The Princess I ภารกิจรักร้าย ล่าหัวใจเจ้าชายจอมกวน
9.8
เขียนโดย keang_sujittra
วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 11.52 น.
10 chapter
32 วิจารณ์
17.56K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2558 22.46 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
8) ตอนที่ 8 : อาการแปลกๆ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“อ้าวเจ๊ หายไปไหนมาเนี่ย พวกผมอุตส่าห์เป็นห่วงแทบแย่” ธามไทพูดขึ้นทันทีที่เห็นฉันเข้าไปในห้อง แต่ขอโทษ ตอนนี้ฉันกำลังอารมณ์ไม่ดี ไม่มีเวลาไปลับฝีปากกับนายหรอกนะ
“พี่มาร์ค เจ๊เค้าเป็นอะไรไปน่ะพี่ ไหงถึงไม่ยอมพูดกับผมล่ะ” เมื่อเห็นว่าฉันเงียบ ธามไทจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปหามาร์คัสแทน แต่หมอนั่นก็ทำได้แค่ยักไหล่บอกว่าเขาไม่รู้ ก่อนจะนั่งลงข้างๆฉัน
“เป็นไงบ้างจ๊ะฟาง เวลทีพอจะทำให้ฟางประทับใจได้บ้างมั้ย” เมโลดี้หันมาถามฉันพร้อมรอยยิ้มอย่างน่ารัก จะให้ฉันนั่งหน้าบึ้งเป็นตูดหมึกแบบนี้ก็ดูจะไม่เข้าที เผลอๆอาจจะโดนมาร์คัสเฉ่งในข้อหาเมินคำถามแฟนของเขาอีกต่างหาก ฉันก็เลยต้องฝืนยิ้มให้เธอ ทั้งๆที่ในใจอยากจะกระโดดบีบคอไอ้คนขี้เก๊กที่นั่งทำหน้าตายอยู่ตรงข้ามกับเมโลดี้ใจแทบขาด
“ก็ดีค่ะพี่เมย์ เวลทีทำให้ฟางรู้สึกเหมือนตอนอยู่ไฮท์ฟลาวน์เลยค่ะ” ใช่! โรงเรียนน่ะดี แต่ปากคนที่นี่มันทำให้ฉันอยากวิ่งหนีชะมัด ให้ตายสิ!
“ถ้าเจ๊ชอบที่นี่ เจ๊ก็อยู่นานๆสิฮะ นานๆทีจะมีสาวสวยอย่างเจ๊มาอยู่ใกล้ๆ ผมมีความสุขม๊ากมาก” อีตาธามพูดขึ้นพลางทำหน้าเคลิ้ม เลยโดนกั้งตบกะโหลกไปหนึ่งที น้อยไปเหอะ หน่วยข่าวกรองของฉันบอกว่า นายมีผู้หญิงควงไม่ซ้ำหน้าเลยสักวันไม่ใช่เหรอไง
“ถ้างั้นฉันกลับก่อนก็แล้วกันนะ ยังมีเรื่องให้ต้องเคลียร์อีกเยอะเลย” มาร์คัสพูดพลางลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ฉันหันไปมองด้วยสายตาเต็มไปด้วยคำถาม ทำไมถึงรีบกลับนักวะ จะทิ้งกันเหรอไงเนี่ย
“บอกแล้วไงว่ามีเรื่องให้จัดการอีกเยอะ เอาน่า ไว้ฉันจะแวะมาเยี่ยมผลงานของเธอบ่อยๆ ตั้งใจเข้าล่ะ” มาร์คัสพูดเมื่อเห็นฉันจ้องหน้าเขา ชิ! ทำมาพูดดีไป ตั้งใจจะมาหาพี่เมย์ก็บอกมาเหอะ
“ฉันฝากยัยนี่ด้วยนะเมย์ ไว้จะแวะมาใหม่” มาร์คัสหันไปพูดกับพี่เมย์ก่อนจะหันมาทางฉันอีกรอบ
“มีปัญหาอะไรก็โทรพี่นะฟาง หรือไม่ก็ปรึกษาเมย์ก็ได้ โอเคนะ?” ฉันพยักหน้ารับเป็นการรับรู้ ไม่บ่อยนักหรอกที่หมอนั่นจะแทนตัวเองว่าพี่น่ะ นี่แสดงว่าเขาคงจะเป็นห่วงฉันจริงๆสินะ ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย
มาร์คัสคลี่ยิ้มบางๆให้ฉันก่อนจะหันหลังกลับเดินออกจากห้องไป ฉันมองตามหลังมาร์คัสที่เดินออกไปอย่างรู้สึกโหวงๆ ก็เขาเป็นคนเดียวในที่นี้ที่ฉันสนิทด้วยที่สุดนี่นา ถึงตอนนี้จะมีเมโลดี้เพิ่มขึ้นมาอีกคนก็เถอะ แต่เมโลดี้ก็ไม่ได้อยู่ในโรงเรียนนี้ตลอดซะหน่อย จะมาคอยปกป้องฉันได้ยังไง แล้วนี่ฉันจะรักษาชีวิตของตัวเองให้รอดพ้นจากเจ้าพวก The Prince นี่ได้ตลอด 2 เดือนมั้ยเนี่ย
โดยเฉพาะตัวอันตรายอย่างป๊อปปี้ ที่มาถึงวันแรกหมอนั่นก็ขู่ฉันไว้ซะแล้ว เห็นทีคราวนี้ชีวิตฉันคงไม่มีวันได้พบกับความสงบสุขแน่ๆ
“ถ้าอย่างนั้น...พิชชี่” เมโลดี้หันไปเรียกพิชชี่ ซึ่งหมอนั่นก็ตอบกลับมาอย่างแข็งขัน
“ครับ หัวหน้า”
“เดี๋ยวนายพาฟางไปที่ตู้ล็อกเกอร์นะ จากนั้นก็พาไปดูห้องพักแล้วก็ห้องเรียน ฟางจะเรียนห้องเดียวกับนาย”
“ครับ” พิชชี่รับคำ เมโลดี้ยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะหันมาทางฉันแล้วยื่นพวกกุญแจให้
“ฟางจ๊ะ นี่เป็นกุญแจล็อกเกอร์กับกุญแจห้องนะ เดี๋ยวพิชชี่เป็นคนพาฟางเดินรอบๆอีกครั้ง ยังมีเวลาอีกเยอะก่อนจะขึ้นเรียนคาบบ่าย ฟางจะแค่ไปดูห้องเฉยๆหรือว่าจะไปนั่งเรียนเลยก็ได้จ้ะ”
“ขอบคุณนะคะพี่เมย์” ฉันยิ้มให้เมโลดี้อย่างขอบคุณ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเมโลดี้ถึงได้เอาชนะใจมาร์คัสได้ ขนาดฉันเป็นผู้หญิง แต่แค่อยู่ใกล้ๆเธอก็ทำให้ฉันมีความสุขได้แล้วอ่ะ น่าอิจฉามาร์คัสชะมัด
“ให้ผมไปกับเจ๊ฟางด้วยได้ป่ะครับหัวหน้า หรือจะให้ผมไปกับเจ๊เค้าแค่สองคนก็ได้นะฮะ” ธามไทรีบเสนอตัว ฉันอ้าปากขัด แต่ก็ไม่ทัน เพราะเมโลดี้เป็นคนขัดขึ้นซะก่อน
“ไม่ต้องเลยธาม ฉันเตรียมงานไว้ให้นายแล้ว”
“อะไรฮะ ใช่ไปช่วยเจ๊ฟางจัดหน้องรึเปล่า” นายนั่นถามตาเป็นประกายระยิบระยับ ให้ตายเหอะ มีสักนาทีมั้ยเนี่ยที่ในหัวไอ้บ้านี่จะไม่คิดอกุศลน่ะ ดูแต่ล่ะอย่างที่มันอาสาตัวสิ
“เปล่า ฉันจะให้นายตามมาร์คไปขนกระเป๋าของฟางต่างหาก พวกนายก็ด้วยนะ กั้ง จองเบ”
“โห่ หัวหน้า ทำไมใจร้ายกับผมงี้อ่ะ ให้คนหล่ออย่างผมไปขนกระเป๋า แล้วปล่อยให้คนไม่หล่ออย่างเฮียพิชไปกับคนสวยอย่างเจ๊ฟาง ไม่แฟร์เลยอ่ะ” ธามไทเริ่มงอแงเหมือนเด็กๆ เห็นแล้วแอบสงสัย นี่ผู้หญิงโรงเรียนฉันมันสิ้นคิดไปหลงปลื้มไอ้คนปัญญาอ่อนแบบนี้ได้ไงวะเนี่ย
“เออ ไอ้คนหล่อ หล่อเว่อร์จนไม่อยากจะบรรยาย แกรีบไปให้ไกลๆเลยนะ ก่อนที่ฉันจะเตะแก” พิชชี่ที่ยืนอยู่ข้างฉัน (ตั้งแต่เมื่อไหร่?) พูดขึ้นอย่างทีเล่นทีจริงๆ แต่อีตาธามกลับยกยิ้มอย่างล้อๆ
“โห่เฮีย ต่อหน้าสาวแล้วเก๊กจัง”
“ไอ้ธาม” พิชชี่ถลาเข้าไปจะเตะธามไท แต่แหม น่าเสียดายจังที่หมอนั่นหลบทัน คนหรือลิงวะเนี่ย เร็วจริง
“คนอายุเยอะแล้วก็งี้แหละน่า ทำอะไรชักช้ายืดยาด” อีตาธามยังเล่นไม่เลิก ฉันหันไปมองพิชชี่ เห็นหมอนั่นส่ายหัวพลางยิ้มน้อยๆ ไม่มีร่องรอยความโกรธหรือโมโหเลยแม้แต่สักนิด เป็นฉันหน่อยไม่ได้ ถ้ามีรุ่นน้องมาลามปามฉันแบบนี้นะ ป่านนี้ได้โดนแม่จับไปเต้นอะโกโก้กลางสนามไปตั้งนานแล้ว
“แกนั่นแหละไอ้ธามที่ชักช้ายืดยาด เล่นอยู่ได้ ไปเอากระเป๋าให้พี่ฟางได้แล้วไป” กุ้งพูดก่อนจะจัดการล็อคคอธามไทแล้วจะลากออกไป แต่หมอนั่นขืนตัวไว้
“เดี๋ยวดิไอ้กั้ง” เขาท้วงก่อนจะหันหน้ามาทางเมโลดี้
“แล้วหัวหน้าจะไม่ให้เฮียป๊อปช่วยอะไรเลยเหรอไง แบบนี้มันกินแรงกันนี่นา” ฉันหันไปมองคนถูกพาดพิงที่ยังไม่พูดอะไรออกมาสักคำตั้งแต่เดินเข้ามาในห้อง เห็นหมอนั่นมองหน้าธามไทอยู่ แต่จู่ๆเขาก็ตวัดสายตาคมกริบนั่นมองมาทางฉัน เล่นเอาฉันสะดุ้ง หลบสายตาแทบไม่ทัน ไม่ได้กลัวนะเฟ้ย แค่ไม่อยากจ้องตากับหมอนั่นเฉยๆ
“อยากให้หมอนั่นช่วย นายก็ไปพูดเอาเองดิ มีปากไม่ใช่เหรอไง” เมโลดี้ย้อน ทำเอาธามไทหน้าเบ้ ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ไอ้หมีลามกแทน
“ไปช่วยกันเลยเฮียป๊อป เมื่อกี้ตอนพาเจ๊ฟางเดินทัวร์โรงเรียน เฮียก็ไม่ช่วยไปทีนึงแล้ว”
“มันไม่ใช่ธุระอะไรของฉันสักหน่อย แกอยากทำก็ทำไปเองสิ” อีตานั่นพูดก่อนจะเดินออกจากห้องไป หนอย! ไอ้... ไอ้หมีลามก ไอ้คนแล้งน้ำใจ ไอ้หมีขี้เก๊ก ฮึ่ย!!! โมโหหงุดหงิดเว้ย!
“ไปได้แล้วไอ้ธาม” กั้งเดินมาลากธามไทไปอีกรอบ และหมอนั่นก็ร้องโวยวายอีกตามเคย สงสัยจะชอบเสียงดังแฮะ ตะโกนซะลั่นเลย
“เฮ้ยๆเดี๋ยวดิ” หมอนั่นยังคงขืนตัวไว้ แต่คราวนี้ไม่สำเร็จเพราะดูเหมือนกั้งจะมีแรงมากกว่า แถมมีจองเบมาช่วยอีกแรง อีตาธามก็เลยถูกลากออกไปนอกห้องในที่สุด แต่ก็ไม่วายเกาะประตูไว้แน่นพร้อมส่งประโยคชวนอ้วกมาให้ฉันอีกต่างหาก
“เจ๊ฟาง เดี๋ยวผมมานะฮะ ห่างกันแค่ 10 นาทีอย่าพึ่งใจร้อนคิดถึงผมนะ รับรองผมจะรีบไปหาถึงห้อง ไม่ให้เจ๊รอนานแน่นอน เฮ้ย บอกว่าอย่าลากไงวะ ปล่อยดิ” อี๋~~~ เลี่ยนมั้ยล่ะ ฟังอีตานี่พูดทีไรทำเอาฉันขนลุกทุกทีเลย บรึ่ยยยย
“กว่าจะไปกันได้” เมโลดี้พูดอย่างระอา ฉันอมยิ้ม เพราะถึงเธอจะแสดงท่าทีว่าเบื่อหน่าย The Prince แค่ไหน แต่ฉันก็รู้ว่าเธอสนุกและมีความสุขกับการได้ดูแลเจ้าลิงพวกนี้เอามากๆ ปากแข็งเหมือนมาร์คัสเลยแฮะ ชอบนักล่ะ ไอ้รักนะแต่ไม่แสดงออกนี่น่ะ
“ฟาง”
เมื่อได้ยินเสียงเมโลดี้เรียกนั่นแหละฉันถึงได้เงยหน้าขึ้น หลังจากก้มหน้าลงไปยิ้มอยู่นาน
“คะพี่เมย์”
“พี่เองก็ต้องไปมหาลัยแล้วล่ะ ฟางอยู่ได้ใช่มั้ยจ๊ะ”
“สบายมากค่ะพี่เมย์ ไม่ต้องเป็นห่วง” ฉันตอบพลางส่งยิ้มไปให้เป็นการยืนยันอีกที
“แบบนี้พี่ค่อยสบายใจหน่อย ถ้ามีปัญหาอะไรหรือโดนเจ้าพวกนั้นแกล้ง โทรบอกพี่ได้เลยนะ เบอร์โทรศัพท์พี่พวกเขามีกันทุกคนอยู่แล้ว เอาที่พิชชี่ก็ได้”
“ค่ะ”
“ดีมาก งั้นพี่ไปก่อนจะจ๊ะเจ้าหญิง เดี๋ยวพี่จะแวะมาหาบ่อยๆ” เมโลดี้เดินมากอดฉันก่อนจะเดินไปที่ประตู
“ไว้เจอกันนะคะพี่เมย์” ฉันโบกมือให้เมโลดี้อีกที เธอยิ้มรับ ก่อนที่ร่างของเธอจะหายลับไปจากสายตาฉัน
“เราไปกันเลยมั้ยฟาง” พิชชี่พูดขึ้นเล่นเอาฉันถึงกับสะดุ้ง เหลียวมองไปรอบๆจึงได้รู้ว่า ในห้องนี้ยังเหลือฉันกับเขาแค่สองคน
“อืม ไปสิ” ฉันพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไปพร้อมกันกับหมอนั่น
.
.
.
.
.
“นี่คือล็อกเกอร์ของเธอนะฟาง หัวหน้าสั่งให้คนเอามาตั้งไว้ใกล้ๆกับล็อกเกอร์ของพวกเรา” พิชชี่พูดเมื่อเขาพาฉันมาหยุดอยู่ที่หน้าตู้ล็อกเกอร์ หลังจากที่เขาพาฉันเดินรอบโรงเรียนอีกรอบ พร้อมข้อมูลของโรงเรียนอย่างละเอียด เพราะคราวที่แล้วเขาไม่ได้พูดมากเท่าไหร่ มีแต่เสียงอีตาธามกับกั้งแทรกขึ้นตลอด
ดูท่าจะเป็นโซนของ The Prince จริงๆแฮะ เพราะตรงหน้าฉันมีล็อกเกอร์อยู่แค่ 6 ตู้ รวมทั้งของฉันแล้วอ่ะนะ ส่วนของนักเรียนคนอื่นๆ เห็นพิชชี่บอกว่าจะตั้งอยู่อีกมุมนึง ดูเป็นส่วนตัวดีจัง ค่อยยังชั่วหน่อย
“เปิดดูสิ” พิชชี่เอ่ยบอก ฉันทำตามเขาอย่างว่าง่าย ไม่รู้สิ แค่คิดว่าเขาหวังดีกับฉันน่ะ ฉันคง... ไม่ได้ไว้ใจคนง่ายเกินไปใช่มั้ย
“โอ้โห นี่จัดไว้ให้ครบแบบนี้เลยเหรอเนี่ย” ฉันพูดอย่างตื่นเต้นเมื่อเปิดตู้ล็อกเกอร์ของตัวเองออกดู ภายในล็อกเกอร์ถูกแบ่งออกเป็นสองชั้น ชั้นบนมีหนังสือหลายเล่มตั้งอยู่ ส่วนชั้นล่างใช้สำหรับแขวนเสื้อผ้า ซึ่งก็มีชุดพละ ที่น่าจะเป็นของเวลทีแขวนอยู่อีกสองสามชุด
“ชุดวอร์มนี่ของเวลทีเหรอพิชชี่” ฉันมองชุดพละสีน้ำเงินเข้มแถบขาวตรงหน้าด้วยแววตาสงสัย มันไม่เหมือนกับของไฮท์ฟลาวน์ที่ฉันเคยใส่หรอก ของไฮท์ฟลาวน์จะเป็นกางเกงสีดำ ส่วนเสื้อก็เป็นสีชมพู คิขุอโนเนะซะไม่มี
“ใช่แล้วล่ะ ฉันเอามาแขวนไว้ให้เผื่อว่าเธออยากจะลองใส่ชุดของเวลทีบ้างน่ะ” หมอนั่นพูด ฉันพยักหน้ารับ จริงๆชุดวอร์มของไฮท์ฟลาวน์ฉันก็เอามานะ แต่มาอยู่ที่นี่แล้วลองใส่ของเวลทีบ้างดีกว่า จะได้ไม่เสียน้ำใจคนเอามาให้ด้วย ดีม่ะ
“แล้ว... ชุดนักเรียนล่ะ พี่เมย์บอกไว้รึเปล่าว่าจะให้ฉันใส่ชุดไหน” ฉันหันหน้าไปถามพิชชี่ เห็นหมอนั่นชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะตอบ
“อืม หัวหน้าบอกว่าอนุญาตให้เธอใช้ชุดนักเรียนของไฮท์ฟลาวนด์ได้น่ะ ส่วนชุดวอร์มก็ไม่ได้บังคับนะ เธอจะใส่ชุดไหนก็ได้” ฉันพยักหน้ารับ แบบนี้ก็ดีสิ ฉันเป็นค่อยไม่ค่อยชอบกฎระเบียบอยู่ซะด้วย ว่าแต่อีตานี่เถอะ ถามแค่นี้ทำไมต้องหน้าแดงด้วยวะเนี่ย
“นี่พิชชี่ นายเป็นอะไรรึเปล่าน่ะ” ฉันถามอย่างเป็นห่วง ไม่ได้หรอก ขืนหมอนี่เป็นอะไรไปฉันก็แย่ดิ เป็นห่วงคนหล่อเนี่ยผิดนักเหรอไงฮะ
“เปล่าหนิ ทำไมเหรอ”
“ก็ดูดิ หน้านายแดงมากเลยอ่ะ ไข้ขึ้นรึเปล่าเนี่ย ไปห้องพยาบาลกันก่อนมั้ย” ฉันรีบยื่นมือไปแตะหน้าผากหมอนั่นเป็นการวัดไข้ แต่น่าแปลกที่ตัวเขาก็ไม่ได้ร้อน แต่หน้าเขาน่ะสิกลับแดงขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ลามไปถึงหูแล้วมั้งนั่น
“เฮ้ย! เปล่าๆ ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอกเธอไม่ต้องห่วง เรารีบไปที่ห้องของเธอดีกว่า ป่านนี้ไอ้ธามมันรอเหงือกแห้งแล้วมั้ง” พิชชี่พูดก่อนจะรีบเดินนำไป ทิ้งให้ฉันยืนมองอย่างงงๆ การที่ฉันเป็นห่วงเขานี่มันน่ากลัวขนาดนั้นเชียว? ไม่เห็นต้องรีบเดินหนีกันแบบนั้นก็ได้ น่าน้อยใจชะมัด!
.
.
.
.
.
เมื่อวานไม่ได้อัพ วันนี้ก็เลยมาอัพแบบยาวๆ พร้อมกับข่าวร้ายจะมาบอก
พรุ่งนี้กวางคงไม่ได้เข้ามาอัพฟิคนะคะ
คงจะได้เจอกันอีกทีวันจันทร์เน้อ
อ่านแล้วอย่าลืมเม้นท์ด้วยนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ