รักไม่ได้

9.7

เขียนโดย Chapond

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 02.39 น.

  66 ตอน
  1012 วิจารณ์
  169.73K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

64) ยังรักยังรอ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“โอ๊ย”เขื่อนลืมตาตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ที่ห้องนอนตัวเองเฟย์ล่ะเพราะภาพสุดท้ายเขาและเฟย์
ถูกแรงระเบิดจากพลังเฮือกสุดท้ายของเฟย์ที่ต้องการทำลายแจมให้ตายจนกระเด็นไปคนละทาง
 
 
 
 
 
“พี่เขื่อน ฟื้นแล้วค่อยๆลุกสิ”เควินและแบมที่เข้ามาดูแลเขื่อนก็รีบประคองกันคนละข้าง
 
 
 
 
“บอกชั้นหน่อยได้มั้ยเควิน แบม เฟย์ เฟย์อยู่ไหน เป็นยังไงบ้าง”เขื่อนรีบถามรัว
 
 
 
 
 
“เอ่อ พวกเราขอโทษพี่เขื่น พวกเราตามหาจนทั่วแล้ว พวกเราไม่เจอเฟย์เลย”เควินพูดออกมา
 
 
 
 
 
“ไม่ พวกนายอาจจะลืมหาตรงไหนรึเปล่า ปล่อยชั้น ชั้นจะไปหาเฟย์”เขื่อนแทบคลั่งแล้วพยายามจะ
ลุกจากเตียงแต่ต้องล้มลงไปเพราะร่างกายยังไม่แข็งแรงพอทำให้ล้มลงไปกองกับพื้นเควินและแบ
มตกใจรีบประคองเขื่อนแต่เขื่อนดื้อจะลงไปทำให้ทุกคนต้องพาเขื่อนลงมาดูสภาพด้านล่างที่องค์
รักษ์ที่กำลังทำความสะอาดและซ่อมแซมส่วนที่พังของปราสาทป๊อปปี้
 
 
 
 
 
 
“พี่น่ะหลับไปตั้ง3วันเต็มๆ นี่สภาพที่นี่ยังดีกว่าวันแรกๆอีกนะคะ พวกเราทำการตามหาเฟย์แล้ว ตาม
หาจนทั่วทั้งปราสาททั้งใน และด้านนอกตั้ง3วันเรายังไม่เจอเลย”แบมช่วยเควินพูด
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“เฟย์ เธอไปอยู่ที่ไหน บอกกับชั้นได้มั้ยว่าเธอยังไม่เป็นอะไร”เขื่อนพูดออกมาอย่างอ่อนล้าคิดถึง
เฟย์
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“นายจะไปไหนน่ะ”โบว์ที่ว่างจากดูแลคนเจ็บในปราสาทก็รีบเรียกกั้งที่เดินออกไปที่ประตู
 
 
 
 
“ก็กลับบ้านไง ไม่มีอะไรแล้วนิ”กั้งยักไหล่ไม่แคร์เพราะเห็นโบว์ที่กลับมากับเขาและมาช่วยทุกคน
และจัดการพวกแวมไพร์กระหายเลือดให้ตายหมด รวมถึงแจมที่มีจุดจบตายเพราะโดนไฟของเฟย์ที่
โถมใส่เพื่อปกป้องทุกคนในปราสาท โดยเหลือแค่หวายและกวังที่รับเคราะห์ถูกไฟคลอกจนเสียโฉ
มกวังเลยพาหวายกลับไปที่อิตาลีเพื่อทำการรักษาและอยู่ที่นั่นอย่างถาวรไม่กลับมาเมืองไทยอีก
 
 
 
 
 
 
“เอ้า ทั้งๆที่นายมาช่วยพวกเรา ช่วยเควิน นายไม่คิดจะเปิดใจอยู่ที่นี่กับน้องชายนายหรอ”โบว์พูด
 
 
 
 
 
“ชั้นเป็นหัวหน้าของมนุษย์หมาป่า มีลูกน้องตั้งมากมายจำเป็นด้วยหรอต้องมารับใช้พวกแวมไพร์
เธอก็ได้กลับบ้านแล้วนิ ชั้นคืนเธอแล้ว ถือว่าหายกัน บาย”กั้งพูดแล้วเดินออกไป
 
 
 
 
 
“อีตาบ้า เดี๋ยวเดี๋ยวร้าย มาๆไปๆอะไรของเค้าเนี่ย”โบว์พูดแล้วรู้สึกใจหวิวๆเมื่อเห็นกั้งเดินจากไป
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“จะไปดูฟางหรอจินนี่”กวินทักเมื่อเห็นจินนี่ถือถุงเลือดสัตว์ไปให้ฟาง
 
 
 
 
“อื้อ แวมไพร์กระหายเลือดไม่รู้ว่าจะดื่มเลือดสัตว์ได้รเปล่า”จินนี่ตอบกวินจึงเดินเข้าไปในห้องฟาง
ด้วย เมื่อเข้ามาในห้องก็พบว่าฟางนั่งเฝ้าป๊อปปี้ที่สลบอยู่ยังไม่ฟื้นไม่ยอมพัก
 
 
 
 
 
“ถึงกับกินไม่ได้เลยหรอฟาง โทษทีนะพอดีเลือดถุงมนุษย์จากธนาคารเลือดมันหมดน่ะ”กวินตอบ
 
 
 
 
 
 
“ไม่เป็นไรค่ะ เหมือนกับตอนเป็นมนุษย์ที่แก้วชอบบังคับให้ทานแครอทกับหัวหอมเลย”ฟางยิ้มตอบ
แล้วกลั้นใจดื่มเลือดสัตว์ที่จินนี่เอามาให้จนหมดถ้วยชา แล้วถอนหายใจเพื่ออยู่กับทุกคนที่นี่ให้ได้
เธอต้องทน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“ทานอะไรหน่อยเถอะแก้ว ลุกออกไปเดินสูดอากาศด้านนอกก็ได้”ฟ้า ธามไทและเคนตะที่อาสา
ดูแลสภาพจิตใจแก้วที่ปราสาทขาวก็เดินมาถามด้วยความเป็นห่วงเพราะตั้งแต่พาแก้วกลับมา ตั้งแต่
โทโมะจากไป แก้วต้องนอนร้องไห้ทุกคืน ทานข้าวก็ทานนิดเดียว วนๆเอาแต่นั่งหมกอยู่ในห้องสมุด
เอาแต่สเก็ตวาดภาพของโทโมะจากความทรงจำจนร่างกายซูบเซียวลงไปเยอะมาก
 
 
 
 
 
“แก้วไม่เป็นไรหรอก ขอบคุณมากนะฟ้าที่มาดูแลแก้วตลอดเลย”แก้วหันไปยิ้มตอบฟ้า
 
 
 
 
 
“ไม่เป็นไรบ้าอะไรล่ะ ไม่ยอมกินอะไร หมกตัวตัวแต่ในห้องนี่นี่คิดว่าตัวเองเป็นแวมไพร์รึยังไง”เคน
ตะว่า
 
 
 
 
 
“ก็ชั้นไม่อยากออกไปไหนจริงๆนิ ฮึก ฮือๆชั้นคิดถึงโทโมะ”แก้วพูดออกมาก่อนน้ำตาจะไหลออกมา
แล้วร้องไห้อีกครั้งจนฟ้าและธามไทต้องรีบปลอบทันที
 
 
 
 
 
 
“อ่ะๆ ชั้นขอโทษๆ แต่เธอน่ะจะมาหมกตัวเองแบบนี้ไม่ได้นะ นี่ก็ปาเป็นอาทิตย์แล้วออกไปข้างนอก
บ้างเถอะ”เคนตะพูด แก้วจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะออกมานอกห้องนี้
 
 
 
 
 
 
 
 
“ดูสิแก้ว มีน้ำพุด้วย”ฟ้าพาแก้วออกมาเดินที่สวนของปราสาทขาวในตอนกลางวันพร้อมกับธามไท
ส่วนเคนตะที่เป็นแวมไพร์ออกมาไม่ได้ แก้วเมื่อเห็นน้ำพุในสวนก็คิดถึงวันที่โทโมะเคยพาเธอไป
ทานข้าวที่โรงแรมหรูและลงมาเล่นน้ำพุด้วยกันอย่างสนุกสนาน
 
 
 
 
 
“อ๊ะ”แก้วร้องเมื่อสปริงเตอร์ในสวนเด้งมาโดนแก้วฟ้ารีบไปเอาผ้าขนหนูให้แก้วทันที
 
 
 
 
 
 
“เออ จริงสิ เห็นฟ้าบอกว่าเธอน่ะชอบกินสเต็กนิ เอางี้มั้ยชั้นเป็นครึ่งแวมไพร์ครึ่งมนุษย์เรามากินแข่ง
กันมั้ย ชั้นน่ะชอบกินสเต็กเหมือนกันนะ”ธามไทรีบหาเรื่องชวนแก้วคุย
 
 
 
 
 
“สเต็ก โทโมะเคยพาชั้นไปทานสเต็กที่ร้านอาหารแล้วลงก็ลงมาเล่นน้ำพุด้วยกันด้านล่าง
โรงแรม”แก้วคิดถึงวันเก่าๆของเธอกับโทโมะก็เพ้อออกมาก่อนจะทรุดลงนั่งไม่กลัวเปียกจากปริง
เกอร์ในสวนเลย
 
 
 
 
 
 
 
“แก้ว โอเคนะ”ธามไทแตะไหล่ของแก้วแล้วถาม แก้วเมื่อรู้สึกว่ามีคนมาแตะไหล่ก็ปล่อยโฮออกมา
ทันที
 
 
 
 
 
 
“ไม่เป็นไร ชั้นไม่เป็นอะไร ฮือๆ แต่ทำไมมันเจ็บเหลือเกิน ฮือๆ”แก้วร้องไห้คิดถึงโทโมะอีกแล้วทำ
ให้ธามไทต้องกอดปลอบแก้วซะยกใหญ่ก่อนจะพามาอาบน้ำแล้วทานยาคลายเครียดที่ฟ้าจัดให้
แล้วหลับไป
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“เอาไงดีฮะ ผมว่างานนี้ได้ตรอมใจตายแน่ๆ”ธามไทที่บอกเรื่องนี้กับผู้อาวุโสก็พูดเมื่อพาผู้อาวุโสมา
ดูอาการ
 
 
 
 
 
 
“ปากเสียนะธาม”ฟ้าตีธามไทแล้วรีบว่าชายหนุ่มทันที
 
 
 
 
 
 
“เอ้า ก็ชั้นพุดความจริงนี่นา”ธามไทพูดกลับแล้วหน้างอแต่ก็หงอเมื่อเจอฟ้าง้างหมัดใส่ตัวเอง
 
 
 
 
 
“เห้อ ป๊อปปี้ก็ยังไม่ฟื้น รายนี้ก็ซึมเศร้าๆพอๆกับเจ้าเขื่อนที่ตามหาเมียไม่เจอ เห้อความรักของวัยรุ่น
นี่น่าปวดหัวจริงๆ”ผู้อาวุโสพูดแล้วเดินลงไปที่ชั้นใต้ดินของปราสาท
 
 
 
 
 
 
“นี่พวกนายว่าตาจะไม่ช่วยอะไรเลยจริงๆหรอ”เคนตะมองตามผู้อาวุโสที่เดินจากไปแล้วถามทุกคน
 
 
 
 
 
 
“นี่พวกนาย แต่ชั้นเคยอ่านเจอนะว่าปีศาจที่ต้องคำสาป สวรรค์จะไม่รับเพราะยังมีความดีไม่พอ นรก
จะไม่รับเพราะไม่ใช่ที่ จะต้องถูกสาปมาอีกชาติหนึ่งในรูปของมนุษย์”ฟ้าพูด
 
 
 
 
 
“แต่งานนี้ยากอ่ะเพราะโทโมะน่ะแวมไพร์นะเห้ย ก่อนจะเป็นปีศาจงานนี้น่ะมีแต่เวลาเท่านั้นล่ะที่จะ
เยียวยาทุกสิ่งได้ป่ะ หาไรกินกันเถอะ”ธามไทพูดก่อนจะเดินกอดคอฟ้าเดินลงไปทำให้ฟ้าหน้าแดง
ทันที ส่วนเคนตะเหล่มองการกระทำของธามไทและฟ้าก็ส่ายหน้ายิ้มๆกับท่าทีปากแข็งของธามไท
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“วันนี้นะ เค้าน่ะกินเลือดสัตว์ได้โดยไม่ต้องปิดจมูกแล้วนะ ตัวรีบตื่นมาเร็วๆสิเค้านะถกผ้าพันคอให้ตัว
ด้วยนะ”ฟางที่มาเฝ้าป๊อปปี้ที่หลับอยู่ตามปกติที่ทำแล้วเล่าเรื่องราวต่างๆให้ป๊อปปี้อย่างที่ทำทุกวันๆ
ก่อนจะหยิบไม้นิตติ้งมาถักผ้าพันคอสีเทาเข้มให้ป๊อปปี้ พลางมองอากาศข้างนอกที่เริ่มเย็นลงแล้ว
 
 
 
 
 
 
“อ้อ ใช่ๆดอกกุหลาบบานแล้วน้านี่ไงเค้าเอาดอกไม้มาจัดให้ตัวด้วย”ฟางรีบอวดแจกันดอกไม้ที่ตัว
เองลงมือจัดดอกไม้ให้กับป๊อปปี้ทุกวันเพียงหวังให้ป๊อปปี้จะลืมตาตื่นมา
 
 
 
 
 
“พี่ป๊อป ตัวจะใจร้ายนอนฟังเค้าเล่าเรื่องราวต่างๆให้ตัวฟังคนเดียวเองจริงๆหรอ ตัวไม่อยากตื่นมา
เจอเค้าแล้วหรอพี่ป๊อป”ฟางพูดแกมงอนๆใส่ป๊อปปี้แล้วจิ้มที่ไหล่ของชายหนุ่มแต่แล้วก็ไม่มีปฏิกิริยา
ตอบสนอง
 
 
 
 
 
“เห้อ พี่ป๊อปพี่ไม่อยากกอดฟาง ไม่อยากจูบฟางหรอ ฟางจูบพี่จนเบื่อแล้วนะ”ฟางพูดก่อนจะก้มลง
จูบที่ปากหนาอย่างอ่อนโยนอย่างที่ทำทุกวัน
 
 
 
 
 
“หาว อยากให้ตัวฟื้นไวๆจัง”ฟางที่เริ่มหาวแล้วซุกตัวเองนอนกอดป๊อปปี้แล้วกระซิบบอกก่อนจะ
หลับตาลง
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“เห้อ สงสารฟางจังเลยเนาะเควินนี่ก็จะ2อาทิตย์แล้วนะคุณป๊อปยังไม่ฟื้นอีกเนาะเควิน เควินไม่ฟัง
หรอ”แบมที่แอบดูฟางในห้องกับโบว์และเควินก็พูดก่อนจะบิดหูเควินเมื่อเควินไม่ฟังตัวเอง
 
 
 
 
 
“โอ๊ยๆ แบมพอก่อนๆอย่าบิดดิตอนนี้เรากำลังสงสัยอ่ะ ว่าฟางที่ดูมีน้ำมีนวลขึ้นรึเปล่า”เควินพูดอย่
างสังสัยจากที่สังเกตจากร่างกายของฟางที่ดูอวบอิ่มขึ้นมีน้ำมีนวลขึ้นมากว่าเดิม
 
 
 
 
 
 
 
“จริงสิ วันก่อนนะโบว์เลือดกวางไปให้ฟางนะ ฟางก็ดื่มเอาๆเกือบ20แถ้วยล่ะ แต่พอได้กลิ่นน้ำหอม
ที่ตัวเองชอบฉีดนะ ก็วิ่งไปอ้วกซะยกใหญ่”โบว์เล่าเรื่องของฟางให้เควินและโบว์ฟัง
 
 
 
 
 
 
 
“หรื่อว่าฟางจะท้อง”แบม เควินและโบวืพดออกมาพร้อมกันทันที
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“ไม่สบายใจมีอะไรรึเปล่าจ้ะเขื่อน”แม่ของเฟย์ถามเมื่อเห็นช่วงหลังๆที่เขื่อนมาหาเธอก็เอาแต่เหม่อ
 
 
 
 
 
“เปล่าฮะ แม่ครับวันนี้ผมเอาช่อดอกกุหลาบขาวมาให้เฟย์ด้วยนะครับ”เขื่อนรีบเปลี่ยนเรื่อง
 
 
 
 
 
“ดอกเก่าที่อามาให้ยังไม่เหี่ยวเลยนะเขื่อน เห้อ ถ้าเฟย์ยังมีชีวิตอยู่นะ แม่น่ะจะยกเฟย์ให้เขื่อนเลย
ล่ะ แม่ชอบอยากมีลูกเขยแบบเขื่อน”แม่ของเฟย์พูดยิ้มๆ เขื่อนยิ้มรับก่อนจะเดินไปที่หลุมศพของ
เฟย์
 
 
 
 
 
 
“ดอกเก่ายังไม่เหี่ยวอย่างที่แม่บอกจริงๆด้วย”เขื่อนมองดอกกุหลาบดอกเก่าของเมื่อวานที่เขาเอา
มาให้และดอกกุหลายเมื่อวันก่อนและวันก่อนๆที่วางเรียงรายก่อนจะตัดสินใจเอาดอกกุหลาบที่เหี่ยว
ไปทิ้งและทำความสะอาดหลุมศพให้เฟย์
 
 
 
 
 
 
“เห้อ รู้ทั้งรู้ว่านี่คือหลุมศพปลอมๆของเธอ แต่ชั้นก็เล่นซะเหมือนกับเธออยู่ที่นี่จริงๆเนาะเฟย์”เขื่อน
นั่งลงข้างๆหลุมศพหลอกๆของเฟย์แล้วพูด พลางเอามือเอื้อมไปจับรูปเฟย์ตอนมัธยมที่หน้าหลุมศพ
 
 
 
 
 
 
 
“เธอหายไปไหนของเธอ ชั้นคิดถึงเธอมากนะเฟย์ ไหนบอกว่าเราใช่ลมหายใจเดียวกัน มีครึ่งชีวิต
กันและกันไง ถ้าเธอตายแล้วชั้นยังอยู่แบบนี้มันไม่ใช่นะเฟย์”เขื่อนบ่นกับหลุมศพของเฟย์ออกมา
 
 
 
 
 
 
“เธอน่ะใจร้าย หายไปไหนของเธอ ยัยแมวน้อย ชั้นคิดถึงเธอนะเฟย์”เขื่อนพูดแล้วถอนหายใจออกมา
 
 
 
 
 
 
เศร้าครั้งสุดท้ายก่อนจะจบ ขอโทษนะคะที่ดราม่า แต่คิดพล็อตเรื่องมาแล้วแบบนี้จริงๆ
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา