Overrated ผมรักพี่สาวมีอะไรมั้ยคร้าบ
9.5
เขียนโดย PrincessTK
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 10.18 น.
17 chapter
82 วิจารณ์
29.02K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 มกราคม พ.ศ. 2558 21.29 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
12) Change
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“แก้วใจ แกรู้มั้ยว่าป๊อปเปนอะไรอ่ะ”
“ใช่ ฉันว่าช่วงนี้เค้าไม่ค่อยมาเรียนเลยนะ”
“มาก้หลับในห้อง ยังกะคนอดหลับอดนอน”
สารพัดคำถามที่เพื่อนในห้องยิงใส่สาวน้อยไม่ยั้งทันทีที่เธอนั่งลงที่นั่งของเธอ
“ฉันไม่รู้หรอก ฉันนึกว่าฉันรู้สึกไปคนเดียวซะอีก” สาวน้อยตอบตามความเป็นจริง เพราะเธอเองก้ไม่รู้เหมือนกันว่า
‘ไอหมีจอมกวน’ หายไปไหน เกือบเดือนแล้วที่ป๊อปปี้ขาดเรียนบ่อย ถึงมาก้หลับในห้อง หน้าก้ดูโทรมๆเหมือนคนอดหลับ
อดนอน ทั้งๆที่เมื่อก่อนเค้าเปนคนที่สั่งห้ามเธอนอนในห้องเรียนด้วยซ้ำ จากปกติที่สนิทกันมาก ตัวติดกันจนคนในโรงเรียน
คิดว่าเป็นแฟนกัน กลายเปนเพื่อนร่วมห้องธรรมดา คุยกันนับคำได้ จากที่เคยกลับบ้านด้วยกันทุกวัน กลายเปนเธอต้อง
กลับกับกวินสองคน ส่วนป๊อปปี้มักจะหายไปตั้งแต่อาจารย์คาบสุดท้ายเดินออกจากห้อง
การที่ป๊อปปี้หายไปทำให้เธอรู้สึกเหงามากๆ ที่ไม่มีใครคอยดูแล คอยแกล้ง คอยกวน เหมือนเคย แต่ยังดีที่มีเพื่อนๆ
และ ‘เกรียนน้อย’ คุยเปนเพื่อนตลอด
“ขนาดยัยแก้วยังไม่รู้ แล้วใครจะรู้วะ”
“ฉันเปนห่วงมันอ่ะแก แกถามมันหน่อยดิ ฉันถามแล้วมันไม่ตอบอ่ะ” เฟย์คยั้นคยอ ให้แก้วไปถามป๊อปปี้เพื่อความสบายใจ
ของทุกคน
“เห้ย!! ทำไมต้องเปนฉันหล่ะ แกถามยังไม่ตอบ แล้วป๊อปจะตอบฉันมั้ยหล่ะ”
สาวน้อยเลี่ยง เพราะจริงๆแล้วเธอก้ ‘งอน’ เพื่อนซี้คนนี้อยู่เหมือนกัน
.”ตอบบบบ!!” ทุกคนพุดเปนเสียงเดียวกัน
“หรือแกไม่ห่วงมัน??” แจม เพื่อนร่วมห้องย้อนถาม
“ก้ห่วง...แต่มันก้เรื่องของเค้า ฉันไม่เกี่ยว”
“หน่านะแก้ว คิดว่าเพื่อความสบายใจของทุกคน” จินนี่พยายามโน้มน้าวให้สาวน้อยไปถามให้ตน
“แกรู้ได้งัย บางทีถ้าแกรู้ว่าป๊อปเปนอะไร แกอาจจะไม่สบายใจกว่าเดิมก้ได้นะ ” สาวน้อยอ้างเหตุผล เพราะรู้ดีว่า
เพื่อนในห้องคลั่งป๊อปปี้อย่างกับซุปเปอร์สตาร์ประจำห้อง
“ก้จริงของแก้วนะ” ทุกคนเริ่มคล้อยตาม
“แค่นี้นะ ฉันนอนหล่ะบายยยย”
สาวน้อยฟุบหน้าลงกับโต๊ะเรียนท่ามกลางความงุนงงของเพื่อน ความจริงเธอก้ไม่ได้ง่วงมากแต่หนีเพื่อนทุกคนต่างหาก
มาคยั้นคยอกับเธอเรื่องป๊อปปี้อยู่ได้ รู้บ้างมั้ยว่าเธอน้อยใจแค่ไหนที่ไม่รู้เรื่องอะไรของเค้าเลย ทั้งที่ปกติเรื่องของป๊อปปี้แทบ
จะเหมือนเรื่องของเธอด้วยซ้ำไป
@ siam
[ kaewjai part ]
วันนี้เป็นวันเสาร์ ฉันมาปรากฏตัวที่สยามตามเคย จะแตกต่างก้ตรงที่ ป๊อปปี้ ไม่ได้มาด้วย ช่วงนี้เป็นอะไรของเค้าก็ไม่รู้
ช่วงนี้เราไม่ค่อยเจอหน้ากันเลย ทั้งๆที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันแท้ๆ จากคนที่คอยขู่เข็ญฉันให้ไปโรงเรียนแต่เช้า กลับกลายเป็น
คนมาสายซะเอง แถมยังหยุดบ่อยอีก มาเรียนก้ไม่ค่อยเสวนาพาทีกับฉันและคนอื่นๆมากนัก ชอบฟุบหลับไปกับโต๊ะเรียนก้
เหมือนคนอดหลับอดนอน หน้าตาก้ดูเหนื่อยๆโทรมๆ ผิดปกติ ช่วงนี้ฉันแทบไม่ได้คุยกับเค้าเลยด้วยซ้ำ ฉันเริ่มจะชินแล้ว
หล่ะ แต่มันก้ยังเหมือนขาดอะไรบางอย่างไปอยู่ดี เพื่อนถามอะไรเกี่ยวกับเค้า ฉันก้ไม่รู้จะตอบว่าอะไร ก้คนมันไม่รู้
เหมือนกันนี่
“อ้าว ทำไมมาเร็วจัง”
พี่หมอจงเบ เอ่ยด้วยสีหน้าตกใจนิดๆ คิดไม่ถึงหล่ะสิ ว่าคนอย่างฉันจะตื่นเช้าได้ ( ใครว่าหล่ะ แทบจะไม่ได้นอน
เลยต่างหาก ต้องคอยตอบแชทไอเด็กเกรียนเกือบทั้งคืน )
“รถไม่ติดอ่ะ”
“หน่ะ ขับรถมาคนเดียวอีกล้ะ อันตรายจะตาย ใบขับขี่ก้ยังไม่มี ถ้าเปนอะไรไปพี่จะทำงัยห๊ะ??”
คุณหมอนี่ขี้บ่นทุกคนเลยหรืองัยนะ
“ค่ะๆ ขอโทษค่ะ” ฉันหัวเราะเบาๆ โชคดีจังที่มีพี่ชายน่ารักแบบนี้ ถึงแม้จะหวงเวอร์ แล้วก้ขี้บ่นไปหน่อยก้ตาม
“เอาเถอะ พี่โกรธเธอไม่เคยได้หรอก ไหนดูสิทำการบ้านมารึป่าว ”
2 ชั่วโมงต่อมา
โอยยยยยยยยยย
ฉันแทบจะอ้วกออกมาเปนแคลคลูลัส ให้ตายสูตรบ้าบออะไรเยอะขนาดนี้ สมองน้อยๆของฉันจะจำหมดได้ยังงัย??
“ไม่เอาแล้ว จะอ้วกกก”
“เรานี่นะ แล้วจะไปแข่งกับคนอื่นเค้าได้งัย??” คุณหมอเริ่มเทศน์อีกรอบ ข้าหล่ะกลุ้มมมม
“นี่พี่ลืมไปแล้วหรอว่าฉันได้ทุนไปเรียนเมืองนอกหน่ะ” ฉันเตือนความจำให้พี่ชาย
“อ้าว ไหนบอกว่าไม่เอางัย” พี่จงเบทำหน้างงๆ
“อะไรของพี่เนี่ย ก้พี่เปนคนพาฉันไปยื่นใบตอบรับทุนนะ นอกจากขี้บ่นแล้วยังขี้ลืมอีก ตอนผ่าตัดเอากรรไกรออกจากท้อง
คนไข้บ้างรึเปล่าเนี่ย” ให้ตาย ฉันหล่ะสงสารคนไข้ของพี่หมอจริงๆ นอกจากจะบ่นน่ารำคาญแล้วยังขี้ลืมอีก ถ้าเปนหมอ
ปกติคงโดนไล่ออกไปนานแล้ว แต่นี่ดันเปนลูกเจ้าของโรงพยาบาล และที่สำคัญ ‘หล่อทะลุแว่น’ ค่ะทั้งคนไข้ทั้งพยาบาล
หลงกันทั้งโรงพยาบาล
“นั่นสินะ คงไม่ได้เจอกันอีกนานเลยสิ”
“ไม่หรอกหน่า สี่ห้าปีแก้วก้เรียนจบแล้ว”
คิดแล้วก้ใจหายอยู่เหมือนกันที่ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนไปเรียนต่อที่ๆไม่คุ้นเคย ประเด็นคือฉันยังไม่ได้บอกเพื่อนคนไหน
เลยหน่ะสิ แต่ชั่งเถอะ อีกตั้งหลายเดือน มีเวลาทำใจอีกนาน
“พี่แก้วววววววววววววววว” เสียงคนเรียกชื่อฉันดังมาแต่ไกล ใครฟระ ช่างไม่อายผู้คน เปนญาติกับทราซานหรืองัย ถึงได้
ตะโกนโหวกเวกโวยวายแบบนี้ นี่มันสยามนะโว้ย ไม่ใช่ป่าร้อยเอเคอร์ของแก
“อ้าว เขื่อน” ฉันที่กำลังเตรียมด่าเต็มที่ ก้เปลี่ยนเป็นยิ้มให้เจ้าของเสียงและคนข้างๆแทน ที่ด่าไว้เมื่อกี้ก้ลืมๆมันไปเถอะ
“คิดถึงจัง ไม่เจอตั้งนาน” เขื่อนทำท่าจะกอดฉันแต่โดนพี่เบและโทโมะดึงเอาไว้ก่อน
“อย่าตลก”
“ขอโทดคร้าบบบบบ” เขื่อนทำหน้าบ้องแบ๊วขอโทษ น่ารักตายอ่ะ
“พวกแกมาทำไมเนี่ย”
“ไม่ได้มาหาคุณหมอครับ มาหาพี่แก้ว”
หือออ มาหาฉันหรอ?? มาเพื่อ????
“เออ งั้นฉันไปหล่ะ หมดเวลาพอดี เจอกันเสาร์หน้าไอลิงทั้งสาม”
พี่จงเบบอกลาแล้วเดินออกไป ดะ..เดี๊ยวนะ ‘ไอลิงทั้งสาม’ หรอ?? ฉันไปเกี่ยวอะไรกับเด็กสองคนนี้เนี่ยยยยย
“เขื่อนมาหาพี่ มีอะไรรึเปล่า”
“เขื่อนไม่มีหรอก แต่ไอนี่อ่ะมี” เขื่อนชี้ไปทางโทโมะ โทโมะยิ้มหวานให้ฉัน
โอ๊ยยยยยยย มีใครเคยบอกเค้ารึเปล่าว่ารอยยิ้มนี้ทำหัวใจสาวๆละลายได้ค่อนประเทศเลยนะ
“อย่ายิ้มแบบนี้สิ พี่ไม่ใช่แฟนคลับเรานะ”
“ฮะๆ กลัวหลงรอยยิ้มผมหรอครับ” ฮึ่ยยยยย ไอเด็กคนนี้นี่ ถ้าฉันหลงขึ้นมาใครจะรับผิดชอบบบบบ
“เปล่าซะหน่อย ว่าแต่มีอะไรหรอ??”
“คือออออ”
“……..”
“เอ่อ...คือว่า...”
“……”
“โว้ยยยย พูดซะทีสิ!!” ไอเขื่อนแกแย่งฉันพูดทำไมTT
อ้ำอึ้งอยู่ได้แล้วฉันจะรู้มั้ยว่า น้องต้องการจะสื่ออัลไล เห้อออ สวยเพลีย
แล้วเด็กสองคนก้หันไปกระซิบกระซาบอะไรกันก้ไม้รู้ ฉันไม่ได้ยิน
“เห้ย สั่งชานมไว้นี่หว่า ไปเอาก่อนนะ”
เขื่อนชิ่งหนีไป อะ..อ้าว นี่เล่นอะไรกันอยู่ห๊ะ????
“เอ้า ไรเนี่ย” ฉันบ่นอุบอิบอย่างอดไม่ได้
“ช่างมันเถอะ ฟังผมพูดก่อน”
“ก้ฟังอยู่แต่เราไม่พูดซะทีนี่”
“พูดแล้วๆ”
โทโมะกำมือแน่น หน้าขาวอมชมพูแบบเด็กสุขภาพดีแดงระเรื่อขึ้นเรื่อยๆ
“…….”
“คือออออ.....”
“……”
โอ้ยยยย อ้ำอึ้งอยู่ได้ทำเหมือนจะมาสารภาพรักงั้นหล่ะ
ห๊ะ!!!!
สารภาพรักหรอ??? ไม่ม้างงงงง จริญญาแกอย่ามโนสิ อาจจะไม่ใช่ก้ได้
“คือออ... คือผม...”
“…..”
“คือ...”
“พรุ่งนี้ค่อยมาพูดมั้ย??”
ฉันถามด้วยความเซ็ง ไม่พูดซะที จะไม่อยากรู้แล้วนะ
“”ไม่ๆ พูดเดี๊ยวนี้แหละ”
ท่าทางตอนนี้เค้าดูน่ารักชะมัด เหมือนเด็กน้อยกำลังเขิน ท่าทางเหมือนคนจะมาสารภาพรักไม่ผิด
เห้!! เธอคิดแบบนี้อีกแล้วนะจริญ ไม่สิ อย่ามโน ไม่ใช่หรอกหน่า
“คือ...”
“...........”
“คือ..ผม จะ จีบ พี่ อย่าง จริง จัง แล้ว นะ”
หนุ่มน้อยพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ เห้อออ กว่าจะพูดได้ เห็นมั้ยจริญเค้าไม่ได้มาสารภาพรักซะหน่อยแค่บอกว่า
‘ผม จะ จีบ พี่ อย่าง จริง จัง แล้ว นะ’
‘ผม จะ จีบ พี่ อย่าง จริง จัง แล้ว นะ’
‘ผม จะ จีบ พี่ อย่าง จริง จัง แล้ว นะ’
‘ผม จะ จีบ พี่ อย่าง จริง จัง แล้ว นะ’
“ห๊ะ!!!” oh shit นี่มันไม่ต่างจากสารภาพรักเลยนะ
“ผมจะจีบพี่ รู้เรื่องยัง??”
อืมมมมมมมมมมมม ชัดเจนค่ะ
“ระ..รู้แล้ว” โอ๊ยให้ตาย ฉันไม่รู้จะทำหน้ายังงัยเลย ไม่เคยรู้สึกประหม่าขนาดนี้ ทั้งๆที่มีคนมาจีบฉันเยอะจนฉันชินแล้ว
ถึงคนจะจีบเยอะแต่ก้ไม่ติดสักราย จะไปติดได้งัย ทั้งเพื่อนทั้งพี่ชายหวงยังกับไข่ในหิน
“ไม่พูดไรหน่อยหรอ?”
เด็กผู้ชายตรงหน้าเอ่ยถามฉัน
“เอ่อ.... อยากให้พูดว่าอะไรหล่ะ”
“ก้...อย่างเช่น โอเค ให้จีบ อะไรประมาณนี้”
“มีชอยส์ให้มั้ยอ่ะ??”
“หึ”
โทโมะส่ายหน้าแทนคำตอบ
หือออ เกิดมาพึ่งเคยเจอผู้ชายแบบนี้ จะจีบก้บอกแถมยังมีหน้ามาสั่งให้ตอบตกลงอย่างเดียวอีก
“แล้วพี่จะตอบเพื่ออะไรในเมื่อพี่ไม่มีทางปฏิเสธเลยเนี่ยห๊ะ??”
“ก้ไม่รู้นี่ ไม่เคยบอกใครแบบนี้”
ท่าทางไร้เดียงสาแบบนี้ น่าลากกลับไปดูเล่นที่บ้านชะมัดเลย
“โอเคๆ พี่ห้ามอะไรเธอไม่ได้แล้วนี่”
“พูดแล้วห้ามคืนคำนะครับ”
โทโมะส่งยิ้มหวานมาให้ โอ้ยยยยยย ฉันเกลียดรอยยิ้มนี่ มันทำให้ฉันใจอ่อนยวบทุกครั้งเลยยยยยTT
ไอเด็กไร้เดียงสาที่กำลังสารภาพรักครั้งแรกในชีวิตมันหายไปไหนฟระ เหลือแต่ปีศาจเกรียนคนนี้ ฮอลลลลลลลล
.
.
.
@ สโมสรนักกีฬาแบตมินตันทีมชาติ
ชายหนุ่มซ้อมแบตอย่างเอาเป็นเอาตายติดกันมาร่วมห้าชั่วโมง โดยแทบไม่ได้หยุดพักเลย
“ป๊อป พอก่อน ไปพักเถอะ” โค้ชเดินเข้ามาดึงไม้แบตที่กำลังเหวี่ยงไม้เตรียมรับลูกขนไก่ ติดกันมาหลายชั่วโมง
เพราะอยากให้ชายหนุ่มได้พักบ้าง
“อีกแป๊ปนะโค้ช”
“ป๊อป แป๊ปมาหลายทีแล้วนะ ครั้งนี้โค้ชไม่ยอมแล้ว” โค้ชดุสีหน้าจริงจังกว่าเดิม
“นักกีฬาที่ดีต้องรู้ลิมิตตัวเองสิ ดูสิ แล้วแบบนี้พรุ่งนี้เช้าจะไปเรียนไหวมั้ยห๊ะ??” โค้ชได้ทีสั่งสอน เพราะมีคนมาบอกหลาย
คนแล้วว่านักกีฬาคนโปรดของเค้าโหมซ้อมหนักมาหลายวันแล้ว
“ครับๆ”
ป๊อปปี้ยอมเดินไปพักตามคำสั่งของโค้ช
ป๊อปปี้กระดกขวดน้ำด้วยความหิวกระหาย สายตาคมพลันเหลือบไปเห็นไม้แบคคู่ใจของน้องชาย
‘ยอมพักไม่ได้แปลว่าฉันยอมแพ้แกนะไอน้องชาย’
ป๊อปปี้เอ่ยขึ้นเบาๆ สายตาที่มุ่งมั่นมากเค้าไม่มีทางยอมแพ้เด็กเกรียนนั่นหรอกหน่า ยิ่งได้รู้ว่าโทโมะซ้อมน้อยกว่าเค้าก็
ยิ่งได้ใจ แต่ที่เค้าไม่รู้คือ ระหว่างที่เค้าตั้งใจซ้อมจนแทบไม่มีเวลาคุยกับเธอเพื่อให้กลับมาโด่งดังอีกครั้งนึง แล้วเธอจะสนใจ
คนข้างๆอย่างเค้าบ้าง คู่แข่งคนสำคัญของเค้าตามจีบนำหน้าเค้าไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
‘สู้ๆนะป๊อปปี้’
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แฮร่~ เค้ากลับมาแล้ว เปนงัยบ้าง เม้น โหวต ติชมกันได้เต็มที่เลยนะคะ ขอโทษที่ไม่ได้อัพบ่อยๆ
แวะเข้ามาพูดคุยกันได้ที่twitter @yy_yokkiez นะค้า
ปล. มีคนเชียร์ป๊อปปี้เยอะจุงงง เปลี่ยนพระเอกดีมั้ยน้า555555
“ใช่ ฉันว่าช่วงนี้เค้าไม่ค่อยมาเรียนเลยนะ”
“มาก้หลับในห้อง ยังกะคนอดหลับอดนอน”
สารพัดคำถามที่เพื่อนในห้องยิงใส่สาวน้อยไม่ยั้งทันทีที่เธอนั่งลงที่นั่งของเธอ
“ฉันไม่รู้หรอก ฉันนึกว่าฉันรู้สึกไปคนเดียวซะอีก” สาวน้อยตอบตามความเป็นจริง เพราะเธอเองก้ไม่รู้เหมือนกันว่า
‘ไอหมีจอมกวน’ หายไปไหน เกือบเดือนแล้วที่ป๊อปปี้ขาดเรียนบ่อย ถึงมาก้หลับในห้อง หน้าก้ดูโทรมๆเหมือนคนอดหลับ
อดนอน ทั้งๆที่เมื่อก่อนเค้าเปนคนที่สั่งห้ามเธอนอนในห้องเรียนด้วยซ้ำ จากปกติที่สนิทกันมาก ตัวติดกันจนคนในโรงเรียน
คิดว่าเป็นแฟนกัน กลายเปนเพื่อนร่วมห้องธรรมดา คุยกันนับคำได้ จากที่เคยกลับบ้านด้วยกันทุกวัน กลายเปนเธอต้อง
กลับกับกวินสองคน ส่วนป๊อปปี้มักจะหายไปตั้งแต่อาจารย์คาบสุดท้ายเดินออกจากห้อง
การที่ป๊อปปี้หายไปทำให้เธอรู้สึกเหงามากๆ ที่ไม่มีใครคอยดูแล คอยแกล้ง คอยกวน เหมือนเคย แต่ยังดีที่มีเพื่อนๆ
และ ‘เกรียนน้อย’ คุยเปนเพื่อนตลอด
“ขนาดยัยแก้วยังไม่รู้ แล้วใครจะรู้วะ”
“ฉันเปนห่วงมันอ่ะแก แกถามมันหน่อยดิ ฉันถามแล้วมันไม่ตอบอ่ะ” เฟย์คยั้นคยอ ให้แก้วไปถามป๊อปปี้เพื่อความสบายใจ
ของทุกคน
“เห้ย!! ทำไมต้องเปนฉันหล่ะ แกถามยังไม่ตอบ แล้วป๊อปจะตอบฉันมั้ยหล่ะ”
สาวน้อยเลี่ยง เพราะจริงๆแล้วเธอก้ ‘งอน’ เพื่อนซี้คนนี้อยู่เหมือนกัน
.”ตอบบบบ!!” ทุกคนพุดเปนเสียงเดียวกัน
“หรือแกไม่ห่วงมัน??” แจม เพื่อนร่วมห้องย้อนถาม
“ก้ห่วง...แต่มันก้เรื่องของเค้า ฉันไม่เกี่ยว”
“หน่านะแก้ว คิดว่าเพื่อความสบายใจของทุกคน” จินนี่พยายามโน้มน้าวให้สาวน้อยไปถามให้ตน
“แกรู้ได้งัย บางทีถ้าแกรู้ว่าป๊อปเปนอะไร แกอาจจะไม่สบายใจกว่าเดิมก้ได้นะ ” สาวน้อยอ้างเหตุผล เพราะรู้ดีว่า
เพื่อนในห้องคลั่งป๊อปปี้อย่างกับซุปเปอร์สตาร์ประจำห้อง
“ก้จริงของแก้วนะ” ทุกคนเริ่มคล้อยตาม
“แค่นี้นะ ฉันนอนหล่ะบายยยย”
สาวน้อยฟุบหน้าลงกับโต๊ะเรียนท่ามกลางความงุนงงของเพื่อน ความจริงเธอก้ไม่ได้ง่วงมากแต่หนีเพื่อนทุกคนต่างหาก
มาคยั้นคยอกับเธอเรื่องป๊อปปี้อยู่ได้ รู้บ้างมั้ยว่าเธอน้อยใจแค่ไหนที่ไม่รู้เรื่องอะไรของเค้าเลย ทั้งที่ปกติเรื่องของป๊อปปี้แทบ
จะเหมือนเรื่องของเธอด้วยซ้ำไป
@ siam
[ kaewjai part ]
วันนี้เป็นวันเสาร์ ฉันมาปรากฏตัวที่สยามตามเคย จะแตกต่างก้ตรงที่ ป๊อปปี้ ไม่ได้มาด้วย ช่วงนี้เป็นอะไรของเค้าก็ไม่รู้
ช่วงนี้เราไม่ค่อยเจอหน้ากันเลย ทั้งๆที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันแท้ๆ จากคนที่คอยขู่เข็ญฉันให้ไปโรงเรียนแต่เช้า กลับกลายเป็น
คนมาสายซะเอง แถมยังหยุดบ่อยอีก มาเรียนก้ไม่ค่อยเสวนาพาทีกับฉันและคนอื่นๆมากนัก ชอบฟุบหลับไปกับโต๊ะเรียนก้
เหมือนคนอดหลับอดนอน หน้าตาก้ดูเหนื่อยๆโทรมๆ ผิดปกติ ช่วงนี้ฉันแทบไม่ได้คุยกับเค้าเลยด้วยซ้ำ ฉันเริ่มจะชินแล้ว
หล่ะ แต่มันก้ยังเหมือนขาดอะไรบางอย่างไปอยู่ดี เพื่อนถามอะไรเกี่ยวกับเค้า ฉันก้ไม่รู้จะตอบว่าอะไร ก้คนมันไม่รู้
เหมือนกันนี่
“อ้าว ทำไมมาเร็วจัง”
พี่หมอจงเบ เอ่ยด้วยสีหน้าตกใจนิดๆ คิดไม่ถึงหล่ะสิ ว่าคนอย่างฉันจะตื่นเช้าได้ ( ใครว่าหล่ะ แทบจะไม่ได้นอน
เลยต่างหาก ต้องคอยตอบแชทไอเด็กเกรียนเกือบทั้งคืน )
“รถไม่ติดอ่ะ”
“หน่ะ ขับรถมาคนเดียวอีกล้ะ อันตรายจะตาย ใบขับขี่ก้ยังไม่มี ถ้าเปนอะไรไปพี่จะทำงัยห๊ะ??”
คุณหมอนี่ขี้บ่นทุกคนเลยหรืองัยนะ
“ค่ะๆ ขอโทษค่ะ” ฉันหัวเราะเบาๆ โชคดีจังที่มีพี่ชายน่ารักแบบนี้ ถึงแม้จะหวงเวอร์ แล้วก้ขี้บ่นไปหน่อยก้ตาม
“เอาเถอะ พี่โกรธเธอไม่เคยได้หรอก ไหนดูสิทำการบ้านมารึป่าว ”
2 ชั่วโมงต่อมา
โอยยยยยยยยยย
ฉันแทบจะอ้วกออกมาเปนแคลคลูลัส ให้ตายสูตรบ้าบออะไรเยอะขนาดนี้ สมองน้อยๆของฉันจะจำหมดได้ยังงัย??
“ไม่เอาแล้ว จะอ้วกกก”
“เรานี่นะ แล้วจะไปแข่งกับคนอื่นเค้าได้งัย??” คุณหมอเริ่มเทศน์อีกรอบ ข้าหล่ะกลุ้มมมม
“นี่พี่ลืมไปแล้วหรอว่าฉันได้ทุนไปเรียนเมืองนอกหน่ะ” ฉันเตือนความจำให้พี่ชาย
“อ้าว ไหนบอกว่าไม่เอางัย” พี่จงเบทำหน้างงๆ
“อะไรของพี่เนี่ย ก้พี่เปนคนพาฉันไปยื่นใบตอบรับทุนนะ นอกจากขี้บ่นแล้วยังขี้ลืมอีก ตอนผ่าตัดเอากรรไกรออกจากท้อง
คนไข้บ้างรึเปล่าเนี่ย” ให้ตาย ฉันหล่ะสงสารคนไข้ของพี่หมอจริงๆ นอกจากจะบ่นน่ารำคาญแล้วยังขี้ลืมอีก ถ้าเปนหมอ
ปกติคงโดนไล่ออกไปนานแล้ว แต่นี่ดันเปนลูกเจ้าของโรงพยาบาล และที่สำคัญ ‘หล่อทะลุแว่น’ ค่ะทั้งคนไข้ทั้งพยาบาล
หลงกันทั้งโรงพยาบาล
“นั่นสินะ คงไม่ได้เจอกันอีกนานเลยสิ”
“ไม่หรอกหน่า สี่ห้าปีแก้วก้เรียนจบแล้ว”
คิดแล้วก้ใจหายอยู่เหมือนกันที่ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนไปเรียนต่อที่ๆไม่คุ้นเคย ประเด็นคือฉันยังไม่ได้บอกเพื่อนคนไหน
เลยหน่ะสิ แต่ชั่งเถอะ อีกตั้งหลายเดือน มีเวลาทำใจอีกนาน
“พี่แก้วววววววววววววววว” เสียงคนเรียกชื่อฉันดังมาแต่ไกล ใครฟระ ช่างไม่อายผู้คน เปนญาติกับทราซานหรืองัย ถึงได้
ตะโกนโหวกเวกโวยวายแบบนี้ นี่มันสยามนะโว้ย ไม่ใช่ป่าร้อยเอเคอร์ของแก
“อ้าว เขื่อน” ฉันที่กำลังเตรียมด่าเต็มที่ ก้เปลี่ยนเป็นยิ้มให้เจ้าของเสียงและคนข้างๆแทน ที่ด่าไว้เมื่อกี้ก้ลืมๆมันไปเถอะ
“คิดถึงจัง ไม่เจอตั้งนาน” เขื่อนทำท่าจะกอดฉันแต่โดนพี่เบและโทโมะดึงเอาไว้ก่อน
“อย่าตลก”
“ขอโทดคร้าบบบบบ” เขื่อนทำหน้าบ้องแบ๊วขอโทษ น่ารักตายอ่ะ
“พวกแกมาทำไมเนี่ย”
“ไม่ได้มาหาคุณหมอครับ มาหาพี่แก้ว”
หือออ มาหาฉันหรอ?? มาเพื่อ????
“เออ งั้นฉันไปหล่ะ หมดเวลาพอดี เจอกันเสาร์หน้าไอลิงทั้งสาม”
พี่จงเบบอกลาแล้วเดินออกไป ดะ..เดี๊ยวนะ ‘ไอลิงทั้งสาม’ หรอ?? ฉันไปเกี่ยวอะไรกับเด็กสองคนนี้เนี่ยยยยย
“เขื่อนมาหาพี่ มีอะไรรึเปล่า”
“เขื่อนไม่มีหรอก แต่ไอนี่อ่ะมี” เขื่อนชี้ไปทางโทโมะ โทโมะยิ้มหวานให้ฉัน
โอ๊ยยยยยยย มีใครเคยบอกเค้ารึเปล่าว่ารอยยิ้มนี้ทำหัวใจสาวๆละลายได้ค่อนประเทศเลยนะ
“อย่ายิ้มแบบนี้สิ พี่ไม่ใช่แฟนคลับเรานะ”
“ฮะๆ กลัวหลงรอยยิ้มผมหรอครับ” ฮึ่ยยยยย ไอเด็กคนนี้นี่ ถ้าฉันหลงขึ้นมาใครจะรับผิดชอบบบบบ
“เปล่าซะหน่อย ว่าแต่มีอะไรหรอ??”
“คือออออ”
“……..”
“เอ่อ...คือว่า...”
“……”
“โว้ยยยย พูดซะทีสิ!!” ไอเขื่อนแกแย่งฉันพูดทำไมTT
อ้ำอึ้งอยู่ได้แล้วฉันจะรู้มั้ยว่า น้องต้องการจะสื่ออัลไล เห้อออ สวยเพลีย
แล้วเด็กสองคนก้หันไปกระซิบกระซาบอะไรกันก้ไม้รู้ ฉันไม่ได้ยิน
“เห้ย สั่งชานมไว้นี่หว่า ไปเอาก่อนนะ”
เขื่อนชิ่งหนีไป อะ..อ้าว นี่เล่นอะไรกันอยู่ห๊ะ????
“เอ้า ไรเนี่ย” ฉันบ่นอุบอิบอย่างอดไม่ได้
“ช่างมันเถอะ ฟังผมพูดก่อน”
“ก้ฟังอยู่แต่เราไม่พูดซะทีนี่”
“พูดแล้วๆ”
โทโมะกำมือแน่น หน้าขาวอมชมพูแบบเด็กสุขภาพดีแดงระเรื่อขึ้นเรื่อยๆ
“…….”
“คือออออ.....”
“……”
โอ้ยยยย อ้ำอึ้งอยู่ได้ทำเหมือนจะมาสารภาพรักงั้นหล่ะ
ห๊ะ!!!!
สารภาพรักหรอ??? ไม่ม้างงงงง จริญญาแกอย่ามโนสิ อาจจะไม่ใช่ก้ได้
“คือออ... คือผม...”
“…..”
“คือ...”
“พรุ่งนี้ค่อยมาพูดมั้ย??”
ฉันถามด้วยความเซ็ง ไม่พูดซะที จะไม่อยากรู้แล้วนะ
“”ไม่ๆ พูดเดี๊ยวนี้แหละ”
ท่าทางตอนนี้เค้าดูน่ารักชะมัด เหมือนเด็กน้อยกำลังเขิน ท่าทางเหมือนคนจะมาสารภาพรักไม่ผิด
เห้!! เธอคิดแบบนี้อีกแล้วนะจริญ ไม่สิ อย่ามโน ไม่ใช่หรอกหน่า
“คือ...”
“...........”
“คือ..ผม จะ จีบ พี่ อย่าง จริง จัง แล้ว นะ”
หนุ่มน้อยพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ เห้อออ กว่าจะพูดได้ เห็นมั้ยจริญเค้าไม่ได้มาสารภาพรักซะหน่อยแค่บอกว่า
‘ผม จะ จีบ พี่ อย่าง จริง จัง แล้ว นะ’
‘ผม จะ จีบ พี่ อย่าง จริง จัง แล้ว นะ’
‘ผม จะ จีบ พี่ อย่าง จริง จัง แล้ว นะ’
‘ผม จะ จีบ พี่ อย่าง จริง จัง แล้ว นะ’
“ห๊ะ!!!” oh shit นี่มันไม่ต่างจากสารภาพรักเลยนะ
“ผมจะจีบพี่ รู้เรื่องยัง??”
อืมมมมมมมมมมมม ชัดเจนค่ะ
“ระ..รู้แล้ว” โอ๊ยให้ตาย ฉันไม่รู้จะทำหน้ายังงัยเลย ไม่เคยรู้สึกประหม่าขนาดนี้ ทั้งๆที่มีคนมาจีบฉันเยอะจนฉันชินแล้ว
ถึงคนจะจีบเยอะแต่ก้ไม่ติดสักราย จะไปติดได้งัย ทั้งเพื่อนทั้งพี่ชายหวงยังกับไข่ในหิน
“ไม่พูดไรหน่อยหรอ?”
เด็กผู้ชายตรงหน้าเอ่ยถามฉัน
“เอ่อ.... อยากให้พูดว่าอะไรหล่ะ”
“ก้...อย่างเช่น โอเค ให้จีบ อะไรประมาณนี้”
“มีชอยส์ให้มั้ยอ่ะ??”
“หึ”
โทโมะส่ายหน้าแทนคำตอบ
หือออ เกิดมาพึ่งเคยเจอผู้ชายแบบนี้ จะจีบก้บอกแถมยังมีหน้ามาสั่งให้ตอบตกลงอย่างเดียวอีก
“แล้วพี่จะตอบเพื่ออะไรในเมื่อพี่ไม่มีทางปฏิเสธเลยเนี่ยห๊ะ??”
“ก้ไม่รู้นี่ ไม่เคยบอกใครแบบนี้”
ท่าทางไร้เดียงสาแบบนี้ น่าลากกลับไปดูเล่นที่บ้านชะมัดเลย
“โอเคๆ พี่ห้ามอะไรเธอไม่ได้แล้วนี่”
“พูดแล้วห้ามคืนคำนะครับ”
โทโมะส่งยิ้มหวานมาให้ โอ้ยยยยยย ฉันเกลียดรอยยิ้มนี่ มันทำให้ฉันใจอ่อนยวบทุกครั้งเลยยยยยTT
ไอเด็กไร้เดียงสาที่กำลังสารภาพรักครั้งแรกในชีวิตมันหายไปไหนฟระ เหลือแต่ปีศาจเกรียนคนนี้ ฮอลลลลลลลล
.
.
.
@ สโมสรนักกีฬาแบตมินตันทีมชาติ
ชายหนุ่มซ้อมแบตอย่างเอาเป็นเอาตายติดกันมาร่วมห้าชั่วโมง โดยแทบไม่ได้หยุดพักเลย
“ป๊อป พอก่อน ไปพักเถอะ” โค้ชเดินเข้ามาดึงไม้แบตที่กำลังเหวี่ยงไม้เตรียมรับลูกขนไก่ ติดกันมาหลายชั่วโมง
เพราะอยากให้ชายหนุ่มได้พักบ้าง
“อีกแป๊ปนะโค้ช”
“ป๊อป แป๊ปมาหลายทีแล้วนะ ครั้งนี้โค้ชไม่ยอมแล้ว” โค้ชดุสีหน้าจริงจังกว่าเดิม
“นักกีฬาที่ดีต้องรู้ลิมิตตัวเองสิ ดูสิ แล้วแบบนี้พรุ่งนี้เช้าจะไปเรียนไหวมั้ยห๊ะ??” โค้ชได้ทีสั่งสอน เพราะมีคนมาบอกหลาย
คนแล้วว่านักกีฬาคนโปรดของเค้าโหมซ้อมหนักมาหลายวันแล้ว
“ครับๆ”
ป๊อปปี้ยอมเดินไปพักตามคำสั่งของโค้ช
ป๊อปปี้กระดกขวดน้ำด้วยความหิวกระหาย สายตาคมพลันเหลือบไปเห็นไม้แบคคู่ใจของน้องชาย
‘ยอมพักไม่ได้แปลว่าฉันยอมแพ้แกนะไอน้องชาย’
ป๊อปปี้เอ่ยขึ้นเบาๆ สายตาที่มุ่งมั่นมากเค้าไม่มีทางยอมแพ้เด็กเกรียนนั่นหรอกหน่า ยิ่งได้รู้ว่าโทโมะซ้อมน้อยกว่าเค้าก็
ยิ่งได้ใจ แต่ที่เค้าไม่รู้คือ ระหว่างที่เค้าตั้งใจซ้อมจนแทบไม่มีเวลาคุยกับเธอเพื่อให้กลับมาโด่งดังอีกครั้งนึง แล้วเธอจะสนใจ
คนข้างๆอย่างเค้าบ้าง คู่แข่งคนสำคัญของเค้าตามจีบนำหน้าเค้าไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
‘สู้ๆนะป๊อปปี้’
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แฮร่~ เค้ากลับมาแล้ว เปนงัยบ้าง เม้น โหวต ติชมกันได้เต็มที่เลยนะคะ ขอโทษที่ไม่ได้อัพบ่อยๆ
แวะเข้ามาพูดคุยกันได้ที่twitter @yy_yokkiez นะค้า
ปล. มีคนเชียร์ป๊อปปี้เยอะจุงงง เปลี่ยนพระเอกดีมั้ยน้า555555
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ