FICTION หล่อวายร้ายกับนายน่ารัก [WONKYU]

9.3

เขียนโดย LuckyLovery

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.02 น.

  23 chapter
  1 วิจารณ์
  41.42K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 20.16 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

10) chapter 45 ผ่างงงงงงงง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

                    กลับบ้านมาก็ส่งลูกเข้านอนแต่หัวค่ำเพราะเจ้าตัวเหนื่อยจากการไปเที่ยวมา ร่างบางก็ได้เวลาเข้าไปอาบน้ำพักผ่อนบ้าง แต่เหมือนว่าอะไรๆ จะยังไม่เข้าที่เข้าทางเมื่อสามียืนรออยู่หน้ากระจก

 

            “หือ?”ร่างบางส่งเสียงเบาๆ เมื่อซีวอนขยับเข้ามาใกล้ก่อนจะจูบลงที่มุมปาก มือก็ไล่ไปตามสาบเสื้อวนเวียนอยู่แถวอก เท่านั้นร่างบางก็รู้ทันทีว่าต้องการอะไร

            “ได้มั้ย?”คยูฮยอนไม่ได้ตอบ และก็ยอมให้ร่างสูงได้ลูบอยู่อย่างนั้น ทั้งยังจูบตอบ มือใหญ่ไล่ไปตามเนื้อผ้าบางขึ้นไหล่เล็กและวนอยู่แถวๆ อกของร่างบางอยู่อย่างนั้น คยูฮยอนยืนนิ่งมือเล็กจับแขนแข็งแรงของร่างสูงเอาไว้

 

 

                   ร่างสูงดันร่างบางให้นั่งลงบนเตียงทั้งที่ปากยังคงทำหน้าที่ดูดคลึงริมฝีปาก นุ่มก่อนจะผละออกและขยับเข้าไปสูดดมกล่นหอมอ่อนๆ ที่ลำคอขาว มือที่เคล้นยอดอกอยู่ถอนออกประคองหน้าหวานขึ้นรับจูบอีกครั้ง

 

              “อืม...”ร่างบางส่งเสียงครางอืมอย่างพอใจ สติเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ร่างกายเริ่มอ่อนไปตามแรงชักจูงของอีกคน

 

 

                     สลับสับเปลี่ยนทั้งจูบทั้งมือไม้ก็ยังไม่ห่างจากอกบางที่เริ่มบ่งบอกว่า เริ่มมีอารมณ์ร่วมกับคนที่สร้างอารมณ์ให้อยู่ ลิ้นร้อนแทรกสอดเชยชิมกันและกันอยู่อย่างนั้น เสื้อนอนตัวบางเริ่มเลิกขึ้นเล็กน้อย เมื่อร่างสูงทำท่าคล้ายว่าจะถอดมันออก แต่ก็ยังค้างไว้อย่างนั้น มือใหญ่ประคองหน้าหวานอีกครั้ง ถอนปากออกและจูบไปตามผิวขาวบางเบา สอดมือเข้าไปตามไรผมลูบไล้เบาๆ ให้ร่างบางได้ขนลุกซู่

 

              “อือ....ซีวอน”เสียงหวานเอ่ยเรียกเมื่อร่างสูงยังคงลูบไล้ไปมาไม่หยุด

               “........”ไม่มีเสียงสวรรค์ตอบออกมาให้ได้ยิน

                                       

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                      คยูฮยอนนั่งคุยกับเรียวอุคผ่านเว็ปแคมนั่งหัวเราะคิกคักกันอยู่สองคน จนคนที่นั่งทำงานอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมองเมื่อเห็นร่างบางยิ้มไม่หุบ

 

               “อีกกี่เดือนครับเรียว”

               “เกือบๆ สี่เดือนน่ะคยู จะกลับมาเหรอ”เรียวอุคถามพรางมองคนตรงข้ามด้วยหน้าตายิ้มแย้ม ร่างบางยู่หน้า

              “ไม่รู้สิ่ ถ้ากลับได้จะกลับนะ คิดถึง อยู่นี่เหงามากเลย”ร่างบางบอกเพราะมีบ้างที่อยากมีเพื่อนคุยเหมือนตอนที่ อยู่ที่เกาหลี เรียวอุคส่งยิ้มให้

              “เห็นคุณซีวอนบอกว่าคยูทำธีสิสอยู่ใช่มั้ย งั้นก็ตั้งใจทำให้เสร็จเร็วๆ ก็ได้กลับบ้านเร็วแล้วไง...นะ”บอกพร้อมรอยยิ้มหวาน คยูฮยอนพยักหน้ารับ “ว่าแต่อ้วนขึ้นใช่มั้ยเนี่ย”พอเรียวอุคทัก ร่างบางก็จับหน้าตัวเองทันที

              “เห็นชัดเลยเหรอ พยายามลดแล้วนะเนี่ย”ว่าแล้วก็ลูบหน้าไปมา เรียวอุคยิ้มขำเมื่อได้ยินสิ่งที่ซีวอนแซวออกมาจนเสียงลอดเข้าไมค์มาได้

              “ลดก็เหมือนไม่ลด อ้วนจนขาพาดคอหักแล้ว”สิ้น เสียงก็โดนร่างบางขว้างตุ๊กตาที่กอดอยู่ใส่อย่างเต็มเหนี่ยว ถึงซีวอนจะพูดถูกก็เถอะ...จะว่าไปกินเท่าไรมันก็ออกสะโพกจนก้นใหญ่ ต้นขาใหญ่หมดแล้ว

              “หุบปากไปเลยชเว ซีวอน ใครกันล่ะที่ดันทำอาหารอร่อย ฉันก็กินสิ่”คนที่ได้ยินทั้งสองคนหัวเราะออกมาอย่างพร้อมเพรียง เรียวอุคส่งยิ้มให้อีกครั้งเมื่อร่างบางหันมา

               “ทานไปเถอะครับคยู ไม่ได้อ้วนซะหน่อย แค่อวบน่ะ กำลังดี”ร่างบางยกยิ้มอย่างพอใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น

               “เรียวอุคพูดถูก ไม่ได้อ้วนซะหน่อย”พูดทั้งที่หันหน้าไปแลบลิ้นใส่ร่างสูงที่นั่งมองอยู่ ซีวอนหัวเราะออกมาเบาๆ

               “น้องโซอึนไม่อยู่เหรอคยู”ร่างบางเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ ก่อนจะยิ้มออกมา

              “อยู่กับแทคน่ะ อีกซักพักน่ะคงมา.....อ้าว มาพอดีเลย”ร่างบางว่าไม่ทันจบ เสียงเคาะประตูห้องทำงานก็ดังขึ้นพร้อมกับแทคที่พาโซอึนมาส่งหลังจากกินข้าว เสร็จแล้ว “โซอึนมานี่ลูก พี่เรียวอยากเจอค่ะ”ร่างบางขวักมือเรียกโซอึนที่หน้าประตูหลังจากร่ำลากับแทคแล้ว

               “ค่ะ คุณแม่”เสียงสดใสของโซอึนทำให้เรียวอุคที่ได้ยินยิ้มออกมา

               “พูดคล่องแล้วเหรอครับ”ร่างบางพยักหน้ารับ ก่อนจะอุ้มโซอึนขึ้นนั่งตักให้เรียวอุคเห็นหน้า

              “โซอึน หนูจำพี่เรียวได้มั้ยลูก”โซ อึนมองหน้าร่างบางก่อนจะส่ายหน้า คยูฮยอนส่งยิ้มให้เพราะรู้ว่าคงจำไม่ได้เป็นแน่ เพราะโซอึนยังไม่เคยกลับเกาหลีเลยตั้งแต่ย้ายมาอยู่อเมริกา ตอนมาก็ยังจำความไม่ได้

              “สวัสดีค่ะน้องโซอึน”เรียวอุคทักทายก่อนจะโบกมือให้ โซอึนที่เห็นอย่างนั้นก็ยิ้มหวานออกมาและโบกมือกลับ “พี่ชื่อเรียวอุคนะคะ เป็นเพื่อนกับคุณแม่คยู”เรียวอุคแนะนำตัวใหม่เพราะรู้ว่าหลานต้องจำไม่ได้แน่อยู่แล้ว

               “ทักทายพี่เรียวสิ่ลูก”ร่างบางบอกเสียงเบาๆ เท่านั้นยัยหนูก็ทักเรียวอุคกลับพร้อมรอยยิ้มหวานทำให้เรียวอุคอดยิ้มไม่ได้

               “เหมือนคุณซีวอนนะครับ”เรียวอุคทักมาอีกครั้ง เพราะเห็นโซอึนยิ้มแล้วเหมือนซีวอนมากกว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาเสียอีก ร่างบางพยักหน้ารับ

              “เหมือนแค่หน้าก็โอเคอยู่นะครับเรียว แต่ถ้านิสัยเหมือนด้วยเนี่ย คงต้องคิดหนัก”คยูฮยอนว่าจบก็หัวเราะออกมา ร่างสูงที่ได้ยินก็เบ้ปาก

               “นิสัยเหมือนฉันมันไม่ดียังไง ไหนบอกมาซิ”คนที่รู้สึกว่ากำลังมีส่วนร่วมในวงสนทนาโวยขึ้น

              “นิสัยไม่ดีเหมือนหน้าตาไง ทั้งหื่น ทั้งโหด จู้จี้ ขี้บ่น”ร่างบางว่า แต่เหมือนจะเข้าตัวเองเสียมากกว่านะประโยคหลังนั่น

              “ใครกันแน่ที่จู้จี้ ขี้บ่น”ร่างสูงพึมพำเบาๆ พรางเบ้ปากแลบลิ้นแผลบใส่ร่างบางที่ส่งค้อนมาให้ เรียวอุคที่มองอยู่ก็ส่ายหน้าขำ

               “อ้อ คยู...”เรียวอุคที่นึกอะไรขึ้นได้พูดออกมาเรียกความสนใจจากร่างบางได้ทันที

               “ครับ”

              “เมื่ออาทิตย์ก่อน...คุณชางมินมาที่ร้าน...คยูจำเขาได้ใช่มั้ย?”ร่างบางนิ่งไปซักพักก่อนจะปล่อยให้โซอึนไปหาร่างสูงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานแล้วพยักหน้ารับ

               “ครับ”

              “เขามาหาคยู บอกว่าจะมาขอให้คยูยกโทษให้เขา ตอนนี้เขาแต่งงานแล้วล่ะ แต่เขามีลูกไม่ได้เพราะร่างกายภรรยาเขาไม่แข็งแรงน่ะ เขาคงคิดว่าคงเป็นเพราะเรื่องเมื่อก่อนที่เขาทำให้คยูเสียน้องไปน่ะ แต่ผมบอกเขาไปแล้วนะว่าคยูย้ายไปอยู่อเมริกาแล้ว เขาก็ทำหน้าเศร้าๆ น่ะ”ร่างบางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะผ่อนออก

              “งั้น ผมฝากบอกเขาด้วยนะครับเรียว ถ้าเขามาอีกครั้ง...ผมไม่ได้โกรธเขาหรอก ให้เขาทำใจให้สบายเถอะ ผมเองก็ผิดส่วนหนึ่ง ก็....ให้เขาดูแลภรรยาเขาดีๆ ก็แล้วกัน อย่าคิดว่ามันเป็นเพราะเรื่องที่เคยเกิดขึ้นเลย จะพากันเครียดทั้งครอบครัว ผมลืมมันไปแล้วล่ะ”ร่าง บางบอกเสียงเบา ถึงแม้จะพูดอย่างนั้น แต่เขาไม่เคยลืมว่ามันเคยเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครลืมได้หรอกเรื่องแบบนี้ แค่ไม่เก็บมันมาคิดให้เครียดอีกเพียงเท่านั้นและเขาก็ไม่โทษใครทั้งนั้นนอก จากตัวเขาเอง

               “คยูก็อย่าคิดมากนะ”ร่างบางพยักหน้ารับ แล้วส่งยิ้มให้อีกคนไม่ให้เครียดตามไปด้วย

              “ไม่แล้วล่ะครับ”บอกพร้อมรอยยิ้ม “แล้วที่ร้านเป็นยังไงบ้าง”ร่าง บางถามถึงเรื่องงานบ้างหลังจากคุยเรื่องส่วนตัวมาเยอะแล้ว เรียวอุครายงานสถานการณ์ต่างของทางร้านทำให้ร่างบางยิ้มออกมาได้อีก ก่อนจะบอกงานที่ตัวเองกำลังคิดขึ้นเพื่อขยายร้านให้ใหญ่ขึ้นเพราะกลับไปจะ ได้ทำงานอย่างเต็มที่ขึ้นอีก

              “เดี๋ยวผมส่งเมลล์ไปให้นะครับเรียว ตอนนี้เหมือนว่าจะต้องออกไปข้างนอกแล้วหล่ะ”ร่างบางบอกแล้วหันไปมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่ก่อนจะหันไปมองคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน

               “โอเคครับ งั้นก็ตั้งใจทำงานนะครับคยู”ร่างบางโบกมือให้

                “แล้วเจอกันใหม่ครับ”ทั้งสองคนต่างคนต่างปิดกล้องของตัวเองก่อนจะหันไปมองร่างสูงที่นั่งรอเขาอยู่

 

                “จะออกไปแล้วใช่มั้ย”เสียงหวานเอ่ยถามคนที่นั่งเล่นกับลูกสาวอยู่

              “อืม...ปิดแล้วเหรอ”ร่าง บางพยักหน้ารับก่อนจะปิดแม็คบุ๊คโปรเครื่องสวยของซีวอนแล้วเอามาวางที่โต๊ะ ทำงานและรับยัยตัวเล็กมาอุ้มเพราะเจ้าตัวยื่นแขนยื่นขามาให้

               “วันนี้หนูจะทานอะไร”ร่างบางถามคนที่อุ้มอยู่ โซอึนยิ้มหวานส่งให้อย่างเคย

              “ไอติม....”บอก แล้วทำตาหวานฉ่ำ คยูฮยอนหัวเราะเบาๆ ทั้งที่พยักหน้ารับ เมื่อซีวอนเก็บของเรียบร้อยแล้วจึงพากันออกไปข้างนอกหลังจากเคลียร์งานช่วงเช้าเสร็จเรียบร้อย

 

 

 

 

 

 

 

 

              “เล่นอะไรน่ะ เห็นนั่งพิมพ์มานานแล้วนะ”ร่างบางถามขึ้นเมื่อเห็นว่าซีวอนมัวแต่นั่งทำหน้าสะใจกับไอโฟนในมือ ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มใส่

              “ทวิตเตอร์ นี่ไง...”บอกแล้วส่งให้ร่างบางดู “คุยกับเจ๊อยู่น่ะ”คยูฮยอนพยักหน้ารับก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ เมื่อเห็นซีวอนทำหน้าอยากจะหัวเราะให้เสียงดังๆ แบบนั้น

               “คุยอะไรกัน ทำเหมือนจะฆ่ากันตาย”ด้วยความอยากรู้จึงถามออกไป ร่างสูงหัวเราะแบบกลั้นเสียงเอาไว้

               “เรื่องกางเกงใน”

              “- - ไม่มีอะไรให้คุยกันแล้วรึไง เรื่องแบบนี้ เก็บไว้โทรคุยกันดีกว่ามั้ย ให้คนอื่นอ่านได้ไม่อายบ้างรึไง”ร่างบางว่าแล้วตักไอศกรีมป้อมลูกสาวที่นั่งอยู่ข้างกาย

              “ขำๆ น่า นี่ไง ฉันส่งกางเกงในไปให้เจ๊แกน่ะ แล้วใส่ได้ตัวเดียว แหม่ะ...กะไซส์เล็กไปหน่อย”ร่างสูงว่าอย่างชอบใจที่ได้แกล้งฮีชอล ถึงแม้จะโดนด่าที่ฮีชอลเปิดกล่องออกมาเจอกางเกงในก็ตาม เพราะเจ้าตัวคิดว่าเป็นพวกน้ำหอม

               “พูดเหมือนตัวเองใหญ่เหลือเกิน”ร่างบางพึมพำออกมาแต่ซีวอนก็ได้ยินทั้งยังยิ้มส่งให้ไม่รู้สึกรู้สา

               “แล้วใหญ่ป๊ะล่ะ”

              “........”ผ่างงงงงงงงงงง....ชเว คยูฮยอนตอบไม่ถูกจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาตักไอศกรีมให้ลูกสาวกิน ร่างสูงขำคิกก่อนจะพิมพ์ตัวหนังสืออีกเล็กน้อยแล้วปิดไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

              “หนอย ไอ้ฉ่อยแกล้งกันได้ ไอ้เราก็นึกว่าน้ำหอมหรือพวกกระเป๋า”ฮีชอลบ่นจนยองมินที่นั่งมองอยู่ถึงกับ ลุกหนีไปหาซองมินที่นอนดูโทรทัศน์บนโซฟาตัวยาว

              “พี่ก็ใส่ไปเถอะน่า ถึงเขาจะแกล้งแต่ก็ยังเป็นของแบรนด์ไม่ใช่รึไง”ซองมินบอกหลังจากมองมาซักพัก แล้ว ฮีชอลทำหน้าปุเลี่ยน

              “มินนี่ดูนี่สิ่”บอกแล้วส่งให้ซองมินทั้งกล่อง “มันน่ามั้ยล่ะ อย่าให้เจอตัวนะ จะเพ่นกะบาลให้สมองไหลเลย”ซองมินหยิบกางเกงในในกล่องออกมาดู มีสีแดง สีเขียวเรืองแสง? สีส้มเรืองแสง? - - พร้อมทั้งที่ป้ายราคาที่ถูกขีดฆ่ายังเขียนกำกับเอาไว้ว่า...

                “ตัวนี้ของเจ๊..”ซองมินอ่านแล้วหยิบมันขึ้นมา เป็นสีส้มเรืองแสงตัวจิ๋ว “ง่ะ...ไมตัวแค่นี้ล่ะ”ซองมินชูให้ดู

              “ก็เพราะมันตัวแค่นั้นไงซองมิน พี่ถึงควันออกหูเนี่ย แค่สีเรืองแสงก็เจ็บตาพออยู่แล้ว ยังทำให้เจ็บใจอีก นั่นมันขนาดยองมินใส่ ให้พี่ใส่ยังยัดขาเข้าไปไม่ได้เลย”ฮีชอลว่าแล้วทำหน้าเหมือนจะกินคน ยองมินที่เห็นอย่างนั้นก็ขยับเข้าไปหลบหลังซองมินอีกเล็กน้อย

              “ตัวนี้ของผม?”ซองมินหยิบสีเขียวเรืองแสงขึ้นมา เพราะมันมีป้ายกำกับเอาไว้ว่าเป็นของเขา ร่างอวบหัวเราะคิกคักเมื่อชั้นในของตัวเองใหญ่กว่าของฮีชอลที่เห็นตัวที่เขา ถืออยู่ก็หน้ามุ่ยลงไปอีก

                “ดูความคิดไอ้ฉ่อยมันสิ่ ฮึ่ย มันน่าฆ่าจริงๆ เล๊ย อยากเตะคนวุ้ย”

               “เดี๋ยวๆ พี่....นี่ของยองมิน”ซองมินหยิบตัวสีแดงขึ้นมาซึ่งมันตัวเท่ากับขนาดที่ฮีชอลใส่ ตัวใหญ่ที่สุดในกล่อง ร่างอวบหัวเราะด้วยน้ำเสียงมีความสุข เมื่อเห็นสีหน้าของฮีชอลเหมือนว่าจะตามไปฆ่าน้องถึงอเมริกา

             “มินนี่หยิบไอโฟนมาให้พี่”ฮีชอ ลบอกแล้วเอื้อมตัวเข้าไปหาซองมินเมื่อเจ้าตัวส่งมา ให้ก่อนจะเปิดทวิตเตอร์ของตัวเอง พอดีกับที่เห็นว่าซีวอนกำลังอัพเดตว่าตัวเองกำลังพาลูกสาวไปกินไอศกรีมพอดี ทำให้ได้ช่วงในการเหวี่ยงพอดีจึงทวีตไปด่าให้สะใจชอล...  

 

 

 

 

 

                                        .......................................

 

 

 

 

 

 

                   คิบอมมานั่งเฝ้านาบีที่โรงพยาบาลแต่เช้าเพราะวันนี้ครบกำหนดคลอดแล้ว แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่เจ็บท้องจนหมอต้องฉีดยาเร่งและรอเวลาจนจวนจะเที่ยง

 

           “กลัวรึเปล่า”เสียงทุ้มเอ่ยถามหญิงสาวที่นอนพักอยู่ เธอมีสีหน้าที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไรนักเพราะความกลัว

            “นิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร...คิบอมจะกลับบ้านก็ได้นะ”ร่างสูงส่ายหน้า

            “กลับได้ยังไง ยังไงเด็กคนนี้ก็ลูกผม ผมไม่ได้ใจดำขนาดนั้น”เธอพยักหน้ารับและส่งยิ้มให้ ดีใจที่คิบอมไม่ทิ้งให้เธออยู่คนเดียว ถึงแม้เขาทั้งสองคนจะไม่ได้รักกันก็ตาม ตลอดเจ็ดเดือนกว่าที่อยู่ด้วยกันถึงแม้จะมีลูก แต่เธอกับคิบอมไม่เคยคิดเกินกว่าเพื่อนเหมือนอย่างที่เป็นมาตลอด

             “คิบอม...ฉันคุยกับที่บ้านแล้ว”นาบีมองคิบอมที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว คิบอมเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น

            “ไหนบอกว่าที่บ้านคุณ.....”คิบอมรู้ว่าที่บ้านของฝ่ายหญิงไม่ชอบใจแน่ถ้ารู้ เรื่องนี้ และเขาก็เป็นฝ่ายที่รับเลี้ยงลูกเองอยู่แล้ว

            “ฉันจะพาลูกกลับอเมริกาด้วย”คิบอมได้ยินอย่างนั้นก็เลิกคิ้วขึ้นก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันแทบจะเป็นโบว์

              “ทำไมทำแบบนี้ล่ะ เราตกลงกันแล้วนะ”

             “แม่จะให้ฉันแต่งงานกับคนที่ท่านหาให้ ฉันจำเป็นต้องบอกเรื่องนี้ให้ท่านรู้ ฉันแค่ไม่คิดว่า...ฝ่ายนั้นจะรับได้”เธอบอกทั้งที่หน้าเศร้า แต่ก่อนจะได้พูดอะไรมากกว่านั้น หมอและพยาบาลก็เข้ามาในห้องเพื่อตรวจว่าพร้อมที่จะคลอดหรือยัง เมื่อเห็นว่ายังปกติก็ให้ยาเร่งอีกครั้งก่อนจะออกไป ให้รอถึงช่วงเย็นเท่านั้น

 

 

            “นาบี...แล้วแม่ของคุณไม่เสียใจกับเรื่องนี้เหรอ”เธอพยักหน้ารับ

            “คิบอมก็ถามแปลกนะ...ถ้าเป็นลูกสาวของคิบอม คิบอมจะโกรธมั้ยล่ะ”เธอพูดทั้งที่หัวเราะออกมา แต่ตาของเธอเศร้าหมอง คิบอมเม้มปากเล็กน้อย

             “ขอโทษนะ”

             “ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษที่ทำให้ครอบครัวของคิบอมต้องแตกแยก”คิบอมส่งยิ้ม ให้ว่าไม่เป็นไรเพราะมันผ่านมาหลายเดือนแล้ว ตอนนี้ดงเฮเข้าใจเขามากขึ้น แต่ก็ไม่พร้อมที่ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม

             “ถ้าคลอดแล้ว อยู่ที่นี่ซักสามเดือนได้มั้ย”เธอเลิกคิ้วขึ้น คิบอมจึงพูดต่อ “ถ้าคุณจะพาลูกไปด้วย ผมขอ..ให้ผมได้ทำหน้าที่พ่อของแกบ้าง...ก็ยังดี”นาบียิ้มออกมาอย่างปลื้มใจ ถึงแม้เขาสองคนจะไม่ได้รักกันอย่างคนรัก แต่เพราะลูกทำให้ความรับผิดชอบต้องมาก่อนเสมอและคิบอมเอง...ก็มีมากเสียด้วย

             “ฉันอยากให้คนที่ฉันจะแต่งงานด้วยเป็นแบบคิบอมนะ....อยากให้เขารักลูกของเรา เหมือนที่คิบอมรัก”คิบอมยิ้มแล้วก้มหน้าลง มองไปที่ท้องของหญิงสาวที่มีเด็กตัวน้อยๆ กำลังจะลืมตาดูโลกในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้

            “ขอให้ได้อย่างนั้นนะ แล้วอีกอย่าง...ถ้าคุณกลับไปแล้ว ผมจะมีโอกาสได้เจอลูกอีกมั้ย”เธอพยักหน้ารับ

            “ฉันจะพามาหาคุณ ถ้าภรรยาของคุณไม่ว่าอะไร”คิบอมพยักหน้ารับ พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นหญิงสาวเอามือลูบท้องคิ้วขมวด

            “เป็นอะไร เจ็บท้องแล้วเหรอ”

             “นิดหน่อย”คิบอมกดเรียกหมอทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น

 

 

 

 

                     สุดท้ายแล้วคิบอมก็เป็นห่วงแม่ของลูกจนต้องเข้ามานั่งในห้องคลอดเป็นเพื่อน เพราะดูเหมือนว่าเธอจะกลัว เขาเองก็เข้าใจไม่อยากทิ้งให้อยู่กับหมอและพยาบาลเพียงลำพัง คิบอมส่งยิ้มให้ มือก็จับกันอยู่อย่างนั้น

 

             “พร้อมนะครับ”เสียงคุณหมอถามขึ้น เธอพยักหน้ารับและก็เจ็บท้องมากขึ้นด้วย คิบอมส่งยิ้มเป็นกำลังใจให้ตลอดทำให้เธอไม่กลัวอีกแล้ว

            “คุณน่าจะผ่าคลอดนะนาบี”เธอส่ายหน้าทั้งที่ยิ้ม ก่อนจะบีบมือคิบอมแน่นเมื่อได้ยินหมอสั่งออกให้ออกแรง คิบอมเองก็พาเกร็งไปด้วยอย่างไม่ได้ตั้งใจ

 

 

                       สิ่งที่คิบอมเจอวันนี้มันต่างจากตอนที่ดงเฮคลอดลูกนัก เขาเข้าใจว่าคนเป็นแม่ต้องเจ็บมากแค่ไหนก็วันนี้ นาบีเหงื่อพราวเต็มหน้าจนเขาต้องช่วยซับออกให้ ทั้งหน้าของเธอยังเหมือนทรมานมาก คิบอมต้องบีบมือเธอเอาไว้อย่างนั้นอย่างให้กำลังใจอยู่ตลอด

 

            “อีกนิดนะ อดทนนะครับ”เสียงคิบอมเอ่ยบอก นาบีหายใจเหนื่อยแต่ก็พยักหน้ารับ ทั้งหมอและพยาบาลต่างก็ช่วยกันจนสุดความสามารถ

            “ศีรษะน้องออกมาแล้ว ออกแรงอีกหน่อยนะคะ สุดท้ายแล้วค่ะ”เสียงหมอบอก หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะออกแรงเฮือกสุดท้ายจนเด็กออกมาทั้งตัว คิบอมยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเสียงไม่ต่างจากหญิงสาวที่นอนเหนื่อยอยู่บนเตียง

            “ลูกออกมาแล้ว ดีใจมั้ย”คิบอมถามขึ้น เธอพยักหน้ารับ

            “คิบอม...ขอบคุณนะที่อยู่เป็นเพื่อน”ร่างสูงพยักหน้ารับ ลูบมือของหญิงสาวเบาๆ ก่อนจะซับเหงื่อให้

            “น้องเป็นผู้ชายนะคะ”เสียงพยาบาลบอกทั้งสองคน คิบอมยิ้มออกมาเมื่อได้ยินอย่างนั้นไม่ต่างจากหญิงสาวที่กำลังเป็นแม่มือ ใหม่ เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจ

            “เดี๋ยวผมต้องออกไปข้างนอกแล้ว คุณต้องนอนพักฟื้นอยู่ในนี้ก่อน อยู่ได้นะ ผมจะไปรอที่ห้อง”คิบอมถามขึ้น เธอพยักหน้ารับก่อนจะปล่อยมือคิบอมออก คิบอมส่งยิ้มให้ก่อนจะออกไปรอข้างนอก

 

 

 

 

                       เดินออกมายังไม่ถึงห้องพักก็เจอกับคนที่ไม่คิดว่าจะเจอในวันนี้ ที่นี่และตอนนี้ คิบอมมองหน้าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจเท่าไรนัก

 

            “ด๊อง....มาทำอะไรเหรอ”ดงเฮมองหน้าคิบอมชั่วครู่ เม้มปากเล็กน้อยก่อนจะคลายออก

             “ปลอดภัยดีใช่มั้ย”คิบอมเลิกคิ้วนิดๆ “เธอกับลูก ปลอดภัยดีใช่มั้ย”เมื่อเห็นว่าคิบอมเหมือนไม่เข้าใจก็ถามให้ชัดเจนขึ้น คิบอมยิ้มออกมา

            “ครับ ปลอดภัยดี อีกสองชั่วโมงคงออกมา”คิบอมบอกก่อนจะโผเข้ากอดดงเฮ “ด๊องครับ...ขอบคุณนะ”ขอบคุณทั้งที่ดงเฮยังไม่ได้ทำอะไรให้ แต่ขอบคุณที่ดงเฮมีน้ำใจมาเยี่ยม มาไถ่ถามทั้งที่เรื่องนี้...มันยากที่จะทำใจก็ตาม

            “ถ้าเธอกับลูกปลอดภัยดี ด๊องก็...ดีใจด้วยนะคิบอม”ดงเฮบอกก่อนจะผละคิบอมออก “ดูแลเธอกับลูกให้ดีๆ นะ”บอกทั้งที่ดวงตาคลอไปด้วยน้ำใสๆ

            “ด๊อง...เรื่องทุกอย่างกำลังจะจบลงแล้ว ต่อให้คุณไม่ให้อภัยผม ผมก็จะรอคุณ นาบีจะกลับอเมริกาอีกสามเดือนข้างหน้า....และจะพาลูกไปด้วย”คิบอมบอกหวังว่า ดงเฮจะยังรอเขาอยู่ ร่างเล็กพยักหน้ารับ “แต่ผมแค่อยากให้ด๊องเข้าใจผม...ยังไงเด็กคนนั้นก็ลูก ผมคงทิ้งเขาไม่ได้ ด๊องเข้าใจผมนะ”ดงเฮพยักหน้ารับ เขาควรดีใจแทนลูกใช่มั้ยที่มีพ่อแบบคิบอม เพราะคิบอมมีความรับผิดชอบถึงแม้เรื่องที่เกิดขึ้นมันเกินที่เขาจะทำใจได้ใน เวลาสั้นๆ ก็ตาม

             “ไม่เป็นไร ด๊องดีใจ ที่คิบอมเป็นคนมีความรับผิดชอบ”ดงเฮบอกก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาตัวเล็ก คิบอมยิ้มออกมาได้อีกครั้ง ดงเฮเปิดใจรับแล้วถึงแม้จะยังเสียใจอยู่มาก แต่ทุกอย่างถือว่าดีขึ้น “คิบอมเสียใจมั้ย ที่ด๊องมาที่นี่วันนี้”ดงเฮถามขึ้นพรางสบตาคนตรงหน้า คิบอมส่ายหน้า

            “ผมดีใจมากต่างหาก ที่ด๊อง...มาที่นี่”คิบอมบอกก่อนจะย่อตัวลงนั่งตรงหน้า จับมือบางเอาไว้ “ผมเสียใจที่ทำผิดกับคุณ แต่ผมก็ดีใจที่คุณไม่รังเกียจลูกของผม...อีกคน”ดงเฮพยักหน้ารับ

            “ด๊องจะรังเกียจได้ยังไง เขาเป็นลูกของคิบอมนะ”คิบอมกอดร่างเล็กเอาไว้อีกครั้ง แต่ก็มีพยาบาลออกมาบอกว่าให้เข้าไปเยี่ยมเจ้าตัวเล็กได้แล้ว คิบอมลุกขึ้นสบตากับร่างเล็กอีกครั้ง

            “ด๊องจะโกรธมั้ย ถ้าผมอยากให้ด๊องไปหาเขากับผม”ดงเฮส่ายหน้าและส่งยิ้มให้ ทั้งสองจึงเดินไปห้องเด็กอ่อนด้วยกัน

 

 

 

 

 

                      ดงเฮใจกว้างพอแล้วที่จะเข้ามาเยี่ยมภรรยาอีกคนของคิบอม หญิงสาวเห็นอย่างนั้นก็หน้าเสียเพราะรู้ว่าดงเฮโกรธคิบอมมากเพราะเธอ ทั้งสองถึงขั้นหย่าขาดกัน แต่ดงเฮกลับส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตัวเล็ก

 

            “คุณ...โอเคขึ้นแล้วนะ”เธอทำท่าจะลุกขึ้น แต่ดงเฮก็กดให้นอนอยู่อย่างนั้น “หมอไม่ให้ขยับตัวสิบสองชั่วโมง คุณยังต้องนอนราบอยู่แบบนี้”เธอพยักหน้ารับเมื่อเห็นรอยยิ้มของดงเฮ มันทำให้เธอรู้สึกผิด

            “ฉันขอโทษนะคะที่ทำให้คุณดงเฮเสียใจ ทำให้ครอบครัวของคุณต้องแตกแยก”นาบีเอ่ยขอโทษดงเฮจากใจจริง

            “ผมโอเคแล้ว ไม่เป็นอะไร ผมดีใจด้วยที่คุณได้ลูกชาย”เธอพยักหน้ารับก่อนจะน้ำตารื้นออกมาอย่างดีใจที่ ดงเฮไม่มีท่าทีว่าจะโกรธเธอเลย

            “ขอบคุณนะคะ”ดงเฮส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร คิบอมเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มออกมาได้บ้าง

 

 

 

 

......................................................................................................

            

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา