รักว้าวุ่นใน kamikaze

10.0

เขียนโดย loly

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 20.50 น.

  1 ตอน
  2 วิจารณ์
  5,763 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 มกราคม พ.ศ. 2557 13.53 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ณ ค่าย kamikaze
"นี่ขนมจีน แกได้ยินป่ะว่าวันนี้จะมีเด็กใหม่ตั้งสองคนนะ" เสียงของหญิงสาวผมทองคนหนึ่งดังขึ้น
"อืมก็ได้ยินมาเหมือนกัน แต่ยัยหวาย ฉันว่านะเย็นนี้เราไปกินไอติมกันป่ะ" เสียงใสแนวชักชวนของขนมจีนเพื่อนสนิทของหวาย ทำให้หวายสนใจขึ้นมาทันที่
"อืม.. ก็ดีเหมือนกันน่ะ ช่วงนี้ฉันก็อยากกินไอติมเหมือนอ่ะ" หวายพูดและก็ทำหน้าเหมือนคิดถึงตอนที่เคยกินกับขนมจีน
"งั้นตกลงตามนี้นะ เจอกันที่ซันเดย์นะจ้ะเพื่อนรัก เดี๋ยวฉันจะพาน้องไปด้วยนะจ้ะ" น้องของขนมจีนก็คิอ ธามไท ซึ่งธามไทเป็นคู่กัดกับหวายก็เลยทำให้หวายรู้สึกเกลียดขี้หน้าธามไทเอาแบบมากๆเลยทีเดียว
"เฮ้ย! ขนมจีนแกจะให้ฉันทะเลาะกับไอ้บ้านั่นเนี่ยนะ ฉันไม่ไหวหรอกแก ฉันนะ..." หวายไม่ทันพูดจบขนมจีนก็พูดต่อว่า
"เบื่อขี้หน้าจะตายอยู่แล้ว แกพูดแบบนี้ตั้งกี่พันครั้งแล้วนะ! หวาย แค่ไปกินไอติมเองน่ะ ทำอย่างตอนที่ เธอสอนธามเต้นไม่ได้เหรอ" ขนมจีนพูดด้วยความเบื่อในเพื่อนสาวของตนที่กัดกับน้องชายอย่างเอาเป็นเอาตาย ในใจเธอคิดแต่ว่าขอให้การเที่ยวครั้งนี้สองคนนี้อย่ากัดกันเลยเถอะ
"อืมๆ ก็ได้ นี้ฉันเห็นว่าเป็นแกนะเนี่ยขนมจีน" หวายพูดตกลงแบบยอมๆ ไปดีกว่า เพราะเธอไม่อยากโดนขอร้องแบบตามตื้อไม่เลิก
"อย่างนี้สิจ้ะเพื่อนรัก งั้นฉันไปช้อปปิ้งก่อนนะ" ขนมจีนพูดอย่างพอใจ
ระหว่างนั้นเองช่วงที่ขนมจีนจะไปช้อปปิ้งนั้นเองก็ได้มีพี่ทีมงานมาหาขนมจีนและหวายอย่างลุกลี้ลุกลน
"นี้ขนมจีน หวาย วันนี้พวกหนูว่างป่ะ พี่จะฝากเด็กใหม่หน่อยน่ะ" พี่สตาฟพูด
"ก็ว่างน่ะค่ะ งั้นหนูรอตรงไหนได้บ้างเหรอค่ะ" หวายถามอย่างสนใจ
"ตรงนี้แหละจ้ะ งั้นเดี๋ยวถ้าหากน้องเค้ามาแล้วก็ดูแล พาไปเที่ยวในค่ายหน่อยละกันนะ"พี่สตาฟพูดก่อนจะเดินไปที่อื่นเพราะงานด่วนที่ต้องเร่งทำให้เสร็จก่อนวันพรุ่งนี้
20 นาทีผ่านไป
"เฮ้อ! น้องใหม่ยังไม่มาเลย 20 นาทีแล้วนะ" ขนมจีนพูดออกมาด้วยความเบื่อหน่ายที่เด็กใหม่ยังไม่มาซักที่ ผิดกับเพื่อนสาวของเธอที่นั่งเล่น IG facebook twitter
"นี่แกฉันว่าน่ะ แกนั่งลงหยิบมือถือขึ้นมาแล้วเล่นซะ เบื่อที่จะนั่งฟังแกบ่นเป็นยายแก่นะ เกิดจงเบรู้เข้าก็ไม่ชอบแกหรอก" หวายพูดและทำหน้าเซ็งที่นั่งฟังเพื่อนบ่น แต่ก็ยังเล่นมือถืออยู่เลย
"บ้า! ฉันไม่ได้ชอบเขาซะหน่อย" ขนมจีนพูดด้วยความเขินอาย
"ขอให้เป็นงั้นทีเถอะ" หวายพูดติดตลก
ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ.. 
"เฮ้อๆ ขอโทษนะค่ะ ที่มาช้าพอดีว่าจักรยานเสียน่ะค่ะ" อยู่ๆ ก็มีสาวน้อยคนหนึ่งวิ่งมาหาและรายงานตัวเองอย่างละเอียด ชื่อของเธอก็คือ แต้งกิ้วที่เป็นศิลปินฝึกหัดมา 2ปี เต็มแล้ว
"อืมจร้ะ พี่ชื่อ ขนมจีนนะ นี่ก็เพื่อนพี่ชื่อว่าหวายจร้ะ" ขนมจีนพูดและยิ้มอย่างเป็นมิตร
"ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ ว่าแต่พวกพี่รออะไรอยู่เหรอค่ะ" แต้งกิ้วถามด้วยควสามสงสัย
"อ้อยังมีอีกคนน่ะจร้ะ นั่นไงมาแล้ว" ขนมจีนพูด พร้อมชี้ไปที่บุคคลแปลกหน้า
"แฮ่ๆ สวัสดีคับพี่ ขอโทษทีนะครับ ที่ผมมาช้า" เด็กหนุ่มพูด และค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาและพอได้เห็นหน้าแต้งกิ้วก็..
"นายมิณทร์/ตัวแสบ" ทั้งสองพูดพร้อมกัน และชี้นิ้วใส่กันทำให้สองสาวที่ยืนดูอยู่งงเลยที่เดียว 
"เอ่อ.. น้องเคยรู้จักกันด้วยเหรอ" หวายถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะ เธอเดาอารมณ์ของทั้งสองคนไม่ออก เนื่องด้วยรู้จักกันครั้งแรก
"ครับยิ่งกว่ารู้จักอีก" คนที่ชื่อ มิณทร์ กัดฟันพูด
"พี่ว่านะ น้องเพลาๆ ก่อนดีกว่าไหม จะได้เดินดูรอบๆ ค่ายได้" ขนมจีนพยายามห้ามก่อนที่ทั้งสองจะทะเลาะกัน
"ผมไม่ไปแน่ถ้าหากยัยนี้ไปกับผมน่ะ" มิณทร์พูดแบบไม่สบอารมณ์
"อืม... คิดออกแหละ" ขนมจีนพูดด้วยสีหน้าสบายใจ หลังคิดอยู่นาน
"เอางี้หวาย แกพาน้องมิณทร์ไปส่วนฉันจะพาน้องแต้งกิ้วไป เครป่ะ" ขนมจีนพูดพร้อมกับแบ่งหน้าที่ให้กัน อย่างรวดเร็ว
"อืม ได้งั้นแกพาน้องแต้งกิ้วไปอีกทางแล้วกันนะ จะได้ไม่ต้องมีเหตุที่ทำค่ายพังนะ" หวายพูดด้วยสีหน้ากลัวๆ แต่เธอไม่รู้เลยว่า มีคนแอบดูเธออยู่จากทางหลังเสาซึ่งกำลังคลี่ยิ้มบ้างๆ
เวลาผ่านไป 15 นาที
หลังจากที่หวายได้อธิบายให้มิณทร์ฟังไปเกือบครึ่งค่าย ก็ใกล้เที่ยงแล้วหวายก็เลยชวนมิณทร์ไปทานข้าวกับขนมจีน
"นี่น้องมิณทร์ค่ะ ไปทานข้าวกับพวกพี่ไหมค่ะ จะได้คุยกันเรื่องค่ายกันอีกเอาป่ะ" หวายถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก็แน่ล่ะ เพราะเช้ามาเธอก็ไม่ต้องโดนธามไทปลุกเหมือนทุกเช้า
"อืม ก็ดีนะครับผมจะได้รู้จักเพื่อนพี่อีกทีด้วยครับ" มิณทร์พูดด้วยน้ำเสียงดีใจ
อยู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะที่หวายรู้สึกคุ้นเคยดี
"สะ..สะ..เสียง บะ..บะ..แบบนี้อย่าบอกนะว่า" หวายพูดด้วยความกลัวสุดฤทธิ์
"ไฮ นิกี้ มินาจ" เสียงของผู้ชายปริศนาที่ดังขึ้นและค่อยๆ ปรากฎกายออกมา
"ธามไท!" หวายพูดด้วยความตกใจ
"ตกใจขนาดนั้นเลยหรอ นิกี้มินาจ" ธามไทพูดแบบยั่วอารมณ์หวาย
"อ๊าย! หยุดเรียกฉันว่านิกี้มินาจเดี๋ยวนี้นะ เด็กบ้า" หวายพูดใส่ธามไทด้วยหน้าตาหน้ากลัวแต่ก็ไม่ทำให้ธามไทกลัวเลยแม้แต่น้อย
"ใจเย็นๆ สิป้าทำหน้าแบบนี้บ่อยๆ ระวังบาร์โค้ดขึ้นที่หางตานะ ^()^" ธามไทก็พูดต่อกลับแบบเจ็บสุดๆ
"อ๊าย.. ถ้าไม่ติดว่านายเป็นน้องของหนมจีนนะ ตายไปแล้ว" หวายพูดด้วยอารมณ์ที่เดือดจัด
"นี่! แค่ผมคลานตามพี่ออกมาแค่ไม่กี่นาที่ ก็ได้แปลว่าต้องเป็นน้องซะหน่อย" ธามไทก็พูดยอกย้อนกลับมาแบบหน้าตาย เพราะว่า ธามไทกับขนมจีน เป็นพี่น้องฝาแฝดกัน ชอบรั่วเหมือนกัน แต่ต่างที่ขนมจีนเรียบร้อย แต่ธามไทนั้น กวนและขี้เล่น 
"งั้นผมไปอยู่ห่างๆ นะคับจะได้ไม่กวน" มิณทร์พูด
กริ้งๆๆ
จู่ๆ เสียงโทรศัพท์หวายก็ดังขึ้น
"ขนมจีน" สาวผมทองเสียงหวานพูดอย่างดีใจก่อนที่จะทำหน้าตาน่ารักทำให้ธามไทจ้องหน้าของหวายไม่กะพริบเลยทีเดี๋ยว
"ฮัลโหล" พอหวายรับสายก็มองธามไทก่อนที่จะเอามือข้างที่ว่างมาทำท่างกรีดคอก่อนจะพูดแบบไม่มีเสียงว่า'ตายแน่ไอ้บ้า'
แต่ธามไทก็ทำหน้ายิ้มแย้มไม่รู้ร้อนหนาว ก่อนจะพูดลอยๆ ออกมาว่า
"ขอให้มันจริงนะจ้ะ คนสวย" อย่างอารมณ์ดี ก็ทำให้หวายอารมณ์
(หวายแกทะเลาะกับน้องฉันอีกแล้วเหรอ เสียงธามดังมาถึงนี้เลยนะ) ขนมจีนพูดอย่างเบื่อหน่าย
"แล้วแกคิดฉันทะเลาะกับใครล่ะ ถ้าไม่ใช่น้องชายสุดที่เลิฟตัวแสบของแกน่ะ" หวายเริ่มใส่อารมณ์และน้ำเสียงเจ็บใจปนโมโห
(ฉันว่าน่าจะขอโทษน้องฉันจะดีกว่านะจร้ะ เพื่อนรักจร้า) ขนมจีนพูดด้วยเสียงนุ่มนวล 
"ทำไม ฉันต้องขอโทษด้วยค่ะ คุณเพื่อนขา" หวายพูดเหวี่ยงใส่ที่ขนมจีนพูดให้ขอโทษ
"ก็เพราะว่า รถเธอเสียไงล่ะอีกอย่างรถก็เละไม่เหลือซากล่ะ" ธามไทพูดแบบไม่เกรงใจหวาย
"ฮะ! ไม่จริงอ่ะ" หวายพูดด้วยสีหน้าตกใจ ก่อนจะวิ่งไปดูรถที่หวายจอดไว้
พอไปถึงที่จอดรถโดยที่ธามไท กับมิณทร์วิ่งตามไปก็เป็นอย่างที่ธามไทพูดไว้จริงๆ 
"ไม่นะ ทำไมเนี่ยแล้วฉันจะไปกินข้าวกับหนมจีนไงเนี่ย กลับบ้านก็ไม่ได้ ฮือๆๆ" หวายพูดไปร้องไห้ไปจนคนที่ดูอยู่อยากร้องไห้ตาม
"นี่ เธอไปกับฉันก็ได้ขนมจีนบอกที่อยู่แล้วเดี๋ยวพาไปก็ได้" ธามไทพูดด้วยความเป็นห่วง
"ไม่ต้องเดี๋ยวฉันกลับแท็กซี่ได้" หวายพูดอย่างไร้เยื่อใย
"ไม่ต้อง! เดี๋ยวฉันไปส่งเองยังไงก็ต้องไปเหมือน" ธามไทยังตามตื้อหวายไม่เลิกจนหวายทนไม่ไหว
"นี้! นายอย่ายุ่งกับฉันได้ป่ะ ฉันแค่เสียใจแต่ไม่แคร์ ก็เท่านั้นเอง" หวายพูดแต่น้ำตาของหวายก็พรั่งพรูประดุจสายน้ำที่ไหลเฉี่ยว
"เวลายังงี้ยังมีหน้ามาร้องเพลง โปรโมตเพลงตัวเองอีก" ธามไทพูดอย่างร้อนใจ
"ไม่มีวัน ฉันจะไม่ขึ้นรถกับนายเด็ดขาด" พอหวายพูดจบอยู่ดีๆ ธามไทก็อุ้มหวายขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนหวายต้องรีบโอบรอบคอธามไท ทำให้ทั้งสองจ้องตากันสักพัก ก่อนที่หวายจะพูดว่า
"
 
 
 
                                                                                     
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา