Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
เขียนโดย OUM_PF
วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.
แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
44)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเค้าขอโทษสำหรับNC (ที่อาจจะแรงไป อิอิ) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะจ้ะ
Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
ตอนพิเศษ
“ไม่เอานะ ฟางเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว”
ภาณุยิ้มเย็นเอ็นดูคนใต้ร่าง วันนี้แม่ตัวดีของเขางอแงเป็นพิเศษ คงจะเป็นเพราะเธอ
เองกำลังตั้งท้องลูกคนที่สองของเขา ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสักนิดที่งานแต่งงานระหว่างเขาและ
ธนันต์ธรญ์ถูกจัดขึ้นในอีกสองเดือนถัดมาหลังจากงานหมั้น แน่นอนว่าแม่มดน้อยไม่มีทางหนีรอด
กับดักของเขาได้ เขาใช้ทั้งลูกอ้อน ลูกตื้อ และอีกหลายร้อยพันมารยาทุกเล่มเกวียนที่จะงัดออก
มาใช้ได้ จนในที่สุดแม่ตัวดีก็ตกลงปลงใจแต่งงานกับเขา แน่นอนว่าเขาให้เกียรติเธออดทนอด
กลั้นจนถึงคืนแต่งงาน และความรักของเธอและเขาก็ราบรื่นเรื่อยมา แม้จะมีทะเลาะเล็กๆน้อยๆกัน
อยู่บ้าง แต่เรื่องไหนที่ยอมได้เขาก็ยอมเสมอ และธนันต์ธรญ์ก็ไม่ใช่ผู้หญิงไร้เหตุผล เธอยังน่ารัก
กับเขาเสมอ และน่ารักเพิ่มมากขึ้นทุกวัน เมื่อเธอได้ให้กำเนิดลูกชายคนแรกเมื่อสามปีที่ผ่านมา
เด็กชายรพีพงษ์ จิระคุณ หรือไอ้พี่ซีลตัวแสบคือผลผลิตระหว่างเขาและภรรยาที่รัก
“มองอะไรคะ”
“ก็มองเฉยๆครับ...ฟางท้องอยู่นะ”
“ใช่ค่ะ เพราะฟางท้อง วันนี้ผลัดไปก่อนนะคะ นะคะ นะ”เขายิ้มเย็น ยกมือขึ้นปัด
ปรอยผมที่ปรกใบหน้าแสนหวานออกจากใบหน้า ก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ ค่อยๆเชือดเหยื่อสาวที่ทำ
หน้ามุ่ยลงทันตา
“พี่ต้องต่อกระดูกให้ลูกทุกวัน ไม่งั้นลูกเตี้ยเหมือนฟางทำไง”
“เอ้ะ! ก็ไม่ต้องทำไง หุ่นน่ารักแบบฟางนี่แหละดีจะตาย”เธอว่าพลางสะบัดหน้าพรืด
อย่างแง่งอน เขาชอบชะมัด ตั้งแต่แต่งงานกันมา คนตัวเล็กของเขาหึงเก่งขึ้นตั้งเยอะ แต่เธอก็คง
แพ้เขาอยู่ดี เพราะช่วงหลังแต่งงานมานี้แทบไม่มีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอได้อีกเลย
เพราะอะไรน่ะหรือ...
“เก็บไว้ให้พี่ดูคนเดียวก็พอแล้ว ยังจะอยากโชว์ให้ใครดูอีกหรอ”
“พี่ป๊อปนี่หึงไม่เข้าเรื่อง...ฟางไม่คุยด้วยแล้ว อย่าทับนอนสิคะ ลูกอึดอัดนะ"
เขาพยักหน้า ก่อนจะปล่อยเธอให้หลุดจากการกักกอด แต่นั่นก็แค่ทำให้เหยื่อตายใจเท่านั้นแหละ
ร่างสูงของภาณุพลิกกายลงนอนข้างๆร่างบอบบางของธนันต์ธรญ์ที่กำลังพยุงกาย
ลุกขึ้น ร่างบอบบางในชุดนอนบางเบาลุกขึ้นเดินผ่านทางเชื่อมไปยังห้องลูกชายตัวแสบ เขาสังเกต
ไฟที่ถูกปิดลงเป็นสัญญาณว่าลูกชายตัวดีหลับแล้ว และก็ได้เวลาที่สามีที่ดีอย่างเขาจะส่งการบ้าน
ให้ภรรยาสุดที่รักเสียที เมื่อไฟในห้องนอนของเขาถูกดับลงบ้างด้วยมือเล็กๆของภรรยาสาว
ร่างบอบบางที่ดูอวบอิ่มมีน้ำมีนวลขึ้นด้วยลูกในท้องกำลังเยื้องย่างขึ้นมาบนเตียง เขาไม่รอช้าเมื่อ
ร่างงามทรุดตัวลงบนเตียง...
อ้อมแขนแกร่งรัดเอาร่างเล็กแสนเย้ายวนขึ้นมานั่งบนตัก ริมฝีปากหยักลึกตะโบมจูบ
ธนันต์ธรญ์ด้วยความต้องการที่มีมากอย่างเปิดเผย เพราะผู้หญิงคนนี้คือคนที่รักและเธอก็เป็น
ภรรยาของเขา ไม่มีอะไรให้ต้องปิดบังความรู้สึกและความต้องการที่แท้จริงสักนิด ในเมื่อมันเป็น
เรื่องธรรมดาสำหรับคนรักกัน....
ริมฝีปากอิ่มจูบตอบสามีหนุ่มอย่างไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าคราใดที่ร่างกายของเธอถูกเขา
แตะต้อง หัวใจของเธอก็พร้อมจะโบยบินไปกับเขาเสมอ ในเมื่อมันเป็นความต้องการลึกๆของทั้ง
เธอและเขา แล้วทำไมต้องปิดกั้นมันเอาไว้ แม้จะเหน็ดเหนื่อยเท่าไหร่ แต่นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เธอ
และเขาช่วยเติมเต็มให้กันและกัน....
มือหนาถลกชุดนอนผ้าแพรบางเบาออกจากร่างอวบอิ่มมีน้ำมีนวลของภรรยาสาว
อย่างเร่งรีบ ขณะที่จมูกโด่งยังคงซุกไซร้สูดกลิ่นสาบสาวของภรรยาอย่างหลงใหล ทั้งริมฝีปาก
หยักลึกยังคอยขบเม้มสร้างรอยตีตราไปทั่วร่างงาม เขาใช้ช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเพื่อปลด
อาภรณ์จากร่างงาม ไม่นานททรวงอกงามสล้างก็ปรากฏแก่สายตา เขาไม่รีรอ ริมฝีปากฉกชิมยอด
อกสีระเรื่อที่ท้าทายสายตา จนเจ้าของครางฮือด้วยความพึงพอใจ มือเล็กๆกดศีรษะได้รูปของสามี
หนุ่มเข้าหาตัวพร้อมทั้งแอ่นโอนให้เขารับความนุ่มหยุ่นไว้ให้มากขึ้น ลิ้นร้อนละเมียดไล้เลียยอดถัน
สีสดอย่างทะนุถนอม บ้างก็รัวเร็วรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่น นิ้วเรียวแกร่งกรีดกรายบนชั้นใน
ผืนบางของภรรยาสาว บดขยี้เกสรดอกไม้งามผ่านเนื้อผ้าบางเบาจนเจ้าของสะดุ้งเฮือก หยัดกาย
เข้าหาอย่างลืมตัว ความชุ่มชื้นที่สัมผัสได้ผ่านปลายนิ้วทำให้ลำคอแห้งผากไปทันทีทันใด ใบหน้า
หล่อคมละจากทรวงสาว เพื่อจูบริมฝีปากบวมเจ่อที่มีเสียงครางหวานๆเล็ดรอดออกมา ในขณะที่มือ
ใหญ่นั้นจัดการถอดชั้นในตัวบางออกไปจากร่างงาม แทนที่ด้วยฝ่ามือใหญ่ นิ้วแกร่งถูกส่งเข้า
สำรวจภายในกายสาวอย่างเชื่องช้าทว่าหนักแน่น เสียงหวานหลุดครางเป็นระยะแม้มีริมฝีปากหยัก
ลึกของสามีหนุ่มตะโบมจูบอยู่ ทว่าเขาอยากฟังเสียงหวานของภรรยาสาว จึงจำใจถอนจูบออก
พร้อมกับเร่งจังหวะในการสำรวจให้ถี่รัวขึ้น
“อ๊ะ อ๊าห์ พี่ป๊อป อื้ม”
เสียงหวานครางไม่ได้ศัพท์ หน้าท้องเกร็งไปหมดเมื่อความรู้สึกบางอย่างกำลังบังเกิด
เธอฟุบใบหน้าบนบ่าแกร่ง ขณะเสียงหวานครางปนสะอื้นเพราะความเสียวซ่านหวานแหลมที่ทิ่ม
ทะลุทั่วสรรพางค์กาย ไม่นานนักเธอก็ถูกส่งขึ้นไปเก็บดวงดาราบนฟากฟ้าด้วยฝีมือของสามีหนุ่ม
เล็บมนจิกเนื้อหนั่นของชายหนุ่มแน่น ขณะช่องทางรักบีบรัดนิ้วแกร่งเสียแน่นจนเขาต้องสูดปาก
ร่างเล็กนิ่งอยู่พักใหญ่ ทว่ากลับถูกปลุกด้วยมือหนาที่บีบเคล้นสะโพกอ้อนแอ้นอยู่อย่างหนักมือ
“พี่ยังไม่ได้รักฟางเลยนะคนดี”และเธอก็รู้ทันทีว่าเขากำลังต้องการสิ่งใด....
ร่างเล็กดันกายให้ห่างจากกายกำยำเพียงนิด มือเล็กค่อยๆถอดกางเกงนอนของสามี
หนุ่มออกจากร่าง ความแข็งแกร่งก็ดีดตัวออกมาจนสาวเจ้านั้นหน้าแดงก่ำ เธอกระเถิบกายขึ้น
คร่อมสามีอีกครั้งและรั้งเสื้อยืดของเขาให้พ้นกาย เรียวปากอิ่มคลี่ยิ้ม ก่อนจะกดจูบไปตามใบหน้า
ลำคอ หน้าอก และปลายยอดถันของชายหนุ่มอย่างเคอะเขิน ทว่าสะโพกผายที่บดเข้ากับใจกลาง
ร่างของสามีหนุ่มนั้นกำลังทำให้เขาขาดการยับยั้งตัวเอง และทำให้แต่เพียงสูดปากระบายความ
เสียวซ่าน ได้แต่รอดูว่าแม่ตัวดีจะทำอย่างไรต่อไป
มือเล็กยันอกแกร่งของสามีหนุ่ม ก่อนจะบดเบียดสะโพกเข้ากันความแข็งแกร่งของ
สามีหนุ่มอย่างจงใจ เสียงหวานครางผะแผ่วเมื่อสะโพกผายถูกมือใหญ่จับและบังคับเป็นจังหวะ
“อื้ม ยั่วเก่งเป็นบ้า”เขาส่งสายตาแพรวพราวให้คนบนร่าง เธอหลบสายตา เป็นพัลวัน
ร่างเล็กค่อยๆใช้มือข้างหนึ่งดันไหล่แกร่งเพื่อยกร่างขึ้นเพียงนิด มือเล็กอีกข้างจับตัวตนของสามี
หนุ่มจ่อที่กุหลาบงาม ก่อนเธอจะหันหลับมาใช้มือดันอกแกร่งทั้สองข้างและรับตัวตนของชายหนุ่ม
เข้ามาช้าๆ
“อ๊ะ...อื้ม...”เรียวปากอิ่มสูดปากเมื่อเริ่มควบคุมจังหวะตามที่ตนเองต้องการ สะโพก
งามขยับขึ้น-ลงโดยมีมือหนาของสามีหนุ่มช่วยขยับ ดวงตาคมมองจ๊อกกี้สาวที่กำลังบังคับ
อาชาไนยด้วยแววตาเปี่ยมรัก เขายกตัวสวนสะโพกให้กับภรรยาสาวจนเสียงครางดังระงม จังหวะ
เพลงรักถูกเร่ง และเริ่มจะร้อนแรงขึ้นกว่าเดิม เมื่อร่างบางฟุบกอดสามีหนุ่มไว้ ปล่อยให้เขาเป็นผู้
คุมเกม ยังเสียงครางที่ดังขึ้นข้างๆหูยิ่งทำให้ฮึกเหิม จังหวะรักเริ่มหนักแน่น ไม่นานนักร่างงามก็
กระตุกเฮือก พร้อมกับช่องทางรักที่บีบรัดตัวตนของสามีหนุ่มเสียแน่น
“พี่ป๊อป อ๊าห์...อื้ม”ชายหนุ่มรีบเร่งจังหวะตามภรรยาสาวไปด้วยกลัวว่าเธอจะเจ็บ ไม่
นานใบหน้าหล่อคมก็เครียดเขม็ง เส้นเลือดตามลำคอปูดโปน ก่อนเสียงคำรามจะถูกปลดปล่อย
พร้อมกับสายธารแห่งชีวิตเข้าสู่กายสาว....
นานกว่าครึ่งชั่วโมงที่ทั้งสองยังคงอยู่ในท่วงท่าเดิม ชายหนุ่มรอให้คนตัวเล็กในอ้อม
กอดหลับสนิท จึงค่อยๆถอดถอนร่างกายออกจากกัน เขาอุ้มร่างแน่งน้อยวางบนหมอนใบใหญ่
ก่อนจะค่อยทรุดตัวลงนอนและดึงร่างของเธอเข้ามากอด เจ้าตัวก็ช่างอ้อนซุกอกเขาราวกับ
เด็กน้อย คิดแล้วก็อยากจะปลุกเธอขึ้นมาต่ออีกสักยกสองยก
ร่างเล็กอ้วนตุ้ยนุ้ยซึ่งอยู่ในอ้อมแขนของคนเป็นพ่อปรบมือหัวเราะชอบใจเมื่อคนเป็น
พ่อโยนขึ้นสู่อากาศ เสียงเล็กร้องกรี๊ดหัวเราะอย่างสนุกสนาน จนคนเป็นแม่ที่เพิ่งจะออกมาจาก
ห้องน้ำตกใจ ร้องห้ามเป็นพัลวัน
“ว้าย เล่นอะไรกันคะเนี่ย”ร่างเล็กรีบรุดเดินเข้ามาแย่งลูกน้อยไปจากคนเป็นพ่อ ก่อน
จะมองเสียตาขวาง
“อย่ามองอย่างนั้นสิครับ พี่ก็เล่นเฉยๆ ไอ้แสบมันชอบ อีกอย่างรับได้อยู่แล้ว”เขา
บอกอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ก่อนจะหอมแก้มนวลของภรรยาเสียฟอดใหญ่
“แต่งตัวเถอะ เดี๋ยวพี่พาลูกลงไปดูทีวีข้างล่าง”
“แน่นะคะ”เธอมองอย่างคาดคั้น จริงที่สุดที่ใครต่อใครบอกไว้ว่าไม่ควรสักนิดที่จะ
ปล่อยลูกไว้กับคนเป็นพ่อตามลำพัง เจ้าลูกชายของเธอนั้นไม่ต่างจากภาณุสักนิด สมแล้วที่ชื่อของ
เขามีความหมายว่าสายเลือดแห่งดวงตะวัน....เชื้อไม่ทิ้งแถวสักนิด
อะไรที่อันตรายก็ยิ่งวิ่งเข้าหา ดื้อ ซนราวกับลูกลิง ยิ่งเมื่ออยู่กับภาณุคราใดก็ยิ่งได้ใจ
เพราะคนเป็นพ่อนั้นตามใจเสียทุกอย่าง แต่คงจะดีอยู่อย่างเดียวคือภาณุนั้นสอนให้ลูกชายของเขา
และเธอเป็นสุภาพบุรุษเสมอ...
“ครับ” เขาว่าพร้อมทำท่าตะเบ๊ะ ซึ่งเจ้าลูกชายตัวดีก็หัวเราะและทำตาม
“ให้มันแน่เถอะค่ะ”
“ฮ่าๆ มา พี่ซีลไปเล่นกันข้างล่างดีกว่า”เขาว่าพลางรับลูกน้อยมากจากภรรยาสาว
จมูกโด่งฟัดแก้มยุ้ยนุ่มนิ่มของลูกชายอย่างมันเขี้ยว เจ้าตัวเล็กหัวเราะชอบใจ ก่อนชายหนุ่มจะเดิน
ออกไปจากห้องนอน เธอระบายยิ้มออกมาอย่างสุขใจ ไม่คิดเลยว่าชีวิตแสนธรรมดาของเธอจะมี
ความสุขได้มากมายขนาดนี้เมื่อผู้ชายคนนี้ได้ก้าวเข้ามาในชีวิต
ที่ผ่านมาเขาดูแลครอบครัวของเธอเป็นอย่างดี แม้เธอต้องย้ายมาอยู่ในกรุงเทพฯหลัง
จากแต่งงานกับเขา และจำใจต้องจากมารดามา เพราะท่านไม่ชอบชีวิตในเมืองกรุง แต่เขายัง
เอาใจใส่ พาเธอไปเยี่ยมมารดาทุกครั้งที่มีโอกาส เขาให้ความสำคัญกับความครัวมาก เสมอต้น
เสมอปลาย ไม่มากหรือน้อยเกินไป....
ลมทะเลยามเช้าพัดพาเอาความสดชื่นมาปะทะสามร่างที่แตกต่างกัน ภาณุกำลังอุ้ม
ลูกชายไว้ในอ้อมกอด และอีกมือหนึ่งก็จับจูงมือเล็กของภรรยาสาวไว้อย่างแนบแน่น รอยยิ้มต่าง
แต่งแต้มบนเรียวปากของทั้งสาม เสียงหัวเราะใสๆของเด็กชายร่างตุ้ยนุ้ยดังขึ้น เมื่อมองเห็นน้ำ
ทะเลอยู่รำไร มือเล็กป้อมไขว่คว้าราวกับต้องการลงไปเล่นเสียเดี๋ยวนี้
หากแต่ว่าคนเป็นพ่อไม่ยอมปล่อย
“พี่อยากเล่นน้ำ”เสียงใสร้องบอกความต้องการของตัวเอง แต่คนเป็นแม่ไม่ยอม
“ไม่ได้นะคะ ยังเช้าอยู่เลย แดดกำลังแรง ไว้ตอนเย็นๆค่อยเล่นนะ จะได้เล่นน้ำกับ
น้องขิมไงคะ”เจ้าตัวน้อยมีท่าทีโอนอ่อนลงเมื่อพูดถึงสายขิม ลูกสาวสุดรักสุดหวงของภัทรดนัย
และภรรยาสาวที่เข้าประตูวิวาห์ตามเธอและภาณุมาติดๆ ต่างจากคู่ของวิศวะที่ยังไม่รีบร้อน ยังคง
สถานะคนรักไปเรื่อยๆ
“เมื่อไหร่น้องขิมจะมาคับ”เด็กน้อยถามอย่างใคร่รู้ ดวงตากลมแป๋วจ้องมองคนเป็นแม่
อย่างต้องการคำตอบ
“อีกเดี๋ยวค่ะ พี่ซีลดูนั่นสิ พระอาทิตย์ตกสวยมากเลย”นิ้วเรียวสวยชี้ดวงอาทิตย์ดวง
ใหญ่ที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมา แสงแรกอรุณสาดส่องทั่วท้องนภาจนกลายเป็นสีทอง นกทะเล
บินผ่านไป-มาประดับท้องนภาให้ดูน่าพิศ
“สวยเนอะ”เสียงเข้มเอ่ยขณะมองเสี้ยวหน้าหวานของภรรยาสาว เธอยิ้มหวานให้เขา
ก่อนจะขยับตัวกอดแขนแกร่งและซบใบหน้าลงบนต้นแขนของภาณุอย่างออดอ้อน
“อยู่ดูพระอาทิตย์อย่างนี้ไปด้วยกันจนแก่เลยนะคะ”ชายหนุ่มก้มลงมองภรรยาสาว
ด้วยสายตาหวานฉ่ำ เพราะเธอน่ารักขึ้นทุกวันแบบนี้จะให้เขาเปลี่ยนใจไปที่ไหนได้
“ไม่เห็นสวยเลย พี่หิวข้าวแล้วคับแม่”เสียงใสดังขัดจังหวะ แขนจ้ำม่ำกางออกเพื่อ
อ้อนคนเป็นแม่ให้อุ้ม ธนันต์ธรญ์รับร่างน้อยเข้ามาในอ้อมกอด ก่อนทั้งสามจะพากันเดินเข้าบ้าน
หลังน่ารักเพื่อทานอาหารเช้าร่วมกัน และดูเหมือนคู่พ่อลูกนั่นจะเปิดสงครามกันเงียบๆ
“พี่ซีลอายุกี่ขวบแล้ว”คนเป็นพ่อถามเสียงเข้ม
“สองขวบ แปดเดือน”เจ้าตัวเล็กตอบอย่างมั่นใจ รพีพงษ์นั้นเป็นเด็กฉลลาดและเรียน
รู้ได้ไวกว่าเด็กในวัยเดียวกัน มากเกินไปจนทำให้คนเป็นพ่อหมั่นไส้ในความแก่แดดอยู่ไม่น้อย
“แล้วทำไมถึงเดินเองไม่ได้ ให้แม่อุ้ม ไม่เห็นหรอแม่ตัวเล็กนิดเดียว”เธอหัวเราะเบาๆ
เรื่องนี้เป็นประเด็นมานานแล้ว เจ้าตัวเล็กที่ทุกวันเอาแต่อ้วนออกจนทำให้เธอแทบอุ้มไม่ไหวนั้น
ทำให้ภาณุไม่ค่อยให้เธออุ้มลูกนัก เขามักจะฝึกให้ลูกเดินเองด้วยอาจจะเพียงจูงมือเท่านั้น หรือ
อาจจะอุ้มบางครั้งเมื่อจำเป็นจริงๆ
“อย่าดุลูกเลยค่ะ แกไม่ได้หนักขนาดนั้นซะหน่อย”เธอปรามสงครามก่อนที่เจ้าตัวเล็ก
จะได้งอนคนเป็นพ่ออีกรอบ เธอวางอาหารเช้าของพ่อลูกไว้ตรงหน้า ก่อนทั้งสองจะเริ่มรับประทาน
อย่างเงียบๆ
“แม่อุ้มพี่ซีลได้ แต่ว่าตอนนี้แม่กำลังมีน้อง คงจะอุ้มพี่ซีลไม่ได้จนกว่าจะคลอดน้อง
อย่างอนพ่อเลยนะคะ”เธอเอ่ยเมื่อรู้ว่าเจ้าตัวเล็กงอนคนเป็นพ่อไปแล้ว
“น้องหรอคับ”
“ค่ะ ถ้าพี่ซีลรักน้องก็อย่าดื้อ อย่าซนนะคะ”
“คับ พี่รักน้อง”เจ้าตัวพูดก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง และหันไปเกี่ยวก้อยกับคนเป็นพ่อ เธอ
มองภาณุที่ขยี้ผมของลูกชายอย่างเอ็นดูในความไร้เดียงสา พ่อลูกคู่นี้เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย
จนเธอชินชาไปเสียแล้ว
“ของพี่”เธอหลุดจากภวังค์มองภาณุที่แกล้งลูกอย่างสนุกสนาน เขาแย่งแฮมของ
โปรดของลูกชายมาไว้ในมือก่อนจะยิ้มหลอกล่อ เธอส่ายหน้าอย่างระอา คนเป็นพ่อก็ใช่ย่อย...
“ป๊า ของพี่นะ”
“อ้วนขนาดนี้ยังจะกินอีกหรอ”เขาว่าอย่างเอ็นดูลูกน้อย มือหนาดึงแก้มยุ้ยของลูกเล่น
อย่างมันเขี้ยว
“แม่บอกว่าพี่กำลังโต”เขาและเธอพร้อมใจกันปล่อยเสียงหัวเราะให้กับความเจ้าเล่ห์
ของลูกชายที่ได้จากคนเป็นพ่อมาเต็มๆ หากแต่เจ้าตัวไม่สนใจ คว้าแฮมกลับมาเคี้ยวตุ้ยๆ
“กินเยอะๆดีแล้วค่ะ พี่ป๊อปก็เหมือนกัน เอาแต่แกล้งลูก ทานข้าวได้แล้ว”
โต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ รอยยิ้มที่สดใส เสียงหัวเราะที่ทำให้หัวใจ
กระชุ่มกระชวย อ้อมกอดที่คอยโอบประคองในวันที่เหนื่อยล้า และพยานรักที่เป็นดั่งโซ่ทอง
คล้องใจของเธอและเขาไว้ด้วยกัน...เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
มาแล้ววววว ตามคำขอไม่มีขัดใจ ฟาดเข้าไป 7 page word ฮ่าๆๆๆ ส่งท้ายหวานๆนะค่า
ฝากนิยายเรื่องใหม่ของเราด้วยTHE WAY OF LOVE. ทางเดินแห่งรัก
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณนักอ่านที่น่ารักทุกคน ไม่ว่าจะเป็นที่เม้นให้กำลังใจเรา เข้ามาทวง
ถามนิยายบ่อยๆเวลาเราเกเร ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกัน แม้ว่าเราจะหายไปนานแค่ไหนก็ตาม
ขอบคุณนะคะ รีดเดอร์คือกำลังใจสำคัญของเรา ขอบคุณทุกคำวิจารณ์ ทุกกำลัง หรือแม้แต่คนที่
เปิดเข้ามาอ่าน นักอ่านเงาหรือใครก็ตาม ขอบคณจริงๆค่ะ รีดเดอร์เป็นคนที่ทำให้เราอยากแต่ง
นิยายต่อไปเรื่อยๆ โดยมีป๊อปปี้และฟางเป็นพระเอกและนางเอกตลอดไป 5555
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ