FICTION หล่อวายร้ายกับนายน่ารัก [WONKYU]

9.3

เขียนโดย LuckyLovery

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.02 น.

  23 chapter
  1 วิจารณ์
  41.40K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 20.16 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

11) chapter 46 ก๋วยเตี๋ยวหลอดของวอน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

           “เยเย่...ไปรับว่าที่ลูกเขยของนายให้ฉันด้วยนะจ๊ะ”อีทึกส่งเสียงร้องบอกเย ซองให้ไปรับลูกชายให้ด้วยเพราะจะบ่ายโมงแล้ว ก่อนจะยิ้มขำพร้อมยักคิ้วให้ เยซองที่ได้ยินอีทึกเรียกแบบนั้นก็ปลงตก..ขี้เล่นไปมั้ย..เจ้านายเขาน่ะ

           “ครับคุณอีทึก”เยซองรับคำก่อนจะเดินคอตกออกไป อีทึกหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นอย่างนั้น

 

 

 

 

            “หนูเรียวอยากทานอะไรมั้ย พี่จะไปรับน้องอึนจองกับน้องยองซูน่ะ”เยซองเดินมาถึงที่ร้านก็ถามเรียวอุค ที่นั่งทำงานอยู่ ร่างเล็กส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม

             “ไม่ครับ ยังไม่อยากทานอะไรเลย”เยซองพยักหน้ารับ “ขับรถดีๆ นะครับ”เรียวอุคเงยหน้าขึ้นมาบอกอีกครั้ง เบซองส่งยิ้มให้ ก่อนจะย่อตัวลงนั่งตรงหน้าร่างเล็กที่อวบขึ้น

            “ครับผม คุณแม่ก็อย่าหักโหมมากครับ คุณพ่อเป็นห่วง”เรียวอุคยิ้มจนตาหยีก่อนจะโดนเยซองชิงหอมแก้มไปข้างหนึ่งและ ลุกเดินออกจากร้านไป เรียวอุคเม้มปากเล็กน้อย เหลือบตามองก็เห็นมิยองส่งยิ้มให้คล้ายว่าจะแซว เรียวอุคก้มหน้างุดทันที ถึงแม้จะโดนแซวทางสายตาบ่อยเพราะเยซองชอบมาทำหวานใส่ต่อหน้าพนักงาน แต่ก็ไม่ชินเสียที

 

            “คุณเรียวอุคคะ...คุณคยูส่งเมลล์มาให้ใหม่แล้วค่ะ”มิยองบอกเรียวอุคที่นั่ง เอาดอกไม้ปักแจกันอยู่ มิยองยกแม็กบุ๊คมาส่งให้เพราะไม่อยากให้เรียวอุคต้องลุกออกมาเอง มันดูทรมานคนท้องจนเกินไป

             “ขอบคุณครับ”เรียวอุคบอกพร้อมรอยยิ้มหวานจ๋อย ก่อนจะเปิดเมลล์ดู มือเล็กกดโหลดข้อมูลออกมาก่อนจะเปิดดูเนื้อหาข้างในอย่างถี่ถ้วนพร้อมแบบแพลนงานชุดใหม่

 

 

 

 

                     เรียวอุคนั่งอ่านข้อมูลดูแพลนงานและงบประมาณคาดการณ์ที่คยูฮยอนส่งมาให้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แจกันที่ยังจัดดอกไม้ไม่เสร็จถูกดึงออกไปจนต้องเงยหน้าขึ้นมามอง

 

            “อ้าว คุณ...เอ่อ พี่อีทึก”เรียวอุคทักขึ้นเมื่อเห็นคนตรงหน้า อีทึกส่งยิ้มให้ ก่อนจะคว้าดอกกุหลาบขาวมาปักแจกันต่อ

            “ดูอะไรอยู่ หน้ายุ่งเชียว หืม”เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เรียวอุคส่งยิ้มหวานก่อนจะหมุนแม็คบุ๊คไปให้อีทึกดูบ้าง

            “คยูฮยอนส่งงานมาให้ บอกว่าให้จัดการให้ด้วยนะครับ แต่ผมว่า...เหมือนคยูฮยอนจะยังไม่ได้ปรึกษาคุณซีวอนก่อน งานถึงออกมาแบบนี้”อีทึกวางดอกไม้ลงหันมาสนใจงานในแม็คบุ๊คแทน อีทึกไล่สายตาดูงบประมาณที่เรียวอุคเปิดให้ดูก็พยักหน้ารับ

             “คนเพิ่งจะเคยทำงานเป็นครั้งแรก ถือว่าโอเคแล้วล่ะ เพียงแต่ว่าข้อมูลไม่ครบถ้วนเท่านั้นเอง”เรียวอุคพยักหน้ารับตามนั้นเพราะ ปกติซีวอนจะทำให้ตลอด

             “แบบนี้ก็คงต้องให้ไปลองศึกษางานดูก่อน ผมคงทำตามที่เจ้าตัวต้องการไม่ได้”เรียวอุคบอก เพราะต้องการให้คยูฮยอนรู้สึกข้อผิดพลาดของงานจะได้รู้วิธีแก้ไข เขาทำให้ได้ แต่ไม่อยากจะทำเดี๋ยวเจ้าตัวจะทำงานไม่เป็นเสียเปล่าๆ อีทึกพยักหน้ารับยิ้มๆ เพราะเข้าใจเหตุผลของคนตัวเล็ก

             “แล้วพี่ทึกไม่ทำงานแล้วเหรอครับ”เรียวอุคที่เห็นอีทึกหยิบดอกไม้อีกครั้งก็ถามขึ้น อีทึกส่ายหน้า

             “ไม่แล้วล่ะ เสร็จแล้ว ลงมานั่งดูดอกไม้บ้างก็ดี สดชื่น”เรียวอุคยิ้มแผล่ ก่อนจะเลื่อนแม็คบุ๊คออกจากตัวแล้วคว้าดอกไม้มาปักแจกันต่อ ช่วยกันสองคนกับอีทึก

 

 

 

 

 

 

                                       .....................................................

 

 

 

 

 

                      ร่างบางนอนอุดอู้อยู่บนเตียง มีเพียงผ้าห่มผืนหนาปกปิดร่างกายและแขนล่ำๆ ของใครบางคนที่นอนอยู่ข้างหลังพาดเอวอยู่ ก่อนที่เจ้าตัวจะขยับเล็กน้อยเมื่อลมร้อนเป่ารดอยู่ที่ท้ายทอยทำให้รู้สึก จั๊กจี้ขึ้นมา แต่ก็โดนร่างสูงโอบรัดจนแทบจะขยับไม่ได้

 

             “ไม่ไปทำงานรึไง”เสียงหวานเอ่ยงึมงำทั้งที่ไม่ได้หันกลับไปมอง ก่อนจะตะปบมือใหญ่ข้างที่โอบเอวของเขาอยู่เพราะมืออีกข้างมันซนลูบแผ่นหลัง ของเขาที่ผ้าห่มมันล่นลงให้หยุดลูบ

             “อือ...อีกแปบนะ”ร่างบางพยักหน้ารับก่อนจะพลิกตัวกลับมาหาอกอุ่นๆ ของคนข้างกาย

 

 

                     ตากลมลืมขึ้นมองหน้าหล่อของซีวอนที่นอนหลับตาอยู่ทั้งที่ตื่นแล้ว มือเล็กยกขึ้นไล้ไปตามโครงหน้า ก่อนจะโดนจับมือหมับทั้งยังโดนจูบหลังมือและถูกกุมอยู่อย่างนั้น ตาคมลืมขึ้นสบตาคนตรงหน้าก่อนจะยิ้มออกมาและยื่นหน้าเข้าไปจูบที่ริมฝีปาก บางแทนมือที่ยังกุมอยู่

 

            “อรุณสวัสดิ์ครับ”

            “อรุณสวัสดิ์เหมือนกันครับ”ร่างบางตอบกลับ ตอนนี้อะไรๆ มันก็ชนกันหมดแล้ว สงสัยว่าอีกไม่นานคงกลายเป็นพี่น้องท้องชนกันอีกตามเคย

            “ไม่เหนื่อยเหรอ”เสียงทุ้มเอ่ยถามเพราะเห็นว่าคยูฮยอนตื่นแต่เช้าทั้งที่ วันนี้โซอึนก็ไม่ได้อยู่ที่คอนโดด้วย โดนแทคจับไปนอนกอดอยู่ที่บ้านตั้งแต่เมื่อวาน ร่างบางส่ายหน้า

             “แล้วนายไม่เหนื่อยเหรอ”ถามย้อนและก็ได้รับการส่ายหน้าตอบกลับมาเช่นกัน คยูฮยอนยู่ปากเล็กน้อย “ฉันไม่เหนื่อยหรอก แต่โคตรเหนื่อยเลยต่างหาก...นี่...สามคืนติดแล้วนะ”ร่างบางว่า ตอนนี้ก็อยากจะหลับตาลงอีกแล้ว มันล้าไปหมด

             “ถ้าเหนื่อยก็นอนนะ ฉันอยู่นี่แหละ อยู่เป็นเพื่อน วันนี้เข้าสายๆ ก็ได้”ร่างสูงบอกแล้วโอบศีรษะของร่างบางซบอกแกร่งเปลือยของเขา มือใหญ่ลูบไหล่เล็กเบาๆ กล่อมให้หลับอีกรอบ

            “ไม่ดีมั้ง”

            “ดีน่า..นอนไปเถอะ”ร่างสูงบอกแล้วกดจมูกลงกับกลุ่มผมนุ่ม หลับตาลงบ้าง

            “แต่นาย...”เสียงหวานยังคงเอ่ย เพราะรู้สึกว่ามัน...ทิ่มขาเขาอยู่น่ะ

            “ช่างเถอะ อารมณ์ตอนเช้ามันเรื่องปกติไม่ใช่รึไง หลับไปเดี๋ยวก็ลืมเองนั่นแหละ”ร่างสูงบอกเพราะรู้ว่าคยูฮยอนจะพูดอะไร ร่างบางพยักหน้ารับก่อนจะโอบกอดร่างสูงแล้วหลับไปอีกรอบในช่วงเช้านี้ ซีวอนเองก็กัดฟันทนจนหลับไปเช่นกัน

 

 

 

 

                       ตื่นมาอีกที่ก็เกือบสิบโมง คยูฮยอนลุกขึ้นนั่งทั้งที่ผมยุ่งไม่เป็นทรง ดึงผ้าห่มผืนหนาคลุมถึงอกเมื่อซีวอนลุกขึ้นมานั่งโชว์หุ่นอยู่ข้างๆ ร่างสูงหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะจับผมของร่างบางให้เป็นทรง ร่างบางทำท่าจะลุกขึ้นแต่ผ้าห่มก็ตึงจนหน้าคมำจนร่างสูงแทบจะรับไม่ทัน สุดท้ายก็หัวเราะออกมาด้วยกันทั้งคู่

 

            “ไปอาบน้ำกันเถอะ”ร่างบางบอกเมื่อรู้สึกเหมือนว่าเขาสองคนจะโดดงานมานอนหลับสบายอยู่บนเตียงจะครึ่งวันแล้ว

             “........”ร่างสูงไม่ได้พูดอะไร ลุกขึ้นเดินไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำที่นอนกองอยู่ที่พื้นส่งให้ใส่ลวกๆ ไปก่อนและออกไปหาเครื่องดื่มอุ่นๆ มาให้ ก่อนจะนั่งลงปลายเตียง คยูฮยอนลุกออกมาจากเตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ และรับแก้วมาถือ

            “ขอบคุณนะ”

             “แลกกัน”

             “จะดีเหรอ จะเที่ยงแล้วนะ”

             “ล้อเล่นน่ะ ไปอาบน้ำเถอะ”ร่างสูงบอกพร้อมรอยยิ้มเพราะแกล้งไปอย่างนั้นก่อนจะลุกขึ้น คว้าแก้วเปล่าในมือร่างบางออกไปเก็บด้วย ร่างบางมองเล็กน้อยก่อนจะเป็นคนเดินไปคว้าร่างสูงมาซั่มเสียเอง 0.0

 

 

 

 

                     กว่าจะได้ไปทำงานก็เข้าพักเที่ยงของพนักงานพอดี ทั้งสองจึงออกไปหาข้าวกินก่อนเข้าไปทำงาน เพื่อเพิ่มพลังในร่างกายที่เสียไปกับรอบสายอีกหนึ่งรอบ....

 

 

 

                                      ............................................

 

 

 

 

                              คังอินเดินนวยนาดเข้ามาในห้องนอนก่อนจะมองคนที่นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงาน ตัวเล็กแล้วกระตุกยิ้ม...ยังไงเสียวันนี้...เขาต้องเผด็จศึกเมียให้ได้

 

            “ที่รักครับ น้ำส้มอร่อยๆ”อีทึกเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะรับแก้วมาวางลงบนโต๊ะข้างโน๊ตบุ๊ค ของตัวเอง คังอินเม้มปากเล็กน้อยก่อนจะย่นจนยู่ยี่ลับหลัง

            “นอนก่อนก็ได้นะ พี่ทำงานอีกแปบนึง”อีทึกบอกร่างหนาที่ยืนค้ำหัวอยู่ คังอินนั่งลงกับพื้นข้างๆ เพราะอีทึกเอาโต๊ะตัวเตี้ยมากางกับพื้น ไม่ได้นั่งโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่อยู่อีกมุมหนึ่ง

             “เอกสารพวกนี้ ไม่ใช่งานที่โรงแรมหรือที่บริษัทนี่ครับ”คังอินถามขึ้นเมื่อนั่งมองเอกสารบนโต๊ะ อีทึกพยักหน้ารับ

              “อืม...ของคยูฮยอนน่ะ พี่ลองเอามาแก้ดู”อีทึกบอกเพราะเขาจะส่งกลับไปให้น้องสะใภ้ศึกษาดู ให้เจ้าตัวลองเอาไปเทียบดูว่างานของตัวเองกับของเขามันต่างกันตรงไหน คังอินหยิบแพลนงานมากางออกดูก็กระพริบตาปริบๆ

              “จะต่อเติมร้านเหรอครับ”อีทึกพยักหน้ารับ

              “ใช่...แต่ว่าถ้าขยายไปด้านข้างอย่างเดียวมันทำไม่ได้เพราะเราไม่ได้มี พื้นที่เยอะมากขนาดนั้น แต่จะต้องเพิ่มตัวอาคารให้เป็นสองชั้น เหมือนว่าน้องมันจะคำนวณพื้นที่มาผิด แบบมันก็เลยผิดทั้งหมด”อีทึกบอก คังอินพยักหน้ารับเข้าใจ

              “ก็น่าจะคำนวณผิดอยู่หรอกครับ ถึงแม้จะรู้ว่าร้านตัวเองพื้นที่สัดส่วนเท่าไร แต่น้องมันไม่ได้มาเดินสำรวจก่อนสร้างแบบขึ้นมา”คังอินว่า อีทึกเห็นด้วยกับคำพูดนั้น

              “เอ๊ะ...แต่น้องมันแพลนตัวเก่าอยู่นี้ สัดส่วนพื้นที่มันก็ต้องมีบอกว่าเหลือเท่าไร ต่อเติมได้แค่ไหน สงสัยว่าคงลืมดูล่ะมั้ง”คังอินพยักหน้ารับหงึกหงัก

             “แล้วเราล่ะครับ...สัดส่วนมีอยู่แค่ตรงนี้”มือหนาชี้ไปบนเตียง “เราก็ต้องรู้ว่าต่อเติมได้แค่ไหน...จากที่ผมทั้งวัดพื้นที่ และเดินสำรวจอยู่นานสองนาน...ผมว่า...พื้นที่ยังเหลืออีกเยอะเลยครับ”ว่าจบ ก็ลุกขึ้นอุ้มอีทึกจนตัวลอย

             “เฮ๊ย คังอิน ปล่อยพี่น่ะ”อีทึกร้องบอกอย่างตกใจ มือบางเกาะแขนอวบแน่น

             “ผมก็ต้องมีแพลนเอาไว้แล้ว ผมคาดว่าแพลนของผมมันคงถูกทุกตารางนิ้ว พี่ว่ามั้ยครับ...เอ...รึว่ามันจะผิดทั้งหมดนะ...งั้นผมขอสำรวจอีกทีก็แล้ว กันนะครับเพื่อความมั่นใจ ถ้ามันถูกต้องแล้ว เราก็อาจจะได้ผลผลิตที่ดีออกมา กลายเป็นกำไรของชีวิต ธุรกิจของเราจะได้ยั่งยืน”คังอินบอกจบก็วางอีทึกลงบนเตียงนุ่มและกดข้อมือ เอาไว้ไม่ให้ลุกขึ้น

             “คังอิน ไม่เอาน้า ไม่ต้องมาสำรวจเลย มันถูกทุกตารางนิ้วอยู่แล้ว ไม่ต้องสำรวจแล้ว ตอนนี้กำไรชีวิตก็มีแล้ว ธุรกิจก็ยั่งยืนแล้ว”อีทึกบอกปฏิเสธ คังอินหัวเราะคิก

            “พี่แน่ใจได้ยังไงครับว่ามันจะยั่งยืนได้ตลอด ผมว่านะ...หาคนมาช่วยทำธุรกิจจะดีกว่าเนาะ เราจะได้มีเวลาพักผ่อนบ้าง ยองซูคนเดียวคงดูแลได้ไม่หมด เดี๋ยวลูกจะเหนื่อย”อีทึกอ้าปากค้าง สุดท้ายก็นอนแผ่ไม่เป็นท่าอยู่บนเตียงให้หมียักษ์ลวนลาม

             “อื้อ คังอิน...”เสียงครางเครือของอีทึกเรียกชื่อร่างหนาออกมาเบาๆ เมื่อโดนมือกระตุ้นจนขนหดหมดแล้ว “คังอิน พี่ยังทำงานไม่เสร็จ”ร้องบอกเมื่อเสื้อถูกถกขึ้นไปจนใกล้จะหลุดออกมา

             “ไว้ค่อยทำก็ได้ครับ งานน่ะทำเมื่อไรก็ได้ แต่ต้องทำการบ้านส่งครูก่อนนะครับ”คังอินว่าแล้วส่งยิ้มหื่นไปให้ อีทึกเบ้ปากทันที

             “ครูไม่ได้สั่งการบ้าน ไม่ต้องทำล่วงหน้า อื๊อ....ยองอ้วน!!”อีทึกเรียกก่อนที่มือจะตะปบเข้าที่ไหล่หนา

             “ยองอ้วนอีกแล้ว...งั้นพี่ก็ช่วยผมลดน้ำหนักหน่อยนะครับ”ว่าพร้อมเสียง หัวเราะหื่นเหมือนหน้าตาในตอนนี้ อีทึกเหวอที่โดนคังอินเล่นซะทุกเม็ดไม่ว่าจะพูดอะไรออกไปถูกลากเข้าเรื่อง ขึ้นเตียงตลอด

             “บะ..บ้า อื้อ”ยังไม่ทันได้พูดอะไรมากกว่านั้นก็โดนสำรวจทุกซอกทุกมุมเสียก่อน.......

 

 

 

 

 

 

                                                  ............................

 

 

 

 

 

                      ร่างบางนั่งอ่านหนังสือวิจัยที่ไปยืมมาจากห้องสมุดของมหาวิทยาลัยหน้ายุ่งจน ชเว ซีวอนต้องลุกออกจากห้องทำงานไปเงียบๆ เพื่อไปหาอะไรอุ่นๆ ให้ดื่มแก้เครียด กลับมาอีกทีคยูฮยอนก็ฟุบหลับกับโต๊ะไปเสียแล้ว ร่างสูงยกยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะเดินไปสะกิดไหล่เล็ก

 

             “คยู...ดื่มโกโก้หน่อยสิ่”ร่างบางเงยหน้าขึ้นมาคิ้วขมวดมุ่นเพราะกำลังพักสายตาอยู่

             “หือ”ร่างสูงส่งแก้วให้ ร่างบางมองเล็กน้อยก่อนจะรับมาดื่ม

             “ขอบคุณนะ”รอยยิ้มที่ร่างสูงส่งให้ทำให้คยูฮยอนยิ้มตาม

             “อย่าเครียดนักสิ่ เดี๋ยวงานไม่เดินนะ อ่านไปเรื่อยๆ ไม่เข้าใจก็ถามฉันก็ได้”คยูฮยอนพยักหน้ารับและดื่มโกโก้ให้หมดแก้ว

             “บางที....ก็ขี้เกียจ”ร่างบางว่าก่อนจะหัวเราะออกมา ร่างสูงอดหัวเราะตามไม่ได้ มือใหญ่วางที่ไหล่เล็กบีบเบาๆ คล้ายจะนวดให้คลายออก

             “ขี้เกียจก็พัก”ร่างสูงบอกก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน หยิบแม็กบุ๊คมาส่งให้ “นั่งเล่นเกมให้หายเครียดสักสองชั่วโมงแล้วค่อยว่ากันใหม่”คยูฮยอนส่ายหน้า ก่อนจะลุกไปลากเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของร่างสูงมาตั้งข้างกัน

             “นายก็นั่งลง”ว่าแล้วกันดันร่างสูงให้นั่งลงก่อนที่ตัวเองจะนั่งข้างกัน เปิดแม็กบุ๊ครอซักพักก็จัดการเปิดไฟล์งานที่ตัวเองทำค้างไว้ให้ร่างสูง จัดการต่อ ซีวอนมองตามด้วยความงง “ฉันส่งให้เรียวอุคดูแล้ว มันมีข้อผิดพลาดเยอะ เพราะฉะนั้น หน้าที่ของนายคือ....สอนงานฉัน โอเค๊”เลิกคิ้วขึ้นว่าโอเคมั้ยทำให้ร่างสูงต้องพยักหน้ารับ

             “อันนี้เหรอ”มือใหญ่เลื่อนเม้าส์ไปเรื่อยๆ คยูฮยอนพยักหน้ารับ

             “ส่วนอันนี้พี่ทึกส่งมาให้เมื่อเช้า”ว่าแล้วก็เปิดไฟล์ออกมา ร่างสูงไล่สายตาอ่านดู

             “ที่จริง ฉันรู้ว่านายทำได้อยู่แล้วนะ ที่พี่ทึกส่งมาคือข้อมูลที่ให้เปรียบเทียบว่ามันต่างกันยังไง ลองเอามาปรับดู”

             “ก็ใช่...แต่ฉันยังไม่เคยทำงานพวกนี้เองเลยนะ นายก็สอนฉันสิ่”ซีวอนหลุดขำออกมา

             “ครับผม งั้นอธิบายเลยนะ”ร่างบางพยักหน้ารับ ก่อนจะตั้งใจฟังที่ซีวอนกำลังสอนงานให้ เปรียบเทียบระหว่างงานของเขากับของอีทึกที่แก้มาให้ดู

 

 

 

                      เลขาหน้าห้องที่เปิดประตูแง้มเข้ามาเงียบๆ เห็นเจ้านายกับศรีภรรยานั่งหันหลังให้ประตูกุ๊กกิ๊กกันอยู่สองคนก็เคาะ สามครั้งทำให้ร่างสูงสะดุ้งเล็กน้อยเพราะมัวแต่เนียนโอบเอว แต๊ะอั๋งเมียอยู่ก็รีบปล่อยมือออกหันไปมองที่ประตู

 

             “มีเอกสารที่คุณชินดงฝากมาให้น่ะค่ะ”ร่างสูงพยักหน้ารับ ลุกขึ้นไปรับมาทำต่อ

             “ขอบคุณครับ”ส่งยิ้มให้เป็นการขอบคุณอีกครั้ง เธอส่งยิ้มกลับพรางมองทั้งสองด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนออกไป ร่างสูงจึงเดินกลับมาทำงานของตัวเองต่อ

             “นายทำงานให้คุณอาก่อนเถอะ ที่เหลือฉันจัดการเอง”ที่ว่าจัดการเองคือจัดการตัวร้ายในเกมส์ที่นั่งเล่นมา เกือบชั่วโมงแล้วหลังจากที่ซีวอนสอนงานทั้งหมดให้ได้เข้าใจ

             “ครับคุณนายเล็ก”ร่างสูงรับคำ คยูฮยอนยู่ปากส่งให้ที่โดนเรียกอย่างนั้น

             “ไปทำงานได้แล้วครับคุณชายเล็ก”

             “แต่อย่างอื่นไม่เล็กนะ”

             “ทะลึ่ง!!”

             “รึไม่จริง”

            “จริง!!”สรุปสุดท้ายก็หัวเราะกันเอง ก็แน่ล่ะ...มีแต่เรื่องเครียด ไม่มีอะไรช่วยให้ขำได้มากกว่าเรื่องทะลึ่งตึงตังแบบนี้แล้วล่ะเวลานี้

 

 

 

 

                        แทคยอนพาโซอึนมาส่งที่ห้องทำงานของซีวอนเพราะวันนี้คุณยายไม่อยู่ในช่วงบ่าย ทำให้ต้องมาอยู่ที่โรงแรม ยัยตัวเล็กที่เห็นร่างบางก็รีบเดินเข้าไปหาพร้อมกับกอดหมับจนร่างบางต้องอุ้มขึ้นนั่งตัก

 

             “แต๊งค์กิ้วน้องรัก”

             “ไม่เป็นไรพี่...ผมถือคติ”ร่างสูงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงง

             “คติไรของแกวะแทคยอน”

             “อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย เลี้ยงลูกท่านให้เหมือนควายเอาไว้ขี่เล่น”ว่าจบก็หัวเราะร่าเดินออกไปอย่าง อารมณ์ดี ร่างสูงยังยืนขมวดคิ้วอยู่ที่เดิมพอคิดได้ก็เดินไปเปิดประตูผลัวะ ส่งลูกบอลพาสติกในมือเข้าเป้าด้วยความแม่นยำ

            “โอ๊ย!!”เสียงของแทคยอนดังขึ้น คราวนี้กลายเป็นซีวอนที่หัวเราะสะใจ

             “แกก็เหมือนควายที่โง่ให้ฉันเอาลูกบอลปาโดนหัวว่ะ”ร่างสูงว่าจบก็หัวเราะร่า เปิดประตูเข้าห้องทำงานไป แทคยอนได้แต่ฟึดฟัดที่โดนเอาคืน แต่ก็ไม่ได้ถือโทษโกรธเพราะเขากับซีวอนชอบเล่นกันแบบนี้ประจำอยู่แล้วถึงแม้ จะรู้จักกันได้ไม่ถึงสองปีก็ตาม แต่พวกเขาก็สนิทกันพอสมควร

 

 

 

                   แทคยอนส่ายหน้าขำตัวเอง ยังดีที่เลขาของซีวอนไม่อยู่ที่โต๊ะทำงานไม่งั้นคงโดนขำเป็นแน่...มองซ้าย มองขวาไม่เห็นใครก็ลอบยิ้มกับตัวเองที่ไม่ต้องอายใครก่อนจะรีบกลับไปทำงาน ของตัวเองบ้าง

 

             “คุณแม่...โซอึนอยากทานไอติม ค่ะ”ร่างบางเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ

             “หิวเหรอลูก”ยัยตัวเล็กส่ายหน้าก่อนจะส่งโบชัวร์ที่แทคยอนหยิบมาให้ส่งให้ร่างบางดู

             “คุณน้าให้โซอึนค่ะ”ร่างบางพยักหน้ารับ ก่อนจะไล่ดูรายละเอียด โปรโมชั่นนี่เองแทคยอนถึงให้มา คยูฮยอนส่งยิ้มให้ลูกสาวก่อนจะอุ้มลงจากตักและลุกขึ้นยืน

            “ถ้าอยากทานไอศกรีมก็ต้องบอกป่ะป๊านะคะ...ป่ะป๊าจะได้รีบทำงานให้เสร็จแล้ว พาน้องโซอึนไปทานไอศกรีม”ร่างบางพูดขึ้นเหมือนเป็นเชิงบอกคนที่เพิ่งจะเข้า มานั่งทำงานเมื่อครู่ให้รีบเพราะลูกสาวอยากกินไอศกรีม

             “ตามใจกันนัก โซอึนถึงได้เอาแต่ใจไง”ซีวอนพูดขึ้น ร่างบางถลึงตามใส่เท่านั้นร่างสูงก็หัวเราะออกมาเพราะร่างบางรู้ว่าตัวเอง กำลังโดนย้อน เมื่อก่อนร่างบางก็ว่าเขาแบบนี้

             “พูดเหมือนนายไม่ทำ...อย่ามาพูดนะ ยิ่งกว่าฉันอีก”ว่าแล้วก็ไปนั่งตรงหน้าอุ้มโซอึนมานั่งตักอีกครั้ง ก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยกันทั้งคู่ ซีวอนตามใจทุกอย่างไม่ว่าอยากได้อะไร แต่คยูฮยอนไม่ใช่...ร่างบางจะตามใจเป็นบางเรื่องเท่านั้นจนบางทีโซอึนก็ ร้องไห้จนไปฟ้องซีวอนก็บ่อยครั้งว่าคุณแม่ไม่ซื้อนู่นนี่ให้จนอดขำไม่ได้ เกือบทุกครั้ง ก็ในเมื่อคุณย่าอุส่าแก้นิสัยมาให้แล้ว จะให้เหมือนเดิมก็กลัวยัยตัวเล็กจะเอาแต่ใจจนติดนิสัยดื้อเหมือนครั้งก่อน อีก

            “ปาป๊า”เสียงเรียกของโซอึนทำให้ร่างสูงต้องหันไปมอง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเมื่อยัยตัวเล็กยื่นโบชัวร์ที่ส่งให้ร่างบางดูเมื่อครู่ ให้ดูบ้าง

             “ครับๆ ป่ะป๊าจะรีบทำงานแล้วพาน้องโซอึนไปทานไอศกรีมเดี๋ยวนี้เลยครับคนสวย นั่งรอแปบนึงนะลูก”ร่างสูงบอกแล้วคว้าแฟ้มที่ชินดงส่งมาให้ไปตรวจทานอีกรอบ โซอึนหันมองหน้าร่างบางตาโตก่อนจะยิ้มหวานให้กัน  

 

 

 

 

                                   ........................................

 

 

 

 

                       ช่วงดึกระหว่างที่นั่งดูหนังกันอยู่สองคน ทำให้ร่างบางสะดุ้งหลายครั้งเพราะคนข้างตัวที่เอาแต่แอบอยู่ข้างหลังเขา เดี๋ยวก็กระตุกชายเสื้อเดี๋ยวก็หลับตาปี๋จนร่างบางรำคาญ

 

            “อะไรของนายเนี่ย ออกไปสิ่”เสียงหวานงุ๊งงิ๊งใส่เสียงเบาเพราะกลัวว่าจะทำให้โซอึนที่นอนหลับไปแล้วตื่นขึ้นมา

            “เปลี่ยนหนังสิ่ ไม่อยากดูแล้ว”ร่างสูงบอก

            “ไม่!!...ก็บอกแล้วว่าไม่อยากดูก็กลับเข้าไปนอน จะออกมานั่งทำไม”คยูฮยอนว่าคิ้วขมวดก่อนจะดันตัวยักษ์ออกให้ห่าง แต่ก็โดนกอดหมับอีก

            “ก็นายทำให้ฉันไม่กล้านอนคนเดียวนิ่”ร่างสูงว่าก่อนจะเบ้ปากออกเล็กน้อย

            “ก็แล้วใครใช้ให้มานั่งดูตั้งแต่ทีแรก...กลัวอะไร ผีเนี่ยเหรอ”ร่างบางเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ ร่างสูงยู่หน้าจนไม่น่ามอง

            “อย่าพูดสิ่ บอกกี่ทีแล้วว่าให้เรียกก๋วยเตี๋ยวหลอด”

           “ - -‘ เออ จะเรียกอะไรก็เรื่องของนายเถอะ แล้วจะกลัวทำไม มันแค่หนังนะ ไม่ใช่...ของจริง!!”ร่าง บางหันหน้าพรึ่บไปหาพร้อมกับแลบลิ้นตาเหลือก ร่างสูงมองตาค้างขาแข้งแข็งขยับไม่ได้ จนร่างบางหลุดขำออกมา “นายมันติงต๊องอ่ะซีวอน”ว่ากลั้วหัวเราะก่อนจะลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำปล่อยให้ ร่างสูงนั่งอยู่คนเดียวหันซ้ายแลขวา

 

 

 

                      นั่งอยู่คนเดียวก็เอาหมอนปิดหน้าไม่กล้าดูจอโทรทัศน์ข้างหน้ามากกว่าการแอบ มอง พอผีโผล่จะเอาหมอนอุดปากไม่ให้ร้องออกมา จนสุดท้ายคนที่เดินย่องมาข้างหลังตบผลัวะเข้าที่บ่ากว้างพร้อมกับผีที่ โผล่ออกมาแบบไม่ทันตั้งตัวในจอสี่เหลี่ยมจนร่างสูงร้องลั่นห้องด้วยความตกใจ

 

            “อ๊ากกกกกกกกก....อุ้บ 0.0”ครัวซองในจานอุดคาปากกว้างด้วยฝีมือของร่างบางเพราะเกรงว่าลูกจะตื่นเพราะเสียงพ่อมันร้อง

            “เฮ้ย ช็อคไปแล้วรึไง นี่...”ร่างบางร้องเรียกทั้งสะกิดไหล่กว้าง ร่างสูงเหลือบตามองด้วยสีหน้าจะร้องไห้ คยูฮยอนแทบจะกลั้นขำไม่อยู่

            “คยูฮยอน”เรียกเสียงสั่นคล้ายจะร้องไห้ออกมา เจ้าของชื่อหัวเราะคิกก่อนจะปิดโทรทัศน์แล้วโผเข้ากอดร่างสูงเอาไว้

            “โอ๋ๆๆๆ ไม่ต้องกลัว ฉันล่ะไม่เข้าใจนายจริงๆ มันก็แค่หนังเองนะ”มือเล็กลูบหลังกว้างเบาๆ ปลอบประโลมก่อนจะผละออกเอาผ้าเช็ดปากให้เพราะเศษครัวซองที่เขายัดปากร่างสูง เมื่อครู่มันยังติดอยู่

           “จะหนังหรือไม่ใช่หนัง คนกลัวน่ะ มันก็กลัวได้ทั้งนั้นแหละ ใจร้ายชะมัด รู้ว่ากลัวยังแกล้งกันอีก”ร่างสูงงึมงำเสียงน้อยใจ คยูฮยอนส่ายหน้าขำ

           “ฉันไม่ได้ใจร้าย แต่นายต่างหากที่ตัวติดฉันออกมาดูเอง ฉันเตือนนายแล้วนะว่าให้นอนก่อน”ร่างบางว่าแล้วลุกขึ้นจะเอาจานและแก้วไป เก็บ แต่ก็โดนร่างสูงกอดเอวเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

           “ไม่ให้ไป”

           “นี่ซีวอน นายโตแล้วนะไม่ใช่เด็กๆ อะไรของนายเนี่ย ฉันจะเอาจานไปเก็บจะได้ไปนอนซะที”ร่างบางแกะแขนล่ำที่โอบเอวจนแน่นออก แต่ซีวอนก็ไม่ยอมปล่อยและลุกขึ้นเกาะร่างบางเข้าครัวไปด้วย

 

 

 

 

            “ไปอาบน้ำสิ่ จะนอนเลยเหรอ”ร่างสูงพยักหน้ารับ กระโดดขึ้นเตียงฉับดึงผ้าห่มตัวเองเสร็จเรียบร้อย ร่างบางส่ายหน้ายิ้มๆ “ซกมกจริงๆ งั้นหลับไปก่อนก็แล้วกัน ฉันจะไปอาบน้ำ”ร่างบางบอกแล้วรีบเดินออกไปอาบน้ำเพราะดึกมากแล้ว

            “คยู...”คยูฮยอนหันมาตามเสียงแล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “เร็วๆ นะ”พยักหน้ารับก่อนจะรีบออกไปพร้อมรอยยิ้ม เท่านั้นชเว ซีวอนก็ดึงผ้าห่มจนคลุงโปงมิดศีรษะทันที

 

           “ติงต๊องจริงชเว ซีวอน กลัวผีจนไม่กล้าอาบน้ำ”ร่างบางพูดงึมงำคนเดียวขำๆ ก่อนจะเปิดน้ำอาบให้สบายตัว

 

 

 

                                               ..................................

 

 

 

 

 

                       ซองมินเดินเปรี้ยวเข้ามาหาฮยอกแจในบ้านก่อนจะนั่งลงโซฟาอย่างไม่ต้องรอให้เจ้าของบ้านรับเชิญ

 

             “ต่ายอวบ วันนี้แกไม่มีลูกเหรอ”ฮยอกแจถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเดินตัวปลิวมา

             “ไม่อ่ะ วันนี้ไม่มีใครรัก หนีไปเที่ยวกันหมด”ฮยอกแจขำออกมา ก่อนจะจับให้แจอินนอนราบไปกับเบาะนุ่ม และตัวเองก็นั่งเฝ้าอยู่ที่พื้นอย่างนั้น ซองมินจึงลงมานั่งข้างล่างด้วย “ฮันไม่อยู่เหรอ”ฮยอกแจส่ายหน้า

             “ใช้ให้ออกไปซื้อของนิดหน่อย แล้วนี่วันนี้ไม่ทำงานรึไง มาเที่ยวแบบนี้ได้”ซองมินส่ายหน้า

             “ไม่อ่ะ พี่ฮีชอลยังไม่ให้เข้าทำงานเลย นี่ไอ้ไก่...ฉันว่า เราสองคนลากไอ้เตี้ยมันไปเที่ยวกันมั้ย”ซองมินออกความคิดเห็นเพราะเพื่อนยัง อยู่ในห้วงอารมณ์เศร้ากับเรื่องราวชีวิตครอบครัวที่ยังไม่กลับคืนสู่สภาพ เดิม

             “ทำไม?”ถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจเพราะถ้าไปตอนนี้ฮันคยองคงไม่ยอมเพราะเป็นห่วง แจอินก็ยังเล็กจะปล่อยให้ไปตากแดดตากลมกับเขาคงไม่ยอมเป็นแน่

             “มันเครียดน่ะ พาไปคลายเครียดหน่อย”ฮยอกแจพยักหน้ารับรู้ ซองมินเห็นอย่างนั้นก็เลิกคิ้วขึ้น

             “ว่าไง จะไปไม่ไป พยักหน้าเนี่ยหมายความว่าไง”

            “เบาหน่อยอิอวบ เดี๋ยวลูกฉันตื่นพอดี”ฮยอกแจว่า ซองมินยู่ปาก “อีกซักเดือนได้มั้ย ช่วงนี้ฮันไม่ให้ออกไปไหนแน่ๆ อีกอย่าง แจอินยังเล็กอยู่เลย ยังไม่อยากพาออกไปตากแดดตากลมว่ะ”ซองมินพยักหน้ารับ

            “ตามนั้นก็ได้ นี่นั่งดีๆ หน่อยสิ่เพื่อนไก่ อะไรโผล่ออกมาหมดแล้ว”ซองมินว่าเมื่อเห็นเพื่อนนั่งยกขาจนกางเกงขาสั้นที่ ใส่อยู่มันล่นลงจนถึงต้นขาขาว ฮยอกแจเบ้หน้า

            “กางเกงซับเว้ย ช่วงนี้ไม่อยากใส่ขายาว ต้องใส่ข้างในหน่อย ไม่ใช่อย่างที่แกคิดแน่นอน”ฮยอกแจว่าเพราะช่วงนี้อะไรๆ มันก็ยังอยากจะตามใจตัวเอง ปล่อยตัวให้สบายเล็กน้อย เพราะไม่ได้ออกไปไหนอยู่แล้ว

            “หรา...............น่าเชื่อ”ซองมินว่าแล้วกลั้นขำ ฮยอกแจถลึงตาใส่

            “ลิงที่ไหนจะยาวลงมาขนาดนั้น คิดป่ะเนี่ย คิดๆๆๆ เตี้ยอวบคิดนิสสสสนึง ไม่ใช่แกนะใส่ลิงยานอ่ะ 5555+”ฮยอกแจว่า ซองมินกัดริมฝีปากกระพรือจมูกพรึ่บๆ - -

           “เฮ้ย ยานที่ไหน.....แค่ขาดกะเอวยืด”

            “5555+ทุเรสสสสสอ่ะ”ฮยอก แจหัวเราะอย่างชอบใจกับซองมินสองคนจนลืมลูกหลานที่นอนหลับสบายอยู่ จนเจ้าตัวเล็กเบะปากร้องงอแงถึงได้หยุด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังขำกันเองไม่หาย

 

 

 

 

 

 

..........................................................................................................

 

            

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา