Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน

9.7

เขียนโดย OUM_PF

วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.

  45 ตอน
  590 วิจารณ์
  94.03K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

44)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          เค้าขอโทษสำหรับNC (ที่อาจจะแรงไป อิอิ) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะจ้ะ

 

Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน

ตอนพิเศษ

 

 

 

               “ไม่เอานะ ฟางเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว”

 

 

               ภาณุยิ้มเย็นเอ็นดูคนใต้ร่าง วันนี้แม่ตัวดีของเขางอแงเป็นพิเศษ คงจะเป็นเพราะเธอ

เองกำลังตั้งท้องลูกคนที่สองของเขา ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสักนิดที่งานแต่งงานระหว่างเขาและ

ธนันต์ธรญ์ถูกจัดขึ้นในอีกสองเดือนถัดมาหลังจากงานหมั้น แน่นอนว่าแม่มดน้อยไม่มีทางหนีรอด

กับดักของเขาได้ เขาใช้ทั้งลูกอ้อน ลูกตื้อ และอีกหลายร้อยพันมารยาทุกเล่มเกวียนที่จะงัดออก

มาใช้ได้ จนในที่สุดแม่ตัวดีก็ตกลงปลงใจแต่งงานกับเขา แน่นอนว่าเขาให้เกียรติเธออดทนอด

กลั้นจนถึงคืนแต่งงาน และความรักของเธอและเขาก็ราบรื่นเรื่อยมา แม้จะมีทะเลาะเล็กๆน้อยๆกัน

อยู่บ้าง แต่เรื่องไหนที่ยอมได้เขาก็ยอมเสมอ และธนันต์ธรญ์ก็ไม่ใช่ผู้หญิงไร้เหตุผล เธอยังน่ารัก

กับเขาเสมอ และน่ารักเพิ่มมากขึ้นทุกวัน เมื่อเธอได้ให้กำเนิดลูกชายคนแรกเมื่อสามปีที่ผ่านมา

เด็กชายรพีพงษ์ จิระคุณ หรือไอ้พี่ซีลตัวแสบคือผลผลิตระหว่างเขาและภรรยาที่รัก

 

 

               “มองอะไรคะ”

 

 

               “ก็มองเฉยๆครับ...ฟางท้องอยู่นะ”

 

 

               “ใช่ค่ะ เพราะฟางท้อง วันนี้ผลัดไปก่อนนะคะ นะคะ นะ”เขายิ้มเย็น ยกมือขึ้นปัด

ปรอยผมที่ปรกใบหน้าแสนหวานออกจากใบหน้า ก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ ค่อยๆเชือดเหยื่อสาวที่ทำ

หน้ามุ่ยลงทันตา

 

 

               “พี่ต้องต่อกระดูกให้ลูกทุกวัน ไม่งั้นลูกเตี้ยเหมือนฟางทำไง”

 

 

               “เอ้ะ! ก็ไม่ต้องทำไง หุ่นน่ารักแบบฟางนี่แหละดีจะตาย”เธอว่าพลางสะบัดหน้าพรืด

อย่างแง่งอน เขาชอบชะมัด ตั้งแต่แต่งงานกันมา คนตัวเล็กของเขาหึงเก่งขึ้นตั้งเยอะ แต่เธอก็คง

แพ้เขาอยู่ดี เพราะช่วงหลังแต่งงานมานี้แทบไม่มีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอได้อีกเลย

เพราะอะไรน่ะหรือ...

 

 

               “เก็บไว้ให้พี่ดูคนเดียวก็พอแล้ว ยังจะอยากโชว์ให้ใครดูอีกหรอ”

 

 

               “พี่ป๊อปนี่หึงไม่เข้าเรื่อง...ฟางไม่คุยด้วยแล้ว อย่าทับนอนสิคะ ลูกอึดอัดนะ"

               เขาพยักหน้า ก่อนจะปล่อยเธอให้หลุดจากการกักกอด แต่นั่นก็แค่ทำให้เหยื่อตายใจเท่านั้นแหละ

 

 

               ร่างสูงของภาณุพลิกกายลงนอนข้างๆร่างบอบบางของธนันต์ธรญ์ที่กำลังพยุงกาย

ลุกขึ้น ร่างบอบบางในชุดนอนบางเบาลุกขึ้นเดินผ่านทางเชื่อมไปยังห้องลูกชายตัวแสบ เขาสังเกต

ไฟที่ถูกปิดลงเป็นสัญญาณว่าลูกชายตัวดีหลับแล้ว และก็ได้เวลาที่สามีที่ดีอย่างเขาจะส่งการบ้าน

ให้ภรรยาสุดที่รักเสียที เมื่อไฟในห้องนอนของเขาถูกดับลงบ้างด้วยมือเล็กๆของภรรยาสาว

ร่างบอบบางที่ดูอวบอิ่มมีน้ำมีนวลขึ้นด้วยลูกในท้องกำลังเยื้องย่างขึ้นมาบนเตียง เขาไม่รอช้าเมื่อ

ร่างงามทรุดตัวลงบนเตียง...

 

 

 

               อ้อมแขนแกร่งรัดเอาร่างเล็กแสนเย้ายวนขึ้นมานั่งบนตัก ริมฝีปากหยักลึกตะโบมจูบ

ธนันต์ธรญ์ด้วยความต้องการที่มีมากอย่างเปิดเผย เพราะผู้หญิงคนนี้คือคนที่รักและเธอก็เป็น

ภรรยาของเขา ไม่มีอะไรให้ต้องปิดบังความรู้สึกและความต้องการที่แท้จริงสักนิด ในเมื่อมันเป็น

เรื่องธรรมดาสำหรับคนรักกัน....

 

 

               ริมฝีปากอิ่มจูบตอบสามีหนุ่มอย่างไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าคราใดที่ร่างกายของเธอถูกเขา

แตะต้อง หัวใจของเธอก็พร้อมจะโบยบินไปกับเขาเสมอ ในเมื่อมันเป็นความต้องการลึกๆของทั้ง

เธอและเขา แล้วทำไมต้องปิดกั้นมันเอาไว้ แม้จะเหน็ดเหนื่อยเท่าไหร่ แต่นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เธอ

และเขาช่วยเติมเต็มให้กันและกัน....

 

 

               มือหนาถลกชุดนอนผ้าแพรบางเบาออกจากร่างอวบอิ่มมีน้ำมีนวลของภรรยาสาว

อย่างเร่งรีบ ขณะที่จมูกโด่งยังคงซุกไซร้สูดกลิ่นสาบสาวของภรรยาอย่างหลงใหล ทั้งริมฝีปาก

หยักลึกยังคอยขบเม้มสร้างรอยตีตราไปทั่วร่างงาม เขาใช้ช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเพื่อปลด

อาภรณ์จากร่างงาม ไม่นานททรวงอกงามสล้างก็ปรากฏแก่สายตา เขาไม่รีรอ ริมฝีปากฉกชิมยอด

อกสีระเรื่อที่ท้าทายสายตา จนเจ้าของครางฮือด้วยความพึงพอใจ มือเล็กๆกดศีรษะได้รูปของสามี

หนุ่มเข้าหาตัวพร้อมทั้งแอ่นโอนให้เขารับความนุ่มหยุ่นไว้ให้มากขึ้น ลิ้นร้อนละเมียดไล้เลียยอดถัน

สีสดอย่างทะนุถนอม บ้างก็รัวเร็วรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่น นิ้วเรียวแกร่งกรีดกรายบนชั้นใน

ผืนบางของภรรยาสาว บดขยี้เกสรดอกไม้งามผ่านเนื้อผ้าบางเบาจนเจ้าของสะดุ้งเฮือก หยัดกาย

เข้าหาอย่างลืมตัว ความชุ่มชื้นที่สัมผัสได้ผ่านปลายนิ้วทำให้ลำคอแห้งผากไปทันทีทันใด ใบหน้า

หล่อคมละจากทรวงสาว เพื่อจูบริมฝีปากบวมเจ่อที่มีเสียงครางหวานๆเล็ดรอดออกมา ในขณะที่มือ

ใหญ่นั้นจัดการถอดชั้นในตัวบางออกไปจากร่างงาม แทนที่ด้วยฝ่ามือใหญ่ นิ้วแกร่งถูกส่งเข้า

สำรวจภายในกายสาวอย่างเชื่องช้าทว่าหนักแน่น เสียงหวานหลุดครางเป็นระยะแม้มีริมฝีปากหยัก

ลึกของสามีหนุ่มตะโบมจูบอยู่ ทว่าเขาอยากฟังเสียงหวานของภรรยาสาว จึงจำใจถอนจูบออก

พร้อมกับเร่งจังหวะในการสำรวจให้ถี่รัวขึ้น

 

 

               “อ๊ะ อ๊าห์ พี่ป๊อป อื้ม”

 

 

               เสียงหวานครางไม่ได้ศัพท์ หน้าท้องเกร็งไปหมดเมื่อความรู้สึกบางอย่างกำลังบังเกิด

เธอฟุบใบหน้าบนบ่าแกร่ง ขณะเสียงหวานครางปนสะอื้นเพราะความเสียวซ่านหวานแหลมที่ทิ่ม

ทะลุทั่วสรรพางค์กาย ไม่นานนักเธอก็ถูกส่งขึ้นไปเก็บดวงดาราบนฟากฟ้าด้วยฝีมือของสามีหนุ่ม

เล็บมนจิกเนื้อหนั่นของชายหนุ่มแน่น ขณะช่องทางรักบีบรัดนิ้วแกร่งเสียแน่นจนเขาต้องสูดปาก

ร่างเล็กนิ่งอยู่พักใหญ่ ทว่ากลับถูกปลุกด้วยมือหนาที่บีบเคล้นสะโพกอ้อนแอ้นอยู่อย่างหนักมือ

 

 

               “พี่ยังไม่ได้รักฟางเลยนะคนดี”และเธอก็รู้ทันทีว่าเขากำลังต้องการสิ่งใด....

 

 

               ร่างเล็กดันกายให้ห่างจากกายกำยำเพียงนิด มือเล็กค่อยๆถอดกางเกงนอนของสามี

หนุ่มออกจากร่าง ความแข็งแกร่งก็ดีดตัวออกมาจนสาวเจ้านั้นหน้าแดงก่ำ เธอกระเถิบกายขึ้น

คร่อมสามีอีกครั้งและรั้งเสื้อยืดของเขาให้พ้นกาย เรียวปากอิ่มคลี่ยิ้ม ก่อนจะกดจูบไปตามใบหน้า

ลำคอ หน้าอก และปลายยอดถันของชายหนุ่มอย่างเคอะเขิน ทว่าสะโพกผายที่บดเข้ากับใจกลาง

ร่างของสามีหนุ่มนั้นกำลังทำให้เขาขาดการยับยั้งตัวเอง และทำให้แต่เพียงสูดปากระบายความ

เสียวซ่าน ได้แต่รอดูว่าแม่ตัวดีจะทำอย่างไรต่อไป

 

 

               มือเล็กยันอกแกร่งของสามีหนุ่ม ก่อนจะบดเบียดสะโพกเข้ากันความแข็งแกร่งของ

สามีหนุ่มอย่างจงใจ เสียงหวานครางผะแผ่วเมื่อสะโพกผายถูกมือใหญ่จับและบังคับเป็นจังหวะ

 

               “อื้ม ยั่วเก่งเป็นบ้า”เขาส่งสายตาแพรวพราวให้คนบนร่าง เธอหลบสายตา เป็นพัลวัน

ร่างเล็กค่อยๆใช้มือข้างหนึ่งดันไหล่แกร่งเพื่อยกร่างขึ้นเพียงนิด มือเล็กอีกข้างจับตัวตนของสามี

หนุ่มจ่อที่กุหลาบงาม ก่อนเธอจะหันหลับมาใช้มือดันอกแกร่งทั้สองข้างและรับตัวตนของชายหนุ่ม

เข้ามาช้าๆ

 

 

               “อ๊ะ...อื้ม...”เรียวปากอิ่มสูดปากเมื่อเริ่มควบคุมจังหวะตามที่ตนเองต้องการ สะโพก

งามขยับขึ้น-ลงโดยมีมือหนาของสามีหนุ่มช่วยขยับ ดวงตาคมมองจ๊อกกี้สาวที่กำลังบังคับ

อาชาไนยด้วยแววตาเปี่ยมรัก เขายกตัวสวนสะโพกให้กับภรรยาสาวจนเสียงครางดังระงม จังหวะ

เพลงรักถูกเร่ง และเริ่มจะร้อนแรงขึ้นกว่าเดิม เมื่อร่างบางฟุบกอดสามีหนุ่มไว้ ปล่อยให้เขาเป็นผู้

คุมเกม ยังเสียงครางที่ดังขึ้นข้างๆหูยิ่งทำให้ฮึกเหิม จังหวะรักเริ่มหนักแน่น ไม่นานนักร่างงามก็

กระตุกเฮือก พร้อมกับช่องทางรักที่บีบรัดตัวตนของสามีหนุ่มเสียแน่น

 

 

               “พี่ป๊อป อ๊าห์...อื้ม”ชายหนุ่มรีบเร่งจังหวะตามภรรยาสาวไปด้วยกลัวว่าเธอจะเจ็บ ไม่

นานใบหน้าหล่อคมก็เครียดเขม็ง เส้นเลือดตามลำคอปูดโปน ก่อนเสียงคำรามจะถูกปลดปล่อย

พร้อมกับสายธารแห่งชีวิตเข้าสู่กายสาว....

 

 

               นานกว่าครึ่งชั่วโมงที่ทั้งสองยังคงอยู่ในท่วงท่าเดิม ชายหนุ่มรอให้คนตัวเล็กในอ้อม

กอดหลับสนิท จึงค่อยๆถอดถอนร่างกายออกจากกัน เขาอุ้มร่างแน่งน้อยวางบนหมอนใบใหญ่

ก่อนจะค่อยทรุดตัวลงนอนและดึงร่างของเธอเข้ามากอด เจ้าตัวก็ช่างอ้อนซุกอกเขาราวกับ

เด็กน้อย คิดแล้วก็อยากจะปลุกเธอขึ้นมาต่ออีกสักยกสองยก

 

 

 

 

 

               ร่างเล็กอ้วนตุ้ยนุ้ยซึ่งอยู่ในอ้อมแขนของคนเป็นพ่อปรบมือหัวเราะชอบใจเมื่อคนเป็น

พ่อโยนขึ้นสู่อากาศ เสียงเล็กร้องกรี๊ดหัวเราะอย่างสนุกสนาน จนคนเป็นแม่ที่เพิ่งจะออกมาจาก

ห้องน้ำตกใจ ร้องห้ามเป็นพัลวัน

 

 

               “ว้าย เล่นอะไรกันคะเนี่ย”ร่างเล็กรีบรุดเดินเข้ามาแย่งลูกน้อยไปจากคนเป็นพ่อ ก่อน

จะมองเสียตาขวาง

 

 

               “อย่ามองอย่างนั้นสิครับ พี่ก็เล่นเฉยๆ ไอ้แสบมันชอบ อีกอย่างรับได้อยู่แล้ว”เขา

บอกอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ก่อนจะหอมแก้มนวลของภรรยาเสียฟอดใหญ่

 

 

               “แต่งตัวเถอะ เดี๋ยวพี่พาลูกลงไปดูทีวีข้างล่าง”

 

 

               “แน่นะคะ”เธอมองอย่างคาดคั้น จริงที่สุดที่ใครต่อใครบอกไว้ว่าไม่ควรสักนิดที่จะ

ปล่อยลูกไว้กับคนเป็นพ่อตามลำพัง เจ้าลูกชายของเธอนั้นไม่ต่างจากภาณุสักนิด สมแล้วที่ชื่อของ

เขามีความหมายว่าสายเลือดแห่งดวงตะวัน....เชื้อไม่ทิ้งแถวสักนิด

 

 

               อะไรที่อันตรายก็ยิ่งวิ่งเข้าหา ดื้อ ซนราวกับลูกลิง ยิ่งเมื่ออยู่กับภาณุคราใดก็ยิ่งได้ใจ

เพราะคนเป็นพ่อนั้นตามใจเสียทุกอย่าง แต่คงจะดีอยู่อย่างเดียวคือภาณุนั้นสอนให้ลูกชายของเขา

และเธอเป็นสุภาพบุรุษเสมอ...

 

 

               “ครับ” เขาว่าพร้อมทำท่าตะเบ๊ะ ซึ่งเจ้าลูกชายตัวดีก็หัวเราะและทำตาม

 

 

               “ให้มันแน่เถอะค่ะ”

 

 

                “ฮ่าๆ มา พี่ซีลไปเล่นกันข้างล่างดีกว่า”เขาว่าพลางรับลูกน้อยมากจากภรรยาสาว

จมูกโด่งฟัดแก้มยุ้ยนุ่มนิ่มของลูกชายอย่างมันเขี้ยว เจ้าตัวเล็กหัวเราะชอบใจ ก่อนชายหนุ่มจะเดิน

ออกไปจากห้องนอน เธอระบายยิ้มออกมาอย่างสุขใจ ไม่คิดเลยว่าชีวิตแสนธรรมดาของเธอจะมี

ความสุขได้มากมายขนาดนี้เมื่อผู้ชายคนนี้ได้ก้าวเข้ามาในชีวิต

 

 

               ที่ผ่านมาเขาดูแลครอบครัวของเธอเป็นอย่างดี แม้เธอต้องย้ายมาอยู่ในกรุงเทพฯหลัง

จากแต่งงานกับเขา และจำใจต้องจากมารดามา เพราะท่านไม่ชอบชีวิตในเมืองกรุง แต่เขายัง

เอาใจใส่ พาเธอไปเยี่ยมมารดาทุกครั้งที่มีโอกาส เขาให้ความสำคัญกับความครัวมาก เสมอต้น

เสมอปลาย ไม่มากหรือน้อยเกินไป....

 

 

 

               ลมทะเลยามเช้าพัดพาเอาความสดชื่นมาปะทะสามร่างที่แตกต่างกัน ภาณุกำลังอุ้ม

ลูกชายไว้ในอ้อมกอด และอีกมือหนึ่งก็จับจูงมือเล็กของภรรยาสาวไว้อย่างแนบแน่น รอยยิ้มต่าง

แต่งแต้มบนเรียวปากของทั้งสาม เสียงหัวเราะใสๆของเด็กชายร่างตุ้ยนุ้ยดังขึ้น เมื่อมองเห็นน้ำ

ทะเลอยู่รำไร มือเล็กป้อมไขว่คว้าราวกับต้องการลงไปเล่นเสียเดี๋ยวนี้

หากแต่ว่าคนเป็นพ่อไม่ยอมปล่อย

 

 

               “พี่อยากเล่นน้ำ”เสียงใสร้องบอกความต้องการของตัวเอง แต่คนเป็นแม่ไม่ยอม

 

 

               “ไม่ได้นะคะ ยังเช้าอยู่เลย แดดกำลังแรง ไว้ตอนเย็นๆค่อยเล่นนะ จะได้เล่นน้ำกับ

น้องขิมไงคะ”เจ้าตัวน้อยมีท่าทีโอนอ่อนลงเมื่อพูดถึงสายขิม ลูกสาวสุดรักสุดหวงของภัทรดนัย

และภรรยาสาวที่เข้าประตูวิวาห์ตามเธอและภาณุมาติดๆ ต่างจากคู่ของวิศวะที่ยังไม่รีบร้อน ยังคง

สถานะคนรักไปเรื่อยๆ

 

 

               “เมื่อไหร่น้องขิมจะมาคับ”เด็กน้อยถามอย่างใคร่รู้ ดวงตากลมแป๋วจ้องมองคนเป็นแม่

อย่างต้องการคำตอบ

 

 

               “อีกเดี๋ยวค่ะ พี่ซีลดูนั่นสิ พระอาทิตย์ตกสวยมากเลย”นิ้วเรียวสวยชี้ดวงอาทิตย์ดวง

ใหญ่ที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมา แสงแรกอรุณสาดส่องทั่วท้องนภาจนกลายเป็นสีทอง นกทะเล

บินผ่านไป-มาประดับท้องนภาให้ดูน่าพิศ

 

 

               “สวยเนอะ”เสียงเข้มเอ่ยขณะมองเสี้ยวหน้าหวานของภรรยาสาว เธอยิ้มหวานให้เขา

ก่อนจะขยับตัวกอดแขนแกร่งและซบใบหน้าลงบนต้นแขนของภาณุอย่างออดอ้อน

 

 

               “อยู่ดูพระอาทิตย์อย่างนี้ไปด้วยกันจนแก่เลยนะคะ”ชายหนุ่มก้มลงมองภรรยาสาว

ด้วยสายตาหวานฉ่ำ เพราะเธอน่ารักขึ้นทุกวันแบบนี้จะให้เขาเปลี่ยนใจไปที่ไหนได้

 

 

               “ไม่เห็นสวยเลย พี่หิวข้าวแล้วคับแม่”เสียงใสดังขัดจังหวะ แขนจ้ำม่ำกางออกเพื่อ

อ้อนคนเป็นแม่ให้อุ้ม ธนันต์ธรญ์รับร่างน้อยเข้ามาในอ้อมกอด ก่อนทั้งสามจะพากันเดินเข้าบ้าน

หลังน่ารักเพื่อทานอาหารเช้าร่วมกัน และดูเหมือนคู่พ่อลูกนั่นจะเปิดสงครามกันเงียบๆ

 

 

               “พี่ซีลอายุกี่ขวบแล้ว”คนเป็นพ่อถามเสียงเข้ม

 

 

               “สองขวบ แปดเดือน”เจ้าตัวเล็กตอบอย่างมั่นใจ รพีพงษ์นั้นเป็นเด็กฉลลาดและเรียน

รู้ได้ไวกว่าเด็กในวัยเดียวกัน มากเกินไปจนทำให้คนเป็นพ่อหมั่นไส้ในความแก่แดดอยู่ไม่น้อย

 

 

               “แล้วทำไมถึงเดินเองไม่ได้ ให้แม่อุ้ม ไม่เห็นหรอแม่ตัวเล็กนิดเดียว”เธอหัวเราะเบาๆ

เรื่องนี้เป็นประเด็นมานานแล้ว เจ้าตัวเล็กที่ทุกวันเอาแต่อ้วนออกจนทำให้เธอแทบอุ้มไม่ไหวนั้น

ทำให้ภาณุไม่ค่อยให้เธออุ้มลูกนัก เขามักจะฝึกให้ลูกเดินเองด้วยอาจจะเพียงจูงมือเท่านั้น  หรือ

อาจจะอุ้มบางครั้งเมื่อจำเป็นจริงๆ

 

 

               “อย่าดุลูกเลยค่ะ แกไม่ได้หนักขนาดนั้นซะหน่อย”เธอปรามสงครามก่อนที่เจ้าตัวเล็ก

จะได้งอนคนเป็นพ่ออีกรอบ เธอวางอาหารเช้าของพ่อลูกไว้ตรงหน้า ก่อนทั้งสองจะเริ่มรับประทาน

อย่างเงียบๆ

 

 

               “แม่อุ้มพี่ซีลได้ แต่ว่าตอนนี้แม่กำลังมีน้อง คงจะอุ้มพี่ซีลไม่ได้จนกว่าจะคลอดน้อง

อย่างอนพ่อเลยนะคะ”เธอเอ่ยเมื่อรู้ว่าเจ้าตัวเล็กงอนคนเป็นพ่อไปแล้ว

 

 

               “น้องหรอคับ”

 

 

               “ค่ะ ถ้าพี่ซีลรักน้องก็อย่าดื้อ อย่าซนนะคะ”

 

 

               “คับ พี่รักน้อง”เจ้าตัวพูดก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง และหันไปเกี่ยวก้อยกับคนเป็นพ่อ เธอ

มองภาณุที่ขยี้ผมของลูกชายอย่างเอ็นดูในความไร้เดียงสา พ่อลูกคู่นี้เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย

จนเธอชินชาไปเสียแล้ว

 

 

               “ของพี่”เธอหลุดจากภวังค์มองภาณุที่แกล้งลูกอย่างสนุกสนาน เขาแย่งแฮมของ

โปรดของลูกชายมาไว้ในมือก่อนจะยิ้มหลอกล่อ เธอส่ายหน้าอย่างระอา คนเป็นพ่อก็ใช่ย่อย...

 

 

               “ป๊า ของพี่นะ”

 

 

               “อ้วนขนาดนี้ยังจะกินอีกหรอ”เขาว่าอย่างเอ็นดูลูกน้อย มือหนาดึงแก้มยุ้ยของลูกเล่น

อย่างมันเขี้ยว

 

 

               “แม่บอกว่าพี่กำลังโต”เขาและเธอพร้อมใจกันปล่อยเสียงหัวเราะให้กับความเจ้าเล่ห์

ของลูกชายที่ได้จากคนเป็นพ่อมาเต็มๆ หากแต่เจ้าตัวไม่สนใจ คว้าแฮมกลับมาเคี้ยวตุ้ยๆ

 

 

               “กินเยอะๆดีแล้วค่ะ พี่ป๊อปก็เหมือนกัน เอาแต่แกล้งลูก ทานข้าวได้แล้ว”

 

 

               โต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ รอยยิ้มที่สดใส เสียงหัวเราะที่ทำให้หัวใจ

กระชุ่มกระชวย อ้อมกอดที่คอยโอบประคองในวันที่เหนื่อยล้า และพยานรักที่เป็นดั่งโซ่ทอง

คล้องใจของเธอและเขาไว้ด้วยกัน...เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


มาแล้ววววว ตามคำขอไม่มีขัดใจ ฟาดเข้าไป 7 page word ฮ่าๆๆๆ ส่งท้ายหวานๆนะค่า

ฝากนิยายเรื่องใหม่ของเราด้วยTHE WAY OF LOVE. ทางเดินแห่งรัก

 

            สุดท้ายนี้ขอขอบคุณนักอ่านที่น่ารักทุกคน ไม่ว่าจะเป็นที่เม้นให้กำลังใจเรา เข้ามาทวง

ถามนิยายบ่อยๆเวลาเราเกเร ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกัน แม้ว่าเราจะหายไปนานแค่ไหนก็ตาม

ขอบคุณนะคะ รีดเดอร์คือกำลังใจสำคัญของเรา ขอบคุณทุกคำวิจารณ์ ทุกกำลัง หรือแม้แต่คนที่

เปิดเข้ามาอ่าน นักอ่านเงาหรือใครก็ตาม ขอบคณจริงๆค่ะ รีดเดอร์เป็นคนที่ทำให้เราอยากแต่ง

นิยายต่อไปเรื่อยๆ โดยมีป๊อปปี้และฟางเป็นพระเอกและนางเอกตลอดไป 5555

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา