น้องเกรียนตัวร้าย x พี่ชายตัวแสบ
8.8
เขียนโดย Metoric_soul
วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13.32 น.
10 chapter
0 วิจารณ์
16.14K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 เมษายน พ.ศ. 2557 18.17 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
7) ไอ้เด็กเกรียนตัวเหลืองมีเขี้ยว!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความผมพามันออกมาจัดการซื้อของใช้ที่จำเป็นเพราะมันเล่นโดดจากฟ้ามาแต่ตัว ถ้ามันคาบทองลงมาด้วยนิผมจะไม่บ่นมันสักคำเลยนะ
“ซื้อเท่าที่จำเป็นนะ”
“ยังไม่รู้จะซื้ออะไรเลย -0-” มันบ่นอุบ ที่รู้จากมันอีกอย่างคือมันเป็นพวกไม่ชอบใช่ตังค์เวลาให้เลือกของก็จะประมาณอะไรก็ได้ พอถามจะเอาอะไรมั้ยบอกไม่เอาลูกเดียว ไม่ใช่เรื่องมากหรอกผมรู้แต่มัน คือ...นะ บอกไม่ถูก _ _*
“อย่างแรกก็เสื้อผ้านั้นแหละ” ผมพามาในจุดขายเสื้อผ้า ตอนแรกจะพาไปแถวย่านที่ขายเสื้อผ้าเด็กแล้วเพราะตัวแม่งเล็ก แต่ที่เมืองจีโนมนี้ค่อนข้างเจริญก้าวหน้าไปมากทำให้ย่านการค้าธรรมดาก็สามารถเทียบเท่าห้างขนาดใหญ่ของที่อื่นได้แล้ว
“เออใกล้เข้าหน้าหนาวแล้วหาดูเสื้อกันหนาวไว้บ้างก็ได้”
“ไอ้ที่ติดมาด้วยก็อุ่นอยู่แล้ว” นั้นไง ผมยังพูดไม่ทันขาดคำ ถามจริงนี้งกตังค์ผมหรือมันไม่อยากได้จริงๆกันแน่ _ _**
“เอาเหอะถือซะว่าอยากซื้อให้”
“นี้”
“....!” ผมเกือบยกมือปิดปากตัวเองทัน ก็มันเล่นชี้ไปที่เสื้อแจ๊คเก็ตพิก้าจูสีเหลืองอ๋อยนั้น ถ้าเป็นเด็กๆคงใส่แล้วน่ารักละนะแต่มัน...
เออ...ตัวมันก็ไม่ต่างจากเด็กนิหว่า -_-
“ถ้ากล้าลองใส่จะยอมซื้อให้”
“ถามจริง *0*” มันอยากได้จริงเด้ ?! O[]Oเฮ้อ...ผมไม่คิดว่าหน้าอย่างจะใส่ไอ้ชุดแบบนี้เข้าหรอกนะ ตลกแล้วไอ้เด็กเกรียนเอ้ย!
“ตัวนี้เหลือแค่ไซด์เอ็มแล้วนะค่ะ” พี่พนักงานสาวเดินเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ผมพยักหน้ารับเบาๆแล้วให้ไอ้เตี้ยนี้ลองดู พอมันใส่เสร็จปรากฏว่าตัวใหญ่กว่ามันค่อนข้างเยอะอยู่แต่พอคู่กับดวงตากลมโตแล้ว...
“เป็นไงอ่ะ...” ให้ตอบมั้ยว่าน่ารักโครต !! -//////-
ผมเหล่ตามองพี่พนักงานที่มองไอ้นี้ตาเยิ้ม บวกกับคนที่เดินผ่านไปผ่านมาถ้าเป็นสาวก็มองกันตาละห้อยเลยทีเดียว
“ท้าเองนะว่าถ้ากล้าจะ...”
“ซื้อให้แน่นอน” ผมเปลี่ยนกลับมาเหยียบยิ้มแทน เมื่อจัดการซื้อไอ้เสื้อเสร็จก็ออกมาซื้อของใช้เท่าที่จำเป็นได้มาโครตตตตตตตตน้อยเลย -_-;; สรุปแล้ววันนี้ไม่ได้อะไรมาแต่ดูท่าว่ามันจะปลื้มไอ้พิก้าจูนี้เป็นพิเศษนะ ใส่ไม่ถอดเลย
“(‘v’ ) ( ‘v’)” แถมยังเอาแขนเสื้อที่ยาวกวาแขนมันมาเล่นด้วย เมื่อไหร่มันจะเลิก....เฮ้อ ปลง!
พอกลับมาถึงที่ห้องผมก็จัดแจงของเข้าที่ ส่วนไอ้ตัวเหลือมีเขี้ยวนั้นเหรอ นอนกลิ้งเล่นอยู่กลางห้องนั้นไง =_=;; ใครก็ได้มาสาบานกับผมทีว่ามันอายุสิบเก้ายี่สิบ ไม่เห็นแววเลย!
“นี้...ไอ้ตัวนี้เขาเรียกว่าพิก้าจูใช้มั้ย”
“อา...” ผมตอบส่งเพราะตอนนี้กำลังง่วนอยู่กับการเก็บกวาดห้องครัว
“มันคือกระต่ายป่ะ”
“มันคือโปเกม่อน ทำไมถึงคิดว่ามันคือกระต่ายละ” ผมถามไอ้ตัวแสบที่นอนกลิ้งไปกลิ้งกับพื้น เดี๋ยวถ้าไอ้พิก้าจูดำเมื่อไหร่อย่ามาร้องให้ซักให้ละกัน =^=
“หู”
“ฮะ?” ผมเดินเข้ามาหามันพร้อมนมสด
“มันมีหู” มันว่าพลางจับหูแหลมๆชูขึ้นข้างนึง ส่วนมืออีกข้างนึงรับแก้วนมจากผมไปกระดก(เหมือนจิบอ่ะ)
“กี่ขวบแล้วครับคุณลูกดื่มนมเลอะปากเนี่ย =_=;;” ผมเอื้อมไปเช็ดปากที่มีคราบนมติดอยู่แล้วแวะเคาะหน้าผากนั้นเบาๆ
“เท่าที่จำได้ก็สามขวบฮะ...เหอๆไม่ใช่แล้ว ผมไม่ใช่เด็กซะหน่อย!” รับมุกกันด้วย โอยน่ารักที่สุด(เสียงสูง) =[]=*
“หรา”
“ง่า” ไอ้เกรียนทำเสียงง่าใส่ผมแล้วหันไปสนใจนมในแก้มต่อ แก้วใหญ่ไปเปล่าวะถึงต้องใช้สองมือ เออทำตัวเหมือนเด็กแล้วเวลาเขาว่าๆเด็กทำเป็นเถียง ไอ้นี้จะเกรียนใส่ผมไปถึงเมื่อไหร่กัน ถ้าตัดนิสัยกวนตีนออกได้มันจะกลายเป็นเด็กที่น่ารักที่สุดในสามสี่ห้าโลกชิบอกให้!
“นี้แล้วอยู่ในบ้านไม่ใส่ก็ได้ฮูทอ่ะ” ผมกระชากหน้าพิก้าจูลงอย่างหมั่นไส้ ผมสีดำเงายุ่งเยิ้งเพราะใส่ไอ้ฮูทนี้นานเหมือนเด็กอนุบาลเข้าไปใหญ่ พอเถอะ...ถ้าจะน่ารักขนาดนี้เกิดเป็นหญิงเถอะลูกพ่อจะได้รักแบบหมดห่วง T^T
“นมจืด...”
“หวานมั้งครับ”
“ผมไม่ได้พูดกับพี่” เฮือก...! ไอ้เด็กนี้มันอยากตายก่อนวัยอันควรจริงๆใช้มั้ยเนี่ย รู้งี้ผมปล่อยมันหลงที่ย่านการค้าเอาให้ร้องไห้เลยซะก็ดี
“ถ้าหวานก็ระวังมดขึ้นแก้มละกัน” ผมเช็ดนมที่เลอะขึ้นที่ถึงแก้มเนียน พักนี้สมองผมแถบไม่ต้องวิเคราะห์อะไรให้ปวดหัวเลย ตั้งแต่มันมาอยู่ที่นี้จากห้องที่เคยเงียบเหงาตอนนี้มันกลายเป็นที่ๆน่ากลับที่สุด ช่วงนี้ผมไม่ได้ออกไปเที่ยวกลางคืนที่ไหนเลยนินา... คืนนี้ถ้าจะรอมันหลับแล้วแอบออกไปหน่อย... ไม่สิ คุณนายจะส่งคนมาเมื่อไหร่ผมก็ไม่รู้
“นี้ถ้าแกสิบเก้าจะยี่สิบจริง คืนนี้ไปเที่ยวกับหน่อยมั้ย”
“ความรู้สึกมันบอกว่าชอบที่เงียบๆอ่ะ” รู้ทันด้วยเว้ยว่าผมจะพาไปไหน มันคงไม่ยอมไปง่ายๆแน่ๆ งั้น...
“ชอบเล่นคีย์บอร์ดใช้มั้ย”
“อ่า...มันเปลี่ยนคีย์เสียงได้ดีกว่าเปียโน”
“งั้นสนไปโชว์สักหน่อยมั้ยละ” หวังว่าคำท้าคงได้ผลนะ แล้วก็เป็นไปตามคาดมันยอมตกลงง่ายๆ เพราะผมเริ่มจับได้แล้วไงว่ามันชอบเพลง
“นี้ ถึงผมจะชอบฟังเพลงหรือเล่นคีย์บอร์ดแต่ถ้าจะให้เล่นจริงๆผมก็เล่นอยู่เพลงเดิมๆนะไม่เบื่อบ้างรึไง” ราชันย์หันมาขมวดคิ้วถามซึ่งผมก็เลิกคิ้วกลับแล้วฉีกยิ้มให้
“ก็มันเพราะนิ”
“ไม่หรอกขึ้นอยู่กับเสียงคีย์บอร์ดด้วยถ้าเป็นที่อื่น...”
“ฉันหมายถึงเสียงแก”
“O////O”
“ถ้ารักคือภาพวาดที่สวยงานจริง...อยากให้ร้องให้ฟังทุกคืนเลย” ผมพูดพร้อมรอยยิ้มพลางยื่นเข้าไปใกล้ นัยน์ตาสีแดงสดคู่นั้นเบือกกว้างเหมือนมีอะไรดึงดูดให้ผมเข้าไปหาริมฝีฝีปากบางเฉียบสีอ่อนเผยอออกเล็กน้อยให้ผมได้มีอากาศได้เข้าลิ้มลองรสหวานนี้...คราวที่แล้วผมแค่แกล้งมันไม่ได้คิดอะไรแต่ครั้งนี้ มีบางอย่างลึกซึ้งกว่านั้น ลื้นอ่อนนุ่มเป็นไปตามเกมของผมอย่างไม่มีตกหล่น...โหยหามานานเหลือเกิน ความรู้สึกนี้ ต่อให้คืนไหนได้สาวดีขนาดไหนก็ไม่เท่าริมฝีปากนี้...ทั้งเปราะบางน่าทะนุถนอมทั้งน่าบดขยี้
“อึก!OxO”
“อั่ก! ถีบพี่ทำไมเนี่ย!”
“พะ....พี่ทำอะไรเนี่ย” ไอ้เด็กนี้ ผมไม่เคยเข้าถึงอารมณ์มันซะทีเว้ย! แม่งทำงี้ผมไม่แปลกใจเลยไอ้เด็กอ่อนต่อโลกเอ้ย ! อ๊อยยยย จุก TT^TT
“น้องพี่เป็นไรป่ะเนี่ย”
“พาไปโรงพยาบาลด่วน T^T”
“ขนาดนั้นเลย...”
“เจ็บใจ T^T”
“ฮะ? O.o”
“คนน่ารักทำไมชอบใจร้ายกันจัง ฮึ่ย T^T”
“O////O” ผมแอบลืมตาข้างนึงแล้วยิ้มล้อไอ้หน้าแดงๆนั้น ฮ่าๆๆกว่ามันจะรู้ตัวก็โดนผมชิงหอมแก้มไปอีกฟอดแล้ว
“หึ”
“เอ้ย...ผมไม่อยู่เล่นด้วยแล้ว!”
“ไปไหนอ่ะ!”
“หนีเด้ >[]<” แล้วมันก็ลุกพรวดด้วยความที่ผมตั้งตัวไม่ทัน โฮยไอ้เด็กนี้ไปเอาแรงมาจากไหนเนี่ย! แต่มีหรือผมจะยอมในเมื่อความไวผมเหนือกว่า
“หนีไม่พ้นหรอก!”
“ว๊ากกก” ผมเหวี่ยงมันลงบนที่นอนแล้วจัดการขึงมันกับเตียง เสร็จพี่ละครับไอ้น้อง ^-^
“พี่...ผมยังเจ็บแผลอยู่นะ”
“เออลืม โทษๆ” ผมคลายมือออกเบาๆ เกือบทรมานเด็กแล้วมั้ยแต่มันก็ความผิดผมอีกที่ดันไว้ใจเด็กเกรียนอย่างมัน!
“ซะเมื่อไหร่ หนีแล้ว!”
“เฮ้ย!” มันลุกพรวดแล้ววิ่งออกไปข้างนอก คิดจะเล่นไล่จับกับพี่มันเร็วไปร้อยปีไอ้น้อง! ผมออกแรงวิ่งตามร่างเล็กวิ่งลงมาถึงสนามเด็กเล่นแล้วหายเข้าไปในซอกตึก ตรงนั้นเป็นทางตันอย่าคิดว่าผมไม่รู้แต่ว่า...
“พี่ซีเวล!!” เสียงที่ตะโกนเรียกขาดห้วง
“ราชันย์!” ผมออกแรงวิ่งอีกครั้ง พอพ้นซอกตึกนี้ราชันย์...หายไปแล้ว
ไม่...
ผมเตรียมหันหลังวิ่งแต่ถูกอะไรบางอย่างหนักๆฝาดเข้าที่ท้ายทอยแล้วภาพทุกอย่างก็ดับวูบลงไป ผมจะเป็นอะไรไปไม่ได้...ราชันย์...
“ซื้อเท่าที่จำเป็นนะ”
“ยังไม่รู้จะซื้ออะไรเลย -0-” มันบ่นอุบ ที่รู้จากมันอีกอย่างคือมันเป็นพวกไม่ชอบใช่ตังค์เวลาให้เลือกของก็จะประมาณอะไรก็ได้ พอถามจะเอาอะไรมั้ยบอกไม่เอาลูกเดียว ไม่ใช่เรื่องมากหรอกผมรู้แต่มัน คือ...นะ บอกไม่ถูก _ _*
“อย่างแรกก็เสื้อผ้านั้นแหละ” ผมพามาในจุดขายเสื้อผ้า ตอนแรกจะพาไปแถวย่านที่ขายเสื้อผ้าเด็กแล้วเพราะตัวแม่งเล็ก แต่ที่เมืองจีโนมนี้ค่อนข้างเจริญก้าวหน้าไปมากทำให้ย่านการค้าธรรมดาก็สามารถเทียบเท่าห้างขนาดใหญ่ของที่อื่นได้แล้ว
“เออใกล้เข้าหน้าหนาวแล้วหาดูเสื้อกันหนาวไว้บ้างก็ได้”
“ไอ้ที่ติดมาด้วยก็อุ่นอยู่แล้ว” นั้นไง ผมยังพูดไม่ทันขาดคำ ถามจริงนี้งกตังค์ผมหรือมันไม่อยากได้จริงๆกันแน่ _ _**
“เอาเหอะถือซะว่าอยากซื้อให้”
“นี้”
“....!” ผมเกือบยกมือปิดปากตัวเองทัน ก็มันเล่นชี้ไปที่เสื้อแจ๊คเก็ตพิก้าจูสีเหลืองอ๋อยนั้น ถ้าเป็นเด็กๆคงใส่แล้วน่ารักละนะแต่มัน...
เออ...ตัวมันก็ไม่ต่างจากเด็กนิหว่า -_-
“ถ้ากล้าลองใส่จะยอมซื้อให้”
“ถามจริง *0*” มันอยากได้จริงเด้ ?! O[]Oเฮ้อ...ผมไม่คิดว่าหน้าอย่างจะใส่ไอ้ชุดแบบนี้เข้าหรอกนะ ตลกแล้วไอ้เด็กเกรียนเอ้ย!
“ตัวนี้เหลือแค่ไซด์เอ็มแล้วนะค่ะ” พี่พนักงานสาวเดินเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ผมพยักหน้ารับเบาๆแล้วให้ไอ้เตี้ยนี้ลองดู พอมันใส่เสร็จปรากฏว่าตัวใหญ่กว่ามันค่อนข้างเยอะอยู่แต่พอคู่กับดวงตากลมโตแล้ว...
“เป็นไงอ่ะ...” ให้ตอบมั้ยว่าน่ารักโครต !! -//////-
ผมเหล่ตามองพี่พนักงานที่มองไอ้นี้ตาเยิ้ม บวกกับคนที่เดินผ่านไปผ่านมาถ้าเป็นสาวก็มองกันตาละห้อยเลยทีเดียว
“ท้าเองนะว่าถ้ากล้าจะ...”
“ซื้อให้แน่นอน” ผมเปลี่ยนกลับมาเหยียบยิ้มแทน เมื่อจัดการซื้อไอ้เสื้อเสร็จก็ออกมาซื้อของใช้เท่าที่จำเป็นได้มาโครตตตตตตตตน้อยเลย -_-;; สรุปแล้ววันนี้ไม่ได้อะไรมาแต่ดูท่าว่ามันจะปลื้มไอ้พิก้าจูนี้เป็นพิเศษนะ ใส่ไม่ถอดเลย
“(‘v’ ) ( ‘v’)” แถมยังเอาแขนเสื้อที่ยาวกวาแขนมันมาเล่นด้วย เมื่อไหร่มันจะเลิก....เฮ้อ ปลง!
พอกลับมาถึงที่ห้องผมก็จัดแจงของเข้าที่ ส่วนไอ้ตัวเหลือมีเขี้ยวนั้นเหรอ นอนกลิ้งเล่นอยู่กลางห้องนั้นไง =_=;; ใครก็ได้มาสาบานกับผมทีว่ามันอายุสิบเก้ายี่สิบ ไม่เห็นแววเลย!
“นี้...ไอ้ตัวนี้เขาเรียกว่าพิก้าจูใช้มั้ย”
“อา...” ผมตอบส่งเพราะตอนนี้กำลังง่วนอยู่กับการเก็บกวาดห้องครัว
“มันคือกระต่ายป่ะ”
“มันคือโปเกม่อน ทำไมถึงคิดว่ามันคือกระต่ายละ” ผมถามไอ้ตัวแสบที่นอนกลิ้งไปกลิ้งกับพื้น เดี๋ยวถ้าไอ้พิก้าจูดำเมื่อไหร่อย่ามาร้องให้ซักให้ละกัน =^=
“หู”
“ฮะ?” ผมเดินเข้ามาหามันพร้อมนมสด
“มันมีหู” มันว่าพลางจับหูแหลมๆชูขึ้นข้างนึง ส่วนมืออีกข้างนึงรับแก้วนมจากผมไปกระดก(เหมือนจิบอ่ะ)
“กี่ขวบแล้วครับคุณลูกดื่มนมเลอะปากเนี่ย =_=;;” ผมเอื้อมไปเช็ดปากที่มีคราบนมติดอยู่แล้วแวะเคาะหน้าผากนั้นเบาๆ
“เท่าที่จำได้ก็สามขวบฮะ...เหอๆไม่ใช่แล้ว ผมไม่ใช่เด็กซะหน่อย!” รับมุกกันด้วย โอยน่ารักที่สุด(เสียงสูง) =[]=*
“หรา”
“ง่า” ไอ้เกรียนทำเสียงง่าใส่ผมแล้วหันไปสนใจนมในแก้มต่อ แก้วใหญ่ไปเปล่าวะถึงต้องใช้สองมือ เออทำตัวเหมือนเด็กแล้วเวลาเขาว่าๆเด็กทำเป็นเถียง ไอ้นี้จะเกรียนใส่ผมไปถึงเมื่อไหร่กัน ถ้าตัดนิสัยกวนตีนออกได้มันจะกลายเป็นเด็กที่น่ารักที่สุดในสามสี่ห้าโลกชิบอกให้!
“นี้แล้วอยู่ในบ้านไม่ใส่ก็ได้ฮูทอ่ะ” ผมกระชากหน้าพิก้าจูลงอย่างหมั่นไส้ ผมสีดำเงายุ่งเยิ้งเพราะใส่ไอ้ฮูทนี้นานเหมือนเด็กอนุบาลเข้าไปใหญ่ พอเถอะ...ถ้าจะน่ารักขนาดนี้เกิดเป็นหญิงเถอะลูกพ่อจะได้รักแบบหมดห่วง T^T
“นมจืด...”
“หวานมั้งครับ”
“ผมไม่ได้พูดกับพี่” เฮือก...! ไอ้เด็กนี้มันอยากตายก่อนวัยอันควรจริงๆใช้มั้ยเนี่ย รู้งี้ผมปล่อยมันหลงที่ย่านการค้าเอาให้ร้องไห้เลยซะก็ดี
“ถ้าหวานก็ระวังมดขึ้นแก้มละกัน” ผมเช็ดนมที่เลอะขึ้นที่ถึงแก้มเนียน พักนี้สมองผมแถบไม่ต้องวิเคราะห์อะไรให้ปวดหัวเลย ตั้งแต่มันมาอยู่ที่นี้จากห้องที่เคยเงียบเหงาตอนนี้มันกลายเป็นที่ๆน่ากลับที่สุด ช่วงนี้ผมไม่ได้ออกไปเที่ยวกลางคืนที่ไหนเลยนินา... คืนนี้ถ้าจะรอมันหลับแล้วแอบออกไปหน่อย... ไม่สิ คุณนายจะส่งคนมาเมื่อไหร่ผมก็ไม่รู้
“นี้ถ้าแกสิบเก้าจะยี่สิบจริง คืนนี้ไปเที่ยวกับหน่อยมั้ย”
“ความรู้สึกมันบอกว่าชอบที่เงียบๆอ่ะ” รู้ทันด้วยเว้ยว่าผมจะพาไปไหน มันคงไม่ยอมไปง่ายๆแน่ๆ งั้น...
“ชอบเล่นคีย์บอร์ดใช้มั้ย”
“อ่า...มันเปลี่ยนคีย์เสียงได้ดีกว่าเปียโน”
“งั้นสนไปโชว์สักหน่อยมั้ยละ” หวังว่าคำท้าคงได้ผลนะ แล้วก็เป็นไปตามคาดมันยอมตกลงง่ายๆ เพราะผมเริ่มจับได้แล้วไงว่ามันชอบเพลง
“นี้ ถึงผมจะชอบฟังเพลงหรือเล่นคีย์บอร์ดแต่ถ้าจะให้เล่นจริงๆผมก็เล่นอยู่เพลงเดิมๆนะไม่เบื่อบ้างรึไง” ราชันย์หันมาขมวดคิ้วถามซึ่งผมก็เลิกคิ้วกลับแล้วฉีกยิ้มให้
“ก็มันเพราะนิ”
“ไม่หรอกขึ้นอยู่กับเสียงคีย์บอร์ดด้วยถ้าเป็นที่อื่น...”
“ฉันหมายถึงเสียงแก”
“O////O”
“ถ้ารักคือภาพวาดที่สวยงานจริง...อยากให้ร้องให้ฟังทุกคืนเลย” ผมพูดพร้อมรอยยิ้มพลางยื่นเข้าไปใกล้ นัยน์ตาสีแดงสดคู่นั้นเบือกกว้างเหมือนมีอะไรดึงดูดให้ผมเข้าไปหาริมฝีฝีปากบางเฉียบสีอ่อนเผยอออกเล็กน้อยให้ผมได้มีอากาศได้เข้าลิ้มลองรสหวานนี้...คราวที่แล้วผมแค่แกล้งมันไม่ได้คิดอะไรแต่ครั้งนี้ มีบางอย่างลึกซึ้งกว่านั้น ลื้นอ่อนนุ่มเป็นไปตามเกมของผมอย่างไม่มีตกหล่น...โหยหามานานเหลือเกิน ความรู้สึกนี้ ต่อให้คืนไหนได้สาวดีขนาดไหนก็ไม่เท่าริมฝีปากนี้...ทั้งเปราะบางน่าทะนุถนอมทั้งน่าบดขยี้
“อึก!OxO”
“อั่ก! ถีบพี่ทำไมเนี่ย!”
“พะ....พี่ทำอะไรเนี่ย” ไอ้เด็กนี้ ผมไม่เคยเข้าถึงอารมณ์มันซะทีเว้ย! แม่งทำงี้ผมไม่แปลกใจเลยไอ้เด็กอ่อนต่อโลกเอ้ย ! อ๊อยยยย จุก TT^TT
“น้องพี่เป็นไรป่ะเนี่ย”
“พาไปโรงพยาบาลด่วน T^T”
“ขนาดนั้นเลย...”
“เจ็บใจ T^T”
“ฮะ? O.o”
“คนน่ารักทำไมชอบใจร้ายกันจัง ฮึ่ย T^T”
“O////O” ผมแอบลืมตาข้างนึงแล้วยิ้มล้อไอ้หน้าแดงๆนั้น ฮ่าๆๆกว่ามันจะรู้ตัวก็โดนผมชิงหอมแก้มไปอีกฟอดแล้ว
“หึ”
“เอ้ย...ผมไม่อยู่เล่นด้วยแล้ว!”
“ไปไหนอ่ะ!”
“หนีเด้ >[]<” แล้วมันก็ลุกพรวดด้วยความที่ผมตั้งตัวไม่ทัน โฮยไอ้เด็กนี้ไปเอาแรงมาจากไหนเนี่ย! แต่มีหรือผมจะยอมในเมื่อความไวผมเหนือกว่า
“หนีไม่พ้นหรอก!”
“ว๊ากกก” ผมเหวี่ยงมันลงบนที่นอนแล้วจัดการขึงมันกับเตียง เสร็จพี่ละครับไอ้น้อง ^-^
“พี่...ผมยังเจ็บแผลอยู่นะ”
“เออลืม โทษๆ” ผมคลายมือออกเบาๆ เกือบทรมานเด็กแล้วมั้ยแต่มันก็ความผิดผมอีกที่ดันไว้ใจเด็กเกรียนอย่างมัน!
“ซะเมื่อไหร่ หนีแล้ว!”
“เฮ้ย!” มันลุกพรวดแล้ววิ่งออกไปข้างนอก คิดจะเล่นไล่จับกับพี่มันเร็วไปร้อยปีไอ้น้อง! ผมออกแรงวิ่งตามร่างเล็กวิ่งลงมาถึงสนามเด็กเล่นแล้วหายเข้าไปในซอกตึก ตรงนั้นเป็นทางตันอย่าคิดว่าผมไม่รู้แต่ว่า...
“พี่ซีเวล!!” เสียงที่ตะโกนเรียกขาดห้วง
“ราชันย์!” ผมออกแรงวิ่งอีกครั้ง พอพ้นซอกตึกนี้ราชันย์...หายไปแล้ว
ไม่...
ผมเตรียมหันหลังวิ่งแต่ถูกอะไรบางอย่างหนักๆฝาดเข้าที่ท้ายทอยแล้วภาพทุกอย่างก็ดับวูบลงไป ผมจะเป็นอะไรไปไม่ได้...ราชันย์...
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ