[FIC BEAST] BAD LOVE...ผู้ชายเลว!
10.0
เขียนโดย doraaung
วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 17.50 น.
45 ตอน
5 วิจารณ์
74.36K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 17.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
14) มนุษย์ต่างด้าว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ[FIC BEAST] BAD LOVE…ผู้ชายเลว!
Chapter 14
มนุษย์ต่างด้าว
“อื้อ”ฮยอนซึงครางออกมาเบาๆเมื่อรู้สึกถึงไอแดดอ่อนๆ เขาค่อยๆลืมตาขึ้นมาแต่แล้วก็ต้องตกใจกับใบหน้าของจุนฮยองที่กำลังนอนหลับอยู่ตรงหน้า ฮยอนซึงสำรวจร่างกายตัวเองก็พบว่า แทนที่จะเป็นจุนฮยองที่กำลังกอดเขา แต่กลับเป็นเขาที่กอดจุนฮยองแทน ฮยอนซึงหลับตาลงเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆยกแขนแล้วก็ขาออกจากร่างกายของจุนฮยอง
“ให้ตายเถอะ”ฮยอนซึงมองจุนฮยองก่อนจะส่ายหัวแล้วก็ออกจากเต้นท์ไปเพื่อล้างหน้าล้างตาเตรียมทำงานที่เขาได้รับมอบหมายนั่นก็คือ ทาสีอาคารเรียนใหม่ พอฮยอนซึงไปแล้วจุนฮยองก็ลืมตาขึ้นก่อนจะยิ้มที่มุมปากบางๆ
ตอนนี้ทุกคนกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานตามที่ได้รับมอบหมายกันอย่างตั้งอกตั้งใจ ผู้หญิงส่วนใหญ่จะได้มาทาสีอาคารเรียนให้กับเด็กๆแล้วฮยอนซึงก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย เขาอดที่จะขำตัวเองไม่ได้ คงเป็นเพราะตัวเล็กและผอมแหละมั้ง ส่วนพวกผู้ชายแข็งแรงก็ไปสร้างห้องน้ำให้กับโรงเรียน ฮยอนซึงทาสีไปยิ้มไปอย่างมีความสุขและรู้สึกดี
“มองอะไรวะ”จุนฮยองถามดูจุนที่เอาแต่มองไปยังกลุ่มนักศึกษาที่ทาสีอยู่
“คน”
“กูรู้ มึงมองใคร”
“ฮยอนซึง”ดูจุนพูดทั้งๆที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าที่ดูยิ้มแย้มสดใสของฮยอนซึง จุนฮยองจิกตามองอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
“มองทำเพื่อ อยากได้ไง”ดูจุนหันไปมองหน้าจุนฮยองอย่างเซ็งๆ
“นั่นมันเรื่องของกู ทำไมมึงหวงเหรอ”
“ไอ่นี้”
“มึงนี่พูดไม่คิด ทำไม กูดูอยากมากขนาดนั้นเลยหรือไง”
“ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ”จุนฮยองยักไหล่ก่อนจะตอกตะปูต่อไป
“มึงทำยังกับมึงไม่ใช่เพื่อนกู”จุนฮยองยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ก็แค่แซวเล่นไม่ได้หรือไง หมอนั่นคงไม่มาได้ยินหรอก”
“ไอ้จุน”ดูจุนกระชากคอเสื้อจุนฮยองอย่างแรง
“โอ๊ะโอ่ มึงโกรธเหรอวะ ฮ่าๆ กูจะคอยดูว่ามึงจะอดทนได้นานแค่ไหน”
“ถ้ามึงยังล้อกูไม่เลิก เมียมึงได้มีผัวเพิ่มแน่”
“ไอ้นี่”จุนฮยองจับมือดูจุนออกจากคอเสื้อตัวเอง ดูจุนได้แต่แสยะยิ้มบางๆอย่างสะใจ
“พอๆเลิกคุย แล้วตกลงมึงมองหมอนั่นทำไม”
“มึงจำเรื่องตอนที่กูจมน้ำได้ป่ะ”
“จำได้ ทำไมอ่า”
“ฮยอนซึงเป็นคนช่วยกูไว้”จุนฮยองเบิกตากว้างอย่างตกใจที่ได้ยิน
“เฮ้ย จริงอ่า แล้วมึงรู้ได้ไง”
“สร้อย กูจำสร้อยได้”จุนฮยองขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาเองก็รู้สึกว่าคุ้นๆสร้อยเส้นที่ฮยอนซึงใส่อยู่
“แล้วไง”
“แต่เขาบอกไม่ได้ช่วยน่ะสิ ก็เลยสงสัยว่าไม่ได้ช่วยจริงๆหรือว่าแกล้งจำไม่ได้กันแน่”
“แล้วมึงจะไปสนใจทำไมวะ เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว ช่างมันเหอะ”ดูจุนมองหน้าจุนฮยองเล็กน้อย
“กูก็แค่อยากจะ ขอบคุณ”จุนฮยองยักไหล่เล็กน้อย
“ก็ในเมื่อเขาบอกไม่ใช่ก็คงไม่ใช่หรอกมั้ง”
“จะไม่ใช่ได้ยังไง กูเห็นเต็มสองตา เด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนนั้น มึงก็เห็นไม่ใช่เหรอ”
“เออ กูเห็น แต่จำหน้าไม่ได้หรอก สะดุดแค่สร้อยเหมือนมึงนั่นแหละ แล้วจะให้ทำยังไง ในเมื่อเขาไม่ยอมรับจะทำอะไรได้”ดูจุนมองหน้าจุนฮยองเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมานิดๆ
“มึงไง”
“หือ”
“มึงช่วยกูได้ ต้องได้แน่ๆ”จุนฮยองมองดูจุนอย่างไม่เข้าใจ
“กูเนี่ยนะ ยังไงวะ”
“หมอนั่นกลัวมึงมากไม่ใช่เหรอ ช่วยหน่อยนะ ให้เขายอมรับออกมาให้ได้ กูจะได้ไป ขอบคุณเขา จะได้ไม่มีอะไรติดค้าง”ดูจุนมองเพื่อนอย่างอ้อนวอน จุนฮยองชั่งใจเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมา
“ก็ได้ กูช่วยก็ได้ หึหึ”
บรืนนนนนน
“เฮ้อ เซ็งเป็ด”เสียงบ่นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นักของกีกวังทำให้ดงอุนที่นั่งอยู่ข้างหลังอมยิ้มออกมาเล็กน้อย
“แกจะหลับทำไมโย ให้ตายเถอะ”กีกวังหันไปมองโยซอบที่หลับเป็นตายอยู่ข้างๆ แถมน้ำลายยังไหลอีก
“ทำไม”เสียงเข้มๆของดงอุนทำให้กีกวังถึงกลับถอนหายใจอีกครั้ง
“ตอนนี้ฉันกำลังไม่ชอบนายอยู่ อย่าเอ่ยเสียงใดๆออกมา”
“งั้นแสดงว่าก่อนหน้านี้นายชอบฉันงั้นเหรอ”
“นี่!!”กีกวังหันไปมองดงอุนที่เอาแต่นั่งหัวเราะอยู่อย่างหงุดหงิด
“ประสาท”
“แล้วไง แต่ฉันก็ทั้งหล่อแล้วก็ฉลาดนะ ไม่สนเหรอ”
“ยี๋ คนอะไรหลงตัวเองสุดโลกเลย หล่อตรงไหนมองไม่ยักจะเห็น”ดงอุนยิ้มที่มุมาปากนิดๆ
ฉันรู้ทันทางนายแล้วล่ะกีกวัง เสร็จฉันแน่มนุษย์ต่างด้าว
“นายจะเห็นได้ไง มองไกลขนาดนั้น”กีกวังเอียงคอมองอย่างงงๆ
“งั้นต้องมองใกล้ๆสินะ”แล้วกีกวังก็ข้ามโยซอบที่หลับอยู่ไปนั่งข้างๆดงอุนแล้วก็จ้องสำรวจดงอุนอย่างละเอียด
“ใกล้แบบนี้ก็ไม่เห็น นายนี่มั่วจริงๆเลย ชิส”กีกวังเลิกจ้องแล้วก็นั่งกอดอกแทน ดงอุนหัวเราะนิดๆกับความซื่อของกีกวัง
“เขาใช้ตามองที่ไหน ต้องใช้นี่”ดงอุนยกมือไปกุมที่หัวใจตัวเอง กีกวังมองอย่างไม่เข้าใจอยู่ดี
“ใช้หน้าอกมองนี่นะ บ้าแล่ว หน้าอกมีตามองเห็นที่ไหน”
“ปัญญานิ่มจริงๆ”ดงอุนหันหน้าไปพูดกับตัวเองเบาๆ
“นี่!! นายกำลังว่าฉันใช่ไหม”กีกวังสะกิดแขนดงอุนเบาๆ ดงอุนหันมาแล้วก็ยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า
“เปล่านะ ฉันจะจามน่ะ สงสัยมีคนกำลังคิดถึง”กีกวังกระพริบตาปริบๆ
“จริงเหรอ ถ้าจามแสดงว่ามีคนกำลังคิดถึงเหรอ”ดงอุนชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะคิดอะไรดีๆที่จะแกล้งเด็กปัญญานิ่มคนนี้
“อื้ม จริงสิ ฉันจะโกหกนายทำไม”
“เฮอะ จริงเหรอเนี่ย งั้นฉันจะจำเอาไว้ อิอิ”กีกวังนั่งกอดอกอมยิ้มอยู่คนเดียว
“นี่นายหายงอนฉันแล้วใช่ไหม”
“งอน ฉันงอนนายเรื่องอะไรเหรอ”
“ก็เรื่อง….”ดงอุนยกมือไปจับที่ริมฝีปากของตัวเองเบาๆกีกวังมองอย่างสงสัยก่อนที่ตาจะค่อยๆเบิกกว้างขึ้นเพราะเริ่มนึกออก
“อ๋อ ฉันจำได้และ นายมันไอ้โรคจิต ลามก เจ้าชู้ ทุเรศที่สุด ฮึ่ย!!”กีกวังลุกขึ้นด้วยความโมโหเมื่อนึกถึงเรื่องนั้น ดงอุนถึงกลับอึ้งกับอารมณ์ที่แปรปรวนยังกับพายุที่ไม่เคยสงบนิ่งของกีกวัง
เอี๊ยดดดดดดด
แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ซ้ำๆซากๆที่เรียกว่าความบังเอิญที่มักจะเกิดขึ้นเสมอกับสองหนุ่มทุกครั้งที่ได้เจอกัน รถตู้เกิดเบรกกะทันหัน เป็นผลทำให้กีกวังที่ยืนอยู่เซล้มหงายหลังไปนอนอยู่บนตักของดงอุน
ตุบ!!!
พร้อมกับหัวที่กระแทกกับผนังรถอย่างแรงเล็กน้อย
“โอ๊ยยย”กีกวังยกมือขึ้นกุมหัวพร้อมกับร้องโอดโอย
“โอ๋ๆ เจ็บไหม มามะฉันเป่าให้”ดงอุนถือโอกาสเนียนตามเคย เขาจับหัวของกีกวังแล้วก็ลูบไปมา ก่อนจะเป่าลมเบาๆเพื่อ… แล้วก็เนียนต่อโดยการจูบหัว กีกวังเมื่อรู้สึกตัวก็ถึงกลับหลับตาอย่างข่มอารมณ์
“ยังไม่เลิก หัวฉันเป็นเชื้อราขึ้นมานายตายแน่”ดงอุนยิ้มบางๆก่อนจะถอนจูบออกแล้วก็มองหน้ากีกวังด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มนั่นที่ทำให้กีกวังถึงกลับเผลอมองไม่วางตา
เง้อ น่ารักเว่อร์ กร๊ากกก
กีกวังกำลังเหม่อลอยอย่างลืมตัว ดงอุนเห็นอย่างนั้นก็ค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปใกล้กีกวังหวังเพียงจะได้สัมผัสริมฝีปากบางๆนั่นอีกโดยที่เขาได้รู้จักชื่อกีกวัง โดยที่กีกวังไม่ได้ซุ่มซ่าม โดยที่กีกวังไม่ได้เมาหรือโดนยาอะไร กีกวังกระพริบตาสองสามทีเพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมาอย่างโดยเร็ว เขามองริมฝีปากของดงอุนที่ใกล้เพียงแค่เอื้อม ก่อนจะยกมือหยิกปากดงอุนอย่างแรง
“อื้ออออออออ”
“ฮึ่ย!!!”กีกวังลุกขึ้นจากตัวของดงอุนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเนียนตอนที่ดงอุนกำลังเจ็บที่ปากดีดหน้าผากเขาเบาๆ
“โอ๊ย เจ็บนะ”
“นายนี่มัน เพลย์บอยชัดๆเลย เผลอเป็นฉวยโอกาส ผู้ชายบ้า!!”
“เอ๊า พูดยังกับนายไม่ใช่ผู้ชาย”คำพูดของดงอุนเล่นเอากีกวังถึงกลับหน้าแดงขึ้นมา แต่ก่อนที่จะเกิดสงครามน้ำลายขึ้นคนขับรถก็เปิดประตูรถมาเสียก่อน
“เอ่อ ขอโทษนะหนู”กีกวังและดงอุนหันไปมองหน้าลุงด้วยสีหน้าที่ต่างกัน คนหนึ่งยิ้มร่าอีกคนหน้าหงิกยังกับตูด
“มีอะไรเหรอลุง”
“คือ รถเกิดปัญหาน่ะครับ”
“ปัญหาอะไร อย่าบอกนะว่ารถเสีย หรือยางแตก หรือว่าน้ำมันหมด หรือจะเป็นหัวเทียนบอด หรือว่า…”
“พูดมากจริง”กีกวังหันไปมองดงอุนอย่างหงุดหงิด ก่อนจะกลับไปหน้ามุ่ยและนิ่งอย่างเดิม
“รถเป็นอะไรเหรอครับลุง”
“เอ่อ ก็เป็นอย่างที่พ่อหนุ่มคนนั้นพูดนั่นแหละ ยางแตก น้ำมันหมด สรุปคือ รถเสียไปต่อไม่ได้แล้ว”
“ไม่ได้นะ!!”กีกวังพูดขึ้นอย่างตกใจ
“แต่เดินไปอีกนิดเดียวก็จะถึงแล้วนะครับ ลุงว่าหนูสามคนเดินไปก็น่าจะได้ ส่วนกระเป๋าเดี๋ยวลุงจะเอาไปให้เมื่อซ่อมรถเสร็จ”
“งั้นก็รออยู่กับลุงก็ได้นี่ฮะ”กีกวังพูดขึ้นเพราะเขาไม่อยากจะเดินไปเลย
“ลุงว่ามันคงจะนานมาก อีกอย่างที่นี่ก็ห่างไกลความเจริญ เดินไปอีกหน่อยก็ถึงแล้ว”กีกวังที่หน้าหงิกอยู่แล้วก็หงิกเข้าไปใหญ่ คนอย่างเขาชอบความสบายไม่ชอบความลำบาก ดงอุนมองหน้ากีกวังเล็กน้อย
“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับลุง รบกวนเอากระเป๋าไปให้ด้วยนะครับ ถ้าแบกไปคงจะไม่ไหว”
“นาย!!”กีกวังถึงกลับควันออกหู ดงอุนไม่พูดอะไรเพียงแค่ยักไหล่แล้วก็ยิ้มบางๆ
“นายจะไปก็ไป ฉันจะรออยู่กับลุงที่นี่แหละ”กีกวังนั่งลงที่เบาะรถทันที
“ถ้าพ่อหนุ่มจะรอ ก็เฝ้ารถให้ลุงด้วยนะ เพราะลุงต้องไปตามช่างน่ะ”กีกวังหันไปมองหน้าลุงอย่างตกใจ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปปลุกโยซอบที่หลับเป็นตายจริงๆ ขนาดรถเบรกแรงขนาดนี้ยังไม่ตื่น
“โยซอบ”กีกวังเรียกโยซอบแต่สายตาก็ยังหันไปตำหนิดงอุนอยู่
“โยซอบ ตื่นได้แล้ว เราต้องเดินไป”โยซอบก็ยังคงนอนนิ่งอยู่
“โยซอบๆๆ”คราวนี้กีกวังเขย่าตัวโยซอบเบาๆ แต่โยซอบก็ยังหลับอยู่
“ยังโยซอบๆๆ”กีกวังออกแรงเขย่าเพิ่มขึ้นอีก โยซอบครางออกมาเบาๆก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้น
“เฮ้อ ตกใจหมดเลย ทำไมหลับลึกจังเลยอ่า”กีกวังที่ตอนนี้สีหน้าดูไม่ดีเอาซะเลย
“กีกวัง ปลุกฉันทำไมเนี่ย กำลังนอนสบายเลย”
“จะมานอนอะไรตอนนี้ ไป เราต้องเดินไปกัน”
“ไป ไปไหน”กีกวังอ้าปากมองโยซอบอย่างตกใจ เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
“อย่ามาตลกเลยโยซอบ ไปค่ายอาสาสมัครไง รถมันเสียเราต้องเดินไป” โยซอบเกาหัวตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
“เออ จริงด้วยสิ แฮ่ๆ”โยซอบยิ้มออกมาอย่างอายๆ กีกวังส่ายหัวก่อนจะเดินลงจากรถแล้วก็ตามด้วยโยซอบกับดงอุน
“เฮ้อ ทำไมมองไม่เห็นวี่แววของหมู่บ้านเลยนะ”
“เดินตรงไปเรื่อยๆก็ถึงแล้ว”ลุงพูดขึ้นก่อนจะเดินกลับทางเดิมเพื่อไปตามหาช่าง
“ได้ยินแล้วใช่ไหม เดินตรงไปเรื่อยๆ”
“หูไม่ได้หนวก เฮ้ นายอย่าพูดมากได้ไหม ได้ยินเสียงนายมากๆเดี๋ยวหูฉันจะพังพอดี ไปกันโยซอบ”กีกวังเดินไปจับมือโยซอบก่อนจะเดินนำหน้าดงอุนไป ดงอุนส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินตามไป
“โยซอบ นายสบายดีใช่ไหม”
“เอ๋ ทำไมถามอย่างนั้นล่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย”
“ไม่รู้สิ หมู่นี้นายหลงๆลืมๆบ่อยเกิ๊น”
“คนเรามันก็หลงๆลืมๆกันได้ทั้งนั้นแหละน่า อย่าคิดมาสิ”
“นั่นสิเนอะ”ดงอุนมองเพื่อนรักสองคนคุยกันอย่างอยากรู้อยากเห็น เขามองโยซอบเล็กน้อย
คนนี้เองโยซอบ ก็น่ารักดีนี่หว่า แล้วทำไมไอ้ดูจุนมันไม่สนวะ ทั้งน่ารัก ทั้งขาว เป็นฉันหน่อยไม่ได้ ไม่ปล่อยให้หลุดมือหรอก
ดงอุนอมยิ้มกับกับความคิดของตัวเองเล็กน้อย
“โยซอบ”โยซอบหันไปมองดงอุนที่เรียกตัวเอง
“อะไรเหรอ”
“นายน่ะ ชอบเพื่อนฉันเหรอ”กีกวังมองหน้าดงอุนอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก
“ทำไมเหรอ”
“เปล่าหรอก แค่สงสัยน่ะ”โยซอบยิ้มอย่างเศร้าๆเล็กน้อย
“อื้ม อื้ม”โยซอบพยักหน้าก่อนจะหันหน้าเดินต่อ ดงอุนขมวดคิ้วเข้าหากัน
อะไรวะ ทำไมดูไม่มีความสุขเลย หรือจะเป็นเรื่องที่กีกวังไปต่อยหน้าดูจุน เรื่องนั้นเหรอ เรื่องอะไร เกิดอะไรขึ้น ทำไมฉันไม่รู้ล่ะ แล้วทำไมดูจุนไม่บอก โอย คิดเรื่องของชาวบ้านนี่ปวดหัวดีจริงๆ
โป๊กกกก
“โอ๊ย!!”ดงอุนยกมือจับหน้าผากทันทีที่โดนอะไรบางอย่างกระแทกใส่
“ก้อนหิน นายเอาก้อนหินมาทุบหน้าปากฉันทำไมเนี่ย”
“ถ้าขืนนายพูดถึงเรื่องของไอ้เลวนั่นอีกนะ ฉันจะเอาไอ้นี่ปาหัวนาย”กีกวังชูก้อนหินใส่หน้าดงอุน
“พูดให้มันดีๆหน่อย นั่นมันเพื่อนฉันนะ”
“แล้วไง ชิส”กีกวังโยนหินเข้าไปในป่า ก่อนจะเดินไปหาโยซอบโดยไม่ทันระวังก้อนหินก้อนใหญ่ที่อยู่กลางถนน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นน่ะเหรอ เอิ่มมมม
ตุบ!!!
“อ๊ากกกกกกกกก”
“เฮ้ย!!!”
“กีกวัง!!!!”
---------------
14-07-2014
ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้กันและกันนะคะ
#ฟิคแบดเลิฟ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ