The Princess I ภารกิจรักร้าย ล่าหัวใจเจ้าชายจอมกวน

9.8

เขียนโดย keang_sujittra

วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 11.52 น.

  10 chapter
  32 วิจารณ์
  17.55K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2558 22.46 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6) ตอนที่ 6 : The Prince

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

ฮือ.... ฮา....

 

เสียงซุบซิบที่ดังขึ้นทั่วอาณาบริเวณนี่มันคืออะไรกันน่ะ พอฉันลงจากรถก็เจอเข้ากับฝูงชนมากมายภายในโรงเรียน คนที่กำลังเตะบอลกันอยู่ในสนามก็พากันหยุดเล่นแล้วหันมามองฉันกับมาร์คัสแทน นี่ยังไม่นับเหล่านักเรียนที่ปกติตอนนี้ต้องนั่งเรียนอยู่ในห้องแต่กลับมายืนออกันอยู่หน้าห้องกันเต็มอาคารไปหมดอีกนะ ทั้งหมดนี่คือจะมายืนดูฉันใช่มั้ยเนี่ย!!!

 

 

 

“นะ นี่ หัวหน้า ทำไมคนที่นี่ถึงได้มองเราแปลกๆแบบนี้ล่ะคะ”

 

ฉันขยับเข้าชิดก่อนจะกระซิบถามมาร์คัส นี่ขนาดบังคับเสียงให้เป็นปกติแล้วนะเนี่ย ฉันยังรู้สึกได้เลยว่าเสียงของตัวเองสั่นขนาดไหน

 

 

 

“ไม่มีอะไรหรอกนา บางทีเขาก็แค่อยากเห็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าหญิงแห่งไฮท์ฟลาวน์ล่ะมั้ง เธอน่ะคิดมากไปเรื่อย”

 

มาร์คัสพูด แต่ทำฉันถึงได้รู้สึกว่ามันเป็นคำปลอบมากกว่าเรื่องจริงล่ะวะคะ ถ้าอยากจะเห็นหน้าพวกเราที่เป็นเจ้าหญิงก็ไปดูที่โรงเรียนก็ได้หนิเฟ้ย ไม่เห็นต้องมายืนมองกันแบบนี้เลย

 

 

 

“รีบไปกันเถอะ ป่านนี้เจ้าพวกนั้นคงรออยู่ที่ห้องแล้วล่ะ”

 

มาร์คัสพูดก่อนจะเดินนำไปทันที เล่นเอาฉันเดินตามแทบไม่ทัน ฉันทำตัวลีบเดินตามมาร์คัสโดยไม่คิดจะเหลียวมองรอบๆตัว ทั้งๆที่ยังรู้สึกได้ถึงสายตานับๆร้อยๆคู่ที่ยังคงพุ่งเป้าตรงมาที่ฉัน ผู้หญิงด้วยกันไม่เท่าไหร่ แต่สายตาของพวกผู้ชายโรงเรียนนี้เนี่ยสิ มันทำให้ฉันนึกอยากจะใส่กางเกงขาวยาวกับเสื้อแขนยาวขึ้นมาซะจริง นี่ขนาดวันนี้ฉันใส่ชุดนักเรียนมาเต็มยศ แถมด้วยเสื้อสูทของโรงเรียนสวมทับอีกที แต่สายตาของพวกนั้นกลับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเดินเปลือยล่อนจ้อนให้พวกเขาดูซะงั้น มันฟังดู...น่าขยะแขยงชะมัด

 

ว่าแต่... เจ้าพวกนั้นที่มาร์คัสพูดถึงเมื่อกี้มันคือเจ้าพวกไหนกันวะ?

 

 

 

มาร์คัสพาฉันเดินดุ่มๆเข้าไปในโรงเรียนอย่างกับเขารู้จักที่นี่ดีอย่างนั้นแหละ แอบสงสัยเหมือนกันนะเนี่ย เขาเดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูบานหนึ่ง ฉันเงยหน้าขึ้นมองป้ายที่ติดอยู่บนประตูบานใหญ่

 

 

 

The Prince

 

 

 

ฉันหันไปมองหน้ามาร์คัสอย่างงงๆ นี่เขาคงไม่ได้คิดจะให้ฉันไปสัมภาษณ์ The Prince ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเหยียบที่นี่หรอก... ใช่มั้ย?

 

 

 

“เข้าไปสิ มีคนรอพบเธออยู่”

 

มาร์คัสบอกฉันเสียงเรียบ แถมยังส่งสายตาแกมบังคับมาให้ด้วยอีกต่างหาก ฉันก็เลยต้องเปิดประตูเข้าไปอย่างช่วยไม่ได้ ถ้าเกิดมีคนดักยิงฉันอยู่ในห้องนี่ล่ะก็ ฉันจะตามหลอกหลอนนายคนแรกเลยมาร์คัส

 

 

 

ทันทีที่ฉันเปิดประตูเข้าไปในห้อง สายตาทุกคู่ก็พุ่งตรงมาที่ฉันทันที บรรยากาศเหมือนตอนฉันเข้าประชุมสายเมื่อครั้งที่แล้วเลยแฮะ ต่างกันตรงที่จำนวนคนในห้องน้อยกว่า และสายตาที่มองมาให้ความรู้สึกที่แตกต่าง มันไม่ใช่สายตาตำหนิเหมือนที่เคยได้รับจากมาร์คัสและยัยมนิลาในครั้งนั้น แต่มันเป็นสายตาที่แฝงไปด้วยความสงสัยระคนอยากรู้จากสมาชิก 6 คนในห้องนี้ต่างหาก

 

 

 

ภายในห้องก็มีลักษณะเหมือนห้องประชุมทั่วไป แบ่งออกเป็นสองฝั่ง ทั้งสองฝั่งมีคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ฝั่งหนึ่งเป็นร่างของผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง ส่วนอีกฝั่งก็เป็นร่างสูงของผู้ชายห้าคนที่นั่งอยู่ สีแดงเข้มของเนคไทบวกกับเข็มกลัดสีทองรูปตัว P ที่แปะอยู่บ่งบอกฐานะของทั้ง 5 คนนี้ได้เป็นอย่างดีว่าพวกเขาคือ The Prince!!!

 

 

 

ฉันรีบส่งรอยยิ้มไปเป็นทัพหน้าเพื่อสร้างความเป็นมิตร แล้วก็ใจชื้นขึ้นนิดหน่อยเมื่อได้รับรอยยิ้มตอบกลับมา ดูท่าทางแล้วพวกเขาก็ไม่ได้ดูเลวร้ายเหมือนที่ยัยพวกเจ้าหญิงเล่าให้ฟังสักหน่อย ยกเว้นก็แค่อีตาคนที่นั่งอยู่หัวแถวนั่นแหละ ยิ้มให้ก็ไม่ยิ้มตอบ แถมยังมาทำหน้านิ่งใส่อีก ฉันเลยเชิดใส่ให้แทนรอยยิ้ม นี่ฉันต้องมาเจอกับคนตายด้านแบบนี้อีกแล้วเหรอเนี่ย

 

 

 

“มาแล้วเหรอเจ้าหญิง นั่งก่อนสิ”

 

ผู้หญิงหนึ่งเดียวในห้องหันมาพูดกับฉันด้วยรอยยิ้ม ฉันยิ้มตอบก่อนจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้ข้างๆเธอ ตามมาด้วยมาร์คัสที่นั่งลงข้างๆฉันอีกที

 

 

 

เดาได้ว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นรุ่นพี่ของฉัน สังเกตได้จากยูนิฟอร์มที่เธอใส่เป็นของมหาลัยเดียวกันกับที่มาร์คัสเรียนอยู่ เธอน่าจะรุ่นเดียวกับมาร์คัสหรือไม่ก็เด็กกว่าหนึ่งปี เพราะตอนนี้มาร์คัสเรียนอยู่ปี 2 ล่ะ

 

 

 

“ยินดีต้อนรับเข้าสู่เวลทีจ้ะเจ้าหญิงฟาง ฉันชื่อเมโลดี้ หรือจะเรียกสั้นๆว่าเมย์ก็ได้ ทำหน้าที่เดียวกับมาร์คัสคือการดูแลเจ้าลูกลิงทั้งห้าตัวนี่”

 

ผู้หญิงที่ฉันพึ่งจะรู้จักว่าชื่อเมโลดี้แนะนำตัว พลางปรายตามองเหล่า ลูกลิง ทั้งห้าตัวที่เธอพูดถึงด้วยแววตาขบขัน ฉันมองตามแล้วแทบจะกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ เมื่อเห็นลูกลิงที่ว่าทำหน้าบูดหน้าบึ้งอย่างไม่ค่อยพอใจกับสรรพนามที่โดนเมโลดี้เรียกเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีใครแย้งอะไรออกมา

 

 

 

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฟางขอเรียกรุ่นพี่ว่าพี่เมย์ก็แล้วกันนะคะ”

 

ฉันพูดพลางก้มหัวให้น้อยๆ เมโลดี้ยิ้มเหมือนจะถูกชะตากับฉันไม่น้อย ก่อนที่เธอจะหันไปทางเหล่า The Prince ที่ยังคงนั่งหน้าบูดกันอยู่เหมือนเดิม

 

 

 

“ส่วนนี่ก็คือฟาง เป็นตัวแทนเจ้าหญิงจากไฮท์ฟลาวน์ที่จะมาเก็บประวัติพวกนาย รู้จักกันไว้สิ”

 

พอเมโลดี้พูดจบ ทั้งสี่คน (ยกเว้นอีกตาขี้เก๊กนั่นอ่ะนะ) ก็หันมามองหน้ากัน ก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้ฉันอีกที

 

 

 

“หวัดดีครับเจ้าหญิง ผมชื่อธามไท หรือจะเรียกสั้นๆว่าธามก็ได้ฮะ มีเรื่องอะไรจะให้ผมช่วยก็บอกได้นะฮะ ผมยินดีให้ความช่วยเหลือทุกอย่างเลยครับคนสวย”

 

ผู้ชายคนที่สองที่นั่งถัดจากอีตาขี้เก๊กแนะนำตัวขึ้นเป็นคนแรก และเพราะเขาดันนั่งตรงกันกับฉัน สายตาระยิบระยับแพรวพราวนั่นก็เลยถูกส่งมาหาฉันแบบเต็มๆ โอเค! หมอนี่ชื่อธามไทใช่มั้ย ฉันจะจดชื่อหมอนี่ไว้ในแบล็กลิสของฉันในสาขาผู้ชายเจ้าชู้ที่น่าอันตราย ถ้าเผลอเมื่อไหร่แม่จะจับควักลูกตาแพรวราวนั่นมาเตะเล่นให้ดู!!

 

 

 

“น้อยๆหน่อยธาม ฟางเค้าเป็นรุ่นพี่นายปีนึงนะจะบอกให้ เคารพหน่อยก็ดี”

 

เมโลดี้พูดขึ้น และมันก็ทำให้ฉันรู้ว่าหมอนี่อยู่ ม.5 และก็เป็นรุ่นน้องฉันซะด้วย แต่คำพูดคำจานายเหมือนจะให้ความเคารพฉันมากเลยนะเนี่ย -*-

 

ธามไทหันไปมองหน้าเมโลดี้ก่อนจะหันกลับมามองหน้าฉันแล้วยิ้มให้อย่างหว่านเสน่ห์ นายจะยิ้มเพื่อ? คิดว่าฉันจะหลงเสน่ห์รอยยิ้มกวนประสาทนั่นของนายเหรอไง???

 

 

 

“ขอโทษทีครับเจ๊ พอดีเจ๊หน้าเด็กมากเลยอ่ะ ผมก็เลยกะอายุผิดไปหน่อย แล้วไอ้ผมมันก็เป็นโรคแปลก ชอบคนที่อายุมากกว่า เจ๊สนใจจะมานั่งอยู่ในหัวใจผมมั้ยครับ หัวใจผมยังว่างอยู่นะ”

 

ประโยคนั้นทำเอาฉันถึงกับเหวอ ไอ้เด็กบ้านี่มันเรียกฉันว่าเจ๊งั้นเหรอ!!!>O< ฉันไปเป็นญาติฝ่ายไหนของแกยะ แถมยังมาพูดจาบ้าๆด้วยประโยคชวนอ้วกนั่นอีก กรี๊ดดดด!!!! ฟางอยากกลับบ้าน แงๆๆ TOT

 

 

 

“เงียบปากของแกไปได้แล้วไอ้ธาม ดูสิเนี่ย พี่เค้าหน้าเหวอหมดแล้ว”

 

ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆอีตาธามพูดขึ้นบ้าง ฉันตวัดสายตาไปมองอีตานั่น ก่อนจะตาอ่อนลงเมื่อเห็นว่าเจ้าของผมสีน้ำตาลเข้มและแว่นตากรอบเหลี่ยมไม่ได้มีเจตนาจะกวนฉันเหมือนอีตาธาม โอเค เป็นมิตรเข้าไว้ฟาง

 

 

 

“ผมชื่อกั้ง ยินดีที่ได้รู้จักฮะพี่สาว”

 

หมอนี่ก็คงเป็นรุ่นน้องฉันอีกคนสินะ และดูท่าจะเป็นเพื่อนซี้กับอีกตาธามซะด้วย ฉันส่งยิ้มให้เขา อย่างน้อยอีตานี่ก็ไม่ได้มีท่าทางเลวร้ายอะไรล่ะนะ

 

 

 

“หวัดดี ฉันชื่อพิชชี่ ยินดีที่ได้รู้จักนะฟาง”

 

 

 

“ส่วนฉัน จองเบ ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกัน”

 

สองหนุ่มที่นั่งอยู่ปลายแถวหันมาแนะนำตัวกับฉัน คนสุดท้ายดูเหมือนสำนวนของเขาจะฟังดูแปร่งๆหูพิกล แถมชื่อก็ยังแปลกอีกต่างหาก ฉันก็เลยเดาไว้ก่อนว่าเขาน่าจะเป็นลูกครึ่ง... ล่ะมั้งนะ

 

 

 

“จองเบเป็นคนเกาหลีน่ะ เขาก็เลยพูดไทยไม่ค่อยชัดเท่าไหร่”

 

เป็นร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างจองเบเป็นคนตอบคำถามความคิดฉันแทน ถ้าจำไม่ผิด เมื่อกี้เขาบอกว่าเขาชื่อ พิชชี่ รึเปล่านะ

 

 

 

“อ๋อเหรอ” ฉันส่งยิ้มแห้งๆไปให้ทุกคน

 

“ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกันนะทุกคน ฉันจะมาอยู่ที่นี่ 2 เดือน ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ”  

 

ฉันก้มหัวให้ แต่ก็อดไม่ได้ที่มองไปทางหัวโต๊ะฝ่ายตรงข้าม อีตาขี้เก๊กนั่นไม่คิดจะพูดกับฉันเลยเหรอไงเนี่ย ตั้งแต่เข้ามาในห้องนี้ฉันยังไม่ได้ยินเสียงเขาพูดเลยนะ

 

 

 

“เฮ้! เฮีย ไม่คิดจะแนะนำตัวให้เจ้าหญิงรู้จักหน่อยเหรอไง นั่งนิ่งอยู่นั่นแหละ”  

 

แล้วก็เป็นอีตาธามที่หันไปสะกิดอีตานั่น ถามจริง! นี่หมอนั่นชื่อเฮียเหรอเนี่ย พ่อแม่ช่างตั้งชื่อเนอะ น่าขำชะมัด

 

 

 

“ไม่อ่ะ ไม่มีอารมณ์”

 

และนั่นก็เป็นประโยคแรกและประโยคสุดท้ายที่ฉันได้ยินจากเขา เพราะทันทีที่พูดจบเขาก็เดินหนีออกจากห้องไปทันที ฉันหันไปมองหน้าเมโลดี้อย่างงงๆ เพราะไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิด ฉันเห็นนะ เมื่อกี้ก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้อง หมอนั่นยังไม่วายส่งสายตารำคาญมาให้ฉันอีกต่างหาก คือ... ฉันพึ่งมาเหยียบโรงเรียนนี้เป็นครั้งแรกนะ ทำท่าอย่างกับฉันไปฆ่าต้นตระกูลนายอย่างนั้นแหละ ไอ้เฮีย

 

 

 

“อย่าไปสนใจเลยฟาง หมอนั่นก็เป็นแบบนี้แหละ โลกส่วนตัวสูงน่ะ”

 

เมโลดี้หันมาบอกฉันเมื่อเห็นว่าสีหน้าฉันดูแปลกๆไป เอาจริงๆมั้ย? ที่จริงฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรอย่างที่เมโลดี้คิดหรอกนะ แต่ที่ฉันทำหน้าแปลกๆก็เพราะกำลังคิดแผนจะเอาคืนไอ้ขี้เก๊กนั่นอยู่ต่างหาก คอยดูเถอะ แล้วหมอนั่นจะได้รู้ว่าการเมินใส่เจ้าหญิงฟางคนนี้มันไม่ใช่คนที่สติดีอยากจะทำ!!!

 

 

 

“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่จะให้เจ้าพวกนี้พาฟางเดินเที่ยวรอบๆโรงเรียนก็แล้วกันนะ โอเคมั้ย?”

 

เมโลดี้หันมาถามฉัน ฉันเองก็พยักหน้ารับก่อนจะถามกลับ

 

 

 

“แล้วพี่เมย์ไม่ไปด้วยกันเหรอคะ”

 

นั่นสิ ใจคอจะปล่อยให้ฉันไปกับพวกเจ้าลิงบ้านี่จริงๆเหรอ ถ้าพวกเขานึกอยากจะจับคนสวยอย่างฉันหักคอขึ้นมาจะทำยังไง ฉันยังไม่อยากตายทั้งๆที่ยังไม่มีแฟนหรอกนะจะบอกให้ >_<

 

 

 

“ขอบายจ้ะ พอดีพี่มีเรื่องจะคุยกับมาร์คนิดหน่อยน่ะ”

 

 

 

“มาร์คเหรอคะ?” ฉันทวนคำอย่างงงๆ เผลอหันไปมองหน้ามาร์คัสโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่แค่เห็นหมอนั่นยิ้มฉันก็พอจะรู้อะไรๆแล้วล่ะ รู้จักกันมาตั้งหลายปี ไม่ยักรู้แฮะว่ามาร์คัสมีชื่อเล่นว่ามาร์ค

 

 

 

“ไปเถอะครับพี่สาว เดี๋ยวพวกผมพาทัวร์โรงเรียนเอง” ผู้ชายที่ฉันจำได้ว่าชื่อกั้งพูดขึ้นอย่างขี้เล่น ฉันหันไปมองหน้ามาร์คัสอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปพร้อมเจ้าพวกนั้น ฉันรู้แล้วล่ะ สิ่งที่ฉันถามเขาตอนอยู่บนรถตู้น่ะ...

 

นายมีแฟนรึเปล่าน่ะ มาร์คัส

 

 

 

“เจ๊อยากไปที่ไหนก่อนล่ะฮะ” อีตาธามถามขึ้น ฉันหันไปมองตาขุ่น นี่มันไม่คิดจะเคารพฉันในฐานะรุ่นพี่เลยใช่มั้ยเนี่ย -*-

 

 

 

“จะว่าไปฟางก็พึ่งมาที่นี่ครั้งแรก คงจะยังไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับโรงเรียนนี้ งั้นเดี๋ยวพวกเราพาทัวร์เองเลยก็แล้วกัน”

 

พิชชี่พูดขึ้น ฉันพยักหน้าหงึกหงักอย่างไม่คิดโต้แย้ง ก็ลองขัดขึ้นมาสิ มิตรภาพของฉันที่มีแค่สี่คนในโรงเรียนแห่งนี้มีหวังได้ขาดสะบั้นลงแหงๆ

 

 

 

หลังจากนั้นพวกลูกลิง เอ้ย! เจ้าชายทั้งสี่คนก็พาฉันเดินไปโน่นไปนี่อย่างสนุกสนาน ตั้งแต่เดินตระเวนดูห้องเรียนของแต่ละชั้น เรื่อยไปจนถึงห้องสภานักเรียนและห้องชมรมต่างๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่สถานที่โปรดของฉัน... โรงอาหาร

 

 

 

ตลอดทางที่เดินมาไม่เคยมีสักวินาทีเลยที่จะเงียบ สาเหตุก็มาจากธามไทกับกั้งที่เดินเถียงกันได้ตลอดเวลา เรื่องหลักๆที่เถียงกันก็เรื่องของฉันนี่แหละ เป็นต้นว่า ฉันชอบเรียนอะไร อยากเข้าชมรมไหน สเปคผู้ชายเป็นยังไง จนกระทั่งตอนนี้พวกเราอยู่ในโรงอาหาร พวกมันก็ยังเถียงกันไม่จบเลย ด้วยหัวข้อที่ว่า ฉันชอบกินอะไร -_-*

 

 

 

“เมื่อไหร่พวกนายจะเลิกเถียงกันสักที รำคาญ”

 

น้ำเสียงแปร่งๆหูของจองเบดังขึ้นขัดจังหวะการเถียงกันของธามไทและกั้ง ตลอดทางที่เดินมาด้วยกันเขายังไม่พูดอะไรสักคำเลยนะ แต่ต้องมาบ่นใส่ไอ้พวกนี้ สงสัยจะรำคาญมากจริงๆ แล้วนี่พิชชี่หายไปไหนแล้วล่ะเนี่ย จะให้มาช่วยห้ามสงครามน้ำลายของอีตาธามกับกั้งซะหน่อย ดูท่าแล้วแค่จองเบคนเดียวจะไม่ไหว

 

ฉันลุกขึ้นเหลียวซ้ายมองขวา ก่อนสายตาจะปะทะเข้ากับร่างสูงของใครบางคน เปล่า ไม่ใช่พิชชี่หรอก แต่เป็นอีตาขี้เก๊กนั่นต่างหาก เขากำลังเดินผ่านหน้าโรงอาหารไปพอดี เอาวะ! ยังไงก็ไม่มีทางเลือกนี่หว่า ขืนปล่อยให้ไอ้สองคนนี้เถียงกันต่อไปโดยมีจองเบเป็นคนห้ามล่ะก็ เส้นอารมณ์ฉันคงขาดผึง มีหวังได้ฆ่าเจ้าพวกนี้ตายก่อนจะสัมภาษณ์เสร็จแน่

 

 

“นี่นาย รอเดี๋ยวก่อน”

.

.

.

.

.

มาอัพแล้วฮะ

เห็นว่ามีคนงงเรื่องคู่กันนิดหน่อย วันนี้กวางก็เลยจะมาอธิบายให้ฟังค่ะ

เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในเซต The Princess นะคะ

เป็นเรื่องของป๊อปฟางล้วนๆเลย เอาใจแฟนคลับหมีกระต่ายซะหน่อย

ส่วนเรื่องของคนอื่นๆ ก็จะทยอยกันตามมาทีหลัง

คู่ของเฟย์กับแก้ว ก็ต้องคู่กับคู่จิ้นตลอดกาลอย่าง เขื่อนกับโทโมะแน่นอน

ส่วนคู่ของแต๊งกิ้วกับมายด์ ก็คงจะพอเดากันออกแล้วนะคะว่าคู่กับใคร

ไม่งงกันแล้วเน้อออ ถ้าใครมีข้อสงสัยอะไรอีกก็ถามกันมาได้นะคะ

เดี๋ยวกวางจะมาตอบให้แน่นอน ฉีดยาแล้ว ไม่กัดค่ะ 555+

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา