My wife ขอโทษครับ เมียผมดุ
เขียนโดย ช้อนสีเงิน
วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.02 น.
แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556 00.19 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
3) น้ำตา...
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 3
น้ำตา
“โทโมะ~ เป็นอะไรอ่ะ โกรธอะไรแก้ว”
“........”
“โทโมะอย่าเดินหนีแก้วดิ ทำไมไม่หันหน้ามาคุยกันอ่า”
“.......”
“โทโมะ~~”
ถ้าถามว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่......กำลังงอนเมียและเมียกำลังง้ออยู่ครับ- -
ที่จริงก็ไม่ได้อยากงอนเป็นพิธีรีตองอะไรขนาดนี้หรอกนะ แต่มันอดไม่ได้จริงๆ เพราะภรรยาของผมมันใสซื่อเกินความจำเป็น จนให้ความสำคัญกับคนอื่นเกินไป ทั้งที่คนอื่นคนนั้นนะมันคิดไม่ซื่อกับภรรยาผมนะ
พอไอ้เด็กแก่แดดเมื่อกี้วิ่งออกไป แก้วก็เอาแต่โทษผมอย่างนู่นอย่างนี้ว่าผมเป็นคนไล่น้องไป ทำให้น้องกลัว ถึงขนาดนี้ไม่ให้ผมโกรธได้ยังไงล่ะ
“โทโมะ แก้วพูดเรื่องจริงนี้ ทำไมต้องโกรธด้วยอ่ะ” แก้วเริ่มกระตุกแขนเสื้อร่างสูงให้หยุดเดิน ปากก็ยังพร่ำคำง้ออกมาไม่หยุด
แก้วไม่ชอบให้โทโมะงอนเลย ให้ตายเถอะ งอนทีไรหายยากทุกที - -
“เรื่องจริงอะไรล่ะ เรื่องที่ไอ้เด็กนั้นมันคิดไม่ซื่อกับแก้วนะเหรอ” โทโมะสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุมของแก้ว แล้วเดินต่อโดยไม่สนใจคนที่กังวลอยู่ข้างหลัง
ไอ้คนบ้า!! ถึงน้องเขาจะคิดไม่ซื่อ ก็คิดว่าแก้วคนนี้จะเล่นด้วยรึไง โมโหแล้วนะ
“เออ!! ได้ ถ้าคิดว่าน้องเขาชอบแก้วล่ะก็ แก้วก็จะชอบน้องธามด้วย!!”
“แก้ว!!!” แถบจะทันทีที่จบประโยค ร่างสูงที่เดินหนีมาโดยตลอดหันกลับมาพร้อมตะโกนเสียงดังด้วยอารมณ์โทสะ จนแก้วสะดุ้งอย่างตกใจ
“อยากให้ฉันบ้าตายใช่ไหม!!” สรรพนามที่ดูห่างเหินนั้นทำเอาแก้วใจหวิวๆอย่างสะเทือนใจ
“ทำไมต้องตะโกนด้วยว่ะ!!”
“ก็เพราะแก้วเป็นแบบนี้ไง!!”
“แล้วคิดว่าแก้วคิดอะไรกับน้องเขาจริงๆรึไง คนบ้า!!” ดวงตากลมเริ่มคลอไปด้วยน้ำตา ปากเม้มเป็นเส้นตรงเพราะกลั้นเสียงสะอื้นในความอ่อนแอของตัวเอง
เราไม่ได้ผิดสักหน่อยทำไมต้องร้องไห้ด้วยว่ะ
“......” โทโมะพูดไม่ออกเมื่อเริ่มเห็นน้ำตาที่คลออยู่ที่ดวงตาใสของแก้วที่เตรียมจะตกลงมาอยู่รอมร่อ นี้เขาพูดแรงเกินไปรึเปล่านะ
ผมเคยบอกรึเปล่าว่าผมเกลียดน้ำตาของแก้ว เพราะนั้นเป็นการสื่อว่าผมดูแลเขาไม่ได้ แต่ตอนนี้ผมกลับทำมันซะเอง
“แก้ว....” เสียงของผมอ่อนลง แล้วเริ่มเดินเข้าไปหาแก้วที่ยืนตัวสั่นสะอื้นอยู่
“ออกไป ฮึก”
“เฮ้อ~....แก้ว โมะขอโทษ” เมื่อเดินมาประชิด ก็ไม่รอช้าดึงคนที่กำลังยืนร้องไห้อย่เข้ามากอดไว้ในอ้อมแขน
“ฮึก.....”
“ไม่เอาน่า ไม่ร้อง...”
“เพราะ ฮึก โทโมะนั้นแหละ”
“ขอโทษจริงๆ แต่อย่าร้องไห้เลยนะ” ผมจับแก้มทั้งสองข้างของแก้วเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆ เช็ดน้ำตาของมันออกให้อย่างแผ่วเบา รู้สึกแย่ชะมัด ทำไมผมต้องเป็นคนทำให้แก้วร้องไห้เองด้วยว่ะ
“โมะแม่ง ฮึก อย่าทำอย่างนี้อีกนะ” แก้วพูดแล้วซบที่อกกว้างของโทโมะ ทำเอาร่างสูงที่โดนกอดอดยิ้มไม่ได้
“คร้าบๆ ขอโทษนะครับเมียจ้า”
“ฮึก ไอ้บ้า”
“คร้าบๆ ไอ้บ้าก็ไอ้บ้า ไม่ร้องนะ” พูดพลางโยกตัวเด็กน้อยในอ้อมแขนเป็นการปลอบ และลูบหัวเบาๆ
สงสัยผมต้องทำใจมีเมียน่ารักไปหน่อย
.
.
.
.
.
ผมกอดแก้วอยู่อย่างนั้นหลายนาทีจนแก้วเงียบไป แต่มันเงียบจนผมอดแปลกใจไม่ได้ หรือว่า...
นั้นไง หลับคาอกกูเลย - - คนแบบนี้ก็มีแหะ หลับทั้งทียังยืนอยู่ เอาเถอะ
ผมจัดการอุ้มร่างของแก้วที่ตอนนี้หลับไปแล้วมาที่หลังร้านแล้ววางที่โซฟา จัดท่าให้นอนได้อย่างสบายๆ ผมหลุดขำเมื่อพอเจ้าตัวถึงที่นอนก็ยุกยิกตัวเข้าหาที่นอนทันที เด็กชะมัด
ผมคุกเข่าลงข้างเตียงพลางมองหน้าแก้วที่ตอนนี้หลับตาพริ่มอย่างกับเด็กนอนพักกลางวัน มือหนาเอื้อมไปเกลี่ยแก้มใสอย่างอ่อนโยน นี้ผมก็คบกับแก้วมา 5 ปีแล้วนะ บางคนอาจคิดว่ากาลเวลาทำให้คนเปลี่ยนไป แต่สำหรับผม เวลาเป็นพยานว่า เรารักกันมากแค่ไหนนะ
โทโมะที่นั่งจ้องแก้วอยู่นานยื่นหน้าไปหอมแก้มใสที่มีคราบน้ำตานั้นเบาๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากจะฆ่าตัวเอง แม่งเอ้ย ต้องทำให้แก้วเสียน้ำตา ไปฆ่าไอ้เด็กนั้นดีไหม (ธาม: เกี่ยวเชี่ยไรกับกู -0-)
แต่เหมือนความอดทนไม่เพียงพอเมื่อได้ลองห้อมแก้มใสนั้นไปแล้ว ก็อยากจะทำมากกว่านั้น ผมไม่ได้ลักหลับแก้วนะ เพราะตอนตื่นผมก็ทำมาแล้ว -3-
ร่างสูงเริ่มโน้มตัวเตรียมไปประกบที่ริมฝีปากบางของแก้ว โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ ค่อยๆก้มจนเริ่มห่างกันไม่ถึงเซน เห็นแพขนตายาวชัดเจน ปลายจมูกเริ่มชนกัน.........
“พี่ค่ะ มีใครอยู่ไหมค่ะ อุ้ยตายว้ายกรี๊ดปู๊ดปี๊ดป๊าด!!” โทโมะหยุดการกระทำแล้วหันไปตามเสียง อย่างตกใจก็เห็นสาวน้อยวัยแรกแย้มกำลังทำหน้าตกใจที่ประตูหลังร้าน
“เอ่อ...คือ” ผมอ้ำอึ้ง
“เอ่อ....ขอโทษที่มารบกวนค่ะพี่ เชิญตามสบายค่ะ แหะๆ” สาวน้อยคนนั้นพูดก่อนจะรีบวิ่งหายไปด้วยความเข้าใจผิดๆว่า
กูเป็นโรคจิตกำลังลักหลับสาวน้อยอยู่สินะ - -
ที่สำคัญคือ.....จะมาขัดจังหวะกูทำไมฮะ!!
“อืมมมม โทโมะ เสียงอะไรอ่ะ” เสียงแก้วที่ตื่นขึ้นอย่างงัวเงียถามขึ้น เพราะที่แก้วตื่นนะ ก็เพราะเสียงเมื่อกี้นี้แหละ อะไรปู๊ดๆไม่รู้ = =
“ไม่มีอะไรหรอกแก้ว หลับไปเถอะ” โทโมะหันไปพูดกับแก้วแล้วส่งยิ้มให้ ทำตัวปกติที่สุด คนตัวเล็กกว่าก็ว่าง่ายหลับต่อแบบไม่เถียงไม่ถามอะไรทั้งสิ้น
ซึ่งนั้นก็ดีแล้ว ถ้าถามคงอีกยาวแน่ๆ = =
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ