Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
9.7
เขียนโดย OUM_PF
วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.
45 ตอน
590 วิจารณ์
95.06K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
40)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความBeside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
ตอนที่๔๐
“นี่เขาเรียกว่าอาหารหรอฟาง”
ภาณุยิ้มน้อยๆให้กับข้าวผัดหน้าตาประหลาดตรงหน้า แค่กลิ่นก็ฉุนน้ำปลาซะจนเขา
ไม่กล้าตักทาน แถมแม่ตัวดีก็ดันนั่งมองเขาตาใสแป๋วอย่างตั้งความหวัง และดูเหมือเจ้าหล่อนจะ
งอนน้อยๆเมื่อเขาถามออกไปแบบนั้น
“เอ้ะ! พูดอย่างนี้เดี๋ยวก็ได้เปลี่ยนจากทานข้าวมาทำแผลบนหัวซะหรอก”เขาขำ
น้อยๆกับอาการค้อนของหญิงสาว ก่อนจะยื่นมือไปยีผมสีน้ำตาลอย่างอดเอ็นดูไม่ได้
“กินก็กิน”เขาหยิบช้อนขึ้นตักข้าวผัดทีหน้าตาน่ากลัวที่สุดขึ้นทานอย่างจนใจ อาจ
เป็นเพราะดวงตาคู่สวยที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ก็เป็นได้
หลังจากมื้ออาหารที่สุดแสนจะทรมานกระเพาะของชายหนุ่มผ่านพ้นไป เมื่อบ่าย
คล้อยเข้าสาวๆก็พากันจัดดอกไม้ตามซุ้มงานอย่างสนุกสนาน ภาณุ วิศวะ และภัทรดนัยยังคง
ขะมักเขม้นกับการจัดโต๊ะและขนข้าวของที่จำเป็น กิจกรรมดำเนินไปอย่างนั้นจนแสงตะวันค่อยๆ
รางเลือนพร้อมกับดวงอาทิตย์ที่หายลับกลีบเมฆไป
“กูว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อนเหอะว่ะ เดี๋ยวไปอาบน้ำละลงมากินข้าวกัน กูสั่งให้คนเอามาให้
ละ”ภาณุพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกคนคงเหนื่อยมากแล้ว และคงจะเป็นอย่างที่เขาคิดไม่ทุกคนไม่มีท่าที
อิดออด ต่างพากันเดินเข้าบ้านพักไป
“เฮ้อ...”เขามองคนตัวเล็กที่ถอนหายใจยาว หากใบหน้าแสนหวานนั้นกลับเปื้อนรอย
ยิ้มอย่างที่เขาเคยได้เห็น แต่ไม่ยักชิน เมื่อรอยยิ้มของเธอยังคงทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงทุกครั้ง
และเขาปรารถนาที่จะเห็นรอยยิ้มแสนหวานนี้ไปอีกชั่วชีวิต
“เอ้ ยิ้มอะไรอยู่ได้ ฟางว่าคุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”ว่าแล้วมือเล็กๆก็ดึงแก้มเขาเสียแรง
ก่อนร่างบอบบางจะวิ่งตัวปลิวเข้าไปในบ้านพัก และเขาก็ทำได้เพียงมองตามแผ่นหลังบอบบางนั้น
ไปจนเธอหายเข้าไปในบ้าน เขาบอกไม่ถูกจริงๆว่าเวลานี้เขารู้สึกดีแค่ไหน...
หลังจากอาหารมื้อเย็นผ่านไป ภัทรดนัยและวิศวะต่างพาคนรักออกไปเดินย่อยอาหาร
ต่างหากภาณุที่ได้แต่นั่งมองเด็กน้อยของเขานอนหลับอุตุอยู่บนโซฟา ที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะอยู่ดู
หนังด้วยกัน และไม่เพราะว่าหนังมันน่าเบื่อเดินไป หรือแม่ตัวดีของเขาเหนื่อยจากการเดินทางกัน
แน่ เธอถึงได้เอาแต่นอนแบบนี้ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปลูบผมนุ่มของหญิงสาวคนรักด้วยความ
อ่อนโยน บอกไม่ถูกเลยจริงๆว่าความรักมันรู้สึกดีแค่ไหน แต่มันดีตรงที่เขาได้รักใครอีกคน มีชีวิต
อยู่เพื่อใครอีกคน และมีใครอีกคนที่คอยรักและเป็นห่วงเขา นอกจากมารดาแล้วเขาไม่เคยคิดว่า
ตัวเองจะรักผู้หญิงคนไหนได้ขนาดนี้ แต่เมื่อมาเจอกับเธอ...ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนไป
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว เมื่อแสงสีทองพาดผ่านท้องนภา สายลมเอื่อยเฉื่อยพัดพา
กลิ่นไอของทะเลสดใส เสียงคลื่นสาดกระเซ็นดังขึ้นดั่งนาฬิกาปลุกของเช้าวันใหม่ คุณพรพิมลจะ
เดินทางมาถึงที่นี่เวลาประมาณเก้าโมงเช้า ภาณุจึงคิดว่าน่าจะปล่อยให้ธนันต์ธรญ์ได้ทำความรู้จัก
กับมารดาของเขาจริงๆ เพราะดูก็ไม่น่ามีอะไรที่ต้องเป็นห่วงเพราะแม่ก็ดูชอบใจธนันต์ธรญ์ไม่แพ้
เขาเช่นกัน แต่ผิดคาดเมื่อท่านไม่ได้เดินทางมาแค่คนเดียว...
“สวัสดีครับ”เขายกมือขึ้นไหว้มารดาและครอบครัวตั้งประภาพร และอดไม่ได้ที่จะหัน
ไปมองคนตัวเล็กของเขาที่ตอนนี้หน้าซีดลงไปอย่างขาดความมั่นใจ
“นั่นใครกันตาป๊อป”น้ำเสียงและสายตาที่คุณทิพย์ธาราถามถึงธนันต์ธรญ์ที่ยืนตัวลีบ
ข้างกายเขานั่นทำให้เขารู้สึกไม่ชอบใจเอาเสียเลย
“ผมว่าคุณน้าน่าจะเคยเห็นเธอแล้วนะครับ”เขายิ้มอย่างไม่ใคร่ชอบใจนัก แต่ต้องฝืน
เพราะเป็นเด็กควรจะนอบน้อมกับผู้ใหญ่ และเขาก็ไม่เคยลังเลเลยเมื่อดึงร่างเล็กมาแนบชิดกาย
“นี่ฟางครับ คนรักของผม”เขาสบดวงตากลมโตที่มองเขาอย่างตื่นตระหนก แต่เขาก็
ไม่ได้สนใจนัก เพราะในเมื่อความสัมพันธ์ของเธอและเขามันเป็นเรื่องจริง จะต้องกลัวที่จะต้อง
ปิดบังไปทำไมกัน
“สวัสดีค่ะ”เธอยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม คุณทิพย์ธารายกมือขึ้นรับไหว้อย่างไม่
ใคร่ชอบใจนัก ผิดกับคุณโชติที่เขาเห็นแววตาแปลกๆที่มองธนันต์ธรญ์ด้วยความเอ็นดู ทั้งๆที่มันไม่
ควรจะเป็นเช่นนั้น
“ไม่ได้เจอหนูฟางซะนานเลยลูก ไปเถอะ แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับเราตั้งเยอะ”เขา
มองธนันต์ธรญ์ที่ถูกมารดาของเขาจับจูงเข้าไปในบ้านด้วยท่าทีสนิทสนมก็เบาใจไปเปราะหนึ่ง
และดูเหมือนคนที่น่าเห็นใจจะไม่ใช่ธนันต์ธรญ์เสียแล้ว...
พิมประภามองหญิงสาวร่างเล็กที่นั่งคุยกับคุณพรพิมลตรงชายหาดที่มีโต๊ะตั้งอยู่ผ่าน
ระเบียงหน้าห้องด้วยความรู้สึกหลากหลาย และแน่นอนว่าเธอไม่ปฏิเสธหากจะบอกว่าเธออิจฉา
ผู้หญิงคนนี้ ธนันต์ธรญ์นั้นในสายตาของผู้หญิงด้วยกันเธอไม่ปฏิเสธเลยว่าคนรักของภาณุมีหน้าตา
ที่น่ารักและสะสวย เธอดูบอบบางน่าทะนุถนอม แต่ดูจากภายนอกแล้วเธอมีอะไรที่สู้ธนันต์ธรญ์
ไม่ได้...
“น้องพิม”
“พี่พชร”เธอยิ้มน้อยๆให้กับพี่ชายคนเดียว พชรเดินมานั่งเคียงขข้างน้องสาวก่อนจะ
เอ่ยอะไรบางอย่างขึ้น
“ตอนนี้ก็ยังไม่สายนะคะ น้องพิมเห็นหรือยังว่าทุกอย่างมันไม่ใช่อย่างที่เราคิด ถ้า
น้องพิมยอมรับความจริงสักนิด น้องจะเห็นแบบที่พี่เห็น”
“พิมเห็นค่ะ แต่...”
“เจ็บตั้งแต่ตอนนี้ เจ็บให้มันถึงที่สุด น้องจะได้ไม่ต้องคอยย้อนกลับมาเสียใจอีก พี่
เป็นผู้ชาย พี่ดูออกว่าภาณุไม่ได้รักน้อง ผู้หญิงคนนั้นต่างหากที่ภาณุเลือกแล้ว หากน้องรักเขาจริง
ก็ควรปล่อยเขาไปมีความสุขกับคนของเขา”
“เหมือนที่พี่พชรปล่อยคุณฟางไปอย่างนั้นหรือคะ”
พชรยิ้มๆน้อย เขายอมรับว่ายังเจ็บปวดทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้ แต่ความรักมันมีอะไร
มากมาย มากกว่าการครอบครองเป็นเจ้าของ และเขาได้ผ่านจุดที่น้องสาวกำลังเผชิญอยู่มาแล้ว
และคิดว่าบางทีเขาควรจะบอกว่าเพราะอะไรเขาถึงได้ปล่อยธนันต์ธรญ์ไป
“ใช่ค่ะ พี่คงไม่มีความสุขถ้าทำให้คนที่รักต้องลำบากใจ พี่ชอบที่จะเห็นรอยยิ้มของ
เธอมากกว่าคราบน้ำตา มันอาจจะฟังดูตลก เพราะนี่มันคือชีวิตจริง แน่นอนว่าพี่คิดอยากจะพราก
เธอออกจากอ้อมกอดของภาณุ แต่พอเห็นเธอมีความสุขกับคนที่เธอเลือก...พี่ก็ทำไม่ลง”เขาหัน
ไปมองพิมประภาที่กำลังยิ้มเศร้าๆก่อนจะพูดต่อ
“ให้ทุกอย่างมันจบลงเถอะค่ะ สักวันน้องพิมจะได้เจอกับคนที่เขารักน้องพิมจริงๆ”
นานเท่านานที่หญิงสาวเงียบไป มีเพียงสายลมที่เงียบงันเท่านั้นที่เป็นคำตอบกกลับมา พชรคิดว่า
บางทีเขาควรปล่อยให้น้องสาวได้อยู่กับตัวเองเสียบ้าง
สายตาคมกล้ามองลอดผ่านกรอบแว่นตาไปยังร่างบอบบาง ในที่สุด...โชคชะตาก็
เมตตาให้คนบาปอย่างเขาได้มีเวลาเพียงเสี้ยวของชีวิตได้พบเจอกับลูกน้อยที่เขาไม่เคยคิดจะ
เหลียวแล ธนันต์ธรญ์นั้นช่างงดงามและอ่อนหวานเฉกเช่นพิมพ์ดาว รอยยิ้มของลูกสาวนั้นเหมือน
กับแม่ของเจ้าหล่อนเหลือเกิน เขาทำทุกอย่างให้มันพังพินาศไปหมด ความรักและซื่อสัตย์ที่
พิมพ์ดาวมีต่อเขา เขาก็ได้ทำลายมันลง ชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งต้องเติบโตขึ้นมาโดยขาดพ่อ
คงจะเจ็บปวดมิใช่น้อย หากมีโอกาส เขาก็อยากจะบอกให้ธนันต์ธรญ์รู้เหลือเกินว่าพ่อของเธอยัง
เฝ้ามองจากมุมนี้เสมอ ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนของชีวิตเธอ....
เพียงแต่เขาทำได้เพียงเฝ้ามองเท่านั้น...
และเขาก็กลัวลูกจะรังเกียจเขาเหลือเกิน....
....สายลมแห่งตะวัน
มาแล้ววววววว
เง้ออ ตัวหนังสือไม่สวยเลย ต้องมานั่งจัดอีกต่างหาก ทำไมฟร้อนมันไม่เหมือนที่ผ่านๆมาอ่ะ ใครรู้
วิธีบอกเราหน่อยน้า ไม่ชอบฟร้อนแบบนี้เลย ต้องมานั่งจัดอีก ไม่สวยอีก บอกหน่อยๆน้า ให้มันเป็นเหมือนตอนที่ผ่านๆมาอ่ะ
ต่อไปนี้เราจะมาอัพเรื่อยๆละนะ เพราะปิดเทอมแล้ว เย้ ปิดเทอมนี้คงได้นิยายอีกสักเรื่องมั้ง ฮ่าๆ
ไหนรีดเดอร์เราอยากอ่านแนวไหนนนน
ตอนที่๔๐
“นี่เขาเรียกว่าอาหารหรอฟาง”
ภาณุยิ้มน้อยๆให้กับข้าวผัดหน้าตาประหลาดตรงหน้า แค่กลิ่นก็ฉุนน้ำปลาซะจนเขา
ไม่กล้าตักทาน แถมแม่ตัวดีก็ดันนั่งมองเขาตาใสแป๋วอย่างตั้งความหวัง และดูเหมือเจ้าหล่อนจะ
งอนน้อยๆเมื่อเขาถามออกไปแบบนั้น
“เอ้ะ! พูดอย่างนี้เดี๋ยวก็ได้เปลี่ยนจากทานข้าวมาทำแผลบนหัวซะหรอก”เขาขำ
น้อยๆกับอาการค้อนของหญิงสาว ก่อนจะยื่นมือไปยีผมสีน้ำตาลอย่างอดเอ็นดูไม่ได้
“กินก็กิน”เขาหยิบช้อนขึ้นตักข้าวผัดทีหน้าตาน่ากลัวที่สุดขึ้นทานอย่างจนใจ อาจ
เป็นเพราะดวงตาคู่สวยที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ก็เป็นได้
หลังจากมื้ออาหารที่สุดแสนจะทรมานกระเพาะของชายหนุ่มผ่านพ้นไป เมื่อบ่าย
คล้อยเข้าสาวๆก็พากันจัดดอกไม้ตามซุ้มงานอย่างสนุกสนาน ภาณุ วิศวะ และภัทรดนัยยังคง
ขะมักเขม้นกับการจัดโต๊ะและขนข้าวของที่จำเป็น กิจกรรมดำเนินไปอย่างนั้นจนแสงตะวันค่อยๆ
รางเลือนพร้อมกับดวงอาทิตย์ที่หายลับกลีบเมฆไป
“กูว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อนเหอะว่ะ เดี๋ยวไปอาบน้ำละลงมากินข้าวกัน กูสั่งให้คนเอามาให้
ละ”ภาณุพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกคนคงเหนื่อยมากแล้ว และคงจะเป็นอย่างที่เขาคิดไม่ทุกคนไม่มีท่าที
อิดออด ต่างพากันเดินเข้าบ้านพักไป
“เฮ้อ...”เขามองคนตัวเล็กที่ถอนหายใจยาว หากใบหน้าแสนหวานนั้นกลับเปื้อนรอย
ยิ้มอย่างที่เขาเคยได้เห็น แต่ไม่ยักชิน เมื่อรอยยิ้มของเธอยังคงทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงทุกครั้ง
และเขาปรารถนาที่จะเห็นรอยยิ้มแสนหวานนี้ไปอีกชั่วชีวิต
“เอ้ ยิ้มอะไรอยู่ได้ ฟางว่าคุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”ว่าแล้วมือเล็กๆก็ดึงแก้มเขาเสียแรง
ก่อนร่างบอบบางจะวิ่งตัวปลิวเข้าไปในบ้านพัก และเขาก็ทำได้เพียงมองตามแผ่นหลังบอบบางนั้น
ไปจนเธอหายเข้าไปในบ้าน เขาบอกไม่ถูกจริงๆว่าเวลานี้เขารู้สึกดีแค่ไหน...
หลังจากอาหารมื้อเย็นผ่านไป ภัทรดนัยและวิศวะต่างพาคนรักออกไปเดินย่อยอาหาร
ต่างหากภาณุที่ได้แต่นั่งมองเด็กน้อยของเขานอนหลับอุตุอยู่บนโซฟา ที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะอยู่ดู
หนังด้วยกัน และไม่เพราะว่าหนังมันน่าเบื่อเดินไป หรือแม่ตัวดีของเขาเหนื่อยจากการเดินทางกัน
แน่ เธอถึงได้เอาแต่นอนแบบนี้ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปลูบผมนุ่มของหญิงสาวคนรักด้วยความ
อ่อนโยน บอกไม่ถูกเลยจริงๆว่าความรักมันรู้สึกดีแค่ไหน แต่มันดีตรงที่เขาได้รักใครอีกคน มีชีวิต
อยู่เพื่อใครอีกคน และมีใครอีกคนที่คอยรักและเป็นห่วงเขา นอกจากมารดาแล้วเขาไม่เคยคิดว่า
ตัวเองจะรักผู้หญิงคนไหนได้ขนาดนี้ แต่เมื่อมาเจอกับเธอ...ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนไป
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว เมื่อแสงสีทองพาดผ่านท้องนภา สายลมเอื่อยเฉื่อยพัดพา
กลิ่นไอของทะเลสดใส เสียงคลื่นสาดกระเซ็นดังขึ้นดั่งนาฬิกาปลุกของเช้าวันใหม่ คุณพรพิมลจะ
เดินทางมาถึงที่นี่เวลาประมาณเก้าโมงเช้า ภาณุจึงคิดว่าน่าจะปล่อยให้ธนันต์ธรญ์ได้ทำความรู้จัก
กับมารดาของเขาจริงๆ เพราะดูก็ไม่น่ามีอะไรที่ต้องเป็นห่วงเพราะแม่ก็ดูชอบใจธนันต์ธรญ์ไม่แพ้
เขาเช่นกัน แต่ผิดคาดเมื่อท่านไม่ได้เดินทางมาแค่คนเดียว...
“สวัสดีครับ”เขายกมือขึ้นไหว้มารดาและครอบครัวตั้งประภาพร และอดไม่ได้ที่จะหัน
ไปมองคนตัวเล็กของเขาที่ตอนนี้หน้าซีดลงไปอย่างขาดความมั่นใจ
“นั่นใครกันตาป๊อป”น้ำเสียงและสายตาที่คุณทิพย์ธาราถามถึงธนันต์ธรญ์ที่ยืนตัวลีบ
ข้างกายเขานั่นทำให้เขารู้สึกไม่ชอบใจเอาเสียเลย
“ผมว่าคุณน้าน่าจะเคยเห็นเธอแล้วนะครับ”เขายิ้มอย่างไม่ใคร่ชอบใจนัก แต่ต้องฝืน
เพราะเป็นเด็กควรจะนอบน้อมกับผู้ใหญ่ และเขาก็ไม่เคยลังเลเลยเมื่อดึงร่างเล็กมาแนบชิดกาย
“นี่ฟางครับ คนรักของผม”เขาสบดวงตากลมโตที่มองเขาอย่างตื่นตระหนก แต่เขาก็
ไม่ได้สนใจนัก เพราะในเมื่อความสัมพันธ์ของเธอและเขามันเป็นเรื่องจริง จะต้องกลัวที่จะต้อง
ปิดบังไปทำไมกัน
“สวัสดีค่ะ”เธอยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม คุณทิพย์ธารายกมือขึ้นรับไหว้อย่างไม่
ใคร่ชอบใจนัก ผิดกับคุณโชติที่เขาเห็นแววตาแปลกๆที่มองธนันต์ธรญ์ด้วยความเอ็นดู ทั้งๆที่มันไม่
ควรจะเป็นเช่นนั้น
“ไม่ได้เจอหนูฟางซะนานเลยลูก ไปเถอะ แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับเราตั้งเยอะ”เขา
มองธนันต์ธรญ์ที่ถูกมารดาของเขาจับจูงเข้าไปในบ้านด้วยท่าทีสนิทสนมก็เบาใจไปเปราะหนึ่ง
และดูเหมือนคนที่น่าเห็นใจจะไม่ใช่ธนันต์ธรญ์เสียแล้ว...
พิมประภามองหญิงสาวร่างเล็กที่นั่งคุยกับคุณพรพิมลตรงชายหาดที่มีโต๊ะตั้งอยู่ผ่าน
ระเบียงหน้าห้องด้วยความรู้สึกหลากหลาย และแน่นอนว่าเธอไม่ปฏิเสธหากจะบอกว่าเธออิจฉา
ผู้หญิงคนนี้ ธนันต์ธรญ์นั้นในสายตาของผู้หญิงด้วยกันเธอไม่ปฏิเสธเลยว่าคนรักของภาณุมีหน้าตา
ที่น่ารักและสะสวย เธอดูบอบบางน่าทะนุถนอม แต่ดูจากภายนอกแล้วเธอมีอะไรที่สู้ธนันต์ธรญ์
ไม่ได้...
“น้องพิม”
“พี่พชร”เธอยิ้มน้อยๆให้กับพี่ชายคนเดียว พชรเดินมานั่งเคียงขข้างน้องสาวก่อนจะ
เอ่ยอะไรบางอย่างขึ้น
“ตอนนี้ก็ยังไม่สายนะคะ น้องพิมเห็นหรือยังว่าทุกอย่างมันไม่ใช่อย่างที่เราคิด ถ้า
น้องพิมยอมรับความจริงสักนิด น้องจะเห็นแบบที่พี่เห็น”
“พิมเห็นค่ะ แต่...”
“เจ็บตั้งแต่ตอนนี้ เจ็บให้มันถึงที่สุด น้องจะได้ไม่ต้องคอยย้อนกลับมาเสียใจอีก พี่
เป็นผู้ชาย พี่ดูออกว่าภาณุไม่ได้รักน้อง ผู้หญิงคนนั้นต่างหากที่ภาณุเลือกแล้ว หากน้องรักเขาจริง
ก็ควรปล่อยเขาไปมีความสุขกับคนของเขา”
“เหมือนที่พี่พชรปล่อยคุณฟางไปอย่างนั้นหรือคะ”
พชรยิ้มๆน้อย เขายอมรับว่ายังเจ็บปวดทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้ แต่ความรักมันมีอะไร
มากมาย มากกว่าการครอบครองเป็นเจ้าของ และเขาได้ผ่านจุดที่น้องสาวกำลังเผชิญอยู่มาแล้ว
และคิดว่าบางทีเขาควรจะบอกว่าเพราะอะไรเขาถึงได้ปล่อยธนันต์ธรญ์ไป
“ใช่ค่ะ พี่คงไม่มีความสุขถ้าทำให้คนที่รักต้องลำบากใจ พี่ชอบที่จะเห็นรอยยิ้มของ
เธอมากกว่าคราบน้ำตา มันอาจจะฟังดูตลก เพราะนี่มันคือชีวิตจริง แน่นอนว่าพี่คิดอยากจะพราก
เธอออกจากอ้อมกอดของภาณุ แต่พอเห็นเธอมีความสุขกับคนที่เธอเลือก...พี่ก็ทำไม่ลง”เขาหัน
ไปมองพิมประภาที่กำลังยิ้มเศร้าๆก่อนจะพูดต่อ
“ให้ทุกอย่างมันจบลงเถอะค่ะ สักวันน้องพิมจะได้เจอกับคนที่เขารักน้องพิมจริงๆ”
นานเท่านานที่หญิงสาวเงียบไป มีเพียงสายลมที่เงียบงันเท่านั้นที่เป็นคำตอบกกลับมา พชรคิดว่า
บางทีเขาควรปล่อยให้น้องสาวได้อยู่กับตัวเองเสียบ้าง
สายตาคมกล้ามองลอดผ่านกรอบแว่นตาไปยังร่างบอบบาง ในที่สุด...โชคชะตาก็
เมตตาให้คนบาปอย่างเขาได้มีเวลาเพียงเสี้ยวของชีวิตได้พบเจอกับลูกน้อยที่เขาไม่เคยคิดจะ
เหลียวแล ธนันต์ธรญ์นั้นช่างงดงามและอ่อนหวานเฉกเช่นพิมพ์ดาว รอยยิ้มของลูกสาวนั้นเหมือน
กับแม่ของเจ้าหล่อนเหลือเกิน เขาทำทุกอย่างให้มันพังพินาศไปหมด ความรักและซื่อสัตย์ที่
พิมพ์ดาวมีต่อเขา เขาก็ได้ทำลายมันลง ชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งต้องเติบโตขึ้นมาโดยขาดพ่อ
คงจะเจ็บปวดมิใช่น้อย หากมีโอกาส เขาก็อยากจะบอกให้ธนันต์ธรญ์รู้เหลือเกินว่าพ่อของเธอยัง
เฝ้ามองจากมุมนี้เสมอ ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนของชีวิตเธอ....
เพียงแต่เขาทำได้เพียงเฝ้ามองเท่านั้น...
และเขาก็กลัวลูกจะรังเกียจเขาเหลือเกิน....
....สายลมแห่งตะวัน
มาแล้ววววววว
เง้ออ ตัวหนังสือไม่สวยเลย ต้องมานั่งจัดอีกต่างหาก ทำไมฟร้อนมันไม่เหมือนที่ผ่านๆมาอ่ะ ใครรู้
วิธีบอกเราหน่อยน้า ไม่ชอบฟร้อนแบบนี้เลย ต้องมานั่งจัดอีก ไม่สวยอีก บอกหน่อยๆน้า ให้มันเป็นเหมือนตอนที่ผ่านๆมาอ่ะ
ต่อไปนี้เราจะมาอัพเรื่อยๆละนะ เพราะปิดเทอมแล้ว เย้ ปิดเทอมนี้คงได้นิยายอีกสักเรื่องมั้ง ฮ่าๆ
ไหนรีดเดอร์เราอยากอ่านแนวไหนนนน
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ