ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน

9.3

เขียนโดย jibiko222

วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 09.35 น.

  21 ตอน
  211 วิจารณ์
  32.33K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 00.02 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3) เซ็นสัญญา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เมื่อธนันต์ธรญ์คว้าใบปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจจากต่างประเทศมาได้แน่นอนว่าเธอต้องสานต่อธุรกิจครอบครัวกับพี่ชายที่ดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัทนีระสิงห์ ส่วนเธอเข้ามาฝึกงานในตำแหน่งเลขาส่วนตัวของพี่ชายและวันนี้ก็เป็นวันแรกที่เธอเริ่มทำงาน

 

 

 

“ ฟางวันนี้พี่มีนัดที่ไหนบ้าง ” พี่ชายที่กำลังยุ่งอยู่กับกองเอกสารมากมายเอ่ยถามน้องสาว

 

 

 

“ วันนี้มีประชุมตอน 10:00 โมงเช้า และมีนัดเซ็นสัญญาทำธุรกิจค่ะ ”

 

 

 

“ งั้นเย็นนี้ฟางไปกับพี่นะ พี่จะได้มีเพื่อนคุยทำงานคนเดียวมันเหงาๆ ”

 

 

 

“ หาคนรู้ใจสิค่ะ ” เธอแซวพี่ชายที่บ้างานจนไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น

 

 

 

“ พี่ไม่มีเวลาให้เขาหรอก เดี๋ยวก็เลิกกันเหมือนคนก่อนๆ ” เธอนี่แหละจะเป็นคนหาแฟนให้พี่ชายถ้าเขาสนใจแต่งานมันต้องมีสักคนสิที่เข้ากันได้

 

 

 

“ โอเคค่ะ เราเตรียมตัวเข้าประชุมกันเถอะคุณพ่อน่าจะมาถึงแล้ว ” ครอบครัวนีระสิงห์มีบริษัทใหญ่ๆอยู่สองที่คุณพ่อเธอเป็นประธานบริษัทแรกส่วนบริษัทที่สองพี่ชายเธอเป็นคนดูแลทุกอย่าง

 

 

 

 

 

 

 

 

เวลาล่วงเลยมาจนถึง 6 โมงเย็น สองพี่น้องมาคุยงานตามที่นัดไว้เรื่องการเซ็นสัญญาธุรกิจร่วมกันระหว่างสองบริษัท

 

 

 

“ วันนี้เรามาคุยงานกับประธานคนใหม่พี่ยังไม่เคยเห็นหน้าเลยไม่รู้นิสัยจะเป็นอย่างไร มีคนในบริษัทบอกว่าเขายังอายุไม่มาก พี่กลัวว่าเขาจะไม่เซ็นสัญญากับเรา ” เขาเล่าให้น้องสาวฟังด้วยความกังวลเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ร่วมงานกัน

 

 

 

“ ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะฟางเชื่อว่าพี่ทำได้ เดี๋ยวฟางจะช่วยพูดด้วย ” ทั้งสองเดินคุยกันจนมาถึงประตูทางเข้า

 

 

 

“ พี่ว่าเราไปกันเถอะเพราะเราสองคนต้องไปรอเขาก่อนเวลานัด ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หลังจากสองพี่น้องนั่งรอไม่นาน ผู้ชายร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาปรากฎๆตัวมาพร้อมผู้หญิงหุ่นดีและมีบอดี้การ์ดอีกสองคนคอยรักษาความปลอยภัยให้

 

 

 

“ สวัสดีครับ คุณวิศวะ ไทยานนท์ ”

 

 

 

“ สวัสดีครับ คุณจิระ นีระสิงห์ ” ทั้งสองหนุ่มทักทายกันก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ สายตาคมของประธานบริษัทไทยานนท์หันไปมองผู้หญิงร่างบางที่นั่งตรงข้ามยิ้มๆ

 

 

 

“ ขอโทษนะครับผมลืมแนะนำ เธอชื่อธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ น้องสาวผมเองครับเธอพึ่งมาทำงานเป็นเลขาผม ” ธนันต์ธรญ์ยิ้มบางๆให้ชายหนุ่มตรงหน้า รู้สึกว่าเธอจะบังเอิญเจอเขาบ่อยเกินไปแล้ว

 

 

 

“ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณธนันต์ธรญ์ ”

 

 

 

“ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ ”

 

 

 

“ ส่วนเธอคนนี้เลขาผมเองครับ เธอชื่อ จริญญา วนิชยกุล ” ประธานบริษัทแนะนำเลขาให้ฝ่ายตรงข้ามไปรู้จักเช่นกัน

 

 

 

 

บริษัทไทยานนท์เป็นบริษัทที่มีธุรกิจหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น โรงแรม ห้างและแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ส่วนบริษัทนีระสิงห์จะผลิตเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆจึงเหมาะสมที่ทั้งสองบริษัทจะร่วมงานกัน

 

 

 

ทั้ง 4 คนนั่งคุยกันในเรื่องโครงการสร้างโรงแรมเกือบชั่วโมง ทั้งสองหนุ่มคุยกันจนเข้าใจแผนการทำธุรกิจในครั้งนี้และได้เซ็นสัญญาทำธุรกิจร่วมกัน

 

 

 

“ ขอบคุณนะครับที่เซ็นสัญญากับบริษัทเรา ”

 

 

 

“ ที่จริงผมอยากร่วมงานกับบริษัทนีระสิงห์มานานแล้วแต่ไม่มีโอกาศ ” วิศวะจับมือแสดงความยินดีกับรองประธานบริษัทนีระสิงห์แล้วยิ้มหวานให้เลขาบริษัทนั้น

 

 

 

“ งั้นเราสองคนขอตัวกลับก่อนนะคะ พอดีวันนี้เรามีนัดต่อค่ะ ” ธนันต์ธรญ์เธอไม่ชอบสายตาเขาที่มองจึงพยายามจะกลับ

 

 

 

“ เดี๋ยวพี่โทรเลื่อนนัดก็ได้ วันนี้เรามาเลี้ยงฉลองกันเถอะครับคุณวิศวะเนื่องในโอกาศที่ได้ร่วมงานกัน ” สาวร่างบางความผิดหวังเมื่อพี่ชายมีความคิดต่างจากเธอ

 

 

 

“ คุณธนันต์ธรญ์ค่ะ เราออกไปเดินเล่นข้างนอกกันไหมท่านทั้งสองคนจะไปคุยกันสะดวก ” เลขาสาวสวยเอ่ยชวนผู้หญิงที่กำลังมีหัวอกเดียวกันออกไปข้างนอก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เธอทั้งสองออกมานั่งคุยกันที่สวนหลังร้านอาหารทั้งสองคุยกันอย่างสนุกเมื่อรู้ว่าเธอทั้งสองมีนิสัยที่คล้ายๆกัน

 

 

“ ฟางมาทำงานที่นี่นานยัง ” จริญญาถามผู้หญิงข้างๆที่คุยถูกคอจนตอนนี้สนิทกันซะแล้ว

 

 

 

“ ไม่อยากจะบอกว่าวันนี้วันแรก เจองานใหญ่ซะด้วย ” ธนันต์ธรญ์หัวหัวอย่างร่าเริง ใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเสมอไม่แปลกที่หลายคนจะหลงรักเธอ

 

 

 

“ แล้วแก้วละทำงานที่บริษัทไทยานนท์นานหรือยัง ”

 

 

 

“ จะเดือนหนึ่งแล้วแหละ ทำงานแล้วก็คิดถึงชีวิตตอนเรียนนะว่าไหม ”

 

 

 

“ ใช่ๆ คิดถึงๆ ว่าแต่ฟางอยากรู้ว่าทำไหมแก้วถึงเลือกทำงานที่นี่ล่ะแล้วยังเป็นเลขาคุณวิศวะอีก ดูไม่ออกหรอว่าเขานะเจ้าชู ” ธนันต์ธรญ์เล่าตามความรู้สึกที่เธอได้รับเมื่อเจอเขาครั้งก่อนกับวันนี้

 

 

 

“ จะทำไงได้ล่ะ แก้วต้องหาเงินเลี้ยงครอบครัวอยู่บริษัทนี้ได้เงินเดือนเยอะกว่าทุกๆที่ ” จริญญาพูดออกมาเศร้าๆ

 

 

 

“ ขอโทษนะที่พูดเรื่องนี้ ถ้าแก้วมีอะไรให้ฟางช่วยได้นะ ” ธนันต์ธรญ์บอกด้วยความเห็นใจ

 

 

 

“ เมื่อวันก่อนแก้วเจอฟางไปทานข้าวกับแฟนด้วย ท่าทางเขาจะหวงฟางมากเลย ” จริญญาเป็นเรื่องคุยไม่อยากให้เสียบรรยากาศ

 

 

 

“ แก้วเห็นด้วยหรอ....อายจัง จริงๆเขาก็เจ้าชู้ไม่ต่างจากเจ้านายแก้วหรอกอาจจะเยอะกลัวด้วยซ้ำ ” เธอเล่าให้เพื่อนใหม่ฟังอย่างอายๆเมื่อนึกถึงแฟนที่นั่งคุมเธอทานอาหารอย่างกับเด็ก

 

 

 

“ ผู้ชายนี่แปลกเนอะ มีผู้หญิงดีๆอยู่กับตัวยังจะออกไปสรรหาข้างนอกอีก ” จริญญาพูดจากความรู้สึกที่เธอเคยได้รับเมื่อหลายปีก่อน

 

 

 

“ ฟางก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าแต่แก้วล่ะไม่มีแฟนบ้างหรอ ” เธอถอนหายใจก่อนจะหันไปถามคนข้างๆ

 

 

 

“ ไม่มีหรอก กลัวเขาไม่สนใจเรา ” เธอนึกถึงประธานบริษัทที่มันจะพูดอะไรไม่รักษาน้ำใจเธอ

 

 

 

“ ฟางว่าเราเข้าไปข้างในกันเถอะ เขาคงอิ่มกันแล้วมั้ง ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ เชิญนั่งครับคุณเลขา ” วิศวะเป็นคนแรกที่พูดเมื่อเธอสองคนเดินเข้ามาในห้อง

 

 

 

“ เชิญเลยค่ะ ฉันยังไม่หิว ” ธนันต์ธรญ์ตอบเขาตามความเป็นจริง

 

 

 

“ คุณวิศวะผมขอเสียมารยาทกลับก่อนเลยนะครับ ” เมื่อจิระเห็นว่าเริ่มดึกเขาจึงขอตัวกลับก่อนและอีกอย่างคือน้องสาวที่เริ่มงอนๆแล้ว

 

 

 

“ ไว้เจอกันใหม่นะครับคุณจิระ คุณธนันต์ธรญ์ ” เหมือนเขาจะเดินไปส่งหนุ่มสาวทั้งสองที่รถแต่ถูกปฎิเสธด้วยเหตุที่ว่าเกรงใจซะก่อนจึงได้แค่ส่งยิ้มให้เธอที่เดินจากไป

 

 

 

“ เห็นไหมคุณจริญญา บอกแล้วว่า.....ผมมาไม่เสียโอกาศจริงๆ ” เขาพูดกับเลขาสาวขณะที่นั่งดื่มอย่างอามรณ์ดี

 

 

 

“ ผมสงสัยตั้งแต่แรกแล้วว่าทำไหมเจ้านายถึงมาเอง ที่จริงให้คุณเลขามาแทนก็ได้ คงจะเป็นเพราะสาวสวยคนนั้นนี่เองที่ทำให้ท่านประธานมาเอง ” บอดี้การ์ดที่ติดตามแสดงความคิดเห็นกับเจ้านาย

 

 

 

“ แต่เหมือนว่าเธอจะไม่สนใจคุณนะคะ อยากจะกลัวๆด้วยซ้ำ ” เป็นอีกครั้งที่จริญญาพูดกีดกันเขา

 

 

 

“ แบบนี้แหละผมชอบ ดูมีอะไรให้ค้นหากว่าตั้งเยอะ ” หนุ่มหน้าหวานหันมาพูดกับจริญญาและแน่นอนว่ามันกระทบเธอเต็มๆ

 

 

 

“ กลับกันเถอะ ฉันอิ่มแล้ว ” ว่าเสร็จประธานบริษัทก็ลุกขึ้นเดินปล่อยให้เลขาและลูกน้องเก็บเอกสารและแบบแผนงาน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ เหมือนคุณวิศวะเขาจะสนใจน้องพี่ไม่ใช่น้อย ” พี่ชายพูดขึ้นลอยๆเมื่อไม่มีเรื่องจะคุยกับน้องสาว

 

 

 

 

“ สายตาเขาดูแวววาวเกินไปค่ะ ฟางไม่ชอบและที่สำคัญฟางมีแฟนแล้ว ” เธอพูดอย่างอารมณ์เสียทำไมเธอจะไม่รู้ว่าพี่ชายพยายามจับคู่ให้เธอ

 

 

 

“ ไอ้ภานุมันก็ไม่ได้ดีไปกว่านี้หรอกฟาง ” จิระไม่ได้โมโหอะไรแต่กลับดีใจเมื่อรู้ว่าประธานบริษัทหุ้นส่วนสนใจน้องสาวเขาและนี้อาจจะทำให้บริษัทมีรายได้มากกว่าเดิม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

พระเอกมาตอนหน้านะจ๊ะ

 

 

เม้นเยอะเจอกัน 4 ทุ่ม

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา