รักไม่ได้
เขียนโดย Chapond
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 02.39 น.
แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
34) ตกอยู่ในคำสาป
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“เห้อ สุดท้าย วิวาห์หวานชื่นก็ต้องกลายเป็นวิวาห์เลือด”หวายที่พอรู้ข่าวจากกวังที่เธอใช้ให้ไป
สอดแนมงานแต่งงานป๊อปปี้กับจินนี่กลับมารายงานก็ยิ้มเยาะ ทำให้โทโมะที่มานั่งเล่นที่ปราสาทร้าง
ของพวกแวมไพร์กระหายเลือดมองด้วยความสงสัย
“ทำไมล่ะ รึว่า ยัยเด็กนั่นที่ป๊อปปี้บอกว่าเป็นน้องสาวจะเอาเหล็กแหลมแทงอกป๊อปปี้เข้า”โทโมะ
พูด ก่อนจะหัวเราะกับเฟย์ที่นั่งข้างๆ
“โนย่ะ แต่นังเด็กนั่นแทงจินนี่ กะจะฆ่าให้ตายโดยแทงที่อกแต่พลาดโดนที่ท้องเข้า ตอนนี้ผู้บำบัดก็
กำลังรักษาอยู่ จะเป็นจะตายยังไงก็ยังไม่รู้”หวายพูดยิ้มเยาะก่อนจะหันไปหอมแก้มกวังเป็นรางวัล
ที่มาส่งข่าวให้กับพวกเธอทราบ
“อะไรกัน พวกพี่ไม่อยู่กันนี่มีอะไรสนุกๆงั้นหรอ”เสียงดังของชายหนุ่มพูดขึ้น ก่อนประตูปราสาทจะ
เปิดออกแล้วมีชายร่างสูงทั้ง3ยืนอยู่ในชุดเดินทาง ภายนอกดูเป็นชายสมส่วน รูปร่างดี แต่เมื่อ
ทั้ง3ถอดแว่นตาดำออกมาก็พบว่ามีนัยน์ตาสีแดงเลือดบ่งบอกว่าทั้ง3คือแวมไพร์กระหายเลือดที่
อันตรายมากแพน แบงค์และไทม์ 3แวมไพร์ที่เป็นแวมไพร์ก่อตั้งพวกแวมไพร์เกรดBและเป็นพี่ชาย
ของหวายที่พึ่งกลับมจากต่างประเทศยิ้มนิดนึงก่อนจะนั่งลงที่เก้าอีสูง3ตัวเรียงกันบนแท่นแล้วมอง
หวาย โทโมะและเฟย์
“เดี๋ยวนี้พวกแวมไพร์ใหญ่ๆอย่างพวกนายนี่ชอบแส่เรื่องชาวบ้านแล้วรึไง”โทโมะพูดไม่สนใจ
“หึๆ ยังคงปากเสียเหมือนเดิมเลยนะโทโมะ”ไทม์พี่คนโตพูดขึ้นแล้วมองโทโมะ
“ปากเสียแบบนี้น่ะจะดการมันแก้เมื่อยจากเดินทางเลยดีกว่าพี่ไทม์”แพน พี่คนที่3พูดแล้วหมายจะ
เข้าไปหาเรื่องโทโมะที่นั่งอยู่กับเฟย์แล้วจ้องแพนกลับอย่างไม่กลัว
“อย่าน่าแพน โทโมะมันก็พวกเดียวกับเราแล้วนะอย่าลืสิ”แบงค์ พี่คนที่2พูดแล้วร้องห้ามแพน
“นั่นน่ะสิ จะกัดกันทำไม อย่าลืมพวกเราน่ะอยู่สูงกว่าไอ้พวกตัวเพาะเห็บนั่นนะ”หวายรีบพูดเปรียบ
เทียบถึงพวกมนุษย์หมาป่าทันที
“ถ้าจะมาพูดหาเรื่องกันไร้สาระแบบนี้ล่ะ ชั้นขอตัว”โทโมะพูดแล้วออกไปจากปราสาทกับเฟย์ทันที
“ชิ ตั้งแต่ได้นังถุงเลือดมานี่เอะอะก็กลับหอคอยๆ”หวายแอบบ่นโทโมะทันที
“ถุงเลือด อะไรหรอหวาย”แพนที่ไม่ค่อยชอบหน้าโทโมะก็ถามน้องสาวทันที
“ก็โทโมะน่ะสิ ไปลากนังมนุษย์มาจากไหนไม่รู้ แล้วทำตราทาสชั่วนิรันด์อะไรนั่นไว้ไม่ให้ไปไหนอีก
นี่คงจะกะใช้ทั้งเลือดทั้งตัวเลยล่ะสิ”หวายว่าโทโมะ แล้วคิดถึงแก้วที่อยู่หอคอย เพราะยัยนั่นคน
เดียวทำให้โทโมะไม่ค่อยมาหาเธอเหมือนเดิม
“ว้าว หมอนั่นมีของเล่นเด็ดๆมาด้วยหรอ ชักน่าสน”แพนพูดยิ้มๆ
“จริง ยัยนั่นน่ะ สวยด้วยนะพี่แพน”หวายยิ้มนึกขึ้นได้บางอย่างแล้วมองหน้าพี่ชายอย่างรู้กัน แบงค์
และไทม์มองแพนและหวายพลางส่ายหน้าเอือมๆ
“เป็นไงแบม หาเจอมั้ย”เขื่อนถามเควินและแบมวิ่งมาหาเขาหลังจากช่วยกันตามหาฟางทั่วปราสาท
“ไม่เจอ หรือว่าฟางจะออกไปข้างนอกแล้ว”เควินสันนิษฐาน
“งั้นเราก็ออกไปตามหาฟางสิ ไปกันเถอะ เพราะชั้นต้องพาฟางมายืนยันกับทุกคนว่าฟางไม่ได้
ทำ”แบมพูดแล้วรีบเดินไปที่ประตูแต่เควินรีบรั้งมือแบมไว้
“เดี๋ยวก่อน เอานี่ใส่ซะ เขี้ยวของพ่อชั้นเอง มันจะปกป้องอันตรายให้มนุษย์ธรรมดาไม่ให้ถูกปีศาจ
หรือแวมไพร์ทำร้าย”เควินพูดแล้วสวมสร้ออยเขี้ยวหมาป่าให้แบมแล้ววิ่งออกไปด้วยกัน
ผลัวะ
กวินชกหน้าป๊อปปี้ล้มทำให้เขื่อนวิ่งไปห้ามเช่นเดียวกับเควินและแบมที่รีบวิ่งกลับมา
“เพราะแก เป็นไงล่ะ น้องรักของแกทำร้ายจินนี่ว่าที่เมียแก ถ้าจินนี่เป็นอะไร ชั้นจะเป็นคนที่เอา
เหล็กแหลมแทงที่หัวใจแกเอง ป๊อปปี้”กวินที่เข้ามาแล้วรู้ข่าวก็เดือดจัดก่อนจะพุ่งเข้ามาเล่นงาน
ป๊อปปี้
“พอได้แล้ว อย่าทำพี่ป๊อป”แครอลตกใจร้องกรี้ดก่อนจะพุ่งตัวลงจากรถเข็นทำให้ตัวเองที่ขาเดินไม่
ได้ล้มลงไปกองกับพื้น ป๊อปปี้และกวินรีบเข้าไปช่วยแครอลขึ้นมานั่งที่รถเข็นตามเดิม
“แกรักมันมากจนเลือกที่จะอยู่กับมันงั้นหรอ ชั้นเป็นพี่แกนะแครอล”กวินพูดอย่างหัวเสียก่อนจะเดิน
หนีขึ้นไปชั้นบน ก่อนจะแอบเห็นผู้บำบัดที่ตรวจอาการของจินนี่เสร็จแล้วออกมาตัวเองจึงรีบแอบเข้า
มาในห้องจินนี่ก่อนจะนั่งลงข้างๆมองดูร่างบางที่หน้าตาซีดเซียวไม่เปล่งปลั่ง เพราะขาดเลือดและ
เสียพลังมาก กวินมองนิ่งก่อนจินนี่จะไอออกมา กวินรีบไปกอดจินนี่ไว้
“อย่าเป็นอะไรนะชั้นไม่ยอมนะถ้าเธอจะต้องจากชั้นไป ยัยบ้า”กวินพูดก่อนจะก้มลงจูบแก้มซีดของ
จินนี่
“คุณชายคุณเขื่อนครับ เราพบนี่ครับ”องค์รักษ์คนอื่นวิ่งเอารองเท้าส้นสูงของฟางที่ถอดทิ้งไว้
“เจอรองเท้าจองฟางตรงไหน”ป๊อปปี้รีบถามองค์รักษ์ตัวเองก่อนจะรีบวิ่งไปที่สวนด้านหลังตามที่องค์
รักษ์บอกพร้อมกับพวกเขื่อน
“ฟาง เธออยู่ที่ไหนน่ะฟาง ออกมาเถอะ”ป๊อปปี้ตะโกนเรียกฟางแต่ทุกอย่างกลับเงียบจนชายหนุ่ม
ใจคอไม่ดีเพราะเป็นห่วงฟางมาก ก่อนจะนิ่งตั้งสติอยู่กับตัวเอง แล้วคิดในใจ ว่าฟางเองเป็นมนุษย์
แล้วฟางจะไปไหนได้ไกลล่ะ รอบๆปราสาทนั้นมีอันตรายมากมายแบบนี้
‘ฮือๆ ใครก็ได้ช่วยฟางด้วย’เหมือนเสียงกระซิบผ่านสายลมเข้ามาในโสตประสาทของป๊อปปี้ ทำให้
ชายหนุ่มชะงักมองไปรอบๆ ไม่ผิดแน่ เสียงร้องไห้ยังคงดังก้อง ป๊อปปี้ตั้งสิตฟังเสียงร้องไห้นั้นแล้ว
วิ่งนำพวกเขื่อนไปอย่างรวดเร็วจนมาถึงท้ายสวน ตรงประตูสวนที่จะออกไปข้างนอก
“ฟาง เมื่อกี้เสียงฟางใช่มั้ย ออกมาเถอะ พี่อยู่ที่นี่แล้ว”ป๊อปปี้ตะโกนเรียกฟางอีกครั้งก่อนจะหันไป
ตามเสียงกรี้ดของแบม เควินดึงแบมเข้าหาลำตัวมากขึ้นแล้วมองไปตามหยุดเลือดแล้วต้องตกใจเมื่อ
เห็นฟางที่ไม่สวมรองเท้านั่งอยู่บนต้นไม้ ชุดราตรีสีหวานนั้นมีแต่รอบเลือดของจินนี่ และที่ทุกคน
ต้องช๊อคไปกว่านั้นคือฟางถือเหล็กแหลมชุ่มเลือดอยู่
ตุบ
ฟางกระโดดลงมาจากต้นไม้ ทุกคนต้องตกใจเมื่อฟางกระโดดลงมาได้โดยไม่ล้มไม่เจ็บเลย ฟางเดิน
เข้ามาหาพวกป๊อปปี้ที่ยืนอึ้ง ก่อนป๊อปปี้จะสังเกตว่า ดวงตาสีดำของฟางนั้นเป็นสีเทาจางๆ หน้าตา
ของฟางดูนิ่งไม่แสดงความรู้สึกอะไรทั้งนั้น
“ออกมาจากแม่หนูคนนั้นให้หมด”เสียงผู้อาวุโสพูดขึ้นทำให้ทุกคนหันไม่มองผู้อาวุโส ธามไท ฟ้า
และเคนตะที่เดินเข้ามา ผู้อาวุโสมองฟางนิ่งๆก่อนจะหันไปพยักหน้ากับธามไทและเคนตะให้พุ่งไป
จับฟาง
“กรี้ดดดดดด”ฟางร้อองมาเมื่อเคนตะฟาดลงที่มือที่กำเหล็กแหลมแน่นจนต้องปล่อยแล้วทรุดเมื่อ
ถูกธามไทล๊อคร่างบางกดลงกับพื้น
“ฟาง นี่พวกนายทำอะไรฟางกันน่ะ”ป๊อปปี้ตกใจรีบว่าพวกธามไทที่จับฟาง
“คุณป๊อปถอยออกไปค่ะ”ฟ้าวิ่งเข้ามาอีกครั้งพร้อมขวดใบใหญ่คล้ายน้ำเปล่า ฟ้าเอาน้ำในขวดสาด
หน้าฟางก่อนจะล๊อคคอให้เงยหน้าแล้วกรอกน้ำใส่ปากฟาง
“อึก”ฟางเริ่มชักกระตุกก่อนจะพ่นเลือดสีดำออกมาต่อหน้าทุกคน
“ฟาง”ป๊อปปี้วิ่งเข้าไปหาฟางอย่างตกใจ แต่ถูกธามไทง้างถีบไปให้พ้นๆทาง
“นี่ ช่วยจับหมอนี่ทีดิ๊ ยืนเซ่อกันทำไมวะ”ธามไทพูดอย่างหงุดหงิด เขื่นและเควินรีบล๊อคตัวป๊อปปี้ไว้
“ปล่อยชั้น จะทำอะไรฟางน่ะ”ป๊อปปี้แทบคลั่งเมื่อเห็นร่างบางสำลักเลือดออกมาไม่หยุด ฟ้าเร่งทุบ
ผลึกสีเหลืองจนแตกละเอียดก่อนจะผสมน้ำในขวดที่เหลืออยู่แล้วกรอกปากฟางอีกครั้ง
พรวด
ฟางพ่นเลือดสีดำออกมาครั้งสุดท้ายก่อนจะทรุดสลบลงไป
“เท่านี้คำสาปคงจะออกไปหมดแล้วล่ะ ดีนะ ที่ไม่ได้ร้ายแรงมาก”ผู้อาวุโสพูด
“นี่มันไม่ร้ายแรงมากหรอครับคุณตา ฟางอาจจะตายได้นะ ร่างกายมนุษย์ไม่ได้แข็งแรงเหมือนกับ
พวกเรา”ป๊อปปี้รีบพูดเมื่อถูกปล่อยเป็นอิสระแล้ววิ่งไปผลักธามไทและเคนตะล้มลงก่อนจะประคอง
ฟางไว้ในอ้อมกอด
“บอกพวกเราได้มั้ยคะ ว่านี่มันเกิดเรื่องอะไรกัน แล้วที่บอกว่าคำสาป คำสาปอะไรคะ”แบมถาม
“คำสาปสีดำไงล่ะ เป็นคำสาปจากด้านมืด สงสัยคนสาปคงจะเพิ่งเรียนวิชาแล้วเอามาใช้กับฟางเป็น
ครั้งแรก เพราะไอคำสาปไม่มีอะไรร้ายแรงมาก ก็แค่สภาพจิตใจถูกครอบงำไม่มีความรู้สึกนึกคิด ทำ
ตามคำสั่งของคนที่สาป ดีนะที่คำสาประยะแรกจะเป็นเหมือนยาพิษทำให้ฟ้าเอาแร่สีทองนี้มาบด
ผสมน้ำให้ฟางดื่มเพื่อถอนพิษ และเลือดสีดำคือเลือดที่เกิดจากคำสาป”ผู้อาวุโสพูด ป๊อปปี้อึ้งก่อน
จะมองร่างบางที่นอนสลบและที่ปากยังมีคราบเลือดติดอยู่ก็เช็ดที่ปากฟางอย่างอ่อนโยนก่อนจะอุ้ม
ฟางขึ้นมา
“แล้วพอรู้ได้มั้ยครับว่าทำไมฟางถึงถูกสาป”ป๊อปปี้พูดขณะอุ้มฟางขึ้นมาบนห้องนอนเธอแล้วถามผู้
อาวุโส “คงไปทำให้ใครไม่พอใจให้ล่ะสิแม่หนูคนนี้”ผู้อาวุโสมองฟางแล้วพูด ก่อนป๊อปปี้จะวางฟาง
ลง แล้วให้แบมและโบว์รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและเช็ดตัวให้ฟางก่อนจะจัดท่านอนให้ฟางนอนดีๆ โดยที่
ป๊อปปี้นั่งลงอยู่ข้างๆฟางพลางกุมมือคนตัวเล็กแน่น
“แต่การที่จะถูกคำสาปได้นั้น สภาพจิตใจของคนๆนั้นต้องอ่อนแอมากถึงได้ถูกครอบงำแบบนี้”ผู้
อาวุโสพูดนิ่งๆแล้วมองป๊อปปี้ที่เห็นห่วงฟางมากแบบนี้ ก็ส่ายหน้ายิ้ม ที่ป๊อปปี้ภายนอกพยายามเย็น
ชา เข้มแข็งไม่สนใจฟาง แต่จริงๆแล้ว เขาคนนี้ล่ะที่เป็นห่วงฟางมากที่สุด เพียงเขาต้องเก็บซ่อน
ความรู้สึกนั้นไว้ข้างใน
“แต่การที่จะถูกคำสาปถูกสาปได้สมบูรณ์ได้นั้น จิตใจของผู้ที่ถูกสาปนอกจากจะอ่อนแอแล้วยังต้อง
มีใจที่เสี้ยวหนึ่งอยากทำร้ายหรืออิจฉาจินนี่เหมือนกัน ทำให้คำสาปสำเร็จได้”ผู้อาวุโสพูดทำให้
ป๊อปปี้นิ่งอึ้งแล้วมองฟางที่หลับอยู่แววตของเขาเศร้าลงไปทันที
“แต่ที่ฟางต้องเป็นแบบนี้ต้นเหตุทั้งหมดมันมาจากผม”ป๊อปปี้พูดอย่างเศร้าๆ
ขอโทษน้าที่มาอัพช้า เพราะว่าวันนี้เราลองเข้าดูละมันเข้าไม่ได้อ่ะเลยแอบอารมณ์เสียเลยหนีไปดูซีรี่ย์เลยพึ่งกลับมาอัพ
อยากรู้เรื่องต่อก็เม้นกับโหวตต่อนะจ้ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ