The Princess I ภารกิจรักร้าย ล่าหัวใจเจ้าชายจอมกวน
9.8
เขียนโดย keang_sujittra
วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 11.52 น.
10 chapter
32 วิจารณ์
17.57K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2558 22.46 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
10) ตอนที่ 10 : สงครามกลางห้อง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ผมส่งพี่แค่นี้นะฮะ” กั้งพูด เมื่อเขาพร้อมด้วยธามไทและจองเบพาฉันมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องๆหนึ่ง ฉันเงยหน้าขึ้นมองป้ายที่ติดอยู่เหนือประตู... ม.6 ห้อง A ห้องเดียวกับฉันตอนที่อยู่ไฮท์ฟลาวน์เลยแฮะ
“อืม ขอบใจมากนะที่อุตส่าห์พามาส่งถึงห้องเลย” ฉันส่งยิ้มให้ทั้งสามคน
“ไม่เป็นไรครับ แค่อย่าเอาสเปรย์พริกไทยนั่นฉีดใส่ตาผมเหมือนพี่พิชก็พอ” กั้งแหย่ยิ้มๆ จนฉันเผลอหลุดหัวเราะออกมา อยู่กับเจ้าพวกนี้ก็สบายใจดีเหมือนกันนะ ถึงจะชอบกวนประสาทไปหน่อยแต่ก็สนุกดี
“เจ๊ฟาง ผมขอเข้าไปนั่งเรียนกับเจ๊ด้วยได้รึเปล่าเนี่ย?” นี่ถ้านายไม่พูดขึ้นมา ฉันคงจะนึกว่านายลืมพาปากมาด้วยแล้วนะธาม บทจะเงียบก็เงียบซะ พอบทจะพูดก็พูดซะ....
“แกจะบ้าเหรอไง นี่มันห้องม.6 นะเว้ย แกจะเข้าไปเรียนได้ไง” กั้งพูด ฉันพยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วย หมอนี่ชอบคิดอะไรเป็นเด็กๆอยู่เรื่อยเลย
“ก็อยากอยู่ใกล้ๆเจ๊ฟางง่ะ” ธามไทเอนหัวลงซบกับไหล่ฉันเบาๆ นั่นแหละฉันถึงรู้ว่าอีตานี่สูงกว่าฉันอยู่ไม่ใช่น้อยเลย ฉันไม่ได้เตี้ยนะ แค่เป็นผู้หญิงไซต์มินิเท่านั้นเอง ยัยแต๊งเตี้ยกว่าฉันเยอะ
“ปล่อยเลยธาม” ฉันจิ้มหน้าผากเขาเบาๆ ให้เขายกหัวออกจากไหล่ฉัน ยอมรับว่าหน้าแกหล่อ แต่ถ้าลามปามมากนักแม่ก็ตบหน้าคว่ำได้เหมือนกันนะจะบอกให้
“ใจร้าย”
“ถ้างั้นพวกผมขอตัวไปเรียนก่อนนะฮะพี่ฟาง” กั้งพูด ก่อนจะดึงคอเสื้ออีตาธามให้ออกห่างจากฉัน
“ไม่เอา ฉันจะอยู่กับเจ๊ฟางก่อน” ธามไทส่งเสียงโวยทันที แต่ก็ใช่ว่ากั้งจะสน
“เดี๋ยวตอนเย็นพวกผมมารับนะฮะ” เขาหันมาพูดกับฉันเป็นประโยคสุดท้ายก่อนจะลากร่างอีตาธามออกไปทันที ฉันมองตามแล้วหลุดยิ้ม สองคนนั่นเล่นกันเหมือนเด็กแน่ะ
“เข้าห้องเถอะเจ้าหญิง” เสียงทุ้มของจองเบที่ดังขึ้นใกล้ๆเล่นเอาฉันสะดุ้ง พึ่งนึกได้ว่านอกจากตัวเองแล้วยังเหลือเขาอีกคน ก็นายจะเงียบให้ได้โล่ทำไมเล่า!!
“เอ่อ อืม” ฉันพยักหน้ารับ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับลูกบิด สู้ๆไว้สิฟาง เรื่องแค่นี้เอง สบายๆสำหรับเธออยู่แล้วล่ะนา จะกลัวอะไรนัก ก็แค่โรงเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ๆ มิตรภาพใหม่ๆ... รึเปล่า?
“ฉันอยู่ห้องข้างๆนี่แหละ ถ้ามีปัญหาอะไรก็มาหาฉันได้นะ” เหมือนจองเบจะรู้ว่าฉันรู้สึกยังไง เขาจึงหันมาบอกฉันอีกครั้งพร้อมส่งยิ้มบางๆให้ ว้าว~~~ นายยิ้มแล้วโคตรหล่อเลยอ่ะจองเบ
“อืม ขอบใจมากนะ” ฉันส่งยิ้มให้เขาอย่างน่ารักก่อนที่เขาจะเปิดประตูเข้าห้องตัวเองไป ฉันหันกลับมามองประตูห้องตัวเองแล้วแอบปาดเหงื่อ จะไหวมั้ยเนี่ยยัยฟาง
“เพื่อศักดิ์ศรีเจ้าหญิง สู้!” ฉันพึมพำให้กำลังใจตัวเองเบาๆ พลางสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเปิดประตูเข้าไปทันที
แกร็ก~~~
~~~ซ่า~~~
โครม~~~
.........
......
...
..
.
สงสัยกันมั้ยว่าเสียงอะไร อ่านต่อไปสิ เดี๋ยวรู้เลย
แกร็ก~~~~~~~~~ เสียงฉันเปิดประตู
ซ่า~~~~~~~~~~~~ เสียงน้ำในถังที่ไม่รู้ใครมันบ้าพิเรนทร์เอาไปวางไว้บนประตู พอฉันเปิดประตูเข้าไปมันก็หล่นลงมาน่ะเซ่!!! ดีหน่อยก็ที่ฉันหลบทันเนี่ยแหละ
โครม~~~~~~~~~ ส่วนเสียงสุดท้าย เป็นเสียงถังน้ำเจ้าปัญหาที่กระเด็นไปนอนเอ้งเม้งอยู่กลางห้อง ด้วยฝีมือเทควันโดสายดำของฉันเอง ใครมันคิดจะแกล้งฉันฟ้ะ
ฉันตวัดสายตาไปมองคนในห้องด้วยสายตาเคืองๆนิดหน่อย ถ้าเมื่อกี้ฉันหลบไม่ทัน มีหวังได้เปียกมะล่อกมะแล่กเป็นลูกแมวตกน้ำแหงๆ แถมไม่รู้ว่าน้ำในถังนั่นเป็นน้ำล้างอะไรต่อมิอะไรมาอีก เหม็นหึ่งเชียว
“เฮ้ย! เจ๋งว่ะ” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นเป็นเสียงแรก จับทิศทางได้อ่ะนะ แต่ไม่รู้ว่าคนไหน ในห้องนี้มีเด็กอยู่ประมาณ 40 กว่าคนได้ ไม่มากเลยใช่มั้ยล่ะ
“เอ่อ หวัดดี” ฉันเอ่ยทัก เพราะโดนทุกคนในห้องจ้องมาประมาณเกือบห้านาทีได้แล้ว ไม่คิดจะทักคนมาใหม่อย่างฉันบ้างเลยเหรอไงวะ มัวแต่จ้องกันอยู่ได้ นี่ถ้าฉันท้องจะหาพ่อของลูกได้มั้ยวะเนี่ย
“........” อ้าว! อุตส่าห์เป็นฝ่ายทักก่อนแล้วนะเนี่ย ยังจะเงียบกันอีก เป็นใบ้กันหมดห้องเหรอไง หรือว่าพูดด้วยแค่นี้แล้วทำหยิ่ง ตกลงเด็กโรงเรียนนี้มันนิสัยแบบนี้กันเองเหรอเนี่ย
“เธอ...” ฉันหันไปมองที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงคนมาใหม่ ที่แท้ก็อาจารย์นี่เอง นึกว่า....
อาจารย์ที่รุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของฉันใช้สายตากวาดมองร่างฉันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แล้วลากจากปลายเท้าขึ้นมาที่ศีรษะอีกที ก่อนจะขยับแว่นที่ใส่อยู่ให้เข้าที่
“เจ้าหญิง” อาจารย์ท่านนั้นเรียกฉัน ตกลงที่มองนี่คือจะสแกนว่าฉันคือเจ้าหญิงตัวจริงรึเปล่าใช่ม่ะ
“ค่ะอาจารย์” ฉันยกมือไหว้อย่างมีมารยาท แต่แอบกังวลหน่อยๆ เมื่อกี้อาจารย์จะเห็นตอนฉันเตะถังน้ำรึเปล่าวะ ขืนมาร์คัสรู้เรื่องนี้มีหวังฉันโดนเฉ่งเละแน่ๆ เรื่องทำตัวไม่เหมาะสม
“มีเรื่องอะไรรึเปล่า ทำไมสภาพห้องถึงได้เป็นแบบนี้ล่ะ” อาจารย์ท่านนั้นเอ่ยถามพลางกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง ฉันหันไปมองบ้าง เห็นเด็กในห้องหลบตากันวูบก็เลยรู้ได้โดยอัตโนมัติว่า อาจารย์ท่านนี้ต้องโหดซุปเปอร์โหดแน่ๆ หุหุ แกล้งกลับดีมั้ยวะเนี่ย
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะอาจารย์ อุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะค่ะ” ฉับรีบบอก ถึงแม้จะคันปากอยากฟ้องมากก็เหอะ แต่ฉันยังไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนร่วมห้องนี่นา อาจารย์พยักหน้ารับ แม้สีหน้าจะบอกว่าไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูดก็ตาม
“ครูชื่อ กมลา เป็นครูประจำชั้นของห้องนี้ ถ้าเธอมีปัญหาอะไรก็มาบอกครูได้นะ” โอ้โห กมลา => นางงาม งามจริงๆค่ะอาจารย์
“ขอบคุณค่ะอาจารย์” ฉันยกมือไหว้อาจารย์กมลาอีกครั้งอย่างซึ้งใจ??? ถ้าฉันไปขอคำปรึกษา พี่แกจะช่วยฉันได้จริงๆใช่ม่ะ
“พุฒิภัทร ไปหาอุปกรณ์มาทำความสะอาดด้วย” อาจารย์หันไปสั่งเด็กคนหนึ่งในห้อง Oh my god! ชื่อพุฒิภัทร แต่ไหงหน้าตาถึงได้เหมือนเขียดตะปาดแบบนี้ล่ะ เสียชื่อพี่เจมส์จิของฉันหมด คนสวยเฟล!!
“ส่วนเธอเจ้าหญิง ไปหาที่นั่งได้แล้ว” อาจารย์หันมาสั่งฉันบ้าง เล่นเอาคนถูกเรียกถึงกับสะดุ้ง รู้แล้วค่าว่าโหด แต่กับคนมาใหม่อย่างฉันเนี่ยช่วยลดดีกรีความโหดลงหน่อยได้มั้ย กลัวจนฉี่จะราดอยู่แล้วเนี่ย
ว่าแต่... ฉันจะนั่งตรงไหนดีหว่า???
ตอนนี้ทุกคนในห้องจ้องมาที่ฉันเหมือนจะลุ้นว่า ฉันจะไปวางระเบิดที่โต๊ะใครอย่างนั้นแหละ อืม... เพื่อความปลอดภัยของตัวฉันเอง เพราะฉะนั้นฉันนั่งคนเดียวดีกว่า
ฉันเดินไปนั่งโต๊ะตัวที่ว่างอยู่ทันที ติดหน้าต่างซะด้วย โลเกชั่นดีชะมัด อย่างนี้ก็แอบงีบได้สบายเลยสิ เพราะข้างหน้าฉันมีพี่เบิ้มตัวเท่ายักษ์นั่งอยู่ตั้งสองคน บดบังร่างสวยใสสไลด์เดอร์ของฉันซะมิด ชัยภูมิดีม๊ากกกก
อ้อ! ห้องนี้เค้านั่งกันเป็นคู่นะ แถมแต่ล่ะคู่ก็สามัคคีกันม๊ากมาก ถ้าเป็นคู่ผู้หญิงนี่เรียกได้ว่าร่วมมือกันส่งสายตาอาฆาตกันมาแต่ไกล นี่ถ้าสายตาเกิดกลายร่างเป็นดาบได้นะ มีหวังร่างฉันคงพรุนเป็นฟองน้ำแหงๆ ส่วนพวกผู้ชายนี่.... ตาหวานเยิ้มซะจนถ้าน้ำตาไหลนี่คงเป็นน้ำเชื่อมชัวร์ๆอ่ะ วุ้ย! เด็กห้องนี้น่ากลัวชิบ!
“เอาล่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วครูขอตัวก่อนก็แล้วกัน ดูแลเพื่อนใหม่ด้วยล่ะ” พูดจบอาจารย์กมลาก็เดินออกไปจากห้องทันที ไหนบอกว่าปรึกษาได้ทุกเรื่องไง ไม่คิดจะอยู่ช่วยกันก่อนเลยเรอะ
“หวัดดีเจ้าหญิง”
นั่นไง! ไอ้ม่อคนที่ 1 มาแล้ว แต่เอ๊ะ! เขาเป็นสภานักเรียนนี่หว่า
อ้อ! ฉันลืมบอกไปอีกอย่าง ที่ไฮท์ฟลาวน์และเวลทีจะมีการแบ่งนักเรียนออกเป็น 3 ระดับ คือ นักเรียนปกติ สภานักเรียน และพวกเราเหล่าเจ้าชายเจ้าหญิง ซึ่งแต่ละระดับก็จะมีสีของชุดนักเรียนที่แตกต่างกันออกไป
อย่างเช่นที่ไฮท์ฟลาวน์ นักเรียนปกติสีของกระโปรงหรือกางเกงกับเสื้อสูทด้านนอกจะเป็นสีดำ ส่วนเนคไทจะเป็นสีชมพูซึ่งเป็นสีประจำโรงเรียน นักเรียนที่เป็นสภานักเรียนจะเปลี่ยนสีของกระโปรงหรือกางเกงเป็นสีชมพู เสื้อสูทสีดำ และเนคไทสีชมพู ส่วนเจ้าหญิงอย่างพวกฉันมันพิเศษตรงที่เป็นชุดสีแดงเข้ม ทั้งกระโปรงและเนคไท ส่วนเสื้อสูทยังเป็นสีดำ แล้วก็มีเข็มกลัดรูปมงกุฎที่สลักคำว่า Princess ไว้ด้านล่าง แปะอยู่บนปกเสื้อนักเรียนสีขาวด้วย
ส่วนที่เวลที นักเรียนปกติจะใส่กระโปรงหรือกางเกงสีน้ำเงินเข้ม สีเดียวกับเนคไทที่เป็นสีประจำโรงเรียน ส่วนเสื้อสูทด้านนอกจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน นักเรียนที่เป็นสภานักเรียนจะใส่กระโปรงหรือกางเกงสีฟ้า เนคไทกับเสื้อสูทเป็นสีเดิม ส่วน The Prince ที่ฉันขัดใจมาก ทำไมสีชุดมันต้องเหมือนกับของพวกฉันด้วยเนี่ย กางเกงและเนคไทเป็นแดงเข้ม เข็มกลัดสีทองรูปตัว P ถูกแปะไว้ที่เนคไท แถมยังใส่เสื้อสูทด้านนอกสีดำอีกด้วย อะไรมันจะเหมือนกันขนาดนั้น!
ส่วนไอ้ม่อที่นั่งจ้ออยู่ข้างๆฉัน เขาใส่กางเกงสีฟ้า นั่นแสดงว่าเขาเป็นสภานักเรียน พูดถึงสภานักเรียน ฉันยังไม่รู้จักคนที่เป็นประธานนักเรียนของโรงเรียนนี้เลยนะเนี่ย นิสัยจะเหมือนยัยมนิลารึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆแกซวยแล้วไอ้หนุ่มเอ้ย! ที่คิดจะมายุ่งกับคนที่มีปมเรื่องสภานักเรียนแบบฉัน
“หวัดดี”
“ฉันชื่อติณห์นะ ฉันเป็นประธานนักเรียนของเวลที” อ้าว! เวรแล้วไง! ไอ้ม่อ เอ้ย! นายติณห์นี่กลับกลายเป็นประธานนักเรียนไปซะได้ เอาไงต่อดีวะ
“เอ่อ อืม ยินดีที่ได้รู้จัก” ตามน้ำไปก่อนละกัน ดูแล้วเขาก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร...มั้ง
“แล้วนี่ไม่คิดจะแนะนำตัวให้ฉันรู้จักเลยเหรอไง?” ติณห์พูดยิ้มๆ แต่เล่นเอาฉันเหวอ อย่าบอกนะว่า...
“นี่นาย... ไม่รู้จักฉันงั้นเหรอ?” เฮ้ย! นี่ยังมีคนไม่รู้จัก The Princess อย่างพวกฉันอีกเหรอเนี่ย (ทีแกยังไม่รู้จัก The Prince เลยฟาง)
“ล้อเล่น ใครบ้างในโรงเรียนนี้ที่ไม่รู้จักเจ้าหญิงแห่งไฮท์ฟลาวน์ล่ะ จริงมั้ย? เจ้าหญิงฟาง”
“ก็... คงงั้นมั้ง” ฉันยิ้มฝืดๆให้หมอนั่น รู้สึกไม่ชอบใจกับสายตาแพรวพราวของคนตรงหน้ายังไงก็ไม่รู้ เขาดูเงียบๆ แต่รู้สึกจะน่าอันตรายยิ่งกว่าอีตาธามซะอีก
“ได้ข่าวว่าเธอต้องมาอยู่ที่นี่ตั้ง 2 เดือนเลยงั้นเหรอ” ติณห์ชวนคุยต่อ แต่ฉันเนี่ยสิ อยากจะร้องตะโกนให้ก้องโลก เมื่อไหร่อีตานี่จะไปไกลๆซะที่นะ ฉันไม่ชอบหน้าแกเฟ้ย!!
“อืม ใช่” แต่ฉันก็ยังต้องคุยกับเขาต่อไป บ้าจริง! ฉันไม่เคยต้องมานั่งทนอะไรแบบนี้เลยนะเนี่ย อึดอัดชะมัด!
~~กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด~~
จู่ๆ ผู้หญิงในห้องฉันก็ส่งเสียงกรี๊ดออกมาดังลั่นอย่างกับเจอนิชคุณตัวเป็นๆ เล่นเอาฉันยกมือขึ้นปิดหูแทบไม่ทัน มันหนวกหูนะเฟ้ย! จะกรี๊ดอะไรกันนักกันหนาวะ?
“เฮ้ย!!!” แต่แล้วก็เป็นฉันเองที่เกือบจะส่งเสียงกรี๊ดออกมาเหมือนกัน ถ้าไม่ปิดปากตัวเองเอาไว้ซะก่อน บ้าเอ้ย! ผู้หญิงห้องนี้ตาถั่วกันรึไงเนี่ย ถึงได้กรี๊ดหมีแทนคน เห็นคนเป็นหมี เอ้ย! เห็นหมีเป็นคนไปได้
“เป็นอะไรรึเปล่าเจ้าหญิง ทำไมอยู่ๆถึงเงียบไปล่ะ” ติณห์ถามขึ้นเล่นเอาฉันดึงสายตาจากไอ้หมีลามกที่ยืนอยู่ที่ประตูห้องกลับมาแทบไม่ทัน นี่นายยังไม่ตายอีกเหรอไงเนี่ย!
“เปล่าหรอก ไม่มีอะไร” ฉันยิ้มแหยๆให้ ก่อนจะภาวนาในใจ
สาธุ! เจ้าประคุณรุนช่อง บุญกุศลใดที่ลูกเคยทำมา ขอจงช่วยให้ลูกแคล้วคลาดปลอดภัยจากไอ้หมีโรคจิตนั่นด้วยเถิด! ขอให้พี่บิ๊กเบิ้มที่นั่งหุ่นดีออยู่ข้างหน้าฉัน ช่วยบังร่างฉันจากสายตาพิฆาตของอีตาป๊อปปี้ด้วย อย่าให้เขาเห็นฉันเลย ไม่งั้นล่ะก็... แกตายแน่ๆยัยฟาง
“คงจะไม่ว่าอะไรใช่มั้ย ถ้าฉันจะขอที่นั่งฉันคืน ประธานนักเรียน” ฉันสะดุ้งเฮือก หันไปมองหน้าเจ้าของเสียงที่สามโดยอัตโนมัติ ฉันไม่มีบุญเลยใช่มั้ยเนี่ย ทำไมไอ้หมอนี่ถึงได้เห็นง่ายนักล่ะ ฮือๆ พ่อจ๋าแม่จ๋า ช่วยฟางด้วย
“อ้อ โทษทีเจ้าชาย ฉันแค่จะมาคุยกับเด็กใหม่น่ะ” ติณห์ยิ้มก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ ไม่นะ! อย่าได้บอกฉันเชียวว่าไอ้โต๊ะที่ว่างๆอยู่ข้างฉันเนี่ย เป็นของไอ้หมีลากมกนี่ ไม่ๆๆๆ
~~~ชิ้ง~~~ เฮือก! สายตาพิฆาต
“เดี๋ยว เธอจะไปไหนน่ะเจ้าหญิง” ไอ้หมี เอ้ย! ป๊อปปี้คว้าแขนฉันที่กำลังเตรียมชิ่งหนีไว้อย่างรวดเร็ว เร็วไปมั้ยวะ! ฉันยังไม่ทันได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้เลยนะเฟ้ย!!!
“ก็จะไปนั่งตรงอื่นน่ะสิ ถามได้!” ฉันกัดฟันพูดอย่างไม่พอใจ ไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนน่าอันตรายเท่านายเลยขอบอก!
“ถ้าฉันไม่อนุญาต เธอก็ไปไหนไม่ได้” ป๊อปปี้พูดเสียงเขียว แต่เดี๋ยว! นายมีสิทธิ์อะไรเนี่ย!!
“จะบ้าเหรอไง นายไม่ใช่พ่อฉันสักหน่อย จะมาบังคับฉันได้ไง” ฉันมองหน้าหมอนั่นอย่างหาเรื่อง ก็ตอนนั้นยังไล่ฉันให้กลับโรงเรียนอยู่เลย แล้วไหงพ่อคุณถึงเปลี่ยนคำพูดได้ล่ะวะ เอ๊ย! คะ
“ไม่ใช่พ่อ แต่ฉันก็บังคับเธอได้ แล้วถ้าเธอไม่เชื่อฟังฉัน เธอเสียใจแน่เจ้าหญิง”
น่านนนนน!! ยังจะมาขู่กันอีก ฉันควรจะทำตามที่มันบอกดีมั้ยเนี่ย หน้าตาก็ออกจะดี ทำไมปากร้ายกับผู้หญิงสวยๆอย่างฉันแบบนี้ล่ะ!
“แต่ฉันจะเสียใจยิ่งกว่า ถ้าเชื่อคำพูดคนอย่างนาย!” ฉันลุกพรวดขึ้นทันทีอย่างเชื่อฟังที่เขาบอก???
ตำแหน่งเจ้าหญิงที่ฉันมี มันก็ไม่ได้น้อยหน้าตำแหน่งเจ้าชายของเขา แล้วทำไมฉันจะต้องเชื่อฟังคนอย่างหมอนี่ด้วยล่ะ แถมตั้งแต่เจอหน้ากัน หมอนี่ยังไม่เคยทำอะไรที่ถูกใจฉันเลยสักนิด แต่ถ้าขัดใจนี่ขอให้บอก เยอะ!!!
ป๊อปปี้มองฉันด้วยสายตาวาววับ ชะอุ้ย! โดนมองแบบนี้มันก็รู้สึกหนาวๆร้อนๆขึ้นมาเหมือนกันแฮะ น่ากลัว~~
“เธอจะต้องเสียใจแน่ เจ้าหญิง” หมอนั่นยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ทำเอาฉันใจหายวาบ นายคงไม่ได้คิดจะฆ่าฉันหมกโถส้วมอยู่ใช่มั้ยป๊อปปี้? ฉันยังไม่อยากตายทั้งที่ยังไม่มีแฟนแบบนี้นะ
“ว๊าย!!!” แล้วการกระทำของเขามันก็ทำให้ฉันรู้ว่า สิ่งที่ฉันคิดอยู่มันน้อยไป
หมอนั่นอาศัยจังหวะที่ฉันกำลังยืนเอ๋ออยู่ กระตุกแขนฉันที่เขาจับไว้เบาๆ แล้วมันก็ทำให้ร่างของฉันปลิวตามแรงของเขาไปในทันที ปลิวตามแรงเขาไม่เท่าไหร่ แต่มันดันปลิวไปนั่งแปะอยู่บนตักเขาเนี่ยสิ! ฟางอยากจะบ้า!!
ที่สำคัญ เสียงแปดหลอดของฉันที่กรี๊ดออกมาอย่างตกใจ มันก็เป็นตัวช่วยเรียกสายตาของทุกคนได้ห้องได้เป็นอย่างดี ฉันไม่ได้อยากเป็นจุดเด่นแบบนี้นะเฟ้ย!! นี่นายคิดจะทำบ้าอะไรวะไอ้บ้าป๊อปปี้!!!
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ นายคิดจะทำอะไรน่ะ” ฉันตวาดแว๊ดใส่ป๊อปปี้ ตามบทนางเอก ถ้าโดนผู้ชายเต๊ะอั่งแบบนี้ก็ต้องดิ้นใช่ม่ะ แต่... มันทำแบบนั้นไม่ได้น่ะเซ่!!! มือข้างหนึ่งของป๊อปปี้รวบข้อมือน้อยๆของฉันทั้งสองข้างไว้ ส่วนอีกข้างหนึ่งเขาก็รวบเอวของฉันไว้แน่น แล้วแบบนี้จะให้ฉันเอาอะไรไปดิ้นฟ้ะ!!
“ฉันเตือนเธอแล้ว ว่าถ้าเธอขัดคำสั่งฉันเธอจะต้องเสียใจ” หมอนั่นกระซิบเสียงเหี้ยมที่ข้างหูฉัน ทำแบบนั้นมันจั๊กกะจี้นะเฟ้ย! ไม่รู้เหรอไง
“แต่นายไม่มีสิทธิ์จะมาสั่งฉัน!” ฉันสวนกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ถึงแม้จะรู้ว่าหมดทางสู้แล้วก็เหอะ
“มีซิ!” นั่น! มีเสียงเย้ยกันอีก ควันจะออกหูอยู่แล้วนะเฟ้ย
“สิทธิ์ของคนที่เธอต้องทำภารกิจให้สำเร็จไง”
“จะสิทธิ์อะไรของนายก็ช่าง แต่ตอนนี้ช่วยปล่อยฉันก่อนได้มั้ยเนี่ย!”
หน้านายต้องทำด้วยคอนกรีตเสริมใยเหล็ก ราดทับด้วยยางมะตอยแน่ๆเลยป๊อปปี้ โดนคนทั้งห้องจ้องขนาดนี้ยังไม่สะดุ้งสะเทือน ฉันสิทั้งโกรธทั้งอายจนหน้าแดงแปร๊ดไปถึงผมแล้วมั้งเนี่ย
“ก็บอกมาก่อนสิ ว่าเธอจะทำตามคำสั่งฉัน... ทุกอย่าง!”
“ฝันไปเหอะ!!!” ฉันเชิดหน้าใส่เขาทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด ถ้าทำแบบนั้นก็เท่ากับว่าฉันเป็นทาสเขาชัดๆเลยน่ะสิ! เรื่องอะไรจะยอมเล่า!!
“งั้นก็ตามใจเธอ แต่ฉันขอเตือนไว้ก่อนนะ ฉันมีความสามารถมากพอที่จะทำให้เด็กในโรงเรียนนี้ทุกคนเกลียดขี้หน้าเธอได้ภายในพริบตา ถ้าเธออยากจะลอง ฉันยินดีสนองให้”
“อย่านะ!!” ฉันเผลอร้องห้ามเสียงหลง ถึงจะหมั่นไส้เขามากแค่ไหน แต่ฉันเชื่อว่าสิ่งที่หมอนี่พูดมาคือความจริง เขาสามารถทำได้อย่างที่พูดแน่ๆ แล้วฉันล่ะ! ฉันควรจะทำยังไงดีเนี่ย!!!
“ว่าไงเจ้าหญิง ฉันมีเวลาให้เธอคิดไม่นานนักหรอกนะจะบอกให้”
“เออ! ก็ได้ ฉันตกลง”
ฉันกัดฟันกรอด! สมองประมวลผลคิดหาทางแก้แค้นอย่างเร็วไว ฉันไม่มีทางยอมให้เรื่องนี้มันจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของฉันหรอก!
“ดีมาก”
ดูเหมือนป๊อปปี้จะพอใจไม่ใช่น้อยที่สามารถกำราบฉันได้ แต่นายอารมณ์ดีอยู่ได้ไม่นานแน่ เชื่อมือเจ้าหญิงคนนี้ได้เลย!
“จะปล่อยฉันได้ยัง?” ฉันหันไปทำเสียงเขียวใส่เขาบ้าง โชคดีหน่อยก็ตรงที่หมอนั่นยอมปล่อยมือออกจากแขนฉันแต่โดยดีนั่นแหละ แต่... ฉันบอกแล้วไงว่าเรื่องนี้จะไม่มีวันจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของฉัน!
“มานั่งที่ซะเจ้าหญิง นี่คือคำสั่ง”
ชิชะ! พอได้ทีแล้วสั่งใหญ่เลยนะ ได้เลยป๊อปปี้ ฉันจะจัดให้ตามที่นายขอแน่
“นี่แน่ะ!” ฉันจัดการเหยียบเท้าหมอนั่น เอ๊ะ! ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่ากระทืบเลยต่างหาก เล่นเอาไอ้หมี เอ๊ย! ป๊อปปี้ที่กำลังนั่งออกคำสั่งอย่างสบายใจเฉิบถึงกับสะดุ้ง
“โอ้ย! ยัยบ้า!! ทำอะไรของเธอเนี่ย มันเจ็บนะ” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ็บ น้ำตาเกือบไหลแน่ะ หุหุ... สะใจเฟ้ย!!
“คิดว่าฉันจะยอมเป็นเบ๊นายง่ายๆเหรอไง ฝันไปเหอะ ไอ้หมีโรคจิต!!!” ฉันแลบลิ้นใส่เขาก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากห้องทันที ชิ!~~ เล่นกับใครไม่เล่น ดันมาเล่นกับคนอย่างฉัน นายน่ะตกส้วมตายไปเลยไอ้โรตจิต!!!
.
.
.
.
.
เม้นๆๆๆๆ
“อืม ขอบใจมากนะที่อุตส่าห์พามาส่งถึงห้องเลย” ฉันส่งยิ้มให้ทั้งสามคน
“ไม่เป็นไรครับ แค่อย่าเอาสเปรย์พริกไทยนั่นฉีดใส่ตาผมเหมือนพี่พิชก็พอ” กั้งแหย่ยิ้มๆ จนฉันเผลอหลุดหัวเราะออกมา อยู่กับเจ้าพวกนี้ก็สบายใจดีเหมือนกันนะ ถึงจะชอบกวนประสาทไปหน่อยแต่ก็สนุกดี
“เจ๊ฟาง ผมขอเข้าไปนั่งเรียนกับเจ๊ด้วยได้รึเปล่าเนี่ย?” นี่ถ้านายไม่พูดขึ้นมา ฉันคงจะนึกว่านายลืมพาปากมาด้วยแล้วนะธาม บทจะเงียบก็เงียบซะ พอบทจะพูดก็พูดซะ....
“แกจะบ้าเหรอไง นี่มันห้องม.6 นะเว้ย แกจะเข้าไปเรียนได้ไง” กั้งพูด ฉันพยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วย หมอนี่ชอบคิดอะไรเป็นเด็กๆอยู่เรื่อยเลย
“ก็อยากอยู่ใกล้ๆเจ๊ฟางง่ะ” ธามไทเอนหัวลงซบกับไหล่ฉันเบาๆ นั่นแหละฉันถึงรู้ว่าอีตานี่สูงกว่าฉันอยู่ไม่ใช่น้อยเลย ฉันไม่ได้เตี้ยนะ แค่เป็นผู้หญิงไซต์มินิเท่านั้นเอง ยัยแต๊งเตี้ยกว่าฉันเยอะ
“ปล่อยเลยธาม” ฉันจิ้มหน้าผากเขาเบาๆ ให้เขายกหัวออกจากไหล่ฉัน ยอมรับว่าหน้าแกหล่อ แต่ถ้าลามปามมากนักแม่ก็ตบหน้าคว่ำได้เหมือนกันนะจะบอกให้
“ใจร้าย”
“ถ้างั้นพวกผมขอตัวไปเรียนก่อนนะฮะพี่ฟาง” กั้งพูด ก่อนจะดึงคอเสื้ออีตาธามให้ออกห่างจากฉัน
“ไม่เอา ฉันจะอยู่กับเจ๊ฟางก่อน” ธามไทส่งเสียงโวยทันที แต่ก็ใช่ว่ากั้งจะสน
“เดี๋ยวตอนเย็นพวกผมมารับนะฮะ” เขาหันมาพูดกับฉันเป็นประโยคสุดท้ายก่อนจะลากร่างอีตาธามออกไปทันที ฉันมองตามแล้วหลุดยิ้ม สองคนนั่นเล่นกันเหมือนเด็กแน่ะ
“เข้าห้องเถอะเจ้าหญิง” เสียงทุ้มของจองเบที่ดังขึ้นใกล้ๆเล่นเอาฉันสะดุ้ง พึ่งนึกได้ว่านอกจากตัวเองแล้วยังเหลือเขาอีกคน ก็นายจะเงียบให้ได้โล่ทำไมเล่า!!
“เอ่อ อืม” ฉันพยักหน้ารับ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับลูกบิด สู้ๆไว้สิฟาง เรื่องแค่นี้เอง สบายๆสำหรับเธออยู่แล้วล่ะนา จะกลัวอะไรนัก ก็แค่โรงเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ๆ มิตรภาพใหม่ๆ... รึเปล่า?
“ฉันอยู่ห้องข้างๆนี่แหละ ถ้ามีปัญหาอะไรก็มาหาฉันได้นะ” เหมือนจองเบจะรู้ว่าฉันรู้สึกยังไง เขาจึงหันมาบอกฉันอีกครั้งพร้อมส่งยิ้มบางๆให้ ว้าว~~~ นายยิ้มแล้วโคตรหล่อเลยอ่ะจองเบ
“อืม ขอบใจมากนะ” ฉันส่งยิ้มให้เขาอย่างน่ารักก่อนที่เขาจะเปิดประตูเข้าห้องตัวเองไป ฉันหันกลับมามองประตูห้องตัวเองแล้วแอบปาดเหงื่อ จะไหวมั้ยเนี่ยยัยฟาง
“เพื่อศักดิ์ศรีเจ้าหญิง สู้!” ฉันพึมพำให้กำลังใจตัวเองเบาๆ พลางสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเปิดประตูเข้าไปทันที
แกร็ก~~~
~~~ซ่า~~~
โครม~~~
.........
......
...
..
.
สงสัยกันมั้ยว่าเสียงอะไร อ่านต่อไปสิ เดี๋ยวรู้เลย
แกร็ก~~~~~~~~~ เสียงฉันเปิดประตู
ซ่า~~~~~~~~~~~~ เสียงน้ำในถังที่ไม่รู้ใครมันบ้าพิเรนทร์เอาไปวางไว้บนประตู พอฉันเปิดประตูเข้าไปมันก็หล่นลงมาน่ะเซ่!!! ดีหน่อยก็ที่ฉันหลบทันเนี่ยแหละ
โครม~~~~~~~~~ ส่วนเสียงสุดท้าย เป็นเสียงถังน้ำเจ้าปัญหาที่กระเด็นไปนอนเอ้งเม้งอยู่กลางห้อง ด้วยฝีมือเทควันโดสายดำของฉันเอง ใครมันคิดจะแกล้งฉันฟ้ะ
ฉันตวัดสายตาไปมองคนในห้องด้วยสายตาเคืองๆนิดหน่อย ถ้าเมื่อกี้ฉันหลบไม่ทัน มีหวังได้เปียกมะล่อกมะแล่กเป็นลูกแมวตกน้ำแหงๆ แถมไม่รู้ว่าน้ำในถังนั่นเป็นน้ำล้างอะไรต่อมิอะไรมาอีก เหม็นหึ่งเชียว
“เฮ้ย! เจ๋งว่ะ” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นเป็นเสียงแรก จับทิศทางได้อ่ะนะ แต่ไม่รู้ว่าคนไหน ในห้องนี้มีเด็กอยู่ประมาณ 40 กว่าคนได้ ไม่มากเลยใช่มั้ยล่ะ
“เอ่อ หวัดดี” ฉันเอ่ยทัก เพราะโดนทุกคนในห้องจ้องมาประมาณเกือบห้านาทีได้แล้ว ไม่คิดจะทักคนมาใหม่อย่างฉันบ้างเลยเหรอไงวะ มัวแต่จ้องกันอยู่ได้ นี่ถ้าฉันท้องจะหาพ่อของลูกได้มั้ยวะเนี่ย
“........” อ้าว! อุตส่าห์เป็นฝ่ายทักก่อนแล้วนะเนี่ย ยังจะเงียบกันอีก เป็นใบ้กันหมดห้องเหรอไง หรือว่าพูดด้วยแค่นี้แล้วทำหยิ่ง ตกลงเด็กโรงเรียนนี้มันนิสัยแบบนี้กันเองเหรอเนี่ย
“เธอ...” ฉันหันไปมองที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงคนมาใหม่ ที่แท้ก็อาจารย์นี่เอง นึกว่า....
อาจารย์ที่รุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของฉันใช้สายตากวาดมองร่างฉันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แล้วลากจากปลายเท้าขึ้นมาที่ศีรษะอีกที ก่อนจะขยับแว่นที่ใส่อยู่ให้เข้าที่
“เจ้าหญิง” อาจารย์ท่านนั้นเรียกฉัน ตกลงที่มองนี่คือจะสแกนว่าฉันคือเจ้าหญิงตัวจริงรึเปล่าใช่ม่ะ
“ค่ะอาจารย์” ฉันยกมือไหว้อย่างมีมารยาท แต่แอบกังวลหน่อยๆ เมื่อกี้อาจารย์จะเห็นตอนฉันเตะถังน้ำรึเปล่าวะ ขืนมาร์คัสรู้เรื่องนี้มีหวังฉันโดนเฉ่งเละแน่ๆ เรื่องทำตัวไม่เหมาะสม
“มีเรื่องอะไรรึเปล่า ทำไมสภาพห้องถึงได้เป็นแบบนี้ล่ะ” อาจารย์ท่านนั้นเอ่ยถามพลางกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง ฉันหันไปมองบ้าง เห็นเด็กในห้องหลบตากันวูบก็เลยรู้ได้โดยอัตโนมัติว่า อาจารย์ท่านนี้ต้องโหดซุปเปอร์โหดแน่ๆ หุหุ แกล้งกลับดีมั้ยวะเนี่ย
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะอาจารย์ อุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะค่ะ” ฉับรีบบอก ถึงแม้จะคันปากอยากฟ้องมากก็เหอะ แต่ฉันยังไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนร่วมห้องนี่นา อาจารย์พยักหน้ารับ แม้สีหน้าจะบอกว่าไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูดก็ตาม
“ครูชื่อ กมลา เป็นครูประจำชั้นของห้องนี้ ถ้าเธอมีปัญหาอะไรก็มาบอกครูได้นะ” โอ้โห กมลา => นางงาม งามจริงๆค่ะอาจารย์
“ขอบคุณค่ะอาจารย์” ฉันยกมือไหว้อาจารย์กมลาอีกครั้งอย่างซึ้งใจ??? ถ้าฉันไปขอคำปรึกษา พี่แกจะช่วยฉันได้จริงๆใช่ม่ะ
“พุฒิภัทร ไปหาอุปกรณ์มาทำความสะอาดด้วย” อาจารย์หันไปสั่งเด็กคนหนึ่งในห้อง Oh my god! ชื่อพุฒิภัทร แต่ไหงหน้าตาถึงได้เหมือนเขียดตะปาดแบบนี้ล่ะ เสียชื่อพี่เจมส์จิของฉันหมด คนสวยเฟล!!
“ส่วนเธอเจ้าหญิง ไปหาที่นั่งได้แล้ว” อาจารย์หันมาสั่งฉันบ้าง เล่นเอาคนถูกเรียกถึงกับสะดุ้ง รู้แล้วค่าว่าโหด แต่กับคนมาใหม่อย่างฉันเนี่ยช่วยลดดีกรีความโหดลงหน่อยได้มั้ย กลัวจนฉี่จะราดอยู่แล้วเนี่ย
ว่าแต่... ฉันจะนั่งตรงไหนดีหว่า???
ตอนนี้ทุกคนในห้องจ้องมาที่ฉันเหมือนจะลุ้นว่า ฉันจะไปวางระเบิดที่โต๊ะใครอย่างนั้นแหละ อืม... เพื่อความปลอดภัยของตัวฉันเอง เพราะฉะนั้นฉันนั่งคนเดียวดีกว่า
ฉันเดินไปนั่งโต๊ะตัวที่ว่างอยู่ทันที ติดหน้าต่างซะด้วย โลเกชั่นดีชะมัด อย่างนี้ก็แอบงีบได้สบายเลยสิ เพราะข้างหน้าฉันมีพี่เบิ้มตัวเท่ายักษ์นั่งอยู่ตั้งสองคน บดบังร่างสวยใสสไลด์เดอร์ของฉันซะมิด ชัยภูมิดีม๊ากกกก
อ้อ! ห้องนี้เค้านั่งกันเป็นคู่นะ แถมแต่ล่ะคู่ก็สามัคคีกันม๊ากมาก ถ้าเป็นคู่ผู้หญิงนี่เรียกได้ว่าร่วมมือกันส่งสายตาอาฆาตกันมาแต่ไกล นี่ถ้าสายตาเกิดกลายร่างเป็นดาบได้นะ มีหวังร่างฉันคงพรุนเป็นฟองน้ำแหงๆ ส่วนพวกผู้ชายนี่.... ตาหวานเยิ้มซะจนถ้าน้ำตาไหลนี่คงเป็นน้ำเชื่อมชัวร์ๆอ่ะ วุ้ย! เด็กห้องนี้น่ากลัวชิบ!
“เอาล่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วครูขอตัวก่อนก็แล้วกัน ดูแลเพื่อนใหม่ด้วยล่ะ” พูดจบอาจารย์กมลาก็เดินออกไปจากห้องทันที ไหนบอกว่าปรึกษาได้ทุกเรื่องไง ไม่คิดจะอยู่ช่วยกันก่อนเลยเรอะ
“หวัดดีเจ้าหญิง”
นั่นไง! ไอ้ม่อคนที่ 1 มาแล้ว แต่เอ๊ะ! เขาเป็นสภานักเรียนนี่หว่า
อ้อ! ฉันลืมบอกไปอีกอย่าง ที่ไฮท์ฟลาวน์และเวลทีจะมีการแบ่งนักเรียนออกเป็น 3 ระดับ คือ นักเรียนปกติ สภานักเรียน และพวกเราเหล่าเจ้าชายเจ้าหญิง ซึ่งแต่ละระดับก็จะมีสีของชุดนักเรียนที่แตกต่างกันออกไป
อย่างเช่นที่ไฮท์ฟลาวน์ นักเรียนปกติสีของกระโปรงหรือกางเกงกับเสื้อสูทด้านนอกจะเป็นสีดำ ส่วนเนคไทจะเป็นสีชมพูซึ่งเป็นสีประจำโรงเรียน นักเรียนที่เป็นสภานักเรียนจะเปลี่ยนสีของกระโปรงหรือกางเกงเป็นสีชมพู เสื้อสูทสีดำ และเนคไทสีชมพู ส่วนเจ้าหญิงอย่างพวกฉันมันพิเศษตรงที่เป็นชุดสีแดงเข้ม ทั้งกระโปรงและเนคไท ส่วนเสื้อสูทยังเป็นสีดำ แล้วก็มีเข็มกลัดรูปมงกุฎที่สลักคำว่า Princess ไว้ด้านล่าง แปะอยู่บนปกเสื้อนักเรียนสีขาวด้วย
ส่วนที่เวลที นักเรียนปกติจะใส่กระโปรงหรือกางเกงสีน้ำเงินเข้ม สีเดียวกับเนคไทที่เป็นสีประจำโรงเรียน ส่วนเสื้อสูทด้านนอกจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน นักเรียนที่เป็นสภานักเรียนจะใส่กระโปรงหรือกางเกงสีฟ้า เนคไทกับเสื้อสูทเป็นสีเดิม ส่วน The Prince ที่ฉันขัดใจมาก ทำไมสีชุดมันต้องเหมือนกับของพวกฉันด้วยเนี่ย กางเกงและเนคไทเป็นแดงเข้ม เข็มกลัดสีทองรูปตัว P ถูกแปะไว้ที่เนคไท แถมยังใส่เสื้อสูทด้านนอกสีดำอีกด้วย อะไรมันจะเหมือนกันขนาดนั้น!
ส่วนไอ้ม่อที่นั่งจ้ออยู่ข้างๆฉัน เขาใส่กางเกงสีฟ้า นั่นแสดงว่าเขาเป็นสภานักเรียน พูดถึงสภานักเรียน ฉันยังไม่รู้จักคนที่เป็นประธานนักเรียนของโรงเรียนนี้เลยนะเนี่ย นิสัยจะเหมือนยัยมนิลารึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆแกซวยแล้วไอ้หนุ่มเอ้ย! ที่คิดจะมายุ่งกับคนที่มีปมเรื่องสภานักเรียนแบบฉัน
“หวัดดี”
“ฉันชื่อติณห์นะ ฉันเป็นประธานนักเรียนของเวลที” อ้าว! เวรแล้วไง! ไอ้ม่อ เอ้ย! นายติณห์นี่กลับกลายเป็นประธานนักเรียนไปซะได้ เอาไงต่อดีวะ
“เอ่อ อืม ยินดีที่ได้รู้จัก” ตามน้ำไปก่อนละกัน ดูแล้วเขาก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร...มั้ง
“แล้วนี่ไม่คิดจะแนะนำตัวให้ฉันรู้จักเลยเหรอไง?” ติณห์พูดยิ้มๆ แต่เล่นเอาฉันเหวอ อย่าบอกนะว่า...
“นี่นาย... ไม่รู้จักฉันงั้นเหรอ?” เฮ้ย! นี่ยังมีคนไม่รู้จัก The Princess อย่างพวกฉันอีกเหรอเนี่ย (ทีแกยังไม่รู้จัก The Prince เลยฟาง)
“ล้อเล่น ใครบ้างในโรงเรียนนี้ที่ไม่รู้จักเจ้าหญิงแห่งไฮท์ฟลาวน์ล่ะ จริงมั้ย? เจ้าหญิงฟาง”
“ก็... คงงั้นมั้ง” ฉันยิ้มฝืดๆให้หมอนั่น รู้สึกไม่ชอบใจกับสายตาแพรวพราวของคนตรงหน้ายังไงก็ไม่รู้ เขาดูเงียบๆ แต่รู้สึกจะน่าอันตรายยิ่งกว่าอีตาธามซะอีก
“ได้ข่าวว่าเธอต้องมาอยู่ที่นี่ตั้ง 2 เดือนเลยงั้นเหรอ” ติณห์ชวนคุยต่อ แต่ฉันเนี่ยสิ อยากจะร้องตะโกนให้ก้องโลก เมื่อไหร่อีตานี่จะไปไกลๆซะที่นะ ฉันไม่ชอบหน้าแกเฟ้ย!!
“อืม ใช่” แต่ฉันก็ยังต้องคุยกับเขาต่อไป บ้าจริง! ฉันไม่เคยต้องมานั่งทนอะไรแบบนี้เลยนะเนี่ย อึดอัดชะมัด!
~~กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด~~
จู่ๆ ผู้หญิงในห้องฉันก็ส่งเสียงกรี๊ดออกมาดังลั่นอย่างกับเจอนิชคุณตัวเป็นๆ เล่นเอาฉันยกมือขึ้นปิดหูแทบไม่ทัน มันหนวกหูนะเฟ้ย! จะกรี๊ดอะไรกันนักกันหนาวะ?
“เฮ้ย!!!” แต่แล้วก็เป็นฉันเองที่เกือบจะส่งเสียงกรี๊ดออกมาเหมือนกัน ถ้าไม่ปิดปากตัวเองเอาไว้ซะก่อน บ้าเอ้ย! ผู้หญิงห้องนี้ตาถั่วกันรึไงเนี่ย ถึงได้กรี๊ดหมีแทนคน เห็นคนเป็นหมี เอ้ย! เห็นหมีเป็นคนไปได้
“เป็นอะไรรึเปล่าเจ้าหญิง ทำไมอยู่ๆถึงเงียบไปล่ะ” ติณห์ถามขึ้นเล่นเอาฉันดึงสายตาจากไอ้หมีลามกที่ยืนอยู่ที่ประตูห้องกลับมาแทบไม่ทัน นี่นายยังไม่ตายอีกเหรอไงเนี่ย!
“เปล่าหรอก ไม่มีอะไร” ฉันยิ้มแหยๆให้ ก่อนจะภาวนาในใจ
สาธุ! เจ้าประคุณรุนช่อง บุญกุศลใดที่ลูกเคยทำมา ขอจงช่วยให้ลูกแคล้วคลาดปลอดภัยจากไอ้หมีโรคจิตนั่นด้วยเถิด! ขอให้พี่บิ๊กเบิ้มที่นั่งหุ่นดีออยู่ข้างหน้าฉัน ช่วยบังร่างฉันจากสายตาพิฆาตของอีตาป๊อปปี้ด้วย อย่าให้เขาเห็นฉันเลย ไม่งั้นล่ะก็... แกตายแน่ๆยัยฟาง
“คงจะไม่ว่าอะไรใช่มั้ย ถ้าฉันจะขอที่นั่งฉันคืน ประธานนักเรียน” ฉันสะดุ้งเฮือก หันไปมองหน้าเจ้าของเสียงที่สามโดยอัตโนมัติ ฉันไม่มีบุญเลยใช่มั้ยเนี่ย ทำไมไอ้หมอนี่ถึงได้เห็นง่ายนักล่ะ ฮือๆ พ่อจ๋าแม่จ๋า ช่วยฟางด้วย
“อ้อ โทษทีเจ้าชาย ฉันแค่จะมาคุยกับเด็กใหม่น่ะ” ติณห์ยิ้มก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ ไม่นะ! อย่าได้บอกฉันเชียวว่าไอ้โต๊ะที่ว่างๆอยู่ข้างฉันเนี่ย เป็นของไอ้หมีลากมกนี่ ไม่ๆๆๆ
~~~ชิ้ง~~~ เฮือก! สายตาพิฆาต
“เดี๋ยว เธอจะไปไหนน่ะเจ้าหญิง” ไอ้หมี เอ้ย! ป๊อปปี้คว้าแขนฉันที่กำลังเตรียมชิ่งหนีไว้อย่างรวดเร็ว เร็วไปมั้ยวะ! ฉันยังไม่ทันได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้เลยนะเฟ้ย!!!
“ก็จะไปนั่งตรงอื่นน่ะสิ ถามได้!” ฉันกัดฟันพูดอย่างไม่พอใจ ไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนน่าอันตรายเท่านายเลยขอบอก!
“ถ้าฉันไม่อนุญาต เธอก็ไปไหนไม่ได้” ป๊อปปี้พูดเสียงเขียว แต่เดี๋ยว! นายมีสิทธิ์อะไรเนี่ย!!
“จะบ้าเหรอไง นายไม่ใช่พ่อฉันสักหน่อย จะมาบังคับฉันได้ไง” ฉันมองหน้าหมอนั่นอย่างหาเรื่อง ก็ตอนนั้นยังไล่ฉันให้กลับโรงเรียนอยู่เลย แล้วไหงพ่อคุณถึงเปลี่ยนคำพูดได้ล่ะวะ เอ๊ย! คะ
“ไม่ใช่พ่อ แต่ฉันก็บังคับเธอได้ แล้วถ้าเธอไม่เชื่อฟังฉัน เธอเสียใจแน่เจ้าหญิง”
น่านนนนน!! ยังจะมาขู่กันอีก ฉันควรจะทำตามที่มันบอกดีมั้ยเนี่ย หน้าตาก็ออกจะดี ทำไมปากร้ายกับผู้หญิงสวยๆอย่างฉันแบบนี้ล่ะ!
“แต่ฉันจะเสียใจยิ่งกว่า ถ้าเชื่อคำพูดคนอย่างนาย!” ฉันลุกพรวดขึ้นทันทีอย่างเชื่อฟังที่เขาบอก???
ตำแหน่งเจ้าหญิงที่ฉันมี มันก็ไม่ได้น้อยหน้าตำแหน่งเจ้าชายของเขา แล้วทำไมฉันจะต้องเชื่อฟังคนอย่างหมอนี่ด้วยล่ะ แถมตั้งแต่เจอหน้ากัน หมอนี่ยังไม่เคยทำอะไรที่ถูกใจฉันเลยสักนิด แต่ถ้าขัดใจนี่ขอให้บอก เยอะ!!!
ป๊อปปี้มองฉันด้วยสายตาวาววับ ชะอุ้ย! โดนมองแบบนี้มันก็รู้สึกหนาวๆร้อนๆขึ้นมาเหมือนกันแฮะ น่ากลัว~~
“เธอจะต้องเสียใจแน่ เจ้าหญิง” หมอนั่นยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ทำเอาฉันใจหายวาบ นายคงไม่ได้คิดจะฆ่าฉันหมกโถส้วมอยู่ใช่มั้ยป๊อปปี้? ฉันยังไม่อยากตายทั้งที่ยังไม่มีแฟนแบบนี้นะ
“ว๊าย!!!” แล้วการกระทำของเขามันก็ทำให้ฉันรู้ว่า สิ่งที่ฉันคิดอยู่มันน้อยไป
หมอนั่นอาศัยจังหวะที่ฉันกำลังยืนเอ๋ออยู่ กระตุกแขนฉันที่เขาจับไว้เบาๆ แล้วมันก็ทำให้ร่างของฉันปลิวตามแรงของเขาไปในทันที ปลิวตามแรงเขาไม่เท่าไหร่ แต่มันดันปลิวไปนั่งแปะอยู่บนตักเขาเนี่ยสิ! ฟางอยากจะบ้า!!
ที่สำคัญ เสียงแปดหลอดของฉันที่กรี๊ดออกมาอย่างตกใจ มันก็เป็นตัวช่วยเรียกสายตาของทุกคนได้ห้องได้เป็นอย่างดี ฉันไม่ได้อยากเป็นจุดเด่นแบบนี้นะเฟ้ย!! นี่นายคิดจะทำบ้าอะไรวะไอ้บ้าป๊อปปี้!!!
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ นายคิดจะทำอะไรน่ะ” ฉันตวาดแว๊ดใส่ป๊อปปี้ ตามบทนางเอก ถ้าโดนผู้ชายเต๊ะอั่งแบบนี้ก็ต้องดิ้นใช่ม่ะ แต่... มันทำแบบนั้นไม่ได้น่ะเซ่!!! มือข้างหนึ่งของป๊อปปี้รวบข้อมือน้อยๆของฉันทั้งสองข้างไว้ ส่วนอีกข้างหนึ่งเขาก็รวบเอวของฉันไว้แน่น แล้วแบบนี้จะให้ฉันเอาอะไรไปดิ้นฟ้ะ!!
“ฉันเตือนเธอแล้ว ว่าถ้าเธอขัดคำสั่งฉันเธอจะต้องเสียใจ” หมอนั่นกระซิบเสียงเหี้ยมที่ข้างหูฉัน ทำแบบนั้นมันจั๊กกะจี้นะเฟ้ย! ไม่รู้เหรอไง
“แต่นายไม่มีสิทธิ์จะมาสั่งฉัน!” ฉันสวนกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ถึงแม้จะรู้ว่าหมดทางสู้แล้วก็เหอะ
“มีซิ!” นั่น! มีเสียงเย้ยกันอีก ควันจะออกหูอยู่แล้วนะเฟ้ย
“สิทธิ์ของคนที่เธอต้องทำภารกิจให้สำเร็จไง”
“จะสิทธิ์อะไรของนายก็ช่าง แต่ตอนนี้ช่วยปล่อยฉันก่อนได้มั้ยเนี่ย!”
หน้านายต้องทำด้วยคอนกรีตเสริมใยเหล็ก ราดทับด้วยยางมะตอยแน่ๆเลยป๊อปปี้ โดนคนทั้งห้องจ้องขนาดนี้ยังไม่สะดุ้งสะเทือน ฉันสิทั้งโกรธทั้งอายจนหน้าแดงแปร๊ดไปถึงผมแล้วมั้งเนี่ย
“ก็บอกมาก่อนสิ ว่าเธอจะทำตามคำสั่งฉัน... ทุกอย่าง!”
“ฝันไปเหอะ!!!” ฉันเชิดหน้าใส่เขาทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด ถ้าทำแบบนั้นก็เท่ากับว่าฉันเป็นทาสเขาชัดๆเลยน่ะสิ! เรื่องอะไรจะยอมเล่า!!
“งั้นก็ตามใจเธอ แต่ฉันขอเตือนไว้ก่อนนะ ฉันมีความสามารถมากพอที่จะทำให้เด็กในโรงเรียนนี้ทุกคนเกลียดขี้หน้าเธอได้ภายในพริบตา ถ้าเธออยากจะลอง ฉันยินดีสนองให้”
“อย่านะ!!” ฉันเผลอร้องห้ามเสียงหลง ถึงจะหมั่นไส้เขามากแค่ไหน แต่ฉันเชื่อว่าสิ่งที่หมอนี่พูดมาคือความจริง เขาสามารถทำได้อย่างที่พูดแน่ๆ แล้วฉันล่ะ! ฉันควรจะทำยังไงดีเนี่ย!!!
“ว่าไงเจ้าหญิง ฉันมีเวลาให้เธอคิดไม่นานนักหรอกนะจะบอกให้”
“เออ! ก็ได้ ฉันตกลง”
ฉันกัดฟันกรอด! สมองประมวลผลคิดหาทางแก้แค้นอย่างเร็วไว ฉันไม่มีทางยอมให้เรื่องนี้มันจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของฉันหรอก!
“ดีมาก”
ดูเหมือนป๊อปปี้จะพอใจไม่ใช่น้อยที่สามารถกำราบฉันได้ แต่นายอารมณ์ดีอยู่ได้ไม่นานแน่ เชื่อมือเจ้าหญิงคนนี้ได้เลย!
“จะปล่อยฉันได้ยัง?” ฉันหันไปทำเสียงเขียวใส่เขาบ้าง โชคดีหน่อยก็ตรงที่หมอนั่นยอมปล่อยมือออกจากแขนฉันแต่โดยดีนั่นแหละ แต่... ฉันบอกแล้วไงว่าเรื่องนี้จะไม่มีวันจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของฉัน!
“มานั่งที่ซะเจ้าหญิง นี่คือคำสั่ง”
ชิชะ! พอได้ทีแล้วสั่งใหญ่เลยนะ ได้เลยป๊อปปี้ ฉันจะจัดให้ตามที่นายขอแน่
“นี่แน่ะ!” ฉันจัดการเหยียบเท้าหมอนั่น เอ๊ะ! ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่ากระทืบเลยต่างหาก เล่นเอาไอ้หมี เอ๊ย! ป๊อปปี้ที่กำลังนั่งออกคำสั่งอย่างสบายใจเฉิบถึงกับสะดุ้ง
“โอ้ย! ยัยบ้า!! ทำอะไรของเธอเนี่ย มันเจ็บนะ” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ็บ น้ำตาเกือบไหลแน่ะ หุหุ... สะใจเฟ้ย!!
“คิดว่าฉันจะยอมเป็นเบ๊นายง่ายๆเหรอไง ฝันไปเหอะ ไอ้หมีโรคจิต!!!” ฉันแลบลิ้นใส่เขาก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากห้องทันที ชิ!~~ เล่นกับใครไม่เล่น ดันมาเล่นกับคนอย่างฉัน นายน่ะตกส้วมตายไปเลยไอ้โรตจิต!!!
.
.
.
.
.
เม้นๆๆๆๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ