สลับขั้วมาลุ้นรัก

9.4

เขียนโดย Water_Fall

วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.31 น.

  14 ตอน
  45 วิจารณ์
  24.21K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556 23.41 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

8) ความอ่อนโยนที่เปล่งประกาย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                             รถสีดำทะมึนแล่นมาจอดที่หน้าบริษัท @FKK บริษัทที่ขึ้นชื่อเรื่องเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งทุกชนิด ชายหนุ่มก้าวลงจากรถ ก่อนจะมองไปที่ตึกขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้า พอเดินไปที่หน้าเคาเตอร์ ก็ปรากฏพนักงานต้อนรับในชุดไทย ยกมือไหว้ชายหนุ่มอย่างนอบน้อม ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามถึงจุดประสงค์สำคัญ 

 

 

                            "ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าคุณข้าวฟางอยู่หรือป่าวครับ" 

 

 

                            "ไว้เป็นโอกาสหน้าได้ไหมค่ะ พอดีคุณข้าวฟางติดประชุม กว่าจะเสร็จก็คงจะบ่ายโมงนู่นแหละค่ะ" พนักงานต้อนรับชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานะของเจ้านาย 

 

 

                             "ไม่เป็นไรครับผมรอได้" ชายหนุ่มยิ้มให้ ทำเอาพนักงานคนนั้นแทบสลบ เพราะรอยยิ้มของเขามันช่างดูอบอุ่นซะจริง 

 

 

                             "งั้นเชิญทางนี้ค่ะ" พนักงานต้อนรับสุดสวยเดินนำชายหนุ่มไปที่ส่วนรับรอง ก่อนที่เขาจะย่นก้นลงไปนั่งที่โซฟาลายดอกทิวลิป พลางมองบรรยากาศที่อบอวบไปด้วยกลิ่นไอของธรรมชาติ นี่เราอยู่ในป่าเหรอเนี่ย คำพูดของเขาทำเอาพนักงานที่พาเขามาอดขำไม่ได้ กับท่าทางประหลาดใจของเขา 

 

 

                             "ไม่ทราบว่า ใครเป็นคนตกแต่งตรงนี้หรือครับ" เมื่อสัมผัสกับกลิ่นอายของธรรมชาติมามากพอ เขาก็ไม่ลืมที่ถามถึงเบื้องหลังของความอัศจรรย์ครั้งนี้ คนที่ออกแบบคงจะเป็นคนร่าเริงและรักอิสระเป็นแน่

 

 

                             "อ๋อ คุณกิ่งแก้วเป็นคนจัดการเองค่ะ เธอทั้งน่ารักและเป็นกันเอง แถมเธอยังเป็น...." พนักงานคนดังกล่าวไม่ยังพูดไม่จบ ข้าวฟางก็โผล่ออกมาทันที ก่อนจะพเยิดหน้าให้กับพนักงานคนดังกล่าวไปทำงานของตนต่อ

 

 

                             "ฉันแปลกใจจริงๆ ที่คุณมาที่นี้คุณป๊อปปี้" ข้าวฟางเอ่ยทักก่อนจะนั่งลงข้างๆชายหนุ่ม

 

 

                             "เอ๊ะ คุณประชุมอยู่ไม่ใช่หรอครับ แล้วทำไมคุณถึง..."

 

 

                            "อ๋อ ฉันหนีมาค่ะ อาจจะเสียมารยาทไปสักนิด แต่ว่า โปรแกรมเมอร์ชื่อดังอย่างคุณอุตส่ามาหาฉันถึงที่นี้ ถ้าไม่มาต้อนรับด้วยตัวเอง เกรงว่าคุณจะฉุนจนงานออกแบบถูกยกเลิกไปน่ะค่ะ"  

 

 

                            "ทางผมต่างหากที่ต้องเกรงใจ ผมมาทั้งๆที่ไม่ได้นัดไว้ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ" ป๊อปปี้ก้มหัวลงเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มหวานให้เธอ

 

 

                            "ว่าแต่ มาหาฉันแต่เช้ามีเรื่องสำคัญอะไรหรือค่ะ"

 

 

                            "แหะๆ อาจเป็นเรื่องไร้สาระไปสักหน่อยนะครับ คือที่ผมมาหาคุณที่นี้ ก็เพียงจะฝากขอบคุณน้องชายของคุณ ที่เขามอบภาพวาดอันนั้นให้น่ะครับ" ป๊อปปี้เอ่ยปากพร้อมกับหยิบอะไรสักอย่างออกมาจากกระเป๋าเป้ส่วนตัว

 

 

                            "ขอบคุณค่ะ แต่ฉันว่าไปขอบคุณเจ้าตัวที่บ้านก็ได้นี่ค่ะ ไม่เห็นต้องมาที่นี้เลย โปรแกรมเมอร์อย่างคุณคงจะหาที่อยู่ของฉันไม่ยาก จริงไหมค่ะ" คำพูดของเธอ ทำเอาโปรแกรมเมอร์อัจฉริยะถึงกับไปไม่ถูก

 

 

                            "คือว่า ผมอยากจะมาขอบคุณคุณมากกว่าน่ะครับ" ป๊อปปี้ยิ้มแหย๋ๆให้ ทั้งๆที่รู้ว่า จุดประสงค์ที่แท้จริงของเขา ก็คือมาหาตัวของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี่้เอง

 

 

                            "งั้นเรอะค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะค่ะ" ข้าวฟางทำทีจะเดินกลับไปที่ห้องประชุม 

 

 

                            "เดี๋ยวก่อนครับ ถ้าไม่รังเกีียจ รบกวนไปทานข้าวกับผมจะได้ไม่ครับ" ป๊อปปี้พูดออกไปอย่าง กล้าๆกลัวๆ เพราะคำว่าเดี้ยงที่ต้นกล้าเคยบอกตอนนั้น มันยังคงฝั่งแน่นอยู่ในหัวของเขาตลอด นี่เราจะเดี้ยงเหมือนกับคนที่เข้ามาจีบเธอคนนี้ไหมนะ

 

 

                            "อะ อะไรหรอค่ะ" ข้าวฟางทำหน้างง ตอนนี้เหมือนเธอจะสับสนไปหมด นี่เขา ตั้งใจจะมาหาเธอเพื่ออะไรกันแน่ 

 

 

                            "คุณข้าวฟางครับ คุณข้าวฟาง" ป๊อปปี้เรียกข้าวฟางอยู่หลายที แต่เหมือนเจ้าตัวจะยังตกอยู่ในห้วงของจิตสำนึก นี่ฉันถูกผู้ชายชวนไปกินข้าวด้วยเหรอเี่นี่ย ไม่อยากจะเชื่อ ถึงแม้เจ้าตัวจะสวยเพียงใดก็ตาม แต่ก็ไม่เคยถูกบอกรักสักที อาจเป็นเพราะตัวเธอที่เป็นถึงผู้บริหาร หนุ่มๆทั่วไปก็เลยไม่กล้าเข้าไปคุยด้วย นี่คงเป็นครั้งแรก ที่มีผู้ชายมาถามเธอตรงๆโดยไม่เกรงกลัวเธอแบบนี้ 

 

 

                            "ถ้างั้น รอฉันแป็บนึงน่ะค่ะ" ข้าวฟางเดินขึ้นไปชั้นบน ทำเอาชายหนุ่มเผยรอยยิ้มแห่งปิติออกมา ถึงแม้เธอจะเดินจากไป แต่คำพูดที่เหมือนจะจุดความหวังของเขา ทำเอาชายหนุ่มรู้สึกได้เลยว่า รักครั้งนี้คงจะไปได้สวย ว่าแล้วก็หยิบกระจกขึ้นมาส่อง พลางใช้อุปกรณ์อิเล็กโทรนิคที่มี ละเลงไปที่เส้นผมหนาทึบของเขา วันนี้ขอหล่อสักวันก็แล้วกันนะ

 

 

                             จากนั้นข้าวฟางก็ขึ้นรถของโปรแกรมเมอร์หนุ่มออกไป รถสีดำทะมึนแล่นผ่านตัวเมืองไปด้วยความเร็วคงที่ สองข้างทางที่เต็มไปด้วยตึกสูงใหญ่ ทำเอาข้าวฟางดูจะตื่นเต้นมากๆ ถึงแม้ตัวเธอจะขับรถผ่านแถวนี้ประจำก็ตาม แต่มองไปที่ไร ก็ไม่รู้สึกเบื่ิอสักที 

 

 

                             ผ่านไปไม่นาน รถที่ชายหนุ่มและหญิงสาวนั่งมาก็แล่นไปจอดที่หน้าร้านอาหารเล็กๆที่เหมือนจะเป็นแค่ร้านริมทาง ทำเอาข้าวฟางรู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย นี่เขาเป็นถึงโปรแกรมเมอร์ระดับหัวกะทิ เงินเดือนเป็นร้อยกว่าล้าน ทำไมถึงต้องพาเรามานั่งที่ร้านอาหารเล็กๆแบบนี้ด้วยนะ หรือว่าเขาจุกจิกเรื่องเงิน หรือว่า เขากำลังดูถูกเรากันแน่ 

 

 

                             "เชิญนั่งครับคุณข้าวฟาง" ป๊อปปี้ดึงเก้าอี้ให้กับข้าวฟางอย่างนอบน้อม ก่อนจะไปนั่งที่ฝั่งตรงข้ามกับเธอ 

 

 

                             "ขอบคุณค่ะ" 

 

 

                             "จะเอาอะไรดีครับ เดี๋ยวผมสั่งให้" ป๊อปปี้ยื่นเมนูอาหารให้กับข้าวฟาง ก่อนจะหยิบของตนขึ้นมาดูเช่นกัน 

 

 

                             "งั้น ขอสเต็กเนื้อย่างกับกุ้งอบซอสค่ะ" ข้าวฟางชี้ไปที่เมนูอาหาร ก่อนจะเอ่ยปากบอกกับป๊อปปี้ ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบื้องหน้าของเธอ น่าแปลกที่เนื้อย่างของสุดเกลียดของน้องชายและุ้เจ้ากุ้งตัวโตของที่น้องสาวถึงกับปากบวม แม้จะกินแค่ส่วนเล็กๆก็ตาม แต่กับเป็นเมนูสุดโปรดของพี่สาวคนโตอย่างเธอไปซะได้

 

 

                            ทันทีที่อาหารถูกวางลงบนโต๊ะ มีดด้ามเล็กและซ่อมปลายแหลมก็จัดการเนื้อรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่อยู่ตรงหน้าทันที พอได้เห็นเช่นนั้น ป๊อปปี้ถึงกับไม่กล้าจับช้อนอีกเลย เพราะวิธีการกินที่เหมือนตายอดตายยากมากว่าครึ่งปีของหญิงสาว ทำเอาชายหนุ่มคิดไม่ตกว่าเลย นี่คุณเธอไม่เคี้ยวบ้างเลยหรือไง

 

 

 

                            "เบาๆก็ได้นะครับคุณข้าวฟาง" คำพูดที่เหมือนจะเป็นห่วง แต่ในใจกับพะวงอยู่ว่า นี่คือวิธีการทานอาหารของผู้บริหารหรือนั่น ถ้าหากเราได้อยู่ในระดับเดียวกับเธอ คงได้แต่ซื้อไปทานที่บ้าน เนื่องจากกลัวผู้คนจะพากันหัวเราะเยาะใส่ในความตะกละตะกรามของตน 

 

 

                            "ขืนชักช้าเดี๋ยวก็เย็นหมดสิค่ะ" ข้าวฟางกัดกินอย่างไม่สนใจบุคลิกภาพของตน ในขณะที่โปรแกรมเมอร์หนุ่มก็ได้แต่มองตาค้างทานอะไรไม่ลง ทำไมฉันต้องมานั่งดูผู้หญิงที่กินจุแบบนี้ด้วยนะ ความคิดแล่นพล่านไปทั่วทุกเส้นใยของสมอง อัจฉริยะหนุ่มที่พยายามจีบเจ้าหล่อนที่เป็นถึงผู้บริหาร จำต้องหยุดความคิดเหล่านั้นเอาไว้สักพัก เมื่อเห็นพฤติกรรมที่ไม่น่าจะรับได้นั่นของเธอ 

 

 

                            ผ่านไปเพียงแค่สิบนาที สเต็กเนื้อย่างจำนวนห้าจาน รวมทั้งกุ้งอบซอสกว่ายี่สิบตัว บัดนี้ถูกผู้พิพากษาในคราบหญิงสาวหน้าตาหน้ารัก กวาดลงท้องของเธอซะเรียบ จะเหลือก็แต่ส่วนเล็กๆน้อยๆที่ไม่สามารถจะมองเห็นได้เท่านั้น จานที่สะอาดสะอ้านจนลืมไปว่า ครั้งหนึ่งเคยมีกุ้งและเนื้อวางอยู่บนนั้น ทำเอาเด็กเสริฟแทบอึ้ง เพราะไม่ต้องเสียเวลาล้างจาน ก็เอาไปใส่อันใหม่ต่อได้ ในขณะที่จานของชายหนุ่ม ที่แทบจะเรียกว่าเป็นของสั่งมาใหม่นั้น ทำเอาข้าวฟางต้องถามไถ่ความรู้สึกของเขาซะหน่อย

 

 

                            "อาหารไมู่ถูกปากเรอะค่ะ" ข้าวฟางถามชายหนุ่มที่ยังคงนั่งมองจานที่สะอาดสะอ้านอยู่ตรงหน้าของหญิงสาว พลางเรอออกมาอย่างเงียบๆ 

 

 

                            "ปะ ป่าวครับ" พอได้สติ ป๊อปปี้ก็ฉีกยิ้มให้ ก่อนจะหยิบเงินออกมา 

 

 

                            "ขอโทษนะค่ะที่ทำให้ลำบาก พอดีไม่ได้ทานข้าวเช้ามาน่ะค่ะ" ข้าวฟางปกปิดความลับของตัวเอง เพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่เธอเป็นคนกินจุ 

 

 

                            "ไม่เป็นไรครับ" ป๊อปปี้ยิ้มให้อย่างอ่อนโยนถึงในใจเขาจะรู้สึกสับสนกับพฤติกรรมของเธอคนนั้นอยู่ก็ตาม คุณข้าวฟาง คุณเป็นคนยังไงกันแน่ไหนคุณต้นกล้าบอกว่า คุณเป็นคนโหดร้ายป่าเถื่อนไง แล้วทำไม คุณถึงได้ยิ้มน่ารักแบบนี้ ยิ่งตอนทานอาหารยิ่งแล้วใหญ่ นี่เรา หลงเธอคนนี้มากขนาดนี้เชียวหรือ 

 

 

                             "ขอบคุณนะค่ะ ที่เลี้ยง" ข้างฟางยิ้มตอบ ทำเอาหัวใจของเขาแทบอ่อนระทวย การเต้นของหัวใจผิดจังหวะออกไปทุกที เราคงหลงรักเธอคนนี้เข้าแล้วสินะ ถึงได้เห็นอะไรๆเป็นสีชมพูดไปหมด คุณข้าวฟาง ผมชอบคุณครับ  

 

 

 ไว้ติดตามกันตอนหน้านะครับ

(ช่วงที่เขียนก็ไำอไปด้วย แต่กลัวจะรอนานก็เจอฝืน)

ยังไงก็ขอฝากด้วยนะครับ 

  

 

              

                       

 

 

                     

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา