[FIC SNSD] สัมพันธ์อันตรายความรักและใบมีด{TAENY}
10.0
เขียนโดย rawit_sone
วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 23.03 น.
1 chapter
1 วิจารณ์
5,872 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556 23.17 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
1) [Chapter 1] Waiting for the return. [100%]
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 1Waiting for the return.
รุ่งเช้าของแสงแดดยามอรุณสาดส่องเข้ามาผ่านบานหน้าต่างในห้องนอนสีชมพู วันนี้เป็นวันแรกของการไปโรงเรียน…วันที่แสนจะน่าเบื่อ ฉันยันตัวลุกขึ้นอย่างช้าๆแล้วหันไปมองคนที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่ข้างตัวก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า….
“ย๊ากกกกกก! สายแล้วๆๆ” ไวเท่าความคิดฉันอาบน้ำแต่งตัวด้วยความรวดเร็วแล้วรีบวิ่งไปที่โรงเรียน
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเลยนะคะฉันมีชื่อว่าฮวัง มิยอง เอ้ยไม่ใช่สิๆๆ สเตฟานี่ ฮวังต่างหากล่ะตอนนี้ฉันอายุ17ปีแล้ว ชอบสีชมพูเป็นชีวิตจิตใจ รูปร่างอวบ(?)ตามมาตรฐาน ใสซื่อ(?) และสดใสค่ะ เป็นสาวน้อยมัธยมปลายที่สุดแสนจะธรรมดาคนนึงค่ะจริงๆนะคะธรรมด๊า ธรรมดา
“แย่แล้ว…สายจริงดิ!?” ในที่สุดฉันก็วิ่งมาถึงโรงเรียน แต่ทว่าก็ต้องหยุดฝีเท้าลงเมื่อ…
“ประตูปิดแล้วT^T” กลุ่มเพื่อนก๊วนเดียวกันกับฉันกำลังยืนบ่นกันเป็นฝูง(?)อยู่หน้าประตูทางเข้า
“ชิส์ บ้าจริงทั้งที่เหลือเวลาอีกตั้ง 3วิแท้ๆจะรีบมาตรวจอะไรกันนักกันหนาเนี่ย!?†~!@#$%^&*()_” เจสสิก้าสบถออกมาอย่างหัวเสีย
“อ้าวฟานี่มาสายเหมือนเดิมเลยนะต้องอย่างนี้สิถึงเรียกว่าเพื่อนรักฮ่าๆๆ” ซันนี่มองมาที่ฉันก่อนจะฉีกยิ้มกว้างๆให้
“เห้ยที่เฝ้าประตูนั่น…อาจารย์ ควอน ยูริไม่ใช่เหรอ?” สายตาฉันเริ่มหรี่ลงเพื่อปรับโฟกัสมองคนที่อยู่ไกลกว่าพลางพูดเบี่ยงเบนความสนใจ ควอน ยูริอาจารย์สอนพละที่โหดที่สุดในโรงเรียนแถมยังหลีหญิงเป็นว่าเล่นอีกด้วย
“เออ จริงด้วยว่ะซวยแล้วไงถ้างั้น…สิก้าช่วยไปพูดอะไรหน่อยดิเห็นว่าตามจีบเธออยู่ไม่ใช่รึไง” ซูยองหันไปพูดกับเจสสิก้าที่กำลังเอาไม้เขี่ยพื้นเล่นอยู่ นี่ไม่ใช่วิธีการเอาตัวรอดคนเดียวแต่ทุกคนก็จะได้รอดด้วยรวมไปถึงเจสสิก้าก็เหมือนกัน
“ไม่เอาด้วยหรอก ถ้าต้องคุยกับไอ้ดำนั่นฉันยอมติดมาสายดีกว่า” ร่างบางพูดเสร็จก็กลับมานั่งเขี่ยพื้นเล่นเหมือนเดิม
“ชั่งเถอะหยองอย่าพยายามเลยเจ๊แกกำลังหงุดหงิดอยู่ ให้ฟานี่ไปพูดก็ได้เนอะฟา…” ฮโยยอนพูดพลางมองหาที่พึ่งสุดท้ายของทุกๆคน “เฮ้ย!..ยัยหมีมันหายไปไหนวะ?”ทุกคนต่างตะโกนพร้อมกันด้วยเสียงอันดังจนร่างสูงของยูริได้ยินแล้วเดินไปเช็คชื่อทีละคนยกเว้น…เจสสิก้ากับซันนี่ ถ้าอยากรู้ว่าทำไมถึงไม่เช็คชื่อยัยซันนี่ด้วยเหตุผลก็คือเพราะยัยกระรอกตัวเล็กนั่นมันมีอาวุธลับขนาดใหญ่เท่ามะพร้าวซึ่งฉันเองก็แทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ สิ่งนั้นก็คือนันซม(อย่าผวนนะๆๆ-///-)
อีกด้านหนึ่งบางคนอาจสงสัยว่าฉันหายไปไหน ฉันไม่ได้ไปไหนหรอกค่ะแค่วิ่งอ้อมมาทางด้านหลังโรงเรียน ฉันหยิบสิ่งที่คล้ายแส้ออกมาจากข้างในเสื้อแล้วฟาดมันไปบนพื้นอย่างแรงและประการฉะนี้แรงดันของมันทำให้ตัวฉันลอยขึ้นจากพื้นแล้วไปอยู่บนกึ่งกลางระหว่างกำแพงทั้งสองฝั่ง ฉันกระโดดลงมาแล้วเข้าไปในเขตด้านหลังของโรงเรียน
“ถ้าเข้าข้างหน้าไม่ได้ก็เข้าทางข้างหลังแล้วกัน” ‘ขอโทษนะผองเพื่อนที่รัก’ ฉันได้แต่พูดคำนี้เพียงในใจเท่านั้น
ข้างหลังโรงเรียนมีป้ายขนาดใหญ่ติดอยู่และเขียนด้วยตัวหนังสือสีแดงว่าห้ามปีนเด็ดขาดอันตรายมาก ‘อืม…คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ก็เราไม่ได้ปีนสักหน่อยอีกอย่างก็ข้ามมาแล้วไม่เห็นจะเจ็บตัวอะไรตรงไหนเลย^o^’ แหม!ไม่ว่าใครก็ต้องมีเหมือนกันนี่นา จะเรียกว่าความสามารถพิเศษหรือความลับดีล่ะ แต่สำหรับฉันแล้ว…เอาเป็นความสามารถพิเศษที่เป็นความลับแล้วกันค่ะ
“เย้!เข้ามาสำเร็จ” ในขณะที่ฉันกำลังดีใจอยู่นั้นลุงภารโรงที่กำลังกวาดพื้นอยู่ดีดีก็หันมาเห็นคนแปลกหน้าที่ใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนกระโดดลงมาจากกำแพง ดูเหมือนลุงแกจะช็อคที่เห็นฉันทำอย่างนั้นไปชั่วขณะหนึ่งซะด้วยสิ แย่เลยทีนี่เฮ้อ~T3T
“อ๊ะ!” ‘แย่ล่ะสิมีคนมาเห็น’ แขนไร้เรี่ยวแรงชี้มาที่หน้าฉันพร้อมกับพูดว่า “มะ..เมื่อตะกี้เธอทำอีท่าไหน…”แต่ยังไม่ทันที่ลุงแกจะพูดเสร็จ “ขออภัย วิชานินจาคาถาจงลืม”ทันทีที่ตั้งสติได้นิ้วเรียวก็จิ้มไปกลางโสตประสาทของอีกคน “เมื่อตื่นขึ้นมาลุงจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทั้งหมด หลับให้สบายนะคะ^[++]^”
ใช่ค่ะฉันก็แค่ใช้วิชานินจาเป็นนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเองนอกนั้นก็เป็นสาวมัธยมปลายธรรมด๊า ธรรมดาจริงๆนะคะ นินจาบรรดาผู้มีชีวิตอยู่ในเงามืดใช้ศาสตร์ลับทั้งหลายที่มีบทบาทอยู่เบื้องหลังประวัติศาสตร์ แม้ในปัจจุบันนี้วิชาและความรู้นั้นก็ยังสืบต่อเนื่องมายังผู้สืบสายเลือด
“อ้าว นี่ฉันหลับระหว่างทำงานรึนี่!?” หลังจากเวลาผ่านไปไม่นานลุงภารโรงก็ตื่นจากการหลับใหลแล้วลุกขึ้นมาทำงานต่อตามปกติ
แอดด~ประตูบานหนาถูกเปิดออกช้าพร้อมกับร่างๆหนึ่งที่ย่างเท้าก้าวเข้ามาในห้อง
“ยัยฟาเน๊!!~แกผ่านเข้ามาคนเดียวได้ยังไงกันห๊า” ซันนี่และเพื่อนๆอีก3คนแผดเสียงแหลมทันทีเมื่อเห็นหน้าฉันเป็นครั้งที่2ของวัน
“อะ…อารายเหรอ~มะ..ไม่เห็นจะรู้เรื่องเล้ย~” คำพูดเฉไฉแบบสิ้นคิดหลุดออกมาจากเรียวปากบาง
วิชานินจาและความรู้นั้นก็ยังใช้ประโยชน์เป็นลูกเล่นในชีวิตประจำวันได้ดีอยู่จะว่าไปก็ใช่แต่จะมีประโยชน์หรอกนะคะ การเป็นทายาทนินจาก็มีเรื่องให้กลุ้มเหมือนกัน…
“กรี๊ดดด!นั่นประธานนักเรียนรุ่นพี่ยุนอานี่นา ป๊อปจังเนอะเท่ดีด้วย รวย แล้วก็ฉลาดใครได้เป็นแฟนคงรักตายเลยอ๊า~” เสียงกรี๊ดกร๊าดของเหล่าผู้หญิงหน้าห้องที่กำลังรุมร้อมอยู่กับไอ้ประธานขาโก่งจอมขี้เก็ก
“นี่…ทิฟฟานี่เธอไม่ชอบแนวแบบนี้เหรอ?” ฮาร่าเพื่อนข้างโต๊ะหันมาพูดกับฉัน
“ไม่สักนิด ไม่โดนใจฉันเลยล่ะ” ฉันตอบปัดๆไปเพราะความรำคาญ
“ทิฟฟานี่ เธอไม่มีสเปกคนในดวงใจเลยรึไงนะ” หญิงสาวพูดอย่างเพลียๆแล้วเดินไปนั่งเล่นกับฮยอนอาแฟนสาวของเธออย่างกะหนุงกะหนิงต่อและนั่นก็เรียกความหมั่นไส้ไปจากฉันได้อย่างดีเลยทีเดียว
“…ไม่มีหรอก ก็มันไม่จำเป็นนี่…” คำพูดที่เบาจนเหมือนกับกำลังพูดอยู่คนเดียว…ไม่กล้าที่จะให้คนอื่นได้ยินเพราะอะไรน่ะเหรอ? เพราะไม่อยากให้รู้น่ะสิ ไม่อยากให้รู้ว่าคนร่าเริงอย่างสเตฟานี่ ฮวังจะลืมรักแรกไม่ได้ คนที่ฝึกนินจาด้วยกันตั้งแต่สมัยเด็กถึงจะเป็นผู้หญิงแต่ก็แข็งแรงแล้วก็ดูพึ่งพาได้ในทุกๆเรื่อง เนี่ยแหละคือความกลัดกลุ้มใจที่สุดของฉันในตอนนี้ ในฐานะลูกสาวของนินจา
“เฮ้อ~ทำไมถึงปักใจขนาดนี้นะทั้งที่หาคนใหม่ก็ได้ในเมื่อเวลามันผ่านมานานขนาดนี้แล้ว คงเป็นเพราะเลือดนินจาที่ยึดมั่นกับหน้าที่ล่ะมั้งเนี่ย”
…อยากพบอีกสักครั้งจัง…
...อยู่ที่ไหนนะคนรักคนแรกของฉัน...
…………………………………………………………………………………………………………….................ยะฮู้วว~เป็นไงกันบ้างคราวนี้เปลี่ยนมาเป็นแนวหวานแหววเจ้าค่า เป็นเนื้อเรื่องของหญิงสาวที่เป็นนินจากับรักแรกที่รอคอย ยังเหลือตัวละครที่ยังไม่ออกโลงอีก…คน[จงเติมคำตอบลงในช่องว่าง]มาลองคิดดูกันว่าจะเป็นใครแล้วมีความเกี่ยวข้องอะไรกับลูกหมีที่อายุ17ขวบ ติดตามต่อได้ใน Chapter 2 Memory love สัมพันธ์อันตรายความรักและใบมีด จ้า
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ