Princess diary บันทึกรักฉบับเจ้าหญิง
เขียนโดย Chapond
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 00.39 น.
แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557 23.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
24) ช่วงเวลาของเรา2คน Poppy&Fang
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“ป๊อปปี้”ฟางลืมตาตื่นมาในพลบค่ำแล้วตะโกนเรียกชื่อป๊อปปี้ ก่อนจะมองรอบๆบ้านๆพบว่า เธอนอน
อยู่บนเตียงของบ้านไม้และใส่เสื้อผ้าตัวใหม่อยู่ ที่นี่ที่ไหนกัน
“อ้าวแม่หนูตื่นแล้วหรอลูก นี่ยังดีที่ลุงกับป้าไปเจอหนูกับผัวหนูลอยมาติดท่าน้ำที่บ้าน ไม่งั้นแย่แน่ๆ
ต้องลอยไปไกลกว่านี้”ป้าเดินเข้ามาแล้วพูด ฟางจึงยกมือไหว้ขอบคุณ
“แล้วป๊อปปี้ล่ะคะป้า เค้าอยู่ไหน”ฟางรีบถามถึงป๊อปปี้ทันที
“อ่อ ถ้าถามถึงผัวหนูนะ พ่อหนุ่มคนนั้นอาการหนักมาก ถูกยิงที่ไหล่กับขา แล้วตอนพวกหนูลอยมา
ติดนะ ฝนดันตก เลยไม่ได้พาไปโรงพยาบาล ลุงแกเลยไปตามหมอแถวบ้านนี้มาช่วยกันผ่าเอา
กระสุนออก ตอนนี้ก็นอนอยู่ด้านนอกกับลุงน่ะ”ป้าพูดจบฟางรีบวิ่งออกพบว่าป๊อปปี้นอนหลับอยู่บน
เตียงไม้ด้านนอกเพราะต้องรักษาและทำแผลบริเวณไหล่และขา
“ฮือๆ ป๊อปปี้ อย่าเป็นออะไรนะ”ฟางปล่อยโฮ วิ่งไปกอดป๊อปปี้แน่น ด้วยความเป็นห่วงและกลัวว่า
ป๊อปปี้จะเป็นอะไรไปเพราะปกป้องเธอ ก่อนจะเผลอหลับไป ลุงกับป้าจึงจัดฟางนอนข้างๆป๊อปปี้ดีๆ
โดยที่ฟางแม้จะหลับแต่ไม่ยอมคลายกอดป๊อปปี้เลยจนลุงกับป้าอดยิ้มไม่ได้
เช้าวันต่อมา
ป๊อปปี้ลืมตาตื่นขึ้นแล้วมองไปรอบๆตัวก่อนจะชะงักเมื่อเห็นฟางกอดเขาอยู่
“องค์หญิง”ป๊อปปี้พูดออกมาเบาๆแล้วมองฟางที่หลับอยู่แต่ไม่ยอมปล่อยเขาเลย
“อื้อ ป๊อปปี้ นายฟื้นแล้ว ฮือๆ นายเป็นยังไงบ้าง ดูสิ ต้องเจ็บตัวเพราะเราอีกแล้ว”ฟางตื่นมาก็ร้องไห้
ด้วยความดีใจและรีบถามป๊อปปี้ทันที
“องค์หญิง ผมบอกแล้วไงเพื่อองค์หญิงน่ะ ต่อให้ผมต้องตายผมก็ไม่ยอมให้องค์หญิงเป็นอะไร
หรอกครับ”ป๊อปปี้พูดขึ้น ทำให้ฟางซึ้งจนน้ำตาไหลอีกครั้งจนป๊อปปี้ต้องเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้ฟาง
“อ้าวแม่หนู ตื่นพอดี ไปๆ ป้าทำกับข้าวไว้ให้น่ะ ประคองผัวหนูมาด้วยนะลูก”ป้าเดินเข้ามาพูดแล้ว
ออกไป
“ห้ะ ผัว”ป๊อปปี้เหวอปนหน้าแดงเมื่อได้ยินป้าเรียกแบบนั้น
“เอ่อ ลุงกับป้าเค้าเข้าใจผิดน่ะ เมื่อคืนชั้นก็ไม่ได้บอกพวกเค้า เพราะมัวแต่ห่วงนาย”ฟางหน้าแดง
แล้วพูด
“เอ่อ ไม่ต้องแก้ก็ได้ครับองค์หญิง ปล่อยให้เค้าเข้าใจแบบนี้ก็ได้”ป๊อปปี้พูดก่อนจะยิ้มหน้าแดงเช่น
เดียวกับฟาง แล้วทั้งคู่ก็ลุกออกไปชั้นล่างบ้านโดยที่ฟางประคองและดูแลป๊อปปี้อย่างดี
“มาเดี๋ยวเราเปลี่ยนผ้าพันแผลให้นะ”ฟางพูดเมื่อหลังจากทานข้าวแล้วก็แบกกันไปอาบน้ำก่อนจะ
เดินลงมาเห็นป๊อปปี้นั่งที่ชั้นล่างกำลังพันแผลแต่ไม่ค่อยถนัด จึงอาสาช่วยทำให้
“พ่อหนุ่ม แม่หนู จะติดต่อญาติรึคนรู้จักเลยรึเปล่าล่ะ ลุงแกไปฝากเด็กข้างบ้านช่วยซ่อมมือถือที่ตก
น้ำมาให้แล้วนะ”ป้าเดินเอาข้าวของของป๊อปปี้และฟางมาให้ ป๊อปปี้รับมือถือแล้วเปิดใช้งานก่อนจะ
หาพิกัดของที่นี่ เช่นเดียวกับฟางที่เปิดเครื่องแล้วรีบโทรหาพ้อยท์ทันที
“แปลกมากเลยป๊อปปี้ พ้อยท์ไม่รับสายเรา”ฟางพูดแล้วมองป๊อปปี้ที่กราฟไม่รับสาย
“งั้นโทรหาเขื่อนละกัน”ป๊อปปี้พูดแล้วกดโทรศัพท์โทรหาเขื่อนต่อ
“ห้ะ อะไรนะไอ้เขื่อน คุณพ้อยท์กับพี่กราฟถูกยิงแต่โชคดีที่ตำรวจตามมาช่วยทัน ตอนนี้จับกุมพวก
กบฏที่ซุ่มตัวกันที่ไทยได้แล้วหรอ”ป๊อปปี้โทรหาเขื่อน และเขื่อนก็รีบเล่าเรื่องราวให้กับป๊อปปี้ฟัง
และ2หนุ่มก็คุยกันเรื่องให้คนมารับเขาและฟางที่นี่“ว่าไงป๊อปปี้”ฟางรีบถามเมื่อป๊อปปี้วางสายแล้ว
เดินมา
“ตอนนี้ทางตำรวจจับกุมพวกที่ลอบทำร้ายพวกเราได้แล้วครับ แต่คุณพ้อยท์กับพี่กราฟถูกยิง พี่
กราฟถูกยิงที่หลัง ส่วนคุณพ้อยท์ถูกยิงที่ขา ตอนนี้พักฟื้นที่โรงพยาบาล เขื่อนบอกว่า พรุ่งนี้เค้าจะ
เอารถมารับพวกเราที่นี่ครับ วันนี้พวกเค้ากำลังยุ่งเรื่องกบฏอยู่ตอนนี้”ป๊อปปี้พูดให้ฟางรับรู้
“งั้น ไหนๆเราก็ต้องอยู่ที่นี่อีกวัน งั้นเราว่าเราลงไปช่วยคุณป้าทำงานดีกว่า”ฟางที่ได้ยินว่าจัดการ
กบฏได้แล้วก็ใจหาย ฝืนยิ้มก่อนจะพูดทำเป็นยิ้มเเย้มตามเดิมแล้วเดินลงไปด้านล่างพบว่าป้ากำลัง
นั่งทอผ้าอยู่ก็รีบไปขอให้ป้าช่วยสอนและลองทอผ้าดู ป๊อปปี้ที่เดินลงมาเห็นฟางหัดทอผ้าและยิ้มไป
กับมันอย่างมีความสุขก็เผลอยิ้มตามไม่ได้และถ่ายรูปเก็บไว้
“เวลายามเย็นแบบนี้สวยจังเลยเนาะป๊อปปี้”ฟางพูดเมื่อมานั่งกับป๊อปปี้ที่ศาลาริมน้ำแล้วมองท้องฟ้า
ยามเย็นด้วยกัน
“ครับ ท้องฟ้ายามเย็นเป็นช่วงเวลาที่ผมชอบมากที่สุด เพราะเวลาผมไปทะเลแล้วมองพระอาทิตย์
กำลังตกดิน มันทำให้ผมรู้สึกได้ว่าท้องฟ้าและผืนน้ำเปลี่ยนเป็นสีเดียวกัน มันช่างสวยงามเหลือเกิน
จนเราเผลอมีความสุขกับมันจนลืมไปว่า เวลาตะวันมาหยุดลงที่ปลายฟ้าแบบนั้นมันไม่นานนัก แล้ว
ทุกอย่างก็จะมืดลง”ป๊อปปี้พูดออกมาก่อนจะเงียบลงแล้วเหลือบมองฟางที่นั่งมองท้องฟ้าด้วยกัน
เมื่อนึกถึงประโยคที่เขาพูดกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในหัวใจตอนนี้มันเหมือนกันเหลือเกิน ฟางเป็นองค์
หญิงที่เหมือนกับดวงตะวัน ส่วนเขาเป็นแค่บอดี้การ์ดสามัญชนธรรมดาเหมือนกับผืนน้ำที่ไม่วันจะอยู่
คู่กันได้
“ชั้นอยากจะมองพระอาทิตย์ตกดินไปกับนายอย่างนี้ทุกวัน ทุกวันตลอดไปจนตายนะป๊อปปี้”ฟางที่
นิ่งฟังคำพูดของป๊อปปี้ก็รู้ความหมายมันดีว่าหมายความว่ายังไง ก็เอื้อมมือจับมือป๊อปปี้แน่น
“มันไม่มีวันเป็นไปได้ ตอนนี้จับกบฏได้แล้ว และถ้าพรุ่งนี้เขื่อนมารับพวกเรา องค์หญิงก็จะต้องกลับ
ประเทศขององค์หญิงไปใช้ชีวิตตามเดิมขององค์หญิง”ป๊อปปี้พูดออกมาแล้วรู้สึกใจหาย
“ถ้านี่เป็นแค่ฝัน เราอยากจะอยู่ในความฝันนี้ตลอดไป นายก็รู้ใช่มั้ยว่าเรารู้ยังไง”ฟางพูดออกมา
“แต่คนเราจะต้องกลับไปมีชีวิตในโลกของความจริง สิ่งนี้เราต้องทำใจ”ป๊อปปี้พูด
“เรารู้แต่ตอนนี้เราขออยู่อย่างนี้ได้มั้ย อยู่ในโลกแห่งความฝันที่มันเริ่มเหลือเวลาน้อยนิดเหลือ
เกิน”ฟางพูด
“ถ้าองค์หญิงอยากอยู่ ผมก็จะอยู่กับองค์หญิง จะอยู่ในโลกแห่งความฝันนี้ไปกับองค์หญิง”ป๊อปปี้
พูด
“งั้นป๊อปปี้ ช่วยบอกเราได้มั้ย ว่านายเองก็รู้เช่นเดียวกับเรา ความรู้สึกประหลาดที่อยู่ในหัวใจนี้ทุก
ครั้งเวลาที่เราได้อยู่ใกล้กัน ใจเต้นรัวเมื่ออยู่ใกล้ และเป็นห่วงแทบตายเมื่อจากกัน”ฟางพูดทุกอย่าง
ออกมาจากใจ
“ความรู้สึกนี้มันก็เกิดขึ้นกับผมเหมือนกัน ทั้งที่พยายามห้ามใจเพราะรู้ดีว่าองค์หญิงคือใคร ผมคือ
ใคร สุดท้ายผมก็ทำใจไม่ได้ หลงรักองค์หญิงเข้าโดยไม่ทันรู้ตัว”ป๊อปปี้เองก็พูดออกมาจากใจเช่น
กันทำให้ฟางที่ฟังอึ้ง หน้าแดงกับคำสารภาพนี้ของป๊อปปี้ ความรู้สึกนี้ที่เกิดกับหัวใจของเขาและเธอ
ความรู้สึกรัก
“ป๊อปปี้”ฟางดีใจจนพูดไม่ออกก่อนจะโผเข้ากอดป๊อปปี้แน่น ทั้งคู่กอดกันเนิ่นนาน
“ผมรักองค์หญิงนะครับ”ป๊อปปี้พูดอีกครั้งฟางเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะจูบป๊อปปี้อย่างอ่อนโยน
“เราเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน บอดี้การ์ดของชั้น”ฟางพูดก่อนจะถูกป๊อปปี้จูบอีกครั้ง พวกเขารู้ดีว่า
เมื่อกลับไปที่Kzใต้ เธอจะต้องกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมเช่นเดียวกับป๊อปปี้ แต่ตอนนี้ ขอแค่นี้ แค่เธอ
กับเขาที่รักกันแค่นี้ ขอหยุดอยู่กับช่วงเวลานี้ที่มีแค่เธอกับเขาเท่านั้น
ตอนพิเศษมาอีกแล้วจ้า 5555
ต้องเข้าใจพระเอก2คนนี้ยังม่เจอกันเลยต้องมีพาทแยกแบบนี้ล่ะๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ