รักไม่ได้

9.7

เขียนโดย Chapond

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 02.39 น.

  66 ตอน
  1012 วิจารณ์
  169.62K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

20) ความรู้สึกลึกๆของหัวใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“อ๊ะ พี่ป๊อป”ฟางลงมาจากชั้นบนในเช้าวันต่อมาต้องแปลกใจที่เห็นป๊อปปี้นั่งอยู่ในห้องหนังสือชั้น

ล่าง

 

 

 

 

 

 

“ขอพี่ดูแผลเราหน่อยสิ”ป๊อปปี้เดินมาจับที่แผลฟางอย่างอ่อนโยนแล้วจะแกะผ้าพันแผลออกมา

 

 

 

 

 

“อย่าเลยค่ะ ฟางได้ยาจากเควินแล้ว ทาเช้าเย็นเดี๋ยวก็หาย”ฟางรีบพูดแล้วชักแขนกลับ

 

 

 

 

 

“ลำพังยาสมุนไพรที่เควินปรุงยาเองน่ะจะไปหายอะไรเร็วเท่าจูบพี่”ป๊อปปี้พูดตามตรงทำให้ฟางที่

ได้ยินคำว่าจูบก็หน้าแดงคิดถึงเรื่องเมื่อวานทันที

 

 

 

 

 

“เอ่อ แต่ฟางว่าทายาน่ะดีแล้วล่ะค่ะ เพราะฟางยังไม่คุ้นชินกับการรักษาแผลของพี่”ฟางรีบพูด

 

 

 

 

 

 

 

 

“รึว่าฟางชอบเควิน”ป๊อปปี้พูดขึ้นมา

 

 

 

“หา ฟางเนี่ยนะชอบเควิน”ฟางแทบเหวอเมื่อเจอป๊อปปี้ยิงคำถามมาแบบนี้

 

 

 

 

 

“เอ้า ก็ไม่ยอมให้พี่รักษาให้หายไวๆ เพราะว่าอยากจะให้เควินทายาให้ทุกวันล่ะสิ”ป๊อปปี้พูด

 

 

 

 

 

 

“พี่ป๊อป มันไม่ใช่อย่างที่พี่ป๊อปคิดนะ คนบ้า”ฟางพูดก่อนจะเดินปึงปังออกมาจากห้องหนังสือแล้ว

ชะงักเมื่อเจอจินนี่กำลังเดินเข้ามาในห้องหนังสือ แล้วภาพที่ป๊อปปี้จูบกับจินนี่เมื่อคืนผุดเข้ามาในหัว

ฟาง

 

 

 

 

 

 

“แผลเป็นยังไงบ้างคะน้องฟาง”จินนี่ถามแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

 

 

 

 

 

“เอ่อ ได้ยาเควินมาทาก็ไม่เป็นไรแล้วค่ะ เอ่อ ฟางขอตัวก่อนนะคะ”ฟางพูดก่อนจะรีบวิ่งไปทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เห้อ”ฟางถอนหายใจแล้วใช้ช้อนพรวนเขี่ยๆดินในกระถางต้นไม้ในเรือนกระจกอย่างเซ็งๆ

 

 

 

 

 

 

“ถอนหายใจ1ครั้งอายุจะลดลง1ปี แต่ฟางถอนหายใจมาแล้ว10ครั้ง นี่ฟางอายุลดลงไปแล้ว10ปี

นะเนี่ย”เควินพูดขึ้นขณะขนพวกสมุนไพรเข้ามาในเรือนกระจก

 

 

 

 

 

“อายุลดก็ดีสิ จะได้ไม่แก่ หน้าเด็กๆแบบนี้ตลอดไง”ฟางยิ้มขำก่อนจะมองไปรอบๆเรือนกระจก หลัง

จากที่เควินรักษาแผลให้เธอเมื่อวานทำให้ฟางรู้ว่าเวลาว่างจากการฝึกซ้อมและการดูแลพวกป๊อปปี้

ของเควินแล้ว เควินมักจะชอบขลุกอยู่ในเรือนกระจกนี้เพื่อปรุงยารักษามาจากสมุนไพรในนี้

 

 

 

 

 

 

“เดี๋ยวถ้าคิดยาอายุวัฒนะได้นะจะให้ฟางลองคนแรกเลย”เควินพูดแล้วขำก่อนจะรินยาสีน้ำเงินลง

แก้วตัวเองแล้วดื่มมันจนหมด

 

 

 

 

 

“ยานี่มันยาอะไรหรอเควิน”ฟางมองหลอดยาที่เควินเทลงแก้วเมื่อกี้นี้

 

 

 

 

 

“เอ่อ คือว่า”เควินอึกอัก

 

 

 

 

“มันก็คือยาชะลอการแปลงร่างไงล่ะ แล้วยิ่งคืนนี้พระจันทร์เต็มดวงแบบนี้ด้วย ต้องกิน3เวลาหลัง

อาหาร”เขื่อนเดินเข้ามาในเรือนกระจกแล้วพูด

 

 

 

 

 

“ไหนเขื่อนบอกว่าเควินไม่ใช่แวมไพร์ไง แล้วทำไมถึงต้องกินมันด้วย”ฟางถาม

 

 

 

 

“เพราะเควินเป็นมนุษย์หมาป่าไง แต่ก็แค่ลูกครึ่งเท่านั้นล่ะ แม่เป็นมนุษย์ พ่อเป็นหมาป่า”เควินพูด

 

 

 

 

“ชั้นน่ะเจอเควินถูกพี่ชายตัวเองที่ร่วมมือกับพวกแวมไพร์กระหายเลือดทำร้ายจนเจ็บเกือบปางตาย

ชั้นเลยช่วยพาเควินมาไว้ที่นี่และดูแลจนถึงทุกวันนี้”เขื่อนพูดถึงอดีตของเควิน

 

 

 

 

 

“ถ้าวันนั้นชั้นไม่ได้เจอพี่เขื่อนนะ มีหวัง ชั้นคงต้องตายไปแล้วเพราะบาดแผลนั่นแล้วแท้ๆ”เควินพูด

 

 

 

 

 

 

 

 

“โห ขนาดเควินยังโดนทำร้ายจากคนในครอบครัวเลย”ฟางมองเควินอย่างสงสาร

 

 

 

 

 

 

“นั่นล่ะ ชั้นกับคุณชายถึงได้ห่วงเธอมากเวลาที่เธอต้องออกไปทำงานข้างนอก แล้วโดยเฉพาะ

คุณชาย แทบนอนไม่ติดโลงเมื่อเธอออกไปทำงานทุกวัน จนตอนที่เธอยังไม่มาอยู่ที่นี่นะ คุณชาย

ต้องแอบไปดูเธอที่ทำงานทุกๆวันตลอดเลย”เขื่อนพูดทำให้ฟางนิ่งแก้มแดงขึ้น นี่พี่ป๊อปแอบดูแล

เธอตลอดงั้นหรอ

 

 

 

 

 

“ห่วงแค่ไหน สุดท้ายก็เป็นแค่พี่น้องกันเท่านั้น”ฟางพูดเศร้าๆ

 

 

 

 

 

“นี่ฟาง อย่าบอกนะเธอแอบชอบพี่ตัวเอง”เควินพูดอย่างตกใจที่เห็นอาการของฟาง

 

 

 

 

 

 

 

“มารู้ตัวอีกทีชั้นก็รู้สึกแบบนั้นเข้าเต็มๆไปแล้ว ชั้นถึงได้ทรมานทุกครั้งเวลาพี่ป๊อปอยู่ใกล้คุณจินนี่ไง

รู้ว่ารักไม่ได้ แต่สุดท้ายก็เผลอใจคิดอะไรแบบนี้กับพี่ชายตัวเอง ชั้นนี่แย่จริงๆเลยเนาะ”ฟางพูด

เศร้าๆ

 

 

 

 

 

 

“ความรู้สึกแบบนี้มันไม่เข้าใครออกใครหรอก แต่เธอก็รู้ว่าสุดท้ายความรักครั้งนี้ของเธอมันเป็นไปไม่

ได้หรอก เพราะเธอกับคุณชายคือพี่น้องกัน”เขื่อนพูดนิ่งๆแล้วมองฟางอย่างสงสาร

 

 

 

 

 

“ถ้าแก้วยังอยู่ที่นี่ก็คงจะดีสินะ จะได้ช่วยให้ชั้นเลิกคิดอะไรบ้าๆแบบนี้”ฟางพูดเศร้าๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เห้อ”แก้วถอนหายใจแล้วนั่งมองพระอาทิตย์ที่จะตกดิน เธอต้องกลายเป็นทาสของโทโมะแล้วอยู่

แต่บนหอคอยนี้มาเกือบอาทิตย์แล้วสินะ ฟางจะเป็นยังไงบ้างนะ

 

 

 

 

 

 

 

“ถอนหายใจอยู่นั่นล่ะ ไม่เบื่อบ้างรึไง”โทโมะที่กลายร่างจากค้างคาวเป็นแวมไพร์เดินเข้ามาหาแก้ว

แล้วนั่งลงข้างๆแก้ว แก้วขยับตัวหนีแต่ถูกโทโมะล๊อคตัวไว้ไม่ให้หนี

 

 

 

 

 

“ไปเที่ยวกันเถอะ”โทโมะพูดจบก็อุ้มแก้วออกไปจากหอคอย

 

 

 

 

 

 

“กรี้ดด ไอ้บ้า มันเสียวนะ”แก้วร้องเมื่อถูกโทโมะอุ้มแล้วกระโดดลงมาจากหอคอยสูง

 

 

 

 

 

 

 

“หึๆ แค่นี้ก็เสียวแล้วหรอ ชั้นยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะเนี่ย เธอนี่เครื่องติดง่ายจริงๆ”โทโมะหัว

เราะหึๆวกพูดถึงเรื่องอย่างว่าแล้วไต่ไปตามต้นไม้อย่างคล่องแคล่ว จนมาถึงเนินเขาแห่งหนึ่งที่

พระจันทร์เต็มดวง

 

 

 

 

 

 

“สวยจัง”แก้วมองพระจันทร์ดวงโตตรงหน้า ที่ตรงนี้ที่โทโมะพาเธอมามันเห็นพระจันทร์ชัดมากก่อน

ที่แก้วจะสังเกตรอบๆเธอเป็นทุกดอกไม้สีขาว แก้วจึงค่อยๆนั่งลงกับพื้นหญ้าแล้วสูดอากาสอย่าง

สดชื่น

 

 

 

 

 

 

“อ๊ะ”แก้วร้องตกใจเมื่อจู่ๆโทโมะก็ล้มตัวนอนหนุนตักแก้วทันที

 

 

 

 

 

“มันเมื่อยหรอกน่าเลยมานอนน่ะ”โทโมะรีบพูดก่อนจะมองแหวนของพ่อแม่ตัวเองที่นิ้วชี้ที่ใส่ซ้อน

กัน2วง

 

 

 

 

 

 

“คิดถึงแฟนนายหรอ”แก้วที่เข้าใจว่าแหวนนั่นคือแหวนของแฟนโทโมะก็พูดขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

“บ้า นี่แหวนพ่อกับแม่ชั้น”โทโมะตอบก่อนจะมองที่แหวนทั้ง2วงอย่างเศร้าๆ แก้วที่เห็นท่าทางของ

โทโมะซึมแปลกๆก็เข้าใจได้ว่าแหวน2วงนี้คงมีค่าทางจิตใจของโทโมะมากสินะ

 

 

 

 

 

“ทำอะไรของเธอ แอบแต้ะอั๋งชั้นหรอ”โทโมะพูดเมื่อแก้วเอา2มือจับที่มือโทโมะแล้วกุมไว้

 

 

 

 

“เวลาชั้นเหงาหรือเสียใจนะ แม่ชั้นเค้าจะเดินมาจับมือชั้นแบบนี้แม่บอกว่ามันคือการให้กำลังใจ คน

ที่ถูกสัมผัสจะรู้ได้ว่าคนที่จับมือเราเค้าจริงใจและเป็นห่วงเราแค่ไหน”แก้วพูด โทโมะหน้าแดง

 

 

 

 

 

 

 

“แต่มีอีกวิธีนึงที่เราจะรู้ว่าคนที่สัมผัสเราตอนนี้เค้าจริงใจรึเปล่า”โทโมะพูดก่อนจะลุกขึ้นแล้วกอด

แก้ว แก้วตกใจเมื่อถูกชายหนุ่มสวมกอดมา แต่ก็ยอมให้โทโมะกอดและกอดตอบเขา

 

 

 

 

“อืมม”โทโมะถอนกอดแก้วออกมาแล้วสบตาร่างบางก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปจูบแก้วอย่างอ่อนโยน

แก้วชะงักก่อนจะโอนอ่อนไปกับรสจูบนี้ ทั้งคู่จูบกันอยู่เนิ่นนานใต้แสงจันทร์ที่ส่องอยู่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เมื่อคืนพระจันทร์เต็มดวง นายได้กลายร่างเป็นหมาป่ารึเปล่าเนี่ย”ฟางถามเควินในตอนเช้าที่เควิน

และเขื่อนขึ้นมารับใช้พวกป๊อปปี้

 

 

 

 

 

“แหะๆ ก็พี่เขื่อนน่ะสิครับ กลัวว่ายาที่ผมกินไปจะไม่สามารถทำให้ผมนิ่งพอ เลยเอายานอนหลับฉีด

ให้ผม เมื่อคืนผมก็เลยหลับยาวไม่ได้แปลงร่างเลย”เควินพูดแล้วหัวเราะออกมา ฟางที่เห็นความร่า

เริงของเควินก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาด้วยเป็นจังหวะเดียวกับที่ป๊อปปี้และจินนี่เดินลงมา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เดี๋ยววันนี้พี่จะไปส่งฟางที่ทำงานเองนะ ไม่ต้องกวนเขื่อนกับเควินเค้าหรอก”ป๊อปปี้พูด

 

 

 

 

 

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ป๊อป พี่ป๊อปออกแดดไปนะเดี๋ยวเค้าก็จับได้พอดี พี่อยู่ที่นี่ล่ะค่ะฟางว่าถ้าเลิก

งานแล้วจะให้เขื่อนกับเควินไปส่งฟางซื้อของใช้ซะหน่อย”ฟางพูด

 

 

 

 

 

 

“อ๋อ เดี๋ยวนี้ฟางคงจะลืมไปแล้วสินะว่ามีพี่เป็นพี่ชายอยู่”ป๊อปปี้พูดแกมแอบงอนนิดๆทำให้จินนี่ชะงัก

กับท่าทีของคู่หมั้นหนุ่มที่แสดงอาการงอนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

 

 

 

“เปล่านะคะ แต่มันเป็นความจริง โลกของฟางมีชีวิตได้ตอนกลางวัน แต่พี่มีชีวิตได้ตอนกลาง

คืน”ฟางพูด

 

 

 

 

 

 

 

“งั้นฟางพูดแบบนี้ก็แสดงว่าฟางคงเบื่อที่นี่แล้วอยากไปจากพี่ชายคนนี้แล้วสินะ”ป๊อปปี้พูดเศร้าๆ

 

 

 

 

“ป๊อป ปล่อยน้องฟางไปเที่ยวเล่นตามประสาของน้องฟางบ้างก็ได้นะ มันก็จริงที่น้องฟางพูดว่าโลก

ของพวกเรากับน้องเค้ามันต่างกัน และอีกอย่างป๊อปน่าจะหมดห่วงเพราะมีทั้งเขื่อนและก็เควินมา

ดูแลน้องฟางเค้าแบบนี้น่ะ”จินนี่พูดให้ป๊อปปี้เข้าใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

“โอ้โห นี่เกิดอะไรขึ้นเนี่ย เอะๆ รึว่าเกิดเรื่องรักสามเศร้าขึ้นมาซะแล้ว”กวินกลับมาจากเที่ยวกับสาวๆ

แล้วเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็พูดขึ้น

 

 

 

 

 

“นี่ถ้าว่างมากก็ช่วยหัดทำอะไรที่ประโยชน์เถอะกวิน”จินนี่ว่ากวิน

 

 

 

 

 

“นั่นน่ะสิทำอะไรที่มีประโยชน์ดีน้า ทำลูกดีมั้ย”กวินพูดกวนๆแล้วจ้องหน้าจินนี่ จินนี่ชะงักรีบคล้อง

แขนป๊อปปี้แล้วกอดแน่นทันที ฟางชะงักเมื่อเห็นท่าทางแสดงเจ้าเข้าเจ้าของของจินนี่ก็ซึมลงไป

ทันที จินนี่คงจะหึงหวงเธอกับป๊อปปี้สินะ

 

 

 

 

 

 

“พอเลยๆ วันนี้อยากจะไปกับพวกเขื่อนก็ได้แต่พรุ่งนี้พี่ต้องไปรับ เพราะคุณตาท่านอยากพบ

ฟาง”ป๊อปปี้พูดขึ้นก่อนจะเอาการ์ดสีเงินยื่นให้ฟาง

 

 

 

 

 

 

“เดี๋ยวนะ ทำไมคุณตาผู้อาวุโสถึงอยากพบฟางล่ะ”จินนี่ถามอย่างแปลกใจ

 

 

 

 

 

 

ก็เหมือนเดิมนะ เรื่องนี้เรามีความลับของตัวละครเยอะ ยังไงก็อย่าหายไปละกน ช่วงนี้ไรเตอร์อาจไม่ว่างจริงๆเพราะมันเปิดเรียนแล้วอ่ะ ต้องเข้าใจนะ มันยุ่งจริงๆ

 

 

 

อัพอ่ะอัพพแน่ค่ะ แต่รีดเดอร์ต้องคอมเม้น แสดงความคิดเห็นต่อฟิคของไรเตอร์ให้ไรเตอร์

ด้วยนะคะ แลกกัน ยังไงก็อัพอยู่แล้วค่ะ แต่บางทีไรเตอร์แค่รู้สึกว่าถ้าจะมาอ่านอย่างเดียว

ฟรีๆ ไรเตอร์ไม่รู้หรอกค่ะว่าฟิตไรเตอร์เป็นยังไง เพราะทั้งโพสมีแต่คำว่าอัพเท่านั้น

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา