Inequality รักเรา...ไม่เท่ากัน
9.8
เขียนโดย สายลมแห่งตะวัน
วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.44 น.
43 ตอน
1179 วิจารณ์
136.59K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความInequality รักเรา...ไม่เท่ากัน
ตอนที่1
น้ำตาที่รินไหลจากดวงตาคู่โศกหยดลงบนกรอบรูปสีขาวสะอาดตา ภายในบรรจุรูปของบ่าวสาวคู่หนึ่ง
เจ้าสาวในชุดแต่งงานสีขาวฟูฟ่องราวกับเจ้าหญิงยิ้มหวานให้กับกล้องอย่างเป็นสุขใจ ช่างต่างกับใบหน้าหล่อคมที่
บึ้งตึงของเจ้าบ่าว ดวงตาคมเรียวคู่นั้นไม่ได้แสดงออกถึงความสุขหรือยินดีในสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย....
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร มันก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว
ในเมื่อตอนนี้เธอและเขาคือสามี-ภรรยากัน เป็นสามีและภรรยาที่ชอบธรรมว่าด้วยพฤตินัยและนิตินัย...
เว้นก็แต่หัวใจ ที่ไม่ว่าจะอย่างไรภาณุก็ไม่มีวันจะมอบให้เธอ
ในเมื่อในสายตาของเขา เธอเป็นได้เพียงแค่เงา...ไม่มีชีวิต ไม่มีหัวจิตหัวใจ เป็นแค่ตัวอะไรสักอย่างที่เขาจะทิ้งจะ
ขว้างยังไงก็ได้ ไม่แม้แต่จะให้เกียรติในฐานะของภรรยา....แม้เธอจะพยายามแค่ไหน
แต่ดูเหมือนความพยายามก็จะสูญเปล่าอยู่ร่ำไป...
ในเมื่อหัวใจของเขาเป็นของผู้หญิงอีกคน...
ชีวิตคู่ที่ไม่ได้สุขอย่างในนิยายหรือละคร นำมาซึ่งความเจ็บปวดที่กำลังกัดกินหัวใจของเธอจนเป็นแผลเหวอะหวะ
ไม่มีวันเยียวยารักษาให้หายขาด และสักวันเธอคงต้องตายลงไปช้าๆพร้อมกับความทุกข์ตรมภายในหัวใจ
เป็นเรื่องยากที่คนๆหนึ่งจะรักใครไป โดยไม่หวังความรักตอบแทน เพราะนี่คือชีวิตจริง
ไม่มีใครแสนดีอย่างนางเอกในนิยายที่ต้องเป็นผู้เสียสละอยู่ร่ำไป หรือถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ตอนนี้เธอก็คงไม่ต่าง
อะไรกับนางมารร้ายที่กำลังพยายามทำให้ความรักของคนสองคนแตกหัก...
แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่ามันเป็นเรื่องผิด แต่เธอไม่มีทางเลือก เพียงแค่คิดว่าหากวันใดที่เธอได้ความรักของเขา
ตอบแทนมา หัวใจดวงน้อยกลับเต้นไม่เป็นจังหวะราวกับคนขาดสติ บ่อยครั้งที่เธอมักจะเผยรอยยิ้มออกมาโดย
ไม่รู้ตัว จินตนาการไปไกลในวันที่เธอยืนเคียงคู่เขาโดยปราศจากข้อกังขาใดๆ มีลูกน้อยสักคนสองคน คงจะเพิ่ม
สีสันให้ชีวิตอันน่าหดหู่ของเธอไม่น้อยเลย ครอบครัวเล็กๆ คือความฝันของผู้หญิงคนหนึ่ง ความฝันของคนที่ไม่ได้
มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบอย่างเธอ มีคนที่รักอยู่เคียงข้างกาย มีพยานรักตัวน้อยๆคอยส่งเสียงร้องวอแว คอยเรียก
รอยยิ้มจากเธอและ...สามี
ใบหน้าหล่อเหลาภูมิฐานทว่ามีดวงตาที่โศกไปไม่ได้น้อยกว่าบุตรสาว ทอดมองร่างเล็กของลูกสาว
ตัวน้อยที่เขาคอยประคบประงมเอาใจ...มากที่สุดเท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำให้ได้
แววตาสุกใสและรอยยิ้มหวานหยดที่ละม้ายคล้ายคลึงกับมารดาเมื่อได้พบกับชายหนุ่มรูปงาม
ประธานบริษัทหุ้นส่วนและที่สำคัญเป็นคนที่เขาหมายมั่นหมายใจจะให้มาดูแลแก้วตาดวงใจของเขา เมื่อเห็นว่าเด็ก
น้อยชอบพอชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย เขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะยอมรับคำทาบทามจากผู้ใหญ่ฝ่ายชาย โดยที่ไม่ยอม
สังเกตอะไรต่อมิอะไร หวังแต่เพียงว่าการแต่งงานของเด็กทั้งสองคนจะช่วยใช่บริษัทของเขามีความมั่นคงมากขึ้น
งานแต่งงานของทั้งคู่ถูกจัดในอีกหนึ่งปีถัดมา ทุกอย่างรวดเร็วจนเวลานี้ก็ล่วงเลยมาแล้วถึงสองปี...สองปีที่ผ่านมา
ทำให้เขาตระหนักได้ว่าเขาได้ทำลายแววตาสดใสและรอยยิ้มที่หยุดโลกไว้ทั้งใบของลูกสาวลง เด็กน้อยที่ซุกซน
ในสายตาของเขากลายเป็นเด็กที่นิ่งเงียบ ดวงตาคู่ที่เคยสดใส บัดนี้กลับหม่นหมอง ทิ้งไว้เพียงแต่แววตาโศกศัลย์
ทุกขณะจิต รอยยิ้มหวานหยดถูกปลดจากริมฝีปากอวบอิ่มและค่อยๆเลือนหายไป...
นานแรมปีที่เขาไม่เคยได้เห็นมันอีก จนกระทั้งตอนนี้...และไม่รู้ว่าธนันต์ธรญ์นั้นคิดอะไรอยู่
คงจะเป็นเรื่องดีไม่ใช่น้อย ไม่เช่นนั้นรอยยิ้มคงจะไม่ปรากฏบนใบหน้าสวยหวานแน่นอน...
ใครต่อใครก็บอกว่าแต่งๆกันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง เขาก็คิดเช่นนั้น หากแต่เวลาได้พิสูจน์แล้ว...เขาคิดผิด
ยิ่งนานวันความสงสารระคนเห็นใจบุตรสาวยิ่งมากขึ้นทุกขณะ แม้จะไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่เขาก็แวะเวียนมา
เยี่ยมลูกสาวและลูกเขยอยู่เสมอ แม้จะไม่บ่อย แต่ก็พอจะสังเกตเห็นกำแพงสูงใหญ่ที่ภาณุสร้างไว้ระหว่างภาณุ
และธนันต์ธรญ์ ความห่างเหินของภาณุที่มีต่อบุตรสาวทำให้ความมั่นใจของเขาลดลงทุกวัน...
จนวันนี้มันแทบไม่มีเหลือ...ต่อไปนี้เขาคงขีดเส้นทางชีวิตของทั้งคู่ไปต่อไม่ได้อีก และหากต้องเลิกรากัน...
ก็คงจะไม่ใช่เรื่องผิดอะไร
“คุณพ่อ...”
ร่างเล็กของธนันต์ธรญ์เดินเข้ามาหาร่างสูงดูภูมิฐานของบิดาก่อนจะพนมมือกราบลงบนบ่าแข็งแกร่งของ
ท่านอย่างคิดถึงสุดหัวใจ อ้อมแขนแกร่งดังเกาะกำบังที่จะคอยปกป้องลูกน้อยให้พ้นจากอันตรายทั้งปวงโอบกอด
หญิงสาวไว้อย่างแนบแน่น น้ำตาลูกผู้ชายของคุณกันต์คลอดวงตาคู่คมเมื่อรู้สึกได้ถึงร่างบอบบางที่สะท้านเบาๆ ยิ่ง
ทำให้คนเป็นพ่ออดสะท้อนใจไม่ได้
“หนูสบายดีหรือลูก”
คุณกันต์เอ่ยถามบุตรสาวในอ้อมทั้งที่กอดอย่างห่วงใย หญิงสาวตอบอู้อี้กับบ่าแกร่งของบิดา
ไม่ยอมปล่อยตัวออกจากอ้อมกอดของบิดาง่ายๆ ความน้อยใจและสิ้นหวังประเดประดังเข้ามาไม่เคยหมดสิ้นสักที
“คุณพ่อมาหาฟางบ่อยๆนะคะ...ฟางเหงา”
หญิงสาวออดอ้อนทันที เพราะตั้งแต่มารดาเสียไป ครอบครัวของเธอเปลี่ยนไป...
นานแค่ไหนแล้วก่อน ก่อนเธอเกิด หรือตั้งแต่เธอเกิด นั่นเป็นสิ่งที่เธอตอบตัวเองไม่ได้ รู้แต่ว่าตั้งแต่เล็กจนโต
ไม่มีเลยสักครั้งที่เธอจะได้อยู่ฉลองวันเกิดร่วมกับพ่อและแม่ ไม่มีพ่อและแม่ไปรับ-ส่งที่โรงเรียน คงมีแต่แม่เท่านั้น
ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของเธอ เธอไม่มีแม้แต่พ่อให้ขี่คอเล่นเหมือนอย่างที่ใครเขามี อ้อมกอดของคนเป็นพ่อ
เธอก็เพิ่งจะรู้ว่ามันอบอุ่นเพียงใด เมื่อไม่ได้กอดท่านตั้งแต่ไหนแต่ไร ภาพที่แม่นอนร้องไห้ทุกคืนยังคงติดตรึงอยู่
ในความทรงจำไม่เคยจางหาย และตอนนี้เธอก็กำลังรู้สึกแบบที่ท่านรู้สึก
“ได้ ได้สิลูก”
คุณกันต์พยักหน้าเบาๆก่อนจะโอบกอดร่างเล็กของลูกน้อยไว้อย่างปกป้อง จริงอยู่ที่เขาไม่ใช่ลูก
ไม่มีทางรู้สึกได้ถึงความรู้สึกของธนันต์ธรญ์ แต่สายใยของพ่อ-ลูกทำให้เขารู้ว่าตอนนี้เธอคงจะทุกข์ตรมไม่น้อย
และเพื่อทดแทนในสิ่งที่ลูกสาวคนนี้ขาดมาตลอดเขาก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้
เสียงรถที่ดังเข้ามาในโสตประสาทของทั้งสองทำให้คุณกันต์รั้งร่างเล็กของลูกสาวออกจากอ้อมกอด
ก่อนจะปาดน้ำตาออกจากใบหน้านวลและเอ่ยบอก
“พี่เขากลับมาแล้ว ออกไปต้อนรับสิลูก เขากลับมาเหนื่อยๆ”
หญิงสาวมองหน้าบิดาตาปรอย ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ ออกไปก็เท่านั้น ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็ไม่เคยเห็น
เธออยู่ในสายตาอยู่แล้ว จะออกไปให้เสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำไม
“เขาเห็นหน้าฟาง แล้วเขาจะได้เหนื่อยกว่าเดิมสิคะ”
เสียงหัวเราะขื่นๆถูกเค้นออกมาจากลำคอของธนันต์ธรญ์ หญิงสาวยิ้มให้บิดาก่อนจะเดินออกมาจากสวน
หย่อมหลังบ้านที่เธอมักจะมาซ่องสุมอยู่บ่อยๆยามเหงา แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ ร่างเล็กของเธอชนเข้ากับร่างสูงใหญ่
ของสามี และความที่ไม่ทันตั้งตัวทำให้เธอทรุดฮวบแต่ก่อนที่จะได้ไปนั่งเล่นอยู่บนพื้น ลำแขนแกร่งกลับรับร่าง
ของเธอไว้ก่อน
“เดินให้มันดีๆหน่อย ตัวก็ผอมบางขนาดนี้ เดี๋ยวก็ได้แข้งขาหักกันพอดี ผมไม่ได้ว่างจนมีเวลาไปนั่งเฝ้า
นอนเฝ้าคุณหรอกนะ”
“ฉันก็คิดว่าอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ เวลาของคุณคงมีไว้ให้เมียน้อยคนเดียวเท่านั้นแหละ!”
ธนันต์ธรญ์ตอบสียงเย็นชา ไม่ใส่ใจกับสายตาดุดันที่กำลังจ้องมองเธออย่างเดือดดาล เดินลิ่วผ่านหน้า
ชายหนุ่มไป...พร้อมกับน้ำตาหยดหนึ่ง น้ำตางี่เง่า...
ภาณุมองตามร่างเล็กของภรรยาสาวไป มือหนากำเข้าหากันแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน
เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาจัดการไม่ได้ เป็นคนเดียวที่สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในชีวิตของเขาไม่จบไม่สิ้น
เด็กสาวหน้าตาใสซื่อที่เคยได้พบเมื่อสามปีที่แล้ว ทำให้เขาไม่เคยได้ระคายใจว่าเธอจะเป็นเสี้ยนหนามตำใจมา
จนทุกวันนี้....และความรักของเขากำลังจะแตกหักไปพร้อมกับความรักที่เห็นแก่ตัวของเธอ ซึ่งเขายอมไม่ได้
และยิ่งกำจัดเธอออกไปจากชีวิตได้เร็วเท่าไร...ชีวิตของเขาก็จะกลับมามีความสุขเร็วเท่านั้น
..................................................................................................................................
สวัสดีกับเรื่องใหม่ เนื่องจากตันเรื่องเก่า เลยมาเปิดเรื่องใหม่ เรื่องเก่าเอาไว้ก่อน อัพต่อเมื่อแต่งจบในคอม อิอิ
ภาษาเรื่องนี้อาจจะแปลกๆ เเต่เราคิดว่าอยากจะแต่งเหมือนนิยายที่แต่งจริงๆ ยังไงก็ลองอ่านกันดูนะ ชอบไม่ชอบก็
บอก
เรื่องนี้ตั้งใจมาก จะเอาทุกคนร้องไห้ตามเลย อิอิ
ขอเม้นเป็นกำลังใจ ขอโหวตเป็นพลังหน่อยน้าาาาาาาา
ตอนที่1
น้ำตาที่รินไหลจากดวงตาคู่โศกหยดลงบนกรอบรูปสีขาวสะอาดตา ภายในบรรจุรูปของบ่าวสาวคู่หนึ่ง
เจ้าสาวในชุดแต่งงานสีขาวฟูฟ่องราวกับเจ้าหญิงยิ้มหวานให้กับกล้องอย่างเป็นสุขใจ ช่างต่างกับใบหน้าหล่อคมที่
บึ้งตึงของเจ้าบ่าว ดวงตาคมเรียวคู่นั้นไม่ได้แสดงออกถึงความสุขหรือยินดีในสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย....
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร มันก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว
ในเมื่อตอนนี้เธอและเขาคือสามี-ภรรยากัน เป็นสามีและภรรยาที่ชอบธรรมว่าด้วยพฤตินัยและนิตินัย...
เว้นก็แต่หัวใจ ที่ไม่ว่าจะอย่างไรภาณุก็ไม่มีวันจะมอบให้เธอ
ในเมื่อในสายตาของเขา เธอเป็นได้เพียงแค่เงา...ไม่มีชีวิต ไม่มีหัวจิตหัวใจ เป็นแค่ตัวอะไรสักอย่างที่เขาจะทิ้งจะ
ขว้างยังไงก็ได้ ไม่แม้แต่จะให้เกียรติในฐานะของภรรยา....แม้เธอจะพยายามแค่ไหน
แต่ดูเหมือนความพยายามก็จะสูญเปล่าอยู่ร่ำไป...
ในเมื่อหัวใจของเขาเป็นของผู้หญิงอีกคน...
ชีวิตคู่ที่ไม่ได้สุขอย่างในนิยายหรือละคร นำมาซึ่งความเจ็บปวดที่กำลังกัดกินหัวใจของเธอจนเป็นแผลเหวอะหวะ
ไม่มีวันเยียวยารักษาให้หายขาด และสักวันเธอคงต้องตายลงไปช้าๆพร้อมกับความทุกข์ตรมภายในหัวใจ
เป็นเรื่องยากที่คนๆหนึ่งจะรักใครไป โดยไม่หวังความรักตอบแทน เพราะนี่คือชีวิตจริง
ไม่มีใครแสนดีอย่างนางเอกในนิยายที่ต้องเป็นผู้เสียสละอยู่ร่ำไป หรือถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ตอนนี้เธอก็คงไม่ต่าง
อะไรกับนางมารร้ายที่กำลังพยายามทำให้ความรักของคนสองคนแตกหัก...
แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่ามันเป็นเรื่องผิด แต่เธอไม่มีทางเลือก เพียงแค่คิดว่าหากวันใดที่เธอได้ความรักของเขา
ตอบแทนมา หัวใจดวงน้อยกลับเต้นไม่เป็นจังหวะราวกับคนขาดสติ บ่อยครั้งที่เธอมักจะเผยรอยยิ้มออกมาโดย
ไม่รู้ตัว จินตนาการไปไกลในวันที่เธอยืนเคียงคู่เขาโดยปราศจากข้อกังขาใดๆ มีลูกน้อยสักคนสองคน คงจะเพิ่ม
สีสันให้ชีวิตอันน่าหดหู่ของเธอไม่น้อยเลย ครอบครัวเล็กๆ คือความฝันของผู้หญิงคนหนึ่ง ความฝันของคนที่ไม่ได้
มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบอย่างเธอ มีคนที่รักอยู่เคียงข้างกาย มีพยานรักตัวน้อยๆคอยส่งเสียงร้องวอแว คอยเรียก
รอยยิ้มจากเธอและ...สามี
ใบหน้าหล่อเหลาภูมิฐานทว่ามีดวงตาที่โศกไปไม่ได้น้อยกว่าบุตรสาว ทอดมองร่างเล็กของลูกสาว
ตัวน้อยที่เขาคอยประคบประงมเอาใจ...มากที่สุดเท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำให้ได้
แววตาสุกใสและรอยยิ้มหวานหยดที่ละม้ายคล้ายคลึงกับมารดาเมื่อได้พบกับชายหนุ่มรูปงาม
ประธานบริษัทหุ้นส่วนและที่สำคัญเป็นคนที่เขาหมายมั่นหมายใจจะให้มาดูแลแก้วตาดวงใจของเขา เมื่อเห็นว่าเด็ก
น้อยชอบพอชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย เขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะยอมรับคำทาบทามจากผู้ใหญ่ฝ่ายชาย โดยที่ไม่ยอม
สังเกตอะไรต่อมิอะไร หวังแต่เพียงว่าการแต่งงานของเด็กทั้งสองคนจะช่วยใช่บริษัทของเขามีความมั่นคงมากขึ้น
งานแต่งงานของทั้งคู่ถูกจัดในอีกหนึ่งปีถัดมา ทุกอย่างรวดเร็วจนเวลานี้ก็ล่วงเลยมาแล้วถึงสองปี...สองปีที่ผ่านมา
ทำให้เขาตระหนักได้ว่าเขาได้ทำลายแววตาสดใสและรอยยิ้มที่หยุดโลกไว้ทั้งใบของลูกสาวลง เด็กน้อยที่ซุกซน
ในสายตาของเขากลายเป็นเด็กที่นิ่งเงียบ ดวงตาคู่ที่เคยสดใส บัดนี้กลับหม่นหมอง ทิ้งไว้เพียงแต่แววตาโศกศัลย์
ทุกขณะจิต รอยยิ้มหวานหยดถูกปลดจากริมฝีปากอวบอิ่มและค่อยๆเลือนหายไป...
นานแรมปีที่เขาไม่เคยได้เห็นมันอีก จนกระทั้งตอนนี้...และไม่รู้ว่าธนันต์ธรญ์นั้นคิดอะไรอยู่
คงจะเป็นเรื่องดีไม่ใช่น้อย ไม่เช่นนั้นรอยยิ้มคงจะไม่ปรากฏบนใบหน้าสวยหวานแน่นอน...
ใครต่อใครก็บอกว่าแต่งๆกันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง เขาก็คิดเช่นนั้น หากแต่เวลาได้พิสูจน์แล้ว...เขาคิดผิด
ยิ่งนานวันความสงสารระคนเห็นใจบุตรสาวยิ่งมากขึ้นทุกขณะ แม้จะไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่เขาก็แวะเวียนมา
เยี่ยมลูกสาวและลูกเขยอยู่เสมอ แม้จะไม่บ่อย แต่ก็พอจะสังเกตเห็นกำแพงสูงใหญ่ที่ภาณุสร้างไว้ระหว่างภาณุ
และธนันต์ธรญ์ ความห่างเหินของภาณุที่มีต่อบุตรสาวทำให้ความมั่นใจของเขาลดลงทุกวัน...
จนวันนี้มันแทบไม่มีเหลือ...ต่อไปนี้เขาคงขีดเส้นทางชีวิตของทั้งคู่ไปต่อไม่ได้อีก และหากต้องเลิกรากัน...
ก็คงจะไม่ใช่เรื่องผิดอะไร
“คุณพ่อ...”
ร่างเล็กของธนันต์ธรญ์เดินเข้ามาหาร่างสูงดูภูมิฐานของบิดาก่อนจะพนมมือกราบลงบนบ่าแข็งแกร่งของ
ท่านอย่างคิดถึงสุดหัวใจ อ้อมแขนแกร่งดังเกาะกำบังที่จะคอยปกป้องลูกน้อยให้พ้นจากอันตรายทั้งปวงโอบกอด
หญิงสาวไว้อย่างแนบแน่น น้ำตาลูกผู้ชายของคุณกันต์คลอดวงตาคู่คมเมื่อรู้สึกได้ถึงร่างบอบบางที่สะท้านเบาๆ ยิ่ง
ทำให้คนเป็นพ่ออดสะท้อนใจไม่ได้
“หนูสบายดีหรือลูก”
คุณกันต์เอ่ยถามบุตรสาวในอ้อมทั้งที่กอดอย่างห่วงใย หญิงสาวตอบอู้อี้กับบ่าแกร่งของบิดา
ไม่ยอมปล่อยตัวออกจากอ้อมกอดของบิดาง่ายๆ ความน้อยใจและสิ้นหวังประเดประดังเข้ามาไม่เคยหมดสิ้นสักที
“คุณพ่อมาหาฟางบ่อยๆนะคะ...ฟางเหงา”
หญิงสาวออดอ้อนทันที เพราะตั้งแต่มารดาเสียไป ครอบครัวของเธอเปลี่ยนไป...
นานแค่ไหนแล้วก่อน ก่อนเธอเกิด หรือตั้งแต่เธอเกิด นั่นเป็นสิ่งที่เธอตอบตัวเองไม่ได้ รู้แต่ว่าตั้งแต่เล็กจนโต
ไม่มีเลยสักครั้งที่เธอจะได้อยู่ฉลองวันเกิดร่วมกับพ่อและแม่ ไม่มีพ่อและแม่ไปรับ-ส่งที่โรงเรียน คงมีแต่แม่เท่านั้น
ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของเธอ เธอไม่มีแม้แต่พ่อให้ขี่คอเล่นเหมือนอย่างที่ใครเขามี อ้อมกอดของคนเป็นพ่อ
เธอก็เพิ่งจะรู้ว่ามันอบอุ่นเพียงใด เมื่อไม่ได้กอดท่านตั้งแต่ไหนแต่ไร ภาพที่แม่นอนร้องไห้ทุกคืนยังคงติดตรึงอยู่
ในความทรงจำไม่เคยจางหาย และตอนนี้เธอก็กำลังรู้สึกแบบที่ท่านรู้สึก
“ได้ ได้สิลูก”
คุณกันต์พยักหน้าเบาๆก่อนจะโอบกอดร่างเล็กของลูกน้อยไว้อย่างปกป้อง จริงอยู่ที่เขาไม่ใช่ลูก
ไม่มีทางรู้สึกได้ถึงความรู้สึกของธนันต์ธรญ์ แต่สายใยของพ่อ-ลูกทำให้เขารู้ว่าตอนนี้เธอคงจะทุกข์ตรมไม่น้อย
และเพื่อทดแทนในสิ่งที่ลูกสาวคนนี้ขาดมาตลอดเขาก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้
เสียงรถที่ดังเข้ามาในโสตประสาทของทั้งสองทำให้คุณกันต์รั้งร่างเล็กของลูกสาวออกจากอ้อมกอด
ก่อนจะปาดน้ำตาออกจากใบหน้านวลและเอ่ยบอก
“พี่เขากลับมาแล้ว ออกไปต้อนรับสิลูก เขากลับมาเหนื่อยๆ”
หญิงสาวมองหน้าบิดาตาปรอย ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ ออกไปก็เท่านั้น ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็ไม่เคยเห็น
เธออยู่ในสายตาอยู่แล้ว จะออกไปให้เสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำไม
“เขาเห็นหน้าฟาง แล้วเขาจะได้เหนื่อยกว่าเดิมสิคะ”
เสียงหัวเราะขื่นๆถูกเค้นออกมาจากลำคอของธนันต์ธรญ์ หญิงสาวยิ้มให้บิดาก่อนจะเดินออกมาจากสวน
หย่อมหลังบ้านที่เธอมักจะมาซ่องสุมอยู่บ่อยๆยามเหงา แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ ร่างเล็กของเธอชนเข้ากับร่างสูงใหญ่
ของสามี และความที่ไม่ทันตั้งตัวทำให้เธอทรุดฮวบแต่ก่อนที่จะได้ไปนั่งเล่นอยู่บนพื้น ลำแขนแกร่งกลับรับร่าง
ของเธอไว้ก่อน
“เดินให้มันดีๆหน่อย ตัวก็ผอมบางขนาดนี้ เดี๋ยวก็ได้แข้งขาหักกันพอดี ผมไม่ได้ว่างจนมีเวลาไปนั่งเฝ้า
นอนเฝ้าคุณหรอกนะ”
“ฉันก็คิดว่าอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ เวลาของคุณคงมีไว้ให้เมียน้อยคนเดียวเท่านั้นแหละ!”
ธนันต์ธรญ์ตอบสียงเย็นชา ไม่ใส่ใจกับสายตาดุดันที่กำลังจ้องมองเธออย่างเดือดดาล เดินลิ่วผ่านหน้า
ชายหนุ่มไป...พร้อมกับน้ำตาหยดหนึ่ง น้ำตางี่เง่า...
ภาณุมองตามร่างเล็กของภรรยาสาวไป มือหนากำเข้าหากันแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน
เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาจัดการไม่ได้ เป็นคนเดียวที่สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในชีวิตของเขาไม่จบไม่สิ้น
เด็กสาวหน้าตาใสซื่อที่เคยได้พบเมื่อสามปีที่แล้ว ทำให้เขาไม่เคยได้ระคายใจว่าเธอจะเป็นเสี้ยนหนามตำใจมา
จนทุกวันนี้....และความรักของเขากำลังจะแตกหักไปพร้อมกับความรักที่เห็นแก่ตัวของเธอ ซึ่งเขายอมไม่ได้
และยิ่งกำจัดเธอออกไปจากชีวิตได้เร็วเท่าไร...ชีวิตของเขาก็จะกลับมามีความสุขเร็วเท่านั้น
..................................................................................................................................
สวัสดีกับเรื่องใหม่ เนื่องจากตันเรื่องเก่า เลยมาเปิดเรื่องใหม่ เรื่องเก่าเอาไว้ก่อน อัพต่อเมื่อแต่งจบในคอม อิอิ
ภาษาเรื่องนี้อาจจะแปลกๆ เเต่เราคิดว่าอยากจะแต่งเหมือนนิยายที่แต่งจริงๆ ยังไงก็ลองอ่านกันดูนะ ชอบไม่ชอบก็
บอก
เรื่องนี้ตั้งใจมาก จะเอาทุกคนร้องไห้ตามเลย อิอิ
ขอเม้นเป็นกำลังใจ ขอโหวตเป็นพลังหน่อยน้าาาาาาาา
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ