All on me หมดหัวใจผมให้คุณ
9.0
เขียนโดย ruktomokaew
วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.29 น.
23 ตอน
912 วิจารณ์
62.69K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 20.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
11)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเรื่อง All on me หมดหัวใจผมให้คุณ
“ตื่นได้แล้วนะ เอาแต่นอนขี้เซาอยู่ได้” โทโมะที่อาบน้ำเสร็จแล้วเดินมาปลุกร่างบางที่ยังคงนอนหลับอยู่
“อื้อ~” แก้วค่อยปรับสายตาก่อนจะเห็ยว่าโทโมะยืนปลุกเธออยู่
“ตื่นแล้วก็รีบไปอาบน้ำเร็วๆฉันหิว” แก้วรีบวิ่งไปยังห้องน้ำทันทีเมื่อได้ยินคำสั่งของโทโมะ ส่วนโทโมะเองก็เดินไปนั่งดูทีวีเพื่อรเวลาที่ห้องนั่งเล่น
ผ่านไปไม่นานแก้วก็เดนออกในชุดเสื้อติดกับกระโปรงยาวสีขาวสบายแต่เนื้อผ้าบางๆตั้งแต่หัวเข้าลงไปทำให้เห็นขาขาวเรียวยาวของแก้ว ทำเอาโทโมะแทบจะเลือดขึ้นหน้าแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการออกมา
“ไปยังคะ...” แก้วทักพร้อมกับโบกมือผ่านหน้าโทโมะราวกับกำลังเรียกสติอยู่
“ไปสิ...ชักช้าอยู่ได้” โทโมะแกล้งทำโมโหกลบเกลื่อนถึงแม้ว่าความจริงเค้าก็แอบโกรธแก้วเล็กน้อยเรื่องชุดแต่เค้าคิดว่าถ้าเค้าโวยวายเกินไปมันอาจจะกลายเป็นเรื่องที่งี่เง่าไปอีก
“ค่ะๆ...” แก้วรับคำแล้วเดินตามโทโมะออกมาก็เจอเฟย์ ฟาง เขื่อน และป็อปปี้ยืนรอกันอยู่ที่หน้าห้องของตน
“นี่ยัยแก้วฉันรู้เรื่องนั้น....อื้อ!” ฟางรีบพุ่งไปปิดปากน้องสาวของตัวเองทันที เธอคิดผิดจริงๆที่บอก’เรื่องสำคัญ’กับเฟย์ เกือบไม่ทันแล้วมั้ยล่ะ ยัยน้องบ้า!
“เรื่อง? เรื่องอะไรหรอ” โทโมะเอ่ยถามยัยเฟย์ทันที อย่าบอกนะว่าเค้าจับพิรุธได้แล้วยัยเฟย์นะยัยเฟย์!
“เอ่อ...อ๋อเรื่องที่ยัยแก้วเข้าโรงพยาบาลน่ะคู่^^;” ฟางรีบแก้ตัวแทนน้องสาวน้องตนเองทันที
“เอ่อ...ไอ้มะกูหิวแล้วว่ะไปอะไรอร่อยๆกินเหอะ” ป็อปปี้รีบตัดบทแล้วลากโทโมะกับเขื่อนออกไปจากกลุ่มสามสาวทันที
“ใช่ๆ กูก็หิวไอ้ป็อปมึงจะกินไรวะ” เขื่อน(ที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย)รีบกอดคอป็อปปี้แล้วเอ่ยถามอย่างสบายใจเฉิบ
สามสาวอย่างเฟย์ฟางแก้วรีบเดินลงมายังชั้นอาหารแต่กลับเรียกนั่งเว้นระหว่างโดยเลือกโต๊ะที่อยู่ริมที่สุดและไกลที่สุดจากโต๊ะสามหนุ่มนั่น ตอนแรกเขื่อนก็จะไม่ยอมแต่เฟย์ก็จัดการยื่นคำขาดไปทำให้เขื่อน(ต้อง)จำยอม ส่วนฟางกับป็อปปี้ก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้วเพราะว่าสองคนนนั้นรู้ดีว่ามาทำไมต้องแยกกกันนั่ง และคู่สุดท้ายที่ไม่มีใครโต้แย้งหรือออกความคิดเห็นใดๆเลย แทบจะไม่มองหน้ากันเลยด้วยซ้ำ!
“เอ่อ...แก้วยัยแก้วฉันว่าแกน่าจะบะ...อื้อ~” แก้วรีบหยิบขนมปังแล้วรีบยัดใส่ปากของยัยเพื่อนตัวดีอย่างเฟย์ทันที
“เงียบไปเลยนะถ้าแกจะบอกให้ฉันไปบอกโทโมะน่ะ!”
“น้ำนิเฟย์ กินน้ำก่อน...” ฟางรีบยื่นแก้วน้ำให้น้องสาวตนเองทันที ก่อนที่จะติดคอตาย!
“แอะๆ!! นี่แกจะฆ่าฉันเลยรึไงยัยแก้ว”
“ก็อาจจะถ้าแกยังไม่เลิกพูดถึงเรื่องนี้ แกก็ด้วยอีกคนยัยฟางแกไปบอกยัยเฟย์ทำไม” แก้วบอกแล้วมองหน้าฟาง จนฟางต้องรีบหลบสายตาทันที
“เอาน่าแก...ไหนๆมันก็รู้แล้ว ฉันว่าดีซะอีกมันจะได้ช่วยดูแลแกอีกแรงไง”
“นั่นมันก็ดีแต่ฉันกลัวว่าโทโมะจะสงสัยนะ”
“แกไม่ต้องห่วงยัยแก้ว พวกฉันสัญญาว่าจะไม่บอก โอเคนะ...” เฟย์ทำหน้าจริงจังจนแก้วเองก็ต้องพยักหน้าเออออห่อหมกไปด้วย ก็จริงอย่างที่ฟางบอกในเมื่อเฟย์รู้แล้วมันก็คงจะทำอะไรไม่ได้
“เออๆก็ได้แต่อย่าให้ฉันรู้นะว่าพวกแกแอบเอาไปบอกใครอีกไม่งั้น...”
“โอเคๆนี่ขนาดสุดที่รักของฉันยังไม่รู้เลยนะเนี่ย~” เฟย์พูดมองหันไปมองหน้าแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่อีกมุมนึง
“แล้วนี่แกจะเอาอย่างไงอ่ะ เดี๋ยวท้องแกก็ต้องโตขึ้นไปเรื่อยๆนะ” เฟย์เอ่ยถามแก้วที่นั่งเขี่ยผักในจากเล่น
“ฉันก็ยังไม่รู้เลยอ่ะ...อยากจะหนีนะแต่ไม่รู้จะไปที่ไหน...”
“เอางี้มะ ฉันจะลองหาบ้านพักต่างอากาศให้แกสักหลังนึง เอาไว้เราค่อยหาโอกาศพาแกหนีไง” ฟางเสนอความคิด เฟย์รีบคว้าพี่สาวมากอดแล้วหอมแก้มทั้งสองข้างก่อนจะเอ่ยชม
“พี่สาวใครว่ะฉลองจัง :) ”
“พอแล้วน่ะยัยเฟย์ดูสิเค้ามองกันใหญ่แล้ว!” ฟางดันหน้าน้องสาวตัวเองที่พยายามจะเข้ามาหอมแก้มอีกครั้ง
“ไม่เห็นจะเป็นไรเลยเนอะแก้วเนอะมาๆจุ๊ฟๆ”
“ทำอะไรกันอ่ะ...ฟาง!” ป็อปปี้รีบเข้ามาแยกเฟย์ฟางออกจากกันทันที นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นพี่น้องกันคงคิดว่าเป็นคู่เรดแล้วซะอีก
“อะไรอ่ะพี่ป็อปเฟย์ก็แค่จะหอมแก้มพี่ฟางเฉยๆน่ะ-3-” เฟย์ทำหน้าบู้ก่อนจะเชิดงอนไปอีกฝั่งร้อนถึงเขื่อนต้องรีบมาแก้ตัวแทนไอ้เพื่อนตัวดีของตนเอง
“โอ๋ๆเฟย์ครับเดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยงไอศรีม ไปมั้ยครับ”
“พี่เห็นว่าเฟย์เห็นแก่กินหรอ! ไปสิคะ^^;” เฟย์รีบกระตุกมือเขื่อนแล้วทั้งคู่ก็พากันเดินออกไปกินไอศครีม
“แล้วนี่โทโมะไม่ไหนล่ะป็อป...” ฟางเอ่ยถามแฟนหนุ่มที่กำลังนั่งลงข้างตัวเองแทนที่เฟย์
“หรอเห็นมันบอกว่าอยากจะอ้วกน่ะ สงสัยจะเป็นอาการ...” ป็อปปี้มองมาทางแก้วแต่ไม่พูดต่อซึ่งทุกคนก็พอจะรู้แล้วว่าป็อปปี้ต้องจะสื่ออะไร
“เอ่อ...แก้วอิ่มแล้ว่ะขอตัวนะ” แก้วเอ่ยแล้วลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปอีกคน ทิ้งให้ป็อปปี้กับฟางนั่งงงสงสัยกันอยู่สองคนทำไมน่ะหรอ ก็แก้วกินไปได้แค่คำเดียวเองแล้วมันจะอิ่มได้ไง...
“เอาไงดีอ่ะป็อป ฟางสงสารแก้ว” ฟางเขย่ามือแฟนหนุ่ม ไม่ใช่แค่ฟางหรอกนะที่สงสารแก้วตัวเค้าเองก็ด้วยแต่เค้าเองก็สงสารเพื่อนตัวเองอีกคน...
“ป็อปก็สงสารไอ้โมะเหมือนกันนะ”
“ฟางสงสารทั้งคู่แหละค่ะ ไม่รู้ว่าถ้าโทโมะรู้ความจริงเรื่องยัยแก้ว...จะเกิดอะไรขึ้นบ้างนะ” ฟางพูดอย่างกังวลแน่สิใครๆก็รู้ว่าโทโมะน่ะโมโหร้ายขนาดไหนกัน
“นั่นสิ...แล้วพวกเราจะรอดมั้ยเนี่ย ไม่น่าเลย...”
“ไม่น่าเลยอะไรป็อปนี่ป็อปจะไม่ช่วยยัยแก้วแล้วใช่มั้ย ไม่เห็นใจเพื่อนฟางเลยหรอ ใจร้ายที่สุด ชิ!” ฟางบ่นแล้วเชิดหน้าไปอีกทาง ทำเอาป็อปอึ้งไม่คิดว่าฟางจะรักเพื่อนขนาดนี้แต่เค้าก็เองก็ผิดที่พูดไม่คิด
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะฟาง ป็อปหมายถึงเอ่อ...ไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้กับแก้วเลย^^;”
“เฮ้ย~” ฟางได้แต่นั่งถอนหายแล้วคิดหนักแทนเพื่อนสาวของตนเอง
+
+
+
“แหวะ! แหวะ!!” ฝ่ายโทโมะเองก็รีบเข้ามาอาเจียนในห้องน้ำ
“ไอ้น้องเป็นอะไรมากรึเปล่า” ผู้ชายอายุมากกว่าเค้าไม่กี่เดินเข้าถามถ่อาการเพราะเห็นว่าอาการน่าเป็นห่วงอยู่
“เปล่าครับ...” โทโมะรับคำสั้นๆก่อนจะรีบล้างปากแล้เดินออกมาจากห้องน้ำทันที
“น้องแน่ใจนะอาการอย่างนี้...นี่เรามีเมียรึเปล่าพี่ว่า...”
“ผมไม่เป็นอะไรจริงๆครับขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง” โทโมะตัดบทสั้น เป็นมิตฉาชีพชีพรึเปล่าก็ไม่รู้จู่ๆก็มายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเค้าทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
โทโมะเดินออกมาจากห้องน้ำแต่สายตาหันไปเห็นร่าบางที่คุ้นตากำลังเดินออกไปจากโรงแรม เค้าจึงเปลี่ยนทิศทางเดินตามร่างบางของแก้วไป เธอกำลังจะไหนน่ะ? โทโมะคิดก่อนจะแอบเดินตามแก้วมาอย่างเงียบๆ
แก้วเดินมาที่ริมชายหาดทะเล สายตาของแก้วทอดมองไปยังผืนน้ำที่ยาวสุกลุกหูลุกตา เธออยากจะมีชีวิตที่เหมือนทะเลจัง...ชีวิตที่สงบสุข บอกตามตรงเธอเหนื่อยกับชีวิตตัวเองเหลือเกิน นอกจากจะกลัวว่าโทโมะจะรู้เรื่อง...ลูกแล้วเธอยังกลัวว่าครอบครัวของเธออาจจะรับไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นเท่ากับว่าเธอหมดหนทางในการก้าวต่อไปทันที ผู้หญิงตัวคนดียวอย่างเธอจะไปสู้อะไรกับใครได้ ไม่แน่เธออยากจะต้องบอกความจริงกับโทโมะ...แต่ในความคิดอีกด้านนึงมันก็บอกว่านั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีสักเท่าไร เอาไว้รอให้เธอจนตรอกเสียก่อนแล้วเธอถึงจะยอมบอก!!
“นี่...คิดอะไรอยู่” โทโมะเดินเข้ามาสวมกอดฉันจากทางด้านหลัง
“อ๊ะ...แก้วแค่ออกมายืนรับลมน่ะค่ะ” ฉันขยับตัวนิดหน่อยออกเพราะความไม่ถนัดแต่โทโมะกลับรัดอ้อมกอดเข้าไปอีก
“ทำไมกอดนิดกอดหน่อยไม่ได้เลยรึไง” โทโมะออกเสียงดุฉันนิดหน่อย ฉันเลยได้แต่ยืนนิ่งๆ
ฉันยอมรับนะว่าอ้อมกอดของเค้าอุ่นมากและมันเป็นอ้อมกอดที่ฉันอยากได้ตามหามาแสนนานแต่ฉันรู้...มันเป็นอ้อมกอดแค่ชั่วคราวที่เค้าให้ฉันยืมเท่าไรเมื่อหมดประโยชน์หรือเบื่อไรเค้าก็คงทิ้งฉันไปอยู่ดี แล้วมันจะประโยชน์อะไรที่เธอจะต้องพูดเรื่องนั้น ในเมื่อสุดท้ายแล้วตอน’จบ’...เธอก็’เจ็บ’อยู่ดี...
“เป็นอะไรร้องไห้ทำไม...” โทโมะพลิกตัวฉันให้หันหน้าไปหาเค้าแล้วเช็ดน้ำตาให้ฉัน
“ปะ...เปล่าค่ะ” ฉันบอกแล้วเมินหน้าไปทางอื่น
“แก้วฉันรู้นะว่าเธอมีอะไรปิดบังฉัน...ทำไม!! ทำไม…เธอไม่พูด” โทโมะออกแรงเขย่าตัวฉันแล้วตะคอกใส่ใบหน้าฉันแล้วโผเข้ากอดร่างของฉันนั่นทำให้ฉันร้องไห้หนักเข้าไปอีก
“ฮึกๆมะ...มะนไม่เกี่ยวกับคุณค่ะ” ฉันเลือกที่จะโกหกเค้าออกไปอย่างไงซะฉันก็ตัดสินใจแล้วว่าไม่มีวันบอกเด็ดขาด!!
“เกี่ยวสิ...ถ้าเธอร้องไห้ ฉันจะโทษตัวเองนะ...”
“ฮึกๆ คุณอย่าทำให้ฉันลำบากใจไปมากกว่านี้เลยค่ะ” ฉันผละออกจากอ้อมกอดของโทโมะพร้อมกับหันหลังแล้วเดินหนี
“เดี๋ยวสิ...รอฉันด้วย” ฉันว่าฉันคงละเมอไปเองแล้วล่ะ นี่มันคงจะเป็นฝันจริงๆไม่มีวัน...ไม่มีทางหรอกที่โทโมะจะวิ่งมาจับมือฉัน ไม่มีวันเป็นไปได้หรอก...เลิกฝันเถอะยัยแก้ว...
“คุณโทโมะค่ะ...แก้วอยากกลับบ้าน” จู่ๆฉันก็พูดขึ้นทำให้โทโมะสะดุ้งนิดหน่อยแล้วหยุดเดิน
“ทำไม...”
“แก้วคิดถึงบ้านนี่ก็ไม่ได้กลับไปเป็นปีแล้ว...ขอแก้วกลับไปเยี่ยมบ้านหน่อยนะคะ”
“เธอคงอยู่กับฉันแล้วไม่มีความสุขเลยสินะ...”
“มะ...มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ...เพียงแต่...”
“พอเถอะ...ฉันจะพาเธอกลับแต่มันจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยน” สายตาที่โทดมะส่งมาให้ฉันวันนี้และตอนนี้มันต่างจากหลายๆวันไม่สิ...ทุกๆวันต่างหาก มันเป็นสายตาที่ค่อนข้างอ่อ่นโยนโดยเฉพาะเมื่อกี้ก่อนที่ฉันจะพูดเรื่อง...บ้าน
“อะไรหรอคะ...”
“เธอก็รับปากมาก่อนสิว่าจะทำได้”
“เอ่อ...ค่ะ” ฉันพยักหน้ารีบคำของโทโมะ
“ดี!!” ดูเหมือนว่า
“ว่าแต่มันคืออะไรหรอคะ...” ฉันเดาดูแล้วมันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไรแน่ๆดูจากรอยยิ้มของโทโมะที่เปลี่ยนไปแล้ว ฉันชักอยากจะยกเลิกแล้วสิ
...ruktomokaew...
--------------------------------------------------------------------------------------------------------- อัพแล้วนะคะแต่ไม่รู้ว่าจะมีใครมาอ่านรึเปล่า เพราะช่วงนี้รู้สึกฟิคเราจะเงียบเหงาเสียเหลือเกิน ขอสัก280เมนต์นะคะ
**ป.ล. ไรต์เตอร์กำลังจะเปิดเรื่องใหม่เพราะฉะนั้นติดตามกันให้ดีๆรับเรื่องนั้นจะไม่มี...คำว่า'คนดี'อย่างแน่นอน
“ตื่นได้แล้วนะ เอาแต่นอนขี้เซาอยู่ได้” โทโมะที่อาบน้ำเสร็จแล้วเดินมาปลุกร่างบางที่ยังคงนอนหลับอยู่
“อื้อ~” แก้วค่อยปรับสายตาก่อนจะเห็ยว่าโทโมะยืนปลุกเธออยู่
“ตื่นแล้วก็รีบไปอาบน้ำเร็วๆฉันหิว” แก้วรีบวิ่งไปยังห้องน้ำทันทีเมื่อได้ยินคำสั่งของโทโมะ ส่วนโทโมะเองก็เดินไปนั่งดูทีวีเพื่อรเวลาที่ห้องนั่งเล่น
ผ่านไปไม่นานแก้วก็เดนออกในชุดเสื้อติดกับกระโปรงยาวสีขาวสบายแต่เนื้อผ้าบางๆตั้งแต่หัวเข้าลงไปทำให้เห็นขาขาวเรียวยาวของแก้ว ทำเอาโทโมะแทบจะเลือดขึ้นหน้าแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการออกมา
“ไปยังคะ...” แก้วทักพร้อมกับโบกมือผ่านหน้าโทโมะราวกับกำลังเรียกสติอยู่
“ไปสิ...ชักช้าอยู่ได้” โทโมะแกล้งทำโมโหกลบเกลื่อนถึงแม้ว่าความจริงเค้าก็แอบโกรธแก้วเล็กน้อยเรื่องชุดแต่เค้าคิดว่าถ้าเค้าโวยวายเกินไปมันอาจจะกลายเป็นเรื่องที่งี่เง่าไปอีก
“ค่ะๆ...” แก้วรับคำแล้วเดินตามโทโมะออกมาก็เจอเฟย์ ฟาง เขื่อน และป็อปปี้ยืนรอกันอยู่ที่หน้าห้องของตน
“นี่ยัยแก้วฉันรู้เรื่องนั้น....อื้อ!” ฟางรีบพุ่งไปปิดปากน้องสาวของตัวเองทันที เธอคิดผิดจริงๆที่บอก’เรื่องสำคัญ’กับเฟย์ เกือบไม่ทันแล้วมั้ยล่ะ ยัยน้องบ้า!
“เรื่อง? เรื่องอะไรหรอ” โทโมะเอ่ยถามยัยเฟย์ทันที อย่าบอกนะว่าเค้าจับพิรุธได้แล้วยัยเฟย์นะยัยเฟย์!
“เอ่อ...อ๋อเรื่องที่ยัยแก้วเข้าโรงพยาบาลน่ะคู่^^;” ฟางรีบแก้ตัวแทนน้องสาวน้องตนเองทันที
“เอ่อ...ไอ้มะกูหิวแล้วว่ะไปอะไรอร่อยๆกินเหอะ” ป็อปปี้รีบตัดบทแล้วลากโทโมะกับเขื่อนออกไปจากกลุ่มสามสาวทันที
“ใช่ๆ กูก็หิวไอ้ป็อปมึงจะกินไรวะ” เขื่อน(ที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย)รีบกอดคอป็อปปี้แล้วเอ่ยถามอย่างสบายใจเฉิบ
สามสาวอย่างเฟย์ฟางแก้วรีบเดินลงมายังชั้นอาหารแต่กลับเรียกนั่งเว้นระหว่างโดยเลือกโต๊ะที่อยู่ริมที่สุดและไกลที่สุดจากโต๊ะสามหนุ่มนั่น ตอนแรกเขื่อนก็จะไม่ยอมแต่เฟย์ก็จัดการยื่นคำขาดไปทำให้เขื่อน(ต้อง)จำยอม ส่วนฟางกับป็อปปี้ก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้วเพราะว่าสองคนนนั้นรู้ดีว่ามาทำไมต้องแยกกกันนั่ง และคู่สุดท้ายที่ไม่มีใครโต้แย้งหรือออกความคิดเห็นใดๆเลย แทบจะไม่มองหน้ากันเลยด้วยซ้ำ!
“เอ่อ...แก้วยัยแก้วฉันว่าแกน่าจะบะ...อื้อ~” แก้วรีบหยิบขนมปังแล้วรีบยัดใส่ปากของยัยเพื่อนตัวดีอย่างเฟย์ทันที
“เงียบไปเลยนะถ้าแกจะบอกให้ฉันไปบอกโทโมะน่ะ!”
“น้ำนิเฟย์ กินน้ำก่อน...” ฟางรีบยื่นแก้วน้ำให้น้องสาวตนเองทันที ก่อนที่จะติดคอตาย!
“แอะๆ!! นี่แกจะฆ่าฉันเลยรึไงยัยแก้ว”
“ก็อาจจะถ้าแกยังไม่เลิกพูดถึงเรื่องนี้ แกก็ด้วยอีกคนยัยฟางแกไปบอกยัยเฟย์ทำไม” แก้วบอกแล้วมองหน้าฟาง จนฟางต้องรีบหลบสายตาทันที
“เอาน่าแก...ไหนๆมันก็รู้แล้ว ฉันว่าดีซะอีกมันจะได้ช่วยดูแลแกอีกแรงไง”
“นั่นมันก็ดีแต่ฉันกลัวว่าโทโมะจะสงสัยนะ”
“แกไม่ต้องห่วงยัยแก้ว พวกฉันสัญญาว่าจะไม่บอก โอเคนะ...” เฟย์ทำหน้าจริงจังจนแก้วเองก็ต้องพยักหน้าเออออห่อหมกไปด้วย ก็จริงอย่างที่ฟางบอกในเมื่อเฟย์รู้แล้วมันก็คงจะทำอะไรไม่ได้
“เออๆก็ได้แต่อย่าให้ฉันรู้นะว่าพวกแกแอบเอาไปบอกใครอีกไม่งั้น...”
“โอเคๆนี่ขนาดสุดที่รักของฉันยังไม่รู้เลยนะเนี่ย~” เฟย์พูดมองหันไปมองหน้าแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่อีกมุมนึง
“แล้วนี่แกจะเอาอย่างไงอ่ะ เดี๋ยวท้องแกก็ต้องโตขึ้นไปเรื่อยๆนะ” เฟย์เอ่ยถามแก้วที่นั่งเขี่ยผักในจากเล่น
“ฉันก็ยังไม่รู้เลยอ่ะ...อยากจะหนีนะแต่ไม่รู้จะไปที่ไหน...”
“เอางี้มะ ฉันจะลองหาบ้านพักต่างอากาศให้แกสักหลังนึง เอาไว้เราค่อยหาโอกาศพาแกหนีไง” ฟางเสนอความคิด เฟย์รีบคว้าพี่สาวมากอดแล้วหอมแก้มทั้งสองข้างก่อนจะเอ่ยชม
“พี่สาวใครว่ะฉลองจัง :) ”
“พอแล้วน่ะยัยเฟย์ดูสิเค้ามองกันใหญ่แล้ว!” ฟางดันหน้าน้องสาวตัวเองที่พยายามจะเข้ามาหอมแก้มอีกครั้ง
“ไม่เห็นจะเป็นไรเลยเนอะแก้วเนอะมาๆจุ๊ฟๆ”
“ทำอะไรกันอ่ะ...ฟาง!” ป็อปปี้รีบเข้ามาแยกเฟย์ฟางออกจากกันทันที นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นพี่น้องกันคงคิดว่าเป็นคู่เรดแล้วซะอีก
“อะไรอ่ะพี่ป็อปเฟย์ก็แค่จะหอมแก้มพี่ฟางเฉยๆน่ะ-3-” เฟย์ทำหน้าบู้ก่อนจะเชิดงอนไปอีกฝั่งร้อนถึงเขื่อนต้องรีบมาแก้ตัวแทนไอ้เพื่อนตัวดีของตนเอง
“โอ๋ๆเฟย์ครับเดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยงไอศรีม ไปมั้ยครับ”
“พี่เห็นว่าเฟย์เห็นแก่กินหรอ! ไปสิคะ^^;” เฟย์รีบกระตุกมือเขื่อนแล้วทั้งคู่ก็พากันเดินออกไปกินไอศครีม
“แล้วนี่โทโมะไม่ไหนล่ะป็อป...” ฟางเอ่ยถามแฟนหนุ่มที่กำลังนั่งลงข้างตัวเองแทนที่เฟย์
“หรอเห็นมันบอกว่าอยากจะอ้วกน่ะ สงสัยจะเป็นอาการ...” ป็อปปี้มองมาทางแก้วแต่ไม่พูดต่อซึ่งทุกคนก็พอจะรู้แล้วว่าป็อปปี้ต้องจะสื่ออะไร
“เอ่อ...แก้วอิ่มแล้ว่ะขอตัวนะ” แก้วเอ่ยแล้วลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปอีกคน ทิ้งให้ป็อปปี้กับฟางนั่งงงสงสัยกันอยู่สองคนทำไมน่ะหรอ ก็แก้วกินไปได้แค่คำเดียวเองแล้วมันจะอิ่มได้ไง...
“เอาไงดีอ่ะป็อป ฟางสงสารแก้ว” ฟางเขย่ามือแฟนหนุ่ม ไม่ใช่แค่ฟางหรอกนะที่สงสารแก้วตัวเค้าเองก็ด้วยแต่เค้าเองก็สงสารเพื่อนตัวเองอีกคน...
“ป็อปก็สงสารไอ้โมะเหมือนกันนะ”
“ฟางสงสารทั้งคู่แหละค่ะ ไม่รู้ว่าถ้าโทโมะรู้ความจริงเรื่องยัยแก้ว...จะเกิดอะไรขึ้นบ้างนะ” ฟางพูดอย่างกังวลแน่สิใครๆก็รู้ว่าโทโมะน่ะโมโหร้ายขนาดไหนกัน
“นั่นสิ...แล้วพวกเราจะรอดมั้ยเนี่ย ไม่น่าเลย...”
“ไม่น่าเลยอะไรป็อปนี่ป็อปจะไม่ช่วยยัยแก้วแล้วใช่มั้ย ไม่เห็นใจเพื่อนฟางเลยหรอ ใจร้ายที่สุด ชิ!” ฟางบ่นแล้วเชิดหน้าไปอีกทาง ทำเอาป็อปอึ้งไม่คิดว่าฟางจะรักเพื่อนขนาดนี้แต่เค้าก็เองก็ผิดที่พูดไม่คิด
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะฟาง ป็อปหมายถึงเอ่อ...ไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้กับแก้วเลย^^;”
“เฮ้ย~” ฟางได้แต่นั่งถอนหายแล้วคิดหนักแทนเพื่อนสาวของตนเอง
+
+
+
“แหวะ! แหวะ!!” ฝ่ายโทโมะเองก็รีบเข้ามาอาเจียนในห้องน้ำ
“ไอ้น้องเป็นอะไรมากรึเปล่า” ผู้ชายอายุมากกว่าเค้าไม่กี่เดินเข้าถามถ่อาการเพราะเห็นว่าอาการน่าเป็นห่วงอยู่
“เปล่าครับ...” โทโมะรับคำสั้นๆก่อนจะรีบล้างปากแล้เดินออกมาจากห้องน้ำทันที
“น้องแน่ใจนะอาการอย่างนี้...นี่เรามีเมียรึเปล่าพี่ว่า...”
“ผมไม่เป็นอะไรจริงๆครับขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง” โทโมะตัดบทสั้น เป็นมิตฉาชีพชีพรึเปล่าก็ไม่รู้จู่ๆก็มายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเค้าทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
โทโมะเดินออกมาจากห้องน้ำแต่สายตาหันไปเห็นร่าบางที่คุ้นตากำลังเดินออกไปจากโรงแรม เค้าจึงเปลี่ยนทิศทางเดินตามร่างบางของแก้วไป เธอกำลังจะไหนน่ะ? โทโมะคิดก่อนจะแอบเดินตามแก้วมาอย่างเงียบๆ
แก้วเดินมาที่ริมชายหาดทะเล สายตาของแก้วทอดมองไปยังผืนน้ำที่ยาวสุกลุกหูลุกตา เธออยากจะมีชีวิตที่เหมือนทะเลจัง...ชีวิตที่สงบสุข บอกตามตรงเธอเหนื่อยกับชีวิตตัวเองเหลือเกิน นอกจากจะกลัวว่าโทโมะจะรู้เรื่อง...ลูกแล้วเธอยังกลัวว่าครอบครัวของเธออาจจะรับไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นเท่ากับว่าเธอหมดหนทางในการก้าวต่อไปทันที ผู้หญิงตัวคนดียวอย่างเธอจะไปสู้อะไรกับใครได้ ไม่แน่เธออยากจะต้องบอกความจริงกับโทโมะ...แต่ในความคิดอีกด้านนึงมันก็บอกว่านั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีสักเท่าไร เอาไว้รอให้เธอจนตรอกเสียก่อนแล้วเธอถึงจะยอมบอก!!
“นี่...คิดอะไรอยู่” โทโมะเดินเข้ามาสวมกอดฉันจากทางด้านหลัง
“อ๊ะ...แก้วแค่ออกมายืนรับลมน่ะค่ะ” ฉันขยับตัวนิดหน่อยออกเพราะความไม่ถนัดแต่โทโมะกลับรัดอ้อมกอดเข้าไปอีก
“ทำไมกอดนิดกอดหน่อยไม่ได้เลยรึไง” โทโมะออกเสียงดุฉันนิดหน่อย ฉันเลยได้แต่ยืนนิ่งๆ
ฉันยอมรับนะว่าอ้อมกอดของเค้าอุ่นมากและมันเป็นอ้อมกอดที่ฉันอยากได้ตามหามาแสนนานแต่ฉันรู้...มันเป็นอ้อมกอดแค่ชั่วคราวที่เค้าให้ฉันยืมเท่าไรเมื่อหมดประโยชน์หรือเบื่อไรเค้าก็คงทิ้งฉันไปอยู่ดี แล้วมันจะประโยชน์อะไรที่เธอจะต้องพูดเรื่องนั้น ในเมื่อสุดท้ายแล้วตอน’จบ’...เธอก็’เจ็บ’อยู่ดี...
“เป็นอะไรร้องไห้ทำไม...” โทโมะพลิกตัวฉันให้หันหน้าไปหาเค้าแล้วเช็ดน้ำตาให้ฉัน
“ปะ...เปล่าค่ะ” ฉันบอกแล้วเมินหน้าไปทางอื่น
“แก้วฉันรู้นะว่าเธอมีอะไรปิดบังฉัน...ทำไม!! ทำไม…เธอไม่พูด” โทโมะออกแรงเขย่าตัวฉันแล้วตะคอกใส่ใบหน้าฉันแล้วโผเข้ากอดร่างของฉันนั่นทำให้ฉันร้องไห้หนักเข้าไปอีก
“ฮึกๆมะ...มะนไม่เกี่ยวกับคุณค่ะ” ฉันเลือกที่จะโกหกเค้าออกไปอย่างไงซะฉันก็ตัดสินใจแล้วว่าไม่มีวันบอกเด็ดขาด!!
“เกี่ยวสิ...ถ้าเธอร้องไห้ ฉันจะโทษตัวเองนะ...”
“ฮึกๆ คุณอย่าทำให้ฉันลำบากใจไปมากกว่านี้เลยค่ะ” ฉันผละออกจากอ้อมกอดของโทโมะพร้อมกับหันหลังแล้วเดินหนี
“เดี๋ยวสิ...รอฉันด้วย” ฉันว่าฉันคงละเมอไปเองแล้วล่ะ นี่มันคงจะเป็นฝันจริงๆไม่มีวัน...ไม่มีทางหรอกที่โทโมะจะวิ่งมาจับมือฉัน ไม่มีวันเป็นไปได้หรอก...เลิกฝันเถอะยัยแก้ว...
“คุณโทโมะค่ะ...แก้วอยากกลับบ้าน” จู่ๆฉันก็พูดขึ้นทำให้โทโมะสะดุ้งนิดหน่อยแล้วหยุดเดิน
“ทำไม...”
“แก้วคิดถึงบ้านนี่ก็ไม่ได้กลับไปเป็นปีแล้ว...ขอแก้วกลับไปเยี่ยมบ้านหน่อยนะคะ”
“เธอคงอยู่กับฉันแล้วไม่มีความสุขเลยสินะ...”
“มะ...มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ...เพียงแต่...”
“พอเถอะ...ฉันจะพาเธอกลับแต่มันจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยน” สายตาที่โทดมะส่งมาให้ฉันวันนี้และตอนนี้มันต่างจากหลายๆวันไม่สิ...ทุกๆวันต่างหาก มันเป็นสายตาที่ค่อนข้างอ่อ่นโยนโดยเฉพาะเมื่อกี้ก่อนที่ฉันจะพูดเรื่อง...บ้าน
“อะไรหรอคะ...”
“เธอก็รับปากมาก่อนสิว่าจะทำได้”
“เอ่อ...ค่ะ” ฉันพยักหน้ารีบคำของโทโมะ
“ดี!!” ดูเหมือนว่า
“ว่าแต่มันคืออะไรหรอคะ...” ฉันเดาดูแล้วมันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไรแน่ๆดูจากรอยยิ้มของโทโมะที่เปลี่ยนไปแล้ว ฉันชักอยากจะยกเลิกแล้วสิ
...ruktomokaew...
--------------------------------------------------------------------------------------------------------- อัพแล้วนะคะแต่ไม่รู้ว่าจะมีใครมาอ่านรึเปล่า เพราะช่วงนี้รู้สึกฟิคเราจะเงียบเหงาเสียเหลือเกิน ขอสัก280เมนต์นะคะ
**ป.ล. ไรต์เตอร์กำลังจะเปิดเรื่องใหม่เพราะฉะนั้นติดตามกันให้ดีๆรับเรื่องนั้นจะไม่มี...คำว่า'คนดี'อย่างแน่นอน
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ