[FIC BEAST] BAD LOVE...ผู้ชายเลว!
10.0
เขียนโดย doraaung
วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 17.50 น.
45 ตอน
5 วิจารณ์
74.36K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 17.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) น้ำตาแห่งความเสียใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ[FIC BEAST] BAD LOVE…ผู้ชายเลว!
Chapter 02
น้ำตาของความเสียใจ
ชายหนุ่มร่างเล็กกำลังวุ่นอยู่กับการเช็ดตัวให้กับพี่ชายที่ตอนนี้นอนไข้ขึ้นอยู่บนเตียง เขาเช็ดเหงื่อตัวเองออกแล้วก็มองพี่ชายที่นอนหลับอยู่ด้วยความสงสัย
“รอยพวกนั้น อะไรกันนะ” เขามองหน้าพี่ชายที่ดูหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัดแล้วก็แหวกคอเสื้อออกเพื่อดูรอยแดงช้ำอย่างน่ากลัวที่มีอยู่ตามซอกคอและหน้าอก ก่อนจะส่ายหัวแล้วออกไปทำข้าวต้มเพื่อรอพี่ชายตื่น
“ปล่อยนะ ฉันไม่ใช่ ฮึก” ฮยอนซึงละเมอออกมา ตอนนี้ภาพเหล่านั้นกำลังชัดเจนอยู่ในหัวสมองของเขา เขานอนส่ายหัวไปมาด้วยความหวาดกลัว
“เฮือก!” ฮยอนซึงสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายอย่างรวดเร็ว
“เฮ่อๆๆ” ฮยอนซึงตื่นขึ้นมาด้วยเหงื่อที่เต็มตัวไปหมด เขาก้มมองดูร่างกายของตัวเอง ก่อนจะยกมือกอดตัวเองอย่างหวาดกลัว
“ฮือๆๆ” ฮยอนซึงก้มหน้าร้องไห้ด้วยความทรมานหัวใจ เขายังเจ็บไม่หาย เจ็บทั้งกายและหัวใจ
เพล้งง งง
ถ้วยข้าวต้มหล่นจากมือของผู้เป็นน้องชายที่ตกใจกับเสียงร้องไห้และท่าทางหวาดระแวงของฮยอนซึง
“พี่ฮยอนซึง เป็นอะไรทำไมต้องร้องไห้ด้วยล่ะ” น้องชายวิ่งเข้าไปกอดฮยอนซึงเพื่อปลอบใจ
“พี่ฝันร้ายน่ะ” ฮยอนซึงบ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถาม เขาพยายามกลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้นเอาไว้
“กีกวัง พี่อยากอยู่คนเดียว”
“พี่ฮยอนซึง แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่ ข้าวต้มนั่นเดี๋ยวพี่เก็บเอง” กีกวังมองหน้าพี่ชายตัวเองเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเบาๆแล้วก็เดินออกจากห้องไป พอกีกวังออกไปน้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ได้ไหลลงมาอีกจนได้
“ฮือๆๆ” กีกวังที่ยืนอยู่หน้าประตูได้แต่มองพี่ชายตัวเองอย่างไม่เข้าใจ
“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นนะ”
ติ๊ดๆ
“ฮัลโหลโยซอบ”
(กีกวัง มาหาฉันหน่อยได้ไหม)
“เป็นอะไรอีกล่ะ น้ำเสียงฟังดูไม่ดีเลยนะ”
(ฮึกๆ เค้า เค้า ฮึกๆ ฮือๆๆ)
“โยซอบๆ นี่นายอยู่บ้านใช่ไหม”
(ฮือๆกีกวัง เค้า)
“รอฉันแปบนะ เดี๋ยวฉันรีบไปหานายเดี๋ยวนี้แหละ” กีกวังวางโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว แต่พอจะวิ่งลงชั้นล่างก็นึกขึ้นได้เรื่องฮยอนซึง เขาวิ่งไปดูฮยอนซึงที่ห้องก็เห็นว่าตอนนี้หลับไปแล้ว
“เดี๋ยวผมรีบกลับมานะครับ” แล้วกีกวังก็วิ่งออกจากบ้านขึ้นรถไปยังบ้านของโยซอบทันที
ติ๊งหน่องๆๆๆ
เมื่อมาถึงกีกวังก็กดกริ่งหน้าบ้านของโยซอบรัว แต่ก็เลิกกดเมื่อเห็นโยซอบนั่งร้องไห้อยู่หน้าประตู
“โยซอบ” กีกวังวิ่งเข้าไปหาเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง
“กีกวัง ฮือ” โยซอบร้องไห้กอดกีกวังอย่างต้องการที่พึ่ง น้ำตาและเสียงสะอื้นของเพื่อนทำให้กีกวังรู้สึกเจ็บใจแทน
“มันอีกแล้วใช่มั๊ย”
“ฮือๆๆ” กีกวังกอดโยซอบแน่น มือของเขาสั่นด้วยความโกรธเมื่อนึกถึงใบหน้าของไอ้คนที่มักจะทำให้เพื่อนรักของเขาร้องไห้เสมอ วันไหนที่น้ำตาของโยซอบไม่ไหลออกมาเพราะผู้ชายคนนั้น วันนั้นคงจะเป็นวันที่กีกวังคนนี้คงจะมีความสุขน่าดู
“อย่าเสียน้ำตาเลยนะโยซอบ”
“ฮือๆๆ กีกวังเค้าเสียใจ ฮึก เมื่อคืนเขาไม่มา ไม่มาตามที่เค้านัด ฮือๆๆ” กีกวังกระชับกอดโยซอบแน่น
“ไอ้คนผิดสัญญา อย่าเสียน้ำตาให้กับคนเลวๆอย่างมันเลยนะโยซอบ”
“เค้าไม่ไหวแล้ว เจ็บ เจ็บเหลือเกินกีกวัง เค้าเจ็บจนไม่อยากจะหายใจ ฮึกๆ” กีกวังผลักโยซอบออกจากอ้อมกอดพร้อมกับจ้องหน้าโยซอบอย่างไม่พอใจในคำพูดของเพื่อน
“ถ้านายยังมีความคิดแบบนี้อีก ฉันจะไปฆ่ามัน” กีกวังพูดเสียงเข้มขู่เพื่อนตัวเอง โยซอบส่ายหน้าทันที มันได้ผล
“ไม่เอาๆ งั้นเค้าไม่พูดแล้ว ไม่คิดอีกแล้ว” กีกวังเช็ดน้ำตาออกให้เพื่อน
“คราวนี้มันทำเรื่องชั่วอะไรอีก” โยซอบก้มหน้าหลบสายตาดุๆของกีกวังที่มองมา
“ฮึก เขาผิดนัดเค้า ปล่อยให้เค้ารอทั้งคืนเลย”
“อย่าบอกนะว่า นายเพิ่งจะกลับบ้านน่ะ” โยซอบพยักหน้ารับ
“บ้าจริงโยซอบ นายจะหน้าโง่รอมันทำไม รู้ว่ามันไม่มาก็กลับบ้านสิ จะไปนั่งรอทำไม” กีกวังขึ้นเสียงใส่อย่างโมโห
“ก็เค้า….”
“โง่ คิดว่ามันจะมางั้นสิ นายก็รู้นี่โยซอบว่าคนอย่างมันไม่เคยเห็นนายอยู่ในสายตา แล้วทำไมจะต้องทนรักแต่มันอยู่ได้”
“ก็คนมันรักไปแล้วจะทำยังไงล่ะ ฮึกๆ ฮือๆ” โยซอบร้องไห้ออกมาอีกครั้ง กีกวังได้แต่ถอนหายใจอย่างทำใจ คงไม่สามารถทำอะไรได้แล้วนอกจากทนกับสภาพแบบนี้ต่อไป
ไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ มีความรักแบบนี้ สู้ไม่มีจะดีกว่าไหม โยซอบเอ้ย ฉันเห็นใจนายจริงๆ
ตุบ!
“โยนแรงไปแล้วนะมึง กูรับไม่ทันทำไง”
ตุบ!
“ว่าแต่กู มึงก็เหมือนกันนั่นแหละไอ้ดงอุน”
“ฮ่าๆ กูโยนแรงตรงไหนวะ สงสัยมึงอ่อนแอลงมั้งไอ้ดูจุน”
ตุบ!
“เฮ้ยๆ โยนมาไม่ทันตั้งตัวเลยนะมึง เกือบหน้าแหกแล้วไหมล่ะ” ดงอุนขึ้นเสียงอย่างอารมณ์เสีย ถ้าเมื่อกี้เขาหลบไม่ทันลูกบาสต้องกระแทกกับใบหน้าหล่อๆของเขาแน่นอนเลย
“มึงก็ไปทำประกันหน้าไว้สิ”
“ไอ้เชี่ย ที่ไหนเขาทำกัน ปัญญาอ่อนแล้ว” ดูจุนหัวเราะเบาๆกับหน้าตาของดงอุน เพราะมันช่างดูตลกเหลือเกิน
“แล้วไอ้จุนมันหายหัวไปไหนวะ” ดูจุนถามขึ้นเมื่อไม่เห็นเพื่อนตัวดีอยู่ในโรงยิม
“กูอยู่นี่ไง” เสียงเข้มดังขึ้นทำให้เพื่อนทั้งสองคนหันไปมอง จุนฮยองยักคิ้วให้เล็กน้อย
“หายหัวไปไหนมาวะ ปล่อยให้ไอ้ดูจุนลอบทำร้ายกูอยู่ได้ รอดตายหวุดหวิดเลยนะเนี่ย” ดงอุนวิ่งไปยืนข้างจุนฮยอง
“มึงก็นะดูจุน คราวหลังจะทำอะไรก็ให้มันโดนเต็มๆสิวะ”
“อ่าว ไอ้เพื่อนเวร” ดงอุนเดินออกห่างจากจุนฮยองทันที
แปะ แปะ แปะ
เสียงปรบมือดังมาแต่ไกล สามหนุ่มหันไปมองแขกผู้ไม่เคยคิดที่จะต้อนรับที่กำลังเดินเข้ามา
“ยังจะซ้อมอีกเหรอวะ ไอ้พวกขี้แพ้” เสียงกวนๆนั่นทำให้ทั้งสามคนกำหมัดแน่นอย่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“มึงมาถิ่นกูทำเชี่ยอะไรไอ้ซีวอน” จุนฮยองเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ
“จุ๊ๆ อย่าพูดจาแบบนั้นสิเพื่อน”
“กูจำไม่ได้ว่าไปเป็นเพื่อนมึงตั้งแต่ชาติปางไหน” ซีวอนแสยะยิ้มเล็กน้อยในความปากดีของจุนฮยอง
“ที่รัก”เสียงใสดังมาแต่ไกลทำให้ทุกคนหันไปมองชายหนุ่มหน้าหวานคนหนึ่งที่กำลังวิ่งมาด้วยท่าทางมีความสุขซะเหลือเกิน
“จุ๊บ มาอยู่นี่ได้ไง ตามหาตั้งนานแหนะ” พอวิ่งมาถึงก็จุ๊บปากซีวอนต่อหน้าต่อตาทุกคนอย่างไม่อาย
“ไอ้เชี่ย สงสัยจะแฟนใหม่” ดูจุนพูดขึ้น
“นั่นสิ คงเฉกหัวหมอนั่นทิ้งไปแล้วแหละมั้ง” ทั้งสามคนมองไปยังชายหนุ่มหน้าหวานที่ซีวอนโอบเอวอยู่
“พวกมึงมองแฟนกูทำไม” ซีวอนพูดขึ้นเมื่อเห็นสายตาของทั้งสามคน
“ชิส พอคนเก่าโดนย่ำยี ก็เปลี่ยนแฟนใหม่ทันทีเลยนะมึง” จุนฮยองแสยะยิ้มอย่างขยะแขยง
“พูดเชี่ยอะไรของมึงวะ คนเก่า คนใหม่อะไร” ซีวอนที่ได้ยินก็พูดขึ้นอย่างสงสัย
“ซีวอน อย่าบอกนะว่านอกใจฉันอ่า” หนุ่มหน้าหวานที่ยืนอยู่ข้างๆหน้าหงิกไปทันที
“เปล่านะที่รัก ฉันจะทำอย่างนั้นได้ไงในเมื่อที่รักของฉันน่ารักและเด็ดขนาดนี้”
“จริงเหรอ อย่าให้รู้นะ ไม่งั้นจะหนีไปให้ไกลจนตามหาไม่เจอเลย”
“โอ๋ๆ ชเวซีวอนคนนี้รักเพียง คิมฮีชอล คนเดียวจ้า”
กึก!
ชื่อที่ซีวอนพูดออกมาเล่นเอาทั้งสามคนหันมามองหน้ากันอย่างตกใจ
“ชิบหาย” ดงอุนพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่กำลังช็อคกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน
“แฟนมึงชื่อฮีชอลเหรอ” ดูจุนที่ดูเหมือนจะพอมีสติอยู่ถามขึ้น
“ทำไม มึงสนใจเหรอ เสียใจ ถ้ามึงคิดมึงได้ตายคาตีนกูแน่”
“เปล่าหรอก กูไม่สนใจคนของมึงหรอก เน่าเฟะจนไม่อยากจะแตะต้อง”
“ไอ้ดูจุน” ซีวอนตะคอกเสียงดัง
“เรื่องของมึง แต่จำเอาไว้ให้ขึ้นใจ คิมฮีชอลคือเมียกู” ซีวอนจ้องตากับสามคนก่อนจะเดินโอบเอวฮีชอลออกไป แต่ก็ไม่วายแฟนตัวดีจะหันมายิ้มแล้วขยิบตาให้
“ร่านจริงๆ” จุนฮยองพูดออกมาหลังจากที่เงียบไปนาน
“ละแล้วคนเมื่อคืนล่ะ” ดงอุนมองหน้าเพื่อนทั้งสอง ดูจุนกับจุนฮยองสบตากันนิ่ง
“ถือว่าเป็นคราวซวยของหมอนั่นแล้วกัน” จุนฮยองพูดอย่างไม่สนใจก่อนจะเดินไปหยิบของแล้วออกจากโรงยิมอย่างอารมณ์ไม่ดี
“เฮ้ย! แล้วไม่ซ้อมเหรอ” คำถามที่ไม่ได้รับคำตอบ
“เชี่ยแล้วไงไอ้ดูจุน” ดงอุนหันไปมองหน้าดูจุนอย่างกลัวๆ
“มึงไม่พูด ไอ้จุนไม่พูด กูไม่พูด จบ” แล้วดูจุนก็เดินออกไปอีกคน ดงอุนยกมือเกาหัวอย่างหงุดหงิด
“สัดเอ๊ย!” สุดท้ายดงอุนก็ออกจากโรงยิมไปเช่นกันเพราะหมดอารมณ์จะซ้อมต่อแล้ว
“อื้อ” ฮยอนซึงค่อยๆขยับตัวอย่างทรมานเพราะผลจากการถูกทำร้ายเมื่อคืนยังทิ้งความเจ็บปวดไว้ให้กับเขาอยู่
“โอ๊ย!” เขาดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะมองไปรอบๆ
“ค่ำแล้วเหรอเนี่ย” เขาค่อยๆลุกออกจากเตียงแล้วก็เดินไปยังห้องครัวเพื่อหาอะไรกิน
“โอ๊ย!!” ฮยอนซึงหยุดอยู่กลางบันไดเนื่องจากรู้สึกเจ็บจุดที่โดนทำร้ายเมื่อคืนขึ้นมา เขาค่อยๆนั่งลงอย่างช้าๆแล้วน้ำตาที่หยุดไหลก็ไหลออกมาอีก ภาพเหล่านั้นวนเวียนอยู่ในหัวไม่หายไปไหน
“ทำเป็นไม่เคยนะมึง คนอย่างมึงอ่า เสร็จไอ้ซีวอนมากี่รอบแล้ว”
“มาทำเป็นบีบน้ำตานะ กูไม่สงสารมึงหรอก แล้วไม่ต้องมาทำเป็นแบ๊วไม่รู้จักผัวตัวเองเลย”
“แค่นี้มึงเจ็บเหรอ สำออยจริงๆ ผ่านผู้ชายมาเป็นร้อยแล้วยังจะทำเหมือนไม่เคยอีกนะ”
คำพูดของคนชั่วทำให้ฮยอนซึงต้องยกมือขึ้นมาปิดหู
“ฮือๆ ไม่อยากฟัง ออกไปนะ ออกไป อ๊ากกก” ฮยอนซึงส่ายหัวไปมาเหมือนกับคนเสียสติ
“ฮือๆๆ”
“คิมฮีชอล ต่อให้มึงกราบตีนกู ก็ไม่มีประโยชน์”
“ฮีชอล ฉันไม่รู้จัก ฮือๆๆ” ฮยอนซึงนั่งร้องไห้ออกมาอย่างทรมานสุดหัวใจ ตั้งแต่เกิดมาคนอย่างเขาไม่เคยต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้าย แต่นี่มันอะไรกัน ทำไมคนพวกนั้นถึงได้ทำร้ายจิตใจของเขาได้มากขนาดนี้
“ฉันเกลียดแก เกลียดพวกแก ไอ้ชั่ว ไอ้เลว อ๊ากกกกกกกก” ฮยอนซึงกรีดร้องเสียงดังลั่นก่อนจะหมดสติแล้วกลิ้งตกบันไดไป
ตุบ!
“พี่ฮยอนซึง!” กีกวังที่เดินเข้ามาในบ้านพอดีก็ต้องตกใจกับร่างของพี่ชายที่นอนนิ่งอยู่หน้าบันได
“พี่ฮยอนซึงๆ” กีกวังเขย่าตัวพี่ชายเบาๆก่อนจะพยุงให้ลุกขึ้น คราบน้ำตายังคงเลอะอยู่ที่แก้มของฮยอนซึง ถึงแม้กีกวังจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายตัวเอง แต่เขาก็รู้สึกเจ็บปวดที่ต้องเห็นคนที่เขารักตกอยู่ในสภาพแบบนี้ กีกวังพยุงฮยอนซึงไปนอนที่โซฟา ก่อนจะหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้
“ใครมันทำอะไรกับพี่นะ ทำไมถึงได้เป็นขนาดนี้” กีกวังกำหมัดแน่นอย่างเจ็บใจ ทั้งเพื่อนรัก ทั้งพี่ชายที่รัก ทำไมสองคนต้องมาเสียน้ำตาอย่างนี้ด้วย
------------------------
12-06-2014
มาแล้วคร๊าบตอนที่สอง
ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและให้กำลังใจอังเสมอมานะ >_<
Chapter 02
น้ำตาของความเสียใจ
ชายหนุ่มร่างเล็กกำลังวุ่นอยู่กับการเช็ดตัวให้กับพี่ชายที่ตอนนี้นอนไข้ขึ้นอยู่บนเตียง เขาเช็ดเหงื่อตัวเองออกแล้วก็มองพี่ชายที่นอนหลับอยู่ด้วยความสงสัย
“รอยพวกนั้น อะไรกันนะ” เขามองหน้าพี่ชายที่ดูหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัดแล้วก็แหวกคอเสื้อออกเพื่อดูรอยแดงช้ำอย่างน่ากลัวที่มีอยู่ตามซอกคอและหน้าอก ก่อนจะส่ายหัวแล้วออกไปทำข้าวต้มเพื่อรอพี่ชายตื่น
“ปล่อยนะ ฉันไม่ใช่ ฮึก” ฮยอนซึงละเมอออกมา ตอนนี้ภาพเหล่านั้นกำลังชัดเจนอยู่ในหัวสมองของเขา เขานอนส่ายหัวไปมาด้วยความหวาดกลัว
“เฮือก!” ฮยอนซึงสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายอย่างรวดเร็ว
“เฮ่อๆๆ” ฮยอนซึงตื่นขึ้นมาด้วยเหงื่อที่เต็มตัวไปหมด เขาก้มมองดูร่างกายของตัวเอง ก่อนจะยกมือกอดตัวเองอย่างหวาดกลัว
“ฮือๆๆ” ฮยอนซึงก้มหน้าร้องไห้ด้วยความทรมานหัวใจ เขายังเจ็บไม่หาย เจ็บทั้งกายและหัวใจ
เพล้งง งง
ถ้วยข้าวต้มหล่นจากมือของผู้เป็นน้องชายที่ตกใจกับเสียงร้องไห้และท่าทางหวาดระแวงของฮยอนซึง
“พี่ฮยอนซึง เป็นอะไรทำไมต้องร้องไห้ด้วยล่ะ” น้องชายวิ่งเข้าไปกอดฮยอนซึงเพื่อปลอบใจ
“พี่ฝันร้ายน่ะ” ฮยอนซึงบ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถาม เขาพยายามกลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้นเอาไว้
“กีกวัง พี่อยากอยู่คนเดียว”
“พี่ฮยอนซึง แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่ ข้าวต้มนั่นเดี๋ยวพี่เก็บเอง” กีกวังมองหน้าพี่ชายตัวเองเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเบาๆแล้วก็เดินออกจากห้องไป พอกีกวังออกไปน้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ได้ไหลลงมาอีกจนได้
“ฮือๆๆ” กีกวังที่ยืนอยู่หน้าประตูได้แต่มองพี่ชายตัวเองอย่างไม่เข้าใจ
“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นนะ”
ติ๊ดๆ
“ฮัลโหลโยซอบ”
(กีกวัง มาหาฉันหน่อยได้ไหม)
“เป็นอะไรอีกล่ะ น้ำเสียงฟังดูไม่ดีเลยนะ”
(ฮึกๆ เค้า เค้า ฮึกๆ ฮือๆๆ)
“โยซอบๆ นี่นายอยู่บ้านใช่ไหม”
(ฮือๆกีกวัง เค้า)
“รอฉันแปบนะ เดี๋ยวฉันรีบไปหานายเดี๋ยวนี้แหละ” กีกวังวางโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว แต่พอจะวิ่งลงชั้นล่างก็นึกขึ้นได้เรื่องฮยอนซึง เขาวิ่งไปดูฮยอนซึงที่ห้องก็เห็นว่าตอนนี้หลับไปแล้ว
“เดี๋ยวผมรีบกลับมานะครับ” แล้วกีกวังก็วิ่งออกจากบ้านขึ้นรถไปยังบ้านของโยซอบทันที
ติ๊งหน่องๆๆๆ
เมื่อมาถึงกีกวังก็กดกริ่งหน้าบ้านของโยซอบรัว แต่ก็เลิกกดเมื่อเห็นโยซอบนั่งร้องไห้อยู่หน้าประตู
“โยซอบ” กีกวังวิ่งเข้าไปหาเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง
“กีกวัง ฮือ” โยซอบร้องไห้กอดกีกวังอย่างต้องการที่พึ่ง น้ำตาและเสียงสะอื้นของเพื่อนทำให้กีกวังรู้สึกเจ็บใจแทน
“มันอีกแล้วใช่มั๊ย”
“ฮือๆๆ” กีกวังกอดโยซอบแน่น มือของเขาสั่นด้วยความโกรธเมื่อนึกถึงใบหน้าของไอ้คนที่มักจะทำให้เพื่อนรักของเขาร้องไห้เสมอ วันไหนที่น้ำตาของโยซอบไม่ไหลออกมาเพราะผู้ชายคนนั้น วันนั้นคงจะเป็นวันที่กีกวังคนนี้คงจะมีความสุขน่าดู
“อย่าเสียน้ำตาเลยนะโยซอบ”
“ฮือๆๆ กีกวังเค้าเสียใจ ฮึก เมื่อคืนเขาไม่มา ไม่มาตามที่เค้านัด ฮือๆๆ” กีกวังกระชับกอดโยซอบแน่น
“ไอ้คนผิดสัญญา อย่าเสียน้ำตาให้กับคนเลวๆอย่างมันเลยนะโยซอบ”
“เค้าไม่ไหวแล้ว เจ็บ เจ็บเหลือเกินกีกวัง เค้าเจ็บจนไม่อยากจะหายใจ ฮึกๆ” กีกวังผลักโยซอบออกจากอ้อมกอดพร้อมกับจ้องหน้าโยซอบอย่างไม่พอใจในคำพูดของเพื่อน
“ถ้านายยังมีความคิดแบบนี้อีก ฉันจะไปฆ่ามัน” กีกวังพูดเสียงเข้มขู่เพื่อนตัวเอง โยซอบส่ายหน้าทันที มันได้ผล
“ไม่เอาๆ งั้นเค้าไม่พูดแล้ว ไม่คิดอีกแล้ว” กีกวังเช็ดน้ำตาออกให้เพื่อน
“คราวนี้มันทำเรื่องชั่วอะไรอีก” โยซอบก้มหน้าหลบสายตาดุๆของกีกวังที่มองมา
“ฮึก เขาผิดนัดเค้า ปล่อยให้เค้ารอทั้งคืนเลย”
“อย่าบอกนะว่า นายเพิ่งจะกลับบ้านน่ะ” โยซอบพยักหน้ารับ
“บ้าจริงโยซอบ นายจะหน้าโง่รอมันทำไม รู้ว่ามันไม่มาก็กลับบ้านสิ จะไปนั่งรอทำไม” กีกวังขึ้นเสียงใส่อย่างโมโห
“ก็เค้า….”
“โง่ คิดว่ามันจะมางั้นสิ นายก็รู้นี่โยซอบว่าคนอย่างมันไม่เคยเห็นนายอยู่ในสายตา แล้วทำไมจะต้องทนรักแต่มันอยู่ได้”
“ก็คนมันรักไปแล้วจะทำยังไงล่ะ ฮึกๆ ฮือๆ” โยซอบร้องไห้ออกมาอีกครั้ง กีกวังได้แต่ถอนหายใจอย่างทำใจ คงไม่สามารถทำอะไรได้แล้วนอกจากทนกับสภาพแบบนี้ต่อไป
ไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ มีความรักแบบนี้ สู้ไม่มีจะดีกว่าไหม โยซอบเอ้ย ฉันเห็นใจนายจริงๆ
ตุบ!
“โยนแรงไปแล้วนะมึง กูรับไม่ทันทำไง”
ตุบ!
“ว่าแต่กู มึงก็เหมือนกันนั่นแหละไอ้ดงอุน”
“ฮ่าๆ กูโยนแรงตรงไหนวะ สงสัยมึงอ่อนแอลงมั้งไอ้ดูจุน”
ตุบ!
“เฮ้ยๆ โยนมาไม่ทันตั้งตัวเลยนะมึง เกือบหน้าแหกแล้วไหมล่ะ” ดงอุนขึ้นเสียงอย่างอารมณ์เสีย ถ้าเมื่อกี้เขาหลบไม่ทันลูกบาสต้องกระแทกกับใบหน้าหล่อๆของเขาแน่นอนเลย
“มึงก็ไปทำประกันหน้าไว้สิ”
“ไอ้เชี่ย ที่ไหนเขาทำกัน ปัญญาอ่อนแล้ว” ดูจุนหัวเราะเบาๆกับหน้าตาของดงอุน เพราะมันช่างดูตลกเหลือเกิน
“แล้วไอ้จุนมันหายหัวไปไหนวะ” ดูจุนถามขึ้นเมื่อไม่เห็นเพื่อนตัวดีอยู่ในโรงยิม
“กูอยู่นี่ไง” เสียงเข้มดังขึ้นทำให้เพื่อนทั้งสองคนหันไปมอง จุนฮยองยักคิ้วให้เล็กน้อย
“หายหัวไปไหนมาวะ ปล่อยให้ไอ้ดูจุนลอบทำร้ายกูอยู่ได้ รอดตายหวุดหวิดเลยนะเนี่ย” ดงอุนวิ่งไปยืนข้างจุนฮยอง
“มึงก็นะดูจุน คราวหลังจะทำอะไรก็ให้มันโดนเต็มๆสิวะ”
“อ่าว ไอ้เพื่อนเวร” ดงอุนเดินออกห่างจากจุนฮยองทันที
แปะ แปะ แปะ
เสียงปรบมือดังมาแต่ไกล สามหนุ่มหันไปมองแขกผู้ไม่เคยคิดที่จะต้อนรับที่กำลังเดินเข้ามา
“ยังจะซ้อมอีกเหรอวะ ไอ้พวกขี้แพ้” เสียงกวนๆนั่นทำให้ทั้งสามคนกำหมัดแน่นอย่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“มึงมาถิ่นกูทำเชี่ยอะไรไอ้ซีวอน” จุนฮยองเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ
“จุ๊ๆ อย่าพูดจาแบบนั้นสิเพื่อน”
“กูจำไม่ได้ว่าไปเป็นเพื่อนมึงตั้งแต่ชาติปางไหน” ซีวอนแสยะยิ้มเล็กน้อยในความปากดีของจุนฮยอง
“ที่รัก”เสียงใสดังมาแต่ไกลทำให้ทุกคนหันไปมองชายหนุ่มหน้าหวานคนหนึ่งที่กำลังวิ่งมาด้วยท่าทางมีความสุขซะเหลือเกิน
“จุ๊บ มาอยู่นี่ได้ไง ตามหาตั้งนานแหนะ” พอวิ่งมาถึงก็จุ๊บปากซีวอนต่อหน้าต่อตาทุกคนอย่างไม่อาย
“ไอ้เชี่ย สงสัยจะแฟนใหม่” ดูจุนพูดขึ้น
“นั่นสิ คงเฉกหัวหมอนั่นทิ้งไปแล้วแหละมั้ง” ทั้งสามคนมองไปยังชายหนุ่มหน้าหวานที่ซีวอนโอบเอวอยู่
“พวกมึงมองแฟนกูทำไม” ซีวอนพูดขึ้นเมื่อเห็นสายตาของทั้งสามคน
“ชิส พอคนเก่าโดนย่ำยี ก็เปลี่ยนแฟนใหม่ทันทีเลยนะมึง” จุนฮยองแสยะยิ้มอย่างขยะแขยง
“พูดเชี่ยอะไรของมึงวะ คนเก่า คนใหม่อะไร” ซีวอนที่ได้ยินก็พูดขึ้นอย่างสงสัย
“ซีวอน อย่าบอกนะว่านอกใจฉันอ่า” หนุ่มหน้าหวานที่ยืนอยู่ข้างๆหน้าหงิกไปทันที
“เปล่านะที่รัก ฉันจะทำอย่างนั้นได้ไงในเมื่อที่รักของฉันน่ารักและเด็ดขนาดนี้”
“จริงเหรอ อย่าให้รู้นะ ไม่งั้นจะหนีไปให้ไกลจนตามหาไม่เจอเลย”
“โอ๋ๆ ชเวซีวอนคนนี้รักเพียง คิมฮีชอล คนเดียวจ้า”
กึก!
ชื่อที่ซีวอนพูดออกมาเล่นเอาทั้งสามคนหันมามองหน้ากันอย่างตกใจ
“ชิบหาย” ดงอุนพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่กำลังช็อคกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน
“แฟนมึงชื่อฮีชอลเหรอ” ดูจุนที่ดูเหมือนจะพอมีสติอยู่ถามขึ้น
“ทำไม มึงสนใจเหรอ เสียใจ ถ้ามึงคิดมึงได้ตายคาตีนกูแน่”
“เปล่าหรอก กูไม่สนใจคนของมึงหรอก เน่าเฟะจนไม่อยากจะแตะต้อง”
“ไอ้ดูจุน” ซีวอนตะคอกเสียงดัง
“เรื่องของมึง แต่จำเอาไว้ให้ขึ้นใจ คิมฮีชอลคือเมียกู” ซีวอนจ้องตากับสามคนก่อนจะเดินโอบเอวฮีชอลออกไป แต่ก็ไม่วายแฟนตัวดีจะหันมายิ้มแล้วขยิบตาให้
“ร่านจริงๆ” จุนฮยองพูดออกมาหลังจากที่เงียบไปนาน
“ละแล้วคนเมื่อคืนล่ะ” ดงอุนมองหน้าเพื่อนทั้งสอง ดูจุนกับจุนฮยองสบตากันนิ่ง
“ถือว่าเป็นคราวซวยของหมอนั่นแล้วกัน” จุนฮยองพูดอย่างไม่สนใจก่อนจะเดินไปหยิบของแล้วออกจากโรงยิมอย่างอารมณ์ไม่ดี
“เฮ้ย! แล้วไม่ซ้อมเหรอ” คำถามที่ไม่ได้รับคำตอบ
“เชี่ยแล้วไงไอ้ดูจุน” ดงอุนหันไปมองหน้าดูจุนอย่างกลัวๆ
“มึงไม่พูด ไอ้จุนไม่พูด กูไม่พูด จบ” แล้วดูจุนก็เดินออกไปอีกคน ดงอุนยกมือเกาหัวอย่างหงุดหงิด
“สัดเอ๊ย!” สุดท้ายดงอุนก็ออกจากโรงยิมไปเช่นกันเพราะหมดอารมณ์จะซ้อมต่อแล้ว
“อื้อ” ฮยอนซึงค่อยๆขยับตัวอย่างทรมานเพราะผลจากการถูกทำร้ายเมื่อคืนยังทิ้งความเจ็บปวดไว้ให้กับเขาอยู่
“โอ๊ย!” เขาดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะมองไปรอบๆ
“ค่ำแล้วเหรอเนี่ย” เขาค่อยๆลุกออกจากเตียงแล้วก็เดินไปยังห้องครัวเพื่อหาอะไรกิน
“โอ๊ย!!” ฮยอนซึงหยุดอยู่กลางบันไดเนื่องจากรู้สึกเจ็บจุดที่โดนทำร้ายเมื่อคืนขึ้นมา เขาค่อยๆนั่งลงอย่างช้าๆแล้วน้ำตาที่หยุดไหลก็ไหลออกมาอีก ภาพเหล่านั้นวนเวียนอยู่ในหัวไม่หายไปไหน
“ทำเป็นไม่เคยนะมึง คนอย่างมึงอ่า เสร็จไอ้ซีวอนมากี่รอบแล้ว”
“มาทำเป็นบีบน้ำตานะ กูไม่สงสารมึงหรอก แล้วไม่ต้องมาทำเป็นแบ๊วไม่รู้จักผัวตัวเองเลย”
“แค่นี้มึงเจ็บเหรอ สำออยจริงๆ ผ่านผู้ชายมาเป็นร้อยแล้วยังจะทำเหมือนไม่เคยอีกนะ”
คำพูดของคนชั่วทำให้ฮยอนซึงต้องยกมือขึ้นมาปิดหู
“ฮือๆ ไม่อยากฟัง ออกไปนะ ออกไป อ๊ากกก” ฮยอนซึงส่ายหัวไปมาเหมือนกับคนเสียสติ
“ฮือๆๆ”
“คิมฮีชอล ต่อให้มึงกราบตีนกู ก็ไม่มีประโยชน์”
“ฮีชอล ฉันไม่รู้จัก ฮือๆๆ” ฮยอนซึงนั่งร้องไห้ออกมาอย่างทรมานสุดหัวใจ ตั้งแต่เกิดมาคนอย่างเขาไม่เคยต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้าย แต่นี่มันอะไรกัน ทำไมคนพวกนั้นถึงได้ทำร้ายจิตใจของเขาได้มากขนาดนี้
“ฉันเกลียดแก เกลียดพวกแก ไอ้ชั่ว ไอ้เลว อ๊ากกกกกกกก” ฮยอนซึงกรีดร้องเสียงดังลั่นก่อนจะหมดสติแล้วกลิ้งตกบันไดไป
ตุบ!
“พี่ฮยอนซึง!” กีกวังที่เดินเข้ามาในบ้านพอดีก็ต้องตกใจกับร่างของพี่ชายที่นอนนิ่งอยู่หน้าบันได
“พี่ฮยอนซึงๆ” กีกวังเขย่าตัวพี่ชายเบาๆก่อนจะพยุงให้ลุกขึ้น คราบน้ำตายังคงเลอะอยู่ที่แก้มของฮยอนซึง ถึงแม้กีกวังจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายตัวเอง แต่เขาก็รู้สึกเจ็บปวดที่ต้องเห็นคนที่เขารักตกอยู่ในสภาพแบบนี้ กีกวังพยุงฮยอนซึงไปนอนที่โซฟา ก่อนจะหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้
“ใครมันทำอะไรกับพี่นะ ทำไมถึงได้เป็นขนาดนี้” กีกวังกำหมัดแน่นอย่างเจ็บใจ ทั้งเพื่อนรัก ทั้งพี่ชายที่รัก ทำไมสองคนต้องมาเสียน้ำตาอย่างนี้ด้วย
------------------------
12-06-2014
มาแล้วคร๊าบตอนที่สอง
ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและให้กำลังใจอังเสมอมานะ >_<
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ