Inequality รักเรา...ไม่เท่ากัน

9.8

วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.44 น.

  43 ตอน
  1179 วิจารณ์
  136.59K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

37)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Inequality รักเรา...ไม่เท่ากัน

ตอนที่37

 

 

 

 

 

               มือเรียวดึงแขนแกร่งที่พาดตรงเอวบางออก หญิงสาวโน้มตัวลงไปจุมพิตริมฝีปากบาง

เฉียบเบาๆกลัวว่าคนที่นอนหลับอยู่จะตื่นขึ้นมา

 

 

               “ฟางรักพี่ป๊อปนะคะ รักมาก”

 

 

               น้ำเสียงหวานทว่าดูโศกเศร้าเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา หัวใจดวงน้อยค่อยๆแตกสลายลงใน

ทุกวินาที สายตาโศกของเธอทอดมองใบหน้าของสามีที่กำลังจะกลายเป็นอดีตไปในไม่ช้า ปฏิเสธ

ไม่ได้ว่ายังห่วงหาอาทรเขามากแค่ไหน อยากเก็บเขาไว้แก้ตัวมากแค่ไหน...แต่เธอก็ทำไม่ได้ เธอ

ไม่อยากให้เขามองว่าเธอเป็นคนสับปลับปลิ้นปล้อน ไม่รักษาคำสัญญา

 

 

 

 

               ธนันต์ธรญ์ค่อยๆพยุงร่างกายขึ้น และเดินลงจากเตียง หญิงสาวหยิบเสื้อผ้าไปเปลี่ยน

ในห้องน้ำ ก่อนจะดึงกระเป๋าที่เธอเก็บเสื้อผ้าไว้อย่างเรียบร้อยออกมา และเดินไปที่ประตู

 

 

               ไม่มีอีกแล้วคนที่เธอจะบอกว่ารักเขา ต่อจากนี้เขาและเธอจะอยู่ห่างกันไกลแสนไกล

จะไม่มีทางได้กลับมาพบเจอกันอีก นี่คงจะเป็นคำว่ารักสุดท้าย อ้อมกอดสุดท้าย สัมผัส

สุดท้าย...กับผู้ชายคนแรกและคนสุดท้ายของเธอ...

 

 

 

 

 

 

               แสงแดดของเช้าวันใหม่สาดส่องใบหน้าหล่อเหลาที่เปี่ยมไปด้วยความสุข แขนแกร่ง

ควานหาร่างนุ่มนิ่มที่เขานอนกกกอดเมื่อคืนนี้ ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นเมื่อไม่พบร่างบางของธนันต์ธรญ์

ดวงตาคมเบิกโพลง ก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นเดินโทงๆไปที่ห้องน้ำแต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า

 

               ความหนาวเหน็บแล่นเข้าสู่หัวใจแกร่งเร็วและโหมแรงราวกับพายุหิมะลูกใหญ่ มือหนา

กระชากตู้เสื้อผ้าออก ก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะซีดเผือดเมื่อไม่เห็นเสื้อผ้าของคนตัวเล็กอยู่เลยสัก

ผืน

 

 

               “ฟาง...”

 

               

 

 

 

 

 

 

               ร่างสูงใหญ่ของภาณุวิ่งไปทั่วสนามบินของจังหวัดภูเก็ต ใบหน้าหล่อคมบูดบึ้ง ไม่สนใจ

หน้าอินทร์หน้าพรหม เขารู้แต่เพียงว่าเขาต้องหาธนันต์ธรญ์ให้เจอ

 

 

               “หาไม่เจอครับ ท่านประธาน”

 

 

               “ไม่เจอก็กลับไปหาต่อ ถ้าวันนี้ผมไม่เจอเมียผม ผมจะไล่พวกคุณออก!”

 

 

               ร่างของลูกน้องร่วมสิบคนรีบวิ่งออกไปเมื่อสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงทรง

อำนาจ หัวใจที่ไม่เคยไหวหวั่นกลับไหววูบเมื่อนึกว่าวันนี้และวันต่อๆไปเขาจะไม่มีร่างบอบบางอยู่ใน

อ้อมกอด การโกหกหัวใจตัวเอง มันทำให้เขาต้องเป็นอย่างในวันนี้...หากเขาทิ้งขว้างอคติ และ

ยอมรับหัวใจตัวเอง...คงไม่มีใครสักคนที่ต้องเจ็บ

 

 

               ไม่รู้ว่าป่านนี้ธนันต์ธรญ์จะเป็นอย่างไร เธอจะหนีเขาไปไกลแค่ไหนไม่รู้ใครรู้ และไม่รู้ว่า

อีกนานแค่ไหนเขาจะได้พบเจอกับหัวใจของตัวเองที่มันโบยบินไปอยู่กับเธอตั้งนานแล้ว...

เพียงแต่เขาไม่รู้...

 

 

               เขายังไม่เคยได้เอ่ยคำว่ารักกับเธอสักคำ เขามันเป็นคนเห็นแก่ตัว ทำร้ายผู้หญิงที่รัก

อย่างเลือดเย็น ทั้งๆที่เธอมอบแต่ความรักและหวังดีให้กับเขา แต่เขาก็ไม่เคยเห็นค่ามัน

จนวันนี้...วันที่เธอจากเขาไปไกลแสนไกล ทำไมถึงต้องเสียใจและเรียกร้องหาเธอ ทั้งๆที่เขาเป็น

คนไล่เธอให้ไปจากเขาน่ะหรือ....มันคงเป็นเพราะหัวสมองโง่เง่า เขาไม่เคยอยากให้เธอไปจากเขา

อยากให้เธออยู่กับเขาไปตลอดชีวิต อยากบอกรักเธอไปตลอดชีวิต อยากโอบกอดเธอไว้ตลอด

ชีวิต...เพียงแต่เขานั้นโง่เกินไป...

 

 

               “โธ่เว้ย!”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

               เท้าเรียวก้าวมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านหลังงาม นิ้วเรียวกดออดเพื่อเรียกคนในบ้าน รอเพียง

ไม่นานร่างท้วมของเด็กใช้ในบ้านก็มาเปิดประตู

 

 

               “คุณฟาง”

 

 

               “ฉันมาขอพบพิมประภาจ้ะ”เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ มือบางกระชับกระเป๋า ก่อนจะ

เดินตามเด็กสาวไปที่สวนหลังบ้าน เธอพยักหน้าให้คนรับใช้ออกไปก่อน ก่อนจะย่างเข้าไปใกล้ร่าง

บางที่นั่งอยู่บนชิงช้า...ตัวเดียวกับที่เป็นจุดเริ่มต้นความทรงจำของเธอและภาณุ

 

 

               “พิม”

 

 

               “คุณฟาง!”

 

 

               ร่างบอบบางของพิมประภาลุกพรวด ใบหน้าหวานซีดเผือดเมื่อรู้ดีว่าธนันต์ธรญ์หวงชิงช้า

ตัวนี้มาก ไม่ยอมให้ใครมานั่ง

 

 

               “นั่งเถอะ ฉันไม่ได้ว่าอะไร ฉันมาที่นี่เพื่อเอานี่มาให้เธอ”เธอมองซองกระดาษสีน้ำตาล

ที่อยู่ในมือของธนันต์ธรญ์ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเจ้าของร่างบอบบาง

 

 

               “อะไรกันคะ”

 

 

               “ฝากเอาไปให้เขาที ฉันขอให้น้องสาวของฉันมีความสุขมากๆ ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะตาม

มารังควาญชีวิตรักของเขาและเธออีกแล้วนะ รักเขาให้มากๆ เพราะเขารักเธอมาก”เธอรับซอง

กระดาษนั้นไว้ในมือเพราะมือเล็กของพี่สาวต่างมารดา

 

 

               “พิมไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ ทำไมคุณฟางถึงทำแบบนี้ล่ะคะ คุณรักพี่ป๊อปมากไม่ใช่

หรอคะ”เธอถามอย่างอยากรู้ อยากรู้ว่าทำไมผู้หญิงที่ปักใจรักมาตลอดถึงได้ตัดใจง่ายนัก

 

 

               “ก็เพราะรัก ฉันรู้ว่าเขาไม่มีความสุขสักนิดที่อยู่กับฉัน ยิ่งนานวันก็ยิ่งทรมาน...สู้ฉัน

ปล่อยเขาไปมีความสุขกับเธอดีกว่า จะรั้งเขาไว้ก็คงเปล่าประโยชน์ ยิ่งนานเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งเจ็บ”น้ำ

เสียงหวานนั้นดูเจ็บปวดจนคนฟังอย่างเธอรู้สึกได้ เธอเอื้อมมือไปกุมมือเรียวของธนันต์ธรญ์ก่อนจะ

เอ่ย

 

 

               “คุณฟางกลับมาที่นี่ได้เสมอนะคะ คุณยังมีคุณพ่อ มีพิม”

 

               ธนันต์ธรญ์ยิ้ม ก่อนจะเอ่ยเสริม

 

 

               “มีคุณน้าด้วย...แต่ถึงยังไงฉันคงไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว อยากจะไปอยู่ที่ไหนสักที่ ที่

ฉันอยู่แล้วมีความสุข เงียบสงบ ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายอยู่ที่นั่น”

 

 

               “แต่ว่า...”

 

 

               “เอาน่า ฉันรู้ว่าเธอก็ไม่ได้รักฉันมากเท่าไหร่หรอก และฉันก็ไม่ได้รักเธอมากเท่าไหร่

เหมือนกัน แต่คงเป็นเพราะสายใยบางๆของพี่น้องละมั้ง ฉันถึงเกลียดเธอไม่ได้ตลอด อืม อีกสักสิบ

ปีฉันจะกลับมาเยี่ยมครอบครัวที่อบอุ่นของเธอก็แล้วกัน”เธอเอ่ยเล่นๆ ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดคราบ

น้ำตาให้น้องสาวต่างมารดา ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอมีความรู้สึกดีๆและความหวังดีให้พิมประภา คงเป็น

เพราะหัวใจที่ถูกลบรอยทิฐิและความชิงชังออกไปแล้วกระมัง

 

 

               “ขอบคุณนะคะ...พี่ฟาง”

 

 

               สองร่างโอบกอดกันแน่น สายใยบางๆบัดนี้กลับถูกถักทอจนแน่นแฟ้น ทั้งสองเชื่อว่า

สุดท้ายแล้วเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ เธอทั้งสองมีสายเลือดของพ่ออยู่คนละครึ่ง และไม่มีใครคนไหนที่

จะหวังร้ายกับสายเลือดของตนเองได้ลงคอ พี่น้อง...อย่างไรๆก็เป็นพี่น้องอยู่วันยังค่ำ ไม่มีทาง

ทำร้ายกันได้ลงคอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

               ร่างเล็กของธนันต์ธรญ์โผเข้ากอดนมทิพย์ ก่อนจะหอมแก้มซ้ายทีขวาที

 

 

               “คุณหนู คุณหนูจะไปอยู่ที่ไหนคะ กลับมาอยู่บ้านเราเถอะนะคะ”

 

 

               “ไม่เอาหรอกจ้ะนม ฟางอยู่ที่นี่ไม่ได้”

 

 

               นมทิพย์นิ่วหน้า ก่อนจะผละร่างเล็กของธนันต์ธรญ์ออก แค่มองดวงตากลมโตคู่นั้นนาง

ก็รู้แล้วว่าเด็กสาวต้องมีอะไรอยู่ในใจแน่ๆ

 

 

               “บอกนมมานะคุณหนูว่าทำไมถึงอยู่ที่นี่ไม่ได้”

 

 

               “ก็ที่นี่มันร้อนไงคะ ฟางอยากไปอยู่ในบึงใหญ่ๆ จะได้...”

 

 

               “คุณหนู! นมจริงจังนะคะ”

 

 

               ธนันต์ธรญ์เงียบ ก่อนจะมองสีหน้าจริงจังของนมทิพย์อย่างหนักใจ เธอควรจะบอกท่าน

เกี่ยวกับการตัดสินใจครั้งนี้ดีหรือไม่ มือบางจิกเข้าหากันอย่างประหม่า รู้สึกอึดอัดเหมือนอยู่ในห้อง

สอบสวนไม่มีผิด

 

 

               “คือว่าฟาง...”เธอเงยหน้าขึ้นมองท่านอีกหน เมื่อพบแต่แววตาของความห่วงใย เธอก็

ไม่ลังเลอีกเลย

 

 

               “ฟางท้องค่ะ”

 

 

               “คุณพระ! ตายแล้วคุณหนู แล้วจะหย่ากับคุณภาณุได้ยังไง แล้วคุณหนูน้อยของนมล่ะ

คะ”เธอลูบหลังมือของท่านเบาๆก่อนจะเอ่ย

 

 

               “ฟางไม่ได้หวังให้เขามารับผิดชอบฟางหรอกค่ะ ฟางอยากได้ลูก อย่างน้อยในชีวิตของ

ฟางก็ยังมีความสำคัญกับใครสักคนบ้าง”

 

 

               “โถ คุณหนู”เธอโผเข้ากอดท่าน อ้อมกอดของท่านยังอบอุ่นเหมือนเดิม เป็นที่พักพิง

ให้เธอได้เสมอ แม้ในวันที่เธอมีปัญหานมทิพย์ก็ไม่เคยทิ้งขว้างเธอ และในวันนี้ในวันที่มรสุมลูก

สุดท้ายกำลังจะผ่านพ้นไป ท่านก็ยังอยู่เคียงข้างเธอ

 

 

               “ฟางรักนมทิพย์นะคะ”

 

 

               “นมก็รักคุณหนูค่ะ คุณหนูจะไปอยู่ไหน ให้นมไปด้วยนะคะ นมปล่อยให้คุณหนูไปตก

ระกำลำบากคนเดียวไม่ได้หรอกค่ะ”

 

 

               “ค่ะ”

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา