Always with you.. หยุดรักไว้ที่เธอ
เขียนโดย เบบี๋ทีเคอาร์
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.43 น.
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 22.46 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
27)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
หญิงสาวร่างสวย ผิวขาวใสดุจปุยนุ่น ใบหน้าหวานสุดแสนจะใสซื่อ เดินย่างกรายเข้ามาในป่าร้างที่แสนจะลึกลับ เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีคนกล้าเข้ามาในที่แห่งนี้ ยิ่งเป็นผู้หญิงแล้ว ยิ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ยิ่งกว่า แต่หารู้ไม่ว่าจุดประสงค์ของเธอคนนี้ คอยเตือนยับยั้งความกลัวของเธออยู่เสมอมา
"มาแล้วเหรอ หึหึ" เสียงแหบต่ำที่ยังคงนั่งหลับตาพูดทักขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูไม้ดังลอดออกมาเบาๆ
"ถ้าฉันไม่มาก็คงไม่เห็นหรอก ถามมาได้" หญิงสาวหน้าหวานตอบอย่างเอือมๆ มือบางกอดอกเชิดอย่างไม่แยแส
"อย่าชวนหาเรื่องสิ ไหนๆก็มาแล้ว ต้องการอะไรรึ ?" ชายสูงวัยสวมชุดดำมีผ้าโพกหัวพันอยู่ถามขึ้น
"ฉันก็มาถามความเคลื่อนไหวน่ะสิ เรื่องที่ให้ทำไปถึงไหนแล้ว แกทำอะไรกับมันไปบ้าง"
"เดี๋ยวสิ ใจร้อนเกินไปรึปล่าว คุณพิมประภา คุณลืมข้อเสนอของเราไปแล้วเหรอ ?" อย่างที่เข้าใจ 'พิม' ได้มาหาพ่อหมอชื่อดังที่เลื่องลือกันว่าฤทธิ์ไหนๆก็ไม่เคยพลาด เพื่อให้ทำเรื่องที่คาดไม่ถึง
"ชิ เรื่องมากจริง เอ้านี่" มือบางล้วงเข้าไปในกระเป๋าหลุยส์ใบสวย หยิบซองเอกสารขนาดหนาออกมาแล้วยื่นให้ชายสูงวัยตรงหน้า
"อืม.. อย่างนี้ค่อยคุยกันง่ายหน่อย"
"พูดมากน่า บอกมาซักทีว่าทำอะไรกับมันไปบ้าง" พิมตัดสินใจนั่งลงต่อปากต่อกรดีๆ เหตุผลไม่ใช่อะไร ยืนแล้วมันเมื่อย ก็แค่นั้น
"ก็ไม่ได้ทำอะไรมากหรอก ก็แค่ทำให้มันกลับเข้าร่างตัวเองไม่ได้เท่านั้นเอง" คำตอบของพ่อหมอทำให้พิมยิ้มออกได้อย่างร้ายกาจ
"ดี ! ดีมาก ค่อยๆทรมานมันไปเรื่อยๆแบบนี้แหละดี ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
ตั้งแต่วันนั้น วันที่เธอได้รู้ว่าคนที่เธอรัก โทโมะ ได้ตกลงปลงใจคบรักกับ แก้ว ผู้หญิงจืดชืดธรรมดาที่เทียบกับเธอไม่ได้เลยซักนิด แค่นั้นก็ทำให้เธอแทบจะประสาทเสีย
คำถามที่ยังวนเวียนอยู่ทุกวันในหัวของเธอตอนนี้ คือทำไม ทั้งๆที่เธอคอยอยู่ใกล้ๆเขามาตลอด แต่เพราะอะไรเขาถึงได้ไปสนใจยัยผู้หญิงแบบนั้น เธอเทียบกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ตรงไหน ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
คราวนี้เธอจะยอมไม่ได้แล้ว ยิ่งมารู้ว่าแก้วเข้าโรงพยาบาลยังไม่ฟื้นและอาจจะความจำเสื่อม เธอก็จัดการซะนี่ ให้ไม่ต้องฟื้นขึ้นมาเลยเป็นไงล่ะ ที่เข้าร่างไม่ได้นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย เดี๋ยวจะมีหนักกว่านี้แน่ !
ความรักทำให้คนตาบอดได้จริงๆ..
หรือบางทีอาจทำให้กลายเป็นคนโรคจิตไปเลยก็ได้..
"แก้วครับ ผมมาแล้วนะ" เสียงทุ้มที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงเปิดประตูดังแอ๊ดสร้างความกึกก้องให้ภายในห้องที่ขาวที่เงียบสงัด ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเดินเข้ามาข้างๆเตียงคนไข้ ในมือถือช่อดอกไม้สีขาวสะอาดตาไว้หน้าลำตัว ก่อนจะบรรจงจัดวางไว้ในแจกันอย่างสวยงาม
"วันนี้มีคนมาเฝ้ารึปล่าว ฟางมาหาแล้วใช่มั้ย ? ผมขอโทษที่ไปไหนแล้วไม่ได้บอกนะแก้ว แต่ตอนนี้ผมก็มาแล้วนะ ^^" เขายืนจัดดอกไม้ไปยิ้มไปอย่างดูมีความสุข แต่ก็เพียงแค่ทางสีหน้าเท่านั้นแหละ ในจิตใจของเขาตอนนี้มันช่างบอบช้ำเหลือเกินที่คนบนเตียงไม่ตอบคำถามเขาเลยซักนิด
"อยากรู้มั้ยว่าผมไปไหนมา ? ผมจะบอกให้" โทโมะนั่งลงที่นั่งเฝ้าไข้ เขาเอื้อมมือไปจับมือเรียวที่ขาวจนซีด ก่อนจะจับขึ้นมาแนบแก้มของตัวเอง เขาทำแบบนี้ทุกๆวัน หาเรื่องมาเล่าให้เธอฟังได้ทุกวัน และคอยสวดภาวนาในขณะที่มองหน้าเธออยู่ทุกวัน..
"....................." ร่างที่ไร้ตัวตนนั้งมองหน้าเขาอย่างอาลัยอาวรณ์ รอฟังสิ่งที่เขาจะพูดออกมา
"ผมไปขอพรพระเจ้า ขอให้แก้วกลับมาหาผม ขอให้ทุกๆอย่างเป็นเหมือนเดิม พอแก้วตื่นมาแก้วจะต้องจำผมได้ หรือถ้าไม่ได้.. ผมนี่แหละจะทำให้แก้วจำได้เอง.."
"โทโมะ.." เสียงเรียกราวกับลมกระซิบกับใบหน้าเขาอย่างใกล้ชิด ใครว่าเป็นวิณญาณแล้วจะร้องไห้ไม่ได้ แค่ร้องออกมาแล้วมันไม่มีน้ำตาเท่านั้นเอง
"แก้วจำไว้นะ ไม่ว่าจะยังไงผมก็จะไม่มีวันทิ้งแก้วไปไหน ผมจะคอยอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างๆแก้วแบบนี้ จะคอยดูแล จะทำให้แก้วกลับมาหาผมให้ได้ ผมจะอยู่เคียงข้างแก้วไปตลอดชีวิต ผมสัญญา.." น้ำตาของลูกผู้ชายไหลรินลงมาอาบแก้มด้วยความเจ็บปวด เขามีความหวังอยู่น้อยนิดเหลือเกินที่จะทำให้เธอกลับมา แต่ความเจ็บปวดย่อมเป็นส่วนหนึ่งของความรัก มีสุขก็ย่อมมีทุกข์อยู่เสมอ นั่นโทโมะรู้ดี..
"ผมรักแก้วนะครับ" ดังนั้นเขาจึงไม่ย่อท้อต่อความรักที่เขามีให้ต่อเธอ แก้วในร่างของวิณญาณนั่งลงข้างๆเขา อยากจะกอด อยากปลอบโยนไม่ให้เขาต้องเจ็บปวด แต่ก็ยากเสียเหลือเกิน มือบางเอื้อมไปกอดเอวเขาจากด้านหลัง ใบหน้าซบกับแผ่นหลังกว้างที่สะอื้นไปเล็กน้อย
"แก้วจะไม่ไปไหน แก้วสัญญา แก้วรักโทโมะนะ.."
"ยัยฟาง แกพร้อมมั้ย" เฟย์ถามเพื่อนสาวข้างกายด้วยความกังวล วันนี้พวกเธอนัดสองหนุ่มให้มาพบเพื่อบอกถึงเรื่องราวที่ต้องเผชิญ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนสาวที่รักให้เป็นอิสระเสียที
"พร้อมสิแก พร้อมจนจะไม่พร้อมแล้วเนี่ย แกอย่ากดดันฉันสิ ถ้าป็อปไม่เชื่อฉันจะทำยังไงอ่ะ T^T"
"อย่าว่าแต่ป็อปเลย เขื่อนดีกว่ามั้ย ยิ่งทะเล้นๆอารมณ์ดีเกินคาดขนาดนั้น คงจะเชื่อเราง่ายๆหรอก"
"เฮ้ออออออ" สองสาวถอนหายใจออกมาพร้อมกัน
ก็อก ก็อก ก็อก
"แก มะ มากันแล้วอ่ะ"
"แกอย่าเครียดสิเฟย์ เดี๋ยวฉันจะเครียดไปกว่าเดิม ยังไงซะ เราก็จะต้องช่วยยัยแก้วให้ได้ !" ฟางกำหมัดเพิ่มพลังอย่างมุ่งมั่น ผิดกับเฟย์ที่หน้าตาบ่งบอกถึงความท้อแท้เป็นอย่างมาก
"สาธุ คุณพระคุณเจ้า ขอให้แฟนสุดที่รักเชื่อในสิ่งที่ลูกจะพูดด้วยเถิด.." ฟางหันมามองเพื่อนสาวอย่างเอือมๆ แล้วตัดสินใจเดินไปที่หน้าประตู
"เอาวะ เป็นไงเป็นกัน" ฟางสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนจะเดินไปเปิดประตูต้อนรับแขกที่ตั้งใจเชิญเข้ามาในห้อง สองหนุ่มเมื่อเห็นว่าได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีก็ยิ้มกว้าง ได้ซักพักก็เกิดอาการงง เกี่ยวกับท่าทีแปลกๆของสองสาวที่ดูกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด
"พวกเธอ.. ไม่สบายรึปล่าว ?"
"ป็อป!/เขื่อน!" เฟย์และฟางพูดขึ้นพร้อมกัน
"หือ?" สองหนุ่มผู้ถูกเรียกชื่อ ขานรับขึ้นมาพร้อมกัน พร้อมจ้องมองใบหน้าแฟนสาวของตนอย่างเค้นคำถาม พวกเธอนัดพวกเขามาที่นี่ แสดงว่าต้องมีเรื่องสำคัญแน่ๆ ยิ่งพอเห็นหน้าตาจริงจังของพวกเธอแล้วยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่
"พวกนายฟังให้ดีๆ แล้วอย่าคิดว่ามันไร้สาระหรือเป็นเรื่องตลกเด็ดขาดนะ"
"เฮ้ นี่มันเรื่องอะไรกัน สำคัญขนาดนั้นเชียวเหรอ ?" ป็อปปี้ร้องทักขึ้นมาทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นจบ มันดูจะจริงจังจนน่าเครียดไปแล้ว
"สำคัญสิ ! นี่มันชีวิตคนทั้งคนเลยนะ !" ฟางขึ้นเสียงใส่อย่างไม่ยั้งคิด ทำเอาป็อปปี้และเขื่อนถึงกับสะดุ้งโหยง
"เฮ้อ ฟังนะทั้งสองคน ที่จะบอกเนี่ยเพราะอยากให้ช่วยๆกัน เพื่อนกันทั้งคน.." เฟย์เริ่มเปิดประเด็น ทั้งสองคนตั้งใจฟังอย่างขมักขเม่น ขนาดขั้นที่ว่ารอฟังหูตาไม่ขยับกันเลยทีเดียว
"เราสองคน.. ได้ยินแล้วก็เห็นวิณญาณ.." ไม่ทันที่เฟย์ได้พูดจบ ก็ถูกแฟนหนุ่มของเธอท้วงเข้าให้
"เฮ้ย ! ยาหยีจ๋า ไม่จริงน่ะ ไม่ตลกนะแบบเนี้ย ฮ่ะๆๆ ฮ่า.." เขื่อนพยายามสร้างความคึกครื้นให้กับทุกคน แต่ผลที่ได้กลับมาก็คือสายตาเอือมระอาที่ไม่ต้องบอกก็รู้ดีว่าจะสื่อถึงอะไร
"มันไม่ใช่เรื่องตลก นี่คือเรื่องจริงล้วนๆ แล้วไอ้วิณญาณที่ว่าน่ะ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก" ฟางหันมาเข้าเรื่องต่อ
"นี่ฟางอย่าบอกป็อปนะว่า.."
"ใช่ แก้ว.. เราสองคนเห็นและก็ได้ยินเสียงของแก้วในห้องพักของแก้ว ยัยแก้วน่าสงสารมากเลยนะป็อป ต้องทนดูคนรักของตัวเองพูดอยู่คนเดียวทุกวัน อยากจะคุยด้วยก็คุยไม่ได้ จะเข้าไปปลอบโยนหรือจับตัวก็ไม่ได้ และที่สำคัญที่สุด คือสิ่งที่ทำให้เราสองคนต้องบอกพวกนาย"
"ยัยแก้วกลับเข้าร่างไม่ได้" ประโยคนี้ถึงกับทำให้เขื่อนและป็อปปี้นั่งช็อคคาโซฟา อันที่จริงก็น่าจะช็อคตั้งแต่เริ่มเรื่องแล้ว เรื่องแบบนี้มันมีอยู่จริง.. ไม่อยากจะเชื่อต้องจำใจเชื่อ ในเมื่อสองสาวออกมายืนยันถึงขนาดนี้ ไม่เชื่อก็กลายเป็นว่าทรยศใจตัวเองน่ะสิ
"............."
"สรุปไม่เชื่อใช่มั้ย ? ก็อย่างว่าใครจะไปเชื่อถ้าไม่เจอกับตัวเอง" ฟางและเฟย์ถอนหายใจยาวออกมากับท่าทีตกใจและหน้าตาที่บ่งบอกว่าไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัดของแฟนหนุ่ม คิดไว้แล้วว่ายังไงก็คงจะไม่เชื่อ
"มะ ไม่ใช่ไม่เชื่อนะเฟย์จ๋า แต่ว่ามัน.."
"มันแปลกไปมั้ย ก็เป็นวิณญาณ ยังไม่ตายอีกต่างหาก แต่ทำไมถึงเข้าร่างไม่ได้ ?" เขื่อนจับที่อกข้างซ้าย ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เพื่อนของเขาช่วยเหลือได้อย่างหวุดหวิด แต่สิ่งที่ป็อปปี้ถามออกไปนั้นไม่ได้ตั้งใจจะช่วยเพื่อนกะโหลกกะลาข้างกายแต่อย่างใด แต่เป็นสิ่งที่เขาอยากจะรู้จริงๆ
"เท่าที่ฟางคิดนะป็อป มันน่าจะเป็นเพราะแก้วอาจไปทำให้ใครเค้าแค้นขึ้นมา"
"จนกระทั่งอาจจะไปทำเรื่องประหลาดๆ อย่างไสยศาสตร์งี้ไง" คำพูดของสองสาวทำให้ป็อปปี้นั่งนิ่งไปซักพัก ในสมองกำลังครุ่นคิดพิจารณาถึงเรื่องราวที่จะไม่น่าเป็นไปได้..
แต่ก็เป็นไปแล้ว
"ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง ใครล่ะที่ทำ"
"ก็.. อาจจะเป็นคนที่ มีปัญหากับแก้วไง แบบว่าอาจจะเป็นเพราะไอ้โมะ ไอ้นี่มันคนชอบคนรักเยอะจะตาย พอมีคนรู้ว่าไอ้โมะคบกับแก้ว คนๆนั้นก็อาจจะแค้น จนต้องไปทำคุณไสยใส่แก้วไง" คนที่ดูจะตื่นกลัวที่สุดกลับลุกขึ้นยืนบนโซฟาแล้วทำท่าทางโอเวอร์ไปกับคำพูด เป็นผลให้ทุกคนจ้องไปที่เขาเป็นตาเดียว
"อะ อะไร ฉันทำอะไรผิดเหรอ?"
"เขื่อน ! เพิ่งจะมามีสาระก็วันนี้ ความคิดมีความเป็นไปได้มาก วันนี้เขื่อนน่ารักงั้นพาเฟย์ไปกินไอติมนะ ^^" เฟย์มองแฟนหนุ่มของเธอด้วยความภาคภูมิใจ ไม่คิดไม่ฝันว่าคนอย่างเขาจะมีความคิดในความโอเวอร์ได้ดีขนาดนี้
"ครับผม ^^"
"เอาเป็นว่าเราสี่คนค่อยๆช่วยกันสืบเรื่องของแก้วแล้วกันนะ แต่ตอนนี้หิวข้าวอ่ะครับ ไปกินข้าวด้วยกันเลยดีกว่า" ป็อปปี้พูดแล้วถือโอกาสเนียน เอื้อมมือไปคว้าเอวฟางเข้ามาแนบตัว
"ใช่ๆ ไปกินข้าวกัน ป็อปเลี้ยง คิกๆ" เป็ดน้อยตัวแสบเมื่อเห็นว่าหมียักษ์(?) ฉวยโอกาสก็สวนกลับไปด้วยคำพูดที่คาดไม่ถึง ป็อปปี้หน้าเหวอในทันทีแต่ก็ยอมยิ้มแหยๆไปให้
เลี้ยงแฟนเลี้ยงเพื่อนน่ะไม่เท่าไหร่ เลี้ยงแฟนเพื่อนนี่สิ เหนื่อยใจ~
เอ้ออออ กว่าจะมาอัพเรื่องนี้ก็นานเนาะ
ขอโทษฮับ Y.Y
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ