พ่อบ้านปีศาจ ภาคชิเอลเป็นปีศาจ บท3 YAOI 18+
เขียนโดย sebbynoi
วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 09.51 น.
แก้ไขเมื่อ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557 09.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
16) ตอนที่ 15
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"นั่นไงเซบาสเตียนมีเรือมานู่นแล้ว นายไปเช่าเรือลำนั้นเลยสิ"ชิเอลเห็นเรือลำเล็กๆที่พอนั่งได้สองสามคนแล่นผ่านมาพอดีแถวๆท่าน้ำจึงชี้ชวนให้พ่อบ้านของเขาไปจัดการติดต่อขอเช่าเรือเพื่อเดินทางไปยังเกาะปีศาจ
"ขอรับ นายน้อย"เซบาสเตียนตอบรับพรางคว้าข้าวของสำภาระเดินนำชิเอลตรงไปยังท่าเรือที่ในตอนนี้มีเรือจอดเทียบท่าอยู่พอดี
และพอพ่อบ้านหนุ่มร่างสูงเดินไปถึงที่ท่าเรือเขาก็พูดคุยกับคนขับเรือเพื่อขอเช่าเรือเอาไปใช้ชั่วคราว เดี่ยวพรุ่งนี้เขาจะเอามาคืนถ้าหากไม่ลืมไปซะก่อน
พอติดต่อขอเช่าเรือได้แล้ว เซบาสเตียนก็นำกระเป๋าเดินทางสองกระเป๋าไปวางในเรือตามด้วยถุงกระสอบถุงใหญ่อีกหนึ่งก่อนจะเดินตรงมาหาชิเอล
"ส่งมือมาขอรับนายน้อย"เซบาสเตียนพูดพรางยื่นมือส่งให้ชิเอลที่กำลังยืนอยู่ที่ท่าน้ำ
"อืม"ชิเอลพยักหน้ารับก่อนจะยื่นส่งมือให้พ่อบ้านของเขาพยุงตัวก้าวลงมาในเรืออย่างระมัดระวัง แล้วจากนั้นเขาก็หาที่นั่ง รอให้พ่อบ้านมาสมทบ
พอเซบาสเตียนก้าวขึ้นเรือตามมาแล้วพ่อบ้านหนุ่มจึงเอาพายมาพายให้เรือแล่นไปตามน้ำเรื่อยๆ จนกระทั่งแล่นไปไกลลับสายตาไปจากผู้คนเขาก็ใช้เวทมนต์เสกให้เรือแล่นฉิวไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ต้องพายให้เหนื่อยเลยทีเดียว
"เอาหล่ะนายน้อยจับให้แน่นๆนะขอรับผมจะซิ่งแล้ว"เซบาสเตียนหันมาเตือนก่อนจะทรุดตัวลงนั่งตรงเก้าอี้ที่ด้านท้ายเรือแล้วเอาพายชักขึ้นมาวางข้างๆ
ชิเอลหันมามองแล้วพยักหน้าให้พร้อมกับเอามือทั้งสองข้างจับยึดกาบเรือแต่ละข้างไว้แน่น เพราะตอนนี้เขารู้สึกเหมือนเรือแล่นไปเร็วมากแทบจะเหาะเลยทีเดียว เร็วยิ่งกว่ารถไฟหลายสิบเท่า
ฟิ้วววววววววว เรือแล่นฉิวไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็มาถึงเกาะปีศาจแล้ว และกำลังบินลัดเลาะอ้อมเกาะตรงไปยังท่าน้ำหลังบ้านของเซบาสเตียนซึ่งตามปกติแล้วหากพายเรือไปเรื่อยๆใช้เวลาเกือบครึ่งวันเลยทีเดียว แต่พอใช้เวทมนต์เร่งความเร็วของเรือไปทางลัดใช้เวลาไม่เกินชั่วโมงก็ถึงแล้ว
"โห...เร็วมากเลยอ่ะ"ชิเอลร้องอย่างตกใจพยายามจับยึดกาบเรือเอาไว้แน่นกระแสลมเย็นพัดประทะใบหน้าจนแสบไปหมดแล้ว
"ครับก็ใช้เวทมนต์นี่นา อีกครึ่งชั่วโมงก็น่าจะไปถึงบ้านผมแล้วล่ะ"เซบาสเตียนบอกยิ้มๆพรางคอยควบคุมทิศทางไปด้วยให้แล่นไปตามเส้นทางลัดเลาะไปตามเกาะ
"อืม"ชิเอลพยักหน้าพรางคอยจับยึดกาบเรือไว้เพราะเรือแล่นไปเร็วมาก
และเพียงไม่นานพวกเขาก็เดินทางมาถึงที่หมาย นั่นก็คือ ท่าน้ำหลังบ้านของเซบาสเตียน
"เอาหล่ะถึงแล้วขอรับ เชิญขอรับ"เซบาสเตียนพูดพรางก้าวลงจากเรือมายืนที่ท่าน้ำแล้วยื่นมือส่งให้ชิเอลจับ
"โอยหนาวหน้าไปหมดเลย อากาศเย็นมากเลยอ่ะช่วงนี้"ชิเอลบ่นพรางเอามือลูบหน้าตนเองเพื่อให้ร่างกายหาจากอาการชาเนื่องจากต้องปะทะลมเย็นๆมาตลอดทาง
"ส่งมือมาขอรับ"เซบาสเตียนพูดซ้ำยังคงยื่นมือส่งให้ชิเอลและรอคอยให้เด็กหนุ่มยื่นมือส่งมาหาตน
"อืม"ชิเอลเลยยอมส่งมือยื่นให้พ่อบ้านจับประครองลงจากเรือ เขาอยากจะเข้าไปหาที่อุ่นๆในบ้านจะแย่แล้ว
และพอชิเอลก้าวลงมาจากเรือแล้วเขาก็เดินตัวปลิวเข้าไปในบ้านของเซบาสเตียนทันทีปล่อยให้เซบาสเตียนขนสำภาระขึ้นมาจากเรือเพียงลำพัง
พ่อบ้านหนุ่มจัดแจงขนของลงจากเรือเอามาวางเอาไว้ที่หน้าประตูบ้าน ส่วนพวกวัตถุดิบเขาก็แบกขนเอาเข้าไปจัดเก็บในห้องครัว และเตรียมลงมือทำอาหารกลางวันเขาจะทำของโปรดของนายน้อยเพื่อเอาใจเด็กคนนั้นสักหน่อย
"เอาหล่ะทำขนมเค้กให้นายน้อยเลยดีกว่า เดี๋ยวจะได้ไปตั้งแคมกันในป่า"เซบาสเตียนพูดไปพรางหยิบวัตถุดิบมาทำขนมไปพราง
ในระหว่างนั้นทางชิเอลในตอนนี้กำลังนั่งอ่านหนังสือเล่นที่โซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างเพลิดเพลิน กำลังรอให้เซบาสเตียนทำอาหารกลางวันให้เสร็จก่อนค่อยพูดคุยกันอีกทีว่าจะเอายังไงต่อ
และเพียงไม่นานนักเซบาสเตียนก็ทำอาหารกลางวันเสร็จ เขาก็จัดเตรียมเอาใส่กล่อง และเดินไปหยิบอุปกรณ์ที่เอาไว้ใช้ฝึกชิเอลใส่ลงในกระเป๋าเดินทางด้วย ก่อนจะเดินกลับมาหาชิเอลที่ห้องนั่งเล่น
"นายน้อยอาหารกลางวันไว้ไปกินกันที่แคมป์นะขอรับ ตอนนี้ผมพร้อมแล้ว คุณล่ะพร้อมจะออกเดินทางหรือยัง"เซบาสเตียนเดินมาถามยิ้มๆอย่างอารมณ์ดี
"อืม ฉันพร้อมแล้ว เราจะไปที่ไหนกันล่ะ เซบาสเตียน"ชิเอลปิดหนังสือแล้วเอามาวางไว้ที่โต๊ะก่อนจะลุกขึ้นยืนเตรียมออกเดินทางไปเที่ยวอย่างตื่นเต้น
"ผมว่าจะไปตั้งแคมกันที่ริมลำธานน่ะครับ ตรงนั้นมีที่ว่างเหมาะสำหรับไปตั้งแคมเลยล่ะ นายน้อยก้จะได้ไปอาบน้ำกันที่นั้นด้วย แถวนั้นมีน้ำตกสวยๆห้าชั้นเลยนะ"เซบาสเตียนเสนอความเห็น
"งั้นเหรอ ก็ได้ดูน่าสนใจดี"ชิเอลหลับตาตอบพรางเดินมาหาเซบาสเตียนแล้วมองดูเสบียงอาหารในตระกร้าอย่างอยากกินอาหารเร็วๆ
"งั้นเราไปกันเลยนะขอรับ นายน้อย"เซบาสเตียนเอ่ยปากชวนยิ้มๆ
"ก็ได้ นำไปสิเซบาสเตียน"ชิเอลตอบรับแล้วหลีกทางให้พ่อบ้านเดินนำเขาออกไปจากบ้าน
เซบาสเตียนถือข้าวของสำหรับการไปตั้งแคมกันในป่าพะรุงพะรังทั้งกระเป๋าเดินทางสองใบและตะกร้าและถุงขาวใส่ของบางอย่างที่พ่อบ้านหนุ่มเอามาเน็บเอาไว้กับเข็มขัด ซึ่งชิเอลอดสงสัยไม่ได้ว่าในถุงใบเล็กๆนั้นมันคืออะไร
"เอ่อ...เซบาสเตียนในถุงนั้นมันคืออะไรเหรอ"ชิเอลถามมองดูถุงอย่างสงสัย
"อ้อ ของที่สำคัญน่ะครับ ไว้ไปถึงแคมป์แล้วนายน้อยก็จะรู้เองแหละ"เซบาสเตียนบอกยิ้มๆแล้วเดินนำไปต่อจนกระทั่งออกมานอกรั้วบ้าน ชิเอลวิ่งตามมา
"แฮ่ก แฮ่ก แล้วนายจะไปยังไงเดินไปเหรอ ไกลมัยอ่ะ"ชิเอลเงยหน้ามาถามอย่างหอบๆจากการวิ่งตามพ่อบ้านมานอกรั้วบ้านเพราะเซบาสเตียนขายาวและเดินเร็วมากถึงแม้ว่าในมือเต็มไปด้วยสำภาระแต่ก็ไม่ทำให้เขาเดินช้าลงไปเลยสักนิด
"ไม่ไกลขอรับเดินไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ถึงปากทางเข้าป่าแล้วล่ะ"เซบาสเตียนหันมาบอกตอนนี้เขาเดินนำทางห่างจากบ้านมาพอสมควรแล้ว
ชิเอลยังคงวิ่งตามเพราะหากเดินล่ะก็เขาคงถูกทิ้งห่างแน่ๆ
"นี่เดินรอกันมั่งสิ ฉันขี้เกียจวิ่งตามนายแล้วนะ เมื่อไหร่จะถึงอ่ะ แฮ่กๆ"ชิเอลร้องเรียกอย่างหอบๆเขาร่างกายไม่ค่อยได้ออกกำลังกายจึงค่อนข้างเหนื่อยง่าย แค่วิ่งมาไม่เท่าไหร่ก็หอบแฮ่กๆแล้ว
"อีกไม่ไกลแล้วล่ะครับ ประมาณอีกห้าร้อยเมตรก็ถึง"เซบาสเตียนหยุดเดินหันมาบอก รอให้ชิเอลตามมาให้ทันก่อนเขาถึงจะเดินนำทางต่อ
"ห้าร้อยเมตร!!"ชิเอลถึงกลับร้องเสียงหลงอย่างตกใจ นี่เขาต้องเดินไปไกลขนาดนี้เลยเหรอ
"ครับ อดทนหน่อยน้าครับ เดินไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ถึงเองแหละ"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆสำหรับเขาไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อยเพราะเคยเดินไกลมากกว่านี้เป็นกิโลๆมานักต่อนักแล้ว ระยะทางแค่ห้าร้อยกว่าแค่นี้สบายมาก
แต่คนที่ไม่สบายน่ะคือชิเอลน่ะสิ เขาไม่ค่อยได้เดินไปไหนมากนักวันๆก็อยู่แต่ในบ้านหรือไม่ก็นั่งรถม้า หรือไม่ก็อาสัญให้พ่อบ้านอุ้มไป
"ไม่ไหวอ่ะ อีกตั้งไกล นายอุ้มไปดีกว่า ฉันเมื่อยขาจะแย่แล้ว"ชิเอลบ่นทำเป็นอิดออดทันทีเมื่อรู้ว่าตนต้องเดินไปอีกไกลลิบกว่าจะถึงที่หมาย
"ไม่อุ้มครับ ผมไม่มีมือจะอุ้ม"เซบาสเตียนตอบปฎิเสธทันที เขาจะฝึกนายน้อยทั้งทีจะให้สบายได้ยังไง
"งั้นขี่หลังนายก็ได้"ชิเอลพยายามประนีประนอม
"ไม่ขอรับ นายน้อยจะต้องเดินไปเอง"เซบาสเตียนตอบปฎิเสธเสียงหนักแน่น
"ฉันเดินไม่ไหวแล้ว แฮ่กๆ อุ้มฉันเดี๋ยวนี้นี่คือคำสั่ง"ชิเอลเริ่มออกคำสั่งแล้วเพราะเขาเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆหายใจหอบแฮ่กๆ เหงื่ออกเต็มหน้าเลย
"ไม่ขอรับ ถ้าอยากให้ผมอุ้มนายน้อยต้องรับปากกับผมมาก่อนว่าจะยอมลงแข่งฟันดาบ ไม่งั้นผมไม่อุ้มนะขอรับ"เซบาสเตียนหลับตาพูดลองเอาเรื่องลงแข่งมาต่อรอง
"อะไรนะ หนอย แก แฮ่กๆ ไม่มีทาง ฉันไม่ลงแข่งเด็ดขาด ฉันบอกแล้วไงว่านายต้องมาคุกเข่าอ้อนวอนฉันก่อนฉันถึงจะลงแข่งให้"ชิเอลเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาหน่อยๆแล้ว เรื่องอะไรจะยอมลงแข่งให้พ่อบ้านใจร้ายนี่กันล่ะ ไม่มีวันซะหรอก
"หึ ถ้าไม่ยอมลงแข่งนายน้อยก็ต้องเดินไปเองนะขอรับ"เซบาสเตียนพูดยิ้มเยาะ เขาถือของมาเต็มมือเลยจะอุ้มได้ไง
"ฉันจะใช้ตาขวาสั่งนายถ้านายไม่ยอมอุ้มฉันแต่โดยดีล่ะก็..."ชิเอลยืนชี้หน้ายื่นคำขาด
เซบาสเตียนหันมาจ้องหน้า ชิเอลจ้องตากลับอย่างไม่ลดละ เขาไม่มีทางยอมแพ้เป็นอันขาดยังไงก็ต้องให้พ่อบ้านอุ้มเขาไปให้ได้
แล้วพ่อบ้านหนุ่มจึงตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเขาเอาของวางลงกับพื้นแล้วหายตัววับไป
"อ๊ะ!!"ชิเอลร้องอย่างตกใจที่จู่ๆพ่อบ้านของเขาก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว เขารีบหันหลับไปมองรอบๆตัวแต่ก็ไม่เห็นตัวพ่อบ้านตัวแสบของเขาเลยแม้แต่น้อย
"หายไปไหนอ่ะ"ชิเอลถามกับตนเองหันไปมองรอบๆตัวแต่ก้พบแต่ความว่างเปล่า ไม่จริงน่าหรือว่าเจ้านั่นจะทิ้งเขาไปอีกแล้ว
"เอ้ย เซบาสเตียนอย่าล้อกันเล่นแบบนี้สิ นายอยู่ไหนออกมาเดี๋ยวนี้นะ เซบาสเตียน เซบาสเตียน!!"ชิเอลตะโกนเรียกอย่างไม่สบอารมณ์ เริ่มรู้สึกใจคอไม่ดียังไงไม่รู้สิเมื่อถูกทิ้งกลางครันให้อยุ่เพียงลำพังแบบนี้กับกองสำภาระเขาถือไปเองไม่ไหว
แต่แล้วชิเอลก็ได้ยินเสียงเหมือนเสียงกรีบเท้าม้า หรือว่า...
กุบกับ กุบกับ
ชิเอลเบิกตากว้างอย่างโล่งใจที่ได้เห็นพ่อบ้านของเขากลับมา ที่แท้ที่จู่ๆเจ้านั้นหายตัวไปคงเพราะไปขอยืมม้าสีนิลมาจากเพื่อนวัวของเขานี่เอง
"นิลกาฟ"ชิเอลร้องทักเมื่อเห็นชายร่างสูงขี่ม้าสีนิลอย่างงามสง่าตรงมาหาเขาอย่างรวดเร็ว
"ฮี๊ๆๆๆๆๆ"เสียงนิลกาฟร้องขานรับกลับการเรียกของชิเอลก่อนจะค่อยๆชะลอความเร็วลงและมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า
ชายร่างสูงก้าวลงมาจากหลังของม้าสีนิลแล้วเดินมาหยิบกองสำภาระเอามาผูกไว้ที่ลำตัวของนิลกาฟ เพื่อให้มันช่วยขนของก่อนจะเดินตรงมาหาชิเอลแล้วจับรวบตัวเด็กหนุ่มที่กำลังยืนนิ่งอึ้งอุ้มขึ้นพาดบ่า
"อ๊ะ"ชิเอลร้องอย่างตกใจที่จู่ก็ถูกจับอุ้มกระทันหันอีกเช่นเคย
"เอาหล่ะทีนี้ก็ไม่ต้องเหนื่อยเดินไปไกลๆแล้วล่ะนะ นายน้อย"เซบาสเตียนพูดพรางแบกเด็กร่างเล็กตรงขึ้นไปขี่หลังนิลกาฟ เจ้าม้าสีนิลยังคงไม่ยอมให้ชิเอลขี่หลังของมันอยู่ดี ซาตานหนุ่มจึงตัดปัญหาความขัดแย้งโดยการอุ้มโดยไม่ให้ตัวของเด็กคนนี้แตะถูกหลังของม้าจอมหยิ่งนี่ไปเสีย
"ทำไมไม่บอกฉันก่อนว่าจะไปหาม้ามา อยู่ๆก็หายตัวไปเฉยๆแบบนั้นตกใจหมด"ชิเอลโวยใส่ทันทีเมื่อเจ้าม้าสีนิลเริ่มวิ่งตรงไปยังจุดหมายปลายทาง
"ก็อยากจะเซอร์ไพร์คุณนิดหน่อยน่ะครับ"เซบาสเตียนบอกยิ้มๆตอนแรกว่าจะเดินไปเรื่อยๆอยู่หรอกแต่นายน้อยอ่อนแอเกินไปเขาจึงอดเห็นใจไม่ได้และสิ่งเดียวที่แก้ไขสถานณ์การนี้คือต้องมีพาหะนะเป็นเครื่องทุ่นแรงและย่นระยะทางในการเดินทาง เขาอยากไปให้ถึงป่าก่อนบ่าย เพราะเดี๋ยวจะไม่มีแรงทำกิจกรรมต่างๆกันในแคมป์
"ชิ"ชิเอลหลับตาพูดอย่างฉุนๆ
"โอ๋ๆการที่ผมหายตัวไปเฉยๆคงทำให้คุณกลัวมากเลยสินะขอรับ โถๆเด็กหนอเด็ก ไม่ต้องกลัวนะขอรับ ผมไม่ทิ้งคุณไปไหนหรอกน่า"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆอย่างอ่อนโยนเอามือลูบหัวชิเอลเบาๆโอ๋สักหน่อย
"อึ้ย 0///0 ไม่ต้องมาโอ๋เลย ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ ฮึ่ม"ชิเอลดันตัวขึ้นมาโวยใส่นิ่วหน้าแดงระเรื้อด้วยความขัดเขิน รีบปัดมือพ่อบ้านออกจากหัวเขาแล้วหันหน้าหลับตาหนี
"หึหึหึ"เซบาสเตียนอดขำและเอ็นดูไม่ได้ในความน่ารักของชิเอล พรางจับเด็กขี้อายให้เชิดเงยขึ้นแล้วค่อยๆยื่นหน้ามาใกล้ๆ ใกล้มากขึ้น มากขึ้น.....
"ฮึ่ก...-/////-"ชิเอลถึงกลับกลืนน้ำลายหน้าแดงขึ้นกว่าเดิมก่อนจะค่อยๆหลับตาลงเงยหน้าขึ้น
"จุ๊บ ^^"ริมฝีปากบางของเซบาสเตียนค่อยๆแตะอย่างอ่อนโยนกบประทับกับริมฝีปากเล็กๆนิ่มอวบอิ่มนั้นอย่างแผ่วเบา ท่ามกลางแสงแดดและทุ่งหญ้าบนหลังของม้าสีนิลที่ยังคงวิ่งห้อไปตามทางเรื่อยๆอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
แล้วทั้งคู่ก็ถอนริมฝีปากออกอย่างช้าๆสายตาสบเข้าหากันอย่างหวานซึ้ง แล้วชิเอลก็โผเข้ากอดคอเซบาสเตียนซุกซบกับแผ่นหลังของซาตานหนุ่มแล้วยิ้มหลับตาลงอย่างอบอุ่นสบายใจ
นิลกาฟก็วิ่งไปตามทางเรื่อยๆเร็วขึ้นๆจนกระทั่งมาถึงที่หมายในที่สุด
"นายน้อยถึงแล้วขอรับ ลงได้แล้วล่ะ"เซบาสเตียนบอกพรางเอามือลูบหลังบอกก่อนจะจับตัวชิเอลอุ้มลงมาจากหลังของนิลกาฟ มาวางลงที่พื้นหน้าปากทางเข้าป่าแล้วตนค่อยตามลงมายืนข้างๆเดินเอามือมาลูบขนที่แผงคอม้าสีนิล
"ขอบใจน้านิลกาฟ แกกลับไปบ้านได้แล้วล่ะ ไว้ว่างๆจะเอาแครอทกับเลือดของฉันไปให้นะ"เซบาสเตียนพูดพรางเอามือลูบขนที่แผงคอเพื่อนของเขาก่อนจะแกะกองสำภาระออกมาจกตัวของมันแล้วเอามาถือไว้ก่อนจะหันมาทางชิเอลที่ยังคงยืนมองไปรอบๆตัวอย่างตื่นเต้นที่ตอนนี้เขาจะได้มาตั้งแคมป์กับพ่อบ้านของเขาสองต่อสองแบบนี้
"ฮี๊ๆๆ"นิลกาฟตอบรับอย่างร่าเริง แล้วมันก็วิ่งห้อกลับบ้านไปทันทีที่เซบาสเตียนเอาของสำภาระออกจากตัวของมันไปหมดแล้ว
และพอเจ้าม้าสีนิลจากไปแล้วเซบาสเตียนก็หันมาหาชิเอล
"เอาหล่ะ เราไปกันเถอะขอรับ ไปหาที่ตั้งเตนท์กัน"เซบาสเตียนพูดชักชวนแล้วเดินนำไปยังปากทางเข้าสู่ป่าที่รกชัฎ
"อืม"ชิเอลพยักหน้ารับแล้วเดินตามเซบาสเตียนไปด้วยใจที่มุ่งมั่น เขาไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างในป่าแห่งนี้ แต่เขาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าต้องเป็นการเที่ยวที่สนุกมากแน่ๆเลย
แต่แล้วจู่เซบาสเตียนก็หยุดเดินกระทันหัน
ปึ่ก ชิเอลที่ก้มหน้าก้มตาเดินจึงเผลอไปชนเข้ากับหลังของพ่อบ้านหนุ่มในทันที
"โอ๊ย นี่นายจะหยุดเดินทำไมไม่บอกก่อนเล่า เจ้าบ้าเอ๊ย "ชิเอลร้องโวยเอามือคลำหัวป้อยๆที่หัวเขาชนเข้ากับหลังของเซบาสเตียนไปเต็มๆเลย
"ขออภัยขอรับ ผมพึ่งนึกอะไรขึ้นมาได้น่ะ"เซบาสเตียนหันมาบอกยิ้มๆก่อนจะวางกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งลงที่พื้นแล้วทรุดตัวลงนั่งยองๆค้นหาของบางอย่างจากในกระเป๋าออกมา
"นั่นนายกำลังหาอะไรอยู่น่ะ เซบาสเตียน"ชิเอลเดินตรงมาถามดูอย่างสงสัยว่าเจ้าอีกานี่กำลังค้นหาอะไร
"หาไอนี่ขอรับ"เซบาสเตียนพูดพรางชูของที่เขาพึ่งหาเจอขึ้นมาให้ชิเอลดู มันก็คือ..
"หา จะเอามาทำอะไรน่ะ เชือกพวกนั้น"ชิเอลถามมองตาปริบๆอย่างสงสัย
"เอาไว้ป้องกันเด็กหลงทางไงขอรับ มา"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆพรางเดินตรงมาหาชิเอลแล้วเอาเชือกมาทำเป็นห่วงแล้วรีบคล้องตัวชิเอลเอาไว้อย่างรวดเร็ว
"เฮือก!!นี่นายจะทำอะไรน่ะ ปล่อยฉันเดี่ยวนี้นะ!!ปล่อยเซ่!!"ชิเอลร้องลั่นอย่างตกใจพยายามหาทางแกะเชือกออกไปจากตัวให้ได้
"ใจเย็นๆสินายน้อย นี่ผมเองก็ต้องคล้องไว้เหมือนกัน"เซบาสเตียนพูดปลอบให้ชิเอลสงบสติอารมณ์ไปพรางเอาเชือกอีกด้านมาทำเป็นห่วงแล้วเอามาสวมคล้องไว้เอาเอวของเขาเช่นเดียวกัน
"นายคิดจะทำอะไร"ชิเอลถามมองหน้าพ่อบ้านของเขาอย่างระแวง
"ก็บอกแล้วไงว่าเอาไว้ป้องกันเด็กหลงป่าไงขอรับ"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆเน้นย้ำคำว่าเด็กอย่างเต้มปากเต็มคำเลยทีเดียว
"อึ้ย ฉันไม่ใช่เด็กนะ รีบๆเอาเชือกนี่ออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้เลย ฉันจะเดินตามนายไปเอง"ชิเอลเงยหน้าขึ้นมาสั่งอย่างไม่พอใจที่มาหาว่าเขาเป็นเด็ก
"ไม่ได้ขอรับ ในป่านี่ค่อนข้างซับซ้อนและอันตราย ผมจะปล่อยให้คุณเดินไปเองได้ยังไง คุณรู้หรือเปล่าว่าป่าแห่งนี้มีชื่ออีกว่าอะไร"เซบาสเตียนยืนกรานว่ายังไงก็ต้องคล้องเชือกติดกันไว้เพื่อความปลอดภัย
"จะไปรู้ได้ยังไงเล่า"ชิเอลโต้แย้งอย่างหงุดหงิด
"เรียกว่าป่าเขาวงกรตไงขอรับ ถ้าหากไม่รู้เส้นทางจริงๆล่ะก็ รับรองว่าต้องหลงจนหาทางกลับไม่ถูกแน่ๆ และเป็นป่าที่มีสัตว์ร้ายชุกชุมด้วย นายน้อยคงยังไม่เข็ดกับการเจอเจ้าหมีสินะขอรับ ถึงได้อยากจะเดินไป"เซบาสเตียนอธิบายเหตุผลยิ้มๆ
"ชิ"ชิเอลจิปากหลับตาหันหน้าหนีหน้าแดงเล็กน้อยยอมรับว่ายังจดจำเจ้าหมีได้เป็นอย่างดีก็เขาเกือบจะได้เป็นอาหารของหมีแล้วนี่ เขาจะลืมได้ยังไงกันล่ะ
"หึ งั้นคราวนี้จะยอมพ่วงไปกับผมหรือจะเดินไปด้วยตัวเองกันล่ะ"เซบาสเตียนถามเพื่อความแน่ใจอีกที
"ชิ ก็ได้ เห็นกับที่นายทำไปเพื่อปกป้องฉัน จะยอมใช้เชือกนี่ติดตามนายไปก็ได้ จริงๆแล้วมันก็เหมือนกับเชือกช่วยชีวิตล่ะนะ ถ้าได้พ่วงติดไปกับนายทุกๆที่ก็คงจะดีอย่างน้อยฉันจะได้มั่นใจว่านายจะไม่ทิ้งฉันไปอีกไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามอย่าทิ้งฉันเด็ดขาดเลยนะ เซบาสเตียน "ชิเอลหลับตาพูดหน้าเชิดก่อนจะหันมาขอความมั่นใจกับพ่อบ้าน
"ขอรับ กระผมขอรับรองด้วยเกรียติของพ่อบ้านแห่งตระดูลแฟนท่อมไฮด์ว่าจะไม่ทิ้งคุณผมจะคอยปกป้องคุ้มครองคุณอย่างสุดความสามารถขอรับ "เซบาสเตียนนั่งคุกเข่าลงหนึ่งข้างก้มหัวพูดให้คำมั่นว่าจะนำทางไปให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยไม่ทิ้งกันแน่นอน
"อืม งั้นเราไปกันได้แล้วล่ะ เซบาสเตียน"ชิเอลพูดด้วยท่าทีจริงจังพรางทำท่าจะเดินนำแต่ทว่า
"เดี๋ยวขอรับ"เซบาสเตียนกลับกระตุกดึงเชือกรั้งชิเอลเอาไว้เสียก่อน
"เอ๋.."ชิเอลหันมาถามอย่างไม่พอใจที่พ่อบ้านมาฉุดรั้งเชือกไว้ไม่ยอมให้เขาเดินนำ
"นายน้อยไปผิดทาง ทางนั้นน่ะ หน้าผานะ"เซบาสเตียนหลับตาพูดเตือนเอาไว้ด้วยความหวังดี
"หา 0///0 เอ่อ.."ชิเอลถึงกลับตกใจพูดไม่ออกหน้าแดงซ่านด้วยความเขินที่ตนนำไปผิดทางอีกแล้ว
"หึหึหึ"เซบาสเตียนอดที่จะหัวเราะเยาะด้วยความขบขันไม่ได้
"ชิ ไม่ต้องมาหัวเราะเยาะเลยนะ ฉันก็แค่..."ชิเอลพยายามแก้ต่างอย่างเขินๆหน้ายังคงแดงซ่านอยู่
"หึ ครับผมเข้าใจ เอาหล่ะ การนำทางในป่านี้ปล่อยเป็นหน้าที่ของผมดีกว่านะ ขืนให้นายน้อยนำทางล่ะก็มีหวังได้หลงทางในป่าหรือไม่ก็ตกหน้าผาตายไปซะก่อนแน่ๆขอรับ"เซบาสเตียนพุดยิ้มๆ
"เออ อยากจะนำก็นำไปเซ่ เชิญ"ชิเอลยืนกอดอกเชิดหน้าหลับตาพูดอย่างขัดเขิน บอกให้เซบาสเตียนนำทางไป
"ขอรับ งั้นไปกันเลยนะขอรับ"เซบาสเตียนตอบรับยิ้มๆกระตุกเชือกที่เชื่อมโยงตัวเขากับชิเอลเพื่อบอกให้ตามเขามาก่อนจะก้มตัวลงไปหยิบสำภาระมาถือไว้แล้วเดินนำเข้าป่าไปในทันที
ชิเอลเดินตามอย่างช่วยไม่ได้ ก็เขาไม่รู้เส้นทางนี่นา ก็คงต้องปล่อยให้คนในพื้นที่นำทางไปน่าจะดีที่สุดแล้ว
แล้วจากนั้นเซบาสเตียนก็เดินนำทางชิเอลไปเรื่อยๆโดยมีเชือกผูกเชื่อมโยงกันไว้ไปตลอดทาง แต่ระหว่างทางเดินป่ามันมักมีอะไรให้ชิเอลตกใจเสมอเลยทีเดียว
"หืม..นายน้อย!!"จู่ๆเซบาสเตียนก็หันมาเรียกอย่างตกใจดวงตาสีทับทิมเบิกกว้าง
"เอ๋ มะมีอะไรเหรอ"ชิเอลหยุดชะงักขานรับอย่างตกใจไม่แพ้กัน
"อยู่นิ่งๆขอรับอย่าขยับเป็นอันขาด!!"เซบาสเตียนสั่งอย่างดุดันพรางควักกริกเงินออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วถือเอาไว้
"มะมีอะไร"ชิเอลถามเริ่มใจคอไม่ดีขึ้นมา
"หลับตาขอรับ อย่าขยับนะขอรับ เชื่อใจผมนะ"เซบาสเตียนพูดอย่างรีบเร่ง
"ฮึ่ก อืม!!"ชิเอลถึงกลับกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเริ่มรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติบนหัวของเขา เด็กหนุ่มรีบหลับตาปี๋ตัวสั่นเทาด้วยความตื่นตระหนก
เซบาสเตียนไม่รอช้าพุ่งเข้ามาตวัดกริกเงินที่เหนือหัวเขาอย่างรวดเร็วฉับพลัน!!
ฉับ!! ตุ้บ!! เสียงกริกเงินฟันฉับเข้ากับอะไรบางอย่างข้างบนหัวของชิเอลก่อนที่เจ้าสิ่งนั้นจะล่วงตกลงมาที่ไหล่ของเด็กหนุ่ม
"ว๊ากอะไรน่ะ อะไรมาเกาะไหล่ฉัน เอามันออกไปนะ เอาออกไป อึ้ย ขยะแขยงชะมัด!!"เล่นทำเอาชิเอลถึงกระสะดุ้งสุดตัวกระโดดหนีทันควันรีบเอามือปัดเจ้าสิ่งนั้นออกไปจากตัวเขาอย่างหวาดผวาร้องลั่นกระโดดเหยงๆ ก่อนจะก้มลงมองดูว่ามันคืออะไร
"เฮ้อ เกือบไปแล้วนะขอรับ เจ้านี่มันอยู่บนต้นไม้ทำท่าจะเขมือบหัวนายน้อยน่ะ ดีนะที่ผมจัดการมันไปก่อนที่มันจะฉกหัวคุณเข้า"เซบาสเตียนก้มลงมาเก้บเจ้าสิ่งนั้นขึ้นมาดู นั้นก็คือ ซากของงูที่ถูกกิกเงินฟันจนคอขาด ดิ้นกระแด่วๆก่อนจะแน่นิ่งไป
"เฮือก งะ งูเหรอ!!"ชิเอลถึงกลับเบิกตากว้างขวัญกระเจิงทำสีหน้าขยะแขยง เหงื่อตก หน้าซีดเผือด รีบผละถอยห่างๆจากเซบาสเตียนด้วยความตกใจ
"ไม่ต้องกลัวขอรับ มันตายแล้ว หึ..เอาไปทำผัดเผ็ดงูให้นายน้อยกินดีมัยน้า"เซบาสเตียนพุดยิ้มเสนอเมนูพิศดารขึ้นมาอีกแล้ว
"บ้า!! ไม่เอา!! เอามันไปไกลๆเลยนะ อี๋ ขยะแขยงจะตายอยู่แล้ว อึ้ย ขนลุกไม่หายเลยตอนที่มันตกลงมาใส่ตัวฉันน่ะ อึ้ย"ชิเอลทำท่าขนลุกขนพองสยองกเกล้าร้องสั่งให้เซบาสเตียนเอามันไปไกลๆเขา เขาเกลียดงูที่สุดเลย
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า นายน้อยนี่ล่ะน้า ก็ได้..เดี่ยวผมจะเอามันไปฝังก่อนละกัน"เซบาสเตียนพูดหัวเราะร่าก่อนจะเอาซากงูมาขุดหลุมฝังตรงข้างทาง
ชิเอลรีบหันหลังหลับตาหนี เขาไม่อยากเห็นซากที่น่าขยะแขยงนั้น แต่ก็หนีไปไหนจากเซบาสเตียนไม่ได้อยู่ดีเลยต้องอดทนรอจนกว่าเจ้าพ่อบ้านนั่นจะจัดการกับซากงูให้เสร็จเร็วๆ
"ฝังมันเสร็จหรือยังเล่า"ชิเอลหลับตาถามยังคงยืนหันหลังให้เซบาสเตียนกับซากงูอยู่ไม่กล้าหันมามองตรงๆ
"หึ เสร็จแล้วขอรับ"เซบาสเตียนเงยหน้าขึ้นมาตอบรับยิ้มๆตอนนี้เขาฝังเจ้างูเคราะห์ร้ายเสร็จแล้ว
"ดี..เราไปกันต่อได้แล้ว ฉันอยากไปให้ถึงสถานที่ตั้งเตนท์เร็วๆ"ชิเอลหันมาสั่งเสียงเรียบเขาพอจะทำใจได้บ้างแล้วล่ะ
"เยส มายลอร์ด"เซบาสเตียนตอบรับด้วยท่าทีจริงจังแล้วจากนั้นเขาก็หยิบสำภาระที่วางทิ้งไว้ชั่วคราวขึ้นมาถือไว้แล้วเดินนำทางไปต่อ
"เฮ้อ.."ชิเอลถอนใจทีนึงก่อนจะเดินก้มหน้าเดินตามหลังเซบาสเตียนไป เขาไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นอีก เขาชักจะกลัวการเดินเที่ยวป่ามากยิ่งขึ้นซะแล้วสิ
หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินตามกันลึกเข้าไปในป่ามากยิ่งขึ้น และยิ่งเข้าไปลึกก็ยิ่งอันตราย
"นายน้อยเดินระวังหน่อยนะครับ เส้นทางนี้ค่อนข้างรกและมีรากไม้ขวางเอาไว้มากมายระวังจะสะดุดรากไม้จนหกล้มเข้าล่ะ"เซบาสเตียนเอ่ยเตือน แต่ดูเหมือนจะเตือนช้าไปนิดเพราะว่า
"หวา..."ชิเอลร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆขาของตนก็เดินไปสะดุดกับรากไม้เข้าจนเสียหลัก ล้มหน้าคะมำทันที
พรืดดด ตุ้บ!!
"อ้าวนายน้อย..เฮ้อ..อุตส่าห์เตือนแล้วเชียวน้า"เซบาสเตียนหันมามองแล้วเอามือกุมขมับแล้วส่ายหน้า ก่อนจะเอาของวางไว้แล้วเดินตรงไปหาเด็กซุ่มว่ามที่ล้มหน้าคะมำจูบพื้นไปเมื่อ
"แล้วทำไมนายไม่มาเตือนเอาวันอาทิตย์หน้าเลยล่ะ เตือนช้าไปแล้วเฟ้ย เจ้าบ้า!!"ชิเอลเงยหน้าขึ้นมาจากพื้นร้องโวยหน้าแดงซ่านด้วยความเขินอายและไม่สบอารมณ์
"เฮ้อ..ไม่นึกว่าจะซุ่มซ่ามขนาดนี้เล้ย เอ้าส่งมือมาขอรับ"เซบาสเตียนพูดพรางยื่นมือส่งให้ชิเอลจับไว้
"ไม่..ฉันจะลุกเอง"ชิเอลตอบปฎิเสธปัดมือเซบาสเตียนออกไปจากตรงหน้าเขาแล้วพยายามดันตัวลุกขึ้นมานั่งด้วยตัวเอง เขาไม่ยอมรับไมตรีจากพ่อบ้านหรอก แค่ล้มต่อหน้าเขาก็อับอายขายหน้าจะแย่แล้ว ถ้าหากยังต้องมาให้เจ้านั่นคอยช่วยอีกเขาก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว
เซบาสเตียนจึงตามใจดันตัวลุกขึ้นยืนแล้วยืนรอให้ชิเอลลุกขึ้นมาด้วยตัวเอง แต่ทว่า
"อ่ะ โอ๊ย!!"ชิเอลกลับร้องออกมาด้วยความเจ็บแปล๊บที่ข้อเท้าแล้วทรุดตัวลงไปอีกเพราะข้อเท้าอักเสธจนทรงตัวไม่ไหว
"นายน้อย!!เป็นอะไรไปหรือเปล่าขอรับ"เซบาสเตียนร้องถามเสียงดังพรางทรุดตัวลงนั่งที่พื้นตรงหน้าชิเอลแล้วมองสำรวจร่างกายเด็กของเขาด้วยความห่วงใย
"โอย..ดูเหมือน..ข้อเท้าจะพลิกน่ะ"ชิเอลหลับตาบอกร้องครางเบาๆด้วยความเจ็บแปลบที่ข้อเท้าจนเขาลุกเองไม่ไหว
"จริงๆเล้ยแล้วนี่คุณลุกเองไหวหรือเปล่าขอรับ ให้ผมนวดคลายเส้นให้เอามัย"เซบาสเตียนพูดอย่างเหนื่อยใจ แต่ก็ยังคงอาสาจะช่วยคลายเส้นให้อยู่ดี
"ไม่ต้อง ฉันไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่แล้ว"ชิเอลหลับตาตอบปฎิเสธแล้วพยายามกัดฟันฝืนลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองให้ได้แต่ทว่าพอลุกขึ้นมาได้ก็ทรุดนั่งลงไปอีก จนเซบาสเตียนเริ่มหมดความอดทนกับความดื้อดึงของเด็กหนุ่มจึงตัดสินใจคว้าแขนจับฉุดดึงรวบตัวอุ้มขึ้นมาในอ้อมแขน
"โอ๊ะ"ชิเอลร้องอย่างตกใจที่จู่ก็ถูกจับอุ้มกระทันหัน
"เฮ้อ..คนอย่างคุณนี่ดื้อจริงๆเลยนะขอรับ ขายังเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอยังจะฝืนอีก เดี่ยวก็อักเสบจนล้มป่วยไปอีกหรอก "เซบาสเตียนพูดอย่างใจเย็น
"อึ้ย ปล่อยฉันลงเดี่ยวนี้นะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย นายเองก็ต้องถือของด้วยไม่ใช่หรือไง ถ้านายมาอุ้มฉันแล้วใครจะถือของกันล่ะ"ชิเอลโวยใส่ดิ้นพลาดๆจะลงให้ได้
"งั้นก็ขี่หลังผมไปแล้วกัน"เซบาสเตียนพูดพรางจับชิเอลยกขึ้นสูงเหนือศรีษะของเขาแล้วอ้อมไปข้างหลัง
"หวา!! 0///0"ชิเอลร้องอุทานอย่างตกใจหน้าแดงซ่านอย่างเขินอาย ไม่นึกไม่ฝันว่าเจ้าพ่อบ้านจะจับเขาขึ้นขี่หลังเหมือนเด็กๆ
"หึ คราวนี้ก็มีมือเอาไว้ถือของแล้วล่ะขอรับ นายน้อยกอดคอผมให้แน่นๆล่ะ"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆ
"ทำไมนายถึงยอมอุ้มฉันล่ะ ทีตอนที่ฉันอยากให้นายอุ้มนายกลับปฎิเสธ แต่มาคราวนี้กลับอาสาจะมาอุ้มฉันซะงั้นน่ะ ทำไมกัน ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆว่านายกำลังคิดอะไรอยุ่กันแน่"ชิเอลถามอย่างสงสัยพรางเอาแขนโอบกอดคอเซบาสเตียนเอาไว้แน่น ขาหนีบกับเอวของคนให้ขี่หลังเอาไว้
"ก็นายน้อยขายังเจ็บอยุ่ไม่ใช่หรือขอรับ ผมก็ทำตามหน้าที่ของพ่อบ้านที่ดีก็แค่นั้นเอง อีกอย่างสภาพของคุณแบบนี้คงเดินไปเองไม่ไหวหรอก เส้นทางในป่าน่ะทั้งยาวไกลและขรุขระเต็มไปด้วยอันตรายทั้งนั้น ขืนปล่อยให้คุณเดินเองแล้วเมื่อไรห่จะไปถึงที่ตั้งแคมป์ล่ะครับ นี่ก็จะบ่ายแล้วด้วยนะ"เซบาสเตียนพูดไปตามความเป็นจริง
"งั้นเองหรอกเหรอที่แท้ฉันก็เป็นแค่ตัวถ่วงของนายเท่านั้นเองสินะ เข้าใจแล้วล่ะ อยากจะทำอะไรก็เชิญฉันจะไม่โวยวายอีกแล้วก็ได้ ฮึ"ชิเอลหลับตาพุดอย่างงอนๆ
"อะไรอีกล่ะนายน้อย ผมไม่ได้ว่าแบบนั้นสักหน่อยนะ อย่าคิดมากสิขอรับ"เซบาสเตียนพูดแก้ต่างพรางย่อตัวลงหยิบสำภาระขึ้นมาถือไว้เตรียมเดินทางต่อ
"ก็บอกแล้วไงว่าฉันจะไม่โวยวายอะไรอีก อยากจะทำอะไรก็ตามใจนาย รีบพาไปให้ถึงที่ตั้งแคมป์เร็วๆก็แล้วกัน"ชิเอลหลับตาพูดแขนกอดคอคนอุ้มไว้แน่นเพราะตอนนี้ไม่มีมือมารองรับชั้นตัวเขาอีก เนื่องจากคนอุ้มต้องเอามือมาถือของทั้งสองมือ
"ขอรับ นายน้อย"เซบาสเตียนจึงตอบรับแค่นั้นแล้วอุ้มพาเดินไปตามทางลึกเข้าไปในป่าเรื่อยๆ ผ่านสิ่งกีดขวางมากมาย ทั้งต้องกระโดดและก้มหลบขอนไม้ บางทีก็วิ่งหนีสัตว์ร้าย
คนถุกอุ้มก็ไม่พุดอะไรเอาแต่กอดคอคนอุ้มไว้แน่นซุกหน้าลงกับแผ่นหลังที่แข็งแกร่งและอบอุ่นนั้นอย่างเขินๆแต่ก็ออกจะชอบใจอยู่ที่ได้ใกล้ชิดกับคนที่เขารักมากที่สุดแบบนี้
แล้วก็เงียบไปตลอดทางจนกระทั่งเซบาสเตียนเดินทางมาถึงสถานที่ตั้งแคมป์
"หืม ที่เงียบๆไปเพราะกำลังหลับอยู่นี่เอง นายน้อยขอรับถึงแล้วนะขอรับ"เซบาสเตียนเรียกพรางวางชิเอลลงนั่งที่พื้นพร้อมกับกองสำภาระ ปลดคลายเชือกที่ี่ผูกเอวออกทั้งตัวเขาและตัวนายน้อยเอามาพันเก็บใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงเผื่อจะเอาไว้ใช้อีก แล้วรอให้นายน้อยตื่นเต็มตาซึ่งสถานที่ตั้งแคมป์นี้อยู่แถวริมลำธารและทางขึ้นเขาด้านบนเต็นน้ำตกห้าชั้นที่มีกระแสน้ำอันเชี่ยวกราด
"อืม..ที่นี่ที่ไหนเหรอ เซบาสเตียน"ชิเอลที่พึ่งตื่นถามด้วยท่าทางสลึมสลือเอามือขยี้ตาแล้วเงยหน้าขึ้นมามองรอบๆตัวอย่างสงสัย
"ก็ที่สำหรับตั้งเตนท์ของพวกเราไงขอรับ นายน้อย"เซบาสเตียนพูดพรางเริ่มลงมือเปิดกระเป๋าเดินทางแล้วหยิบอุปกรณ์ตั้งเตนท์มาจัดเตรียมไว้
"โห ที่นี่ตรงที่ฉันเคยเจอหมีนี่นา!!"ชิเอลร้องอย่างตกใจเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาเคยมาที่นี่มาก่อนตอนที่เขางอนเวบาสเตียนหนีออกจากบ้านมาโดยลำพัง
"เห นายน้อยเคยมาที่นี่ด้วยเหรอครับ"เซบาสเตียนหันมาถามพรางเริ่มลงมือตกเสาหมุดยึดเตนท์ไปพราง
"อืมตอนที่ฉันงอนนายและหนีออกจากบ้านมาฉันเดินหลงเข้ามาแถวนี้พอดีน่ะ ตอนนั้นฉันตั้งใจว่าจะแวะดื่มน้ำในลำธาร แต่โชคร้ายดันมาเจอหมีเข้าเสียก่อนก็เลย.."ชิเอลก้มหน้าพูดด้วยท่าทีเขินๆ
"เผ่นหนีป่าราบปีนขึ้นต้นไม้เลยสินะขอรับ"เซบาสเตียนจึงต่อให้เสร็จสรรพยิ้วแซวยิ้มๆ
"กะก็มัน..อึ้ย..0///0..ยะหยุดพูดได้แล้วน่า รีบๆกางเตนท์ให้เสร็จเร็วๆเลย ฉันจะได้กินอาหารกลางวันเสียที"ชิเอลพยายามโวยใส่ออกคำสั่งตัดบทไปทันทีด้วยใบหน้าแดงซ่านอย่างขัดเขิน
"ขอรับ หึหึหึ"เซบาสเตียนหันมาตอบรับยิ้มๆอย่างอารมณ์ดีก่อนจะก้มหน้าก้มตาจัดการเรื่องเตนท์ที่พักต่อให้เสร็จ ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่นานพ่อบ้านหนุ่มก็กางเตนท์เสร็จเรียบร้อย
แปะ แปะ
"เอาหล่ะ กางเตนท์เสร็จแล้ว นายน้อยจะมานั่งเล่นก็ได้นะขอรับ"เซบาสเตียนหันมาบอกชิเอลที่ยังคงนั่งรออยู่ที่พื้นหญ้าข้างๆลำธาร
"อืม แต่ว่าขาฉันยังเจ็บอยู่น่ะสิ"ชิเอลพยักหน้ารับแต่ก็ยังอดกังวลเรื่องขาของตนที่ตอนนี้บวมอักเสบอยู่น่ะสิ
"งั้นเดี่ยวผมนวดคลายเส้นให้ก่อนแล้วกันนะขอรับ เดี่ยวเราจะได้ทำกิจกรรมอย่างอื่นต่อ"เซบาสเตียนอาสาจะนวดให้ พรางเดินตรงมาหาเด็กขาเจ็บแล้วก้มตัวลงมารวบตัวเด็กหนุ่มมาอุ้มไว้ในอ้อมแขน พามาวางบนที่นอนในเตนท์
"หา ไม่เอาดีกว่า เดี่ยวก็หายเองแหละ ฉัน..อยากกินขนมแล้ว"ชิเอลรีบปฎิเสธทันควันด้วยความหวาดผวา เหงื่อตกรู้สึกกลัวการนวดคลายเส้นขึ้นมาเพราะเขารู้ดีว่ามันเจ็บสุดๆไปเลย
"เดี๋ยวนวดให้นายน้อยก่อนค่อยทานขนมนะขอรับ"เซบาสเตียนถอดรองเท้าของตนออกแล้วมุดเข้ามาในเตนท์คลานมานั่งคุกเข่าข้างๆเด็กของเขาแล้วทำท่าจะ...
"อึ่ก ไม่เอานะ นายจะทำอะไร อย่านะ!ไม่เอา!"ชิเอลร้องโวยลั่นดิ้นพราด เมื่อถูกพ่อบ้านซาตานคว้าขามาจับถอดรองเท้าออกทั้งสองข้างทำท่าจะจับนวดคลายเส้น
"ทนเจ็บนิดเดียวเองน่า ถ้าไม่คลายเส้นจะไม่หายนะขอรับ"เซบาสเตียนพูดปลอบใจแต่ก็ยังคงจับขาชิเอลมาถอดรองเท้าถุงเท้าต่ออยุ่ดี
"ไม่เอาอ่า ไม่เอา..มันเจ็บนะเซบาเตียน!!"ชิเอลร้องโวยหลับตาปี๋พยายามอดทนกับความเจ็บปวดที่ข้อเท้าให้ได้
"เจ็บแค่ครั้งเดียวดีกว่าเจ็บไปตลอดทั้งวันนะขอรับ"เซบาสเตียนพูดอย่างอ่อนโยน
"ไม่เอาถึงยังไงมันก็เจ็บอยู่ดี"ชิเอลโต้แย้งพยายามจะดึงขาหนี แต่เขาสู้แรงของซาตานหนุ่มไม่ได้
"เอาหล่ะ 1... 2... 3.."เซบาสเตียนไม่รอช้าเริ่มทำการนับเลขก่อนจะลงมือคลายเส้น และ
กร๊อบ!! กร๊อบ!!
"อ๊ากกกกก!!เจ็บ!!"ชิเอลก็แหกปากร้องดังสุดเสียง น้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวดแบบสุดๆ นี่เจ้าพ่อบ้านอีกาจะนวดให้เขาหรือว่าจะหักกระดูกเขากันแน่เนี่ย
และเพียงไม่นานเซบาสเตียนก็นวดคลายเส้นให้เสร็จเขาก็ปล่อยมือออกจากข้อเท้าพร้อมกับหยิบผ้ามาพันเอาไว้และผูกให้แน่นๆ
"ฮึก ฮือๆเจ็บจะตายอยู่แล้ว นี่นายจะหักกระดูกฉันหรือไง เจ้าบ้า ฮือๆ"ชิเอลร้องไห้สะอื้นโวยใส่คนหักกระดูก เอ้ยคนนวดอย่างโมโห
"เอาน่าอย่างน้อยตอนนี้นายน้อยไม่รู้สึกเจ็บแล้วใช่ม้า"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆพยายามแก้ต่าง
ชิเอลกระพริบตาปริบๆเอามือปาดเช็ดน้ำตาออกก่อนจะค่อยๆตระเกียกตะกายลูกขึ้นมายืนและก็ต้องประหลาดใจที่ว่าขาของเขาไม่รู้สึกเจ็บอีกแล้วจริงๆ
"ไม่เจ็บแล้วจริงๆด้วย"ชิเอลหลับตาพูดยอมรับก่อนจะทรุดตัวลงนั่งกอดเข่าตรงที่เดิม เอามือแตะเบาๆที่ข้อเท้าที่มีผ้าพันเอาไว้
"เห็นมัยล่ะถ้าไม่นวดคลายเส้นที่พลิกให้กระดูกกลับเข้าที่เข้าทางก็ไม่หายเจ็บสักทีสิขอรับ ตอนนี้นายน้อยกลับมาวิ่งได้สบายๆเลยนะขอรับ"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆอย่างยินดีที่ชิเอลหายเจ็บขาสักที
"อืม..ว่าแต่..ตอนนี้ฉันจะกินขนมได้หรือยังล่ะ เซบาสเตียน"ชิเอลพยักหน้าเห็นด้วยแล้วเขาก็เอ่ยถึงอาหารกลางวันเพื่อตัดบท เพราะตอนนี้เขาอยากจะกินขนมจะแย่แล้ว
"ขอรับเดี๋ยวไปเอาอาหารกลางวันมาให้ขอรับ รอสักครู่"เซบาสเตียนตอบรับก่อนจะมุดเต้นท์ออกไปจัดเตรียมอาหารกลางวันมาให้ชิเอล
"อืม เอาน้ำชามาให้ด้วยนะ"ชิเอลสั่งต่อแล้วจากนั้นก็นั่งรออยู่ในเตนท์
เซบาสเตียนเดินออกมาที่หน้าเตนท์เอากระตะกร้าที่ใส่อาหารออกมาจัดเตรียมอาหารกลางวันให้นายน้อยของเขาจัดใส่จานและรินน้ำชาใส่แก้วแล้วเอามาวางบนถาดถือเดินเข้าไปในเตนท์
"อาหารกลางวันมาแล้วขอรับ"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆพรางค่อยเอาถาดอาหารวางลงตรงหน้าชิเอลบนพื้นในเตนท์
"ไม่มีโต๊ะวางมั่งเหรอ ฉันไม่อยากกินบนพื้นนะ"ชิเอลเงยหน้าขึ้นมาถาม
"ไม่ได้เตรียมโต๊ะมาขอรับ เอาน่าคิดซะว่ามาปิคนิคแล้วกันนะขอรับ"เซบาสเตียนพูดปลอบใจยิ้มๆ
"ชิ เอางั้นก็ได้"ชิเอลหลับตาจิปากเชิดใส่ก่อนจะเอื้อมมือมาหยิบถ้วยน้ำชามาค่อยๆซดช้าๆ เขาไม่ได้ดื่มชามานานแล้วกลิ่นของชายังหอมหวานเหมือนครั้งสุดท้ายที่เขาได้ลิ้มรส
"จริงสิเซบาสเตียนในถุงผ้าที่นายห้อยไว้มันคืออะไรเหรอ"ชิเอลถามไปมือคว้าหยิบแซนวิชขึ้นมากินไปพรางจิบชาไปด้วยอย่างเอร็ดอร่อย
"หึ นายน้อยอยากรู้หรือขอรับ งั้นรีบๆทานให้เสร็จแล้วตามผมออกไปข้างนอกเตนท์สิ ผมจะเอาออกมาให้ดู"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆยั่วให้อยากแล้วเดินออกไปนอกเต้นท์เพื่อเตรียมของให้พร้อม
"อืม"ชิเอลพยักหน้าให้ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินอาหารกลางวันต่อไปให้หมดเร็วๆเขาอยากรู้เหลือเกินว่าของในถุงผ้าที่เซบาสเตียนพกมามันคืออะไร
และเพียงไม่นานในที่สุดชิเอลก็ทานอาหารกลางวันจนเสร็จเขาเอาจานและถ้วยชาที่ดิ่มกินหมดแล้ววางไว้ที่พื้นเตนท์แล้วลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอกไปพบกับเซบาสเตียนที่ยังคงนั่งรออยู่บนพื้นหญ้าข้างลำธาร
"ไหนล่ะเซบาสเตียนของที่นายจะให้ฉันดูน่ะ"ชิเอลเดินมาสมทบก็เอ่ยปากทักท้วงทันที
เซบาสเตียนหันมามองก่อนจะดันตัวลุกขึ้นยืนเดินมาเผชิญหน้ากับชิเอลแล้วทำท่าจะแกะเชือกที่คล้องไว้กับเข็มขัดแล้วคลี่เปิดปากถุงพร้อมกับดึงของบางอย่างออกมาซึ่งมีขนาดยาวไม่ถึงเมตร
"นี่มันอะไรน่ะ"ชิเอลถามมองดูของวัตถุแข็งๆที่เซบาสเตียนเอาออกมาจากในถุงถือโชว์ให้เขาดู
"ดาบพระราชทานไงขอรับ ที่ผมบอกกับนายน้อยว่าจะสอนให้คุณใช้ดาบเล่มนี้เพื่อเอาไว้ใช้แข่งไง"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆ
"หา..ไอ้นี่น่ะเหรอดาบพระราชทาน ล้อเล่นน่า ทำไมอันแค่นี้ล่ะ แถมยังดูทื่อๆเหมือนขึ้นสนิมเลยนะ จะฟันอะไรได้เล่า"ชิเอลพูดอย่างดูแคลนมองดูดาบอย่างไม่ค่อยเชื่อถือนักว่าของดาบด้ามเล็กๆที่เหมือนคมของมันจะมีแต่คลาบสนิมจับเขลอะแบบนี้ มันจะฟันอะไรได้บ้างล่ะ
"ไม่ได้ล้อเล่นขอรับ นี่คือดาบพระราชทานจริงๆ "เซบาสเตียนพูดด้วยท่าทีจริงจัง
"หึ ไม่เชื่อหรอก ไอ้ของสิ่งนี้จะทำอะไรได้อย่าว่าแต่เอามาฟันต้นไม้เลย แค่ตัดกระดาษจะขาดหรือเปล่าก็ไม่รู้ นายจะพกมาทำไมกันน่ะ"ชิเอลหลับตาพูดอย่างดูแคลนเขาไม่เชื่อเด็ดขาดว่าของสิ่งนี้จะเอามาใช้ประโยชน์ได้ มันก็แค่แท่งเล็กทื่อๆที่ไม่มีความคมเลยแม้แต่น้อย
"แหมนายน้อยยังไม่ได้ลองใช้เลยจะรู้ได้ยังไงว่าใช้ไม่ได้"เซบาสเตียนพูดโต้แย้ง
"ถ้าอย่างงั้นนายก็ลองใช้ไอ้เหล็กขึ้นสนิมนี่ตัดต้นไม้ให้ดูหน่อยสิ ทำได้มัยล่ะ"ชิเอลพูดท้าทายยิ้มเจ้าเล่ห์
"หึ ทำได้สบายมากขอรับ ดูให้ดีๆนะขอรับ"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆแล้วจากนั้นเขาก็เริ่มทำการสาธิต โดยเริ่มจากการจับดาบไว้ด้วยมือให้มั่นคงกระชับไว้ หลับตาลงตั้งสมาธิถ่ายพลังปีศาจลงไปในดาบขึ้นสนิมเล่มเล็กที่ขนาดไม่ถึงเมตร หากเทียบความยาวของดาบมีขนาดเพียงแค่น่องของเขาเท่านั้น
ชิเอลเงยหน้ามองดูอย่างสนใจแล้วเขาก็ต้องตกใจอ้าปากค้าง ดวงตาสีท้องฟ้าเบิกกว้างด้วยความตกตลึงกับสิ่งที่เห็นว่าขนาดของดาบเริ่มยาวเรียวขึ้น สีของสนิมแดงๆค่อยๆหายไปกลายเป็นดาบสีเงินที่วาบวับ ด้ามจับทำจากทองคำมีอัญมณีสีแดงดุจเลือดประทับอยู่ที่ปีกของดาบ
"มะ ไม่จริงน่า นั่นคือดาบขึ้นสนิมอันนั้นจริงๆน่ะเหรอ!! 0*0"ชิเอลร้องถามอย่างตื่นตลึงรีบเดินมาดูใกล้ทำท่าจะเอื้อมมาจับ แต่เซบาสเตียนกลับยกชูขึ้นเหนือศรีษะไม่ยอมให้ชิเอลมาแตะต้องดาบเขาได้ง่ายๆ
"ก็ใช่น่ะสิขอรับ นี่แหละคือดาบพระราชทาน เป็นดาบปีศาจที่หายากมากเลยนะ ในโลกปีศาจมีแต่ปีศาจเอสคราสระดับสูงเท่านั้นที่จะมีดาบแบบนี้ได้ ปีศาจทั่วๆไปน่ะน้อยคนนักที่จะมีนะขอรับ"เซบาสเตียนหลับตาพูดสาธยายสรรพคุณของดาบให้ชิเอลฟั
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ