Pretty CowGirl
เขียนโดย StrawberryTKCuTe
วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.16 น.
แก้ไขเมื่อ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 20.28 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“ช่วยถือมั้ย” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนตัวเล็กที่เดินเลือกซื้อขนมราวกับเด็กๆเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวชักจะซื้อเยอะเกินจนกลายเป็นพะรุงพะรังเต็มมือ
เขาแค่พาเธอมาเที่ยวงานวัดที่จัดขึ้นถัดไปจากตัวมหาวิทยาลัยไม่ไกลนัก เห็นผู้หญิงข้างๆบ่นว่าอยากมาทำบุญ เขาก็เลยอาสาพามา แต่ไหงเจ้าตัวกลับวิ่งเข้าหาขนมซะได้
“น่าจะรู้ตัวตั้งนานแล้วนะ” คนตัวเล็กว่าพลางส่งของให้เขาถือจนหมดทุกถุง แก้มใสๆอมลมเข้าจนพองออก โทโมะมองกิริยาของคนข้างๆด้วยความขบขัน เขินทีไร เจ้าตัวชอบทำแบบนี้ทุกที คิดว่าเขาไม่รู้ทันหรือไงกันแม่คุณ
ร่างสูงวางมือลงบนศีรษะเล็กอย่างเอ็นดูก่อนจะผลักหัวเล็กๆให้เดินนำหน้าเขาไป ไม่เคยรู้สึกมีความสุขขนาดนี้มาก่อน เขาควงผู้หญิงบ่อยก็จริง แต่กลับคนนี้...ทุกอย่างกลับดูเปลี่ยนไปหมด เขารู้สึกไม่สนใจเวลาที่มีเบอร์สาวๆคนอื่นโทรเข้ามา ไม่ตื่นเต้นที่จะออกไปพบกับเธอเหล่านั้น แต่เมื่อไหร่ที่เป็นเธอคนนี้...หัวใจกับสั่นแปลกๆ
ตั้งแต่ขอเป็นแฟน เขาก็ไม่เคยเจ้าชู้อีกเลย ถึงแก้วจะเป็นผู้หญิงที่ไม่ชอบแสดงออกว่ารักเขามากนัก ออกจะห้าวๆด้วยซ้ำไป แต่เขากลับหลงได้ซะนี่ มันเป็นเรื่องที่ผิดพลาดที่สุดสำหรับเสือผู้หญิงอย่างเขาเลยนะ
“ไหนว่าจะมาทำบุญไง กินอย่างเดียวเลยนะ...”
“เดี๋ยวทำน่า บ่นเหรอ”
“ไม่คิดจะป้อนกันมั้งหรือไง เห็นมั้ยเนี่ยว่ามือไม่ว่าง ถือของกินให้หมูอยู่” คนสวยหันมาค้อนควั่กให้เขาเต็มๆที่คนข้างกายแซวแรงๆออกมาแบบนั้น แต่ก็ยังยอมฉีกขนมปังกระเทียมป้อนเขาอยู่ดี
แก้วเป็นแบบนี้แหละ ไม่หวาน ไม่ซึ้ง แต่น่ารักแบบซนๆ อย่างนี้มีเสน่ห์ที่สุดสำหรับโทโมะ
“อ้าปากดิ...”
“เต็มใจป่ะเนี่ย หืมมมม...จะฆ่ากันหรือไง” โทโมะร้องท้วงขึ้นเบาๆเมื่ออีกฝ่ายยัดขนมปังเข้าปากเขารวดเดียวหมดแถมยัยตัวแสบยังหันมาแลบลิ้นใส่เขาอีก ไม่รู้ว่าขอเป็นแฟนได้ยังไงกันผู้หญิงแบบนี้ ปกติแล้วผู้หญิงทุกคนแทบจะป้อนเขาด้วยปากเลย
“คิดว่าฉันจะเหมือนกิ๊กเก่านายหรือไง ให้ป้อนด้วยปากป่ะ เอาป่ะ?” คนตัวเล็กหันมาถามเขาด้วยท่าทีกวนประสาทจนโทโมะอยากจะดึงใบหน้าเล็กๆนั่นมาจูบให้รู้แล้วรู้รอดแต่ติดที่ว่านี่มันในวัดวา ไม่อย่างนั้นยัยตัวแสบนี่เสร็จเขาไปแล้ว
“เอาป่ะ เอาป่ะ” โทโมะดัดเสียงให้เล็กลงเพื่อล้อเลียนคนข้างๆ พลางเบ้ปากใส่จนแก้วนึกฉุนแต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ ก็เจ้าตัวเล่นเดินนำหน้าหนีคดีไปแล้วโน่นแน่ะ
ร่างสูงเดินนำลิ่วๆก่อนจะเดินเข้าไปนั่งภายในร้านก๋วยเตี๋ยวเรือของโปรดของแก้ว เขารู้ดีว่าคนตัวเล็กจอมแสบนั่นชอบกินอะไร ถึงจะระหองระแหงกันบ่อยเพราะเด็กดื้อชอบทำห้าวใส่แต่สุดท้ายเขาก็ขัดใจไม่ได้ ยังไงก็ต้องตามใจอยู่แล้ว ส่วนคนที่เดินตามมาหวังจะเอาเรื่องพอเห็นแบบนั้นก็ถึงกับไปไม่ถูก...ภาพที่โทโมะเดินนำเข้าไปในร้านอาหารที่เขาไม่ชอบเพียงเพราะเธอชอบทำให้แก้มใสร้อนวูบขึ้นมาทันที เขาเป็นแบบนี้เสมอ เขาไม่พูดอะไรมากแต่ทำเลยมากกว่า
ร่างเล็กเดินตามมานั่งลงตรงข้ามกับเขา ดวงตากลมโตจ้องมองเขานิ่งๆ รอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้นเล็กๆก่อนจะต้องหุบยิ้มเพราะอีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาพอดี
“เป็นอะไร มียิ้มด้วย?”
“...ชิ“ แก้วเบ้ปากใส่เขาก่อนจะหันไปเรียกพนักงานมารับรายการอาหาร ไม่อยากจะมองหน้าคนตรงข้ามนานนัก เรื่องอะไรจะให้อีกฝ่ายได้ใจที่เห็นเธอยิ้มให้กันล่ะ ฝันไปเลย!
“...”
“บะหมี่ต้มยำ 1 แล้วก็เส้นหมี่น้ำใสไม่ใส่ถั่วงอก 1 น้ำแข็งเปล่า 2 ค่ะ” ไม่แปลกหรอกที่แก้วจะเป็นคนสั่งแบบนั้น บะหมี่ต้มยำของเอเองส่วนก๋วยเตี๋ยวแบบเด็กน้อยนั่นเป็นของผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามต่างหาก
โทโมะไม่ชอบกินถั่วงอกเพราะมันเหม็นเขียว แล้วเขาก็กินรสจัดมากไม่ได้เพราะฉะนั้นต้มยำน่ะเมินซะเถอะ
“จำได้ด้วยหรือไง”เขาหันมาถามยิ้มๆ แต่อีกฝ่ายกลับหันไปมองทางนู้นทางนี้ทีแก้เขิน
“ไม่ได้ทึ่มนะ” แก้วตอบปัดๆแบบขอไปที ไม่ชอบเลยที่เห็นเขาส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาหานะ เขินแทบบ้า รู้ตัวไว้ด้วย!
โทโมะส่ายหน้าน้อยๆ รู้อยู่แล้วล่ะว่าแก้วต้องตอบแบบนี้ แก้วไม่ใช่ผู้หญิงประเภทหวานแบ๊ว ขี้อ้อน ทำน่ารักใส่เขาไปวันๆ เฑอดูแลตัวเองได้และจัดว่าได้ดีเลยทีเดียว ที่สำคัญ...ยังดูแลเขาได้อีกด้วย ไม่ต้องคอยให้เขาตามเทคแคร์มากนัก แก้วไม่ใช่คนเรื่องมาก แค่ตามใจนิดๆ อย่าขัดใจให้มาก แค่นั้นก็คุยกันรู้เรื่องแล้ว
“เผ็ดหรือไง หน้าแดงขนาดนั้น เดี๋ยวก็ปวดท้องเอาหรอก เป็นห่วง รู้ไว้ด้วย” เขาถามขึ้นเมื่อเห็นแก้มขาวใสเปลี่ยนเป็นสีแดงตามรสชาติของอาหาร ส่วนคนถูกถามพอได้ยินแบบนั้นเข้าก็ถึงกับไปไม่ถูก เขาเป็นห่วง...เพราะเธอปวดท้องง่ายแต่ก็ยังจะชอบกินของเผ็ดๆอยู่เรื่อย
อันที่จริงแก้วเป็นโรคกระเพาะแต่ไม่ยอมดูแลตัวเอง เรื่องนี้ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้คนสองคนทะเลาะกันประจำ
“โทโมะ...เผ็ด” ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อมากขึ้นจนเจ้าตัวน้ำตาเล็ด
โทโมะวางตะเกียบกับช้อนลงทันทีที่เห็นแบบนั้น คราวนี้แม่คนเก่งของเขาเริ่มจะช่วยตัวเองไมได้แล้วเมื่อเจอฤทธิ์เดชของพริกเข้าไปแบบนั้น เขาถอนหายใจแรงๆ อีกใจก็สงสารอีกใจก็อยากจะหัวเราะที่คนดีของเขาทำซ่าไม่ยอมฟังเขาว่าไม่ให้กินรสจัดขนาดนั้น ก่อนที่เขาจะเลื่อนชามก๋วยเตี๋ยวที่กินไปได้เพียงนิดให้คนตรงหน้า
“อะ...อะไรอ่ะ?”
“ฉันไม่ได้ปรุงอะไรเพิ่ม กินซะ แก้เผ็ด...แล้วรออยู่นี่นะ เดี๋ยวมา”
“...” แก้วส่ายหน้าทันที เธอเห็นว่าเขาเพิ่งกินไปได้ไม่กี่คำเอง อยู่ๆจะให้เอาของเขามากินอย่างนั้นน่ะเหรอ ไม่มีทางหรอก แก้วไม่อาจเห็นแก่ตัวแบบนั้น ดูท่าก็รู้ว่าเขาหิวเหมือนกัน ตั้งแต่เลิกเรียนเขายังไม่ได้กินอะไรเลย
“อย่าดื้อ” โทโมะว่าให้ก่อนจะลุกออกจากร้านไป
รอยยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นอีกครั้งบนมุมปากเรียวสวย แก้วไม่ปฏิเสธหรอกว่าเขาน่ารักแค่ไหน แต่จะให้เธอไปพูดบอกเขา หรือให้พูดคำว่ารักใส่มันก็ดูจะโอเว่อร์เกินไปหน่อย แก้วรู้ว่าเขารักและเธอเองก็รักเขา แต่มันไม่จำเป็นจะต้องพูดออกมาหมดก็ได้นี่ โทโมะเองก็เคยเป็นเสือผู้หญิงมาก่อน คงจะได้ยินคำนั้นจากปากใครต่อใครมากมายจนอาจจะเบื่อมันแล้วก็ได้ แก้วคิดว่าให้การกระทำเป็นตัวตัดสินดีกว่า
แหมะ!
น้ำแข็งใสราดด้วยน้ำหวานสีแดงพร้อมกับนมข้นหวานที่ราดทับถูกวางลงตรงหน้าแก้ว ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมองเขาที่ยืนหอบตัวโยนก่อนจะเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างๆเธอ เขาเลื่อนฝ่ามือมาลูบเม็ดเหงื่อที่เกาะพราวอยู่ตามไรผมออกให้อย่างเบามือทั้งที่ตัวเองก็เหงื่อซกไม่แพ้กัน ถ้าให้เดา...เขาคงจะไปเบียดเสียดกับผู้คนที่มาเที่ยวงานจำนวนมากสินะ
“เดี๋ยวพอกินเสร็จ ก็กินน้ำหวานต่อ จะได้หายเร็วๆ”
“เอ่อ...ขอบคุณนะ” แก้วหันไปขอบคุณเขา มือเล็กวางลงเบาๆตรงหน้าขาของโทโมะเพื่อแสดงให้รู้ว่าเธอรู้ดีว่าเขาเป็นห่วงเธอแค่ไหน ไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่เขาก็พร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือเสมอ
“แฟนทั้งคนจะปล่อยไว้ได้ไงล่ะ” เขาว่างพลางขยี้เส้นผมผู้หญิงตรงหน้าเบาๆ ก่อนจะต้องหยุดทุกการกระทำเมื่อมีเล็กยื่นผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อบนใบหน้าให้เขาคืน
“ร้อนป่ะ?”
“กินๆไปเหอะน่า ไม่ต้องห่วงฉันหรอก” แก้วยู่หน้าใส่เขาทันที ชิ! เธอว่าจะหวานใส่ให้เขาชื่นใจซะหน่อย หมดกัน ไม่ต้องทำมันแล้ว ผู้ชายน่าหมั่นไส้
โทโมะมองแก้วอย่างขำๆเมื่อเห็นเจ้าตัวชักมือออกอย่างไม่สบอารมณ์ พอกินเสร็จเขาก็ถือโอกาสเอื้อมมือไปคว้ามือเล็กๆนั่นมากุมไว้ซะเลย เพื่อเป็นการบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาอยากให้เธออยู่ใกล้ๆนะ ทำนองนั้น ถึงจะทำฮัดฮัดขัดใจแต่แก้วก็ไม่ได้ว่าอะไรเขาอยู่ดี รู้สึกอบอุ่นด้วยซ้ำที่มีคนมาจูงมือพาเดินไปด้วยกันแบบนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า...
“คนเยอะ เดี๋ยวหลง”
ร่างเล็กแอบอมยิ้มนิดๆตลอดทางเดิน ระหว่างทางเขาก็พาแวะดูการแสดงมายากล แก้วจำได้ว่าโทโมะชอบดุการแสดงแบบนี้ถึงเธอจะขี้เกียจยืนท่ามกลางคนมุงเยอะๆ แต่ในเมื่อเขาชอบแก้วก็ไม่ควรจะขัดเพราะขนาดเขาไม่ชอบกินก๋วยเตี๋ยวเขายังพาเธอไปกินได้เลย แก้วลอบมองเสี้ยวหน้าของคนที่กำลังหัวเราะเพลิดเพลินกับการแสดงอย่างเขินๆ ไม่รู้ทำไมถึงเขินทั้งๆที่ตัวเองเป็นฝ่ายแอบมอเขาแท้ๆ
แก้วคิดว่าโทโมะชักจะติดใจการแสดงนี่ใหญ่แล้ว นี่ก็ยืนดูมาร่วมชั่วโมงแล้วเขายังไม่ไปไหนเลย เธอจะเดินหนีไปดูอะไรอย่างอื่นบ้างก็ไม่ได้ จะอะไรซะอีกล่ะ เขาเล่นกุมมือเธอไว้แน่นไม่ปล่อยให้ไปไหนแบบนี้จะหนีไปไหนยังไงล่ะ ตอนนี้เธอก็ง่วงมากๆแล้วด้วย นี่ก็จะสามทุ่มอยู่แล้ว ร่างบางยกมืออีกข้างปิดปากหาวหวอดก่อนจะวางคางเรียวเกยไหล่เขาไว้เพื่อหาที่พักพิง
“ง่วงแล้วเหรอ เบื่อแล้วล่ะสิ” โทโมะเอื้อมมือไปบีบจมูกยัยคนตัวเล็กที่เกยหน้าอยู่บนไหล่เขาเบาๆด้วยความเอ็นดู
“อือออ ไม่เบื่อ ดูไปเหอะ...ฉันโอเค” เขาอยากจะหัวเราะ คนที่บอกว่าโอเคตอนนี้ยังงัวเงียหลับตาตอบเขาอยู่แล้ว
“เห้ย หล่นๆๆ!” ร่างสูงใหญ่ขยับตัวหนีห่างเล็กน้อยจนใบหน้าหวานที่เกยก่ายเขาอยู่ล่วงหล่น แก้วหันมาทำหน้าบึ้งใส่ก่อนจะฟาดแขนเขาเสียงดัง
“อื้อออ!”
“ฮะๆๆ ไม่ง่วงเลยนะ ป่ะ กลับกัน”
“ไม่กลับว้อยยย” เจ้าตัวสะบัดหน้าหนีเขาแล้วทำแบบเดิมอย่างที่ชอบทำเวลางอนกับโทโมะ คิ้วเรียวๆผูกโบกันเป็นปม แก้มใสๆพองออก ปากเล็กๆแทบจะขึ้นไปชนกับปลายจมูกรั้นๆ แบบนั้นแหละ...เรียกว่างอน
“ดีกัน”
“...”
“นะ...ดีกัน” นิ้วก้อยถูกยื่นไปตรงหน้าคนขี้งอนแต่กลับถูกเจ้าตัวปัดออก แล้วคิดเหรอว่าคนอย่างโทโมะจะยอมแพ้อะไรง่ายๆ
“..!”
“ไม่ดีเหรอ...” โทโมะอมยิ้มนิดๆก่อนจะเอื้อมมือมาบีบจมูกรั้นๆนั่นแทน คราวนี้แก้วโวยวายนักกว่าเก่าแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย
“ปล่อยๆๆๆ อ๊ายยย ทำอะไรของนายเนี่ย หายใจไม่ออก!”
“ดีกัน”
“อื้อ!” เจ้าตัวร้องพลางส่ายหน้าอย่างโมโห
“ดีกันนะ...นะ ถ้าไม่ดีไม่ปล่อย เอาไง”
“วิธีง้อนายนี่สกปรกมากนะ อื้ออออ เอานิ้วก้อยมาเซ่”
ร่างสูงรีบปล่อยให้ยัยตัวแสบของเขาเป็นอิสระทันทีก่อนที่นิ้วเรียวสวยจะยื่นไปตรงใบหน้าสวยหวานนั่นอีกครั้ง คราวนี้แก้วยอมเกี่ยวก้อยคืนดีกับเขา เพราะขืนถ้าไม่ยอมมีหวังได้ขาดอากาศหายใจตายเป็นแน่ พอเห็นแบบนั้นโทโมะก็หัวเราะร่วนออกมาพลางเอื้อมมือไปผลักหัวเล็กๆพร้อมกับวางมือพาดลงบนไหล่ของแก้วแล้วพากันเดินออกไปถึงแก้วจะทำเสียงจิ๊จ๊ะแต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรที่เขาชอบผลักหัวเล่นบ่อยๆ
“ทำไมไม่เดินต่อล่ะ ไม่อยากกลับแล้วเหรอ”
“อือ” แก้วหยุดฝีเท้าลงพลางหยุดจ้องมองตุ๊กตาที่แขวนเรียงรายอยู่ภายในร้านปาลูกโป่ง พออีกคนหันมาเห็นสาเหตุของการหยุดเดินของคนตัวเล็กเขาก็พอจะเข้าใจทันที
ชอบตุ๊กตาสินะ
“อยากปาอ่ะ...นะ”
“ดึกแล้วนะ” แก้วหันมาเขย่าแขนโทโมะเบาๆเป็นเชิงขอ แต่กลับถูกอีกฝ่ายท้วงติงขึ้นมา นี่ก็สามทุ่มกว่าแล้ว กว่าเขาจะพาเธอกลับไปส่งอีกล่ะ ถ้าให้อยู่ปากลูกโป่ง...มีหวังคืนนี้ได้นอนค้างที่วัดแน่ๆ เขารู้ดีว่าแก้วน่ะชอบกับเรื่องพวกนี้มาก ยิ่งเล่นยิ่งเลิกไม่ได้ เดี่ยวพอลากกลับก็กลายเป็นว่าไปขัดใจแก้วอีก
“แปปเดียว นะ...” เสียงหวานทอดน้ำเสียงแผ่วลง มือเล็กก็ยังไม่หยุดเขย่าแขนเขา ดูท่าจะอยากเล่นมาก
“แก้ว” โทโมะพยายามกดเสียงต่ำลงเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าเธอไม่ควรดื้อกับเขาแล้ว
“โทโมะ” ใบหน้าหวานเลื่อนเข้าไปใกล้ๆเขา ก่อนจะเอ่ยขอด้วยการเรียกชื่อเขาเสียวหวานเป็นการขออนุญาต แม้จะอยากให้แก้วได้เล่นแต่เขาคิดว่ามันควรเป็นวันอื่นเพราะคืนนี้ดึกมากแล้วและที่สำคัญพรุ่งนี้แก้วมีสอบเก็บคะแนนด้วย ยังไงซะเขาก็ไม่มีวันตามใจเธอแน่!
“พี่ครับ ขอลูกดอกสองชุด” และในที่สุดเขาก็ต้องตามใจแก้วจนได้ ให้ตายเหอะ! โทโมะอยากจะบ้าตาย เขาถอนหายใจพลางส่ายหน้าหน่ายๆก่อนจะยื่นเงินให้กับพ่อค้าและรับลูกดอกมาส่งให้คนที่ยืนยิ้มอย่างดีใจ ถึงจะหงุดหงิดที่แก้วดื้อใส่แต่พอเห็นรอยยิ้มหวานๆของคนรัก เขาก็สบายใจ
“...”
“รีบๆปานะ ให้เล่นแค่สองชุดเท่านั้น ถ้าไม่ได้ก็กลับบ้าน ไม่มีการเล่นต่อ เข้าใจมั้ยยัยเด็กดื้อ!”
“เงียบๆน่า” แก้วหันไปหัวเราะคิกคักใส่เขาก่อนจะหันไปสนใจเกมของเธอต่อ แน่นอนว่าชุดแรก...พลาดตั้งแต่ดอกแรก
“จะได้มั้ยเนี่ย ตุ๊กตาอ่ะ”
“เห็นป่ะ พอนายพูดอ่ะ ชุดแรกฉันพลาดเลย บอกให้เงียบๆคนต้องการสมาธิ” คนต้องการสมาธิหันมาแว้ดใส่เขา เหอะ เขาไม่อยากจะเถียงว่าเจ้าตัว ‘อ่อน’ เองต่างหาก ปากแบบเด็กน้อยอย่างงั้นมันคงจะได้หรอกนะไอ้ตุ๊กตามินนีเม้าส์ที่เธอเล็งไว้น่ะ
“ระวังโดนคนอื่นแย่งมินนี่ไปได้นะ”
แปะ!
“อ้ะ!” ลูกดอกลูกสุดท้ายร่วงหล่นลงมา แก้วร้องอ้ะอย่างเสียดายเพราะมันเป็นลูกสุดท้ายถ้าหากแก้วปาโดนมินนี่เม้าส์ต้องตกเป็นของเธอ
“นั่นไง”
“ทักทำไมเนี่ย เห็นมั้ยพลาดเลย” แก้วโวยวายใส่เขาอย่างอารมณ์เสียแต่โทโมะกลับเอื้อมมือไปคว้ามือเล็กมากุมไว้เพื่อจะลากกลับบ้าน
“ไม่รู้ไม่สน ไม่ให้เล่นแล้ว ไอ้พ่อค้ามันมองเธอไม่เห็นไง ไป...กลับ”
“ก็มองไปดิ โทโมะ...อีกสองชุดได้ป่ะ”
“คราวนี้ยังไงก็ไม่” โทโมะยืนกรานเสียงแข็งไม่ยอมเช่นเดียวกัน
“อยากได้มิกกี้...” ร่างเล็กตอบเสียงอ่อยพลางชำเลืองตามองไปยังตุ๊กตามิกกี้เม้าส์ตัวใหญ่ที่วางอยู่เคียงคู่มินนี่เม้าส์
“เธอต้องพูดว่าอยากได้มินนี่ต่างหาก เพราะเธอรักมัน”
“...”
“เห้อ อยู่นิ่งๆไปเลยนะ” โทโมถอนหายใจยาวอีกครั้งก่อนจะยอมปล่อยมือจากแก้ว แต่...เขาเป็นคนเข้าไปซื้อลูกดอกเอง และพร้อมกับเกมนี้เขาเองที่จะเป็นคนเล่นไม่ใช่แก้ว!
ร่างเล็กยืนมองการกระทำของเขานิ่งๆ โทโมะซื้อลูกดอกมาเพียงชุดเดียว เขาวางมันลงตรงหน้าก่อนจะเพ่งมองทิศทางการปาให้มันไปปักอยู่บนลูกโป่งสักพักก่อนจะคว้าลูกดอกลูกแรกมาปา และแน่นอน...ว่ามันแม่นยำ จากนั้นลูกดอกทั้งห้าก็ถูกทยอยปาจนครบและลูกโป่งก็แตกหมดทุกลูก และตอนนี้ในอ้อมแขนของเขาก็หอบเอามินนี่เม้าส์ตัวใหญ่มายื่นให้ตรงหน้าเธอเรียบร้อยด้วยเวลาเพียงห้านาที
“ปาให้แล้วนะครับ คราวนี้จะยอมกลับบ้านหรือยัง” แก้วเอื้อมมือไปรับตุ๊กตาตัวนั้นมากอดไว้แน่นก่อนจะยอมเดินตามเขากลับบ้านแต่โดยดี
“โทโมะ!” แต่ระหว่างทางเจ้าตัวกลับร้องทักเขาขึ้นมาเสียงดังจนโทโมะต้องหยุดเดิน
“เป็นอะไรเปล่าอ่ะ หน้าซีดๆนะ”
“คือ...แก้ว...แก้วว่าแก้วเป็นวันนั้นอ่ะ ขอไปเข้าห้องน้ำแปปนึงได้มั้ย ไปรอที่รถก่อนนะ”
“ปวดท้องเปล่า เดี๋ยวฉันไปด้วย ใครจะปล่อยให้เธอไปคนเดียวหา”
“ไม่ต้องๆ ฉันไปแปปเดียว ไม่เป็นอะไรมากหรอก อ่ะ...ฝากตุ๊กตาหน่อย” เมื่อเห็นโทโมะตั้งท่าว่าจะไม่ยอม แก้วก็เลยรีบยัดตุ๊กตาใส่มือเขาแล้วรีบวิ่งหนีไปอีกทาง
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
เมื่อเห็นว่าแก้วไปเข้าห้องน้ำนานเป็นปกติเขาก็เริ่มเป็นห่วงกลัวว่าแก้วจะไปเป็นลมเป็นแล้งเพราะปวดท้องอยู่หน้าห้องน้ำก็เลยตัดสินใจออกเดินไปตาม แต่ยังไม่ทันไปถึงทางเข้าห้องน้ำสายตาคมๆก็เหลือบไปเห็นยัยตัวแสบของเขาที่บอกว่าปวดท้องเพราะเป็นวันนั้นแอบไปเล่นปาโป่งอีกครั้ง
“ร้ายกาจนักนะ เดี๋ยวเจอดีแน่ยัยตัวดี” โทโมะชี้ลมเบาๆก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปรอที่รถทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
และรอเวลาจนแก้วกลับมา...
“โทโมะ ไปเหอะ กลับบ้านกัน” เสียงห้าวๆดังขึ้นด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีทำให้โทโมะหันกลับไปทันที หวังจะต่อว่าให้ยัยเด็กขี้โกหกรู้สำนึกที่หลอกเขาให้รอนานแบบนี้
“นี่...!”
“อ่ะ เอาไป”
“อะ...อะไร?” จู่ๆ ยัยเด็กดื้อที่ว่าก็เอาตุ๊กตามิกกี้เม้าท์ตัวที่บ่นว่าอยากได้นักหนามายัดใส่มือเขา แน่นอนว่าโทโมะเองก็งงไม่แพ้กัน
“ก็บอกแล้วว่าอยากได้มิกกี้เม้าท์” พูดได้แค่นั้น แก้วก็ได้แต่ทำหน้าแดงก่อนจะวิ่งหนีเขาขึ้นรถไป
โอเค โทโมะเองก็พอจะรู้แล้วล่ะว่าทำไมแก้วถึงบ่นว่าอยากได้มิกกี้เม้าท์ตัวนั้นนักหนา ที่แท้ก็อยากปาเอามันมาให้เขานี่เอง ความจริงแก้วไม่ได้อยากได้มินนี่เลย เป็นเขาเองนี่แหละที่พยายามยัดเยียดตุ๊กตาตัวนั้นให้เธอโดยไม่ถามแก้วเสียก่อน เขาอึ้งไปพักนึงก่อนจะอมยิ้มออกมาเล็กพลางก้มมองตุ๊กตาในอ้อมแขนสลับกับผู้หญิงที่นั่งอยู่หน้ารถ
“หวานเป็นเหมือนกันเหรอเราน่ะ”
“หวานอะไร เปล๊า...ก็แค่ปาคืนให้ที่นายเอามินนี่มาให้ฉันได้ เดี๋ยวคนแถวนี้จะหาว่าฉันไม่มีฝีมือ” คนไม่ยอมรับยังคงแก้ตัวได้น้ำขุ่นๆ โทโมะเห็นแบบนั้นเลยหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเอื้อมมือไปรั้งใบหน้าเล็กๆเข้ามาใกล้พร้อมกับกดจูบหนักๆเลงบนขมับของอีกฝ่าย
“ปากแข็งจังนะ”
“ทำอะไรเนี่ยยยย!”ถึงปากจะว่าเขาแต่เจ้าตัวกลับหน้าแดงได้อย่างไม่ให้อภัย โทโมะไม่อยากจะถือสานักหรอก เขารู้ดีว่าแก้วป็นคนยังไง ปากแข็ง ไม่ยอมรับความจริง แค่คำว่ารักเขา หวงเขา หึงเขา แค่เนี่ย ไม่เคยจะพูดให้ได้ชื่นใจหรอก
อ่านคั่นเวลาสองสามตอนจบอิอิ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ