Inequality รักเรา...ไม่เท่ากัน
เขียนโดย สายลมแห่งตะวัน
วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.44 น.
แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
30)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความInequality รักเรา...ไม่เท่ากัน
ตอนที่30
ปลายปากกาจรดลงบนเอกสารฉบับสุดท้าย ก่อนมือหนาจะปิดเอกสารลงหลังจาก
เคลียร์งานวันนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูก็พบว่าเวลานี้มันราวทุ่มกว่าๆแล้ว จึง
หยิบสูทนอกและกระเป๋าเอกสารเดินออกมาจากห้องทำงาน แต่สายตาก็สะดุดเข้ากับร่างเล็กที่นั่ง
หลับอยู่บนโซฟาหน้าห้องทำงาน
“ฟางครับ”
ธนันต์ธรญ์งัวเงียตื่นขึ้นมา ก่อนจะพบใบหน้าหล่อคมของสามีหนุ่มที่อยู่ห่างเพียงคืบ
เธอรีบเบี่ยงใบหน้าหลบ
“งานเสร็จแล้วหรอคะ กลับกันเลยไหม”
“ทำไมไม่เข้าไปข้างใน มานอนแบบนี้ได้ยังไง”
“กลัวคุณไม่สะดวกน่ะค่ะ กลับกันเลยดีกว่าค่ะ ฉันยังไม่ได้จัดเสื้อผ้าให้คุณเลย”เธอเส
หยิบกระเป๋ามาสะพาย ก่อนจะลุกขึ้นยืน แต่เพราะการนั่งอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานานทำให้ขาเกิดเป็น
ตะคริวขึ้นมาทันใด
ภาณุมองใบหน้าแสนหวานที่เบ้ลง ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งอย่างเดิมก่อนเธอจะคอยบีบ
นวดท่อนขาเรียวของตัวเอง เขาก้มตัวลงนั่งคุกเข่า ก่อนจะถอดรองเท้าออกจากเท้าเรียว ก่อนจะ
นวดแรงๆที่ขาเรียวเพื่อไม่ให้เป็นตะคริว
“เป็นยังไงบ้าง เจ็บอยู่รึเปล่า”
“นิดหน่อยค่ะ พอเถอะค่ะ”
“พอได้ยังไง มันยังไม่หายเลย”
ธนันต์ธรญ์มองเสี้ยวหน้าคมเข้มอย่างหลงใหล หัวใจไม่รักดีเต้นไม่เป็นส่ำ คิ้วเข้มขมวด
เข้าหากันจนยุ่งไปหมด ริมฝีปากหยักลึกเม้มเข้าหากัน ท่าทีของเขาราวกับเป็นห่วงเธอเสียเต็ม
ประดา ซึ่งความจริงแล้วมันไม่มีทางเป็นอย่างนั้นได้เลย
“ฉันหายแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”เธอผุดลุกขึ้น ก่อนจะสะพายกระเป๋าและเดินนำ
หน้าสามีหนุ่มไปที่ลิฟต์
“เคลียร์งานทันรึเปล่า”
ภาณุหันไปถามคนตัวเล็กที่ยืนนิ่งอยู่ ไม่นานก็ได้ยินเสียงตอบกลับ
“ทันค่ะ ช่วงนี้งานฉันไม่ค่อยเยอะ แล้วคุณล่ะคะ”เขาทอดถอนหายใจ ไม่เคยเลยสัก
ครั้งที่จะคุยกับหญิงสาวแล้วรู้สึกขัดอกขัดใจขนาดนี้ สรรพนามบ้าบอนี้มันเป็นเหมือนกำแพงที่คอย
กันเขาและเธอให้อยู่ห่างจากกัน ให้ตายเถอะ!
“ทัน...หลังจากงานสัมมนาฟางอยากจะไปเที่ยวที่ไหนต่อรึเปล่า”
“ไม่ดีกว่าค่ะ รีบกลับมาจัดการเรื่องของเราดีกว่า คุณคงไม่สนุกนักถ้าต้องเที่ยวกับฉัน”
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ พี่บอกแล้วไงว่าอยากจะพาเราไปเที่ยว”
“ฉันไม่ได้อยากไปเที่ยว ฉันอยากไปฮันนีมูนกับคนที่ฉันรักแล้วเขาก็รักฉัน ถ้ารู้แล้วก็
กรุณาอย่าถามฉันอีกเลยค่ะ ฉันยังตัดใจจากคุณไม่ได้ ฉันยังรักคุณ ยิ่งคุณทำแบบนี้ มันจะทำให้ฉัน
คิดไกล สุดท้ายแล้วมันก็จะเหลือแต่ฉันที่ยังจมปลักอยู่กับความรักที่ฉันสร้างขึ้นมาหลอกตัวเอง”
ธนันต์ธรญ์เบนหน้าหนี ไม่ประสงค์จะให้เขาเห็นความอ่อนแอของเธอ กี่ครั้งกี่หนแล้วที่
ต้องมานั่งร้องไห้เพราะความรักของเธอที่มีให้ภาณุ กี่ครั้งกี่หนแล้วที่ต้องพ่ายแพ้อย่างไม่เหลือท่า กี่
ครั้งกี่หนแล้วที่หัวใจถูกทำร้ายจนแทบไม่เหลือชิ้นดี
ภาณุมองเสี้ยวหน้าหวานของภรรยาสาวด้วยความรู้สึกหลากหลาย มันสับสน และเขา
ไม่รู้ว่าทำไม แค่คิดว่าต้องเลิกรากัน เขาก็ห่วงหาอาทร หวงแหน ห่วงใย ไม่อยากให้เธอไปไหน
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้เลย...ไม่สิ เขาต้องมั่นคงในความรัก เขามีพิมประภารออยู่แล้ว
ทั้งคน จะไปรักคนอื่นได้อย่างไร
บรรยากาศภายในรถคันหรูเงียบกริบ ไม่มีใครพูดอะไร หากไม่นับเสียงจราจรข้างนอก
ภาณุคาดว่าเขาคงจะได้ยินเสียงลมหายใจของคนตัวเล็กข้างกายเป็นแน่
“แวะทานข้าวก่อนดีไหม นี่ก็ค่ำมากแล้ว”
ภาณุขมวดคิ้วเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากคนตัวเล็ก เขาเบนสายตาจากสัญญาณไฟ
จราจรมาที่คนตัวเล็ก ศีรษะทุยสวยซบอยู่บนเบาะรองคอ ผมนุ่มสลวยปกปิดใบหน้าแสนหวาน ทั้งลม
หายใจที่เข้า-ออกอย่างสม่ำเสมอทำให้เขารู้ว่าธนันต์ธรญ์หลับไปแล้ว
“หลับง่ายจริง เฮ้อ”เขาทอดถอนหายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย เหนื่อยทั้งกายทั้งใจ
นึกโมโหตัวเองที่สับสนใจในเวลาแบบนี้ ทั้งๆที่เขาควรจะดีใจสิที่จะได้ใช้ชีวิตคู่กับพิมประภาจริงๆ
เสียที แต่นี่เขากลับลังเล ความห่วงหาอาทรธนันต์ธรญ์แล่นขึ้นมาเป็นริ้ว
นิ้วแกร่งจับเส้นผมนุ่มขึ้นทัดข้างใบหูบอบบาง ก่อนจะจับศีรษะเล็กให้หนุนนอนในท่าที่สบาย
เขาหักพวงมาลัยเข้าร้านอาหารแถวชานเมืองร้านหนึ่ง ก่อนจะปิดเครื่องและสะกิดคนตัวเล็กข้างกาย
“ฟางครับ”
ชายหนุ่มยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อเสียงหวานครางประท้วงในลำคอ มือเล็กปัดมือของ
เขาออกอย่างไม่ชอบใจ ดวงตากลมโตคู่นั้นยังคงหลับพริ้ม ริมฝีปากรูปกระจับเวลาที่ไม่ขยับตวาด
แว้ดๆมันมีมนต์สะกด มันทำให้เขาอยากจะรู้ว่ามันจะหวานเหมือนเดิมรึเปล่า
พลันริมฝีปากหยักลึกเคลื่อนเข้าไปใกล้ริมฝีปากรูปกระจับ ลมหายใจต่างเป็นของกัน
และกัน เมื่อริมฝีปากได้สัมผัสกับริมฝีปากนุ่มราวกลีบกุหลาบหอมหวานละมุน ชายหนุ่มไม่ลังเลเลย
สักนิดที่จะกวาดต้อนความหวานในโพรงปากนุ่มอย่างอ่อนหวาน ฝ่ามือแกร่งแสนอบอุ่นโอบประคอง
ใบหน้าแสนหวานไว้อย่างทะนุถนอม...
ดวงตากลมโตค่อยๆเปิดขึ้นทีละน้อย เมื่อรู้สึกได้ถึงสัมผัสอ่อนโยนที่เฝ้าฝันหา
ใบหน้าหล่อคมที่แนบริมฝีปากบนริมฝีปากของเธอ มือหนาที่โอบประคองใบหน้าของ
เธออย่างทะนุถนอม ใช่ความจริงหรือเปล่า...
แสงไฟจากรถยนต์ที่เคลื่อนเข้าจอดในลานจอดรถเรียกสติที่กระเจิดกระเจิงของสอง
หนุ่มสาวได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มผละจูบจากคนตัวเล็ก ก่อนจะลูบท้ายทอยแก้เก้อเมื่อเห็นว่าหญิง
สาวตื่นจากห้วงนิทราแล้ว และเธอก็รู้แล้วด้วยว่าเขากำลังทำอะไร
“แวะทานข้าวก่อนนะฟาง”
“ค่ะ”
เสียงหวานตอบแผ่วเบาทั้งๆที่ใบหน้าแสนหวานก้มต่ำจนแทบจะชิดติดเนินอก ทั้งๆที่
ไม่ใช่ครั้งแรกที่จูบกัน ทั้งๆที่เธอก็เคยจูบกับเขาแล้ว แต่ทำไมหัวใจถึงได้เต้นแรงกว่าทุกครั้งกัน...
และเธอก็ให้คำตอบตัวเองแค่เพียงว่า...จูบนี้...เขาให้เธอ
หายไปหลายวันเลย แต่รีดเดอร์ที่น่ารักก็ยังอุตส่าห์เข้ามาทวงมาถาม เอาเป็นว่าวันนี้จะอัพให้2ตอน
ก็แล้วกันเนอะ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เหมือนกัน ต้องดูเม้น+โหวตก่อน อิอิ
ยังก็ต้องขอบคุณทุกคนมากนะที่ติดตามมาโดยตลอด ตอนนี้กำลังเขียนนิยายเรื่องใหม่ คิดว่ากำลัง
ไปได้ดีและไม่น่าจะล่ม อิอิ อีกไม่นานคงได้อ่านเรื่องใหม่กันแน่ๆค่ะหลังเรื่องนี้จบ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ