สลับขั้วมาลุ้นรัก
9.4
เขียนโดย Water_Fall
วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.31 น.
14 ตอน
45 วิจารณ์
24.34K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556 23.41 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
1) การกลับมาของคนหน้าเหมือน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ หญิงสาวร่างเล็กในวัยยี่สิบต้นๆ ผู้ซึ่งเป็นเสาหลักของตระกูล เฝ้ามองผู้เป็นพ่อที่นอนแผ่อยู่บนเตียงของโรงพยาบาลขึ้นชื่อ พลันนึกถึงคำพูดสุดท้ายของอาจารย์หมอผู้เป็นเจ้าของคนไข้รายนี้ บอกถึงอาการที่น่าเป็นห่วงของเขา และยังบอกอีกด้วยว่าผู้เป็นพ่ออาจจะไม่พ้นค่ำคืนนี้ไป พลันได้ยินดังนั้น พี่สาวคนโตถึงกับปล่อยโฮออกมาทันที โดยมีน้องสาวคนกลางซึ่งมีใบหน้าพิมเดียวกับน้องชายคนเล็ก กอดปลอบประโลมเจ้าหล่อนที่บัดนี้ เธอกำลังเสียใจอยู่ไม่น้อย
"คุณพ่อค่ะ จากนี้ไป ข้าวฟางจะดูแลต้นกล้ากับยัยกิ่งแก้วเองค่ะ"
ผ่านไป 5 ปี ณ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
กระเป๋าใบใหญ่ถูกโยนขึ้นสูง และลอยไปโดนชายหนุ่มร่างบางที่ยืนฟังเพลงอย่างสบายอารมณ์อยู่ตรงหน้า เจ้าของร่างบางหันมาโวยทันทีเมื่อโดนของที่หนักอย่างนั้นกระเด็นใส่ ก่อนจะเดินไปต่อว่าหญิงสาวที่ยืนหัวเราะอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นว่าผู้เป็นน้องกำลังอารมณ์ไม่ดี
"ถ้าเกิดฉันล้มจนขาหัก เธอจะทำยังไงยัยถึก" ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าสะสวยร้องลั่นพลันชี้ไปที่พี่สาวตัวดีที่เธอยังคงหัวเราะใส่เขาไม่หยุด
"คนอย่างนายเนี่ยนะ เหอะ" หญิงสาวทำท่าเย้ยใส่ก่อนจะเดินนำชายหนุ่มไปจุดนัดพบ พวกเขาเดินฝ่าวงล้อมของผู้คนที่สัญจรไปมาที่มีทั้งชาวอังกฤษ ชาวไทยและเทศเดินเบียดเสียดกันไปมาตลอดทาง ผู้คนที่มากมายเกินกว่าจะรับรู้ว่าทั้งสนามบินแห่งนี้มันมีอยู่กี่คนกันแน่ พอเดินไปสักพักหญิงสาวร่างบางก็ถูกชายคนหนึ่งชนเข้าเต็มๆ สาวเจ้าเซไปทางน้องชายอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเขาจะรับเธอไว้ทัน ตามสัญชาตญาณของลูกผู้ชาย ใบหน้าที่ซุกอกของชายหนุ่ม ทำเอาผู้คนทั้งไทยและเทศที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองโดยทันที ครันชายหนุ่มจะไปเอาเรื่องคนที่ชนเธอ เขาก็ต้องถอยห่างจากชายคนนั้นโดยเร็ว เพราะชายต้นเหตุของเรื่อง กำลังคุยโทรศัพท์เป็นภาษาญี่ปุ่น เขามองมาที่ชายหนุ่มหน้าใสและหญิงสาวหน้าเหมือนกันอย่างสุดจะทน แต่ก็เห็นหน้าของหญิงสาวไม่ค่อยชัด เพราะตอนนี้ใบหน้าของเจ้าหล่อนยังคงซุกอยู่กับหน้าอกของหนุ่มหน้าใส
"กอดกันกลางสาธารณะแบบนี้ ไม่อายสายตาคนอื่นเลยหรือไง" ชายหนุ่มพูดออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่น ทำเอาต้นกล้าถึงกับงงงวยว่าไอ้เจ้านี้มันพูดอะไรของมัน ส่วนกิ่งแก้วที่ตอนนี้ก็ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นน้อง ก็พยายามแปลคำพูดของเขา ที่เหมือนจะเป็นคำด่าซะมากกว่า
"อะเอ่อ" ต้นกล้าไม่ทันจะกล่าวอะไร ก็มีชายหนุ่มในชุดสูตรอีกคนเดินเข้าไปหาชายชาวญี่ปุ่น ดูพวกเขาจะสนิทสนมกันมาก เมื่อเห็นดังนั้น ต้นกล้าก็พาร่างของพี่สาวเดินจากไป
"ถ่อยจริงๆคนพวกนี้" กิ่งแก้วผละออกจากอกของน้องชายทันที เมื่อนึกถึงคำพูดภาษาญี่ปุ่นของชายหนุ่ม และดูเหมือนเธอจะฟังภาษาของเขาคนนั้นออกซะด้วย
"หมอนั่นพูดอะไรเหรอวะ" ต้นกล้าที่ใคร่อยากรู้คำตอบ จึงเร่งพี่สาวหน้าเหมือนโดยเร็ว
"มันบอกว่าฉันกับนายเป็นกิ๊กกันน่ะสิ"
"ห่ะ ฟ้าได้ผ่าตายกันพอดี" ต้นกล้าได้ฟังดังนั้นก็ครั้นตกใจโดยทันที เพราะไม่คิดไม่ฝันเลยว่า จะมีคนมาพูดแบบนี้กับพวกเขา
จากนั้นแฝดทั้งสองก็เดินจ้ำอ้าวไปที่แท๊กซี่ที่พวกเขาโทรนัดไว้ กระเป๋าถูกคนขับรถใจดีเก็บไว้ให้และทั้งสองแฝดก็ขึ้นรถไป
"ว่าแต่ จะไปที่ไหนต่อล่ะ" ต้นกล้าเอ่ยถามพี่สาวถึงจุดหมายปลายทาง เพราะได้กลับมาที่บ้านเกิดทั้งที เขาก็อยากมีที่ที่จะต้องไปเช่นกัน แต่ในเมื่อเขาเดินทางมากับพี่สาว เขาจึงจำต้องไถ่ถามความเห็นของเธอก่อน เพราะเกรงจะเกิดการขัดแย้งภายในรถสีเหลือง
"ไปที่บริษัทไหม ฉันอยากเจอพี่ฟางจะแย่อยู่แล้ว" กิ่งแก้วกล่าวขึ้นอย่างตื้นเต้น เพราะเธอจากพี่สาวสุดที่รักมาตั้งห้าปี ก็ไม่แปลกที่เธอจะคิดถึงพี่สาวจอมเก่งของเธอ
"งั้นก็ไปกัน"
คนขับรถที่ฟังคำสนทนาของทั้งสองและมองพวกเขาผ่านกระจกหลัง ก็พลันคิดไปต่างๆนานาว่าเขาทั้งสองเป็นฝาแฝดประเภทไหน ชาย-ชาย หรือ หญิง-หญิงกันแน่ หรือว่าจะเป็นชาย-หญิง เจ้าของเสียงทุ่มนั่นดูจะเป็นผู้ชายแน่นอน แต่คนที่เสียงเล็กกว่า จะบอกว่าหญิงก็ไม่ใช่ชายก็ไม่เชิง ถึงแม้เจ้าหล่อนจะไว้ผมยาวก็ตาม เขาก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดีว่าเธอใช้นามนำหน้าว่าอะำไรกันแน่
ณ บริษัท @FKK หญิงสาวท่าทางสุขุมพำนักอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ ข้างซ้ายมีทั้งขนมและกาแฟที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้ ส่วนทางด้านขวาก็คือโน๊ตบุ๊คตัวโปรด ผู้ช่วยเก็บข้อมูลทุกอย่างของบริษัทเอาำไว้ ทันทีที่มีเสียงเคาะประตู หญิงสาวก็พลันนึกถึงเลขาคนสวยที่อยู่หน้าห้อง ว่าคงมีเรื่องใหญ่เป็นแน่ แต่พอประตูเปิดออกมา ก็ดันเป็นร่างชายหญิงพิมเดียวกันเดินตีคู่เข้ามา
"ต้นกล้า ยัยถึก กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย" น้องชายเดินไปหาพี่สาวคนโตทันที แต่พี่สาวคนกลางกับยืนหน้างออยู่หน้าประตู พลันได้ยินคำเอ่ยที่ดูจะเสียหายของพี่สาวคนโต
"พี่ฟางล่ะก็ แก้วง่อนแล้วนะ" กิ่งแก้วยืนกอดอกอยู่หน้าประตู และพร้อมจะเดินจากไปทุกเมื่อ
"โอ๋ๆๆ ไม่เอานะคนดีของพี่" เมื่อได้ยินเสียงหวานๆแบบนั้น กิ่งแก้วก็ยอมเข้าไปหาพี่สาวสุดที่รักแต่โดยดี
"ว่าแต่ จะกลับมาทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะ พี่จะได้เอาคนไปรับ"
"ก็ยัยถึกนี่น่ะสิครับ บอกว่าอยากจะเซอร์ไพรส์พี่ฟางน่ะ" ต้นกล้าบ่นขึ้นพลางมองหน้าพี่สาวฝาแฝดอย่างโมโห พลันได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวก็จ้องกลับโดยทันที ดวงตาสีนิลของทั้งคู่ต่างจับจ้องกันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แลดูมีรังสีอะไรบางอย่างแผ่ออกมาจากตัวของพวกเขา
"เอาน่าต้นกล้า พี่ว่าก็ดีเหมือนกันนะ น่าลุ้นดี" ข้าวฟางห้ามปรามพวกน้องๆ ให้คุยกันดีๆ เพราะถึงแม้พวกเขาจะอยู่ด้วยกันตลอด24ชั่วโมง แต่ก็เหมือนจะไม่ถูกกันเลยสักนิด
"ว่าแต่ งานของแก้วล่ะค่ะพี่ฟาง" กิ่งแก้วที่ได้ทักทายพี่สาวสุดที่รักไม่ถึงนาที เธอก็ร่ำเรียกถึงงานของบริษัททันที ข้าวฟางที่เห็นดังนั้นก็รู้สึกภูมิใจไม่น้อย ที่เธอดูจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก หลังจากไม่เจอกันห้าปี
"เอาไว้พรุ่งนี้พี่จะบอกก็แล้วกันนะ" ฟางกลับไปนั่งที่เดิม โดยที่มีสองฝาแฝดนั่งอยู่หน้าโต๊ะท่านประธาน พลางพูดคุยถึงการผจญภัยที่อเมริกา
อะๆๆๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่นะครับ แต่ยังใช้สโลแกนของฝาแฝดเช่นเดิม ยังไงก็ฝากลุ้นกันด้วยนะฮะ
"คุณพ่อค่ะ จากนี้ไป ข้าวฟางจะดูแลต้นกล้ากับยัยกิ่งแก้วเองค่ะ"
ผ่านไป 5 ปี ณ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
กระเป๋าใบใหญ่ถูกโยนขึ้นสูง และลอยไปโดนชายหนุ่มร่างบางที่ยืนฟังเพลงอย่างสบายอารมณ์อยู่ตรงหน้า เจ้าของร่างบางหันมาโวยทันทีเมื่อโดนของที่หนักอย่างนั้นกระเด็นใส่ ก่อนจะเดินไปต่อว่าหญิงสาวที่ยืนหัวเราะอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นว่าผู้เป็นน้องกำลังอารมณ์ไม่ดี
"ถ้าเกิดฉันล้มจนขาหัก เธอจะทำยังไงยัยถึก" ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าสะสวยร้องลั่นพลันชี้ไปที่พี่สาวตัวดีที่เธอยังคงหัวเราะใส่เขาไม่หยุด
"คนอย่างนายเนี่ยนะ เหอะ" หญิงสาวทำท่าเย้ยใส่ก่อนจะเดินนำชายหนุ่มไปจุดนัดพบ พวกเขาเดินฝ่าวงล้อมของผู้คนที่สัญจรไปมาที่มีทั้งชาวอังกฤษ ชาวไทยและเทศเดินเบียดเสียดกันไปมาตลอดทาง ผู้คนที่มากมายเกินกว่าจะรับรู้ว่าทั้งสนามบินแห่งนี้มันมีอยู่กี่คนกันแน่ พอเดินไปสักพักหญิงสาวร่างบางก็ถูกชายคนหนึ่งชนเข้าเต็มๆ สาวเจ้าเซไปทางน้องชายอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเขาจะรับเธอไว้ทัน ตามสัญชาตญาณของลูกผู้ชาย ใบหน้าที่ซุกอกของชายหนุ่ม ทำเอาผู้คนทั้งไทยและเทศที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองโดยทันที ครันชายหนุ่มจะไปเอาเรื่องคนที่ชนเธอ เขาก็ต้องถอยห่างจากชายคนนั้นโดยเร็ว เพราะชายต้นเหตุของเรื่อง กำลังคุยโทรศัพท์เป็นภาษาญี่ปุ่น เขามองมาที่ชายหนุ่มหน้าใสและหญิงสาวหน้าเหมือนกันอย่างสุดจะทน แต่ก็เห็นหน้าของหญิงสาวไม่ค่อยชัด เพราะตอนนี้ใบหน้าของเจ้าหล่อนยังคงซุกอยู่กับหน้าอกของหนุ่มหน้าใส
"กอดกันกลางสาธารณะแบบนี้ ไม่อายสายตาคนอื่นเลยหรือไง" ชายหนุ่มพูดออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่น ทำเอาต้นกล้าถึงกับงงงวยว่าไอ้เจ้านี้มันพูดอะไรของมัน ส่วนกิ่งแก้วที่ตอนนี้ก็ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นน้อง ก็พยายามแปลคำพูดของเขา ที่เหมือนจะเป็นคำด่าซะมากกว่า
"อะเอ่อ" ต้นกล้าไม่ทันจะกล่าวอะไร ก็มีชายหนุ่มในชุดสูตรอีกคนเดินเข้าไปหาชายชาวญี่ปุ่น ดูพวกเขาจะสนิทสนมกันมาก เมื่อเห็นดังนั้น ต้นกล้าก็พาร่างของพี่สาวเดินจากไป
"ถ่อยจริงๆคนพวกนี้" กิ่งแก้วผละออกจากอกของน้องชายทันที เมื่อนึกถึงคำพูดภาษาญี่ปุ่นของชายหนุ่ม และดูเหมือนเธอจะฟังภาษาของเขาคนนั้นออกซะด้วย
"หมอนั่นพูดอะไรเหรอวะ" ต้นกล้าที่ใคร่อยากรู้คำตอบ จึงเร่งพี่สาวหน้าเหมือนโดยเร็ว
"มันบอกว่าฉันกับนายเป็นกิ๊กกันน่ะสิ"
"ห่ะ ฟ้าได้ผ่าตายกันพอดี" ต้นกล้าได้ฟังดังนั้นก็ครั้นตกใจโดยทันที เพราะไม่คิดไม่ฝันเลยว่า จะมีคนมาพูดแบบนี้กับพวกเขา
จากนั้นแฝดทั้งสองก็เดินจ้ำอ้าวไปที่แท๊กซี่ที่พวกเขาโทรนัดไว้ กระเป๋าถูกคนขับรถใจดีเก็บไว้ให้และทั้งสองแฝดก็ขึ้นรถไป
"ว่าแต่ จะไปที่ไหนต่อล่ะ" ต้นกล้าเอ่ยถามพี่สาวถึงจุดหมายปลายทาง เพราะได้กลับมาที่บ้านเกิดทั้งที เขาก็อยากมีที่ที่จะต้องไปเช่นกัน แต่ในเมื่อเขาเดินทางมากับพี่สาว เขาจึงจำต้องไถ่ถามความเห็นของเธอก่อน เพราะเกรงจะเกิดการขัดแย้งภายในรถสีเหลือง
"ไปที่บริษัทไหม ฉันอยากเจอพี่ฟางจะแย่อยู่แล้ว" กิ่งแก้วกล่าวขึ้นอย่างตื้นเต้น เพราะเธอจากพี่สาวสุดที่รักมาตั้งห้าปี ก็ไม่แปลกที่เธอจะคิดถึงพี่สาวจอมเก่งของเธอ
"งั้นก็ไปกัน"
คนขับรถที่ฟังคำสนทนาของทั้งสองและมองพวกเขาผ่านกระจกหลัง ก็พลันคิดไปต่างๆนานาว่าเขาทั้งสองเป็นฝาแฝดประเภทไหน ชาย-ชาย หรือ หญิง-หญิงกันแน่ หรือว่าจะเป็นชาย-หญิง เจ้าของเสียงทุ่มนั่นดูจะเป็นผู้ชายแน่นอน แต่คนที่เสียงเล็กกว่า จะบอกว่าหญิงก็ไม่ใช่ชายก็ไม่เชิง ถึงแม้เจ้าหล่อนจะไว้ผมยาวก็ตาม เขาก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดีว่าเธอใช้นามนำหน้าว่าอะำไรกันแน่
ณ บริษัท @FKK หญิงสาวท่าทางสุขุมพำนักอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ ข้างซ้ายมีทั้งขนมและกาแฟที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้ ส่วนทางด้านขวาก็คือโน๊ตบุ๊คตัวโปรด ผู้ช่วยเก็บข้อมูลทุกอย่างของบริษัทเอาำไว้ ทันทีที่มีเสียงเคาะประตู หญิงสาวก็พลันนึกถึงเลขาคนสวยที่อยู่หน้าห้อง ว่าคงมีเรื่องใหญ่เป็นแน่ แต่พอประตูเปิดออกมา ก็ดันเป็นร่างชายหญิงพิมเดียวกันเดินตีคู่เข้ามา
"ต้นกล้า ยัยถึก กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย" น้องชายเดินไปหาพี่สาวคนโตทันที แต่พี่สาวคนกลางกับยืนหน้างออยู่หน้าประตู พลันได้ยินคำเอ่ยที่ดูจะเสียหายของพี่สาวคนโต
"พี่ฟางล่ะก็ แก้วง่อนแล้วนะ" กิ่งแก้วยืนกอดอกอยู่หน้าประตู และพร้อมจะเดินจากไปทุกเมื่อ
"โอ๋ๆๆ ไม่เอานะคนดีของพี่" เมื่อได้ยินเสียงหวานๆแบบนั้น กิ่งแก้วก็ยอมเข้าไปหาพี่สาวสุดที่รักแต่โดยดี
"ว่าแต่ จะกลับมาทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะ พี่จะได้เอาคนไปรับ"
"ก็ยัยถึกนี่น่ะสิครับ บอกว่าอยากจะเซอร์ไพรส์พี่ฟางน่ะ" ต้นกล้าบ่นขึ้นพลางมองหน้าพี่สาวฝาแฝดอย่างโมโห พลันได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวก็จ้องกลับโดยทันที ดวงตาสีนิลของทั้งคู่ต่างจับจ้องกันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แลดูมีรังสีอะไรบางอย่างแผ่ออกมาจากตัวของพวกเขา
"เอาน่าต้นกล้า พี่ว่าก็ดีเหมือนกันนะ น่าลุ้นดี" ข้าวฟางห้ามปรามพวกน้องๆ ให้คุยกันดีๆ เพราะถึงแม้พวกเขาจะอยู่ด้วยกันตลอด24ชั่วโมง แต่ก็เหมือนจะไม่ถูกกันเลยสักนิด
"ว่าแต่ งานของแก้วล่ะค่ะพี่ฟาง" กิ่งแก้วที่ได้ทักทายพี่สาวสุดที่รักไม่ถึงนาที เธอก็ร่ำเรียกถึงงานของบริษัททันที ข้าวฟางที่เห็นดังนั้นก็รู้สึกภูมิใจไม่น้อย ที่เธอดูจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก หลังจากไม่เจอกันห้าปี
"เอาไว้พรุ่งนี้พี่จะบอกก็แล้วกันนะ" ฟางกลับไปนั่งที่เดิม โดยที่มีสองฝาแฝดนั่งอยู่หน้าโต๊ะท่านประธาน พลางพูดคุยถึงการผจญภัยที่อเมริกา
อะๆๆๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่นะครับ แต่ยังใช้สโลแกนของฝาแฝดเช่นเดิม ยังไงก็ฝากลุ้นกันด้วยนะฮะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ