เพราะเธอคือ 'ความรัก' ของฉัน
เขียนโดย StrawberryTKCuTe
วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.39 น.
แก้ไขเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 21.39 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ฉันไม่ได้ตอบอะไร...ได้แต่ลุกขึ้นหนีและพยายามจะกลับบ้านแต่ก็ถูกเจ้าของห้องกันตัวเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลานั่นมองฉันด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาและก่อนที่ฉันจะได้คิดอะไรต่อจากนั้น สองมืออบอุ่นก็คว้าเอวของฉันเข้าไปใกล้ๆ พร้อมกับก้มริมฝีปากลงมาจูบข้างแก้มฉันเบาๆ แค่เพียงเบาๆเท่านั้น...
“คิดถึง”
“...”
“เลิกดื้อได้แล้วนะ”
เสียงแผ่วๆที่กระซิบข้างหูพร้อมกับริมฝีปากร้อนซ่านที่คอยประทับจูบเบาๆอยู่ข้างแก้มฉันตลอดเวลาทำให้ฉันต้องปัดป้องเขาเมื่อรู้ดีว่าเราสองคนไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะมาทำเรื่องแบบนี้ต่อกันได้ โทโมะเองก็มีแฟนแล้วและฉันก็ไม่ต้องการจะเป็นมือที่สามของใครด้วย มันไม่มีเหตุผลเลยที่เขาจะทำแบบนี้กับฉัน ฉันไม่ได้ดื้อกับเขาแต่เขาต่างหากที่กำลังดื้อดึงกับฉันก่อน!
“อย่ายุ่งน่ะ อย่ามาบอกว่าคิดถึงถ้ายังมีผู้หญิงคนนั้นอยู่!” ฉันตวาดใส่หน้าโทโมะเสียงดังทำให้อีกฝ่ายชะงักไปและหันกลับมามองหน้าฉันอย่างเต็มสายตา ริมฝีปากเจ้าเล่ห์ยกยิ้มขึ้นนิดๆดูแล้วคล้ายๆกับพวกแบดบอยทำนองนั้นเลยล่ะ เหอะ!
“....”
“นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ อย่าทำอะไรแบบนี้อีก เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วก็กรุณาอย่าลืมด้วยว่าใครเป็นคนเดินออกไปเมื่อสามปีก่อน”
“ก็จะให้อยู่ทำไม รักคนที่มีเจ้าของแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับหมาที่ได้แต่เห่าเครื่องบิน แล้วรู้อะไรมั้ย...เครื่องบินลำนั้นไม่เคยเฉี่ยวมาใกล้มันเลย อย่ามากก็แค่บินต่ำๆพอให้ได้ยินเสียง แล้วโทโมะเป็นใคร...ต้องให้ทำยังไงถึงจะมีตัวตนในสายตาแก้ว ก็บอกมา...”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เลือนหายไปจากใบหน้าหล่อเหลานั่นพร้อมกับแววตาจริงจังและน้ำเสียงที่แสดงความเจ็บปวดในอดีตทำให้ฉันนึกมองย้อนไป มันก็จริง...ความจริงที่ค้ำคออยู่ทำให้ฉันไม่สามารถเอาแต่โทษโทโมะฝ่ายเดียวได้ ฉันเองก็มีส่วนผิดที่ปล่อยให้เรื่องมันเลยเถิด เขาเองก็ผิดที่ไม่ยอมชัดเจน แค่เขาพูด...แค่นั้น
ทุกอย่างก็จะไม่เป็นแบบนี้...
“แล้วเคยเชคข้อความในมือถือดูบ้างมั้ย! โทโมะรู้หรือเปล่าว่าวันนั้นที่สนามบินแก้วส่งข้อความไปว่าอะไร เคยคิดจะปิดดูบ้างมั้ยคนบ้า! หรือว่าเปิดดูแล้วแต่ทำเลยตามเลยอยากจะหนีไปให้พ้นๆจากแก้ว เป็นแบบนั้นใช่มั้ย?!”
“ข้อความอะไร โทโมะงงไปหมดแล้ว”
“แก้วส่งไปบอกว่าโทโมะอย่าไปได้มั้ย แก้วเลิกกับเขาแล้ว กลับมาหากันได้มั้ยแต่สิ่งที่แก้วได้กลับมาคืออะไร...ก็แค่ความว่างเปล่าแล้วก็เส้นทางเดิมที่ต้องเดินกลับแค่นั้นเอง!”
“ตามไปที่สนามบิน?”
“ใช่”
“ร้องไห้?”
“ใช่
“รักเหรอ?”
“ใช่..”
“เห?” โทโมะเอียงใบหน้านิดๆก่อนจะเผยยิ้มออกมาเมื่อฉันหลุดปากพูดออกไป แต่...แต่ทุกอย่างมันก็แค่อดีตทั้งนั้นแหละน่า ฉันไม่ได้รักเขาแล้วซะหน่อยและก็ไม่ได้ร้องไห้ให้เขาแล้วด้วย ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะทำแบบนั้น
“แต่ตอนนี้ไม่!”
“ทำไมล่ะ”
โทโมะดึงแขนทั้งสองข้างของฉันเบาๆให้เข้าหาเขา มันน่าเจ็บใจก็ตรงที่ฉันเดินเข้าหาเขาเองแต่โดยดีโดยไม่คิดจะขัดขืนนี่สิ เหอะ! ดูเอาเถอะ โทโมะเล่นแต่จ้องหน้าฉันแบบนี้ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำ แล้วฉันจะรู้มั้ยว่าตอนนี้เขาคิดอะไรอยู่หรือความจริงแล้วเขาไม่ได้คิดอะไรกับฉันเลย ที่เขากลับมาก็เพราะว่าคิดถึงเพื่อนๆแล้วก็งานที่นี่ หนึ่งในนั้นไม่มีฉันที่เขาคิดถึงและที่ฉันมาอยู่ที่นี่ก็เป็นเราะความสงสารที่ฉันเมาไม่รู้เรื่องเขาเลยพามาพักที่คอนโดเขา แค่นั้น...
“มองอะไรหนักหนา!”
“มองแก้วไง J”
“อย่ามากวนประสาทจะได้มั้ย จะเอายังไงก็พูดมา จะกลับบ้านจะจ้องอยู่แบบนี้ไปเพื่ออะไร?!” น่าโมโหจริงๆนะ โทโมะคนนี้เปลี่ยนไปจากคนก่อนมากเลยล่ะ เขาดูกวนประสาทแล้วก็มั่นใจในตัวเองมากขึ้น ไม่แต่จะคอยหลบหน้าแล้วก็เงียบเชียบเหมือนเคย แปลกไป...แปลกไปจังเลย
“จ้องให้ท้องเลยก็ได้นะครับ”
“ทะ...โทโมะ!!” โทโมะหัวเราะเบาๆก่อนจะคว้าร่างฉันไปกอดจูบอย่างบ้าดีเดือด ฉันรู้ว่าเขาไม่ได้คิดจะทำอะไรฉันจริงๆ ก็แค่แกล้งเล่นให้ฉันรู้สึกไม่ดีก็เท่านั้น...
“พูดจริงๆนะ เมื่อไหร่จะเลิกตั้งแง่กันซักที อุตส่าห์กลับมาหาแล้วนี่ไง คิดถึงมาตั้งสามปีนะคนดี ขอโทษด้วยที่วันนั้นไม่ได้เปิดดูข้อความ ไม่อยากเจอผู้หญิงที่อยู่บนภาพหน้าจอน่ะ”
“เหอะ จะกลับมาทำไม ในเมื่อมีผู้หญิงคนอื่นอยู่แล้วนี่!”
“ใครล่ะ?”
“ก็ผู้หญิงคนนั้นที่ตามมาด้วยไง อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องไปหน่อยเลย”
“อ๋อ...”
โทโมะลากเสียงยาวก่อนจะหันกลับมามองหน้าฉันอย่างเจ้าเล่ห์และตามด้วยการจู่โจมฉันอย่างรุนแรงราวกับผีดิบกระหายเลือด ร่างแกร่งที่เบียดแนบชิดทำให้ฉันแทบหลอมละลายไปกับอ้อมแขนร้อนแรงเสมือนตกอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงอันร้อนระอุ สัมผัสร้อนแรงสลับกับอ่อนหวานนิ่มนวลทำให้ฉันไม่อาจตามเกมเขาทันได้เลยแม้แต่นิดเดียว...โทโมะคนนี้ร้ายกาจขึ้นเป็นทวีคูณเลยล่ะไม่อยากจะเชื่อ...
“ชอบมั้ย เมื่อกี้...” โทโมะเงยหน้าถามฉันขณะที่ฉันได้แต่นอนหอบจากการหลบหลีกความซุกซนของใบหน้าหล่อๆนั่น
“ชอบบ้าสิ! ถ้าอยากมากก็ไปหาแฟนตัวเองไป!”
“อยาก?”
“ใช่ อยาก!”
“ฮะๆ ทำไมเดี๋ยวนี้แก่แดดจังเลยครับ” นิ้วเรียวยกขึ้นเกลี่ยข้างแก้มฉันอย่างเย้ายั่วแกล้งกวนประสาทให้ฉันหัวเสีย โทโมะมองใบหน้าฉันในความมือสลัวสลับกับสองมือแข็งแกร่งที่ผลักฉันลงบนเตียงกว้างและโถมร่างหนาตามมาคร่อมอยู่เหนือร่างฉัน บ้าเหอะ! ทำไมโทโมะเป็นบ้าแบบนี้กัน แค่เวลาสามปีมันเปลี่ยนคนเราได้จริงๆเหรอ?!
“แล้วใครมาทำตัวหื่นกามใส่แก้วก่อนล่ะ โอ้ยย! ปล่อยนะ จะทำบ้าอะไรฮะ” บ้า! บ้า! บ้าที่สุด! ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดขึ้นกับฉันด้วยก็ไม่รู้ ตอนนี้ฉันสับสนจนแทบจะอกแตกตายอยู่แล้ว ทำไมโทโมะถึงทำตัวเหมือนกับว่าเขาเป็นเจ้าของฉันแบบนี้กันเล่า! ทั้งที่ความจริงแล้วเขาไม่มีสิทธิ์อะไรเลยนะ!
“ก็คิดว่าถ้าชัดเจนแบบนี้แก้วจะรักไง”
“ว่าไงนะ!”
“ถ้าโทโมะทำตัวชัดเจนแบบที่แก้วต้องการ...แปลว่าแก้วจะโอเคกับโทโมะ?”
ให้ตายเหอะ! มันก็จริงอยู่ที่เมื่อก่อนโทโมะอยากไม่ทำตัวชัดเจนกับความรู้สึกของตัวเองก็จริงและฉันก็ไม่ชอบที่เขาเก็บเงียบเอาไว้แบบนั้นแต่ฉันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องเปิดเผยแล้วกแสดงความชัดเจนต่อความรู้สึกของตัวเองในเรื่องแบบนี้กันนี่ ผู้ชายบ้าเอ๊ย! จะให้ด่าว่าเขาทึ่มหรืออะไรดีล่ะ โอ๊ยย!
“แล้วที่ทำอยู่ตอนนี้มันแปลว่าอะไรฮะ คนบ้า!”
“อยากได้แก้วอีกครั้งไง...ทำไมล่ะ ชัดเจนขนาดนี้แล้วยังไม่ชอบอีกเหรอ?”
“อีกครั้งงั้นเหรอ?” ฉันทวนคำอย่างอยากจะบ้าตาย เขากล้าพูดคำนั้นออกมาได้ยังไง เรื่องนั้นระหว่างเรามันจบไปเป็นชาติแล้วนะ แล้วความจริงมันก็เป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบของเขาด้วย สาบานเลยว่ามันไม่ได้เกหิดจากความรักของเขาสักนิด เหอะ!
“ก็เราเคย...”
“หยุดพูดนะ” ฉันรู้ดีว่าโทโมะจะพูดอะไรต่อจากนั้นก็เลยต้องเอามือปิดปากร้ายๆของเขาไว้ก่อนไม่ให้เขาพูดอะไรที่น่าอายออกมา
ฉันจ้องมองดวงหน้าคมนิ่งๆพร้อมกับพยายามดันปลายคางของเขาให้ออกห่างจากริมฝีปากของฉันเมื่อเห็นได้ว่าโทโมะตั้งท่าจะรังแกฉันได้ทุกวินาทีที่เราใกล้กัน แต่ฉันจะไปสู้อะไรเขาได้ล่ะ! คนตัวโตแรงเยอะอย่างเขาไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด โทโมะกลับมาครั้งนี้ทั้งซนทั้งดื้อ ดื้อไปทุกเรื่องเลยเหอะ! อยากจะต่อยหน้าเขาแรงๆให้หายโรคจิตซักทีจัง!!
“ทำไมล่ะ หรือทำแบบนี้แล้วยังไม่ชอบอีก หรือว่า...ต้องให้ไปทำกับแพม?” ฉันเข้าใจว่าโทโมะหมายถึงผู้หญิงคนนั้นที่เดินเคียงข้างเขาเมื่อวาน เฮอะ ก็แล้วแต่เขาเถอะ อยากจะทำอะไรก็ไม่มีใครห้ามได้อยู่แล้วนี่ ถึงขึ้นพากันมาเปิดตัวแบบนี้แล้วเรื่องอื่นก็คงไปถึงไหนๆแล้วล่ะ! บ้าเอ๊ย! ทำไมฉันต้องมาคิดมากับเรื่องนี้ด้วยนะ
“ถ้ารักกันมากก็เชิญไปหากัน จะไปกอดไปจูบกันที่ไหนก็ไป แล้วก็อย่ามาให้เห็นหน้าอีก อยากจะอ้วก!”
“หึงสิ...” ฉันเบือนหน้าหนีโทโมะด้วยความโมโห ที่เจ้าตัวเอาแต่หัวเราะเยาะฉันราวกับว่าฉันเป็นคนแพ้ที่แสดงตัวว่าหึงหวงเขาทั้งๆที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน มีความสุขมากมั้งกับการที่ได้เห็นฉันเป็นบ้าเนี่ย!
“ไม่ได้หึง เป็นอะไรกันต้องมาหึง”
“นอกจากจะขี้หึงแล้วแก้วยังเป็นเด็กปากแข็งจังนะ” ริมฝีปากร้ายกาจกระตุกยิ้มนิดๆพร้อมกับนิ้วเรียวที่เอื้อมมาบีบจมูกฉันเบาๆ เขาว่าฉันเป็นเด็กอีกแล้วนะ ฉันคนนี้โตพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้วเถอะ ขอโทษ!
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้หึง เอ๊ะ! นี่พูดไม่รู้เรื่องหรือไง ปล่อยได้แล้วปล่อยเดี๋ยวนี้ รังเกียจน่ะรู้ตัวบ้างมั้ย!”
“...”
“ตัวเองหายไปสามปีแล้วอยู่ๆก็กลับมาบอกว่ารัก บอกว่าทั้งหมดนี่ทำตัวชัดเจนเพื่อแก้ว แต่แล้วผู้หญิงคนนั้นที่ตามกลับมาด้วยคืออะไร ไม่ได้โง่นะที่จะไม่รู้ว่าสองคนเป็นอะไรกันน่ะ ถ้าอยากจะจับปลาสองมือก็เชิญที่อื่นเลยคนใจร้าย คนเค้าลืมได้แล้วแท้ๆจะกลับมาให้เห็นหน้าทำไมอีกก็ไม่รู้ น่ารำคาญ ออกไปจากชีวิตแก้วเลย เกลียดโทโมะแล้ว!”
“โทโมะมีแฟนแล้วแก้วเป็นชู้ก็ได้นี่ ตอนนั้นแก้วมีแฟนแล้วโทโมะยังเป็นชู้ได้เลย..”
“ถ้าจะพูดแบบนี้ก็ปล่อย”
โทโมะพูดเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องสนุกแบบนั้น ทำให้ฉันรู้สึกผิดหวังในตัวเขาอีกแล้ว ไม่รู้สิ...ไม่ว่าใครจะมองว่าฉันงี่เง่ายังไงแต่ฉันก็เชื่อว่าฉันงี่เง่าได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของโทโมะเลยด้วยซ้ำ ฉันเบือนหน้าหนีเขาก่อนจะเงียบเสียงลงอย่างไม่คิดจะเถียงอะไรอีก แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้สะทกสะท้านอะไร ริมฝีปากร้ายกาจยังคงเลื่อนลงมาจุมพิตฉันซ้ำๆย้ำๆอย่างโหยหาอยู่เหมือนเดิม...
“ไม่เอาน่า เราได้กลับมาเจอกันทั้งที...สนุกกันหน่อยดีกว่า”
โทโมะเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียงก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดลง ฉันเองก็ได้แต่นิ่งเงียบไม่ได้ตอบโต้อะไรเขาทั้งนั้น ในเมื่อไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้วฉันจะต้องกลัวอะไรอีกล่ะ ไม่มีเลย...
ทั้งที่ในห้องนี้เย็นเชียบราวกับอยู่ท่ามกลางลมหนาวแต่ร่างกายของฉันกลับร้อนกรุ่นเมหือนอยู่ข้างเตาผิงที่ร้อนรนเพราะสัมผัสแนบชิดจากเขา ถึงจะรู้สึกดีแค่ไหนที่เราสองคนอยู่ใกล้กันแบบนี้แต่ฉันก็เลือกที่เก็บกลั้นเอาไว้และเลือกที่จะเมินเฉยต่อทุกการกระทำของเขา ถึงฝ่ามืออุ่นร้อนนั้นจะลากไล้ไปทั่วร่างกาย ถึงริมฝีปากร้อนผะผ่าวจะจูบซับทั่วทุกตารางนิ้ว ถึงร่างกายจะเบียดชิดแนบแน่นและลึกซึ้งต่อกันแค่ไหน นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีเลยสักนิดเดียว...
“แก้ว...” โทโมเงยใบหน้าชื้นเหงื่อขึ้นจากซอกคอของฉันพร้อมกับเรียกชื่อฉันเสียงแผ่วคล้ายจะตำหนที่ฉันยังทนนิ่งเฉยไม่ตอบโต้เขาแบบนี้
“รีบๆได้มั้ย จะกลับบ้าน”
“จะกลับอะไรนักหนา!” เดาว่าโทโมะคงหมดความอดทนกับฉันแล้วล่ะเขาถึงได้ตะคอกฉันเสียงดังแบบนี้ ใบหน้าหล่อดูกราดเกรี้ยวที่ฉันดื้อกับเขา พูดเลยว่าเขาคงอยากจะตีฉันจนแทบขาดใจ!
“ก็ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วนี่ก็ปล่อยแก้วซะทีสิ อย่าคิดว่าตัวเองเจ๋งมากนักกับเรื่องนี้น่ะ”
“โอเค โกรธใช่มั้ย...” โทโมะใช้น้ำเสียงที่ผ่อนลงเพื่อระงับอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ภายในจิตใจ
“...”
“บอกก็ได้ ผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่เพื่อนจริงๆ เจอกันที่ญี่ปุ่นแล้วเราก็เรียนอยู่ที่เดียวกัน เขาไม่ได้กลับเมืองไทยมานานมากพอโทโมะจะกลับเขาก็เลยขอตามกลับมาด้วย คือ...เขาเป็นแค่เพื่อน”
“แน่จริงก็อย่าหลบตาสิ” ฉันท้าเขา โทโมะทำท่าหน่ายใจก่อนจะถอนหายใจพรืดยาว
“ได้”
“อื๊อ~” มือแกร่งทั้งสองข้างเหวี่ยงร่างของฉันให้ขึ้นมานั่งตักเขา กระชับรั้งเอวของฉันให้เข้าหาแนบชิดกับเขาทุกสัดส่วน ร้อนจนจะบ้าตาย! ร่างกายของเขาเปรียบเสมือนท่อนไม้ที่ถูกเผาไฟจนร้อนไปหมด ฉันอายจนแทบจะแรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว
ไม่น่าไปท้าเขาเลยจริงๆ! เป็นฉันเองนี่แหละที่ไม่กล้าสบตากับนัยน์ตาคมกริบเหมือนใบมีดคู่นั้น สองมือได้แต่เกาะไหล่เขาเอาไว้แน่นแล้วเอนหน้าซบเพื่อหลบหนีสายตาซุกซนที่สบมองมาตลอดเวลาราวกับจะมองให้ทะลุไปถึงข้างใน แต่แล้วไงโทโมะน่ะเหรอจะสน เขาเลื่อนฝ่ามือขึ้นมาประคองใบห้าฉันไว้ให้เงยขึ้นสบตากับเขาตามคำที่ฉันท้า...
“เงยหน้ามองสิ หลบทำไมแม่คนเก่ง”
“จะ...จะพูดอะไรก็พูดมาสิ!”
“โทโมะมีแค่แก้วคนเดียวมาตลอดสามปี คิดถึงมากเลยรู้มั้ย...” โทโมะกระซิบเบาๆ ลมหายใจของเราอยู่ใกล้กันจนแทบจะหลอมรวมเป็นลมหายใจเดียวกัน ริมฝีปากของเขาพึมพำติดริมฝีปากของฉัน ในขณะที่ฝ่ามือร้อนลากไล้ไปมาเบาๆทั่วแผ่นหลังเปลือยเปล่าของฉัน...
“...”
“อยู่ที่โน่นมีผู้หญิงเข้าหาโทโมะเยอะแยะเลย เราเกือบจะมีอะไรกันด้วยนะ...” ไม่เข้าใจ! เขาจะพูดำไปกันล่ะ เหอะ! แต่ก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไรออกไปเจาตัวก็รีบแก้ต่างทันที
“...”
“แต่เราไม่ได้มีอะไรเกินเลยกันนะ โทโมะก็แค่เมาแล้วได้สติมาก่อนก็เท่านั้น จากนั้นก็ไม่เคยกลับไปที่ผับนั่นอีกเลย ตั้งใจเรียนอย่างเดียวเพื่อจะให้จบไวๆ เก่งมั้ยล่ะ...จบได้ภายในสามปีเพื่อที่จะกลับเมืองไทยมาหาผู้หญิงเนี่ย พ่อแม่รู้เข้าคงภูมิใจเนอะ นึกว่าลูกตั้งใจเรียนจะได้จบเร็วๆ ที่แท้ก็อยากกลับมาหาผู้หญิงที่รัก...”
“...”
“เชื่อมั้ย”
“แล้วผู้หญิงคนนั้น...”
“เจอกันเพราะเรียนที่เดียวกัน อย่างที่บอกเขาแค่อยากกลับมาเที่ยวเมืองไทย ครอบครัวเขาย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นกันหมด อาทิตย์หน้าเขาก็กลับแล้ว อีกอย่างเขาก็ไม่คุ้นเคยที่นี่ด้วย โทโมะก็เลยอาสาพาเขาเที่ยวแค่นั้น เขาน่าสงสารนะ เขารักที่นี่มากแต่พอดีคุณพ่อของเขาทำธุรกิจอยู่ที่นู่น เลยพากันย้ายไปตั้งแต่เขายังเด็กๆ”
“ขอเขาเป็นแฟนเลยสิ จะได้พาเขากลับมาอยู่เมืองไทย” ยอมรับว่าฉันประชด ก็เขาเล่นพูดถึงแต่ผู้หญิงคนนั้นนักนี่ ใครชอบบ้าล่ะถามหน่อยเหอะ
“ไม่ได้หรอก มีแฟนแล้ว” โทโมะมองฉันด้วยรอยยิ้มหวานก่อนจะเลื่อนมาจุมพิตเบาๆข้างริมฝีปากของฉัน
“ขี้โกงชะมัด”
“แล้วอยากเป็นมั้ยล่ะ”
“ถ้าบอกว่าไม่...”
“ใช่สิ แก้วเป็นมากกว่านั้นอยู่แล้ว”
“โทโมะ!” ฉันฟาดท่อนแขนของเขาแรงๆอย่างหมั่นไส้ แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะร่วนแล้วดึงฉันเข้าสู่อ้อมกอดครั้งแล้วครั้งเล่า
“แก้วคงไม่อยากให้เราสองคนจบลงแค่คืนนี้หรอก ใช่มั้ย..”
“อยากจบหรือไงล่ะ”
“ไม่” โทโมะรีบปฏิเสธเสียงสูงทันที “หวานขนาดนี้ใครอยากจะจบด้วยก็บ้าแล้ว”
“ไม่หวานเท่าผู้หญิงญี่ปุ่นหรอกเนอะ ว่ามั้ย” ฉันเบ้ปากนิดๆใส่เขา เหอะ น่าหมั่นไส้ ทำมาเป็นพูดดีไปเถอะ บอกตรงๆนะโทโมะเป็นแบบนี้แล้วหัวใจของฉันจะวายวอดเอาดื้อๆ หัวใจของฉันกระตุกรวดเร็วทุกครั้งที่เขาพูดจาแบบนี้ใส่ โอ๊ยย!! อายๆๆๆๆ
“ไม่ว่าล่ะ แก้วหวานยิ่งกว่านั้นอีก”
“ชิมกี่ครั้งกันถึงว่าหวาน เหอะ”
“ชิมกี่ครั้งก็หวานทุกครั้งนั่นแหละ”
โทโมะจูบเบาๆบนหัวไหล่ของฉันก่อนจะลากเลื่อนไปมากกว่าที่เคย และฉันก็ไม่คิดจะขัดขืนอะไรเขาอีก บอกเลยว่าฉันเองก็คิดถึงเขาจนแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว เขาเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ฉันตื่นเต้นทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขา เหมือนกับว่าโทโมะพาฉันขึ้นไปเล่นชิงช้าสูงๆที่หมุนเคว้งอยู่กลางอากาศแล้วก็หมุนกลับลงมาแรงๆจนเกือบตกพื้น มันวูบวาบไปหมดถึงจะรู้สึกกลัวไปนิดแต่ฉันรู้ดีว่าเขาจะไม่มีวันปล่อยมือฉันไปไหนอีก
ถ้าเขาชัดเจนแบบนี้ตั้งแต่แรกก็คงดี...
เดี๋ยวนะ...ฉันไม่ได้หมายความว่าให้เขาชัดเจนในเรื่อง ‘แบบนั้น’ หรอกนะ หมายถึงแสดงออกว่าเขารักฉันต่างหากล่ะ!
“แก้วหวานยิ่งกว่าไวน์องุ่นที่หมักมาเป็นสิบๆปีซะอีก”
“แต่ถ้าดื่มมากๆ มันอาจจะเมาแล้วก็เสพติดไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะ ขอเตือน!”
“ยอมเมาจนหัวราน้ำตายเลยเหอะครับ :)”
-THE END-
จบแล้วค่ะ จบแบบนี้จบแบบตั้งใจฮ่าๆๆๆๆ .0.
จบซะที ขอโทษที่หายไปนานมากกกกกกกกก~
อะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด ขอให้ฟินในฟิคแล้วไป
ฟินที่คอนฯต่อนะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบ!!
โทโมะ : หวานจัง อยากกินทุกวันเลย :)
แก้ว : ระวังเสพติดก็แล้วกัน :P
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ