[Fic Beast] How much? “ค่าตัวนาย..เท่าไหร่กัน?”

8.1

เขียนโดย nooonaa

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 23.54 น.

  38 chapter
  12 วิจารณ์
  82.94K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556 20.25 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

38) How to love? : Dongwoon with Kikwang

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
by nooonaa




How to love? : Dongwoon with Kikwang




ดายุน ดายุน ดายุน...กีกวาง

กีกวาง

อะไรกันน่ะ ทำไมชื่อนั้นถึงเปลี่ยนเป็นชื่อคนอื่นได้ ทั้งๆที่ดายุนเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตผม และผมก็ไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จนวันหนึ่งผมได้เจอแฟนเก่าของเขา...ซึงโฮ

ผมพยายามปฏิเสธและหาข้ออ้างสาระพัดเพื่อมาหักล้างความคิดบ้าๆที่เกิดขึ้นใจ ผมต้องใข้ความพยายามอย่างสูงที่จะบอกว่าตัวเองไม่ได้ชอบรอยยิ้มใสซื่อที่คอยมอบให้กับคนอื่น จนมันเป็นเรื่องในขีวิตประจำวันที่ผมจะต้องทิ้งงานไว้ข้างหลังเพื่อมาเยี่ยมน้องสาวตัวเอง และจะได้แอบมองคุณหมอประจำตัวของดายุน...

คุณหมอลี กีกวาง

ชื่อนี้มันทำให้ใจผมเต้นทุกครั้งเมื่อใกล้ถึงเวลาที่เขาคนนั่นจะมาตรวจดายุนเป็นประจำทุกวัน พอผมรู้สึกแบบนั้นก็จะรีบแจ้นไปที่โรงพยาบาลทันที เพื่อที่วันนี้...จะได้แอบมองรอยยิ้มกว้างจนตาหยี๋นั่นอีกครั้ง

แอบมองจนไม่กล้าจะเอื้อมแล้วคว้าอีกคนมาเป็นของตัวเอง เพราะมือผมนั้น...มันสกปรกเกินไป

สกปรกจนน่ารังเกียจ

ใจผมเองก็อยากจะทำงานบริษัทเหมือนผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง แต่ชะตากรรมที่ผมจะเจอมันดันเลี่ยงไม่ได้ ผมต้องยอมรับ ยอมเป็นไป เพื่อความอยู่รอดของครอบครัว...ครอบครัวที่เหลือแค่ดายุนและตัวผม

ใช่ครับ...พ่อของพวกเราตายจากไปตั้งแต่ผมยังอายุเพียงสิบสี่ มันเป็นเรื่องที่โหดร้ายใช่เล่น แต่ก็คงไม่โหดเท่ากับที่แม่ตรอมใจตายตามพ่อไปอีกคน จนเหลือแค่เด็กชายอายุสิบสี่และน้องสาวอายุเพียงห้าขวบ

มันดูเจ็บปวดและทรมานมากไหมล่ะ...กับสิ่งที่ผมต้องเจอ

ผมต้องทุรนทุรายทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด และไอ้คำว่าทุกอย่างมันก็รวมถึงสิ่งผิดกฏหมาย ผมตะเวนส่งของตามที่ต่างๆโดยไร้ความกลัวที่จะถูกจับสักนิด เพราะเพียงแค่เด็กน้อยตาใสร้องขอช็อคโกแลตที่เธอชอบ ผมก็แทบจะเสนอตัวทำงานพวกนั้นจนได้เงินมาซื้อมันมาให้ ถึงจะเหนื่อย ถึงจะเจ็บใจที่พวกเราสองคนพี่น้องโดยพระเจ้ากลั่นแกล้ง แต่ผมยังคงสู้ สู้จนมันไปถูกใจซาตานในขุมนรกอเวจีตอนผมอายุได้สิบหก

มันเป็นวันที่เปลี่ยนชีวิตเด็กอย่างผมไปตลอดกาล

วันนั้นผมตามพี่ใหญ่ไปส่งของแถวพื้นที่สีแดง ตอนนั้นผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่ามันคือพื้นที่อันตราย และพอข่าวมันแผ่ไปถึงหัวหน้าของที่นั่นมันก็สั่งจับตายพวกเราทั้งหมด ไอ้พี่เวรมันก็เลยทิ้งผมให้หนีเอาตัวรอดเอง ผมเลยทำได้แค่เพียงสู้สุดใจ ผมสู้อยู่นานกับชายชุดดำนับสิบคนที่กู่เข้ามาไม่ยั้งจนสุดท้ายแล้วผมก็แพ้ไอ้บ้านั่น ผมจำมันได้ขึ้นใจว่ามันตัวดำขนาดไหน แถมใบหน้าหล่อคมของมันอีกที่ทำให้ผมเริ่มรู้สึกว่ามันเหนือกว่า แต่จะถึงอย่างนั้นก็เถอะ ลูกชายน่ะ...ฆ่าได้แต่หยาบไม่ได้!!

'หึ สู้ยิบตาเชียวนะ เพราะกลัวตายใช่ไหมล่ะ' เมื่อผมล้มพับกับพื้นเพราะแพ้ทุกกระบวนท่า บุคคลที่สามก็เอ่ยเยาะผมจนน่าสมเพชทันที ผมเลยใช้แรงที่เหลืออันน้อยนิดลุกขึ้นมาเพื่อดูหน้ามัน แต่นั่นกลับทำให้ผมไม่สามารถละสายตาจากใบหน้าหล่อแสนเจ้าเล่ห์นั่นได้ มันดูสง่าและน่าเกรงขามมาก ถึงเขาคนนั้นจะมีอายุแค่สิบแปดก็เถอะ แต่พอประโยคต่อมาที่มันเอ่ย มันกลับสร้างชีวิตใหม่ให้กับผม

'แล้วนายอยากจะชนะความตายไหม...ซนดงอุน'

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา...ผมก็กลายเป็นข้ารับใช้ผู้ชายคนนี้ ซึ่งข้ารับใช้อย่างผมก็ยอมตายเพื่อเขาด้วยความเต็มใจ

หึ มันไม่เว่อหรอกถ้าเทียบกับชีวิตใหม่ที่ผมได้รับ ท่านอุปการะทุกอย่างทั้งดายุนและตัวผม จนผมกับน้องสามารถได้เรียนหนังสือตามที่ต้องการ และที่สำคัญ...ผมไม่ต้องทนเห็นน้องสาวตัวเองอดอยากอีกต่อไป

แค่นั้นก็บุญคุณท่วมหัวแล้วจริงๆ

ซึ่งบุญคุณครั้งนี้ผมจะไม่มีวันลืม แม้จะต้องมอบชีวิตให้ผมก็จะทำ เพราะผมต้องการจะชดใช้ให้มากกว่าที่คุณให้แน่นอน...คุณยงจุนฮยอง

ส่วนไอ้ตัวดำที่ผมเกลียดมันนักก็กลับกลายเป็นเพื่อนตายจนถึงทุกวันนี้ เพื่อนตายที่ในชาตินี้ผมไม่เคยคิดว่าจะมี แต่มันกลับทำให้ความคิดผมเปลี่ยน เพียงเพราะเป็นมัน...ยุนดุจุน

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมก็ได้ทำงานที่ควรจะทำสักที ใช้ความรู้ความสามารถที่มีช่วยผู้มีพระคุณ ร่วมถึงจัดการทุกอย่างที่คนปกติเขาไม่ทำกัน

มันต่างกันก็ตรงนี้แหละ เพราะถึงจะเป็นพนักงานบริษัทเหมือนคนอื่น แต่มือก็ไม่สะอาดเท่า ผมกับดูจุนเก็บกวาดทุกอย่างรวมถึงบุคคลที่จะเป็นภัยต่อองค์กรหรือคุณจุนฮยอง จนตอนนี้มือของผมมีไว้เพียงแค่กำจัดไม่ใช่ดูแล

ไม่ใช่ดูแลใครสักคน

แล้วอย่างนี้ผมยังจะมีสิทธิดูแลเขาหรอ...เขาคนนั้นที่ผมต้องการ

นั่นเลยทำให้ผมได้มองเขาเพียงแค่มุมๆหนึ่งของโรงพยาบาล โดยที่ใจมันก็ร้องหาแต่เขาจนขามันมักจะเดินเข้าไปหาร่างบางโดยไม่รู้ตัว และบางทีก็เผลอจะคว้าอีกคนเข้ามากอดอยู่เรื่อย จนตัวผมเองก็ผมเริ่มทนไม่ไหว และก็จะขอไม่ยอมทนอีกต่อไป

ถึงเขาจะแปดเปื้อนเพราะผม ผมก็จะไม่สน ขอแค่ผมได้ครอบครองหัวใจดวงนั้นก็เพียงพอแล้ว

แต่พอได้เขามา ผมกลับทำร้ายเขาสารพัด ใจจริงก็ไม่ได้อยากจะทำ แต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ผมใจร้ายกับเขา แต่ไม่ว่าจะทำยังไง อีกคนก็ยังคงรักผม รักด้วยด้วยใจที่บริสุทธิ ผมจึงยิ่งทนงตัวเองมากกว่าเดิม และยิ่งทำให้เขาเจ็บปวด

แต่พอท่านประธานยงรู้เรื่องของผมกับเขา ท่านก็แกล้งผมซะน่วม แถมยังพากีกวางมาซ่อนใต้จมูกผม ซึ่งมันทำให้ผมแทบจะบ้าตาย เพราะไม่ว่าผมจะตามหาอีกคนทั่วเกาหลีเท่าไหร่ก็หาไม่พบ จนต้องแบกทิฐิที่ตัวเองถือไว้ไปหาท่าน และต้องยอมรับกับตัวเองว่าผมไม่สามารถสู้ประธานได้เลยสักนิด

ยิ่งพอท่านรู้ว่าผมยอมจำนนรับผิด ก็แกล้งผมสารพัด จนบางครั้งผมก็คิดว่าตัวเองไม่น่ารอด แต่พอคิดถึงใบหน้าใสที่คอยจะส่งยิ้มให้ก็ทำให้ผมฮึดสู้ ผมฝ่าดงตีนของพวกลูกน้องที่ตัวเองฝึกมากับมือ เพื่อไปถามที่อยู่ของร่างบางกับเขาโดยตรง แต่พอรู้กับทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน

ท่านพากีกวางของผมไปซ่อนไว้ที่บ้านของคุณปู่ของผมเอง

นี่ผมมักจะก้าวตามหลังคุณถึงสองก้าว ไม่สิ...หลายสิบก้าวต่างหาก ใช่ไหมครับ...ท่านประธาน

หึ...น่าสมเพชจริงๆ

พอผมรู้ที่อยู่ของร่างบาง ใจมันก็สั่งให้ไปหาอีกคนทันที แต่พอไปถึงบ้านเกิดของพ่อกับแม่ก็ทำให้ผมแทบบ้า เพราะผมกำลังเห็นไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้กำลังตอดคุณหมอของผม ยิ่งร่างบางป้อนเนื้อย่างเข้าปากอีกคนก็ทำเอาควันออกหู มือมันเลยบีบแตรใส่ภาพตรงหน้าจนมันดังลั่นถนน ก่อนจะคอยจ้องดูภาพต้องหน้าต่อด้วยความคับแค้นใจ

กีกวาง...นี่นายกล้านอกใจฉันงั้นหรอ หึ...งั้นต้องมาเจอกันหน่อย!

ไม่น่าทั้งสองก็กลับบ้าน ผมขับรถตามจนถึงบ้านของคุณปู่ของผมที่ตกทอดมาถึงผม ก็เห็นไอ้หน้าขาวนั่นมันกำลังจะจูบริมฝีปากนุ่มน่าหลงไหลนั่น แค่นั้นผมก็กำมือแน่นจนอยากจะคว้ามันมาแล้วเหวี่ยงออกไปนอกโลกซะให้ได้ แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะจัดการ เพราะผมยังอบากจะรู้อีกนิดว่าคนที่ผมเฝ้าคิดถึงอยู่นั้น...เขาจะยังคงรักผมอยู่หรือเปล่า

หึ...แต่ไม่ว่าคำตอบมันจะเป็นยังไง ผมก็ไม่มีทางปล่อยให้มันหลุดไปจากสองมือของผมคู่นี้ได้อีกแน่

ใช่...ถึงแม้ว่าจะต้องบังคับ ผมก็จะทำ

ทำให้นายกลับมาเป็นของฉันให้ได้...ลี กีกวาง

'ฉันมารับนายกลับ'

และนั่นคือประโยคขอร้องครั้งแรกในชีวิตที่ผมพูดออกไป ประโยคที่มันออกมาจากใจจริงๆว่าผมต้องการให้เขากลับมาอยู่ข้างกายผม แต่ผมคงเลวเกินไป...ร่างบางถึงไม่เชื่อใจผมเลยสักนิด

มันก็สมควรแล้วนี่...ก็ทำเลวๆกับเขาไว้ขนาดนั้น

หึ...คงถึงคราวที่ผมต้องทนทุกข์ทรมานกับการกระทำของตัวเองบ้าง ซึ่งมันทำให้ผมเจ็บปวดเจียนตายจริงๆเมื่อคนที่ผมต้องการมากที่สุดกลับไม่แคร์ผมเลยสักนิด

เพราะตอนนี้เขาดันมีใครอีกคนที่กำลังเข้ามาดูแลและรักษาแผลใจ แถมยังเป็นคนดีอีก ซึ่งมันต่างจากผมรากับนรกและสวรรค์

ใครเป็นนรกหรือสวรรค์ก็คงจะรู้นะ

หึ

แต่ถึงแม้ว่าผมจะเป็นนรกที่เลวทรามขนาดไหน...นรกเลวๆอย่างผมก็ยังสามารถคว้าหัวใจบริสุทธิดวงนั้นกลับคืนมาอีกครั้งได้

หึ...ยังไงคุณก็ไม่มีทางที่จะหนีผมพ้นหรอกคุณกีกวาง เพราะตัวผมนั้นได้คล้องโซ่ของตัวเองไว้ในมือของคุณแล้ว

โซ่หัวใจของคนเลวๆอย่างผม

ซนดงอุน





"ทำอะไรอยู่หรอครับ"

"อ่า ผ่าตัดเสร็จแล้วหรอ" ผมละสายตาจากรูปใบสวยตรงหน้าแล้วหันไปมองทางต้นเสียง ก่อนผมจะเห็นร่างบางในชุดกาวสีขาวกำลังยืนหมุนคอตัวเองช้าๆอย่างเมื่อยล้า ผมเลยดึงมือเล็กให้เดินเข้ามาใกล้ก่อนจะรั้งลำคอสวยให้ก้มลงมาหา จนดวงตาเรียวเล็กนั้นเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยอย่างตกใจ ผมเลยค่อยๆเอื้อมตัวขึ้นไปจูบอีกคนอย่างแผ่วเบา

อืม..

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ หรือผ่านไปสักกี่ล้านปี ผมก็ไม่สามารถหยุดชิมริมฝีปากหนาสวยอันนี้ได้เลยสักครั้ง

มันเป็นเพราะอะไรกันนะ

เพราะผมรักคุณใช่ไหม...

"เหนื่อยมั้ย" ผมถามอีกครั้งหลังจากผมถอนริมฝีปากออก ใบหน้าเรียวที่ตอนนี้แดงก่ำอย่างน่ารักก็ค่อยๆพยักหน้าให้เพราะความเขินอายขจนพูดไม่ออก ผมเลยรั้งเอวบางของอีกคนให้ล้มตัวลงนั่งบนตักผม ก่อนจะกดแผ่นหลังเล็กให้ทิ้งน้ำหนักลงมาผิงอกผมอย่างเต็มตัว

"อ่า..."

คงเหนื่อยมากสินะ

เสียงอ่าเหมือนเจ้าของกำลังผ่อนคลาย ซึ่งมันถือว่าเป็นเรื่องดี...แต่สำหรับผมมันกลับเลวร้ายจนกลายเป็นปัญหาให้ผมเครียดได้ เพราะตัวผมนั้นมักจะหงุดหงิดอยู่เสมอ ถ้าเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีแบบนั้น แต่ผมก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากคอยดูแลห่างๆ

ดูแลคุณหมอหัวดื้อที่เอาแต่ทำงาน...จนไม่รู้แล้วมั้งว่าวันนี้มันเป็นวันที่เท่าไหร่

ที่จริงผมเคยขอให้เขาเลิกทำงานแล้วมาอยู่บ้านเฉยๆไม่ต้องทำอะไร เพราะตัวผมเองก็มั่นใจว่าสามารุเลี้ยงดูอีกฝ่ายให้สุขสบายได้ตลอดชีวิตแน่ แต่เขากลับไม่ยอม แถมยังมาขู่ผมว่าถ้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก...เขาจะย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านคุณปู่เหมือนเดิม

เห้อ...ก็ดันรักเขาให้แล้วนิ ยังไงมันก็ต้องทนให้ได้ ถึงจะขัดใจตัวเองมากก็เถอะ

"เหนื่อยครับ ปวดไปทั้งตัวแล้วด้วย" ร่างบางหมุนคอไปมาก่อนจะใช้หมัดตัวเองทุบไหล่สองสามทีจนผมเริ่มสงสาร เลยช่วยจับเส้นให้เบาๆแล้วค่อยๆคลึงจนคนบนตักเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น

ก็สมควรจะปวดอะนะ...เล่นยืนผ่าตัดติดต่อกันเกือบหกชั่วโมงนี่ จะเมื่อยก็ดูไม่แปลก

"ถ้าไม่ไหวก็เลิกทำซะ ฉันไม่ชอบเห็นนายเหนื่อยเลย" ผมมักจะพูดแบบนี้กับเจ้าตัวเสมอ ซึ่งวันนี้ก็ใช่...แต่ความหวังดีของผมกลับโดนนัยน์ตาเรียวค้อนใส่ จนเป็นผมเองนั่นแหละ ที่ต้องยอมอ่อน

"โอเคๆ...ฉันจะไม่พูดอีก"

เห้อ...ทำไมไม่เคยคิดจะเข้าใจฉันบ้างนะ

"วันนี้เราจะทานอะไรดีครับ...นี่ผมชักหิวหน่อยๆแล้วสิ" มันเองก็คงรู้ว่าทำตัวไม่ดีกับผม เลยรีบเปลี่ยนประเด็นทันที ผมเลยต้องปล่อยเลยตามเลยไม่สนใจตามก่อนจะเป็นคนดันร่างบางให้ลุกขึ้น

"ฉันจองโต๊ะไว้แล้ว" ผมบอกจุดประสงค์ก่อนจะปล่อยให้ร่างบางไปเปลี่ยนชุด พอเปลี่ยนเสร็จก็เดินเจ้าไปเกี่ยวเอวบางที่ผมชอบโอบให้เดินออกไปที่รถพร้อมกัน และทุกครั้งที่ผมโอบ...แก้มเนียนใสก็จะค่อยแดงอย่างเขินอาย ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกดีพิลึก

นี่คงจะเป็นสัญญาณว่าผมคงจะไปไหนไม่รอดแล้วล่ะ

"ไปกันเถอะ"

"ครับ"

ไม่นานเราสองก็กลับมาถึงบริษัท แต่ดูอีกฝ่ายจะสงสัยมากเป็นพิเศษ เพราะริมฝีปากหนานั้นพยายามจะรั้งถามผมต้องหลายรอบว่าพากลับมาที่บ้านทำไม แต่ผมก็ทำเป็นตีหน้านิ่งเหมือนไม่ต้องการคุย...จนเรามาถึงหน้าห้อง ผมก็ค่อยๆเอาผ้าผืนยาวที่เตรียมเอาไว้ขึ้นมาผูกปิดตาของคุณหมอทันที

"อ๊ะ! ทำอะไรน่ะครับ!" มือเล็กยกขึ้นมาจับแขนผมไว้ก่อนจะพยายามดึงให้ผมหยุด แต่ผมก็ขืนจนผูกเสร็จก่อนจะค่อยๆกระซิบบอกอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา

"เดินตามฉันมาก็พอ"

"คุณดงอุน...." เสียงหวานเอ่ยชื่อผมเบาๆจนผมอยากจะจับริมฝีปากสวยอันนั้นมาบดขยี้ให้หายคิดถึง แต่มันก็ต้องหักห้ามใจ...เพราะวันนี้มันเป็นวันที่ผมตั้งใจจะทำให้อีกคนไม่สามารถหนีไปจากผมได้อีกเลย...ตลอดชีวิต

พอตั้งสติได้ผมก็ค่อยๆดันร่างบางให้เดินเข้าห้องก่อนที่จะพาไปนั่งบนโต๊ะอาหารตัวสวยที่ถูกผมสั่งเป็นกรณีพิเศษ พร้อมกับค่อยๆจุดเทียนไขที่ถูกวางประดับทั่วห้อง จนตอนนี้...รอบตัวของเราสองคนมีแต่เปลวไฟอันน้อยๆนับพันดวงกำลังส่องสว่างให้ท่ามกลางดวงจันทร์ที่ลอยเด่นกลางท้องฟ้า

แต่คุณรู้ไหมว่าสิ่งที่ผมบรรยายมาทั้งหมด...มันไม่ได้มีความสวยหรือสิ่งที่สามารถดึงดูดสายตาผมได้เลยสักนิด เพราะตอนนี้ทั้งดวงตาและดวงใจของผม...กำลังเอาแต่จับจ้องใบหน้าเรียวสวยของอีกคนอย่างเดียว

อ่า...ทำไมนายถึงสามารถทำให้หัวใจฉันสั่นได้ถึงขนาดนี้กันนะ

ทำไม

ทำไมนายถึงสวยได้มากมายขนาดนี้

"คุณดงอุน...อย่าเงียบสิครับ" เสียงหวานนั้นเริ่มสั่น คงจะกลัวเพราะผมเงียบหายไปนาน ผมเลยเดินกลับมาหาแล้วก้มลงหอมต้นคอขาวที่มีกลิ่นสะอาดประจำตัวอีกคนหนักๆ ก่อนจะค่อยโน้มตัวไปกอดร่างบางจากด้านหลังทั้งตัว

"คุณดงอุนครับ..."

อ่า...หวานหูดีชะมัด

ผมกอดเขาอยู่อย่างนั้นจนเวลาผ่านไปนาน มือเล็กก็ค่อยๆดึงผ้าที่ปิดตาลงโดยที่ไม่ได้เอ่ยปากขอ แต่ทันทีที่ตาเรียวสวยเห็นกับสิ่งที่ผมทำ ผมก็เริ่มรู้สึกถึงอาการสั่นเล็กน้อยจากอีกคนจนผมต้องคลายอ้อมกอดนั้น

"กีกวาง..."

"คะ คุณ คุณดงอุน..."

สิ้นเสียงสั่น...แขนเล็กก็โผเข้ากอดผมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว จนเราทั้งสองร่วงหล่นลงไปนอนกับพื้นเพราะผมไม่ทันได้รองรับอีกฝ่าย ตอนนี้ใบหน้าสวยเลยห่างกับหน้าผมเพียงแค่เส้นผมคั่น พร้อมกับที่ที่ทุกอย่างนั้นกำลังหมุนช้าลงเรื่อยๆ

ลี กีกวาง

นายช่างสวยและบริสุทธิเหลือเกิน

ผมจ้องมองนัยน์ตาสวยนั้นจนมันเริ่มลึกเข้าไปถึงหัวใจของอีกฝ่าย และนั่นก็ยิ่งทำให้ผมรู้ว่ามันเองก็กำลังจะค้นหาอะไรบางอย่างจากผม...ผมเลยค่อยๆเปิดใจตัวเองให้อีกฝ่ายเข้าและค้นหาคำตอบตามที่ตนเองต้องการ

แต่ฉันว่านายคงไม่เห็นอะไรหรอก...เพราะสิ่งเดียวที่นายจะเห็นจากหัวใจฉัน มันก็มีเพียงแค่นาย

เพราะนายคือดวงใจของฉัน...ลีกีกวาง

"เจอไหม...สิ่งที่อยากจะรู้" ผมเอ่ยปากถามก่อนจะค่อยๆเกลี่ยแก้มเนียนใสตรงหน้าที่เริ่มแดงระเรื่ออย่างน่ารัก ยิ่งริมฝีปากสวยนั้นเม้มกันแน่ก็ยิ่งบ่งบอกว่าอีกคนนั้นเขินอายผมขนาดไหน และอีกไม่นาน...มันต้องหนีผมแน่

แต่มันคงหนีผมไหนไม่ได้หรอก...เพราะผมนั้นจัดการกอดเอวอีกฝ่ายแน่น จนมันสามารถทำได้เพียงอย่างเดียวก็คือ...นอนนิ่งๆบนร่างกายของผม

"คุณดงอุน..." พอเริ่มรู้ว่าตัวเองเสียเปรียบก็ค่อยๆออกแรงต้านผม แต่ผทก็ยังคงกอดเอวบางนั้นแน่นก่อนจะเชยคางมนให้หันมาหา

"อย่าขยับเยอะสิ...ยิ่งขยับ ฉันก็ยิ่งมีอารมณ์นะ"

"อะ!" เสียงหวานนั้นดูใจมากก่อนใบหน้านั้นจะแดงก่ำ มันเล่นเอาผมอดใจไม่ได้อีกต่อไป เลยจับร่างบางนั้นพลิกลงด้านล่างก่อนที่ตัวเองจะเป็นฝ่ายขึ้นคร่อม พร้อมกับค่อยๆไล้จมูกลงบนแก้มใสและรำคอระหงช้าๆ

"คุณดงอุน...อ๊า..."

เสียงหวานครางอย่างแผ่วเบาแต่เล่นเอาขนหัวผมลุกซู่ไปหมด แถมยังพาลเอาเลือดเริ่มสูบฉีดวิ่งวนไปทั่วร่างกาย จนตอนนี้สิ่งที่สลบไสลอยู่นั้นเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาเพียงแค่เสียงครางคำเดียว

"กีกวาง...อืม..."

"อ๊ะ!...อื่อ..."

ผมค่อยๆส่งมือร้อนๆเข้าไปลูบเอวคอดกิ่วช้าๆก่อนจะไล้ไปตามสัดส่วนร่างกายไปถึงสะโพกมน ร่างบางเองก็ตอบสนองดีเกินคาด ทั้งเสียงและร่างกายที่แอ่นจามมือผมก็ยิ่งจุดอารมณ์ให้พลุกพล่าน ผมเลยยิ่งลงแรงที่มือหนักกว่าเดิม จนในที่สุด ผมก็สามารถแทรกตัวเองเข้าไปในระหว่างเรียวขานั้นได้

ผมยอมรับว่าผมนั้นมีความต้องการสูง แต่ไม่รู้ทำไม...เวลาอยู่กับผู้ชายคนนี้ ผมกลับมีอารมณ์นั้นมากขึ้น....และมากขึ้น

ทุกครั้งที่ผมเห็นร่างบาง...ใจมันอยากจะกระชากให้มาอยู่ในอ้อมกอด แล้วค่อยๆขย้ำจนอีกคนหมดเรี่ยวแรง หมดไปกับความหื่นกระหายของผม เหมือนกับที่ผมกำลังมีอยู่ตอนนี้

ผม...อยาก

ผมค่อยๆจรดปลายจมูกของตนเองลงบนปลายจมูกของอีกฝ่าย...ก่อนจะใช้มือค่อยๆปลดเสื้อเชิตสีขาวของคนใต้ร่างช้าๆ จนในที่สุด...ร่างขาวเนียนสะอาดที่มีแต่รอยแดงจากฝีมือของผมที่ฝากทิ้งไว้ ก็เผยสู่สายตาอีกครั้ง

"สวย....สวยจริงๆ"

"คะ อ๊ะ...อ๊า..." ทันทีที่อีกคนจะอ้าพูดอะไร ผมก็ใช้ลิ้นตวัดยอดอกเม็ดสวยนั้นจนเจ้าตัวต้องแอ่นมันตามแรงดูด แต่ยิ่งอีกคนมีปฏิกิริยาตอบรับ ผมก็ยิ่งรุกหนักขึ้นและหนักขึ้น

"มะ ไม่ ไม่ไหวแล้ว..อึก อื่อ..." สิ้นเสียงหวานมือเล็กก็ตรงเข้ามาดึงเข็มขัดและกระดุมเสื้อผมออก ก่อนจะโน้มให้ผมลงไปจูบตัวเองข้างล่าง

จ๊วบ

"อืม..."

ดูสิ...ในเมื่อทุกอย่างมันลงตัวขนาดนี้ ก็คงจะเป็นผมเองนั่นแหละ...ที่จะขาดเขาไม่ได้

"กีกวาง...อืม ฉันรักนาย...."





++++++++++++++++++++++++++++++++
141004

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา