Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน

9.7

เขียนโดย OUM_PF

วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.

  45 ตอน
  590 วิจารณ์
  93.89K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

9)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน

ตอนที่๙

เห็นหัวฉันบ้างไหม รีบเข้ามาได้แล้ว ไว้ไปงอนง้อกันที่อื่น!

ภาณุแทบจะลงไปกราบกรานผู้หญิงตัวเล็กข้างหน้า หากไม่ติดแต่ว่ามารดากำลังจ้องมองเขาอยู่เขาลุกขึ้นอย่างเสียมิได้แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือจากธนันต์ธรญ์

“ช่วยผมเถอะนะครับ ผมสัญญาว่าผมจะทำตามอย่างที่พูดไว้ให้สำเร็จ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังงานแต่งงานล่ม ทุกอย่างที่เกิดขึ้นคุณจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆทั้งสิ้น”เขานิ่งทันทีเมื่อดวงหน้าหวานเงยหน้าขึ้นสบตาเขา เขาได้แต่รอคำตอบเพราะได้พูดทุกอย่างไปหมดแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับ ธนันต์ธรญ์เท่านั้น

“...”

“...”

“ไปกันเถอะค่ะ คุณแม่รอนานแล้ว”

ธนันต์ธรญ์ดึงมือของภาณุให้เดินตาม เธอทรุดตัวลงนั่งพับเพียบข้างๆชายหนุ่มที่เริ่มต้นเอ่ยกับมารดาของเขา

“คุณแม่มีอะไรจะคุยกับผมหรือครับ”

“มันเกิดขึ้นนานเท่าไหร่”เธอรู้สึกว่าตัวเองตัวเย็นเฉียบ ใบหน้าของเธอคงจะไร้เลือดฝาด และมันคงจะแสดงออกอย่างนั้นจริงๆเมื่อชายหนุ่มข้างกายบีบมือที่เย็นเฉียบของเธออย่างให้กำลังใจ

“เราเจอกันเมื่อสามปีที่แล้วครับ ตอนที่ผมมาเที่ยวกับเพื่อน เธอเป็นน้องสาวของรุ่นน้องในกองบิน ผมเห็นเธอน่ารักดีก็เลยจีบ เราคบกันมาได้สองปีกว่าๆ ผมรู้ว่าเรื่องราวไม่ราบรื่นที่เกิดขึ้นมันเป็นความผิดของผมเอง...”

“รู้ตัวก็ดีแล้ว...”เขาถอนหายใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปโอบไหล่บางของคนตัวเล็ก

“แต่ที่อยู่อย่างหนึ่งที่ผมไม่เคยเสียใจเลยที่ได้ทำ คือการที่ผมหนีมาที่นี่ ผมอยากจะบอกว่าทั้งหมดนี้ผมทำเพื่อภรรยาของผม และเพื่อลูกในท้องของผมด้วยเช่นกัน แม้ว่าแม่จะไม่เห็นใจผม แต่ผมอยากให้แม่ทำเพื่อหลานของแม่สักครั้ง ถือว่าผมขอร้องนะครับ”

“ด้วยการยกเลิกงานแต่งอย่างนั้นหรือ แกรู้ไหมว่าเราเตรียมการเรื่องนี้มานานแค่ไหน แล้วแกไม่นึกบ้างหรอว่าฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

“แล้วแม่รู้หรือเปล่าครับว่าเรารักกันมากแค่ไหน แล้วไหนจะลูกอีก แม่อยากเห็นแกไม่มีพ่อหรอครับ แล้วผมจะตอบลูกของผมยังไงว่าผมเป็นพ่อของเขาในเมื่อผู้หญิงที่ผมแต่งงานด้วยไม่ใช่แม่ของแก”เขาตอบโต้อย่างไม่ลดละ

“แล้วฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่าแกไม่ได้หลอกฉัน หลายปีที่ผ่านมาฉันไม่เคยเห็นแกจะมีใครคนไหนสักคน แล้วจู่ๆแม่นี้ก็โผล่มาจากไหนไม่รู้”เขาแทบสะอึกเมื่อมารดากำลังจะอ่านเกมของเขาออก

“เพราะผมมีเธอไงครับ ถึงแม้ว่าตัวเราจะอยู่ห่างกันแต่ผมก็ยังซื่อสัตย์กับเธอเพียงคนเดียว เพราะผมอยากได้เธอเป็นคู่ชีวิต ไม่ใช่คู่ค้าอย่างที่แม่ต้องการ”เขาหยิบยกจุดประสงค์ของการแต่งงานที่มารดาต้องการขึ้นมาอ้างอย่างไม่ยอมแพ้

“ออกไป!”เขามองใบหน้าของมารดาอย่างไม่เข้าใจ ท่านไม่ได้ตกลงหรือปฏิเสธ แต่กลับไล่เขาไปทั้งๆที่ไม่เอ่ยถึงทางออกของเรื่องนี้สักคำ

“ถึงแม่จะไม่ยอมรับ ผมก็จะไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ผมรักเธอ อยากดูแลปกป้องเธอกับลูกไปตลอดชีวิต ความรู้สึกที่ผมมีให้กับฟาง ผมไม่เคยมีใครผู้หญิงที่แม่หามาให้สักคน ถ้าแม่จะเห็นแก่ตัวจับผมไปแต่งงานกับใครอีกก็ลองดู!”เขาไม่ได้ดูว่ามารดามีปฏิกิริยาอย่างไรกับคำพูดของเขา เขาโอบร่างเล็กให้ลุกขึ้นในทันที ก่อนจะเดินออกจากห้องรับแขก

“เอ่อ...คุณคะ”

ธนันต์ธรญ์เอ่ยเรียกชายหนุ่มที่ใบหน้าของเขายังมีร่องรอยของความตึงเครียดและไม่สบายใจ เธอไม่รู้จะเอ่ยอะไรให้ทุกอย่างมันดีขึ้น แต่การที่ให้เธอทนดูเพื่อนคนหนึ่งนั่งทุกข์ตรมกับความคิดของตนเองนั้นไม่ใช่สิ่งที่เธอจะทำ

“คุณมีอะไรเล่าให้ฉันฟังได้นะ ฉัน...”เพียงเท่านั้นเขาก็โอบร่างเล็กของเธอเข้าไปกอด ไม่มีเสียงพูดใดๆ มีเพียงความเงียบและกำลังใจที่เธอส่งให้เขาผ่านวงแขนที่ยกขึ้นกอดตอบ

นานเท่านานกว่าร่างสูงใหญ่จะผละออกจากร่างบอบบางของธนันต์ธรญ์ หญิงสาวมองใบหน้าไม่สู้ดีของเขาอย่างเห็นใจ เธอกอบกุมมือหนาของชายหนุ่มขึ้นมาก่อนจะตบเบาๆ

“ฉันสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างคุณจนกว่าเรื่องราวเลวร้ายจะผ่านไปนะคะ ในเมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้วเราก็ต้องไปถึงฝั่งด้วยกัน อย่าเครียดเลยนะ ฉันชอบตอนที่คุณยิ้มมากกว่า”เธอเอื้อมมือไปดึงมุมปากของเขาก่อนจะส่งยิ้มที่เธอคิดว่าหวานที่สุดในตอนนี้ไปให้เขา

“ฮ่าๆ คุณนี่ก็น่ารักดีเหมือนกันนะนี่”เธอทำหน้ามุ่ยเมื่อชายหนุ่มขยี้ลงบนผมนุ่มดัดลอนของเธอจนยุ่งเหยิง

“ย่ะ สวยรู้ตัว แต่ถ้าจะชมขอแบบดีๆได้ไหมยะ”เธอว่าอย่างหมั่นไส้พ่อคนตลบแตลงเมื่อตะกี้ยังทำหน้าเหมือนจะเป็นจะตาย ตอนนี้กลับหัวเราะร่าที่ได้แกล้งเธอ

“โทษๆ”เขาว่ากลั้วหัวเราะ มือหนานั้นสาละวนจัดทรงผมให้เธออย่างตั้งใจ ดวงตาของเขามีแววตาบางอย่างที่เธอไม่แน่ใจว่าเธอนั้นตาฝาดไปหรือเปล่า...เขาดูอ่อนโยนจนหัวใจของเธอแทบจะทนไม่ไหว

“เอ่อ...ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ เหม็นเหงื่อตัวเองจะแย่”เธอว่าพลางทำจมูกฟุดฟิด ชายหนุ่มยิ้มพยักหน้าให้เธอ เธอจึงเดินออกมา อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นทาบตรงหน้าอกข้างซ้ายที่เธอรู้สึกว่าหัวใจเจ้ากรรมจะเต้นแรงจนเกินเหตุ...นี่เธอไม่ได้ตกหลุมรักเขาใช่ไหม...

 

 

คุณพรพิมลถอนหายใจอย่างหนักหน่วงเมื่อปัญหานั้นใหญ่กว่าที่คิด ไหนจะลูกชายของหล่อนที่บอกว่ารักผู้หญิงคนนั้นได้อย่างเต็มปากเต็มคำ สายตาคมของลูกชายที่หล่อนมองไม่ผิดแน่ว่ารู้สึกดั่งคำพูดของเขาจริงๆ ไหนจะหลานของหล่อนที่อยู่ในท้องของเด็กสาวคนนั้นอีก...หล่อนไม่ปฏิเสธว่าแม้ไม่มีงานแต่งงานระหว่างภาณุและพิมประภา บริษัทของหล่อนก็ยังอยู่รอด แต่ถ้าหากมี รายได้ของบริษัทจะเพิ่มพูนจนต้องนั่งนับตัวเลขในบัญชีจนตาลาย แต่ระหว่างความสุขและเงินทอง หล่อนเองก็เลือกไม่ถูก...

“แม่มล...”หล่อนหันไปตามต้นเสียง ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้มารดาที่เดินมานั่งเคียงข้าง

“สวัสดีค่ะคุณแม่”

“แม่อยากจะคุยกับลูกสักเรื่องหนึ่ง”

“เรื่องตาป๊อปกับแม่หนูคนนั้นใช่ไหมคะ”มารดาส่ายหน้า ก่อนจะเอื้อมมือมากุมมือของหล่อนไว้

“แม่อยากจะให้ลูกย้อนถามตัวเองสักนิดว่ามันถูกต้องแล้วหรือที่ลูกจะบังคับตาป๊อปให้แต่งงานกับหนูพิมทั้งๆที่ลูกชายเราไม่ได้รักเขา ตาป๊อปหัวดื้อหัวรั้นจะตาย อะไรที่เขาไม่พอใจจะทำลูกคิดว่าจะบังคับเขาไปได้สักกี่น้ำ”

“....”

“อยู่กันก้นหม้อข้าวไม่ทันดำก็ต้องเลิกกันเสีย กลายเป็นขี้ปากชาวบ้านอีก และที่สำคัญที่สุด คนเป็นแม่ต้องคำนึงถึงความสุขของลูกให้มากที่สุด ในเมื่อเราเลือกว่าจะให้เขาเกิดมาแล้ว เราต้องคอยเป็นห่วงเป็นใยเขา หวังดีกับเขา มันไม่ใช่หน้าที่ แต่มันเป็นสัญชาตญาณของคนเป็นแม่ แต่ทั้งหมดนั้นมันก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเต็มใจของคนเป็นลูกด้วย”

“แม่ต้องการให้หนูยกเลิกงานแต่งงาน ก็กำลังจะถูกจัดในอีกไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์นั้นหรือคะ การ์ดเชิญก็ถูกแจกออกไปหมดแล้ว แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นหนูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”หล่อนมองมารดาอย่างไม่เข้าใจ

“แม่หวังว่าลูกจะเข้าใจ หากลูกยังมีความเป็นแม่อยู่จริงๆ”

คุณพิมพ์มาลาพูดทิ้งท้ายให้กับลูกสาว ก่อนจะเดินออกมาจากห้องรับแขก สายตาของหล่อนจับจ้องไปที่ประตูห้องของหลานชาย ก่อนจะตัดสินใจเดินไปเคาะประตูห้องภาณุ

“ยายเองลูก เปิดประตูให้ยายหน่อย”รอไม่นานประตูก็เปิดออก

“มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“ยายขอเข้าไปคุยข้างในได้รึเปล่าลูก”ร่างสูงใหญ่หลบให้หล่อนเดินเข้าไปข้างใน หล่อนเดินไปนั่งตรงปลายเตียงของหลานชายก่อนจะเอ่ยถามเรื่องที่ค้างคาใจ

“เราไปคุยกับแม่เขายังไง แม่เขาถึงได้โกรธเป็นฝืนเป็นไฟ”

“ผมบอกแม่ว่า...เอ่อ...”

“บอกยายมา เผื่อยายจะช่วยอะไรเราได้บ้าง”หล่อนเอ่ยเสริมเมื่อเห็นว่าภาณุไม่กล้าที่จะบอกกับหล่อน

“ยายสัญญาก่อนนะครับว่าจะไม่โกรธผม”

“ยายสัญญา เอ้า บอกมาได้แล้ว”

“คือว่าผม...บอกแม่ว่าฟางเป็นเมียผม แล้ว...แล้วเธอก็กำลังท้องลูกของผมอยู่ด้วยน่ะครับ”หล่อนแทบจะเป็นลมเมื่อได้ยินคำบอกเล่าของหลานชาย อดไม่ได้ที่จะตีเข้าที่แขนของหลานชายตัวดี

“ไปทึกทักเอาอย่างนั้นได้อย่างไร น้องเป็นผู้หญิงมีแต่จะเสียหาย แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ทำอะไรทำไมไม่ปรึกษายายก่อน”

“ก็มันคิดอะไรไม่ออกนี่ครับ ไอ้เขื่อนกับไอ้โมะมันดันไปบอกแม่ไว้ว่าผมมีลูกมีเมียแล้ว โธ่ ยายครับไหนๆยายก็ตั้งใจจะให้เราสองคนดูใจกัน วิธีนี้ก็ใช้ได้เหมือนกันนี่ครับ”

“ไม่เหมือนกัน...โอ้ย ยายละปวดหัวกับเราจริงๆเลย คิดอะไรตื้นๆ”หล่อนมิวายบ่นกระปอดกระแปด

“เอาเถอะครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรฟางแน่นอน ด้วยเกียรติของนักบินF16ผู้หล่อเหลา”

“ให้มันได้อย่างนี้สิ เฮ้อ...แล้วให้ยายทำยังไงบ้างล่ะเนี่ย”หล่อนลูบผมตัดสั้นของหลานชายตัวดีอย่างสุดจะทนกับความเจ้าเล่ห์และขี้อ้อน

“ง่ายๆครับ แค่เออออกับผมก็แค่นั้น เรื่องนี้ฟางเองก็ไม่มีปัญหา แค่แม่ยกเลิกงานแต่ง หลังจากนั้นผมจะจัดการทุกอย่างเองครับ...”

 

 

 

                                                                    ...สายลมแห่งตะวัน

 

 

 

 


 

 

 

เม้น+โหวตหน่อยน้าาาาาาา

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา