่า ว่าลูกของเราน่ะ เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งแวมไพร์นะ”โทโมะพูด
“จริงสิ ข้าลืมอีกแล้ว”แก้วนึกขึ้นได้ เพราะตอนที่ท้องเนยกับแจมตอนนั้น แม้ร่างกายเธอจะเปลี่ยน
ไปแล้ว แต่เมื่อคลอดลูกสาวฝาแฝดออกมากลับกลายเป็นว่า เนยและแจมเป็นลูกครึ่งมนุษย์
แวมไพร์ไปอย่างงั้น
“โอ้ย พวกพี่ๆอย่าลืมสิ ว่าถึงสองแฝดนี่จะเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งแวมไพร์ แต่พวกนาง ก็ยังเด็กและซน
มาก อ๊าก เจ็บ”ปีเตอร์พูดแล้วเดินมา โดยที่เนยวัย7ขวบเกาะที่ขา ส่วนแจมเองขี่หลังปีเตอร์พร้อม
กับงับเข้าที่หัวไหล่
“เนย แจม พอๆ ไปแกล้งอาปีเตอร์ทำไมละลูก”โทโมะรีบห้ามและพาเนยกับแจมออกมาจากปี
เตอร์
“เอ้า ก็พวกเราสงสัยนี่ว่าแวไพร์กินเลือดคนอื่นได้ แล้วพวกเรากินเลือดแวมไพร์ได้มั้ย”แจมพูดด้วย
ความสงสัย
“แม่จ๋า พ่อจ๋า มิณทร์ง่วงแล้ว อยากนอน”ก่อนที่แก้วจะไปช่วยโทโมะจัดการเนยและแจม มิณทร์
ลูกชายคนเล็กวัย6ขวบที่เกิดตอนที่แก้วเป็นแวมไพร์ไปแล้ว ก็พูดพลางหาย แก้วจึงอุ้มมิณทร์ขึ้น
มา
“ง่วงหรอครับ เดี๋ยวแม่ให้อาปีเตอร์พาไปนอนเนาะ ไปนอนพร้อมพี่เนยพี่แจมล่ะ”แก้วพูด
“ได้ไงล่ะพี่แก้ว ข้าเองก็เหนื่อยเป็นนะ ไหนจะจัดการหลานๆจอมแสบทั้ง3เนี่ย โอ้ย เมื่อไหร่กั้งกับ
โบว์จะกลับมมากนรกสักทีนะ ข้าจะได้มีคนช่วยเลี้ยงหลาน เบาแรงไปอีกเยอะ”ปีเตอร์บ่นอุบ
“ไม่ต้องมาบ่นมากน่า เดี๋ยวพรุ่งนี้กั้งกับโบว์ก็มาแล้ว”แก้วพูดแล้วดันหัวปีเตอร์เบาๆ
“อย่าบ่นมากน่าปีเตอร์ ถึงกั้งกับโบว์จะกลับมานะ เจ้าอย่าลืมสิ ว่าพวกเค้าก็มีลูกอย่างมาร์คไป
แล้ว ดังนั้น เจ้าก็ควรจะหาคู่ครองซะนะ จะได้ไม่ต้องมานั่งเหงาเลี้ยงหลานๆแบบนี้”โทโมะพูดแล้ว
ยิ้มนิดนึง
“โอย เอาเป็นว่าถ้าคู่ของข้าจะมาก็มาเมื่อถึงเวลาล่ะน่า ป่ะหลานๆไปนอนกัน นี่ก็จะเช้าแล้วเลิกซน
แล้วไปนอน เห้อ นี่ดีนะที่มีแค่3ถ้ามี4-5ตามมา ข้าต้องตายแน่ๆ”ปีเตอร์พูดแก้มบ่นเมื่อเดินพา
หลานๆไปนอน
“นี่เราจะบอกปีเตอร์เมื่อไหร่ว่าหลานคนที่4กำลังจะตามมาแล้วน่ะ”โทโมะเดินไปโอบไหล่แก้วแล้ว
พูด
“พอเลยโทโมะ ถ้าคนนี้ออกมาข้าขอพักนะข้าเองก็เหนื่อยจะเลี้ยงแล้วเนี่ย แต่ละราย ซนๆทั้ง
นั้น”แก้วพูด
“ก็ซนเหมือนแม่ไงล่ะ ทั้งแสบและซน”โทโมะพูดแล้วยิ้ม ก่อนจะเดินพาแก้วเข้ามาในห้องนอน
“จะว่าไปแล้ว ก็อดคิดถึงเรื่องราวในอดีตไม่ได้เลยนะโทโมะ ทั้งมิณทร์ และเรื่องราวของฟาง
ป๊อปปี้”แก้วพูด
“ข้าเชื่อนะว่ามิณทร์กลับชาติมาเกิดเป็นลูกของเรา แต่สำหรับเรื่องราวของป๊อปปี้และฟาง ข้าเชื่อ
ว่าพวกเค้ารักกันมากแค่ไหน นี่เรื่องราวก็ผ่านมานานมากแล้วทำไมเจ้าถึงนึกถึงขึ้นมาล่ะ”โทโมะ
พูด
“นั่นน่ะสิ ข้าเองก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน ไปนอนเถอะ จะเช้าแล้ว”แก้วพูด
“อ้อ จริงสิ”โทโมะพูดก่อนจะเดินจูงมือแก้วมาที่ตู้เก็บของใบหนึ่งแล้วหยิบกล่องสร้อยเก่าๆของ
ออกมา
“ข้ามีเรื่องจะสารภาพ ตอนที่ช่วยเจ้าจากพวกนางเงือกตรงน้ำตกเมื่อหลายปีก่อน ความจริงข้าเห็น
สร้อยเส้นนี้กับเจ้า มันหล่นในน้ำตก ข้าเก็บได้เลยซ่อมไว้ ไม่มีโอกาสคืน พอนานวันข้าก็ลืมไปเสีย
สนิท วันก่อน เนยกับแจมมาเปิดตู้นี่ทำให้ข้าเจอมันอีกครั้ง ข้าว่า ลูกคงอยากให้ข้าคืนเจ้านะ”โท
โมะเปิดกล่องสร้อยแล้วนำสร้อยรูปพระอาทิตย์และพระจันทร์เกี่ยวคู่กัน ของแก้วที่ตนเองนำไป
ซ่อมแล้วนำมันมาสวมที่คอของแก้ว
“ขอบใจนะโทโมะ ข้าก็นึกว่ามันหายไปแล้วข้าจำได้เลยนะว่าตอนงานที่หมู่บ้าน ข้าขอพ่อข้าซื้อ
สร้อยเส้นนี้ แล้วพ่อค้าเคยบอกว่าสร้อยเส้นนี้มีชิ้นเดียวในโลก ต้องรักษาดีๆ ก่อนที่ข้าจะเจอกับแม่
หมอ แล้วก็ดูดวงกับท่าน ท่านบอกว่าจะได้คู่แท้ ที่ไม่ใช่คน มันเลยเป็นสาเหตุที่พ่อแม่ข้ากลัว
เพราะข้าคือลูกสาวนักล่าปิศาจ”แก้วเล่าอดีตให้โทโมะ
“คู่แท้ไม่ใช่มนุษย์ก็คือข้าไง และข้าก็เจอเจ้าแล้วตั้งแต่วันนั้น คู่กันแล้วก็ไม่แคล้วคลาดกัน นี่เป็น
สร้อยที่ปู่ข้ามอบให้ตั้งแต่เด็ก แต่ข้าไม่ชอบสวมมัน บอกกับข้าว่ามีแค่เส้นเดียวในโลกนี้เช่นกัน”โท
โมะพูดก่อนจะชูสร้อยที่เหมือนกับแก้วให้ดู
“โลกของเจ้ากับข้ากลายเป็นโลกเดียวกันแล้ว ข้ารักเจ้านะแก้ว”โทโมะพูดอีกครั้งแล้วบรรจงจูบ
แก้วอย่างอ่อนโยน
“ข้าก็รักเจ้าเหมือนกันนะ โทโมะ”แก้วยิ้มเมื่อถอนจูบออกมาก่อนจะกอดสามีไว้ด้วยความรัก
“แจมอยู่ไหนน่ะ”เนยที่ตื่นขึ้นมาตอนกลางวันแล้วร้องหาแจมบริเวณสวนของปราสาท เมื่อทั้งคู่
แอบหนีออกมาเล่นจากปราสาทในตอนกลางวัน เนื่องากเนยและแจมเป็นลูกครึ่งแวมไพร์และ
มนุษย์ทำให้ทนต่อแสงแดดกลางวันได้
“ปอร์เช่ เจ้าอยู่ไหนน่ะ ข้าเชื่อจะตามเจ้าแล้วนะ”เสียงของเด็กชายคนหนึ่งร้องเรียกทำให้เนยชะงัก
“เจ้าเป็นใครน่ะ กล้าดียังไงถึงเข้ามาในปราสาทของข้า นี่แน่ะๆ”เนยตกใจรีบว่าเอาข้าวของปากใส่
เด็กหนุ่ม
“โอ๊ย ข้าเจ็บนะ นี่เจ้าคิดว่าเป็นใครน่ะ พ่อแม่ข้าเป็นถึงผู้ดูแลนรกเลยนะ”เด็กชายว่า
“ดูแลนรกก็ดูแลไปสิ แต่นี่มันปราสาทของข้า ไปเลยนะ ข้าจะไปฟ้องพ่อโทโมะกับแม่แก้ว”เนยว่า
“เนย ใจเย็นๆ อย่ามีเรื่องกัน”แจมโผล่ออกมาพร้อมเด็กชายตัวเล็กก็รีบห้ามน้องสาวฝาแฝด
“พี่ปลื้ม ที่ปราสาทของลุงโทโมะมีสวนดอกไม้ด้วย เราเก็บดอกไม้ไปให้พ่อป๊อปปี้กับแม่ฟาง
เถอะ”ปอร์เช่พูด
“ไม่ได้ ข้าไม่ให้นะ ที่นี่เป็นบ้านของข้า อยากได้ก็ปลูกเองสิ”เนยว่า
“โธ่ อีแค่ดอกไม้ง่ายๆแค่นี้เอง”ปลื้มพูดแล้วเสกให้พื้นดินมีดอกไม้โผล่ขึ้นมา สร้างความตื่นเต้นให้
กับเด็กแฝด
ครืน
จู่ๆเมฆดำก็ปกคลุมทั่วท้องฟ้าเด็กทั้ง4รีบขยับตัวเข้าหากันโดยอัตโนมัติ
“เด็กๆมาทำอะไรข้างนอกตรงนี้ ไปปลุกพ่อแม่พวกเจ้าเร็ว”กั้งลงจากรถม้าสีดำที่โผล่ขึ้นมากแผ่น
ดินที่แยกออก ก่อนจะจับมือโบว์ที่อุ้มมาร์คลูกชายที่อายุได้3ขวบลงมาจากรถม้าสีดำ
“พ่อป๊อปปี้ แม่ฟาง”ปลื้มและปอร์เช่ยิ้มเมื่อ ป๊อปปี้และฟางลงมาจากรถม้าคันเดียวกับกั้ง โบว์และ
มาร์ค
“ข้าไม่คิดเลยว่าพวกท่านจะมากันตอนกลางวัน”เขื่อนพูดเมื่อกลายร่างคืนจากหมาป่าตัวใหญ่ ที่มา
กับเฟย์และแครอลที่มากับกรีน โดยที่พวกเขาเดินทางมาจากปราสาททางใต้
“พี่ป๊อปปี้”แครอลยิ้มอย่างดีใจแล้วรีบวิ่งไปสวมกอดพี่ชายด้วยความรัก
“เกือบ7ปีแล้วสินะที่ไม่ได้เจอกัน พี่คิดถึงเจ้านะแครอล สบายดีมั้ย”ป๊อปปี้ถามน้องสาวด้วยความ
คิดถึง
“พี่ป๊อปปี้ ข้าคิดถึงพี่เหลือเกิน พี่รู้บ้างไหมว่า ตอนที่ข้ารู้ข่าวการจากไปของพี่กับฟาง ข้าเสียใจ
แทบบ้า ตอนนี้ข้าดีใจเหลือเกินที่พี่ของข้ากลับมา”แครอลพูดแล้วคิดถึงเมื่อ3ปีก่อนที่โบว์และกั้ง
มาที่งานแต่งงานของเธอและกรีนที่ปราสาททางใต้ แล้วมอบของขวัญของป๊อปปี้และฟางให้เธอ
พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวทั้งคู่
“ข้าดีใจนะ ที่อย่างน้อยพ่อฟางไม่ลงมือจัดการเจ้าจนแทบกระอักเลือด”เขื่อนพูดแล้วยิ้ม
“ดีที่สุดเลยล่ะ ไม่อย่างนั้นข้าต้องขาดใจตายแน่เมื่ออยู่โดยไม่มีฟาง”ป๊อปปี้พูดแล้วยิ้มให้กับฟาง
“แม่เฟย์ ฟิญหิวแล้ว”เด็กหญิงตัวน้อยที่เฟย์อุ้มพูดขึ้นทำให้ผู้ใหญ่ที่พูดคุยกันหยุดบทสนทนาแล้ว
หัวเราะ
“อย่าเอาแต่พูดมากเลย เราเข้าไปในปราสาทกันเถอะ”โบว์ยิ้มก่อนจะเดินตำทุกคนเข้าไปใน
ปราสาทโดยที่ ปีเตอร์ โทโมะ แก้วและมิณทร์ตื่นจากการหลับใหลแล้วมาต้อนรับทุกคน
“อ่ะ เอาให้”ปอร์เช่เดินเอาดอกไม้ที่ปลื้มเสกขึ้นมาเมื่อกี้นี้ให้กับฟิญ
“อ่ะ ข้าให้”มิณทร์ที่หยิบเอาขนมในถาดมายื่นให้ฟิญเช่นเดียวกัน เด็กน้อยมองเด็กชายทั้ง2สลับ
ไปมา
“ฮิฮิ ข้าชอบทั้ง2เลย ไปเล่นกันเถอะ”ฟิญรับทั้งดอกไม้และขนมขากปอร์เช่และมิณทร์ก่อนจะ
คล้องแขนทั้งคู่ไปเล่นอีกทาง
“ลูกข้ายังไงก็ต้องได้คู่ฟิบฟิญลูกของเขื่อนไม่ช้าก็เร็วนี้แน่นอน”ป๊อปปี้มองเหตุการณ์แล้วพูด
“ไม่มีทาง เมื่อกี้ฟิญรับขนมจากมิณทร์ลูกข้าก่อนแสดงว่าฟิญเลือกลูกข้า”โทโมะส่ายหน้าเบาๆแล้ว
พูด
“ไม่ใช่ ลูกข้าต่างหากล่ะ”ป๊อปปี้รีบเถียง
“ไม่ใช่ ลูกข้า”โทโมะเถียงป๊อปปี้อย่างไม่ยอมแพ้
“นี่ พวกเจ้าจะเถียงกันทำไมเนี่ย นี่ลูกของพวกเรายังเล็กอยู่เลยนะ อย่าคลุมถุงชนให้ลูก”แก้วและ
ฟางที่เห็นป๊อปปี้และโทโมะเถียงกันเรื่องของ ฟิญ ปอร์เช่และมิณทร์ก็เดินเข้ามาดุสามีของตนเอง
“โอ๊ย ข้าเจ็บนะยัยบ้า”ปลื้มร้องเมื่อถูกเนยกระโดดขี่หลังแล้วงับที่หัวไหล่
“เจ้าแกล้งข้าเมื่อกี้ เจ้าต้องโดน นี่แน่ะๆ”เนยไม่ยอมแพ้รีบทุบปลื้มก่อนที่ปลื้มพยายามวิ่งเพื่อสลัด
เนยออกไป
“เนยอย่าแกล้งปลื้ม ไม่ทะเลาะกันสิ”แจมเห็นก็รีบวิ่งตามไม่ให้2คนทะเลาะกัน
“ได้เชื้อแม่มาเต็มๆ”โทโมะมองเนยแล้วนึกถึงแก้วก็พูดก่อนจะยิ้มขำ
“ไม่ใช่สักหน่อย ข้าออกจะเรียบร้อยเหมือนกับแจมต่างหากล่ะ”แก้วพูดแล้วหยิกสามีเบาๆ
“เห้อ สดชื่นจัง”ป๊อปปี้เดินหลบมาที่ระเบียงแล้วสูดอากาศบยามค่ำคืน
“คิดถึงอากาศบนโลกนี้สินะ”ฟางเดินเข้ามาหาแล้วพูดขึ้น
“แต่คิดถึงเจ้ามากกว่า”ป๊อปปี้พูดแล้วหันไปมองฟางที่ยืนข้างๆแล้วยิ้มออกมา
“เจ้าไม่ต้องมาหยอดข้าหวานแบบนี้ ทีเมื่อก่อนและแกล้ง ทำร้ายข้าล่ะ”ฟางพูด
“ทำร้ายเพราะข้ากลัวใจตัวเองจะรักเจ้า แต่สุดท้ายข้าก็รักเจ้าอย่างถอนตัวไม่ขึ้น”ป๊อปปี้พูด
“บ้า ลูก2แล้วนะเดี๋ยวพรุ่งนี้ เจ้าก็ต้องไปคุมวิญญาณดวงใหม่ที่มานรกอีก เห้อ ป๊อปปี้ เจ้าไม่เบื่อรึ
ไง ที่ต้องทำหน้าที่ คอยรับส่งวิญญาณให้พ่อข้าแบบนี้มานานหลายปีแล้วไม่ได้ขึ้นมาบทโลก
มนุษย์ ถึงจะขึ้น ก็ขึ้นมาแค่วันเดียว”ฟางถาม
“ไม่นะฟาง ข้าบอกเจ้าตั้งแต่แรกแล้วไง ที่ใดมีเจ้า ต่อให้มันจะลำบาก ต่อให้ไม่ได้เห็นเดือนเห็น
ตะวัน ข้าก็ยอม เพราะทั้งตัวและหัวใจข้ารัก เลือกเป็นของเจ้านะ”ป๊อปปี้พูดแล้วสวมกอดฟางจาก
ด้านหลัง
“ปากหวาน น่าจับให้พ่อข้าลงโทษต่อดีมั้ยนะ”ฟางพูดแล้วเอนหัวซบที่ไหล่ของป๊อปปี้
“ยอมสิ ถ้าผู้คุมคือเมียของข้า ข้ายอม”ป๊อปปี้พูดแล้วหอมแก้มฟางอีกครั้งซ้ำๆแล้วค่อยๆไล้ลงมา
จูบที่ปากอย่างอ่อนโยน
“พ่อป๊อป แม่ฟางหอมกันอีกแล้ว”เสียงหัวเราะคิกคักทำให้ป๊อปปี้และหันไปมองแล้วตกจเมื่อเห็น
โทโมะ แก้ว ปีเตอร์ ที่ช่วยกันปิดตาเนยแจมและมิณทร์ ส่วนเฟย์และเขื่อนช่วยกันปิดตาฟิญ โดยที่
ปอร์เช่และปลื้มถูกแครอลและกรีนปิดตา
“มาทำไมกันเยอะแยะ กลับเข้าไปเลยนะ”ป๊อปปี้รีบไล่ทุกคนกลับเข้าไปด้านใน
ฟอด
ฟางเขย่งตัวหอมแก้มป๊อปปี้อีกครั้งเมื่อทุกคนไปแล้ว
“ข้ารักเจ้านะฟาง รักที่สุดเลย”ป๊อปปี้พูดแล้วโอบเอวฟาง
“บอกรักข้าทุกวันไม่เบื่อรึไง เราต้องอยู่ด้วยกันตลอดไปแล้วนะ ไม่เบื่อที่จะบอกรึ”ฟางถาม
“ไม่เบื่อ ให้ข้าได้บอกรักเจ้าแบบนี้ทุกวัน ตลอดไปดีกว่าไม่มีเจ้าให้บอกรักดีกว่า เจ้าคือนางฟ้าใน
ใจข้าเสมอนะฟาง เจ้าคือแสงสว่างในใจข้าและจะเป็นตลอดไป”ป๊อปปี้พูด
“เจ้าก็คือหัวใจของข้า ข้ารักเจ้ามากนะ”ฟางพูดแล้วกอดป๊อปปี้ด้วยความรัก
“พ่อป๊อปกับแม่ฟางมายืนตรงนี้อีกทำไมเข้าไปข้างในกันเถอะ ข้าไม่อยากอยู่ใกล้ยัยนั่นเลยน่า
รำคาญ”ปลื้มเดินมาตาม
“ไม่ชอบกันตอนแรก สุดท้ายก็กลายเป็นรัก”ป๊อปปี้มองลูกแล้วขำก่อนจะมองตาฟาง
“หลบหลีกหัวใจมานานสุดท้ายยังไงก็คือเจ้า”ฟางพูดแล้วก็ยิ้มด้วยความเขิน
“โอ๊ย พ่อกับแม่หวานกันอีกแล้วข้าไปแล้วก็ได้”ปลื้มมองพ่อกับแม่ตัวเองแล้วเดินกลับเข้าไปใน
งานท่ามกลางเสียงหัวเราของป๊อปปี้กับฟาง ก่อนทั้งคู่จะสบตากัน แทนการบอกรักและสัญญาที่จะ
มีกันและกันตลอดไป
จบแล้วจ้าาา เรื่องนี้อาจจะดราม่าไม่ค่อยมีความหวาน สัญญญาเรื่องหน้าทำหวานแล้วจ้า
ไม่ค่อยได้มาอัพบ่อยแต่ขอบคุณทุกคนมากน้า ที่ยังมาตามอ่านกันตลอดเสมอมา
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ