[FIC BEAST] BAD LOVE...ผู้ชายเลว!

10.0

เขียนโดย doraaung

วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 17.50 น.

  45 ตอน
  5 วิจารณ์
  74.31K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 17.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

41) รักดอกจึงหยอกเล่น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

[FIC BEAST] BAD LOVE…ผู้ชายเลว!

Chapter 41

รักดอกจึงหยอกเล่น

 

 

 

 

“นายไม่ป้อนฉันหน่อยเหรอ”ดงอุนมองกีกวังอย่างอ้อนๆ แต่กีกวังกลับนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ต่ออย่างไม่สนใจ

 

 

“กีกวัง ฉันหิวข้าวนะ”

 

 

“นายแค่ไม่สบาย ไม่ได้พิการ อย่าลืมสิ”

 

 

“ง่า”ดงอุนหน้าบึ้งเล็กน้อยก่อนที่จะถอนหายใจออกมาแล้วก็ก้มหน้าก้มตากินข้าว กีกวังอมยิ้มที่มุมปากนิดๆ

 

 

“พรุ่งนี้นายก็กลับบ้านได้แล้วนี่”

 

 

“อื้ม ไม่อยากกลับเลยอ่า”

 

 

“ทำไมถึงไม่อยากกลับล่ะ”

 

 

“ถ้ากลับฉันคงจะไม่ได้เห็นนายนานขนาดนี้น่ะสิ”ดงอุนเงยหน้าขึ้นไปสบตากับกีกวังที่มองเขาอยู่ กีกวังยักไหล่ไม่สนใจแล้วก็แกล้งทำเป็นยกหนังสือพิมพ์ขึ้นมาบังหน้าก่อนจะแอบยิ้มอย่างเขินอาย

 

 

“นายกำลังแอบอายอยู่เหรอ”รอยยิ้มของกีกวังหายไปทันที เขาค่อยๆเอาหนังสือพิมพ์ลงก่อนจะแลบลิ้นใส่ดงอุน

 

 

“หลงตัวเองจริงๆเลย ทำไมฉันจะต้องเขินหรืออายนายด้วย”

 

 

“ไม่รู้สิ เพราะนายรักฉันมั้ง”กีกวังเสมองไปทางอื่นก่อนจะวางหนังสือพิมพ์ลง

 

 

“นายพูดแบบนี้ได้ยังไง ตอนนี้ฉันกับนายเป็นเพื่อนกันอยู่นะ”ดงอุนยิ้มที่มุมปากนิดๆ

 

 

“เพื่อนกันแล้วไม่รักกันหรือไงเล่า”กีกวังกำหมัดแน่นอย่างเจ็บใจ เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะนั่งลงกับโซฟาอย่างหงุดหงิด

 

 

“นายกำลังอายอีกแล้วนะกีกวัง”

 

 

“เรื่องของฉันเถอะนะ กินๆเข้าไป”

 

 

“ครับๆ”แล้วดงอุนก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่ออย่างมีความสุขที่ได้แกล้งกีกวังเล่น

 

 

“ฉันไปเดินเล่นก่อนนะ”

 

 

“ที่ไหนอ่า”

 

 

“ข้างล่างนั่นแหละ อยู่ในนี้นานๆแล้วรู้สึกแปลกๆ”

 

 

“นายไม่อยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนเหรอ”

 

 

“อยู่คนเดียวไปเถอะ”กีกวังแลบลิ้นให้กับดงอุนอีกครั้งก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไป

 

 

“เฮ่อๆ บ้าชะมัด”กีกวังพิงประตูห้องพร้อมกับตบหน้าของตัวเองเบาๆ

 

 

“ให้ตายเถอะ ทำไมหัวใจต้องเต้นแรงขนาดนี้ด้วยเนี่ย ตายๆ แบบนี้ไม่ไหว ขอไปสูดอากาศหายใจก่อนแล้วกัน”แล้วกีกวังก็เดินลงไปที่สวนหย่อมข้างล่าง ดงอุนวางช้อนลงก่อนจะนั่งมองอาหารที่เขาไม่อยากกินเลยสักนิด

 

 

“ถ้าหากนายป้อน มันคงจะอร่อยน่าดูเลย”ดงอุนถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินออกไปสูดอากาศที่ระเบียง เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่กำลังสว่างสดใส

 

 

ช่วยเป็นเพื่อนฉัน ได้ไหม”

 

 

คำพูดของกีกวังทำให้ดงอุนเจ็บปวดเล็กน้อย

 

 

“กีกวังทำไมนายถึงตัดสินใจอย่างนี้นะ”ดงอุนก้มมองด้านล่างแล้วเขาก็เห็นกีกวังกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ เขามองกีกวังอย่างไม่เข้าใจ

 

 

“ทำไมนายต้องไป ไม่รักฉันแล้วเหรอ สองปีเชียวนะกีกวัง ฉันจะรั้งนายไว้ดีไหม”ดงอุนมองกีกวังอย่างครุ่นคิดก่อนที่เขาจะคิดอะไรบางอย่างได้แล้วก็ลงไปหากีกวังทันที

 

 

“เฮ้อออออ”กีกวังถอนหายใจออกมาแล้วยิ้มรีบอากาศบริสุทธิ์

 

 

“ถอนหายใจ ไม่ดีน๊า แฮ่ๆ”กีกวังหันไปมองคนแก่คนหนึ่งที่มานั่งอยู่ข้างเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

 

 

“จะถอนหายใจทำไม มีเรื่องอะไรเหรอ”กีกวังมองคนแก่ที่นั่งยิ้มให้เขาอยู่อย่างงงๆ

 

 

ท่าทางจะเป็นคนไม่เต็มหรือไม่ก็เกิน เอ๋ หรือไม่ใช่หว่า

 

 

“มองหน้าทำไม”

 

 

“เอ่อ เปล่าครับ ผมว่าคุณยายสวยดีก็เลยมอง”

 

 

“รู้ว่าโกหก แต่ก็ขอบใจ อิอิ”คนแก่นั่งหัวเราะเล็กน้อย กีกวังเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มออกมาบางๆ

 

 

“โลกใบนี้ มันสวยจังเลยเนอะ”อยู่ๆคุณยายก็หยุดหัวเราะแล้วก็พูดอะไรแปลกๆออกมา

 

 

“ครับ ผมก็ว่าอย่างนั้น”

 

 

“แล้วพ่อหนุ่มมีแฟนหรือยังล่ะ”

 

 

“เอ๋”กีกวังมึนงงเล็กน้อยกับคำถามของคุณยายที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่พูดตอนแรกเลยสักนิด

 

 

“คุณยายถามทำไมเหรอครับ”

 

 

“อยากรู้ ได้ยินมาว่าการมีคนรักทำให้โลกใบนี้สวยงาม งั้นที่โลกสวยก็เพราะว่าความรัก”กีกวังยังคงทำหน้างงไม่เข้าใจ

 

 

“พ่อหนุ่มมีความรักไหม”

 

 

“เอ่อ”กีกวังมองหน้าคุณยายอย่างลำบากใจ เขาไม่รู้จะพูดยังไงดี

 

 

“ไม่รู้สิฮะ”

 

 

“ว๊า ได้ยังไงกัน อย่างนี้ท่าทางจะแย่ พ่อหนุ่มไม่รู้หรอกเหรอว่า ความรักทำให้คนเรามีความสุขแค่ไหน”กีกวังมองหน้าคุณยายที่ตอนนี้กำลังยิ้มอย่างเพ้อฝัน

 

 

“ตลอดชีวิตของยาย ความรักคือสิ่งสวยงาม”กีกวังเบิกตากว้างเมื่อเห็นน้ำตาของคุณยายไหลออกมาทั้งๆที่ใบหน้ายังคงเปื้อนยิ้มอยู่อย่างมีความสุข

 

 

“ยายก็มีความรัก ความรักที่ยิ่งใหญ่ แต่น่าเสียดาย น่าเสียดาย”สายตาของคุณยายเริ่มหม่นหมอง กีกวังได้แต่นั่งมองอย่างทำอะไรไม่ถูก เขารู้สึกสงสารทั้งๆที่ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับคุณยายเลยสักนิด กีกวังค่อยๆยกมือไปกุมมือของคุณยายเพื่อให้กำลังใจ คุณยายก้มมองมือของกีกวังแล้วน้ำตาก็ไหลออกมามากกว่าเดิม

 

 

“เขาชอบทำแบบนี้เสมอเวลายายร้องไห้ เขาไม่พูดอะไร มีเพียงมือที่กุมมือของยายเอาไว้ ทำให้ยายรู้ว่า แม้ยายจะร้องไห้แต่ก็ยังมีเขาอยู่ข้างๆ”คุณยายยกมือไปจับมือของกีกวัง

 

 

“มือของเขาจะนุ่มมาก ยายจะชอบเอามาแนบหน้าแบบนี้”แล้วคุณยายก็จับมือกีกวังไปแนบที่หน้าของตัวเอง

 

 

“อย่าร้องไห้นะ”คุณยายพูดทั้งน้ำตา

 

 

“คำพูดที่ยายมักได้ยินจากปากของเขาเสมอ แม้กระทั่ง….”คุณยายสบตากับกีกวังนิ่ง

 

 

“แม้กระทั่งเขาจากยายไปตลอดกาล”

 

 

กึก

 

 

กีกวังรู้สึกอึ้งที่ได้ยินอย่างนั้น

 

 

“อย่าร้องไห้นะ ประโยคสุดท้ายที่เขาพูดกับยาย”คุณยายยิ้มบางๆน้ำตาก็ยังคงไหลอยู่ไม่หยุด

 

 

“น่าเสียดายที่ไม่อาจอยู่ด้วยกันได้ น่าเสียดายจริงๆ”กีกวังรู้สึกเจ็บลึกที่หัวใจที่ได้ยินอย่างนั้น ทั้งๆที่น้ำตาไหลแต่ก็ยังยิ้มได้แม้แววตาจะแสดงออกมาเจ็บปวด แต่ก็ยังยิ้มได้ ทั้งๆที่รักกันมากแต่ก็ถูกพรากจากกันอย่างไม่มีวันได้เจอ

 

 

“คุณยายคะ มานั่งทำอะไรตรงนี้ ได้เวลากินข้าวแล้วนะคะ”เสียงพยาบาลคนหนึ่งดังขึ้นทำให้กีกวังสะดุ้งเล็กน้อย พยาบาลเดินมาประคองคุณยายให้ลุกขึ้น

 

 

“ขอโทษด้วยนะคะ แกไม่ค่อยปกติเท่าไหร่”พยาบาลยิ้มให้กับกีกวังก่อนจะพาคุณยายเดินจากไป แต่ทว่าคุณยายกลับหันมายิ้มให้กับกีกวังอีกครั้ง

 

 

“น่าสงสารจัง เฮ้ออออ”

 

 

“นายถอนหายใจบ่อยจัง”กีกวังรีบหันไปมองดงอุนที่ยืนอยู่อย่างตกใจ

 

 

“นายมาได้ยังไงกันเนี่ย เดี๋ยวก็ไม่สบายมากกว่าเดิมหรอก”

 

 

“นายเป็นห่วงฉันเหรอ”ดงอุนแกล้งพูดเล่นๆก่อนจะเดินมานั่งข้างกีกวัง

 

 

“อื้ม”ดงอุนชะงักไปเล็กน้อย เขามองหน้ากีกวังอย่างอึ้งๆ

 

 

“จะอึ้งทำไม เพื่อนกันนิ เป็นห่วงกันไม่เห็นจะแปลก”กีกวังยักไหล่เล็กน้อยก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้า

 

 

“ท้องฟ้าสวยนะ”

 

 

“อื้ม ถึงได้มองไง สบายตาดี”

 

 

“กีกวัง”

 

 

“ว่าไง”

 

 

“ไม่ไปได้ไหม”กีกวังนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มที่มุมปากนิดๆ

 

 

“ไม่ได้หรอก ฉันต้องไป อย่าห้ามเลย”

 

 

“ไม่ไปได้ไหม”ดงอุนยังคงพูดประโยคเดิม กีกวังเลิกมองท้องฟ้าแล้วมามองหน้าดงอุนแทน

 

 

“ไม่อยากให้ฉันไปเหรอ”

 

 

“ไม่อยากเลยสักนิด”ดงอุนพูดอย่างจริงใจและจริงจัง

 

 

“ฉันไปแค่สองปีนะ ไม่ได้ไปตลอดชีวิตซักหน่อย”

 

 

“แต่ฉันคิดถึงนาย อยากอยู่กับนายนี่ นายไม่คิดถึงฉันเลยเหรอ”

 

 

“คงคิดถึงแหละมั้ง”

 

 

“กีกวังอา”

 

 

“ดงอุน ฉันบอกจะไปก็คือไป เข้าใจแล้วนะ ถ้าขืนนายยังไม่เลิกพูดฉันจะกลับบ้านไม่นอนเป็นเพื่อนนายเลย คอยดู!!”ดงอุนรีบเม้มปากตัวเองทันที

 

 

“ดีมาก”กีกวังยิ้มให้กับดงอุนก่อนจะเอนหัวพิงกับเก้าอีแล้วก็หลับตาลงช้าๆ

 

 

“รู้สึกสบายจังเลย ดีจัง”ดงอุนมองใบหน้าของกีกวังที่กำลังหลับตายิ้มอยู่ เขาสำรวจใบหน้าของกีกวังอย่างละเอียด แล้วสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่ริมฝีปากของกีกวังที่เขามักจะได้สัมผัสกับมันเสมอ ดงอุนห้ามความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ เขาค่อยๆยกมือขึ้นไปแตะที่ริมฝีปากของกีกวังเบาๆ กีกวังลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆหันไปมองหน้าดงอุนที่นั่งยิ้มบางๆอยู่

 

 

“นาย….”

 

 

“ชู่”เสียงของดงอุนทำให้กีกวังไม่พูดอะไรต่อ ดงอุนลูบริมฝีปากของกีกวัง อย่างเพลิดเพลิน แล้วเขาก็ค่อยๆโน้มหน้าเข้ามา กีกวังเห็นอย่างนั้นก็เอนตัวหนี แต่ดงอุนก็ไม่ยอมหยุด จนตอนนี้ใบหน้าของทั้งสองคนอยู่ห่างกันแค่ฝ่ามือเดียว

 

 

“นายจะทำอะไร”กีกวังถามเสียงสั่น ตอนนี้หัวใจของเขากำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ

 

 

“ขอได้ไหม อยากแตะมันอีกสักครั้ง”ดงอุนมองตากีกวังก่อนจะเลื่อนลงมามองที่ริมฝีปากของกีกวัง

 

 

“จะบ้าเหรอ เพื่อนที่ไหนเขาจูบกัน”ดงอุนยิ้มนิดๆเขาค่อยๆเอื้อมมือไปกอดเอวของกีกวังแน่น

 

 

“นะ”กีกวังมองตาดงอุนอย่างสั่นๆแล้วดงอุนก็ค่อยๆเอียงหน้าเพื่อไม่ให้จมูกของเขาติดกับจมูกของกีกวัง กีกวังหายใจหอบๆเขามองริมฝีปากของดงอุนไม่กระพริบ ดงอุนเลื่อนเข้ามาใกล้มากขึ้น เขาหลับตาพริ้ม กีกวังมองอย่างใจสั่นก่อนจะค่อยๆหลับตาลงแล้วรับสัมผัสอันอ่อนหวานที่โหยหามานาน

 

 

“ฉันรักนายกีกวัง จะรักและรอนายเสมอ”ดงอุนพูดจบก็ค่อยๆสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของกีกวังก่อนที่ทั้งสองคนจะจูบกันอย่างดูดดื่ม กีกวังกอดรัดคอของดงอุนแน่น

 

 

ติ๊ดๆ

 

 

เสียงโทรศัพท์ของกีกวังดังขึ้นแต่ทั้งสองคนก็ยังไม่หยุดจูบกัน

 

 

ติ๊ดๆ

 

 

โทรศัพท์ดังอีกครั้งแต่ดูเหมือนทั้งสองคนจะไม่ยอมห่างออกจากกัน

 

 

ติ๊ดๆ

 

 

กีกวังค่อยๆดันดงอุนออก

 

 

“ฉันต้องรับ”

 

 

“ไม่นะ”ดงอุนก้มลงจูบกีกวังอีกครั้ง กีกวังก็รับสัมผัสไม่ได้ผลักไสแต่อย่างใด

 

 

ติ๊ดๆ

 

 

“อ่า ฉันต้องรับจริงๆดงอุน”กีกวังมองตาดงอุนนิ่ง เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อยอย่างรู้สึกเสียดาย แล้วดงอุนก็ผละออกจากตัวของกีกวังกลับไปนั่งตามปกติ กีกวังหยิบมือถือขึ้นมา เขาเบิกตากว้างเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าใครโทรมา กีกวังหันไปมองหน้าดงอุนอย่างอายๆ

 

 

“เอ่อ ฉันขอตัวก่อนนะ”กีกวังพูดกับดงอุนก่อนจะรีบเดินออกไป ดงอุนได้แต่มองอย่างสงสัย แต่เมื่อเขายกมือขึ้นสัมผัสกับริมฝีปากก็ทำให้เขายิ้มออกมาทันที

 

 

“นายยังรักฉันอยู่ใช่ไหม กีกวัง”

 

 

กีกวังรีบเดินออกมาให้ห่างไกลจากดงอุน เขามองซ้ายมองขวาเล็กน้อยเพื่อความชัวร์ก่อนจะกดรับมือถือ

 

 

“ครับแม่ คิดถึงจังเลย จุ๊บๆ”กีกวังทักทายด้วยน้ำเสียงสดใจ

 

 

(แหมๆ มาทำเป็นปากหวานนะเรา แม่ก็คิดถึงเช่นกันจ้า จุ๊บๆ)

 

 

“อิอิ แม่มีอะไรเหรอครับ”

 

 

(มีสิ ไม่งั้นจะโทรมาทำไมล่ะ เรื่องของเรานั่นแหละ เมื่อไหร่จะมาหาแม่ซักที อยากจะเจอหน้าลูกชายจะตายอยู่แล้ว)

 

 

“เง้อ ผมก็กำลังจะไปอยู่นี่ไงครับ เดี๋ยวจะอยู่ให้หายคิดถึงเลย”

 

 

(สองอาทิตย์นี่นะ น่าจะอยู่ซักสองปี)

 

 

“เง้อ ก็ผมต้องเรียนนี่นะ หยุดไปสองอาทิตย์ก็ถือว่าเยอะแล้วน๊า”

 

 

(จ้าๆ ก็ได้ๆ แล้วทำไมไม่ลากพี่ชายคนสวยมาด้วยล่ะ รายนั้นแม่ก็คิดถึงนะ)

 

 

“เห็นพี่บอกว่า ติดสอบพอดี เดี๋ยวจะไปทีหลัง”

 

 

(งั้นเหรอจ๊ะ อุ๊ยตายแล้ว กี่นาทีแล้วเนี่ย เปลืองเงินน่าดูเลย นิวซีแลนด์อยู่ตั้งไกลซะด้วยสิ เฮ้อ ที่นี่กำลังหนาวเลยเอาเสื้อผ้ามาให้เยอะๆนะ เดี๋ยวแม่จะพาเที่ยวให้หนำใจไปเลย)

 

 

“ครับๆ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวคุณแม่ขี้งกจะขนหน้าแข้งร่วงเพราะเงินโทรศัพท์หาลูกชาย”

 

 

(ดูพูดเข้าไอ้ลูกคนนี้นี่ แล้วเจอกันนะ เดินทางปลอดภัยนะลูกรัก แม่รักลูกจ้า)

 

 

“ครับ ผมก็รักแม่ รักที่สุดในโลกเล้ยยยย”แล้วกีกวังก็กดตัดสายไป เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบางๆเมื่อได้ยินเสียงแม่ แล้วเขาก็ยกมือขึ้นไปแตะที่ริมฝีปากของตัวเองเบาๆแล้วก็ยิ้มหนักกว่าเก่า

 

 

“ดงอุน นายมันบ้า ชิชะ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“โยซอบบบบบบบบ มาหาพี่เดี๋ยวนี้เลยนะ”

 

 

“ไม่เอา ไม่ไป”โยซอบรีบวิ่งไปหลบหลังโซฟาอย่างรวดเร็ว

 

 

“โยซอบอ่า มาหาพี่เร็ว”

 

 

“ไม่เอา เค้าไม่ไป พี่มันโรคจิต จะไปไหนก็ไปเลยนะ อย่ามาใกล้เค้า เค้ากลัว”ดูจุนยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาค่อยๆย่องไปนั่งบนโซฟาอย่างเบาๆ

 

 

“พี่โรคจิตตรงไหนกัน”

 

 

“ไปถอดเสื้อออกเลยนะ ถ้าถอดออกเค้าจะไปหา ไปถอดออกๆ”ดูจุนก้มมองเสื้อสีขาวที่ตัวเองสวมใส่อยู่ ดูเผินๆก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าดูดีๆและชัดๆจะเห็นรูปผู้ชายกำลังทำกิจกรรมด้วยท่าต่างๆเต็มไปหมดทั่วเสื้อ โยซอบเห็นครั้งแรกถึงกลับตกใจ

 

 

“พี่แค่ใส่มาให้โยศึกษาไงว่าเขาทำท่าไหนกันบ้าง พี่สอนโยได้ไม่หมดหรอกนะ แค่ครั้งเดียวต่อวันโยก็อ่อนปลวกเปียกแล้วอ่า บอบบางเกินไป”โยซอบกัดปากตัวเองแน่น

 

 

“ไม่รู้แหละ ยังไงก็ไปถอดออก เค้าดูซีดีเอาก็ได้นี่นา”

 

 

“เฮ้อ ดื้อจริงๆเลย ดูซีดีเคยจบที่ไหนกัน แค่เริ่มมาโยก็เสร็จพี่แล้วอ่า”

 

 

“ไปไกลๆเลยนะคนโรคจิต วันๆเอาแต่คิดเรื่องพวกนี้ไม่เป็นอันทำอะไร เซ็กส์จัดเกินไปแล้วนะ ไหนเคยบอกไว้ว่าเซ็กส์ไม่จำเป็นสำหรับความรักไง นี่อะไรกัน ได้โยทีเดียวเล่นไม่หยุดเลยอ๊ะ ฮึ่ย!!”โยซอบลุกขึ้นแล้วมองหน้าของดูจุนที่กำลังหัวเราะกับคนบ่นของเขาอยู่

 

 

“มันตลกตรงไหนกัน เค้าระบมไปทั้งตัวแล้วนะ”ดูจุนมองโยซอบตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

 

 

“ไม่เห็นเลยอ่า ถอดเสื้อผ้าเร็วจะได้มองว่าระบมตรงไหนบ้าง”

 

 

“แนะ แค่นี้ยังจะมาทะลึ่งใส่เค้าเลย โรคจิตจริงๆ”โยซอบกอดอกมองดูจุนอย่างไม่พอใจนิดๆ

 

 

“ก็พี่รักโยนี่นา แล้วมันก็ติดใจด้วย หยุดไม่ได้”

 

 

“หื่น!!!”

 

 

“ยอมรับก็ได้ครับว่าหื่น แต่ก็หื่นกับโยคนเดียวน๊า”

 

 

“ลองไปหื่นกับคนอื่นสิ”โยซอบจิกตามองดูจุนอย่างดุๆ ดูจุนหัวเราะออกมานิดๆ

 

 

“ลองบ้างดีกว่า อยากเห็นโยหึงพี่จังเลยอ่า”

 

 

“พี่ดูจุนอ่า!!!”โยซอบกระทืบเท้าไปมาอย่างงอแง

 

 

“จะไปหื่นกับใครดีน๊า ผู้ชายตัวเล็กๆ น่ารักๆ ขาวๆ หุ่นดีๆ มีใครน๊า”ดูจุนทำท่าครุ่นคิดเพื่อยั่วโยซอบ

 

 

“ใช่สิ ไม่เซ็กซี่ แถมยังตัวบวม มีดีก็แค่ขาวและน่ารัก พี่คงเบื่อเค้าแล้วใช่ไหมถึงจะไปหาคนอื่นน่ะ”ดูจุนทำตาโตอย่างขำๆกับท่าทางงอนๆของโยซอบในตอนนี้

 

 

“โยเนี่ยนะ น่ารัก!!”

 

 

“พี่ดูจุน!! เค้างอนแล้ว ไม่ต้องมาพูดกันเลยนะ ชิส”โยซอบจะเดินหนีดูจุนเข้าไปในห้องนอน ดูจุนรีบวิ่งไปกอดโยซอบไว้

 

 

“ใครบอกว่าโยน่ารัก”

 

 

“ปล่อยเค้าเลยนะ ไม่พูดด้วยแล่ว”โยซอบพยายามจะดิ้นให้หลุดแต่ก็ไม่เป็นผล

 

 

“โยน่ะ โคตรจะน่ารักเลยต่างหากล่ะ”

 

 

กึก

 

 

โยซอบหยุดดิ้นก่อนจะหน้าแดงขึ้นมาด้วยความเขินอาย ดูจุนได้ทีก็จูบที่ใบหูของโยซอบเบาๆ

 

 

“พูดจาแบบนี้จะหลอกแอ้มเค้าอีกแล้วใช่ไหม”โยซอบหันตัวมามองหน้าของดูจุน

 

 

“เปล่าน๊า พี่อยากชมก็ชม”

 

 

“เค้าไม่เชื่อหรอก”

 

 

“นิดนึง”

 

 

“เห็นมะ พูดแบบนี้ทีไรต้องการผลประโยชน์ทุกที คราวหลังถ้าไม่จริงใจก็ไม่ต้องพูดออกมาเลยนะ ไม่งั้นเค้าจะงอนจริงๆด้วย”โยซอบมองดูจุนหน้าบึ้ง

 

 

“แล้วตอนนี้โยงอนพี่หรือเปล่า”

 

 

“ตอนนี้ยัง”

 

 

“งั้นก็เข้าห้องกันเถอะ”ดูจุนพุ่งเข้ามาจะอุ้มโยซอบ แต่โยซอบกลับถอยหนีทัน

 

 

“มาแบบนี้อีกและ เจ็บอยู่ๆ ยังไม่หายเลย เลิกคิดไปเลยนะ”

 

 

“อะไรกัน เมื่อคืนพี่เบาแรงสุดๆแล้วนะ”

 

 

“เฮอะ นั่นเหรอที่เรียกว่าเบาแรง ร้องดังไปแปดบ้านเนี่ยนะ”โยซอบท้าวส่ายเอวมองดูจุน เขาหน้าแดงด้วยความอายนิดๆเมื่อคิดถึงกิจกรรมเมื่อคืนที่สองคนลองท่าใหม่กัน แล้วนั่นก็เป็นเรื่องที่โยซอบอายที่สุดและไม่คิดอยากจะทำท่านั้นอีกเลย

 

 

“พี่เบาแรงมังกรพี่ แต่ที่โยร้องดังเพราะตัวโยและมังกรของโยกระแทกกับกำแพงต่างหาก”โยซอบกัดปากแล้วก้มหน้ามองเท้าของตัวเอง ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนวิ่งวนอยู่ในหัวของเขา

 

 

“แล้วทำไมต้องยืนทำด้วยเล่า แบบนั้นมันปวดขานะ”

 

 

“งั้นคราวหลังไม่ยืนแล้ว นอนบนเตียงนุ่มๆก็ได้”

 

 

“โอ๊ย!! เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกว่าพี่โรคจิตวิปริตที่สุดเลย”ดูจุนไอออกมากับคำพูดของโยซอบ

 

 

“วิปริตเลยเหรอเนี่ย ว๊า สงสัยพี่คงจะหลงโยจนโงหัวไม่ขึ้นซะแล้ว”

 

 

“ไม่เอาๆ ไม่อยู่ในห้องแล้ว ไปหาอะไรกินกันดีกว่า”

 

 

“ไปที่อื่นก็ทำที่อื่นได้นะ พี่ได้ทุกสถานที่”

 

 

“พี่ดูจุน พี่บ้าไปแล้วเหรอ ถนอมๆเค้าหน่อยสิ ฮึ่ย!!”โยซอบนั่งลงกับพื้นอย่างงอแง ดูจุนเห็นอย่างนั้นก็ถอนหายใจออกมา

 

 

“ครับๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้ โยคงจะเหนื่อย”โยซอบยิ้มออกมานิดๆ

 

 

“พี่ชอบทำให้โยอายอยู่เรื่อยเลยอ่า”

 

 

“ก็โยอายมันน่ารักนี่ เวลาโยแก้มแดงนะ น่ามองที่สุดเลย”

 

 

“จริงเหรอ”

 

 

“จริงสิ พี่จะโกหกโยทำไม แต่ต่อไปไม่แกล้งแล้วก็ได้”โยซอบมองหน้าดูจุนเล็กน้อย

 

 

“ไม่เอาๆ ถ้าพี่มีความสุขก็แกล้งไปเถอะ เค้ายินดี”

 

 

“จริงอ๊ะ”

 

 

“จริงสิ ก็เค้ารักพี่นี่นา ถ้าชอบมองนักเดี๋ยวเค้าจะปัดแก้มให้แดงเลย”

 

 

“อย่ามาบ้านะโย ไม่เอา ไม่ให้แต่งหน้า เป็นโยแบบนี้แหละดีแล้ว”

 

 

“อิอิ ดียังไงเหรอ”ดูจุนยิ้มออกมานิดๆก่อนจะเอื้อมมือไปจับใบหน้าของโยซอบ

 

 

“ดีก็ตรงที่พี่รักยังโยซอบคนนี้ไงล่ะ”ทั้งสองคนสบตากันด้วยรอยยิ้ม โยซอบมองดูจุนด้วยความเขินอาย แต่ก็เต็มไปด้วยความรัก

 

 

“บ้า เขินอีกแล้วอ๊ะ”โยซอบนั่งบิดไปบิดมา ดูจุนมองแล้วก็รู้สึกหัวใจประชุ่มกระชวยขึ้นมา

 

 

“เขินบ่อยๆอ่าดีแล้ว พี่ชอบ จุ๊บ”แล้วดูจุนก็แอบขโมยหอมแก้มของโยซอบ ก่อนที่เสียงหัวเราะของทั้งสองคนจะดังตามมา

 

 

“เค้าหอมมั่งนะ”แล้วโยซอบก็หอมแก้มของดูจุน ทั้งสองคนผลัดกันหอม หอมกันไปหอมกันมาสุดท้ายแล้วจุดจบก็ไปอยู่บนเตียงจนได้สิ เฮ้ออออ

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฮ่าๆ จั๊กจี๋อ่า ถอยไปเลยนะ”ฮยอนซึงดันจุนฮยองให้ออกห่างจากตัวเอง

 

 

“นายไปล้างตรงโน้นเลย ไกลๆฉันด้วย อยู่ใกล้เป็นต้องแอบจับเล็กจับน้อยอยู่เรื่อง”ฮยอนซึงโวยวายใส่จุนฮยองที่แอบจับก้นของเขาเมื่อสักครู่นี้

 

 

“ก็ก้นนายมันสวยนี่นา”

 

 

“เห็นบ่อยยังจะมาแอบจับอีกนะ”จุนฮยองหัวเราะออกมาเบาๆ

 

 

“นั่นสินะ เดี๋ยวนี้ฉันเห็นก้นของนายบ่อยเหลือเกิน นิ๊มนิ่ม”

 

 

“ทะลึ่ง รีบๆล้างจะได้อาบน้ำแล้วไปหาข้าวกินกัน”

 

 

“ครับๆ”แล้วจุนฮยองก็ล้างรถต่อแต่ก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งฮยอนซึงเล่นอีก

 

 

“นายจะบ้าเร๊อะ ปล่อยฉันนะ มากอดทำไมเนี่ย จะล้างรถ”

 

 

“ก็อยากกอดนี่นา นายถอดเสื้อแบบนี้แล้วเซ็กซี่สุดๆไปเลย”จุนฮยองพูดพร้อมกับจูบที่แผ่นหลังของฮยอนซึง

 

 

“ฉันรู้หรอกน่า แต่ฉันหิวข้าวอ่า”

 

 

“เฮ้อ ก็ได้ครับ รีบล้างๆ”จุนฮยองถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาล้างรถต่อ ฮยอนซึงส่ายหน้าเล็กน้อย แล้วหลายชั่วโมงต่อมาสองคนก็มาเดินหาอะไรกินแถวริมหาด

 

 

“อร่อยไหม”

 

 

“อร่อยสิ หิวจะตายกว่าจะมาได้ ยังจะอย่างนั้นอีก”ฮยอนซึงจิกตามองจุนฮยองอย่างดุๆเพราะก่อนจะออกจากบ้านเขาก็ตกเป็นของจุนฮยองอีกครั้งในหนึ่งวัน

 

 

“ก็นายเซ็กซี่มากเลยอดใจไม่ไหวนี่นา อยู่ใกล้นายทีไรคิดถึงแต่เรื่องอย่างว่า”

 

 

“ให้ตายเถอะ”ฮยอนซึงเบะปากเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าก้มตากินเพื่อหลบสายตาเจ้าเล่ห์ของจุนฮยองที่กำลังมองเขาอยู่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เฮ้อ นึกยังไงถึงอยากมาทะเล”ซีวอนถามอฮีชอลที่เดินอยู่ข้างๆ

 

 

“ทำไม ไม่อยากมาใช่มะ งั้นก็กลับไปเลย ไม่รักฉันแล้วสิท่า”ซีวอนรีบส่ายหน้าทันที

 

 

“รักนะ รักโคตรๆเลยแหละ อย่างอนนะ”ซีวอนทำหน้าตาน่าสงสาร ฮีชอลเห็นถึงกลับถอนหายใจออกมา

 

 

“ที่รักก็เป็นซะอย่างนี้ น่ารักเป็นบ้า”ฮีชอลบีบจมูกของซีวอนเบาๆ แต่แล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนที่นั่งหน้าสวยอยู่กับศัตรูของเขา ซีวอนมองฮยอนซึงตาไม่กระพริบ ก่อนจะยิ้มที่มุมปากนิดๆ

 

 

“ที่รัก มาเล่นน้ำกันเถอะ”ซีวอนละสายตาจากฮยอนซึงแล้วหันไปหาฮีชอล

 

 

“จ้าๆ ไปแล้ว”ซีวอนรีบวิ่งไปหาฮีชอลทันที

 

 

ยงจุนฮยอง กูอยากจะเห็นมึงทรมานจริงๆเลย หึหึ

 

 

“โอ๊ย อิ่มจนท้องจะแตกแล้วอ๊ะ”ฮยอนซึงนั่งลูบพุงของตัวเองเบาๆอย่างอึดอัด

 

 

“ใครบอกให้นายกินเยอะกันล่ะ”

 

 

“ก็คนมันหิวนี่นา ทำไงได้ล่ะ”

 

 

“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวฉันพาไปย่อยก็ได้”

 

 

“ที่ไหนเหรอ”

 

 

“บนเตียง”

 

 

“บ้า นายมันบ้าจุนฮยอง ชิส”ฮยอนซึงนั่งกอดอกแล้วก็มองจุนฮยองค้อนๆ

 

 

“บ้าก็เพราะนายนั่นแหละทำให้ฉันบ้า”

 

 

“นายทำตัวเองต่างหากเล่า ไปจ่ายเงินเลยนะ จะได้ไปเดินเล่นที่ชายหาดกัน”

 

 

“ครับคุณผู้หญิง”จุนฮยองยิ้มบางๆก่อนจะเดินไปจ่ายเงิน ฮยอนซึงส่ายหัวนิดๆกับท่าทางที่เขาคิดว่ามันดูน่ารักดีที่จุนฮยองเป็นคนแบบนี้

 

 

ครืน ครืน ครืน

 

 

เสียงน้ำทะเลพัดเข้าฝั่งดังอย่างต่อเนื่อง จุนฮยองและฮยอนซึงเดินจับมือกันเดินเล่นที่ริมหาดมองท้องฟ้าและน้ำทะเลยามเย็นอย่างอิ่มเอิบใจ

 

 

“น้ำเย็นดีจังเลย”

 

 

“อยากเล่นไหมล่ะ”

 

 

“ไม่เอาหรอก เดินเล่นเฉยๆดีกว่า”ฮยอนซึงหันไปยิ้มให้กับจุนฮยอง แล้วเขาก็โอบเอวของฮยอนซึงอย่างหลวมๆ

 

 

“จุนฮยอง”

 

 

“หือ”

 

 

“ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”

 

 

“อะไรเหรอ”

 

 

“วันนั้น ทำไมนายถึงคิดว่าฉันเป็นฮีชอล”

 

 

กึก

 

 

จุนฮยองหยุดเดินไปทันที ฮยอนซึงหันไปมองหน้าเขาอย่างต้องการคำตอบ เพราะวันนี้ที่เห็นซีวอนทำให้เขาคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา

 

 

“นายอยากรู้เหรอ”

 

 

“อื้ม เรื่องราวของนาย มันเป็นยังไง ทำไมต้องการจะทำร้ายฮีชอลแบบนั้นด้วย”จุนฮยองไม่อยากจะพูดถึงเพราะกลัวจะทำร้ายจิตใจของฮยอนซึง

 

 

“ฉันอยากรู้ บอกฉันเถอะนะ”ฮยอนซึงบีบมือของจุนฮยองแน่น

 

 

“เฮ้อออออ”จุนฮยองถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะหันหน้าไปมองน้ำทะเล

 

 

“เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะไอ้ซีวอนมีนโกงการแข่งขันนัดสำคัญ”

 

 

“บาสเหรอ”

 

 

“อื้ม พวกมันวางยาถ่ายทีมของฉัน ทำให้พวกฉันเข้าแข่งขันเพื่อจะเป็นตัวแทนของจังหวัดไม่ได้ พวกฉันก็เลยแค้น”สายตาของจุนฮยองยังคงเจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น พวกเขาซ้อมกันมาเป็นเวลานาน แทนที่จะแพ้ด้วยเกมส์การแข่งขันกลับแพ้ด้วยกลอุบายแทน

 

 

“พวกฉันแค่อยากให้มันได้รู้ถึงความเจ็บปวดเสียใจบ้าง แล้วก็ได้ข่าวว่ามันรักแฟนของมันมาก พวกฉันก็เลยมีความคิดชั่วๆที่จะทำร้ายฮีชอลเพื่อจะให้มันเจ็บ แต่ก็กลับ…..เป็นนายที่เจ็บปวดแทน”จุนฮยองหันไปมองหน้า ฮยอนซึงด้วยสายตาที่รู้สึกผิดอย่างมากมาย ฮยอนซึงส่ายหน้าแล้วก็ยิ้มให้บางๆ

 

 

“แล้วทำไมถึงคิดว่าฉันเป็นฮีชอลล่ะ”

 

 

“เรื่องนั้นมันเป็นความโง่ของพวกฉันเองที่คิดจะเอาแต่แก้แค้นเลยทำให้จับผิดตัว”

 

 

“ยังไงเหรอ”

 

 

“ฉันเห็นนายอยู่กับซีวอน”

 

 

“เอ๋”ฮยอนซึงงงกับสิ่งที่จุนฮยองพูดเล็กน้อย เขาเองยังคิดไม่ออกเลยว่าเคยอยู่กับซีวอนตอนไหน แล้วฮยอนซึงก็อ้าปากเมื่อคิดอะไรได้บางอย่าง

 

 

“ฉันจำได้และ นายเห็นว่าฉันกับหมอนั่นจับมือกันใช่ไหม”

 

 

“อื้อ”ฮยอนซึงถอนหายใจออกมาบางๆ

 

 

“ทำไมนายถึงไปอยู่กับซีวอนล่ะ”

 

 

“นี่ฉันเคยเจอหมอนั่นด้วยเหรอเนี่ย จำไม่ยักจะได้แฮะ”จุนฮยองทำหน้างงเล็กน้อย

 

 

“อะไรเหรอ”

 

 

“วันนั้นฉันเล่นเกมส์กับเพื่อนแล้วฉันแพ้ บทลงโทษคือต้องไปจับมือกับผู้ชาย แล้วตอนนั้นฉันมองหาใครไม่เห็นก็เลยจับมือคนที่เดินอยู่โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นซีวอน เรื่องมันก็มีแค่นี้แหละ”

 

 

“อะไรนะ!!!!”จุนฮยองพูดออกมาอย่างตกใจ

 

 

“อิอิ ทำไมจะต้องเสียงดัง ช่างมันเถอะ”

 

 

“ขอโทษนะฮยอนซึง ฉันมันโง่เอง”

 

 

“เฮ้ อย่าคิดมากเลย เอางี้ คิดเสียว่า ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ฉันกับนายก็คงไม่รักกันแล้วก็ยืนอยู่ด้วยกันแบบนี้หรอก”น้ำตาของจุนฮยองไหลออกมาด้วยความซาบซึ้งในตัวของฮยอนซึง เขาดึงฮยอนซึงเข้ามากอดแน่น

 

 

“ขอบคุณที่คิดแบบนี้นะฮยอนซึง ขอบคุณนายจริงๆ”ฮยอนซึงยิ้มออกมาบางๆก่อนจะตบหลังจุนฮยองสองสามที

 

 

“แม้จะเริ่มต้นจากความเจ็บปวด แต่ตอนนี้เราสองคนก็มีความสุขดีไม่ใช่เหรอ”ยิ่งได้ยินอย่างนั้นจุนฮยองก็ยิ่งเจ็บปวด ความรู้สึกผิดของเขาไม่สามารถที่จะลบเลือนได้เลย แต่เขาก็จะเลือกที่จะไม่จำอย่างที่ฮยอนซึงทำ

 

 

“ฉันจะรักและปกป้องนายตลอดไป ฮยอนซึง”

 

 

“อื้ม ฉันรักนาย”จุนฮยองกระชับกอดฮยอนซึงแน่นอย่างมีความสุข

 

 

แม้จะต้องเอาชีวิตเข้าแลก ฉันก็จะปกป้องนายจนลมหายใจสุดท้ายของฉัน

 

 

ฉันรักนายนะฮยอนซึง”

 

 

 

 

---------------

17-11-2014

#ฟิคแบดเลิฟ

ขอบคุณที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้อังนะคะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา